กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 22-03-2012, 16:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เซ้งตึกไว้ที่หนึ่ง มีเจ้าที่เป็นศาลตี่จู้เอี้ยของเจ้าของเดิม ถ้าจะถอนต้องทำอย่างไร ?
ตอบ : ถ้าเป็นตี่จู้เอี้ยเราก็บูชาต่อได้เลยจ้ะ ไม่เป็นไร

ถาม : แต่ศาลเก่ามากแล้วค่ะ
ตอบ : ถ้าเก่ามาก เราจุดธูปบอกท่านแล้วขอเปลี่ยนของใหม่ให้ท่านไป ของเก่าเราก็เอาไปลอยน้ำหรือไปไว้โคนไม้ใหญ่

ถาม : ต้องบวงสรวงไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ต้อง เพราะว่าตี่จู้เอี้ยพิธีท่านไม่มากหรอก ประเภทถวายน้ำชา ๔ เหล้า ๔ โหงวก้วย ซาแซเท่านั้นเอง ทำแบบจีนไปเลย

ถาม : วันศุกร์ที่ ๒ เป็นวันฤกษ์พรหมประสิทธิ์ เตรียมงานไม่ทันค่ะ
ตอบ : นิมนต์พระเข้าไปวันนั้น ส่วนวันอื่นก็ช่าง วันที่นิมนต์พระท่านเข้าไปถือว่าเป็นการขึ้นบ้านใหม่ วันไหนฤกษ์ดีเรานิมนต์พระเข้าวันนั้นแหละ เพราะอย่างไรเสียหิ้งพระตั้งทันอยู่แล้ว ส่วนงานอื่นเราก็ทำของเราไปก่อน สะดวกเมื่อไรค่อยจัดทำบุญบ้านอย่างเป็นทางการอีกที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 16:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 22-03-2012, 16:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตี่จู้เอี้ยเป็นภูมิเทวดาไม่ใช่หรือครับ?
ตอบ : เขาก็บอกชัด ๆ ว่าภูมิเทวดา แต่ธรรมเนียมจีนเขาตั้งบนพื้น คำว่า "ตี่จู้" คือ เจ้าของที่ดิน เขาก็เลยให้วางแปะติดดิน ส่วนธรรมเนียมของเรานิยมตั้งเสมอดวงตา ก็เลยกลายเป็นศาลเพียงตา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2012 เมื่อ 16:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 22-03-2012, 16:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ณญาดา แปลว่าไม่มีญาติ แปลว่า ไม่ ญาดาหรือญาตะ ก็คือญาติ ฉะนั้น..ณญาดาแปลว่าคนไร้ญาติ ณเดช แปลว่าไม่มีอำนาจ ณพล แปลว่าไม่มีกำลัง คนไหนชื่อขึ้นด้วย หรือ นิ ให้รีบเปลี่ยน อย่างนิโรจน์ แปลว่าไม่รุ่งเรือง

มี นิ คำที่ถูกก็คือ นิรัช แปลว่า ไร้ธุลี ก็คือสะอาด ผ่องใส เพราะฉะนั้น..ตั้งชื่ออย่าไปตั้งส่งเดช ชื่อไพเราะ แต่พอแปลออกมาคนไร้ญาติ แสดงว่าชื่อเล่นไม่ได้ชื่อยุ้ย ถ้าชื่อยุ้ยต้องญาติเยอะ..!

ภาษาบาลี วรรค ตะกับ วรรค ฏะ ใช้แทนกันได้ ต ถ ท ธ น แล้วก็ ฏ ฐ ธ ฒ ณ ฉะนั้น..บาลีจะมีคำหนึ่งคือ นัตถิ แปลว่า ไม่มี ฉิบหาย หมดสิ้นแล้ว พอมาแปลงข้ามวรรคอีกทีเป็น ณัฏฐิ แต่ถ้าเราเขียนเป็น ณัฐ ก็แปลว่านักปราชญ์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 22-03-2012 เมื่อ 17:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 23-03-2012, 08:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครได้อ่านข่าวขอทานทำบุญเป็นล้านบ้างไหม ? เขาทำบุญ ๙๙๙,๙๙๙ บาท เป็นขอทานที่วัดไร่ขิง ทำบุญร่วมบูรณะฐานชุกชีโบสถ์หลวงพ่อวัดไร่ขิง ขาดไป ๑ บาทก็ครบหนึ่งล้าน ความจริงเขามีเงินเกินกว่านั้นแต่เขาให้แค่นั้น ทำเลข ๙ หกตัวเรียงเป็นตับ ท่านเจ้าคุณพระราชวิริยาลังการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงติดป้ายยกย่องให้เลย

คนแถวนั้นเขาเคารพและรักหลวงพ่อวัดไร่ขิงมาก ถึงขนาดอาตมาเรียนปริญญาตรีอยู่ ๒ ปีกว่า ไปฉันข้าวร้านไหน ๆ ก็ไม่เก็บเงิน เขาบอกว่าอยู่ได้เพราะหลวงพ่อวัดไร่ขิง เพราะฉะนั้น..ขอเขาเลี้ยงพระเถอะ จนสุดท้ายไปเป็นลูกค้าร้านประจำร้านหนึ่ง เพราะว่าตกลงกันไว้ว่ามาฉันอาหารเขาจะเก็บมื้อละ ๑๐ บาท ไม่อย่างนั้นอาตมาก็ไม่เข้าร้าน มีปัญญาฉันเท่าไรฉันไป เขาเก็บแค่ ๑๐ บาท แต่ร้านอื่นไม่เก็บอาตมาเลยไม่เข้า"

ถาม : แล้วขอทานคนนั้นจะได้บุญกุศลไหมครับ ?
ตอบ : เขาตั้งใจทำบุญเขาต้องได้แน่ เขาถือว่าได้เงินเพราะอาศัยบารมีหลวงพ่อวัดไร่ขิง เวลานั่งขอทาน คนเข้าคนออกวันหนึ่งเป็นหมื่น ได้คนละบาทก็เหลือเฟือแล้ว ฉะนั้น..จะไปดูถูกขอทานไม่ได้นะ เคยมีการ์ตูนของอาวัฒน์เขียนภาพว่า มีผู้จัดการธนาคารขับรถมา จอดรถแล้วลงไปพินอบพิเทากับขอทาน “ท่านครับ..ท่านจะเบิกเท่าไหร่ครับ ?" ขอทานมีเงินเยอะขนาดนั้น ผู้จัดการต้องไปหาด้วยตัวเองเลย "กรุณาฝากกับสาขาของผมต่อไปก่อนนะครับ อย่าเพิ่งเบิกเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2012 เมื่อ 09:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 23-03-2012, 08:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างชูชกมีเทคนิคในการขอทาน ยกยอปอปั้นจนคนต้องให้ เหมือนกับเรื่องที่ชายหนุ่มยอคนหัวล้านจนได้วัวไป ชายหัวล้านกำลังจูงวัวจะไปขาย ชายหนุ่มคนนี้ผ่านมาถึงก็บอกว่า “พ่อผมดกปรกไหล่ พ่อจะจูงวัวไปไหน ?” ชายหัวล้านก็ว่า “พ่อตั้งใจจะเอาวัวไปขาย แต่เห็นเจ้าน่ารักพ่อก็เลยยกให้” ชายหนุ่มได้วัวไปแบบง่าย ๆ

พอจูงวัวเดินไปเจอเพื่อน เพื่อนถามว่าได้วัวมาจากไหน ? ชายหนุ่มบอกว่า “ไอ้หัวล้านให้มา” เพื่อนปากหมาก็วิ่งไปบอกชายหัวล้าน ชายหัวล้านโมโหถือปฏักไล่ตามมาจะฟาดกบาล ชายหนุ่มหันมาเจอ รู้ทางก็ตะโกนทักแต่ไกลเลย “พ่อผมดกปรกไหล่ พ่อถือปฏัก วิ่งทะเลิ่กทะลั่กไปทำอะไร ?” ชายหัวล้านได้ยินหายโกรธเลย พูดว่า “ลูกเอ๋ยลูกรัก เห็นเจ้าลืมปฏัก พ่อเลยเอามาให้” เสร็จอีกจนได้ ถ้าขืนไปบ่อย ๆ มีหวังหมดตัวแน่นอน

อย่างที่โบราณบอก “ปากเป็นเอกเลขเป็นโทโบราณว่า หนังสือตรีมีปัญญาไม่เสียหลาย” แบบเดียวกับซูฉิน ซูฉินเกิดในสมัยรัฐสงคราม (จ้านกว๋อ) ยุคนั้นรบกันแหลก ซูฉินจบมาจากหุบเขาปีศาจ ถือว่าเป็นสุดยอดของสถาบันวิชาการสมัยนั้น จบออกมาก็อาสาเป็นนักการทูต แต่ดันไปพูดผิดหู เพราะดันไปแนะนำเขาให้สงบศึก ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกัน

อีกฝ่ายเขาต้องการรบ จึงสั่งจับเฆี่ยนซูฉินจนปางตาย หอบหิ้วสังขารกลับบ้านไป ฝ่ายภรรยาก็ใส่ยาไปร้องห่มร้องไห้ไป บอกกับซูฉินว่า “พี่เลิกเถอะ..อาชีพนักการทูต ไม่รุ่งหรอก เดี๋ยวโดนตีตาย” ซูฉินแลบลิ้นให้ดูแล้วถามว่า “ลิ้นของพี่ยังปกติอยู่หรือเปล่า ?” เมียก็บอกว่าปกตินะสิ ไม่ได้โดนอะไร

ซูฉินบอกว่า “ถ้าลิ้นยังอยู่ไม่ต้องกลัวหรอก พี่เอาดีจนได้แหละ” เขามั่นใจตัวเองขนาดนั้น แล้วในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ เพราะว่าเขาใช้กลวิธี “ร่วมประสานแนวดิ่ง” คือให้รัฐที่อยู่ทางด้านทางตรงประสานจับมือหมด เพื่อโดดเดี่ยวรัฐฉินของฉินซีฮ่องเต้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 24-03-2012 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 23-03-2012, 08:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "คุณโอรสเบิกเงินมาถวาย เงินจากการให้บูชาพระปิดตามหาเศรษฐีชุดกรรมการ ๑๙๙ ชุด เป็นเงิน ๑,๖๕๕,๘๐๐ บาท และญาติโยมที่ร่วมบุญตามกำลังศรัทธา ๑๐๔,๒๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๑,๗๖๐,๐๐๐ บาท เกือบพอแล้วเพราะว่าต้องการแค่ ๗,๒๐๐,๐๐๐ บาทเท่านั้น ..(หัวเราะ).. ต้องการเจ็ดล้าน ได้มาล้านเจ็ดถือว่าได้ตามเป้าแล้ว

ท่านใดที่จองพระปิดตาชุดกรรมการหรือจองพระนาคปรกไว้รีบมารับนะจ๊ะ ขืนช้าเดี๋ยวโดนยึดเป็นของกลางหมด จ่ายเงินแล้วไม่มาเอาสักที เจ้าหน้าที่ก็มารอแล้วรออีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2012 เมื่อ 09:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 23-03-2012, 13:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้กำลังวางแผนที่เป็นไปไม่ได้ ก็คือพออายุ ๖๐ ปีแล้วอาตมาจะเกษียณ พระที่วัดพอเวลาอาตมาพูดถึงตำแหน่งเจ้าอาวาสนี่ ยอมให้อาจารย์ไล่ออกจากวัดเลย ไม่ยอมเป็นเจ้าอาวาสกันเด็ดขาด..!"

ถาม : ต้องไปนมัสการหลวงปู่ปานให้ลงมา?
ตอบ : ไม่ทันแล้ว ช่วงจังหวะนี้เป็นจังหวะที่ดีที่สุดแล้ว เพราะว่าอาตมาทันเห็นของโบราณและทันเห็นของทันสมัย ยืนอยู่ตรงกลางพอดี คนมาใหม่ก็เห็นแต่ของทันสมัย ไม่รู้อะไรที่เป็นโบราณเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2012 เมื่อ 14:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 23-03-2012, 13:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : งานพุทธาภิเษกที่วัดเนินสุทธาวาสบรรยากาศเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : อาตมาแอบดูครูบาอาจารย์ทุกท่าน ส่วนใหญ่ร้อยละ ๙๙ ใช้กำลังของตัวเองทั้งนั้น แต่ว่าดูถูกไม่ได้เลยนะ บางท่านกำลังใจพุ่งเป็นเข็มเลย บางท่านไปเป็นลำอย่างกับไฟฉายแรงสูง ถือว่ากำลังสูงมากเลย แต่ประเภทที่จะครอบคลุมทีเดียวหมดแบบกำลังของพระพุทธเจ้านั้นไม่มี

ถาม : แล้วท่านละครับ ?
ตอบ : อ๋อ..นั่งดูพระท่านอย่างเดียว พอท่านบอกว่าพอแล้วก็ลืมตาได้

ถาม : ท่านเก่งกันขนาดนี้แล้ว ทำไมท่านอื่น ๆ ไม่ใช้วิธีอาราธนาบารมีพระบ้าง ?
ตอบ : ท่านไม่รู้วิธี

ถาม : จริงหรือครับ ?
ตอบ : จริง ๆ ตามสายครูบาอาจารย์ของท่านไม่ได้สอนมาอย่างนี้ ถึงได้บอกว่าพวกเรานี่โชคดีสุด ๆ เลย ครูบาอาจารย์ของพวกเรารู้จักพระพุทธเจ้า ก็เลยสอนลูก ๆ ให้รู้จัก แล้วก็ขอบารมีท่านสงเคราะห์ได้ เหมือนอย่างกับเด็กมีเส้น ส่วนท่านอื่นไม่มีเส้น ท่านไม่รู้จัก ก็ต้องปล่อยไปเรื่อย ท่านก็คงไปสอนลูกศิษย์หลานศิษย์ต่อ ๆ กันไปแบบเดิม

ถาม : เหมือนอย่างกับลูกคนรวยแล้วไม่ยอมทำมาหากินเองเลยครับ ?
ตอบ : แบบนั้นเลย..แต่ของเราต้องไม่ประมาทนะ เรารวยก็จริง แต่ถ้ารวยแล้วประมาทก็ไม่เกิน ๓ รุ่น..เจ๊งแน่นอน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2012 เมื่อ 14:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 23-03-2012, 13:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แต่ความจริงการขอบารมีพระ ตั้งแต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสอนมา ท่านก็ไม่ได้ปกปิดเป็นความลับอะไรเลยนี่ครับ ?
ตอบ : คนอาจจะรู้วิธีมากขึ้น แต่คนที่รู้วิธีแล้วขอได้ถูกต้องกลับมีน้อยลง

ถาม : ยากหรือครับ ?
ตอบ : เหมือนกับคุณไปขอในหลวงให้เสด็จฯ

ถาม : อ๋อ..รู้ว่าขอได้ แต่จะขออย่างไร ?
ตอบ : จะขออย่างไรให้ท่านเสด็จฯ แบบเดียวกับสมัยอาตมาอยู่วัดท่าซุง ไปขอหลวงพ่อออกธุดงค์ ขอทีไรได้ทุกที คนอื่นไปขอนี่หัวหดกลับมา ไม่ได้สักคน ขึ้นอยู่กับการใช้คำพูดนิดเดียว

อาตมามอบความไว้วางใจว่า ไม่ว่าจะไปทำอะไรที่ไหน พระเดชพระคุณหลวงพ่อรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเข้าไปถึงส่งใบลาก็ “หลวงพ่อครับ..ผมขออนุญาตไปกาญจนบุรี ๑๐ วันครับ” ท่านก็ “เออ..ไปเถอะ” บางทีก็ “หลวงพ่อครับ..ผมขออนุญาตไปอุทัยธานี ๑๕ วันครับ” ท่านก็ “เออ..ไปเถอะ” ก็แค่นั้น

คนอื่นเข้าถึงส่งใบลาแล้วบอกว่า “หลวงพ่อครับ..ขออนุญาตไปธุดงค์ ๑๕ วันครับ” หลวงพ่อท่านก็พูดเสียงเข้มว่า “แกแน่ใจแล้วนะ ?” เรียบร้อย..หงายท้องตึงกลับมา คนหนึ่งขอไปธุดงค์ คนหนึ่งขอไปเฉย ๆ แต่หอบอะไรต่อมิอะไรออกไปธุดงค์ จนกระทั่งเป็นที่อิจฉามารศรีของพระพี่พระน้อง ว่าทำไมอาตมาขอทีไรได้ทุกที อยู่ที่ใช้คำพูดนิดเดียว แล้วท่านก็รู้ กลับมาท่านก็ถามทุกทีแหละ “แกไปตรงนั้นตรงนี้มาใช่ไหม ?” ไม่ต้องไปเถียงเลย ถูกต้องทุกครั้ง

ถาม : แล้วตอนนี้ถ้าพระที่วัดท่าขนุนไปธุดงค์ ท่านจะรู้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่อยากรู้หรอก แต่เขาพยายามจะให้รู้ เตือนเขาอย่างหนึ่งว่า “ที่ต้องไปแล้วบอกครูบาอาจารย์เพราะว่าบางสถานที่ พวกคุณจะเอาตัวไม่รอด ครูบาอาจารย์ส่งใจไปล่วงหน้า อุทิศส่วนกุศลให้เขาแถวนั้นซะจนทั่วแล้ว ฝากท่านว่าถ้าลูกศิษย์ผมมาช่วยดูแลให้ด้วย คุณไปถึงก็นอนตีพุงสบายใจเฉิบ ลำพังคุณไปเองอาจจะโดนตื้บกลับมา..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-03-2012 เมื่อ 22:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 24-03-2012, 09:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : โยมนำสร้อยพระไปวางแล้วคนอื่นเดินข้าม เกิดไม่มั่นใจขอหลวงพ่อเสกให้หน่อยเจ้าค่ะ
ตอบ : จำเอาไว้นะ..มีคนไปถามหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ “หลวงพ่อครับ แขวนพระหลวงพ่อแล้วลอดใต้ถุนบ้านได้ไหม ?" “หลวงพ่อครับ แขวนพระหลวงพ่อแล้วลอดราวผ้าได้ไหม ?” หลวงพ่อเดิมบอกว่า “งูเห่าเลื้อยลอดใต้ถุนบ้าน เลื้อยลอดราวผ้ามากัดเอ็ง เอ็งตายห่..ไหม ?” ตายสิครับ..หลวงพ่อเดิมบอกว่า “เออ..พระที่ข้าเสกก็เหมือนกันนั่นแหละ ลอดไปเถอะ ถ้าไม่ได้เจตนาจะลอดให้เสื่อมก็ไม่เป็นไร”

(ท่านอธิษฐานให้) เอ้า...เอาไป แสดงว่ากำลังใจยังไม่พอ แค่นี้เราก็ฝ่อแล้ว พระที่เสกด้วยพุทธานุภาพ อยู่ที่ต่ำอย่างไรก็ไม่เสื่อม แต่อย่าไปตั้งใจทำ อย่างเช่นตั้งใจเดินข้าม ตั้งใจลอดใต้ถุนบ้าน ตั้งใจลอดราวผ้าเพื่อให้เสื่อม ถ้าอย่างนั้นจะเสื่อมจริง ๆ แต่เสื่อมแล้วคนทำลงนรก เพราะข้อหาปรามาสพระรัตนตรัยด้วย ถ้าไม่ได้เจตนาก็มุดไปเถอะ ตรงไหนก็ไปได้

ต้องบอกว่าใจเสื่อมจากคุณพระ ตั้งใจทำให้เสื่อมแปลว่าไม่เคารพแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็เสื่อมจริง ๆ แต่ตัวเองลงอเวจีไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2012 เมื่อ 11:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 24-03-2012, 09:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : งานพุทธาภิเษกวัดเขาวงเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : พี่ ๆ ทุกท่านมอบความไว้วางใจให้ นั่งรอเลยว่าอาตมาจะบอกว่าเต็มเมื่อไร

ถาม : พอท่านลืมตาปุ๊บ หลวงพ่อมนัสก็ลืมตาปั๊บ
ตอบ : พวกท่านที่รู้นะรู้เท่ากัน แต่ท่านที่ไม่รู้ก็รอจังหวะว่าอาตมาจะให้สัญญาณเมื่อไร

ถาม : ทำไมหลวงตาท่านไม่ใช้ฤกษ์เสาร์ ๕ ครับ ?
ตอบ : ฤกษ์เสาร์ ๕ รวมลูกศิษย์สายหลวงพ่อไม่ได้นะสิ ต่างคนต่างจัดงานไหว้ครู

ถาม : แล้วอย่างนี้วัตถุมงคลพุทธานุภาพเท่ากันไหมครับ ?
ตอบ : อยู่ที่พระท่านจะมาสงเคราะห์ไหม ? ถ้าพระท่านมาสงเคราะห์ก็เหมือนกันนั่นแหละ

ถาม : ลูกแก้วที่เข้าพิธีที่วัดเขาวงนั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : รีบไปหาไว้ อาตมานี่นาน ๆ จะโดนประเภทยาวไม่เลิกสักที เพราะว่าเสกแก้วเป็นพระจะเสกยาก ถ้าหากว่าปกติไม่ได้มีแก้วจักรพรรดิเป็นองค์ประธานอยู่ด้วยไม่หนี ๒ ชั่วโมง นั่นยังดีประมาณ ๔๐ - ๔๕ นาที

ถาม : อย่างนี้ใครพกลูกแก้วไปในบริเวณงานก็ได้ด้วย ?
ตอบ : อยู่ที่คุณตั้งใจหรือเปล่า ? แต่วันนั้นอาตมาตั้งใจขอให้หมดเลย แม้กระทั่งที่อยู่ที่บ้านก็ให้ ถ้าเขาตั้งใจรับ

ถาม : ขอตอนนี้ยังทันไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ทันแล้ว โดยเฉพาะว่าขออนุญาตท่านปู่ท่านย่า ขอบารมีองค์แก้วจักรพรรดิช่วยสงเคราะห์พวกเราให้มีความสะดวกคล่องตัว เพราะว่าสถานการณ์ประเทศชาติดียาก คนเราไม่อยากให้ดีว่าอย่างนั้น มีแต่คนเอาเท้าราน้ำ

ถาม : กำลังใจที่พวกเราตั้งใจทำสมาธิละครับ ?
ตอบ : ช่วยได้เฉพาะพวกเรา เหมือนอย่างกับน้ำถังหนึ่งเทลงในทะเล ก็หายเค็มแค่จุดนั้นหน่อยหนึ่ง ที่อื่นก็ยังเค็มปี๋เหมือนเดิม ตรงนี้ทำให้ไปนึกถึงหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ ญาติโยมไปเล่าให้ท่านฟังเรื่องหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด หลวงพ่อแดงวัดเขาบันไดอิฐบอกว่า ข้าเหยียบน้ำจืดเป็นน้ำทะเลได้ ลูกศิษย์ก็ตาลุก บอกว่า “หลวงพ่อทำได้จริงหรือครับ ?” ท่านบอกว่า “จริงสิวะ...แค่เอาตีนแหย่ลงท่าน้ำตรงนี้ เดี๋ยวพอไหลถึงปากอ่าวก็เค็มแล้ว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-03-2012 เมื่อ 12:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 24-03-2012, 09:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะขอสร้างวัตถุมงคลถวายท่านได้ไหมคะ?
ตอบ : ไม่ต้อง..ไม่เอา อะไรที่พระไม่ได้สั่ง..ไม่ทำ ทำแล้วเหนื่อย ไม่เห็นหรือว่าอะไรที่ท่านสั่งเป็นเงินเป็นทองทั้งนั้น เรื่องวัตถุมงคลไม่ต้องเจตนาดีมาทำให้เลย ถ้าทำก็ไปแจกกันเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2012 เมื่อ 11:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #133  
เก่า 24-03-2012, 10:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เป็นมะเร็งปากมดลูก ?
ตอบ : จริง ๆ พวกนั่งกรรมฐานถ้าใจสบายจะหายเลย พวกโรคภัยที่เกี่ยวกับระบบอวัยวะสืบพันธุ์เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเพราะความเครียด ถ้าหายเครียดโรคจะหายเลย ต่อให้เป็นมะเร็งอย่างมะเร็งปากมดลูก มะเร็งท่อรังไข่ มะเร็งเต้านมพวกนี้ก็เหมือนกัน ถ้าหายเครียดก็จะหายเลย เพราะฉะนั้น..มีโอกาสเข้าวัดเข้าวาทำสมาธิบ้าง

ถาม : แล้วเราอุทิศส่วนกุศล ?
ตอบ : อุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของเรา ให้เขาโมทนาและอโหสิกรรมให้ด้วย ขอให้เราหายจากโรคภัยนี้ไว ๆ

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ใช้คุณพระรัตนตรัยก็ได้จ้ะ อิติปิโสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ เพียงแต่ว่าทำด้วยความเคารพ ยึดท่านเป็นที่พึ่ง อยู่กับลมหายใจเข้าออกจริง ๆ พอหายเครียดก็หายป่วย ขนาดบางคนหมอบอกว่าอยู่ได้อีก ๖ เดือน เป็นจนกระทั่งขึ้นตามแขนตามขาเป็นตุ่มหมดแล้ว เขาตั้งใจจะไปตายอยู่ที่วัดก็ยังหายเลย เขาไม่ได้เจตนาให้หายหรอก เขาคิดว่าไม่รอดแล้วก็เอาแค่นั้น แต่ปรากฏว่าเพราะว่าไม่เครียดก็เลยหาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2012 เมื่อ 11:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #134  
เก่า 24-03-2012, 10:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าเรื่องอภิญญาให้ฟังว่า "ตาอินเทวดาไปยืมเงินคนนั้นคนนี้มากินเหล้า ยืมแล้วก็ไม่ใช้คืนสักที เจ้าหนี้เจอหน้าก็เข้ามากระชากแขนตาอิน ปรากฏว่าแขนตาอินหลุดติดมือ เจ้าหนี้ก็ตกใจวิ่งหนี ทิ้งแขนตาอินไว้ คนอื่นเห็นตาอินเดินไปเก็บแขน ซึ่งกลายเป็นผ้าขาวม้าพาดบ่า เดินหัวเราะหึ ๆ ไป

เรื่องตาอินเทวดามีวีรกรรมเยอะ เห็นชัด ๆ เลยว่าเป็นอภิญญาโลกีย์ เพราะว่าแกกินเหล้าเป็นปกติ แบบเดียวอาจารย์ศุข ถึงเวลาก็ไปซื้อเหล้ากิน สั่งเจ๊กซื้อเหล้าชามหนึ่ง นั่งกินกับเพื่อนอยู่ครึ่งค่อนคืน กินจนเมาหัวทิ่มบ่อแล้วก็กลับ เจ๊กก็สงสัยว่าตาอินกินได้อย่างไร เหล้าชามเดียวกินได้ครึ่งค่อนคืน พอไปดูที่ไหนได้ เหล้าในร้านหมดไปเป็นไหเลย..!"

ถาม : แล้วเขาใช้อภิญญาได้อย่างไรในเมื่อศีลไม่ครบ ?
ตอบ : ตอนแกใช้อภิญญาศีลครบ ตอนที่แกกินเหล้าแกไม่ได้ใช้ วันดีคืนดีก็บอกชาวบ้านว่า “อยากเห็นเทวดาไหม ?” ชาวบ้านก็บอกอยากเห็น แกก็ให้เอาผ้ามาคนละผืน "เดี๋ยวข้าต่อผ้าแล้วจะขึ้นไปเรียกเทวดามาให้ดู" ชาวบ้านก็เอาผ้ามาคนละผืน ผ้าขาวม้าบ้าง ผ้าดิบบ้าง มัดต่อ ๆ กัน

ตาอินแกมัดแล้วตัวแกลอยสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดผ้า แกก็ตะโกนเรียก “เทวดาโว้ย..!” ก็มีเสียงตอบมาว่า "โว้ย..!" ตาอินพูดต่อ “ชาวบ้านเขาอยากเห็น..โผล่มาให้เขาดูหน่อย” โอ้โห..โผล่มาตามกลีบเมฆเต็มเลย ชาวบ้านกำลังดูเพลิน ๆ ตาอินกระตุกผ้าผลุบ เหมือนกับว่าวหลุดลอยหายไปเลย ชาวบ้านก็ตายละหว่า..ตาอินไปไหน ? แต่ไม่กลัวหรอกว่าตาอินจะเป็นอะไร เพราะว่าแกเก่ง น่าจะขึ้นไปคุยกับเทวดาข้างบนกระมัง ? แต่ที่ไหนได้..เถ้าแก่โรงจำนำเห็นตาอินหอบผ้ามาจำนำเยอะแยะเลย แล้วตาอินก็เอาเงินไปซื้อเหล้ากินต่อ

ถาม : เป็นเรื่องสมัยไหนครับ ?
ตอบ : สมัยรัชกาลที่ ๓

ถาม : สมัยนี้ยังมีอย่างนี้ไหมครับ?
ตอบ : มี..แต่โผล่มาไม่ค่อยได้หรอก โผล่มาทีไรก็โดนรุมตอมหึ่ง สรุปแล้วผ้าคนละผืนเป็นค่าดู ให้ตาอินจำนำเอาเงินไปกินเหล้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2012 เมื่อ 11:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #135  
เก่า 24-03-2012, 11:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนใช้อภิญญา อยู่ที่กำลังใจอย่างเดียวเลยหรือครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ความมั่นใจของเราและความคล่องตัวของสมาธิ ถ้าหากว่ามีความคล่องตัว มีความมั่นใจ จะใช้อภิญญาเมื่อไรก็ได้


ถาม : อย่างนี้ก็อยู่ที่ตัวมั่นใจแต่ละคนสิครับ ?
ตอบ : ใช่..ซักซ้อมให้คล่องตัว ไม่อย่างนั้นต้องตั้งหลักกันนาน ถ้าตั้งหลักนานไม่ใช่อภิญญาหรอก อภิญญาไม่ต้องตั้งหลัก แค่คิดก็เป็นแล้ว

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ถ้าหากว่าผิดศีลก็เสื่อม หลังจากนั้นเขาก็รวบรวมกำลังใจได้ใหม่ เพราะผิดจนชิน พวกนี้จะหน้าด้าน พอผิดจนชินถึงเวลาก็รู้นี่ ถ้าหากว่าศีลบริสุทธิ์ก็ทำได้ เขาก็ตั้งใจว่าตอนนี้ศีลของเราบริสุทธิ์ ก็ทำได้เดี๋ยวนั้นเลย

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : อย่างน้อย ๆ ช่วงที่เขาทำได้ กำลังใจเขาก็สะอาด แล้วอีกอย่างพวกนี้พอตอนช่วงหลัง ๆ ก็มาอยู่ในศีลกินในธรรมกันหมด แรก ๆ ก็ประเภทร้อนวิชา เฮี้ยนไปอย่างนั้นเอง พอถึงเวลา "ท่าน" ที่ควบคุมอยู่เล่นเอาหนัก ๆ ก็ต้องเลิกไปเอง

ถาม : คนสมัยก่อนกับคนสมัยนี้ใครมีอภิญญามากกว่ากัน ?
ตอบ : สมัยก่อนสภาพจิตของเขาสงบง่ายกว่า สังเกตดูรุ่นปู่ย่าตาทวดของเราสิ อยู่ในศีลกินในธรรม สวดมนต์ไหว้พระ ทำบุญเข้าวัดเข้าวาเป็นประจำ ในเมื่อจิตเย็น สงบ สมาธิก็เกิดได้ง่าย วิสัยเดิมถ้ามีมาในด้านอภิญญาก็จะโผล่มาเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2012 เมื่อ 13:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #136  
เก่า 24-03-2012, 12:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สายสิญจน์ที่อยู่ในพิธีจะมีพุทธคุณเหมือนกับวัตถุมงคลที่อยู่ในพิธีไหมครับ ?
ตอบ : พุทธคุณมีแน่นอน แต่บางอย่างก็ต่างกันไป อย่างเช่นลูกแก้วกับพระศรีอาริยเมตไตรยก็ต่างกันแล้ว เพราะว่าท่านที่เสกเป็นคนละองค์กัน

ถาม : ไม่ใช่พระท่านเสกทั้งหมดหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ได้ทั้งหมดหรอก บางทีเจ้าของงานมาเอง ก็ต้องยกให้ท่านไปจัดการเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2012 เมื่อ 13:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #137  
เก่า 24-03-2012, 12:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ประเทศไทยเราเรื่องรากเหง้าของบรรพบุรุษไม่ค่อยจะศึกษากันให้ลึกซึ้ง ก็เลยไม่เห็นคุณค่าของพิพิธภัณฑ์ ต่างประเทศอย่างอเมริกาเขาต่อคิวกันเข้าพิพิธภัณฑ์ยาวเป็นกิโลฯ เด็ก ๆ ขนาดใช้คอมพิวเตอร์เป็นว่าเล่น แต่ถึงเวลาต้องต่อคิวเข้าห้องสมุดยาวเป็นกิโลฯ เพื่อยืมหนังสือ เนื่องจากอาจารย์บังคับว่าต้องอ้างอิงจากหนังสือเท่านั้น อ้างอิงจากในอินเตอร์เน็ตไม่ได้

ในเมื่อบ้านเราไม่เห็นคุณค่า พิพิธภัณฑ์ดี ๆ ก็ตั้งอยู่ไม่ได้ รายจ่ายมากกว่ารายรับ แบบเดียวกับพิพิธภัณฑ์จ่าทวีที่พิษณุโลก สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว ถ้าทางการไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอาจจะต้องปิดไปเลย จ่าทวีท่านสะสมพวกข้าวของเครื่องใช้พื้นบ้านเอาไว้มาก เปิดบ้านตัวเองเป็นพิพิธภัณฑ์ได้เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2012 เมื่อ 13:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #138  
เก่า 24-03-2012, 16:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แบตเตอรี่ไมโครโฟนเสื่อม พระอาจารย์กล่าวว่า "นี่แหละคืออัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้า สัพเพ สังขารา อนิจจาติ สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ บุคคลผู้มีปัญญาจึงมองเห็นได้ อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา การเข้าถึงความดับแห่งทุกข์จึงเป็นหนทางให้เข้าสู่ความบริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น..เมื่อทุกอย่างไม่เที่ยง จะให้ไมโครโฟนดังตลอดไปก็ไม่ได้ เพียงแต่ว่าพังเร็วไปหน่อย

ฟัง ๆ ดูธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้วรู้สึกว่าพระองค์ท่านอาจหาญเหลือเกิน ประกาศในสิ่งที่เป็นจริงซึ่งคนมองไม่เห็น และไม่รู้ว่าเขาจะเห็นตามได้หรือเปล่า แต่ว่าพระองค์ท่านก็กล้าประกาศ แบบเดียวกับตอนที่ส่งพระอรหันต์รุ่นแรก ๖๐ องค์ออกประกาศพระศาสนา มุตตาหัง ภิกขะเว สัพพะปาเสหิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราพ้นแล้วจากบ่วงทั้งปวง

มุตตะ กับ อะหัง คือตัวเราพ้นแล้ว คนที่พูดได้เต็มปากเต็มคำอย่างนี้มีหรือในตอนนั้น ? เย ทิพพา เย จะ มะนุสสา ทั้งที่ของเป็นทิพย์และของมนุษย์ อะไร ๆ ก็เอาไม่อยู่แล้ว พระองค์ท่านถึงได้ส่งออกไปประกาศพระศาสนา แล้วก็ได้ผลมหาศาล ประชาชนหันมานับถือศาสนาพุทธจนกระทั่งกลายเป็นศาสนาหนึ่งที่คนนับถือเป็นจำนวนมากในโลกปัจจุบันนี้

เราลองไปนึกถึงความอาจหาญของบุคคลที่กล้าประกาศอย่างชัดเจน เอาอย่างพระปิณโฑลภารทวาชะก็ได้ "ใครไม่รู้ธรรมจงมาถามเรา ใครมีข้อสงสัยในธรรมจงมาถามเรา" ประกาศแบบนี้ในสมัยนี้สงสัยว่าจะโดนชกหน้า..! ในเมื่อพระองค์ท่านอาจหาญกล้าประกาศ เขาจึงใช้คำว่าบันลือสีหนาท ประหนึ่งราชสีห์คำรณ

คราวนี้เราเห็นว่าในปัจจุบันของเรา การที่หลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ ถ้าหากว่าเป็นท่านที่ปฏิบัติจนหลุดพ้นแล้วก็ไม่เป็นไร ท่านทำหน้าที่ได้เต็มสติกำลังของท่านอย่างแน่นอน แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วไม่ใช่มุตตาหัง ตนเองยังไม่ได้หลุดพ้น แทนที่จะเป็น "เราทั้งหลายพ้นจากบ่วงทั้งปวง" ก็เป็น "เราทั้งหลายยังไม่พ้นจากบ่วงอะไรเลย ทั้งที่เป็นของทิพย์และของมนุษย์" จะให้ไปประกาศศาสนาแล้วให้ได้ผลชัดเจนเหมือนอย่างกับในสมัยพุทธกาลก็เป็นเรื่องยาก

ดังนั้น..ญาติโยมจึงต้องมีปุพเพกะตะปุญญะตา บุญที่สร้างสมมาแต่ปางบรรพ์ ทำให้เราได้เข้าไปสู่สำนักที่ครูบาอาจารย์ท่านทำจริง ได้ผลจริง แล้วจึงนำมาสั่งสอน อย่างนั้นต้องถือว่าบุญเก่าเราดี หนุนเสริมให้ไปถูกที่ถูกทาง หลายท่านที่อยากจะทำจริง ประพฤติจริง แต่ว่าไปเจอสำนักที่ท่านไม่เป็นมวยอะไร นอกจากมั่วไปเรื่อย ก็ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 05-09-2022 เมื่อ 22:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #139  
เก่า 24-03-2012, 16:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สัพพะปาเสหิ พ้นจากบ่วงทั้งปวงแล้ว สัพพะคือทั้งหลาย ปาสะก็คือบ่วง ที่เราเรียกบ่วงบาศ บาลีเป็นตัว ป พอมาเป็นไทยใช้ บ ที่เราเรียกหัตถบาส ฉะนั้น..เห็นความอาจหาญ กล้าทำในสิ่งที่ดีเพื่อประโยชน์คนอื่นล้วน ๆ เลย ไม่ได้เพื่อประโยชน์ของพระองค์ท่านเองเลย พหุชะนะหิตายะ พหุชะนะสุขายะ เพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของชนหมู่มาก

โลกานุกัมปายะ เพื่ออนุเคราะห์แก่โลก อัตถายะ หิตายะ เทวะมะนุสสานัง เพื่อประโยชน์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ลำพังพระองค์ท่านเองพ้นแล้ว จะไปนอนตีพุงเฉย ๆ ก็ได้ แต่ว่าด้วยความเมตตากรุณาที่มีอยู่ ก็ยอมเหนื่อยยากทนสั่งสอนพวกเรามา

คราวนี้พวกเรามีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา ได้อยู่ในช่วงที่พระธรรมของพระองค์ท่านยังสมบูรณ์บริบูรณ์อยู่ ควรจะรีบตักตวงกอบโกยความดีให้มากที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เวลาล่วงพ้นไปวันหนึ่ง ๆ ปฏิบัติธรรมไป ฟุ้งซ่านแค่ไหนก็ให้รู้ว่าเราฟุ้ง ควบคุมความฟุ้งซ่านไว้อย่าให้หลุดกรอบของศีลก็ใช้ได้แล้ว เพราะถ้าเรายังมีสติรู้ ควบคุมตัวเองอยู่ ตัวกามาวจรจิตมหากุศลจะเกิดขึ้นจากสตินั่นเอง

ชั่วให้รู้ว่าชั่ว ระมัดระวังไว้อย่าให้หลุดออกมาเป็นกายกรรม วจีกรรม ดีให้รู้ว่าดี พยายามสร้างกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมให้เจริญขึ้นไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวพอความดีมากขึ้น ๆ ก็จะกลบกลืนความชั่วไปเอง เหมือนกับเติมน้ำสะอาดไปเรื่อย เดี๋ยวน้ำเกลือก็จางลง ๆ ต่อให้มีเกลือปนอยู่ก็ไม่รู้แล้วว่าเป็นรสของเกลือ

เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเราสร้างความดีมากขึ้น ๆ ความชั่วไม่มีโอกาสโต เดี๋ยวก็โดนเบียดเฉาตายไปเอง ถ้าหากทำแล้วรู้ว่าเราชั่วถือว่ามาถูกทาง ถ้าหากมาไม่ถูกทางก็เห็นว่าตัวเองดี เพราะฉะนั้น..ให้ตั้งหน้าตั้งตาทำต่อไป พยายามลด ละ เลิกให้ความชั่วเหลือน้อยลง ๆ ท้ายที่สุดก็จะหมดไปเอง สำคัญที่ต้องสู้จริง ๆ

พระองค์ท่านอุตส่าห์เหนื่อยยากสั่งสอน เพราะประโยชน์ เพราะความสุขของเราแท้ ๆ เราเองที่เป็นผู้รับคำสั่งสอนนั้นมาปฏิบัติ ถ้าไม่ยอมทำเพื่อประโยชน์ เพื่อความสุขของตัวเองก็ถือว่าเสียชาติเกิด..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-03-2012 เมื่อ 19:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #140  
เก่า 24-03-2012, 16:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,523
ได้ให้อนุโมทนา: 151,448
ได้รับอนุโมทนา 4,406,280 ครั้ง ใน 34,113 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"มุตตะ แปลว่าความพ้น วิมุตตะ พ้นอย่างยิ่ง พ้นอย่างวิเศษ พอมุตตะ บวกกับ อะหัง เสียงรัสสะคือเสียงอะของตะ กับเสียงอะของอะหัง รัสสะกับรัสสะรวมกันเป็นฑีฆะ ก็เป็นเสียงยาว กลายเป็นมุตตาหัง

ถ้าหากว่าเราดูรูปประโยคออกก็ง่าย ถ้าดูไม่ออกก็มืดแปดด้านคลำไม่ถูก โดยเฉพาะนักเรียนบาลีจะแปลบาลีต้องรอบคอบสุด ๆ เลย กาล บท วจนะ บุรุษ วาจก ปัจจัย ยุ่งไปหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2012 เมื่อ 16:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:43



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว