กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 07-04-2016, 14:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของการทำวัตถุมงคลรูปพระขรรค์ ที่ดังที่สุดในประเทศไทย คือ หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก จังหวัดเพชรบุรี พระขรรค์ของท่านทำจากเขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย ทำไมท่านต้องหายากหาเย็นขนาดนั้น ...(หัวเราะ)... แล้วต้องตัดออกมาสด ๆ ด้วยนะ ไม่ใช่ไปต้มให้เขาหลุดออกมา คือถ้าตายก็ตัดเขาออกมาเลย เสร็จแล้วก็ผ่าเป็นชิ้น ๆ เพื่อที่จะเหลาเป็นพระขรรค์ ตอนที่ผ่านี่ต้องจำไว้ด้วยว่า ด้านไหนหัวด้านไหนท้าย เพราะว่าต้องเหลาไปทางปลายเขาอย่างเดียว ห้ามทวนเขาเด็ดขาด ถ้าทวนแม้แต่นิดเดียวต้องทิ้งเลย เท่ากับเสีย...ใช้งานไม่ได้

พระขรรค์ของหลวงพ่อโสกท่านนี่ถอนอาถรรพ์ทุกประเภท เรียกว่ากฤติยาคมแฝด ก็คือ ทั้งกันและแก้พร้อมกัน
พระขรรค์ของหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก พวกอิสลามกลัวนักกลัวหนา เพราะท่านท่านลงแก้ไสยศาสตร์อิสลามโดยเฉพาะ แต่ก็หายากเหลือเกิน หลวงพ่อโสกท่านเป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 07-04-2016, 14:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อโสกดังเรื่องพระขรรค์ หลวงพ่อดิ่งดังเรื่องหนุมาน แต่ลูกอม ๗ กำลังช้างสารของหลวงพ่อดิ่งเหนียวสะเด็ดยาด ลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่งคือเสือขาว พกลูกอมแล้วไม่เคยกลัวตำรวจ พอเจอตำรวจล้อมปราบ เสือขาวเดินลุยยิงซึ่ง ๆ หน้าเลย โดนตำรวจยิงเท่าไรก็ไม่เป็นอะไร หลวงพ่อดิ่งเตือนแล้วเตือนอีก “ไอ้ขาว...มึงทำอย่างนี้ต่อไปจะตายโหง” ลูกศิษย์ก็ไม่ฟัง ถือว่ามีดี ของอาจารย์กันลูกปืนได้แน่นอน

ปรากฏว่ากองตระเวนเขาปราบจนเหนื่อย ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงไปถามหลวงพ่อดิ่งว่าจะแก้อย่างไร ? หลวงพ่อดิ่งบอกว่าอาตมาเป็นพระ บอกไม่ได้หรอก ท่านก็ทำถูกแล้ว ปรากฏว่าตอนลากลับ มีตาผ้าขาวที่อยู่วัดบางวัวมากระซิบบอกตำรวจ บอกว่าให้ไปหาพระขรรค์หลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครกมา เพราะว่าสองท่านนี้เป็นสหธรรมิกเรียนวิชาด้วยมากัน วิชาที่หลวงพ่อดิ่งทำไว้ หลวงพ่อโสกจารแก้ไว้ที่พระขรรค์หมดแล้ว

พระขรรค์ของท่านเล็กนิดเดียว เขาเรียกพระขรรค์สาลิกา ขนาดประมาณ ๑ นิ้ว ยาวสุดที่เคยเจอมาเกือบ ๕ นิ้ว โอ้โฮ...เปลืองวัสดุมากเลย พอเจ้าหน้าที่รู้ ก็ใช้วิธีอัดลูกปืนโดยเอาพระขรรค์หลวงพ่อโศกยัดเข้าไปด้วย สงสัยไหมว่าเขาอัดลูกปืนกันท่าไหน ? ก็ปืนลูกซองนั่นแหละ ถึงเวลาอัดดินเข้าไป อัดตะกั่วเข้าไป แล้วก็เอาพระขรรค์หลวงพ่อโสกใส่ไปด้วย ตูมเดียวหงิกเลย

หลวงพ่อดิ่งท่านเตือนลูกศิษย์ว่า ถ้าหากประมาทอย่างนี้ตายโหง เสือขาวประมาทเลยโดนจริง ๆ เพราะเสือขาวไม่เคยหนีตำรวจ มีแต่ยืนซัดกันซึ่ง ๆ หน้า ตำรวจโดนยิงกระจายทุกที เพราะฉะนั้น...ถ้าหากว่านับพระขรรค์ที่ดังที่สุดในประเทศไทย ต้องพระขรรค์ของหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 07-04-2016, 14:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ของปลอมมีเยอะ
ตอบ : ต้องดูเป็น เพราะว่าของจริงเขาควายเผือกจะใสเป็นน้ำผึ้งเลย ยิ่งเก่ายิ่งใส ของใหม่ไม่ใสอย่างนั้น ถ้าเป็นของใช้งานจะออกสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ความเก่าความหดของเนื้อนั้นมีอยู่ แค่ส่องกล้องดูก็รู้แล้ว สมัยนี้ปลอมกันเช็ด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 07-04-2016, 14:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเกิดมาทำไมสายตาดี บางคนดูวัตถุมงคลเขาก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถึงเวลาอุตส่าห์บอกกับเขาว่า ลักษณะอย่างนั้นอย่างนี้ วิธีดูแบบนั้นแบบนี้ เขาก็ไม่เข้าใจ บอกว่าให้นึกถึงต้นไม้สิ ถ้าเรารู้จักต้นไม้ มองไปเมื่อไรเราก็รู้ว่านี่ต้นอะไร กลายเป็นว่าอาตมาพูดง่าย ๆ แต่คนทำกลับทำได้ยาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 07-04-2016, 15:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้มณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำใกล้เสร็จแล้ว อลังการมาก ตอนที่ยังไม่ปิดทองก็ดูไม่สวย พอปิดทองนี่...แหม เสียอย่างเดียวว่าจะถ่ายรูปอย่างไรให้สวยเหมือนตาเห็น เป็นเรื่องยาก"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 07-04-2016, 15:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กินยาสมุนไพร เหมือนจะปวดหลัง เขาบอกว่ากินไปทั้งขวด จะได้ล้างไต ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี ?
ตอบ : แสดงว่ายาเย็นมาก เขาเห็นว่าคุณความดันขึ้น เขาก็เลยเอาความเย็นไปลด แต่ความเย็นพอมาก ๆ ทำให้เลือดลมไม่เดิน จึงปวดหลังมาก คุณน่าจะไปฝังเข็มมากกว่า แต่ถ้าเป็นผม จะอยู่เป็นเพื่อนกับโรคไปเรื่อย ๆ จะได้คอยเตือนสติเราว่าร่างกายนี้ไม่ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 07-04-2016, 16:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในพระไตรปิฎกมีพราหมณี คือพราหมณ์ผู้หญิงท่านหนึ่ง ชื่อ ธนัญชานีพราหมณี มีชื่อปรากฏอยู่หลายพระสูตรด้วยกัน เป็นคนที่นับถือพระรัตนตรัย แต่ก็ไม่ได้ทิ้งศาสนาพราหมณ์เดิมของตัวเอง

วันหนึ่งขณะที่ยกอาหารไปประเคนให้พวกบรรดาพราหมณ์ได้ฉันกัน ก็สะดุดล้ม ด้วยความที่เคยชินเธอก็อุทานว่า “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ” พวกพราหมณ์ได้ยินก็โกรธ บอกว่า “อีหญิงถ่อยนี่ สรรเสริญคุณพระสมณโคดมอยู่ได้ทุกวัน เราจะไปยกวาทะ ว่าพระสมณโคดมเก่งแค่ไหน” พูดง่าย ๆ ก็คือว่าจะไปโต้วาทีแข่งกัน

ธนัญชานีพราหมณีอุตส่าห์เตือนว่า “ท่านทั้งหลายอย่าได้ไปเลย เราไม่เห็นใคร ๆ ทั้งในมนุษยโลก เทวโลก ตลอดถึงมาร พรหมทั้งหลาย จะสามารถยกวาทะขึ้นให้กับพระสมณโคดมได้” พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่มีใครที่ไปโต้วาทีแล้วชนะ

พราหมณ์ก็ไม่เชื่อ ไปถึงก็ตั้งคำถามในลักษณะปุจฉา-วิสัชนาว่า “ดูก่อนสมณโคดม บุคคลกำจัดอะไรจึงมีความสุข ? บุคคลต้องฆ่าอะไรจึงจะมีความสุข ? ท่านเองสรรเสริญในการกำจัดธรรมอะไร ?” พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า “ฆ่าความโกรธจึงมีความสุข บุคคลสามารถกำจัดความโกรธได้จึงจะเข้าถึงความสงบ พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญการกำจัดเสียซึ่งความโกรธ ซึ่งเป็นรากเหง้าของความทุกข์ มีรากเป็นพิษ” ตกลงพราหมณ์หงายท้องตึงกลับมา ไปด้วยความโกรธ ก็เลยโดนตอกหน้ากลับมา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 07-04-2016, 17:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"คล้าย ๆ กับอักโกสกพราหมณ์ที่ไปด่าพระพุทธเจ้า ด่า ๆ ๆ จนสะใจ บอกว่าสมณโคดมท่านแพ้ข้าพเจ้าแล้ว พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า “ดูก่อนพราหมณ์ ญาติมิตรสาโลหิตที่ไปมาเยี่ยมเยือนท่านมีอยู่หรือไม่ ?” อักโกสกพราหมณ์บอกว่า ท่านไม่ได้เป็นคนตัวเปล่าเล่าเปลือย ต้องมีสิ พระองค์ตรัสว่า “เวลาเขามาเยี่ยม ท่านต้อนรับเขา ด้วยข้าว ด้วยน้ำ ด้วยอาสนะที่นั่งหรือเปล่า ?” อักโกสกพราหมณ์ก็บอกว่า ตนรู้มารยาทในสังคมดี ก็ต้องต้อนรับด้วยข้าว น้ำและอาสนะ

พระพุทธเจ้าตรัสถามต่อไปว่า “ถ้าเขาทั้งหลายเหล่านั้น ไม่บริโภคข้าว น้ำ ไม่ใช้อาสนะของท่าน สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นจะตกแก่ใคร ?” อักโกสกพราหมณ์ก็บอกว่า “สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นก็ยังเป็นของข้าพเจ้าตามเดิม” พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสว่า “นั่นแหละพราหมณ์ ในเมื่อท่านด่ามาแล้วเราไม่ได้ด่าตอบ สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นย่อมตกแก่ท่านตามเดิม” อันนี้แสบกว่าด่าอีกนะ

สมัยก่อนคนเขาฉลาด ขณะเดียวกันรู้ว่าอะไรดีอะไรชั่ว พอได้ยินดังนั้นอักโกสกพราหมณ์นั่งกระโหย่ง ยกมือไหว้บอกว่า “สมณโคดม วาจาท่านเป็นภาษิตยิ่งนัก เปรียบเหมือนกับคนหงายของที่คว่ำ เปรียบประดุจบุคคลตามประทีปในที่มืด สร้างความแจ่มแจ้งให้แก่ผู้ฟังเป็นอย่างยิ่ง” เมื่อแรกตั้งใจจะด่า ท้ายสุดกลับปฏิญาณตนถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 07-04-2016, 17:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นั่งกระโหย่งเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : นั่งแบบหลวงพ่อคูณนั่นแหละ แต่บ้านเรามาตีความว่านั่งกระโหย่งคือนั่งคุกเข่า ถ้าไม่เข้าใจภาษาบาลีไทยที่บอกว่านั่งกระโหย่งเป็นอย่างไร ก็นั่งแบบหลวงพ่อคูณนั่นแหละ แสดงว่าหลวงพ่อคูณเป็นพระโบราณ นั่งท่านั้นแล้วสบาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 07-04-2016, 17:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยที่เรียนพระไตรปิฎกศึกษา ท่านอาจารย์พระมหาวิจิตร กลฺยาณจิตฺโต เปรียญธรรม ๘ ประโยคมาเป็นอาจารย์สอน พอมาถึงตอนอักโกสกพราหมณ์ด่า เขาด่าว่าเจ้าเป็นลา เจ้าเป็นม้า เจ้าเป็นอูฐ เจ้าเป็นคนเขลา ฯลฯ สารพัดจะด่า ท่านอาจารย์มหาวิจิตรก็นั่งปรารภว่า "ด่าเป็นม้าเป็นลาหยาบตรงไหนวะ ?" อาตมาก็บอกกับพระอาจารย์ท่านว่า “ลองเปลี่ยนเป็นไอ้เหี้..สิครับ..!”

ยุคหนึ่งสมัยหนึ่งคำด่านั้นหยาบ แต่พอเลยยุคสมัยมาแล้วกลายเป็นของไม่หยาบ พอบอกพระอาจารย์เปลี่ยนเป็นเหี้...ก็พอ ท่านแจ่มแจ้งแดงแจ๋เหมือนหงายของที่คว่ำเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2016 เมื่อ 18:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 08-04-2016, 15:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมัยบ้านอนุสาวรีย์ฯ หนูไปกราบเรียนว่าอยากมีน้อง แล้วหลวงพ่อให้หนูไปขอจากหลวงพ่อวัดท่าซุง ?
ตอบ : อ้อ...ได้มาเรียบร้อยแล้ว สัก ๗ ขวบค่อยเอาลูกไปบวชเณรนะจ๊ะ

ถาม : ฝึกเขาให้สวดมนต์ไว้ก่อนค่ะ ?
ตอบ : ดีแล้ว เด็ก ๆ รุ่นใหม่พยายามฝึกเขาเอาไว้ เพราะว่าเด็กสมัยนี้สมาธิน้อยลงไปเรื่อย ๆ ถ้าเราไม่ฝึกเขาไว้แต่แรก ต่อไปจะอยู่ยาก จะกลายเป็นปัญหาสังคมทีหลัง เด็ก ๆ จะทำก็ต่อเมื่อพ่อแม่นำ

ยกเว้นลูกสาวอาตมา น้องเจนนี่ถึงเวลาถ้าแม่จะนอนแล้วไม่สวดมนต์ แม่เจ้าประคุณโดดขึ้นเตียง กางมือกางตีนเต็มเตียงเลย ห้ามแม่นอนจนกว่าจะสวดมนต์ นั่นถือเป็นอภิชาตบุตร แม่สอนแล้วไม่ทำเอง ลูกไม่ยอมให้แม่นอน โดดขึ้นไปกางมือกางตีนเต็มเตียงเลย จนกว่าแม่จะสวดมนต์จึงยอมให้นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 16:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 08-04-2016, 15:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงที่ผ่านมามีเรื่องเสี่ยรถเบนซ์ขับรถชนคน คนตายเป็นนิสิต มจร. เท่ากับว่าอาตมาที่เป็นพระอาจารย์มีส่วนร่วมด้วยไปโดยปริยาย

ต้องบอกว่าสังคมของเราทุกวันนี้เกรงใจคนรวย ตั้งแต่รุ่นอาตมาแล้วนะ ๔๐-๕๐ ปีที่ผ่านมา มีคำพูดประโยคหนึ่งว่า "คนรวยทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด" แล้วเราลองคิดดูว่าถนนบ้านเราแบบนี้ ขับรถด้วยความเร็ว ๒๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ของเขา ๒๐๐ กว่าเยอะด้วย แต่ตีว่าขับรถด้วยความเร็ว ๒๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะเอาถนนที่ไหนมาวิ่ง ? ไม่ใช่ออโต้บาห์นของเยอรมันนะ

ออโต้บาห์นของเยอรบังคับว่าต้องวิ่ง ๒๐๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะเขามั่นใจว่า รถของเขา ถนนของเขา ปลอดภัยแน่นอน ถ้าคุณขับช้าจะอันตราย แล้วบ้านเราไปวิ่ง ๒๕๐ กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง สิ้นสติชัด ๆ พอเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาก็เดือดร้อนกันไปหมด ต่อให้รถดีขนาดไหนถ้าขับด้วยความเร็วขนาดนั้น ก็โดนจนได้แหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 16:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 08-04-2016, 15:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บ้านเราช่วงนี้แล้งมาก โดยเฉพาะกาญจนบุรี พื้นที่ป่าของกาญจนบุรีมีมาก แต่ป่ากาญจนบุรีเป็นป่าเบญจพรรณที่มากไปด้วยป่าไผ่ คือปกติเบญจพรรณนี้ไม้จะคละกันไป แต่กาญจนบุรีป่าไผ่จะเกิน ๘๐ เปอร์เซ็นต์ ก็เลยทำให้บรรดาพวกสิ้นสติเผาป่ากันเป็นว่าเล่น แม้กระทั่งวัดท่าขนุนของอาตมา ไม่ได้ยุ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขาเลย นึกสนุกขึ้นมาเขาก็เอาไฟไปแหย่ป่าไผ่เล่น ทำให้ต้องดับกันอยู่บ่อย ๆ

ช่วงเจริญกรรมฐานก็เลยขอท่านผู้เป็นใหญ่ คือเจ้าพ่อหลักเมืองกาญจนบุรี ขอฝนหลงฤดูหน่อย ให้ป่าเปียกเขาจะได้เผาไม่ติด ปรากฏว่ากระหน่ำเสียอาตมาเกือบจะกลับวัดไม่ได้ คนขับรถมองทางไม่เห็น อาศัยอานิสงส์เจริญกรรมฐานมา ๑๕ วัน อุทิศให้ท่าน แล้วขอแรงหน่อย ฝนตกตั้งแต่ท่าม่วงไปยันทองผาภูมิเลย เว้นไว้เฉพาะที่วัดนิดหนึ่งเพื่อให้อาตมาลงจากรถได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 16:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 08-04-2016, 15:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์พูดถึงปรอทกรอ "ปรอทของอาตมาไม่ยอมห่างตัวเลย ไม่ว่าอย่างไรก็เกาะแน่น ๆ คือปกติเวลานอนบางทีมีดพับที่พกอยู่ก็เลื่อนหลุดบ้าง แต่ปรอทกลม ๆ ไม่ยอมหลุดสักที ประเภทว่าทิ้งกันมานาน พอเจอหน้ากันใหม่จึงไม่ยอมให้หลุดมือเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 16:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 08-04-2016, 15:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "วันก่อนไปรับรางวัลธรรมาภิบาลสิงห์ทอง ปรากฏว่าเขามีรางวัลสิงห์ฆเณศเอาไว้สำหรับผู้บริหารองค์กรดีเด่น ที่ได้เห็นอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ปัจจุบันผู้หญิงเก่งมีเยอะมาก จำนวนเกือบ ๒๐๐ คนที่ไปรับรางวัลเป็นผู้หญิงเกินครึ่ง แสดงว่าเดี๋ยวนี้ผู้หญิงตั้งบริษัทกันเยอะ แล้วก็ประสบความสำเร็จมากด้วย

แต่ส่วนหนึ่งที่เห็น ก็คือ เขาไปแต่งตัว
ประชันกัน แต่ละคนไปอย่างสุดฤทธิ์สุดเดช แต่งตัวอย่างกับจะไปงานราตรีสโมสร ไม่ใช่ไปงานรับรางวัล ไปนี่ก็เปิดหน้าเปิดหลัง โกยกันจนล้นทะลักสัก ๓-๔ เท่าของที่พ่อแม่ให้มา ไม่รู้ว่าไปโกยมาจากไหน อาตมายังบอกกับท่านมหาไชยวัฒน์ว่า “ผมเห็นแล้วเหนื่อยแทน สมัยก่อนผมเคยไปรอเขาแต่งตัว ๓ ชั่วโมง แล้วผมหนีมาบวชเลย”

โดยปกติงานที่องคมนตรีไปมอบรางวัลให้ ก็น่าจะแต่งกายให้เรียบร้อยหน่อย แต่อาตมาเกรงว่าที่เขาแต่งมานั่นคือเรียบร้อยที่สุดแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็อนาถชีวิตเลย แล้วชุดที่ประเภทยาวลากพื้น ไม่รู้ว่าเขาเดินได้อย่างไร ยังกลัว ๆ อยู่ว่าถ้าเดินเหยียบชายสะดุดลงไปจะเกิดอะไรขึ้น แต่ละคนส้นสูงมีไม่ต่ำกว่า ๔ นิ้ว มีแต่ ๔-๕ นิ้วทั้งนั้น ดูเขาแล้วก็เหนื่อยใจ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 16:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 08-04-2016, 15:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อีกอย่างหนึ่งที่เห็นก็คือ ผู้หญิงสักยันต์กันเยอะมาก เปิดหลังนี่ลายพร้อยเลย ส่วนใหญ่จะเป็นยันต์หนุนดวงอะไรพวกนั้น เฉพาะผู้เข้ารับรางวัลสองร้อยกว่านี่ผู้หญิงเกินครึ่งไม่พอ แถมยังมีสักยันต์อะไรอีก จนรู้สึกว่าผู้หญิงน่ากลัว มิน่า...ผู้ชายเลยหนีไปเป็นผู้หญิงกันเสียเยอะ..!

อาจจะเป็นเพราะว่าสมัยก่อนอาตมาเป็นโรคภูมิแพ้ โดยเฉพาะแพ้เครื่องสำอาง บรรดาน้อง ๆ ผู้หญิง
เห็นว่าเวลาไปด้วยแล้วอาตมาจามเอา ๆ เขาก็เลยเคยชินกับการที่ไม่แต่งหน้า พอเขาไม่แต่งหน้าไป ด้วยความเคยชิน เมื่อเห็นคนอื่นแต่งหน้าแล้วรู้สึกว่าหลอก ๆ ตาอย่างไรไม่รู้

ในชีวิตเห็นผู้หญิงแต่งหน้าแล้วสวยอยู่ ๒ คน คนหนึ่งคือเพื่อนรุ่นพี่ที่คบหาสมาคมกันอยู่ จนกระทั่งเวลาไปไหนแฟนก็ยกลูกให้ไปด้วย อีกคนหนึ่งก็คือพี่สุทธิลักษณ์ ที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อวัดท่าซุงเหมือนกัน เป็นคนที่แต่งหน้าเหมือนกับไม่ได้แต่ง แปลกดี รู้สึกว่าเขาสิ้นเปลืองน้อยมาก หยิบจับอะไรขึ้นมาเติมนิดเติมหน่อยก็ไปแล้ว ในขณะที่คนอื่นแต่งไป ๓ ชั่วโมงก็ยังสวยสู้พี่เขาไม่ได้

สมัยก่อนเคยคุยข่มผู้หญิงว่า ผู้หญิงไม่สวยก็เลยต้องแต่งหน้า ส่วนผู้ชายไม่ต้องแต่งหน้าแสดงว่าจะต้องดูดีกว่าแน่ ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องแต่งแข่งกับผู้หญิง ปรากฏว่าสมัยนี้เห็นผู้ชายก็แต่งหน้า เพราะว่าที่เขามาออกการแสดงในงาน ๓-๔ ชุด โอ้โฮ...แต่งแล้วแต่งอีก เห็นเขาออกมามีผู้ชาย ๔ คน แทบจะหาผู้ชายแท้ไม่ได้เลย รู้สึกท่านทั้งหลายเหล่านี้จะชอบเรื่องเต้น ๆ รำ ๆ แล้วก็แต่งตัว เขามีความสุขของเขามาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 16:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 08-04-2016, 15:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"รู้สึกว่าคนเกาหลีทั้งประเทศจะทำศัลยกรรมเสีย ๙๐ เปอร์เซ็นต์ คนที่ทำให้เกิดความนิยมของการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของตนเอง โดยเฉพาะเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้าเลย ก็คือไมเคิล แจ๊กสัน พ่อเจ้าประคุณคนเดียวไม่รู้หมดไปกี่ร้อยกี่พันล้าน เดี๋ยวเปลี่ยนหน้า เดี๋ยวเปลี่ยนผิว พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซบ่นแล้วบ่นอีก พอถึงเวลาก็ต้องไปแก้รูปหุ่นตามเขา

เขารู้สึกว่าเขาขาดอะไรอยู่ จึงไปแสวงหาในทางเปลี่ยนแปลงร่างกายตนเอง เพราะคิดว่าใช่ แต่ความจริงไม่ใช่ สิ่งที่เขาขาดคือเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ ต้องบอกว่าเป็นที่น่าเสียดายที่ไม่มีหลักธรรมทั้งหลายไปถึง ก็เลยทำให้พวกเขาไปทุ่มเทกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง ลักษณะเดียวกับบรรดาคณาจารย์หรือโยคีนักบวชในสมัยพุทธกาล เน้นการทรมานตัวเอง โดยที่ไม่รู้ว่าการหลุดพ้นจริง ๆ แล้วอยู่ที่กำลังใจ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 16:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 08-04-2016, 16:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้พระวัดท่าขนุนสอบบาลี ๔ รูป ผ่าน ๓ ติดซ่อม ๑ แล้วไม่รู้ว่าจะซ่อมผ่านหรือเปล่า ? เพราะว่าต้องซ่อม ๒ วิชา แต่ถ้าเป็นอาตมารับรองว่าผ่าน เพราะถ้าพลาดจะรู้ว่าตัวเองพลาดตรงไหน แล้วจะรีบไปปิดจุดอ่อน แต่พอเป็นลูกศิษย์ก็เลยไม่แน่ใจ เพราะว่าบางท่านพลาดไปก็ไม่รู้ว่าตัวเองพลาดตรงไหน ถึงเวลาไปแก้ตัวก็ไม่สามารถที่จะเจาะประเด็นได้ กลายเป็นมวยวัดชกสะเปะสะปะไปเรื่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 16:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 08-04-2016, 19:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนเห็นว่ามีวิญญาณอยู่รอบตัวหนู ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า แต่รู้สึกไม่สบาย ?
ตอบ : รอบ ๆ ตัวของทุกคนบางคนมีเป็นร้อยเลย เพราะฉะนั้น...ไม่ต้องไปกังวล พวกนั้นชอบพูดส่งเดชเพื่อให้เราเครียด แล้วไปขอวิธีแก้กับเขา แล้วเราก็จะเดือดร้อน ต้องจ่ายเงินไปเยอะ ๆ เป็นเทคนิคการหากินของเขา

อีกภพภูมิหนึ่งเขามีความละเอียดสูงกว่า เขาก็อยู่ปน ๆ กับพวกเรานี่แหละ แต่ว่าน้อยคนที่จะได้เห็น ถ้าหากเราเห็นนี่จะสยองเลย เพราะรอบข้างมีอยู่เต็มไปหมด เพราะฉะนั้น...เขาพูดอย่างไรก็ถูก ไม่ต้องเสียเวลาไปกลุ้มใจ ตั้งใจสวดมนต์ไหว้พระของเราทุกวัน อย่างไรก็ปลอดภัยอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2016 เมื่อ 20:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 08-04-2016, 20:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,967 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยมมักจะไปเจอพวกหมอดูหรือร่างทรงที่ไร้จรรยาบรรณ พวกนี้จะว่าไปเรื่อย เพราะรู้ว่าพูดไปแล้วคนส่วนใหญ่จะกลัว แล้วไปขอวิธีแก้ไข วิธีแก้ไขของเขาก็ต้องสะเดาะเคราะห์ ต่อชะตา เสริมบารมี ให้ยุ่งไปหมด มีแต่เสียสตางค์

ถ้าโยมเห็นอย่างอาตมาละก็...วิ่งตับแลบเลย เพราะว่าเป็นคนชอบเดินกลางคืน อากาศเย็นดี พอเดิน ๆ ไปจนเริ่มไม่มั่นใจว่าเดินทางถูกหรือไม่ ก็จะมีเงาดำ ๆ มาโบกมือเหมือนกับเรียกว่ามาทางนี้ ถ้าแบบนั้นคงได้วิ่งกันตายจริง ๆ ตอนแรกอาตมาก็กลัว ตอนเด็ก ๆ กลัวมาก ห้องน้ำสมัยก่อนเป็นส้วมหลุม ต้องอยู่ไกล ๆ บ้าน โอ้โฮ...กลางค่ำกลางคืนจะให้ไปส้วม จ้างก็ไม่ไป อั้นจนสว่างเลย


ถาม : ยิ่งหน้าตาน่ากลัวก็ยิ่งน่าสงสาร ?
ตอบ : ต้องบอกว่าเขาหมดสภาพ เขามาได้ดีที่สุดแค่นั้น พอฝึกมโนมยิทธิได้ก็พอจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-04-2016 เมื่อ 19:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:08



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว