กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 14-11-2013, 20:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราไปรับฝากเงินทำบุญคนอื่นเขามา โดยที่บอกว่าถ้าคุณเจาะจงบุญกฐินไม่รับ แต่ถ้าเป็นการร่วมทำบุญตลอดชีวิตจึงจะรับ อย่างนี้พ้นไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าอย่างนี้พ้น แต่เจตนาไปเอาของเขา เพราะรู้ทางหนีทีไล่แล้ว กะจะไปเล่นชาวบ้านโดยเฉพาะ ถือเป็นโลภเจตนา ซวยอีกเหมือนกัน

ถาม : ก็ยังดีที่พ้นนะ
ตอบ : พ้นเฉพาะครั้งหน้า ครั้งที่ผ่านมาเสร็จสรรพไปแล้ว

ถาม : อดีตผ่านไปแล้วขี้เกียจจำ
ตอบ : ไม่เป็นไร เดี๋ยวข้างล่างเขาช่วยจัดการให้ ที่นั่นเครื่องบันทึกเขาดี อาตมาเคยลงไป ตอนนั้นกระดูกคอเคลื่อน ป่วยหนัก ๖ วัน อยู่โรงพยาบาลฉันอะไรไม่ได้เลย ให้น้ำเกลือก็ไม่เข้า เพราะอาเจียนจนกระทั่งเส้นลีบหมดทั้งตัว ก็ขอหมอว่ากลับไปตายที่วัดดีกว่า พอกลับวัดมาคืนนั้นหิวไส้ขาดเลย ภาวนาแล้วภาวนาอีกเมื่อไรจะสว่างเสียที คนไม่ได้กินมา ๖ วันแล้วอยู่ ๆ อยากกินขึ้นมา หิวแค่ไหนลองนึกดูเอาก็แล้วกัน

พอเช้าขึ้นมาก็เอาไม้เท้าค้ำไปร้านป้ากิมกีหน้าโบสถ์วัดท่าซุง ตอนนั้นอยากกินแต่ของเผ็ด ๆ ก็เลยบอกว่าเอาผัดกะเพราไข่ดาวมา เผ็ดที่สุดเท่าที่จะใส่ได้ มาถึงก็ลองแตะชิม ๆ ดู เห็นว่าร่างกายไม่มีปฏิกิริยาอะไร กินได้แน่ ๆ ก็ฟาดจนหมด พอกินเสร็จปรากฏว่าง่วงลืมตาไม่ขึ้น ลักษณะหัวไถพื้นเลยนั่นแหละ

พอเอนลงนอนรู้สึกเหมือนกับเตียงทรุดฮวบลงไป แล้วก็ไปอยู่ตรงหน้าของพระยายมพอดีเลย ความรู้สึกแรกก็คือ “กูตายแล้วนี่หว่า..ตกนรกด้วย..!” ปรากฏว่าท่านนายบัญชีที่นั่งอยู่ ถ้านับจุดที่ท่านนั่งก็คือท่านนั่งอยู่ทางซ้ายมือของพญายมราช ท่านเปิดสมุดบัญชีทองคำเล่มหนาเป็นศอกเลย ไม่รู้เปิดอย่างไรพอเปิดปุ๊บบอกว่า “อีก ๖ วันหาย” แล้วท่านก็ปิดปัง..! อาตมากราบลาได้ก็โกยแน่บเลย เดี๋ยวท่านเปลี่ยนใจตัดสินขึ้นมาเลยนี่เฮงแน่ ๆ..!

ปรากฏว่าเรื่องที่ท่านว่าตรงเป๊ะเลย พอวันที่หกก็ไปเจอหมอนวดเขาดันกรึ๊บเดียวหายเลย กระดูกคอเคลื่อน
เพราะเอาหน้าผากไปโขกคานโบสถ์วัดศรีรัตนารามแล้วไม่รู้ หมอเขาได้ยินว่าเอาหน้าผากไปโขกคาน เขาก็เอ็กซเรย์แต่หัว ถ้าเลื่อนลงมาที่คอหน่อยเดียวก็เจอแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องของกรรมที่จะต้องชดใช้เขา ตกลงว่ารวมแล้วทรมานไป ๑๔ วัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 14-11-2013, 20:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (เตรียมของไว้จะไปทำถวายวัดหนึ่ง แต่ผู้ที่นำไปได้ไปถวายผิดวัด)
ตอบ : ของเราจบไปตั้งแต่แรกแล้ว แต่คนเอาไปถวายผิดนี่สิ ประเภทพอถึงเวลาถูกรางวัลที่ ๑ อาจจะมีการโอนเงินให้ผิดบัญชีเหมือนกัน อันนั้นเป็นโทษเขา ไม่ใช่โทษเรา ปล่อยเขาไปเถอะ

ถาม : แล้วเราต้องหาใหม่ไปถวายวัดที่เราตั้งใจไว้ไหมครับ ?
ตอบ : จบแล้วก็จบกัน ถ้าคาใจก็ทำให้ท่านใหม่ไปอีกครั้งหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 14-11-2013, 20:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เอาเงินทำบุญผู้อื่นไปทำให้เขาผิดประเภท สามารถสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ได้ไหมคะ ?
ตอบ : คนละโทษกัน โทษติดหนี้สงฆ์จึงจะสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ส่วนโทษย้ายเจดีย์หมายถึงว่าทำบุญให้เขาผิดประเภท แก้กันไม่ได้

ถาม : ไม่มีทางเลยหรือครับ ?
ตอบ : ไม่มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 14-11-2013, 20:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเงินทำบุญที่รวมใส่ซองหายระหว่างทางโดยที่เราไม่รู้ตัว ผิดไหมครับ ?
ตอบ : เจตนาไม่มี โทษน้อยหน่อย ถ้าว่าผิดไหม ? ผิดแน่ ๆ แต่โทษน้อยหน่อยเพราะขาดเจตนา

ถาม : แล้วถ้าเราไปเรี่ยไรเงินทำกฐิน แต่เงินนั้นหาย เราใช้เงินของเราเองทำแทนไปได้ไหมครับ ?
ตอบ : ให้ตั้งใจว่าเราทำแทนเขา แต่ถ้าเขาทำปีนี้แล้วเราไปทำให้เขาปีหน้า ต่อไปเวลาเราจะได้อะไรก็ล่าช้าไปด้วย สมมติว่าจะกินข้าว ปลูกข้าวปีนี้แล้วอาจจะไปให้ผลปีหน้า

สรุปว่าที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า อย่าคิดว่าความชั่วเพียงเล็กน้อยแล้วทำ อย่าคิดว่าความดีเพียงเล็กน้อยแล้วไม่ทำ ความดีความชั่วเป็นสิ่งที่เราไปแล้ว จะเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม ถ้าถึงวาระล้วนแล้วแต่ให้ผลทั้งสิ้น แล้วไม่ต้องไปตัดพ้อต่อว่าใคร เพราะเราทำเองทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 14-11-2013, 20:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างนี้จะหมดกำลังใจไหมครับ เพราะเมื่อก่อนเวลาทำบุญก็จะไปบอกบุญให้มาช่วยกัน ตอนนี้ทำคนเดียวดีกว่า ?
ตอบ : อนุญาตให้หมดกำลังใจได้ เกิดใหม่บริวารไม่มี ทำอะไรก็แบกหามไปคนเดียว ตุ๊ป้อสิงห์เวลาอะไรก็ต้องทำเอง เพราะบริวารแต่ละคนพอช่วยทำแล้ว กลายเป็นไปเพิ่มงานให้ท่าน

ถาม : จะไม่มีสักชาติเลยหรือครับที่ไปชวนคนอื่นเขาทำบุญ ?
ตอบ : มี...ก็คงจะมีสักงานที่มีคนเขาช่วยเรา ที่เหลือก็เหมาเองต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 02:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 14-11-2013, 20:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมอาตมาไปเอาแก้วมีตำหนิมา ส่วนแก้วที่ใส ๆ ไม่ซื้อมา นี่เป็นโป่งข่ามจ้ะ โป่งข่ามก็ต้องมีตำหนิเป็นปกติ เพราะเป็นธรรมชาติ คำว่า “ข่าม” ของภาษาเหนือ คือ อยู่ยงคงกระพัน ของภาษาไทยนั่นแหละ แล้วภาษาเหนือไม่ใช่ภาษาไทยหรือ ? ภาษาเหนือเขาเรียกว่าภาษาลาว สมัยก่อนเขาเรียกมณฑลลาวเหนือ มณฑลลาวเฉียง ลาวเฉียงคือทางอีสาน เขาให้สังเกตง่าย ๆ ว่า ไทยนุ่งโจง ลาวนุ่งซิ่น ดังนั้น..ถ้าเป็นไทยก็นุ่งโจงกระเบน ถ้าเป็นลาวก็นุ่งผ้าถุง คราวนี้แยกชัดเลย..ใช่ไหม ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 231 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 14-11-2013, 20:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมัยที่สมเด็จพระราชชายาเจ้าดารารัศมีมาอยู่กรุงเทพฯ ด้วยความที่เขายังมองว่าลาวต่ำต้อยกว่า ก็เลยทำให้พระองค์ท่านค่อนข้างจะโดนกีดกัน มาตอนหลังจึงทูลขอกลับไปเชียงใหม่ โดยเฉพาะพระองค์ท่านไม่มีพระโอรสให้ด้วย มีพระธิดาองค์เดียว คือ พระองค์เจ้าหญิงวิมลนาคนพีสี ต้องบอกว่าพระองค์ท่านอดทนมาก ๆ รอบข้างล้วนแล้วแต่เป็นคนละเชื้อชาติเผ่าพันธุ์กับตนเอง ในเมื่อไม่เหมือนเขา ไปอยู่กลางกลุ่มเขา ก็โดนกีดกันบ้าง โดนรังแกบ้างเป็นธรรมดา

ประเทศเล็ก ๆ ในสมัยก่อนอยู่ยาก อยู่ในลักษณะเหมือนกับเป็นลูกไล่เขา คำว่าลูกไล่นี่เกิดจากการกัดปลา การกัดปลาก็ต้องหาปลากัดตัวที่ไม่เก่ง ปล่อยลงไปให้ตัวที่เราทะนุถนอมฟูมฟักมาให้ไล่กัด สร้างความมั่นใจให้กับปลาตัวนั้น ลงมากี่ตัว ๆ ก็กัดกระจายหมด ต่อไปเจอใครจะได้ไม่กลัวเขา แล้วก็เรียกตัวที่โดนจับยัดไปให้เขาฟัดว่า "ลูกไล่" คือโดนเขาไล่กัดอย่างเดียว

คราวนี้บรรดาประเทศเล็ก ๆ ในสมัยก่อนวางตัวลำบาก ต้องคอยดูทางลมอยู่เรื่อย สมัยนั้นล้านนาซึ่งจริง ๆ ก็คือเมืองเชียงใหม่ เป็นประเทศเล็ก ต้องคอยมองว่าสยามจะเข้มแข็งขึ้นมา หรือว่าพม่าจะเข้มแข็งขึ้นมา ต้องคอยดูทิศทางลม คอยโอนอ่อนผ่อนตามเขา ก็เลยเกิดปัญหาตรงที่ช่วงนั้นสยามมีอำนาจขึ้นมา ทางด้านพม่ามัวแต่รบกับอังกฤษอยู่ พอเจ้าน้อยศุขเกษมที่ไปเรียนที่มะละแหม่งไปได้มะเมียะกลับมา เขาถึงต้องบังคับให้เอาไปคืน เพราะว่าตอนนี้ประกาศตัวว่าเป็นประเทศราชของสยามแล้ว อยู่ ๆ ลูกไปแต่งสาวพม่ามา หมายความว่าอย่างไร ? เลยกลายเป็นว่าแม้กระทั่งความรัก ก็ไม่สามารถเป็นไปตามที่ตนเองต้องการได้ ทุกอย่างเท่ากับเป็นเกมการเมืองไปหมด

การที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมีมาถวายตัวกับรัชกาลที่ ๕ ก็ถือว่าเป็นเกมการเมืองอย่างหนึ่งของเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ก็คือสร้างสัมพันธ์กับสยามให้ใกล้ชิด จะได้ช่วยปกป้องดูแลตนเอง ป้องกันไม่ให้พม่ามารุกราน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 02:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 15-11-2013, 05:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเดินตรวจงานกลางคืนแล้วหมาเห่า เห่าไม่เลิก หลวงพ่อท่านก็รำคาญ ท่านหยิบอิฐหักก้อนหนึ่งมาขว้างส่งเดช โป๊ก!..ทุกทีเลย วิชากระสุนคดนี่ตั้งใจให้โดนก็จะโดน เป็นอาตมาขว้างไม่ถึงหรอก หมาไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ หมาอยู่ตรงที่ของลุงมา ที่ของลุงมาก็บริเวณศาลา ๑๒ ไร่ของปัจจุบันนี้ ไม่ใช่แถว ๑๒ ไร่นะ หลัง ๑๒ ไร่ ตรงที่ตั้งพระชำระหนี้สงฆ์ แล้วหลวงพ่อท่านอยู่หน้าโบสถ์ เป็นพวกเราขว้างถึงไหม ? แต่ท่านขว้างทีไรก็โดนทุกที ถ้าคนไม่สังเกตจะคิดว่าหลวงพ่อขว้างถูกหมาเฉย ๆ แต่อาตมาเห็น โอ๊ย..ไม่ใช่กำลังคนแล้ว ขว้างไกลขนาดนั้น

ใครที่ไปทันวัดท่าซุงสมัยก่อนที่จะสร้างศาลา ๒ ไร่ ๓ ไร่ วัดจะมีพื้นที่ป่าเสียส่วนใหญ่ แล้วหลวงพ่อท่านก็ไปสร้างจุฬามณีกับตึกธัมมวิโมกข์ ตึกสงวนจิตรและเพื่อน และห้องกรรมฐานสำหรับญาติโยมพัก ทางด้านฝั่งจุฬามณีกว่าจะซื้อที่เพิ่มเพื่อสร้างศาลา ๑๒ ไร่ กว่าจะซื้อที่สร้างวิหารร้อยเมตรได้ ต้องเล่นกันหลายชั้นหลายเชิง เพราะคนแถวนั้นเหมาว่าหลวงพ่อท่านรวย ที่แถว ๆ นั้นติดถนนอย่างเก่งก็ราคาไร่ละ ๓๐,๐๐๐ บาท เขาจะขายหลวงพ่อวัดท่าซุงไร่ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท..!

ถ้าเราสังเกตจะเห็นว่า ช่วงระหว่างทางเข้าศาลา ๑๒ ไร่ ต่อกับทางด้านหลังพระนอนฝั่งจุฬามณี จะเป็นที่ว่างอยู่ นั่นแหละ..เขาจะเอาไร่ละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท หลวงพ่อก็บอกว่า "ปล่อยมัน..ดูซิว่าเขาจะทำมาหากินอะไร.." มาระยะหลังนี่ก็เปิดออกมา อาตมาก็ไม่ได้สังเกตว่าเขาทำมาหากินอะไร แต่เห็นว่ามีบรรดาลูกศิษย์รุ่นเก่า ๆ เอาวัตถุมงคลหลวงพ่อไปเปิดร้าน ปล่อยกันครึกครื้นเลย

สมัยก่อนถ้าหลวงพ่อต้องการซื้อที่ก็จะให้จ่าพัว ความจริงท่านเป็นนายดาบตำรวจพัว ชระเอม หรือไม่ก็ดาบตระกูล เปาริก ไปถามซื้อจากชาวบ้าน ขนาดนั้นเขายังถามอีกว่า ตกลงจ่าซื้อเองหรือซื้อให้วัด ? ถ้าซื้อเองก็ราคาหนึ่ง ถ้าซื้อให้วัดก็อีกราคาหนึ่ง ก็ต้องตกลงว่าซื้อเอง แต่ไปถวายวัดทีหลัง

ไปวัดครั้งล่าสุด สังเกตว่าตรงโรงพยาบาลแม่และเด็กเขารื้อราบหมดเลย แสดงว่าทางกระทรวงเขาได้งบเอง แล้วเขาก็ไปหาที่สร้างของเขาเองได้แล้ว อาคาร ๒ หลังนั่นหลวงพ่อวัดท่าซุงสร้างให้ทางกระทรวงสาธารณสุข เป็นโรงพยาบาลแม่และเด็ก มีเครื่องมือเครื่องไม้ทันสมัยที่สุดของภาคเหนือ แต่ถ้าวัดสร้างทำให้เขาไม่ได้อะไร ได้แต่โรงพยาบาลไป เขาคงของบประมาณแล้วก็ไปสร้างกันเองดีกว่า ยังมีเงินเข้ากระเป๋าบ้าง

ครุฑ ๒ ตัวที่ติดที่ป้ายโรงพยาบาลอาคารปฐมราชานุสรณ์กับปัญจมราชานุสรณ์ หลวงปู่ธรรมชัยถวายมา แล้วตอนทำพิธีเปิด หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสามพระยาเป็นประธานเปิด แล้วจะไปหาพระที่ไหนแบบนั้นมาเปิดให้อีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-11-2013 เมื่อ 08:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 15-11-2013, 06:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดี๋ยววันอาทิตย์ตอนบ่ายโมงมีการประมูลของกันเพื่อร่วมสร้างพระทองคำ มีสมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๑ รุ่น ๒ ของวัดท่าซุงอย่างละองค์ มีพระของหลวงปู่โหน่ง วัดคลองมะดัน หลวงปู่ยิ้ม วัดเจ้าเจ็ด หลวงปู่ปานด้วย ของอาตมาเองก็มีพระกริ่งพิชัยสงครามรุ่น ๑ เล็ง ๆ กันไว้แล้วกันว่าจะเอาอะไร แบกเงินใส่กระเป๋ามา คงได้ตีกันตายไปข้างหนึ่ง

สมเด็จองค์ปฐมรุ่น ๑ มีกริ่ง โลหะที่อุดฐานไม่ทราบว่าช่างเสริฐทำด้วยอะไร ต่อให้ชุบทองถึงเวลาก็ดำ กรุณาปล่อยให้ดำ ๆ อย่างนั้น อย่าได้บังอาจไปขัดเชียว ถ้าขัดเดี๋ยวจะกลายเป็นของปลอม

ปรากฏว่ารุ่น ๑ พอสร้างไป ใครเจอก็เขย่ากริ่งว่าดังไหม เขย่ากันหลาย ๆ ที พอสร้างรุ่น ๒ หลวงพ่อท่านก็เลยไม่บรรจุกริ่ง เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย นึกอยากจะเขย่าเมื่อไรก็เขย่ากัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2013 เมื่อ 09:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 20-11-2013, 14:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะช่วยเขาเรื่องไสยศาสตร์ ผีเขาไม่ได้เข้าเราใช่ไหมครับ แค่อยู่ข้าง ๆ ?
ตอบ : อยู่ข้างนอก เพียงแต่ตอนนั้นเขาใช้กำลังใจกดเราเอาไว้ แล้วก็บังคับร่างกายเราให้แสดงอาการตามที่เขาต้องการ

ถาม : ผมจะจัดการก็ใช้สัมปะจิตฉามิ เขาก็กลับไป พออีกวันก็เปลี่ยนตัวมาครับ ?
ตอบ : พวกนั้นมีเยอะ ถ้าตัวเดิมไม่อยู่ก็ใช้ตัวใหม่ อาตมาเคยปล่อยไปติด ๆ กัน ๓๐ กว่าตัว กว่าจะหมด

ถาม : แล้วเขามาทุกวัน แล้วก็มาเวลาซ้ำ ๆ ครับ
ตอบ : ส่วนใหญ่พวกนี้เคยทำเวลาไหนก็ทำเวลานั้น พอเล่นงานไม่ได้ ก็ปล่อยตัวใหม่ออกมาอีก อาตมาปล่อยให้เขาไปจนหมดเนื้อหมดตัวไปเลย เคยปล่อยไปรายเดียว ๓๐ กว่าตัว

ถาม : ผมก็แปลกใจ ผมก็ทำทุกอย่างให้เขาแล้ว คล้องพระให้เขาแล้ว ก็ยังมาอีก ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจไม่ได้ยึดมั่นจริง ๆ อย่างหนึ่ง แล้วอีกอย่างก็คือวาระกรรมพอดี ใจไม่ได้นึกถึงพระ ในเมื่อไม่ได้นึกถึงพระ ความดีเข้าไม่ได้ สิ่งไม่ดีก็เข้าแทน

ถาม : เขาก็ทนไม่ได้ครับ
ตอบ : ถ้าทนได้ก็เตลิดเปิดเปิง

ถาม : ก็แสดงว่าเราต้องสู้ต่อไป
ตอบ : สู้กับพวกนี้ก็เหนื่อย เพราะว่าเขาไม่ต้องพัก แต่เราต้องพัก แล้วเราเผลอเมื่อไรเราก็เสร็จ

ถาม : มาทุกวัน เขาก็ไล่ผมออกจากบ้าน
ตอบ : อาตมารบกับพวกนี้จนเลิกรบแล้ว

ถาม : แล้วมีวิธีที่ดีที่สุดต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : คุยให้รู้เรื่องว่าเขาต้องการอะไรแน่ แล้วก็ช่วยเขาตามนั้น

ถาม : ก็คุย แต่เขาไม่พูดครับ เหมือนกับโดนมัดปากไว้ ?
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นก็อาละวาดให้กระจายไปเลย

ถาม : หรือต้องปล่อยไปตามเวรตามกรรมครับ ?
ตอบ : ก็ต้องอย่างนั้น อาตมาแค่ตีหน้ายักษ์ใส่เขาก็เผ่นแล้ว เพราะรู้ว่าโดนแน่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2013 เมื่อ 16:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 20-11-2013, 14:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สักเดือนที่แล้วกระมัง ที่วัดจัดงานประชุมเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้งหมด ก่อนหน้านั้นวันหนึ่งระหว่างเดินทาง รถไปไม่ได้ ติด ๆ ดับ ๆ เห็นเขานั่งทับฝากระโปรงรถอยู่ ก็เลยต้องไปงัดก้นเขาไว้ เพราะถ้าเขาหย่อนลงเต็มที่เครื่องดับจะไปไม่ได้ เหนื่อยฉิบห..เลยกว่าจะถึง อาตมาก็ยอมรับ เพราะถ้าไม่ใช่วาระกรรมจริง ๆ เขาก็ทำอะไรไม่ได้

ปรากฏว่ารุ่งขึ้นกำลังทำวัตรเช้าอยู่ไฟก็ดับ ดับไปจนกระทั่งเกือบ ๗ โมงครึ่งก็ยังไม่ติด กำหนดใจดู เห็นมันไปนั่งทับหม้อแปลงเอาไว้ จึงโมโหขึ้นมา วันนี้วันงานแท้ ๆ เป็นหน้าเป็นตาของวัดด้วย ประชุมเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมทั้งจังหวัด มาแกล้งกันอย่างนี้จะลองดูกันสักตั้งก็ได้วะ..! ก็เลยเรียนท่านปู่ท้าวสหัมบดีพรหมกับท่านปู่พระอินทร์ว่า "ขออัดไอ้เจ้านี่หน่อย ถึงจะเป็นเหตุให้ก่อเทวาสุรสงคราม ผมก็จะรับผิดชอบเอง..!" ท่านปู่พกพรหมได้ยินโดดผางออกมาเลย บอกว่า “เดี๋ยวผมจัดการเอง.!” ไอ้นั่นได้ยินเผ่นแน่บไปเลย ต้องประเภทนั้น ต้องโหดกับเขาพอ

อาตมาพยายามยอมรับกฎของกรรม แต่วิสัยจริง ๆ ไม่เคยยอมรับง่าย ๆ หรอก พอถึงเวลาจะมาทำให้งานเสีย ก็ขออัดเขาก่อนเลย ถ้าโหดพอก็ไล่กระจายไปเลย ถ้าโหดไม่พอ ตัวใครตัวมัน ต่างคนต่างอยู่

ถาม : บอกว่าจะบวชให้ก็แค่ยิ้ม ๆ เป็นเพราะนิสัยของเขาหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ต้องบอกว่าบางทีกำลังเขาสูงกว่า ถ้ากำลังเขาสูงกว่านี่เขาไม่สนใจเราแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2013 เมื่อ 16:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 20-11-2013, 15:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างหลวงพี่บรรจง (พระบรรจง กวิวํโส) สมัยอยู่วัดท่าซุงด้วยกัน ประมาณปี ๒๕๓๐ หลวงพ่อวัดท่าซุงเข้าโบสถ์มาถึงก็ “เป็นอย่างไรบรรจง ?” พี่บรรจงก็หลบตาวูบ “ดีนะไม่โดนตีนมัน นั่นไม่ใช่ผีนะโว้ย...เขาเป็นเทวดา” อาตมาก็แปลกใจ พอออกจากโบสถ์มาก็ไปถามว่าทำอะไรมา หลวงพี่บรรจงบอกว่าแกไปนครราชสีมา แถววัดโพธิ์เมืองปัก พอเขาได้ยินว่ามีพระจากวัดท่าซุงมา ก็รีบมาเชิญตัวไปช่วยคนที่โดนผีเข้ามา ๓ วันแล้ว ไม่กินไม่นอนอะไรทั้งนั้น นั่งเงียบอย่างเดียว น้ำท่าก็ไม่อาบ หลวงพี่บรรจงก็ไป

พอขึ้นบ้านไป หลวงพี่ก็มีเชิง เอามือล้วงจับมีดหลวงพ่อในย่าม ผีเงยหน้ามาบอกว่า “ท่านไม่ต้องยุ่ง.!” หลวงพี่บรรจงก็ถอยหลัง ปกติมีดหลวงพ่อนี่แค่เหยียบบันไดผีก็หนีแล้ว แต่นี่บอกไม่ต้องยุ่ง ชักจะอย่างไรแล้ว แกถอยมาปรึกษาหลวงพี่มหาถวัลย์ หลวงพี่มหาถวัลย์ก็เลยไปสอบถามว่าเป็นเพราะอะไร ปรากฏว่าเขาไปฉี่รดศาลเจ้าที่ แล้วก็ร้องด่าท้าทายด้วย ก็เลยโดนเล่นเอา

จึงคุยว่าตกลงจะเอาอย่างไร เขาบอกว่าจะดัดสันดาน ให้อดข้าวอดน้ำสัก ๗ วันแล้วเดี๋ยวจะออกเองแหละ เจ้านั่นก็ต้องทนไปอีก ๓ - ๔ วัน เพราะฉะนั้น..บางทีคุยกันไม่รู้เรื่องหรอก ระดับนั้นกำลังเขาสูงกว่า หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถึงบอกว่า โชคดีไม่โดนตีน เขายังเกรงใจว่าเป็นพระ


ถาม : แล้วกำลังใจในการว่าคาถาไล่ เราต้องวางกำลังใจอย่างไรครับ ?
ตอบ : สำคัญที่สุดก็คือเราต้องมั่นใจว่าคุณพระพุทธเจ้านี้ไม่มีใครเสมอเหมือนได้ ไม่มีใครยิ่งใหญ่ไปกว่าท่านอีกแล้ว บารมีพระมีอยู่ในทุกอณูของอากาศ รอบตัวเราบารมีพระก็ครอบคลุมอยู่ แล้วเราก็แค่อาราธนาบารมีพระให้ช่วยสงเคราะห์ กำลังใจต้องเข้าถึงด้วยความเคารพจริง ๆ

ถ้าไม่ได้ก็หาอาวุธไว้ มีดหมอหลวงพ่อเดิมก็ได้ มีดชาตรีวัดท่าซุงก็ได้ มีดหมอสายเขาอ้อก็ได้ เอาให้กระจายไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2013 เมื่อ 16:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 20-11-2013, 16:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราหว่านทรายนี่พอป้องกันได้ไหมครับ ?
ตอบ : หว่านทรายก็ได้ อธิษฐานเป็นกำแพงไฟไปเลย เหมือนอย่างกับกันไวรัสคอมพิวเตอร์ ฝรั่งเขาจะมี Fire wall เราก็อธิษฐานเป็นกำแพงไฟไปเลย ใครที่ไม่หวังดีเข้ามา เผาให้กระจายไปเลย ขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ แต่อย่าลืมบอกเจ้าที่ผีบ้านผีเรือนด้วยนะ ถ้าใครที่อยู่แล้วทำประโยชน์ให้ก็อนุญาตให้เข้าออกได้ ถ้าจะเป็นโทษนี่เอาให้หนักเลย

จำได้ว่าทรายเสกรุ่นเก่าของวัดท่าซุงก็มี เดี๋ยวจะเอามาให้ประมูลสักหนึ่งถุง แต่ท่านเคยบอกว่า ไปเอาของใหม่มาสักถังใหญ่ ๆ แล้วเอาของท่านโรยหน้าแล้วคลุก ก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ด้วยความที่สมัยนั้นอาตมาขายเองกับมือก็เลยเก็บไปเรื่อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2013 เมื่อ 16:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 20-11-2013, 16:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อันนี้ใช่หลวงพ่อฤๅษีจารไหมครับ เพิ่งได้มาเมื่อวานครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่..อยากเห็นลายมือหลวงพ่อไปดูที่ธงเขียวธงแดงรุ่นเก่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2013 เมื่อ 16:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 20-11-2013, 16:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เดี๋ยวกลับไปมีเงินในธนาคารเท่าไร กดมาให้หมด วันอาทิตย์มาประมูลกันตรงนี้ ของวัดท่าซุงแท้ ๆ เริ่มประมูลตอนบ่ายโมง มีพระเหนือพรหมของหลวงปู่ดู่ด้วย เผื่ออยากได้

มีอยู่ชุดหนึ่งทำใจอย่างไรก็ตัดใจเอาออกประมูลไม่ได้ ก็คือแก้วสารพัดนึกของหลวงปู่ดู่ ท่านปั้นให้ลูกประมาณเท่ากระสุนยิงนก แล้วก็ร้อยเป็นประคำไว้ อาตมาเก็บไว้หากินได้ทั้งชาติเลย สร้างพระเมื่อไรก็ใส่ไปหน่อยหนึ่ง ตัดใจประมูลไม่ได้ ครูบาอาจารย์ท่านคงตั้งใจให้เก็บไว้หากิน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2013 เมื่อ 16:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 20-11-2013, 19:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมเข้าใจว่าได้เพชรที่ยังไม่เจียระไนมาครับ
ตอบ : ง่ายจะตายไป ก็ลองกรีดกระจกดู ถ้ากรีดกระจกได้ก็น่าจะเป็นเพชร เพราะขนาดเพชรเขาพระงามแค่ ๗๐ เปอร์เซ็นต์ ยังตัดกระจกได้เลย อาตมาลองตัดมาแล้ว เขาให้มาประมาณเท่านิ้วชี้ ๑ แท่ง ลองกรีดดู กระจกพังจริง ๆ ตอนนี้อาตมามีแก้วดวงหนึ่ง มีบางท่านสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นบลูไดมอนด์ ถ้าใช่และจะจำหน่ายจริง ๆ ก็ราคาหลายร้อยล้าน ไม่มีใครมีปัญญาซื้อหรอก

ในจำพวกเพชรด้วยกัน บลูไดมอนด์จะราคาสูงสุด ในท้องตลาดกะรัตหนึ่งจะประมาณ ๕๐ ล้านบาท แล้วลูกนี้ประมาณไข่นกพิราบกระมัง อาจจะใหญ่กว่า ของบางอย่างดู ๆ แล้วก็หมดอยากไปเฉย ๆ ใจนึกอยู่อย่างเดียวว่า ถ้ามีคนเขาแกะพระได้ก็จะเอา แต่คราวนี้แกะพระจากเพชรคงยากเย็นเข็ญใจ ต้องระดับพระวิษณุกรรมถึงจะได้ ท่านแค่คิดก็เป็นแล้ว

ของบางอย่างเหมือนกับว่า เทวดาเขารักษาเพื่อรอเจ้าของ ตอนที่ท้าวเวสสุวรรณจะไปเอาแก้วอินทนิลมาถวายพระนาคเสนเพื่อแกะพระแก้วมรกต ยักษ์ที่ดูแลอยู่ยังไม่ยอมให้ ท่านบอกว่าท่านมีหน้าที่รักษา ถึงคุณเป็นเจ้านายก็ให้ไม่ได้ ท้ายสุดต้องชี้แจ้งว่าจะทำเพื่อเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา เขาถึงยอม คิดดูว่าลูกน้องไม่เกรงใจเจ้านายแล้ว หน้าที่เขาดูแลอยู่ เขารับคำสั่งครั้งเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2013 เมื่อ 05:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 20-11-2013, 19:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยก่อนวิ่งเหนือ วิ่งกลาง วิ่งใต้ วิ่งไปทุกทิศทุกทาง หลวงพ่อที่ไหนดีก็ไปกราบไปไหว้ ไปหาวัตถุมงคลท่านมา รวมแล้วเป็นลัง ๆ จนกระทั่งท้ายสุดตัดสินใจว่าจะบวชก็เอาไปไล่แจกเขา เสร็จแล้วเจ็บใจเป็นบ้าเลย หามายากเย็นแสนเข็ญขนาดนั้น ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ แต่คนรับเฉย ๆ ทำท่าไม่อยากได้ รู้อย่างนี้เก็บเอาไว้ดีกว่า ป่านนี้ประมูลกันครึกครื้นไปแล้ว ก็คือพอตัดสินใจว่าเอาหลวงพ่อฤๅษีฯ เป็นหลัก ก็ไม่ใช้วัตถุมงคลที่อื่นอีก

เมื่อมีประสบการณ์ แล้วมั่นใจหลวงพ่อองค์ไหน ก็จะยึดมั่นองค์นั้น หรือไม่ก็มั่นใจว่าครูบาอาจารย์ท่านนี้ เรายึดท่านเป็นสรณะ เป็นที่พึ่ง อาตมาเองก็ไม่ได้เก็บมากมายอะไร อย่างของหลวงพ่อวัดท่าซุง หลัก ๆ ก็สมเด็จองค์ปฐม สมเด็จคำข้าว สมเด็จหางหมากแค่นั้น ส่วนที่บูชามาเยอะแยะ ใครเขาขอบูชาต่อก็ให้ ๆ ไป

สมัยสมเด็จคำข้าว สมเด็จหางหมากองค์ละ ๑๐ บาท ถึงเวลาอาตมาทำบุญได้มาที ๓๐๐ - ๗๐๐ องค์ เพื่อนพระก็ว่าบ้า เก็บไปทำไมเยอะแยะ พอสิ้นหลวงพ่อ
ราคาขึ้นเอา ๆ เขาก็มาโกยจากอาตมาไปหมดเลย แล้วให้แค่องค์ละ ๑๐ บาท..!

สมัยอยู่วัดท่าซุง ออกกิจนิมนต์ได้เงินมาเท่าไรก็รวม ๆ แล้วเอาไปถวายหลวงพ่อทั้งหมด ตั้งใจช่วยท่านสร้างวัด เพราะอาตมามีความคิดว่า เงินเดี๋ยวก็หาได้ใหม่ แต่วัตถุมงคลของหลวงพ่อ ถ้าสิ้นท่านแล้วจะหายาก ก็ใช้วิธีนั้นแหละเก็บ แต่ปรากฏว่าแทบจะไม่เหลือเหมือนกัน

ตอนที่ขึ้นไปทำหน้าที่ที่ศาลานวราช จำหน่ายวัตถุมงคลใหม่ ๆ พระทุ่งเศรษฐี ๑๐๐ ปีหลวงปู่ปาน องค์ละ ๑๐ บาท พอถึงเวลาก็ไปนั่งคัดกับหลวงตาวัชรชัย องค์นี้สมบูรณ์ สีนี้ พิมพ์นี้ เอาให้มีทุกพิมพ์ทุกสี บูชาเองย่อมเลือกได้ แล้วท้ายสุดก็ไม่เหลือหรอก อย่างเก่งก็ติดตัว ๑ - ๒ องค์

เสียดายพระปิดตาหลวงปู่สี หิ้วย่ามอยู่ แล้วโยมเขาปิดประตูรถเร็วไป กระแทกแตก พระปิดตาผสมชานหมาก ท้ายสุดมองซ้ายมองขวา ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ยัดใส่ปากกลืนไปเลย..! ปัจจุบันเหลือแต่พระปิดตานะมิ พระปิดตามัดข้าวต้ม และพระผงอายุยืนของท่านอย่างละไม่กี่องค์

มีอยู่ช่วงหนึ่งไปช่วยเขาไว้ แล้วพวกไสยศาสตร์ก็หันมาเล่นงานอาตมาแทน พวกนี้รู้เร็วมากเลยว่าใครแก้ ก็มาเล่นงานคนนั้น ท้ายสุด ตอนนั้นหลวงปู่กลั่นอยู่เขาอ้อ หลวงพ่อพรหมอยู่วัดบ้านสวน อาจารย์ศรีเงินอยู่วัดดอนศาลา ก็ไปหาท่าน หาวัตถุมงคลของท่าน เอามาตีกับพวกนี้โดยเฉพาะ ถึงเวลาอาตมาทำน้ำมนต์ด้วยวัตถุมงคลของท่าน ก็กลายเป็นของท่าน ไม่ใช่ของอาตมา พอถึงเวลาคุณไปลุยกับครูบาอาจารย์สายโน้นเองก็แล้วกัน บางทีก็จำเป็น ไม่อย่างนั้นเหนื่อยตายเลย รบกับพวกนั้นไม่ไหว พอถึงเวลาเขาสู้เราไม่ได้ เขาก็ไปหาคนที่เก่งกว่ามาอีก แล้วก็รบกันทั้งปีทั้งชาติ บางทีมากันที ๓๐ - ๔๐ คน ช่วยกันรุมอาตมาคนเดียว แย่เหมือนกัน พอเขามากันหลายคนกำลังก็เยอะ มาล้อมวงทำพิธีอย่างเป็นทางการ มีทั้งห่มขาว ห่มเหลือง ทั้งอะไรเต็มไปหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2013 เมื่อ 06:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 20-11-2013, 19:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนนั้นโดนเสียอ่วมแล้ว ภาวนาอยู่ส่งใจไปพระนิพพาน กะว่าถ้าตายไปจะได้ไปพระนิพพาน แต่ไม่ไปพระนิพพาน ดันไปหล่นอยู่กลางวงเขาเลย เหมือนกับท่านตั้งใจให้เห็นว่าใครทำ ตอนนั้นอาการที่เป็นก็คือ ไข้ขึ้นเกิน ๔๒ องศา แล้วเจ็บไปหมดทั้งตัว หล่นไปกลางวงถึงได้เห็น

เขาปั้นหุ่นแทงเข็มแล้วเอาไปเผาไฟ นั่งล้อมวงกัน ๖ คนทั้งผู้หญิงผู้ชาย พอเขาภาวนาเพ่งใจทีหนึ่ง อาตมาก็สะดุ้งเฮือกทีหนึ่ง เจ็บจะตายชัก แต่ก็นั่งอโหสิฯ ๆ อโหสิฯ ไปอโหสิฯ มาหลาย ๆ ที มันเจ็บว่ะ ตบะแตกลุกขึ้นเตะกระจายทั้งวงเลย แล้วก็หายเจ็บเดี๋ยวนั้น อาตมาก็นึกว่ารอดไปที ที่ไหนได้ผ่านไป ๒ วัน ร่วงทั้งยืนอีก เขาเอาใหม่ พิธีแตกเขาก็ไปรวบรวมกำลังใจใหม่ ๒ วันมาเล่นอาตมาอีก ท้ายสุดคิดว่าถ้ารบกันอย่างนี้อาตมาแย่แน่ เพราะว่าถึงบารมีพระคุ้มอยู่ก็จริงแหละ แต่ว่าวาระกรรมเก่าทำเขาไว้เยอะ ถึงเวลาความเจ็บปวดอะไรต้องรับเป็นปกติ

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านถึงได้บอกว่ายันต์เกราะเพชรกันไสยศาสตร์ได้เต็มที่แค่ไม่ให้เราตาย ท่านบอกว่าเหมือนกับเขาก่อกองไฟไว้ แล้วเราก็เอาฉากกั้น ฉากนั่นคือยันต์เกราะเพชร แต่ถ้าไฟกองใหญ่และแรงมาก ความร้อนก็ถึงเราได้ เปลวไฟทำอันตรายเราไม่ได้หรอก ท้ายสุดก็เลยต้องใช้วิธีไม่ตอบไม่โต้อะไรทั้งนั้น ทนเอาอย่างเดียว ถึงเวลาสู้ไม่ไหวก็ทิ้ง เข้าสมาธิหนี ผ่านไป ๓ - ๔ วันเห็นเงียบไปเฉย ๆ คิดว่าอาตมาตายแล้วกระมัง เขาก็เลิก แต่ตอนนั้นจะตายเอาจริง ๆ เจ็บอย่าบอกใครเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2013 เมื่อ 06:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 20-11-2013, 19:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาทำบุญแทนเขา ต้องรับกรรมแทนเขาด้วยไหมครับ ?
ตอบ : มะเหงกแน่ะ..! รับแต่บุญเฉย ๆ เราทำเวยยาวัจมัย ขวนขวายงานบุญคนอื่นเขาให้สำเร็จ คุณไม่ได้ไปแก้กรรมให้ชาวบ้านเขานี่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-11-2013 เมื่อ 06:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 21-11-2013, 18:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การอยู่ในสังคมจะเอาอารมณ์อย่างเดียวไม่ได้ บางทีก็ต้องมีหน้ากากบ้าง เราจริงใจแต่คนอื่นอาจจะรับไม่ได้ เด็กสมัยนี้อยู่ลำบาก แบบเดียวกับแนน (ศิริลักษณ์ พินิจสุขใจ) แนนจะได้ยินความคิดคนอื่นหมด พอถึงเวลาเขาก็จะมาเครียดว่า ทำไมเขาพูดอย่างหนึ่งแล้วคิดอีกอย่างหนึ่ง"

ถาม : แล้วทำไมน้องแนนเขาป่วยจัง ?
ตอบ : ทำเขาไว้เยอะ อาจจะเป็นเพราะป่วยนี่แหละทำให้เขาได้ดี เพราะไม่มีอะไรเป็นที่พึ่งนอกจากอาศัยพระ เท่ากับบังคับให้ฝึกตัวเอง แนนยังปรับตัวเองไม่ได้ เขาถามว่าทำอย่างไรจะไม่ได้ยิน บอกเขาว่าแค่ไม่ไปใส่ใจ เขาบอกไม่ใส่ใจก็ได้ยิน ก็ได้ยินนั่นแหละ ถ้าเราไม่ใส่ใจก็เหมือนกับคนคุยกันห่าง ๆ แล้วจะไปสนใจอะไรเขา

ถาม : เวลาที่เราคิดอะไรที่ไม่ดี ภาวนากดตัวหนึ่งไว้ได้ อีกตัวก็คิดอีก ก็เอาพุทโธกดไว้ ปรากฏว่าเจอว่ามีอีกตัว
ตอบ : มโนกรรมหยุดยากที่สุด เพราะเร็วมาก ๆ เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 22-11-2013 เมื่อ 06:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว