กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-06-2009, 15:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,657 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default รู้จักสังเกตและเอามาใช้

ถาม : ทำไมเวลาที่เรานั่งปฏิบัติของเราเอง กับเวลานั่งฟังอาจารย์ท่านสอน จึงมีความต่างกัน เวลาฟังอาจารย์แล้วเหมือนตัวเองจะก้าวหน้า แต่เวลาทำเองกลับไม่ใช่ ?

ตอบ : ต้องสังเกตดี ๆ เวลาที่เรานั่งฝึกปฏิบัติกับตอนที่เราฟังนั้น สมาธิเราปักมั่นต่างกันอย่างไร ตอนที่เราฟังนี่เราเงี่ยหูฟัง ถ้าหากว่าบางท่านพูดเสียงเบาเราก็กลัวไม่ได้ยิน อันนั้นก็คือสมาธิ เราจะจดจ่อปักมั่นอยู่ตรงหน้า ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้น ถึงเวลาเราก็เอามาใช้ในลักษณะเดียวกัน ก็คือว่าทำอย่างไรตอนนั่งภาวนา ให้สมาธิเราปักมั่นอยู่ตรงหน้า เหมือนกับตอนที่เราตั้งใจฟัง ตรงนี้คือสิ่งที่เราต้องรู้จักสังเกตและเอามาแยกแยะ

อย่างเวลาออกบิณฑบาต ระยะนี้ฝนตก มีบ้านโยมบางหลังบันไดชันมาก ๆ แล้วก็แคบด้วย จะขึ้นจะลงต้องระวังจนตัวลีบ ไม่เช่นนั้นมีหวังหัวทิ่มลงมา ผมบอกกับพระให้สังเกตอารมณ์ใจตนเองว่า ตอนที่เดินตามถนนธรรมดากับตอนที่เดินขึ้นบันได ช่วงที่คุณขึ้นลง สติ สมาธิและปัญญาของคุณอยู่ตรงไหน สติคุณต้องรู้ระมัดระวัง..ใช่ไหม ? ไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวจะลื่น เดี๋ยวจะล้ม ขณะเดียวกันสมาธิต้องปักมั่นอยู่ตรงหน้า มีการระมัดระวัง ปัญญาก็ต้องเกิด เราจะเหยียบตรงไหน เราจะเหยียบแง่ไหนถึงจะไม่ลื่นไม่ล้ม ถ้าหากว่าสามารถรักษากำลังใจแบบเดียวกับตอนขึ้นบันได คุณจะทำท่าไหนก็รักษาสมาธิอยู่กับตัวเองได้

เพราะฉะนั้น..เรื่องอย่างนี้ต้องบอกให้เขารู้จักสังเกต ถ้าเราไม่ได้ผ่านมาเอง จะบอกเขาไม่ถูก ถ้าเรารู้จักสังเกตและหยิบเอาส่วนที่มีประโยชน์ไปใช้ เราก็จะก้าวหน้าได้เร็ว ถ้าไม่รู้จักสังเกตก็ไปได้ยาก เรื่องของการปฏิบัติ ยิ่งทำก็ยิ่งละเอียดขึ้นไปเรื่อย ๆ แม้กระทั่งเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ปล่อยผ่านไม่ได้ เพราะว่าอาจจะทำให้เราก้าวหน้าและก็อาจจะทำให้เราถอยหลังได้

ในส่วนของรายละเอียดที่ผิดพลาด ถ้าหากเราเผลอไปทำเข้า ก็ถอยหลัง แต่ถ้าในรายละเอียดที่ถูกต้อง ถ้าเราปฏิบัติเข้าก็จะก้าวหน้า เพราะฉะนั้น..ยิ่งทำไปยิ่งต้องช่างสังเกต หาเหตุให้เจอ ถ้าเป็นเหตุที่ดีก็ให้ทำเหตุนั้นขึ้นมา ผลดีก็จะเกิด ถ้าเป็นเหตุที่ไม่ดีก็เลิกทำ ผลร้ายก็จะไม่เกิด

ช่วงเดินไปกับช่วงที่เดินลงบันได เราเคยสังเกตไหมว่าต่างกันอย่างไร ? ถ้าสังเกตจะเห็นว่าต่างกัน บนพื้นตรงนี้เราเดินสบาย เรารู้ว่าไม่มีอะไรสะดุด ไม่มีอะไรให้ล้ม แต่ตอนเดินลงบันไดต้องระวัง สติก็จะไปจดจ่ออยู่ตรงหน้า ถ้ายิ่งตอนมืด ๆ นี่ สายตาจะต้องตามไปด้วยว่าจะตกบันไดหรือเปล่า ? ถ้าเรารู้จักสังเกตตรงนั้น แล้วหยิบออกมาใช้ในสภาพปกติ เราก็จะเห็นว่า สติ สมาธิ ปัญญา นั้น สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้ในทุกสถานการณ์


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก ณ บ้านอนุสาวรีย์
๖ มิถุนายน ๒๕๕๒
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2016 เมื่อ 20:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 143 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 16:03



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว