กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #101  
เก่า 18-09-2017, 09:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยนี้มีอาชีพบางอย่างที่เราก็นึกไม่ถึง ก็คือการไปเที่ยวแล้วมาทำรีวิวสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะที่กิน ที่เที่ยว ที่พัก เอาไปลงอินเตอร์เน็ตแล้วก็รับเงิน เท่ากับว่าได้เที่ยวไปเรื่อย ๆ มีคนจ้างให้เที่ยว...ว่าอย่างนั้น

คราวนี้ในส่วนที่จะพูดก็คือเรื่องการกิน ส่วนใหญ่แล้วจะไปอยู่ในลักษณะที่ว่า เลือกสถานที่มีอาหารอร่อย ราคาไม่แพงได้ยิ่งดี ซึ่งในส่วนนี้แต่เดิมเรามีแต่รายการแนะนำอาหารอย่างเดียว ก็คือรายการเชลล์ชวนชิม ของหม่อมราชวงศ์ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ วัตน์ ตัวนี้ วัตนะ ที่แปลว่า หมุนวน ไม่ใช่ วัฒนะ ที่แปลว่าเจริญ

หลังจากนั้นก็มีคนเลียนแบบ ก็คือ แม่ช้อยนางรำ ก็เลยทำให้มีหลายคนที่ไปเลือกกินตามที่เขาแนะนำ ถ้าร้านอาหาร ร้านขนม ไม่ได้โด่งดังจนเป็นที่ได้รับการแนะนำจากคนจำนวนมาก หลายคนก็ไม่เข้าเลย ไม่เลือกไม่กินอาหารของร้านนั้น

ก็เลยไปนึกถึงที่อรรถกถาท่านขยายความ ในส่วนที่พระพุทธเจ้าตรัสถึงบุคคลที่ประกอบด้วยอวิชชาแล้วหลุดพ้นไม่ได้ อรรถกถาขยายความว่า
“มีบุคคลจำพวกหนึ่ง เมื่อถึงเวลาไปเกิดเป็นสัตว์ มีหญ้าเป็นอาหาร มีคูถเป็นอาหาร” คูถก็คือขี้นั่นแหละ “เพราะเขาทั้งหลายเหล่านั้น ติดในรสอาหารในขณะที่เป็นมนุษย์” ฟังแล้วสยองเหมือนกันนะ คนติดในรสอาหาร บางคนทำไม่ถูกใจก็โกรธ

แต่สมัยนี้คนยึดติดในรสอาหารก็น้อยแล้ว เหตุที่น้อยเพราะเห็นว่าแม่ค้าก๋วยเตี๋ยวนุ่งน้อยห่มน้อยมาขายแทน...! หนุ่มขายทุเรียนก็ต้องถอดเสื้อโชว์กล้ามล่ำบึ้ก แสดงว่าไม่ได้ติดในรสอาหาร ค่อนข้างจะปลอดภัย ไม่รู้ว่าไปติดอะไรแทน...! ถึงเวลาแม่ค้าส้มตำก็มีรายการตำไปเด้งไป มีคนแนะนำแล้วหนุ่ม ๆ ก็แห่กันไปเพียบ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 10:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #102  
เก่า 18-09-2017, 09:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาโชคดีที่เกิดมาไม่เคยกินอะไรแล้วติดใจจนต้องไปกินซ้ำ แต่เวลาเจออาหารที่ไหนคิดว่าอร่อย อร่อยในที่นี้ก็คือไม่ใช่หวานเป็นขนม ยังคงเป็นรสดั้งเดิมแบบโบราณ ก็แนะนำให้คนแวะกินเหมือนกัน

สมัยนี้น่าเบื่อมาก ตอนที่เรียนปริญญาโทอยู่ ได้ต้อนรับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเว้ ถามเขาว่าอาหารไทยเป็นอย่างไรบ้าง ? “กินไม่ได้เลย หวานมาก” แสดงว่าอาหารไทยของเรามีชื่อมาก...ใช่ไหม ? กินไม่ได้เลย ก็ถามว่าแล้วกินอะไรบ้าง ? “กินได้แต่ส้มตำ เพราะว่ามีหลายรสหน่อย ไม่ใช่หวานอย่างเดียว”

ไม่รู้ใครที่ไปพูดว่าอาหารรสหวานเป็นอาหารชาววัง เล่นเอาชาววังเสียหายหลายล้าน อาหารในวังของเขาสารพัดรสชาติ โดยเฉพาะอาหารไทยเรามีของหวานหลังอาหารอยู่แล้ว ดังนั้น...มีอาหารไทยไม่กี่ประเภทเท่านั้นที่ติดไปทางรสหวาน อย่างพวกแกงบอน แกงหมูชะมวงพวกนั้น ถ้าอย่างอื่นนี่รับรองว่าห่างไกลรสหวานหลายกิโลเมตรเลย

ปัจจุบันพวกเราก็ติดรสหวานเสียจนชิน ไม่มีการต่อว่าแม่ค้าเลย แม่ชีที่วัดท่าขนุนก็เคยทำอาหารรสหวาน จนอาตมาต้องสั่งให้เอาน้ำตาลออกจากครัวไปเลย ปัจจุบันนี้ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อย ที่อนาถที่สุดก็คือแกงส้มแล้วหวาน มาได้อย่างไร ? แกงส้มต้องเปรี้ยวนำ เผ็ดตาม แล้วถึงจะเค็ม อันนี้เอาหวานนำ ส้มแปลว่าเปรี้ยว ไม่ได้แปลว่าหวาน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 10:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #103  
เก่า 18-09-2017, 09:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"บ้านใครที่ทำอาหารติดรสหวาน จงโวยแม่ครัวหรือแม่บ้านได้แล้ว บอกว่าจะเป็นเบาหวานกันทั้งประเทศแล้ว ประเทศอื่น ๆ เขาบริโภคน้ำตาลกันเฉลี่ยวันละ ๔-๖ ช้อนชา ไทยเราเจ๋งมาก ๘-๑๒ ช้อนชา มากกว่าเขา ๒-๓ เท่าเลย

เรื่องของการบริโภคของหวานมาก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนสมัยนี้ใจร้อนใจเร็ว ทะเลาะเบาะแว้งกันมาก เพราะอย่างสมัยอาตมาเด็ก ๆ ถ้าจะให้หมาดุเขาจะให้กินข้าวเหนียวคลุกน้ำตาล เพราะว่าเวลาความหวานเข้าไป ทำให้เลือดลมพลุ่งพล่าน แล้วหมาก็จะหงุดหงิดไล่กัดกระจาย คราวนี้คนเราบริโภคหวานมากไป ก็เลยทะเลาะกันง่าย ขับรถปาดหน้ากันหน่อยหนึ่ง ก็ลงไปไล่ยิงไล่ฟันกันกลางถนน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 13:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #104  
เก่า 18-09-2017, 09:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กินยาคูลท์บาปหรือเปล่า ?
ตอบ : จะไปบาปตรงไหน ?

ถาม : มีเชื้อจุลินทรีย์ ?
ตอบ : พวกนั้นเป็นจุลินทรีย์ที่ลงไปโตในท้องของเรา ไม่ได้ตาย กินลงไปเยอะ ๆ เลย แต่ขออภัยนะ...กินนมเปรี้ยวก็เท่ากับกินน้ำตาลดี ๆ นี่เอง

บ้านเราเครื่องดื่มที่เข้าน้ำตาลมากที่สุดก็คือนมเปรี้ยว เพราะต้องการจะไปกลบรสเปรี้ยวของนม บางคนบอกว่ากินแต่นมเปรี้ยวเพื่อลดน้ำหนัก...ฝันไปเถอะ อิ่มก็ไม่อิ่ม แถมยังอ้วนอีกต่างหาก ยี่ห้ออะไรที่ขวดสูงประมาณเท่านี้ เป็นยี่ห้อหลัง ๆ ไม่ใช่ยี่ห้อแรก ๆ ใส่น้ำตาล ๘ ช้อน เอาไว้เลี้ยงจุลินทรีย์ด้วย แล้วก็เอาไว้กลบรสเปรี้ยวด้วย กินนมเปรี้ยวขวดแค่นี้เจอน้ำตาลไป ๘ ช้อน

ใครเคยกินก็ช่วยอุดหนุนของเขาต่อไปนะ ไม่ใช่เดี๋ยวบริษัทเขาเจ๊งจะมาโทษอาตมาอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 13:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #105  
เก่า 18-09-2017, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าจะกินนมเปรี้ยวต้องกินแบบคนอินเดีย...ที่เรากินไม่ได้ เขาหมักนมเปรี้ยวไว้ในหม้อดิน เปรี้ยวยิ่งว่ามะนาวอีก ถ้าบอกว่ากินเพื่อให้ระบาย เราไปกินนมเปรี้ยวอินเดียนี่ไม่ใช่ยาระบาย เป็นยาถ่ายขนาดหนักเลย แต่พวกแขกเขาก็สุขภาพดีกันทุกคน ทั้ง ๆ ที่อาหารก็มีแต่ถั่วกับแป้ง ก็เพราะว่าเขากินนมเปรี้ยวเป็นหลัก

ตอนนี้ลูกสาวคนหนึ่งลดน้ำหนักไป ๒๐ กว่ากิโลกรัมแล้ว ปกติจะกินนมวันละ ๒ ลิตร ก็แค่เลิกกินนมเท่านั้นเอง ส่วนใหญ่สมัยนี้เขากินแต่นมหวาน นมจืดขายไม่ค่อยออก นมจืดของอาตมาเอาไว้เลี้ยงลูกหมา ตอนนี้ไอ้ซูโม่ตัวแค่อ้วนบึ้กเลย แม่หมาตัวเล็กนิดเดียวออกลูกมา ๙ ตัว ลูกสัตว์ถ้ากินถึง ๆ จะตัวใหญ่มาก ครอกนี้ ๙ ตัวเหลืออยู่ ๔-๕ ตัว ตัวไหนสวยมากก็หายก่อน เล่นเอาแม่ชีนั่งร้องไห้ร้องห่มที่ลูกหมาหาย

อาตมาเองดูแล้วก็ แหม...เลี้ยงหมาก็ติดหมา เลี้ยงคนก็ติดคน ไปไหนไม่รอดหรอก เดี๋ยวก็ได้เกิดเป็นเห็บหมาสักวัน เลี้ยงไอ้ปั๊กก็ติดไอ้ปั๊ก...ใช่ไหม ? โชคดีที่ตายไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 14:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #106  
เก่า 18-09-2017, 10:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ได้ยินว่ารัฐบาลจะออกบัตร เรียกว่าบัตรคนจนก็แล้วกัน สามารถใช้ซื้อของได้ ขึ้นรถเมล์ได้ แต่ไม่มีการสะสมยอด ถ้าใช้ไม่หมดก็ตัดทิ้ง ก็ต้องใช้งบประมาณเป็นหมื่น ๆ ล้าน ซึ่งก็คือนโยบายประชานิยมอย่างหนึ่งนั่นแหละ แต่เขาเปลี่ยนใหม่เป็นประชารัฐ ก็แค่วาทกรรมหรู ๆ ว่าทำไม่เหมือนรัฐบาลเก่าที่กล่าวหาว่าเขาทำไม่ดี

ในเมื่อคำพูดไม่เหมือนกัน แม้ว่าผลการกระทำจะเป็นอย่างเดียวกันก็ไม่เป็นไร อาตมาไม่ได้ว่าอะไรหรอก เป็นห่วงแค่ว่าคนอยากจนมีมาก พวกที่ไปลงทะเบียนคนจนแต่ไม่จนจริงเยอะมาก เป็นภาระของรัฐบาลที่ต้องแก้ไข เราปฏิบัติธรรมของเราไปก็แล้วกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 14:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #107  
เก่า 18-09-2017, 20:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ให้โอวาทกับโยมว่า "มีวิธีหนีสาวอยู่อย่างหนึ่งคือบวชนาน ๆ ผู้หญิงสมัยนี้ใจร้อน บวชสักปี ๒ ปี เขาก็ไม่รอแล้ว แต่อย่าไปเจอสาวแบบอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน ท่านอาจารย์สมเด็จบวชหนีอยู่ ๑๑ พรรษา เขาก็รออยู่ ๑๑ ปี สึกมาก็เสร็จเขาอยู่ดี ถ้าเจอประเภทนั้นก็ยอมรับชะตากรรมเถอะ..!

จะได้รู้ไว้ว่าคราวหน้าอย่าใจร้อนใจเร็ว หลวงพ่อเองสมัยฆราวาสมีสาวล้อมรอบเป็นฝูง แต่ต้องทำตัวเป็นแมวไม่กินปลาย่าง เพราะรู้ตัวว่าต้องบวช ส่วนใหญ่แล้วพวกเราสู้กิเลสไม่ได้ ในเมื่อสู้ไม่ได้ก็ไหลตามกิเลสไป ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่เหลือก็ต้องแก้ไขไปตามหน้างาน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 21:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #108  
เก่า 18-09-2017, 20:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านต่างจังหวัดของใครโดนน้ำท่วมแล้วบ้าง ? ปีนี้น้ำท่วมหลายระลอก ฉะนั้น...ใครยังไม่โดนก็อย่านิ่งนอนใจ เพียงแต่ว่าตอนนี้คลังวัดท่าขนุนเกือบหมดแล้ว ก่อนตักบาตรเทโวต้องล้างคลังอีกรอบ ไม่เป็นไรหรอก...ชาวบ้านเดือดร้อน พระจะไปตุนอะไร ก็ต้องเทให้เขาหมด ถึงเวลาชาวบ้านลวกบะหมี่ เราก็ไปบิณฑบาต...แบ่งกันกิน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 21:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #109  
เก่า 18-09-2017, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดือนหน้างานออกพรรษา ตักบาตรเทโว อาตมาจะเข้ากรรมฐานก่อน ๓ วัน โผล่หน้ามาก็วันตักบาตรเทโวเลย ความจริงปีนี้คิดว่าไม่มีโอกาสเข้ากรรมฐานแล้ว เพราะว่าติดสอนที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย แต่ปรากฏว่าเขาให้นิสิตหยุดเพราะว่าสอบนักธรรม ในเมื่ออยู่ ๆ ประกาศให้หยุด ก็เลยมีเวลา

สรุปว่าอะไรที่เป็นงานของพระท่าน อย่าไปเลี่ยงเสียให้ยาก ท่านหาวันให้จนได้แหละ ฉะนั้น...ใครจะไปทำบุญกฐิน ตักบาตรเทโว หรือทำบุญพระออกกรรมฐาน วันที่ ๖ ตุลาคมก็ไปพร้อมกันที่วัดท่าขนุน แล้วหลังจากนั้นก็ไปกฐินปลดหนี้กันอีกทีหนึ่งที่สกลนคร

ซึ่งก่อนหน้านั้นจะเป็นการอุปสมบทหมู่ ๙๙ รูป ถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ เนื่องในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพ ตอนนี้สมัครมาน่าจะเหลือ ๑๗-๑๘ รูปเท่านั้น สุภาพบุรุษท่านใดจะบวชถวายในหลวงรัชกาลที่ ๙ ต้องบอกว่าเป็นงานครั้งสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่เคยบวชกับวัดท่าขนุนมาก่อน ต้องเข้าวัดตั้งแต่วันที่ ๑๔ ตุลาคม แล้วไปบวชวันที่ ๒๑ ตุลาคม สึกวันที่ ๒๖ ตุลาคม

ความจริงอยากจะให้อยู่เลยวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ แต่ว่าฤกษ์ดีที่สุดดันเป็นวันที่ ๒๖ ตุลาคม ฉะนั้น...หลังถวายพระเพลิงแล้ว เราสึกหลังทำวัตรค่ำ ก็คงจะประมาณ ๒ ทุ่ม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-09-2017 เมื่อ 21:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #110  
เก่า 19-09-2017, 19:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนกับบ้านเรา ประการแรก ความเคยชินไม่เหมือนกัน ประการที่ ๒ ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมไม่เหมือนกัน ประการที่ ๓ อาหารการกินไม่เหมือนกัน

ฝรั่งเวลาทะเลาะเบาะแว้งจะเคลียร์กันตรงนั้น แต่คนไทยเราทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าเคลียร์กันตรงนั้นก็ได้ฆ่ากันตาย ต้องรอให้ใจเย็นลงก่อน อย่างเดียวกับแขกอินเดีย ทะเลาะกันไป ผลักกันไป ดันกันมา ครึ่งค่อนวันไม่มีตีกัน ถ้าเป็นบ้านเราก็ทิ้งร่วงไปตั้งแต่ผลักครั้งแรกแล้ว..!

เป็นธรรมเนียมของเขาในลักษณะที่ว่า การทำร้ายร่างกายเขาถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงมาก แม้กระทั่งทางด้านตะวันออกกลางก็เหมือนกัน ผลักกันไป ดันกันมา กอดกันไป ปล้ำกันมา ท้ายสุดถอดรองเท้าฟาดหลังกัน ก็ไม่เห็นจะตีตรงอื่น ก็ตีแต่หลัง ไปเจอคนไทย หมัดเท้าเข่าศอกชุดเดียวกองกับพื้น แล้วก็โดนเขาเฆี่ยนเกือบตาย เพราะว่าไปทำร้ายคนของเขา

ฝรั่งเขารักษาสิทธิส่วนตัวมาก ใครไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัวมีโกรธ ไปด้อม ๆ มอง ๆ ในเขตบ้านเขา เราอาจจะไปหาเจ้าของบ้าน ไปชะโงกดูว่าเขาอยู่หรือเปล่า ? เขาโทรศัพท์แจ้งตำรวจเลย ที่ฝรั่งเขาทำอย่างนั้นแสดงออกให้เห็นชัดอย่างหนึ่งว่า เขามั่นใจในตัวบทกฎหมายและมั่นใจในผู้รักษากฎหมาย ว่าคุ้มครองเขาได้จริง

ฉะนั้น..มีเรื่องอะไรขึ้นมา ถึงตำรวจไว้ก่อน คุณโดนจับแล้ว คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด เพราะสิ่งที่คุณพูดอาจถูกนำไปใช้เป็นหลักฐานในชั้นศาล"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2017 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #111  
เก่า 19-09-2017, 19:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมัยนี้มีผ้าห่มกันยุงด้วยค่ะ ?
ตอบ : น่าจะเคลือบสารกันยุงสักอย่าง แต่สำหรับพระ ถ้าทำสมาธิดี ๆ ก็ไม่ต้องไปใช้จีวรกันยุง พอสมาธิทรงตัว อวัยวะภายในเกือบจะไม่ทำงาน ร่างกายเหมือนกับท่อนไม้ท่อนหนึ่ง ยุงจะตามความร้อนไม่เจอ ก็เลยไม่สนใจที่จะกิน

เวลาอาตมานั่งรวมกับเพื่อน ๆ แล้วก็ขำ เพื่อนโดนกัดไปเถอะ ส่วนอาตมานั่งสบาย ยกเว้นบางช่วงโดนบังคับให้กินพวกยาโด๊ป ยาบำรุงเยอะ ๆ ถ้าอย่างนั้นร่างกายจะร้อน ในเมื่อร้อน ยุงก็หาเจอ ช่วงนั้นจะโดนกัดบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-09-2017 เมื่อ 20:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #112  
เก่า 19-09-2017, 20:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โยมแต่ละคนที่หายามาให้มักจะมั่นใจว่ายาที่ตัวเองนำมาดีเลิศประเสริฐศรี กินลงไปต้องหายแน่ อาตมาฉันให้มา ๓๐ กว่าปีแล้ว ไม่เคยหายสักโรค ถามว่าฉันทำไม ? ฉันเพราะไม่ให้เขาพูดว่าที่ไม่หายเพราะไม่กินยาของเขา

เราต้องเข้าใจว่าเรื่องของโรคว่าเกิดจากกฎของกรรม โรคบางอย่างรักษาหรือไม่รักษาก็หาย เพราะพ้นวาระกรรม โรคบางอย่างต้องรักษาจึงจะหาย ไม่รักษาก็ตาย ส่วนโรคบางอย่างกรรมหนักมาก รักษาหรือไม่รักษาก็ตาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #113  
เก่า 19-09-2017, 20:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กระเพาะปัสสาวะเป็นแผลครับ ?
ตอบ : ลองไปทำยาขมิ้นชันกับหญ้าแพรกของหลวงพ่อฤๅษีกิน ช่วยได้เยอะ ไปเปิดหาดูตำราหลวงพ่อวัดท่าซุง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-09-2017 เมื่อ 21:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #114  
เก่า 19-09-2017, 20:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรณีปฏิบัติ เราไม่รู้หรอกว่าเราขั้นไหน เราทำไปเรื่อย กับรู้ว่าเราขั้นไหนแล้ว ควรจะหาทางปฏิบัติอย่างไร ?
ตอบ : วิ่งเข้าหาอารมณ์พระโสดาบัน รักษากรรมบถ ๑๐ ให้ได้...แค่นั้นก็พอ พวกเราเรียกว่าประเภทตีอวนจะเอาปลาทั้งทะเล เล็งหาปลาดี ๆ ตัวเดียวก็พอแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2017 เมื่อ 03:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #115  
เก่า 19-09-2017, 21:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "น้ำผึ้งฝรั่งกับน้ำผึ้งไทย อย่างไหนคุณภาพดีกว่ากัน ? ถ้าถือตามหลักแพทย์แผนจีนก็ต้องว่าของไทยดีกว่า เพราะว่าตำราแพทย์จีนให้เสาะหาอาหารและสมุนไพรใน ๓๐ ลี้รอบภูมิลำเนา ธาตุคนจะเหมาะกับสารอาหารในบริเวณนั้น ๑๕ กิโลเมตร อาตมาแปลงแล้วนะ แปลงมาจาก ๓๐ ลี้ของจีน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2017 เมื่อ 03:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #116  
เก่า 19-09-2017, 21:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ให้วิ่งเข้าหาพระโสดาบัน ถ้าหนูปฏิบัติได้ หนูมีโอกาสที่จะ...?
ตอบ : เรามีหน้าที่ทำ ส่วนจะทำได้แค่ไหนอยู่ที่ความสามารถตัวเอง ไม่ใช่ไปถามคนอื่นว่าจะทำได้แค่ไหน ตัวเองกินข้าวแล้วไปถามคนอื่นจะกินได้แค่ไหน แค่คิดก็บ้าแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2017 เมื่อ 03:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #117  
เก่า 21-09-2017, 17:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ครั้งก่อนที่ผมมาถามว่าฝึกสมาธิได้ฌานแล้ว จะมาฝึกมโนมยิทธิ แล้วหลวงพ่อบอกว่าเลยไปแล้ว หมายความว่าอย่างไรครับ ?
ตอบ : สมาธิของเราสูงเกินไป มโนมยิทธิเป็นกำลังแค่อุปจารสมาธิ คราวนี้ตัวสมาธิของเราที่จะใช้เป็นทิพจักขุญาณ ถ้าไม่ขึ้นสูงสุดเลยก็ต้องต่ำสุด ไม่อย่างนั้นจะไม่เห็นอะไร ของเราเหมือนกับอยู่กลางบันได ห้องบนก็ยังไม่ถึง ห้องล่างก็เลยมาแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2017 เมื่อ 17:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #118  
เก่า 21-09-2017, 17:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไม่ทราบว่าฌาน ๔ ฌาน ๕ และอรูปฌาน ต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : ในส่วนของฌาน ๔ กับฌาน ๕ จริง ๆ เป็นอย่างเดียวกัน เพียงแต่ว่าบุคคลที่มีจิตละเอียดมากในลักษณะที่ต้องไปเป็นพระโพธิสัตว์สอนคนอื่นเขา จะเอาเอกัคตารมณ์คืออารมณ์ใจที่ตั้งมั่น แยกออกจากอุเบกขาได้ ก็เลยเป็น ๔ กับ ๕ แต่จริง ๆ เป็นอย่างเดียวกัน

ถาม : ฌาน ๕ ก็คือเหลืออุเบกขาอย่างเดียว ?
ตอบ : ใช่...เหลืออุเบกขาอย่างเดียว ส่วนอากาสานัญจายตนะคือเข้าไปจับความว่างของอากาศแทน

ถาม : ถ้าจะฝึกอรูปฌานล่ะครับ ?
ตอบ : จะฝึกอรูปฌานต้องได้กสิณกองใดกองหนึ่ง ที่ไม่ใช่อากาสกสิณและอาโลกกสิณ เพราะว่า ๒ ข้อนี้ใกล้เคียงกับอรูปฌาน บางทีเราจะแยกไม่ออก

ถาม : แต่ถ้าเราได้อานาปานสติแล้วสามารถทำอรูปเลยได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ได้...ต้องมีรูปกสิณเป็นเครื่องกำหนด หลังจากที่กำหนดรูปจนกระทั่งคล่องตัวแล้ว เราค่อยตัดรูปทิ้งฝึกจนเป็นอรูปฌาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2017 เมื่อ 17:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #119  
เก่า 21-09-2017, 17:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การพิจารณาในฌานคืออะไรครับ ?
ตอบ : จริง ๆ ก็คือการที่เราซ้อมเข้าออกจนกระทั่งชิน พอซ้อมจนกระทั่งชินแล้ว ก็สามารถที่จะคิดได้ทั้ง ๆ ที่เราทรงฌานอยู่ ถ้าหากว่าคนปกติจะคิดไม่ได้ จะนิ่งไปเฉย ๆ อย่างเดียว

ถาม : แล้วผมเข้าไปนิ่งอย่างเดียวนี่เกิดจากอะไรครับ ?
ตอบ : ก็เพราะว่าสภาพจิตของเราแน่นจนเกินไป ต้องซ้อมเข้าออกจนกระทั่งชินแล้ว ถึงจะสามารถขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปคิดอย่างอื่นได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2017 เมื่อ 17:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #120  
เก่า 21-09-2017, 18:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อยากจะขอวิชากุมารทองของหลวงพ่อกวยครับ ?
ตอบ : ต้องไปขอหลวงพ่อกวย มาขออะไรตรงนี้ ?

ถาม : ขอวิชาครับ ?
ตอบ : มีแต่ของ ไม่ได้มีวิชา

ถาม : วิชาจะทำแล้วได้ผลต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : จะวิชาอะไรก็แล้วแต่ อย่างน้อยต้องฌาน ๔ คล่องตัวขึ้นไป ไม่อย่างนั้นก็ใช้ไม่ได้ผล ไปทำฌานสมาบัติให้ได้เสียก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2017 เมื่อ 19:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 154 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว