กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 08-05-2015, 09:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าของอุทัยธานี แนวเขาสะแกกรังเป็นแนวเขามังกรไฟ ก่อนหน้านี้ทุกปีจะมีไฟไหม้อยู่เป็นประจำ เตรียมการดีอย่างไรก็ไหม้ ปรากฏว่ามีหมอดูฮวงจุ้ยบอกว่าแนวเขาเป็นแนวเขามังกรไฟ แล้วทางออกอยู่ตรงหัวเขา ให้สร้างสิ่งศักดิ์สิทธิ์ครอบเอาไว้ มังกรไฟออกมาไม่ได้ ไฟจะเลิกไหม้ ผู้ว่าฯ ได้รับคำแนะนำแล้วก็ไม่เชื่อ จุดธูปอธิษฐานว่า ถ้าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นจริงแล้ว ขอให้แสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นด้วย แล้วถึงจะทำตาม ไม่อย่างนั้นเสียชื่อผู้ว่าฯ หมด

ปรากฏว่าอยู่ ๆ ลูกสาว
ผู้ว่าฯ อายุแค่ ๕-๖ ขวบที่นอนอยู่ร้องจ้าขึ้นมาก็ตกใจ วิ่งขึ้นไปดู ปรากฏว่าที่สะโพกมี ๕ นิ้วนาบอยู่ พองอย่างกับไฟไหม้เลย เขาทำให้เห็นชัด ๆ เลยว่า กูนี่ของแท้ ท้ายสุดผู้ว่าก็เลยรับเป็นแม่งานสร้างมณฑป แล้วก็ตั้งรอยพระพุทธบาทครอบตรงทางเข้าออกมังกรไฟไว้ ตั้งแต่นั้นมาไฟก็ไม่ไหม้อุทัยธานีอีก ป่านนี้คงดิ้นรนน่าดู ออกได้เมื่อไรคงจะได้เผาให้กระจายเลย..!

หลายต่อหลายแห่งที่ไปมา บรรดาเจ้าที่เจ้าทางถ้ามีอะไรเขาก็พยายามที่จะบอกให้รู้ บางเรื่องบางราวก็ไม่ได้รู้ประวัติอะไรของเขาเลย ท่านเล่าให้ฟัง ก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ฉบับผีบอก ถ้าอ่าน ๆ กันในเว็บ ประวัติพวกนั้นถ้าไปเปรียบเทียบกับของจริงไม่รู้ว่าตรงหรือไม่ตรง อาตมาก็ไม่ยืนยันกับเขาหรอก เขาบอกมาอย่างไรก็เขียนไปตามนั้น

เดี๋ยวถึงตอนไปเนปาลแล้วจะดู โห..เทวดานี้แสบสุด ๆ ปล่อยให้อาตมาเสียสตางค์เพื่อที่จะดูยอดเขาเอเวอเรสต์ ได้เห็นแต่เมฆเปล่า ๆ อุตส่าห์ขอไว้อย่างดี เขาก็ยืนยันเดี๋ยวจัดให้เต็มที่เลย ที่ไหนได้..เขาให้ดูขากลับ คืออาตมาขอแต่ไม่ระบุเวลา เทวดาท่านก็ทำให้รู้ว่าคุณไม่รอบคอบเอง ขาไปอุตส่าห์เสียสตางค์ซื้อตั๋วพิเศษเพื่อให้ได้ดู กลับไม่ได้ดู ขากลับนั่งเฉย ๆ ก็ได้ดู ถึงได้รู้ว่าเทวดานี้อย่าพลาด พลาดเมื่อไรโดนเล่นทันที..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-05-2015 เมื่อ 09:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 64 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 09-05-2015, 09:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

(โยมมารายงานว่ามีคนไปทำลายพระพุทธรูปที่เจติยคีรีบนเขาหน้าวัด) "เดี๋ยวท่านหมึกก็เลือกเอาพระพุทธรูป ๒ องค์ เอาขึ้นไปที่เจดีย์ เอากาวติดเหล็กไปสักชุดหนึ่ง ผสมเสร็จแล้วก็ทาฐานติดกับพื้นไปเลย คาดว่าองค์ที่เขาเอาออกมาทุ่มเล่นได้เพราะว่ากาวหมดอายุ

เวลาเขาทำอะไรเสียหาย ชำรุด อย่าเสียเวลาไปโกรธ จำให้แม่น ๆ เลยนะ “เขาไม่มีคุณค่าให้เราโกรธหรอก” โดยเฉพาะเอาพระพุทธรูปไปทำลายนี่ลงอเวจีแน่ ๆ คุณจะไปโกรธสัตว์นรกทำไม ? แล้วเขายังเปิดโอกาสให้เราได้ทำบุญเพิ่มอีก เอาของใหม่ขึ้นไปทดแทน ถ้าเรารู้จักมองในแง่นี้ก็ไม่มีอะไรให้น่าโกรธหรอก เพียงแต่ว่าบางคนนี่ แหม..ไม่โกรธหรอก ขอสักทีเถอะ..!

อย่างตอนทิดอ้ำ รู้สึกว่าหม่องมิตรจะโดนเอง หม่องมิตรของขึ้น ๕ ทุ่มเที่ยงคืนขึ้นไปตีระฆังบนเขาแล้วพระตื่นทั้งวัด ทิดอ้ำจัดให้..โดนซ้อม อาตมาเป็นคนรับรองเองนะ ถ้าหากว่าญาติโยมทำอะไรผิดในวัด ถ้าหากผิดร้ายแรงมากให้พระอัดได้เลย ถามว่าแล้วถ้าตำรวจจับล่ะ ? เชิญเขาแจ้งความไป..ไม่เป็นไร เดี๋ยวอาตมาจะไปประกันให้ ฉะนั้น..พระวัดนี้มักจะไม่ค่อยยั้งมือหรอก เวลาเจอโยมทำอะไรผิดหนัก เจ้าอาวาสรับประกันว่าไม่ติดคุก ประกันออกมาแล้วมาสู้คดีกันต่อ

อะไรเกิดขึ้นให้ตั้งสติแล้วแก้ไขปัญหา อย่าเสียเวลาไปโกรธเขา ถ้าเขาอยากจะทำเดี๋ยวก็ไปแงะองค์ใหม่อีก เราก็ได้ทำบุญอีก ส่วนใครจะสร้างกรรมอะไรเป็นเรื่องของเขา"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-05-2015 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 09-05-2015, 09:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การปฏิบัติธรรมคือการทำสิ่งที่ซ้ำซากทุก ๆ วัน แต่ให้พินิจพิจารณาด้วยว่า เราทำวันนี้ได้ดีกว่าเมื่อวานหรือไม่ ? โดยเฉพาะการปฏิบัติธรรม อย่าให้มีการจัดปฏิบัติธรรมที่วัดแล้วเราจึงมาตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติกัน แต่ว่าให้อยู่ในลักษณะที่ว่ารักษากำลังใจของเราให้ต่อเนื่องกันโดยตลอด ไม่ใช่ลุกขึ้นแล้วเลิกปฏิบัติเลย

ถ้าลุกขึ้นแล้วเลิกปฏิบัติเลย ก็เหมือนกับเราว่ายทวนน้ำมา แล้วก็ปล่อยลอยตามน้ำไปไกลจนประมาณไม่ได้ ถึงเวลาก็ตะเกียกตะกายว่ายทวนน้ำขึ้นมาใหม่ แล้วก็ปล่อยอีก ก็ลอยตามน้ำไปอีก เราจะกลายเป็นคนขยันที่หาผลงานไม่ได้ เพราะว่าทำอยู่ทุกวัน แต่ก็โดนกิเลสดึงไปได้ทุกวันเหมือนกัน

วิธีที่ถูกก็คือ เมื่อปฏิบัติแล้วอารมณ์ใจมั่นคงทรงตัวเท่าไร ให้พวกเราพยายามประคับประคองรักษาอารมณ์นั้นไว้ภายหลังการปฏิบัติด้วย แรก ๆ ด้วยความไม่เคยชิน สติเรายังไม่เพียงพอ ก็จะหลุดหายไปในไม่กี่นาที แต่ถ้ารู้จักประคับประคองรักษาเอาไว้ เราก็จะรักษากำลังใจเอาไว้นานขึ้นเรื่อย ๆ จากไม่กี่นาทีก็ได้เป็นครึ่งชั่วโมง ได้เป็น ๑ ชั่วโมง ๒ ชั่วโมง ๓ ชั่วโมง ได้ ๑ วัน ๒ วัน ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน ครึ่งเดือน ๑ เดือน ๒ เดือน ๓ เดือนต่อเนื่องกันไป

ยิ่งสภาพจิตทรงตัวต่อเนื่องได้นานเท่าไร เราจะปลอดกิเลสได้นานเท่านั้น สภาพจิตที่เคยชินกับความสุขในการปราศจากกิเลส เราก็ไม่ยินดีกลับไปทุกข์อีก ก็จะเร่งตั้งหน้าตั้งตาขวนขวายเพื่อความพ้นทุกข์ของเรากันต่อไป ดังนั้น..ทำแล้วโปรดอย่าทิ้ง หลายท่านทำมาหลายสิบปีแล้วไม่เกิดผล เพราะว่าทำแล้วทิ้ง ทำแล้วเลิก การปฏิบัติธรรมต้องปฏิบัติอยู่ตลอดเวลา ทุกนาที ทุกวินาที ทั้งหลับและตื่นสภาพจิตต้องมีการตื่นรู้เท่าทันกิเลส ไม่อย่างนั้นแล้วกิเลสก็จะชักนำเราไปสู่ในทางที่ไม่ดีได้

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วเราจะต้องเจ็บแล้วเจ็บอีก โดนแล้วโดนอีกจนรู้จักเข็ด จึงจะมีปัญญาคิดหาเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไรเราถึงแพ้อยู่ตลอด ในเมื่อมีผู้มาบอกมากล่าวโดยที่เราไม่ต้องไปทดสอบให้เจ็บตัวด้วยตนเอง ก็สมควรที่จะเร่งการปฏิบัติให้มากเอาไว้ การปฏิบัติธรรมของเราครั้งนี้ก็เรียกว่าไม่ได้เต็มที่ เนื่องจากระยะเวลาแม้จะหลายวัน แต่ก็ติดกิจกรรมการบุญการกุศลไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-05-2015 เมื่อ 10:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 13-05-2015, 09:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,034 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับท่านทั้งหลายที่ตั้งใจจะเดินทางกลับในเช้านี้เลย ก็สามารถที่จะเดินทางกลับได้หลังจากการรับวุฒิบัตรแล้ว ท่านใดที่จะอยู่ร่วมกิจกรรมการอุ้มพระสรงน้ำในช่วงบ่าย ก็ให้รอจนบ่าย ๒ โมงแล้วไปกลับเอาตอนค่ำ เพราะว่าถ้ากลับครึ่ง ๆ กลาง ๆ จะไปเจอรถติดมาก ถ้ากลับก็ต้องรีบกลับไปเลย หรือไม่ก็กลับช้านิดหนึ่ง

ขออนุโมทนากุศลผลบุญที่ทุกท่านพร้อมใจกันบำเพ็ญในครั้งนี้ โดยเฉพาะในส่วนที่เราได้อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมองไปทางด้านไหนก็จะเห็นสีม่วงสะพรั่งไปหมด นั่นคือตัวอย่างของบุคคลที่ปฏิบัติธรรมด้วยการทำหน้าที่ ปฏิบัติธรรมในชีวิตจริง แม้กระทั่งทุกวันนี้เราก็จะเห็นว่าพระองค์ท่านไม่สนใจรูปร่างหน้าตาหรือความสวยงามเลย ทำแต่งานอย่างเดียว บุคคลที่พยายามปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด นั่นคือผู้ที่ปฏิบัติธรรมอย่างแท้จริง

เมื่อมีพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีแล้ว เราก็ควรที่จะยึดถือแบบอย่างทั้งหลายเหล่านั้นเอาไว้ เพื่อที่ถึงเวลาแล้วเราจะได้ปฏิบัติตนให้ได้อย่างพระองค์ท่าน ขณะเดียวกันเมื่อถึงเวลาความดีทั้งหลายที่เรากระทำ ก็จะส่งผลให้เราก้าวล่วงจากกองทุกข์ เข้าสู่พระนิพพานได้เช่นกัน

ท้ายสุดนี้อาตมภาพในฐานะตัวแทนของพระภิกษุสงฆ์ ขอตั้งสัตยาธิษฐานอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีคุณพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะเป็นประธาน มีบารมีของหลวงปู่สาย อคฺควํโสเป็นที่สุด ขอได้โปรดดลบันดาลให้ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่มีความเป็นอยู่คล่องตัว มีความปรารถนาที่สมหวังจงทุกประการ แม้ว่าประสงค์จำนงหมายสิ่งหนึ่งสิ่งใด ที่เป็นไปโดยชอบ ประกอบด้วยธรรมวินัยแล้วไซร้ ขอให้ความปรารถนาของท่านทั้งหลายจงสำเร็จสมดังมโนรถทุกประการด้วยเทอญ


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
โอวาทช่วงงานบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันที่ ๑๑-๑๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ วัดท่าขนุน

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยรัตนาวุธ)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2015 เมื่อ 10:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 50 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 04:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว