กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 14-09-2009, 13:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พอถึงจุดนี้ ที่หนูบอกว่าหลุดทุกครั้ง ทีนี้ถ้าออกไปพิจารณาข้างนอก เปรียบกับคนอื่นที่เขาไม่ได้หลุดไปแต่พิจารณา อย่างนี้มีผลเหมือนกันหรือเปล่าคะ
ตอบ : พิจารณาก่อนไป ถือว่าปลอดภัยกว่า เพราะว่ากำลังใจที่ไม่ยึดเกาะร่างกายจริง ๆ การรู้เห็นทุกอย่างจะชัดเจน ส่วนการออกไปพิจารณาข้างนอกง่ายกว่า ง่ายกว่าเพราะกายกับใจมันแยกออกเป็นคนละส่วนจริง ๆ มันไม่ได้ยึดไม่เกาะกันอยู่แล้ว ถือเสียว่าถนัดแบบไหนทำแบบนั้นแล้วกัน

ถาม : เมื่อหลุดไปแล้ว หนูก็คิดว่าถือโอกาสก่อประโยชน์ให้เกิดสูงสุด ก็อยากจะไปกราบพระบนนิพพาน ตั้งใจว่าไปก็พุ่งไปอย่างเร็วเลยค่ะ เสร็จแล้วมันก็ค่อยช้าลง ๆ ร่วงลงไปยังที่เดิม ๕-๖ ครั้ง เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลย
ตอบ : สมาธิก็ไม่พอ ปัญญาก็ไม่พอ วิปัสสนาญาณยิ่งแย่ใหญ่ เร่งสามอย่างนี้ใหม่

ถาม : แล้วหนูขอพระ อย่างหลวงพ่อฤๅษีช่วยอย่างนี้ไม่ได้หรือคะ
ตอบ : แล้วตอนนั้นขอหรือเปล่า

ถาม : ขอค่ะ ปรากฏว่าพอขอแล้วก็มีแรงดึงขาหนูไป แต่ไม่ได้ขึ้นข้างบน ไปทางราบค่ะ แล้วก็ไปโผล่กำแพงเมืองจีนค่ะ
ตอบ : ดีที่ไม่หลุดไปข้างล่าง

ถาม : การที่ในชีวิตประจำวัน หนูพิจารณาทุกข์โดยที่ไม่รู้ว่าได้ฌานหรือเปล่า ตรงนี้จะมีผลอะไรหรือเปล่าคะ
ตอบ : มี อย่างน้อยความดีที่เราทำได้ จะได้ทรงตัว มันจะได้ฌานหรือไม่ได้ฌานช่างมัน ขอให้ได้ทำก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 14-09-2009, 13:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกสาวหนูคนโต เป็นเด็กที่ขาดความอดทนมาก อันเนื่องมาจากการเลี้ยงดูของหนูเอง ทีนี้หนูจะแก้ไขอะไรได้บ้าง
ตอบ : สอนให้ทำสมาธิ ถ้ากำลังใจเข้มแข็ง มันก็จะมีความอดทนมากขึ้น

ถาม : แล้วหลัง ๆ นี่หนูจะมีความรู้สึกว่าเบื่อกิเลสมาก ๆ เลยค่ะ พอกิเลสมันเข้ามาแรง ๆ ตัวเบื่อมันก็จะถีบกิเลสกระเด็นออกไปได้ ทีนี้พอมันออกไปแล้ว ตัวเบื่อมันก็ยังอยู่ หนูรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแจ่มใส ทำอย่างไรดีคะ
ตอบ : ดี และจำเป็นต้องรักษาไว้ด้วย เพราะว่าอันนั้นเป็นเบื้องต้นเลยที่จะนำพาเราให้หลุดพ้น ตัวเบื่อเป็นนิพพิทาญาณ ถ้าไม่มีนิพพิทาญาณมันจะไม่เบื่อ ในเมื่อมันไม่เบื่อเราก็จะหลุดพ้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นพยายามรักษาไว้ ทวนแล้วทวนอีก ซ้ำแล้วซ้ำอีก ถ้ากำลังมันพอมันจะก้าวล่วงลงไปกลายเป็นสังขารุเปกขาญาณ คราวนี้มันจะปล่อยวาง ก็สบาย

ถาม : แล้วอย่างหนูนี่ไม่ได้อะไร จะกระโดดไปถือศีล ๘ จะมีข้อดีช่วยในการปฏิบัติได้ไหมคะ
ตอบ : ปรึกษาผัวก่อน เดี๋ยวมันไม่ยอม

ถาม : คุยกันแล้วค่ะ จริง ๆ แล้วเขาเป็นคนชวนหนูเองค่ะ
แล้วเรื่องศีลแปด หนูอ่านเจอว่าในสมัยท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ท่านไม่ให้เด็กกินนมแม่ด้วยซ้ำ แล้วอย่างสมัยนี้กินนมได้หรือคะ
ตอบ : กินไปสิ

ถาม : ก็สมัยก่อนไม่ได้ค่ะ
ตอบ : นั่นของเขาตั้งใจจริง ๆ ทีนี้มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะเขากินพวกน้ำผึ้งอะไรแทน เราก็คิดเสียว่ามันมื้อเดียวก็อิ่ม ที่เขาห้ามก็คือเขาห้ามอาหารแบบปกติ เด็กมันกินนมเป็นปรกติก็เปลี่ยนซะ

อย่างนี้นี่เอง ขอบคุณมากค่ะ จบแล้วค่ะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 13:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 20-09-2009, 20:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่กำลังคุยเกี่ยวกับเรื่อง msn กันอยู่ หลวงพ่อได้กล่าวว่า "เครื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ ถ้าขาดการชั่งใจ ขาดสติ วันเวลาต่าง ๆ จะหมดไปเร็ว ไม่ต้องทำมาหากินอะไรหรอก เหมือนกับตอนมีมือถือใหม่ ๆ เด็กไปเรียนหนังสือก็คุยโทรศัพท์อยู่นั่นแหละ คุยกันทั้งวันยังไม่พอ การกระทำลักษณะนี้เขาจะรู้สึกว่าได้รับความสนใจจากคนอื่น

คราวนี้พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกสมัยใหม่ มักจะไม่มีเวลาให้ลูก พอไม่มีเวลาให้ลูกก็เท่ากับว่าเขาขาด ขาดในส่วนที่ต้องการในใจ เมื่อเพื่อนฝูงสามารถให้ตรงนั้นเขาได้ก็ไปติดเพื่อน โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น ต้องระมัดระวังให้ดี เทคโนโลยีมีคุณอนันต์และก็มีโทษมหันต์ในเวลาเดียวกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 20-09-2009, 20:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่คะ หนูต้องพิจารณาอะไรต่อไปคะ
ตอบ : อะไรก็ได้ที่มันไม่อยากได้ในร่างกายนี้ ซ้ำแล้วซ้ำอีก ย้ำแล้วย้ำอีก ให้เห็นความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเรา เป็นของเรา เบื่อ (ทำ) ไม่ได้ เลิกไม่ได้ เบื่อ (ทำ) เมื่อไหร่กิเลสมันตีกลับ

ถาม : ทุกครั้งที่ออกจากการปฏิบัติ ตาหูมันก็เห็นค่ะ บังคับทุกตัว....
ตอบ : กำลังใจนึกถึงตลอดเวลา แบ่งความรู้สึกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งประมาณ ๒๐-๓๐ เปอร์เซ็นต์ให้ภาพพระอยู่กับเราตลอด อีกส่วนหนึ่ง ๘๐ เปอร์เซ็นต์ก็ทำงานของเราไป

เขาต้องการให้เห็นอย่างนั้นจ้ะ ไม่ใช่ไปกลัว แสดงว่ากลัวจะดี พอกำหนดรู้ไปเรื่อย ๆ ภาพพระจะเปลี่ยน สีก็จะจางลง จางลง จนกระทั่งค่อย ๆ ใสขึ้น สว่างขึ้น

ถาม : ใช่เลยค่ะ
ตอบ : ไปทำต่อ คนอื่นเขาทำแทบล้มประดาตายกว่าจะได้ แต่นี่ได้แล้วดันกลัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-09-2009 เมื่อ 21:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 20-09-2009, 21:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "งานอะไรที่ไม่มีอุปสรรค...มันไม่มีหรอก เพียงแต่ว่าอุปสรรคหรือปัญหาเขามีไว้ให้แก้

มีคนเขาถาม คุณเทียม โชควัฒนา ว่าแล้วถ้ามีปัญหาที่แก้ไม่ได้ล่ะ เขาก็บอกว่าปัญหาที่แก้ไม่ได้ก็ไม่ไม่ใช่ปัญหาสิ ถ้าแก้ไม่ได้มันจะเป็นปัญหาได้อย่างไร ซึ่งก็จริงของเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 20-09-2009, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,173 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "การตักบาตรเทโว เกิดขึ้นจากวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรียกว่า วันเทโวโรหณะ เขาจึงมาเรียกสั้น ๆ ว่า ตักบาตรเทโว

พระพุทธเจ้าเสด็จลงที่เมืองสังกัสสนคร ชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายก็นำข้าวปลาอาหารไปถวาย คราวนี้ว่าคนมากเป็นแสน ๆ โอกาสจะเข้าใกล้ก็น้อย เมื่อเป็นดังนั้นก็เลยมีการพัฒนาในระยะหลังเป็นข้าวต้มลูกโยน เป็นข้าวเหนียวห่อใบตอง แล้วก็มีหางยาว ๆ ที่ทำด้วยใบมะพร้าว ถึงเวลาก็โยนไป

ถามว่าใช้วิธีอย่างนั้นถวายของพระพุทธเจ้าได้ไหม....ได้ พระพุทธเจ้าท่านอนุญาตไว้ ท่านบอกว่าถ้าเจ้าของให้ด้วยใจเคารพ...รับได้ ระยะหลังบ้านเราก็พัฒนาไปอีกกลายเป็นประเพณีโยนบัว รับบัวกัน ที่พระประแดง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-09-2009 เมื่อ 07:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว