กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 22-03-2018, 08:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เครื่องรางของขลังบางอย่าง อย่างเช่นว่า ลูกอมแร่บางไผ่ หายากกว่าพระแร่บางไผ่ตั้งหลายเท่า ฉะนั้น...ถ้าเครื่องรางในตำนานที่บอกว่า ลูกแร่ที่บางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน ให้รู้ว่าเป็นลูกอม แต่เรามักจะได้พระมาแทน เพราะว่าลูกอมหายากกว่า เนื่องจากว่าเครื่องรางนั้นไม่ห้ามที่อโคจร...ตลกดี บางตำราบอกชัดเลย อย่างเบี้ยแก้สารพัดกัน หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ท่านบอกจะไปไหนก็ไปเถอะ เข้าซ่องเข้าอะไรก็พกไปได้

เครื่องรางบางอย่างคิดว่าญาติโยมไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำไป อย่างเช่นว่า มะเฟือง หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ เราจะรู้ว่าหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ดังเรื่องตะโพนมากที่สุด รองลงไปก็เบี้ยแก้ สิงห์ แล้วมะเฟืองมาจากไหน ? ท่านถือเคล็ดตรงคำว่ามะเฟืองก็คือเฟื่องฟู แต่ทำให้ลูกศิษย์น้อยมาก

หรือไม่ก็เม็ดพริก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เราก็รู้แต่ว่าหลวงพ่ออี๋สร้างปลัดขิกดังระเบิดเถิดเทิง ปลัดขิกว่ายน้ำตามเรือได้ แต่ปรากฏว่าปลัดขิกผู้ชายพก จะให้ผู้หญิงไปห้อยปลัดขิกก็อายเขา ท่านก็เลยเอากัลปังหามาให้ลูกศิษย์เกลาเป็นรูปหยดน้ำ เสร็จแล้วก็เลี่ยมเงิน หัวท้ายมีกระเช้าอยู่ พอห้อยตุ้งติ้งลงมาหน้าตาเหมือนกับเม็ดพริก เขาก็เลยเรียกเม็ดพริก ให้เฉพาะลูกศิษย์ที่เป็นผู้หญิง ซึ่งลูกศิษย์ที่เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่ก็บรรดาที่เข้าไปช่วยงานเรื่องการครัว ของจึงมีน้อย พวกเราไม่เคยได้ยินมาก่อน ไปเจอเข้าบางทีก็ไม่รู้จักว่าอะไร

อาตมาเจอบางคน...น่าตายมาก เอาไปขายโดยบอกว่าเป็นหมากทุย หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เพราะว่าหมากทุยก็คือหมากที่ตายคาต้น ส่วนใหญ่ก็เป็นทะลายที่ยังลูกเล็ก ๆ ไม่มีหมากตายคาต้นที่เป็นลูกใหญ่ ฉะนั้นหมากทุยโตเต็มที่ก็ประมาณหัวแม่มือของเรา แล้วที่เล็กขนาดปลายนิ้วก้อย อาตมาก็เจออยู่หลายลูก ปรากฏว่าเขาเอาเม็ดพริกหลวงพ่ออี๋ไปขายเป็นหมากทุย...ก็สบายสิ ของระดับราคาสี่ห้าหมื่นไปขายเป็นแสน ๆ เลย คนได้ไปก็ดีอกดีใจ คิดว่าได้หมากทุยหลวงปู่เอี่ยมไป สมัยนี้เขาถึงต้องมีการเอ็กซเรย์ดูก่อนว่ามีไส้ในไหม ถ้าเป็นหมากทุยจะมีไส้ในเป็นกระดาษสาเขียนอักขระอยู่ด้วย

ฉะนั้น...เครื่องรางบางอย่างเราแทบจะไม่เคยได้ยินชื่อ หรือว่าได้ยินก็อาจจะไม่เคยได้เห็นของแท้ อย่างพาลี หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง เราก็รู้หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง สร้างเหรียญนั่งปืนดังระเบิดเถิดเทิงที่สุด รองลงไปก็ตะกรุด ผ้ายันต์ ปรากฏว่าหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง สร้างพาลี ซึ่งเป็นพญาวานรจริง ๆ เพราะว่าพาลีเป็นเจ้าเมืองขีดขิน ถึงเวลาถ้าเห็นหัวโขนเป็นรูปลิงสีเขียว มีมงกุฎแบบมหามงกุฎ ไม่ใช่มงกุฎทรงเตี้ย ให้รู้ว่านั่นคือพญาพาลี ถ้าเป็นสีแดงก็เป็นพญาสุครีพซึ่งครองเมืองต่อจากพญาพาลี

หลวงพ่อแช่มสร้างพาลีเพราะว่าพาลีไม่เคยรบแพ้ใคร ไปช่วยพระอิศวรดันเขาไกรลาสที่โดนท้าววิรุฬหกฟาดด้วยสังวาลเสียจนเขาไกรลาสเอียงไปทั้งเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2018 เมื่อ 09:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 22-03-2018, 08:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ก็สร้างพาลีขึ้นมาด้วยอุปเท่ห์ที่ว่า ถ้ารบต้องไม่แพ้ใคร พวกเราก็คงได้ยินแต่ชื่อ มีโอกาสได้เห็นหรือเปล่าไม่รู้ อาตมาเองทั้งชีวิตก็มีอยู่แค่ ๓ - ๔ ตัว กะว่าเก็บเงียบ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวลูกศิษย์งัดมารบกับอาจารย์ แล้วอาจารย์สู้ไม่ได้

เครื่องรางที่สร้างขึ้นมาเพื่อปิดจุดอ่อน ชดเชยตรงความเชื่อที่ว่าพระคุ้มครองได้ไม่ตลอด เพราะว่าต้องมีวาระที่ยอมรับกฏของกรรม แต่เครื่องรางที่สร้างขึ้นมาจากตำราไสยศาสตร์ ใช้ปิดจุดอ่อนตรงนี้ เพียงแต่หลายอย่างพวกเราก็ได้ยินแต่ชื่อ ไม่มีโอกาสได้เห็นของจริง

ไม่ได้ยินชื่อไม่ได้แปลว่าไม่มี ในเมื่อไม่ได้ยินชื่อ ความจริงของมี แต่คนหวงมาก แม้กระทั่งรุ่นที่ไม่เก่านักอย่างหลวงปู่ชื่น วัดตำหนักเหนือ จังหวัดนนทบุรี ท่านสร้างตะกรุดสำหรับทำน้ำมนต์ล้างหน้า ไปไหนมีแต่คนรักใคร่เมตตา ลูกศิษย์ไม่เคยปล่อยให้หลุดออกมาในท้องตลาดเลย ยกเว้นคนที่ไม่รู้คุณค่า

แต่เป็นที่อัศจรรย์ว่า บรรดาครูบาอาจารย์ที่สร้างเครื่องรางของขลังแล้วโด่งดังมาก ๆ ส่วนใหญ่จะมีเชื้อสายมอญแทบทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2018 เมื่อ 09:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 22-03-2018, 09:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตะกรุดมหาระงับของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หากันหน้ามืด เพราะว่าหลวงพ่อคงเอาไปถ่วงน้ำ เนื่องจากว่าลูกศิษย์ไปเป็นโจร พวกนี้นับถือหลวงพ่อจริง ๆ ถึงเวลามีวัตถุมงคลอะไรของหลวงพ่อ ขนาดไปปล้นก็ยังพกไปหมด ตำรวจยิงเท่าไรก็ไม่มีประโยชน์ ยิงไม่ออกบ้าง ยิงออกไม่ถูกบ้าง ส่วนโจรยิงมาทีไร ตำรวจไม่เจ็บก็ตาย

ทางการก็เลยไปขอร้องให้ท่านเลิกทำวัตถุมงคล ไม่อย่างนั้นลูกศิษย์จะเป็นโจรหมด ท่านก็บอกว่าลูกศิษย์ที่ดี ๆ ก็มีมาก ทางตำรวจเขาบอกว่า หลวงพ่อก็พิจารณาก่อนว่าเขาเป็นคนดีหรือคนชั่วแล้วค่อยให้ หลวงพ่อท่านก็บอกว่า ก็ตอนอยู่ต่อหน้าฉันเขาดีนี่จ๊ะ ก็ทำอย่างไรได้ ก็ต้องให้เขา ท้ายสุดหลวงพ่อคงท่านก็เลยต้องขนวัตถุมงคลไปทิ้งทะเล ฉะนั้น...ส่วนที่หายากมาก ๆ ก็คือตะกรุดมหาระงับหรือธงมหาระงับของท่าน

หลวงพ่อคงมรณภาพช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นช่วงที่เขาพรางไฟ เพราะว่าเครื่องบินสัมพันธมิตรจะมาทิ้งระเบิด ถ้าไม่ใช่สัมพันธมิตรทิ้งระเบิดก็เครื่องบินญี่ปุ่นทิ้งระเบิด เครื่องบินญี่ปุ่นทิ้งระเบิดเพื่อทำลายสถานที่ราชการของไทย เครื่องบินสัมพันธมิตรทิ้งระเบิดเพื่อทำลายสถานที่ของญี่ปุ่น สรุปแล้วไทยโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ปรากฏว่างานศพหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม นอกจากไม่พรางไฟแล้วยังประดับเสียเต็มที่

ทางการก็เป็นห่วงเป็นใย เตือนให้ทางวัดพรางไฟเสีย กรรมการวัดโดยเฉพาะกำนันตำบลบางกะพ้อมบอกว่าไม่ต้องห่วงครับ บนยอดเมรุผมเอาธงมหาระงับของหลวงพ่อไปปักเอาไว้แล้ว แล้วก็จริง ๆ ตลอดการจัดงานไม่มีแม้แต่เครื่องบินสักลำที่จะบินผ่านมาบริเวณนั้น ทั้ง ๆ ที่เป็นทางผ่านประจำ

ก็แบบเดียวกับโรงงานหน่อไม้ไผ่สมจิตรที่ทองผาภูมิ บวชลูกชาย จัดงานฉลอง รู้อยู่ว่าช่วงเข้าพรรษานี่ทองผาภูมิฝนฟ้าขนาดไหน อาตมาก็บอกว่าแล้วจะรอดไหม ? เขาชี้ไปที่ธงหลวงปู่สาย บอกว่าผมเอาธงหลวงปู่ติดไว้แล้วครับ จริงของเขา...จัดงานไม่เสร็จฝนไม่ตกเด็ดขาด ถามว่าหลวงปู่สาย วัดท่าขนุนเองเรียนธงมหาระงับมาจากไหน ? เรียนมาจากหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี แล้วหลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีเรียนมาจากไหน ? เรียนจากหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม

เอาไว้อาตมาเบื่อคนเมื่อไร จะสร้างธงมหาระงับปักรอบวัด ห้ามคนเข้า...! ทำได้หรือเปล่าหว่า ? เขามีแต่ระงับเหตุร้าย..ใช่ไหม ? ความจริงก็ออกแบบไว้แล้ว แต่ว่าคนทำยังทำไม่สวย อาตมาก็พกของซือโจ้วก็คืออาจารย์ปู่ ถึงเวลาก็ทำเองบ้าง ธงมหาระงับกับตะกรุดมหาระงับก็ยันต์ตัวเดียวกัน ยันต์ตัวเดียวกัน คาถาตัวเดียวกัน โอมชิดมหาชิด โอมปิดมหาปิด สิทธิสวาหับ อยากรู้ไปถามท่านอาจารย์บ๊ะ เรียนมาตำราเดียวกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-03-2018 เมื่อ 10:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 101 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 22-03-2018, 09:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาสงสัยว่าตะกรุดไมยราพณ์สะกดทัพของหลวงพ่อกุน วัดพระนอน กับตะกรุดมหาระงับของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม น่าจะเป็นตำราเดียวกัน เหตุที่มั่นใจเพราะว่า ตะกรุดนี้ถ้าแหย่เข้าไปที่คานบ้านเมื่อไรก็หลับหมดทั้งบ้าน

เพชรบุรีเป็นเมืองคนดุมาแต่โบราณ ครูบาอาจารย์สายเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อกุน วัดพระนอน หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เป็นต้น พูดง่าย ๆ ว่าไม่เก่งจริงอยู่ไม่ได้ เพราะว่ารุ่นของอาตมาเองแท้ ๆ ต้องบอกว่าเป็นรุ่นหลัง ๆ แล้ว นักเลงเพชรบุรียังเล่นเอ็ม ๑๖ ล้วน ๆ...! ถ้าเป็นลักษณะอย่างนั้น ครูบาอาจารย์ไม่เหนียวจริง ไม่ขลังจริง นักเลงเพชรบุรีก็ลองกันกระจาย

หลวงพ่อกุน วัดพระนอน ดังทางด้านตะกรุดไมยราพณ์สะกดทัพ ลูกอมสมอพิเภก ผ้ายันต์ไมยราพณ์สะกดทัพ

หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง สารพัดพอกครั่ง ดังทางครั่ง ไม่ว่าจะตะกรุดพอกครั่ง หนังหน้าผากเสือพอกครั่ง เบี้ยแก้พอกครั่ง

หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก
ดังทางพระขรรค์เขาควายเผือกฟ้าผ่าตาย ดังทางปลัดขิกและผ้ายันต์

หลวงพ่อชม วัดสิงห์ ดังทางเชือกคาดเอว ของหลวงพ่อชมนี่ดุเดือดไปหน่อย ตามตำราเขาว่าใช้ผ้าบังสกุลผีตายวันเสาร์เผาวันอังคารมาถัก เสร็จแล้วก็โยนเข้ากองไฟ ถ้าไม่ไหม้ถึงจะใช้งานได้ หลวงพ่อชมขี้เกียจโยนเข้ากองไฟ เผาด้วยเตาฟู่เลย เตาฟู่นี่แรงกว่ากองไฟหลายเท่า อาตมาได้เชือกคาดท่านมาเส้นหนึ่ง เกรียมเชียว...โดนเผามาแล้ว เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าคนโบราณท่านเก่งจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2018 เมื่อ 09:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 97 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 22-03-2018, 09:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แม้กระทั่งพ่อปู่หมอน้อยที่อ่างทอง เก่งทางแหวนพิรอดหัวพระ ปรากฏว่าแหวนพิรอดหัวพระพ่อปู่น้อย โดนคนเอาไปเลื่อยเฉพาะองค์พระ เอาไปขัดแต่งฐาน แล้วก็หลอกว่าเป็นของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จากของราคาไม่กี่แสน ก็กลายเป็นของราคาระดับสิบล้าน

พ่อปู่หมอน้อยเกิดประมาณรัชกาลที่ ๓ สร้างแหวนพิรอด ปกติแหวนพิรอดก็แคล้วคลาดคงกระพันปลอดภัย แหวนพิรอดพ่อปู่หมอน้อยมีอานุภาพพิเศษ ใครใส่ไปเล่นการพนันจะไม่แพ้ใคร อย่าไปหา หายากสุด ๆ...! เขาบอกว่าสมัยก่อนพ่อปู่หมอน้อยจะให้ใครนี่ เสกแหวนพิรอดทดลองเผาเผาเสร็จสรรพเรียบร้อย ถ้าใช้ได้ก็พอกผงให้ โน่น...อยู่คนละฝั่งคลองก็โยนใส่นิ้วมือให้ได้ อาตมานี่อยู่ตรงหน้ายังโยนไม่เข้าเลย

ท่านอยากให้ลูกศิษย์มั่นใจ ให้พายเรือข้ามคลองไปยืนฝั่งโน้น ยื่นมือมา โยนแหวนพิรอดไปใส่นิ้วให้ได้ ปรากฏว่าลูกไม่เอา ไปได้ที่หลาน ปู่ชื่อหมอน้อย หลานชื่อหมอปู่ ฟังดูแล้วบ้าดี สองคนขลังพอกัน หลานพยายามทำให้เหมือนรุ่นปู่ มารุ่นหลานส่วนใหญ่จะเป็นรักสีดำ รุ่นหมอปู่นี่ยังใช้รักแดง (รักจีน) อยู่ พอที่จะแยกแยะออกได้

ส่วนใหญ่แล้วพวกเราชื่อยังไม่เคยได้ยินเลย อย่าว่าแต่รู้ว่ามีของอะไรบ้าง ต้องอยู่ในวงการถึงจะรู้กัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2018 เมื่อ 09:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 97 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 23-03-2018, 23:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อวัดท่าซุง สมัยแรก ๆ ที่ท่านสร้างตะกรุด ปรากฏว่าญาติโยมแย่งกันรับจนกระทั่งศาลาพัง จึงต้องรื้อศาลาทิ้ง สร้างเป็นตึกกองทุนขึ้นมาแทน บางคนก็สงสัยว่าตึกกองทุนพระมหาวีระ ถาวโร สร้างขึ้นมาด้วยเหตุผลใด สร้างขึ้นมาเพราะว่าแจกตะกรุด แล้วชาวบ้านแย่งกันจนกระทั่งกุฏิพัง พวกเรารุ่นหลัง ๆ ไม่ค่อยจะรู้กัน

วัตถุมงคลของหลวงพ่อวัดท่าซุงที่เขาหากันมาก ๆ ก็คือ สมเด็จองค์ปฐม มีดหมอดาบฟ้าฟื้น มีดหมอชาตรี กับแหวนจักรพรรดิ ผ้ายันต์เกราะเพชรของหลวงพ่อนั้น โดยปกติแล้วค่อนข้างจะหาง่าย เหตุที่หาง่ายเพราะว่าท่านแจกทุกครั้งที่ไป ในเมื่อแจกทุกครั้งที่ไป หาง่ายก็อย่าไปคิดว่าเป็นของมักง่าย ต้องบอกว่าเป็นของดีราคาถูก

ส่วนผ้ายันต์ที่ทำยากเขียนยาก แม้แต่อาตมาเองก็ยังไม่มีอารมณ์จะทำก็คือผ้ายันต์พิชัยสงคราม อันนี้มีประสบการณ์ด้วยตนเอง อยู่ชายแดนปีกว่า ปะทะกัน
ใหญ่ ๆ เล็ก ๆ ๒๖ ครั้ง ไม่เคยเป็นอะไรเลย ที่ชอบที่สุดก็คือเป็นผ้ายันต์ที่ยิงเมื่อไรก็ออกเมื่อนั้น แต่ยิงออกแล้วไม่ถูก อาตมาชอบมาก เพราะเสียงดัง...สนุกดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2018 เมื่อ 02:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 95 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 25-03-2018, 08:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(ชาวบ้านตะเคียนงามพากันมาทำบุญ) มาทั้งหมู่บ้านเลยหรือ ? สรุปแล้วนี่คนบ้านตะเคียนงามมาหมดแล้วใช่ไหม ? (มาครึ่งหมู่บ้านเอง) โอ้โห...ดีมาก โมทนาด้วยทุก ๆ คน

บ้านตะเคียนงามกลับไปปลูกต้นตะเคียนไว้บ้างนะ ปัจจุบันนี้จะไม่มีให้เห็นแล้ว ของวัดท่าขนุนปีนี้ตะเคียน
๒ ต้นออกดอกสะพรั่งเลย อาตมาก็เสียว ๆ อยู่ แม่เจ้าประคุณเริ่มเป็นสาวแล้ว จะกวนพระไหม ? ต้องคอยระวัง

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
งานหล่อหลวงพ่อนาก
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-03-2018 เมื่อ 09:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:15



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว