กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 12-05-2014, 13:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๗

ถาม : ผมอยากทราบว่า ถือศีล ๘ สามารถดูทีวี ดูหนัง ดูละคร ฟังเพลง เล่นเกมส์ได้ไหมครับ ?
ตอบ : เด็ก ๘ ขวบถามหรืออย่างไร ? ไม่รู้เลยหรือว่าศีล ๘ ห้ามเรื่องพวกนี้ทั้งหมด ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2014 เมื่อ 14:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 12-05-2014, 13:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องด้วยผมมีความสงสัยในพระวินัยในบางข้อ สมัยที่ผมบวชเกิดอารมณ์ฟุ้งซ่าน ไปหยิบก้นบุหรี่ที่เขาทิ้งไว้แล้ว รู้ว่าไม่มีเจ้าของ คิดเล่น ๆ ว่าจะขโมย อย่างนี้ศีลผมจะขาดไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่มีเจ้าของ แล้วไปขโมยใครล่ะ ? เขาเรียกว่าไม่มีอะไรจะทำ ไปฟุ้งซ่านหานรก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2014 เมื่อ 14:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 12-05-2014, 13:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนั้นอารมณ์ใจผมเลวมาก ตอนนอนครึ่งหลับครึ่งตื่นทำน้ำอสุจิให้เคลื่อน วันรุ่งขึ้นผมเข้าปริวาสกรรมโดยไม่ได้บอกใครเลย คิดว่าเข้าปริวาสก็ถือว่าสงฆ์ทั้งหลายรับทราบอยู่แล้ว อย่างนี้จะมีผลสมบูรณ์ ในการแก้อาบัติไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มี...เพราะต้องแจ้งแก่คณะสงฆ์ก่อน แล้วคณะสงฆ์จึงจัดปริวาสกรรมให้ แต่ถ้าเราถือว่าวัดที่เราไปเข้าปริวาสเป็นคณะสงฆ์ก็มีผลเหมือนกัน เพียงแต่ว่าทางวัดต้นสังกัดตนเองจะรับรู้และยอมไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2014 เมื่อ 14:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 12-05-2014, 13:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องการปลงอาบัติ ถ้าเราสึกมาแล้วจำได้ว่ามีอาบัติบางตัวที่เราพลาดไปยังไม่ได้ปลง เราเป็นฆราวาสไปขอปลงกับพระภิกษุจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ต้องลองดู เผื่อว่าท่านจะรับ อาบัติเขาปลงกันระหว่างพระเท่านั้น เณรยังไม่ได้เลย

ถาม : ถ้าเราปลงอาบัติแล้วแต่ใช้วิธีคิดรวมว่าอาบัติที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจก็ดี ก่อนสึกจะมีผลไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าอาบัติหนักปลงไม่ได้ ถ้าอาบัติเบาท่านใช้คำว่า สัมพะหุลา นานาวัตถุกาโย ก็รวมทั้งหมดอยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 28-08-2022 เมื่อ 00:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 12-05-2014, 13:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมมุติว่าไปที่วัด เห็นคนถวายสังฆทานมีพระพุทธรูปเป็นประธาน ผมเอาเงินหยอดตู้ คิดว่าได้ถวายแบบเขาแล้วจะได้บุญเหมือนอย่างเขาทุกประการไหมครับ ? คือไม่ได้ยกไปถวายครับหยอดตู้อย่างเดียว
ตอบ : อาจได้บุญมากกว่า ถ้าคนที่ยกไปถวายเกิดโมโหขึ้นมาว่าทำไมชุดสังฆทานหนักแท้ ก็แปลว่ากำลังใจของคนถวายนั้นตก เนื่องจากว่าจิตมัวหมอง แต่ตัวเราเองไปหยอดตู้สบาย ๆ ตั้งใจถวายเป็นสังฆทานอาจจะได้บุญมากกว่าด้วย เพราะใจเราไม่ได้ตกอย่างเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-05-2014 เมื่อ 14:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 12-05-2014, 13:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กราบเรียนถามถึงความเป็นมาของยาครูพม่าและอานุภาพครับ ?
ตอบ : อยากรู้ไปทำอะไร..! ส่วนใหญ่แล้วทางพม่าจะมีวิชาการเกี่ยวกับการหลอมปรอท ทำปรอทสำเร็จ วัตถุว่านยาหลายอย่างที่รวบรวมมา เมื่อเหลือจากการหลอมปรอทแล้ว เขาเชื่อว่าเป็นยาที่สามารถรักษาสารพัดโรคได้ ส่วนใหญ่แล้วส่วนที่เหลือเขาจะปั้นเป็นรูปเจดีย์เล็ก ๆ แล้วปิดทองเอาไว้บูชามากกว่า แต่ถ้ามีคนที่เจ็บไข้ได้ป่วยไปขอ ท่านก็อาจจะแบ่งให้ปันให้

คราวนี้ในเรื่องของยาครูพม่าจริง ๆ ต้องบอกว่ามีน้อยกว่าน้อย เพราะว่าคนที่สำเร็จปรอทในปัจจุบันไม่ใช่ว่าจะมีมากมาย อาตมาเองก็เพิ่งเจอมาแค่ ๓ - ๔ รายเท่านั้น ฉะนั้น..ถ้ามีใครเอายาครูพม่ามา แล้วก็บอกว่ามาจากพม่าอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องดูที่มาให้ชัด ๆ ไม่อย่างนั้นก็ฟันธงไปเลยว่าของปลอม..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 12-05-2014, 19:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บุคคลในโลกนี้แล้ว ส่วนใหญ่กำลังใจยังไม่เข้มแข็งพอ เมื่อได้มาอ่านหนังสือหรือเห็นรูปพระอาจารย์ในอินเตอร์เน็ตเกิดมีความเลื่อมใส แต่ไม่สามารถมาพบเจอด้วยตัวเองได้ เนื่องจากอาจจะอยู่ไกล หรือต้องประกอบอาชีพการงาน ทำให้ปลีกตัวมาพบเจอได้ยาก อยากจะฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและระลึกถึง พระอาจารย์มีหลักเกณฑ์อย่างไรบ้างกับการฝากตัวเป็นศิษย์ครับ?
ตอบ : หลักเกณฑ์ข้อที่ ๑ ต้องรู้จักกัน ข้อที่ ๒ ต้องเคยได้ยินเขาพูดถึงแล้วเลื่อมใส ข้อที่ ๓ ต้องยึดแนวทางไปปฏิบัติจริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 12-05-2014, 19:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตะกรุดมหาสะท้อนจะต้องทำด้วยวัสดุมีค่า ที่มีน้ำหนักอย่างต่ำ ๑ บาท เช่น แผ่นเงินหนัก ๑ บาท เป็นต้น จึงจะมีผล แต่ถ้ามานำหลอมเป็นชนวนจัดทำวัตถุมงคลใหม่ ทำไมถึงมีผลมหาสะท้อนไปได้อีกเยอะหลาย ๆ องค์ครับ ? (พระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้าน รุ่น ๑ ที่มีชนวนตะกรุดมหาสะท้อน)
ตอบ : จริง ๆ ก็มีคำตอบอยู่แล้วนะ ก็เพราะว่าพระไม่ใช่ตะกรุด..! ในเมื่อพระไม่ใช่ตะกรุดก็ไม่จำเป็นที่จะต้องหนัก ๑ บาท
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 28-08-2022 เมื่อ 00:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 12-05-2014, 19:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หากความตั้งใจเดิมของผม อยากจะค่อย ๆ สะสมเงินในธนาคารตั้งใจจะสร้างวิหารทานในตอนชรา เช่น สร้างวัด เป็นต้น แต่ผมสามารถเปลี่ยนใจที่จะนำเงินเหล่านั้นมาทำวิหารทานในตอนนี้ได้ไหมครับ ? เพราะคิดเเล้วว่ายุ่งยาก และไม่รู้จะตายก่อนหรือไม่ และหากกระทำดังกล่าวจะมีโทษประการใดหรือไม่ ?
ตอบ : มีโทษมาก เขาอาจจะส่งไปพระนิพพาน..! การที่เราตั้งใจทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ถ้าลงมือทำเลยถือว่าไม่ประมาท แต่ถ้าไปคิดว่าอีก ๕ ปี ๑๐ ข้างหน้าจะทำ ถ้าเกิดเราตายเสียก่อนจะไม่ได้ทำสิ่งนั้น ฉะนั้น..ถ้าเร่งทำเสียก่อนถือว่าเป็นผู้มีปัญญา ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 12-05-2014, 19:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องจากพบว่าข้อมูลคำสอนเรื่องอาชีพผู้พิพากษาซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการตัดสินคดีและลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมาย มีคำสอนออกเป็น ๒ แนวทาง แนวทางหนึ่งอธิบายว่า แม้จะตัดสินคดีลงโทษผู้อื่น เช่น ปรับ จำคุก หรือในคดีแพ่งพิพากษาให้ใช้ค่าเสียหาย ก็ไม่เป็นบาป เพราะกระทำตามหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติ

ส่วนอีกแนวทางหนึ่งอธิบายว่า แม้จะทำตามหน้าที่ แต่เป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับกฎแห่งกรรม ดังนั้น..การตัดสินคดีลงโทษผู้อื่น เช่น ปรับ จำคุก หรือในคดีแพ่งพิพากษาให้ใช้ค่าเสียหาย ย่อมเป็นการสร้างบาปอกุศล และแนวทางนี้ยังยกเรื่องพระเตมีย์ชาดกมาอ้างอิงด้วย จึงขอเรียนสอบถามพระอาจารย์ว่า คำสอนที่ถูกต้อง ควรเป็นเช่นไร ?

ตอบ : ทั้ง ๒ แนวทางที่ว่ามาถูกทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการวางกำลังใจของตน ถ้าวางกำลังใจแบบภรรยาของพรานกุกุกฏมิตรซึ่งเป็นพระโสดาบัน สามีที่เป็นพรานก็บอก “แม่อีหนูส่งบ่วงเชือกมา แม่อีหนูส่งแหลนมา” ซึ่งตนเองจะไปล่าสัตว์ ภรรยาของพรานกุกุกฏมิตรซึ่งเป็นพระโสดาบันก็ส่งทุกสิ่งทุกอย่างให้ตามที่สามีบอก พระท่านไปเห็นเข้าก็แปลกใจว่า ทำไมพระโสดาบันยังสนับสนุนการฆ่าสัตว์อยู่ ไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกให้ไปถามตรงกับเธอเอง

เมื่อไปถามเข้า เธอตอบว่า เธอเป็นภรรยา มีหน้าที่ทำตามคำสั่งสามี สามีให้ส่งบ่วงเชือกก็ส่งให้ ให้ส่งแหลนก็ส่งให้ แต่ไม่รับรู้ว่าสามีจะไปทำอะไร ฉะนั้น..เรื่องของการพิพากษา ถ้าหากว่าเราตัดกำลังใจได้แบบนั้น ก็คือเราทำตามหน้าที่ ว่าไปตามข้อเท็จจริง เมื่อพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่แล้วก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ถือว่ามีบาป เนื่องจากว่าไม่ได้โกรธ ไม่ได้เคืองแค้นแล้วจะไปตัดสินในลักษณะกลั่นแกล้งลงโทษ

แต่ถ้าหากว่าตัดกำลังใจไม่ได้ คิดอยู่เสมอว่าเราไปลงโทษเขา เราไปทำให้เขาลำบาก ทำให้เขาเดือดร้อน จิตใจของตัวเองก็เศร้าหมอง ถึงเวลาก็ต้องรับโทษตามนั้นเพราะใจเศร้าหมองไปแล้ว ฉะนั้น..ที่ถามมาทั้ง ๒ แนวทาง ขึ้นอยู่กับว่าเราวางกำลังใจถูกหรือไม่ ถ้าวางกำลังใจถูกก็ไม่บาป ถ้าวางกำลังใจผิดก็เจอบาปไปเต็ม ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 02:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 13-05-2014, 11:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในการขอพรพระคำข้าว ให้ใช้ดอกกุหลาบ ๓ สี อย่างละ ๑๐ ดอก โดยมีสีขาวสีเหลือง และสีแดง แต่ในกรณีที่กุหลาบสีเหลืองหายาก ถ้าใช้สีอื่นทดแทนจะให้ผลเสมอกันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้าพระ พรหมหรือเทวดา ท่านว่าอย่างไรให้ทำอย่างนั้น ถ้านอกเหนือจากคำสั่งจะไม่มีผลเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 14:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 13-05-2014, 11:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สถานที่สัปปายะ มีผลต่อการปฏิบัติไหมคะ ? แล้วถ้าเราอยู่ในสถานที่ที่ไม่สัปปายะจะทำให้การปฏิบัติของเราล่าช้าจริงหรือไม่คะ ?
ตอบ : ใคร ๆ เขาก็รู้ว่าสถานที่สัปปายะมีส่วนหนุนเสริมในการปฏิบัติอย่างยิ่ง สถานที่ ๆ ไม่เป็นสัปปายะเหมาะสำหรับบุคคลที่กำลังใจมั่นคงแล้วเท่านั้น ไม่อย่างนั้นโอกาสที่จะปฏิบัติให้มีผลก็น้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 14:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 13-05-2014, 11:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนบอกว่าการที่เราเล่นเฟซบุ๊กหรืออินสตราแกรม แล้ววุ่นวายอยู่กับการเปลี่ยนรูปตนเองหรืออวดภาพตนเอง นั่นเป็นเพราะเราหลงในรูปซึ่งเป็นขันธ์ ๕ จริงอย่างเขาว่าหรือไม่คะ ?
ตอบ : ไม่ใช่เขาว่า อาตมาว่าเอง คำถามนี้ไม่ต้องตอบ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 14:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 13-05-2014, 11:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราพยายามดูแลรูปร่างของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายเพื่อให้หุ่นฟิต เฟิร์มหรือมีกล้ามแผงหน้าอก เราจะรู้ได้อย่างไรว่านั่นเป็นเพราะเราต้องการให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นโรคภัยง่าย ๆ หรือเป็นเพราะว่าเราหลงในขันธ์ ๕ อยากมีร่างกายที่สวยงาม ?
ตอบ : ถ้าตัวเองทำเพื่ออะไรยังไม่รู้ ก็ไปเกิดใหม่ซะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 14:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 13-05-2014, 11:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ท่านที่ปฏิบัติเพื่อละกิเลส โดยเข้าไปสู่ป่า ปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา แต่ไม่มีโอกาสได้ทำทานในส่วนของปัจจัย เป็นเพราะท่านตัดใจเรื่องทานโดยเอาแค่ศีล สมาธิ ปัญญาเท่านั้นหรือคะ ถึงทำใจอยู่ในป่าได้ ?
ตอบ : ไปถามท่านเอง เรื่องของทานไม่ใช่เรื่องของทรัพย์สินสิ่งของอย่างเดียว แม้กระทั่งการละความโกรธก็จัดเป็นอภัยทานเช่นกัน บุคคลก่อนที่จะก้าวมาถึงเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา ต้องให้ทานมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว เพราะว่าการปฏิบัติธรรมนั้นเป็นไปตามลำดับกำลังใจ

ถ้าเป็นบารมีต้นให้ทานได้ รักษาศีลจะบอกว่าไม่ไหว ถ้าเป็นบารมีกลางให้ทานได้ รักษาศีลได้ แต่ให้ภาวนาจะบอกว่าไม่ไหวเช่นกัน ต้องเป็นปรมัตถบารมีเท่านั้นจึงจะสามารถที่จะให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาได้ ดังนั้น..ถ้าใครอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญาแปลว่าทำทานมาจนนับไม่ถ้วนแล้ว สามารถที่จะปฏิบัติเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญา โดยไม่ต้องมีทานอีกก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 14:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 13-05-2014, 11:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่เรากราบพระ เราควรวางกำลังใจอย่างไรดีคะ จึงจะได้อานิสงส์สูงสุด ?
ตอบ : สาธุ..ขอให้ถูกรางวัลที่ ๑..! ก็ตั้งใจว่าท่านอยู่บนพระนิพพาน เรากราบท่านก็คือเราอยู่กับท่าน เราอยู่กับท่านก็คือเราอยู่บนพระนิพพาน..ก็จบ

ถาม : เวลาพระอาจารย์เดินทางไปกราบพระตามวัดต่าง ๆ พระอาจารย์อธิษฐานว่าอย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : เหมือนกัน สาธุขอให้ถูกรางวัลที่ ๑..!

ถาม : เวลาพระอาจารย์เดินทางไปกราบพระพุทธรูปสำคัญ ๆ หรือว่าพระประธาน พระอาจารย์สวดบทสวดมนต์ใดถวายบ้างเจ้าค่ะ ?
ตอบ : อิติปิ โสฯ สวากขาโตฯ สุปฏิปันโนฯ เป็นหลัก ถ้ามีเวลามากก็เพิ่มพระคาถาเงินล้านเข้าไปด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2014 เมื่อ 02:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 13-05-2014, 11:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หากเดินทางไปจังหวัดขอนแก่น ขอเมตตาพระอาจารย์แนะนำครูบาอาจารย์ที่เราควรไปกราบแล้วเรามั่นใจว่าท่านสอนถูก
ตอบ : อาตมาไม่ใช่ตราประทับที่จะไปรับรองใคร เพราะฉะนั้น..ให้ไปเสี่ยงดวงกันเอาเอง ไม่ใช่มักง่ายมาถาม ยกเว้นว่าถ้าเผลอบอกไปก็ช่วยไม่ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 13-05-2014, 11:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของคำถามพื้นฐาน อย่างเช่นว่าศีล ๘ หรือว่าเรื่องของความเป็นสัปปายะคือเหมาะสมกับสถานที่ เป็นเรื่องมักง่ายมากที่มาถาม ข้อมูลมีท่วมโลกอยู่แล้ว แต่ไม่ได้คิดจะไปค้นคว้ากัน เขาเรียกว่าอาศัยความมักง่าย พอใกล้ก็ถาม ถ้าหากว่าเจ้าตัวมาถามใกล้ ๆ จะได้รางวัล จะ "เป่ายัน" รอบพิเศษให้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-05-2014 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 14-05-2014, 11:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรณีที่เขาสมาทานศีล ๘ โดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง ?
ตอบ : ถ้าไม่รู้ว่ามีอะไร ก็แปลว่าไม่ได้ตั้งใจที่จะละเว้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะละเว้นอานิสงส์ก็ไม่มี ศีล ๘ ก็คือศีล ๕ บวกไปอีก ๔ ข้อ อ้าว...เป็น ๘ ได้อย่างไร ? คือ ข้อที่ ๑ เว้นจาการฆ่าสัตว์หรือทำร้ายสัตว์ให้ลำบากโดยเจตนา ข้อที่ ๒ เว้นจากการลักขโมยหรือหยิบฉวยสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้

ข้อที่ ๓ เว้นจากการสัมผัสระหว่างเพศ คนที่เคร่งครัดจริง ๆ สมัยก่อนเขาแยกตัวไปนอนต่างหากเลย อย่างเช่นว่าไปนอนถืออุโบสถศีลที่วัด หรือหลายบ้านก็แยกไปนอนในห้องพระสักคนหนึ่ง ข้อที่ ๔ คืองดเว้นจากการโกหกเช่นกัน แต่ถ้าจะให้ดีก็ให้เว้นจากการพูดคำหยาบ เว้นจากการพูดส่อเสียด และเว้นการพูดเพ้อเจ้อที่ไร้ประโยชน์ด้วย ข้อที่ ๕ เว้นจากสุรายาเสพติดทั้งปวง

ข้อที่ ๖ เว้นจากการกินอาหารหลังเที่ยงไปแล้ว เพื่อที่จะไม่ต้องมาวิตกกังวลว่า จะต้องเตรียมอาหารอีกมื้อหนึ่ง ขณะเดียวกันร่างกายที่เว้นจากอาหาร เลือดลมเดินคล่องตัว การภาวนาก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น ข้อที่ ๗ บวกกับข้อที่ ๘ รวมเป็น ๑ ข้อ ก็คือเว้นจากการดูการละเล่น ขับร้อง ฟ้อนรำ ประโคมดนตรี เว้นจากการตกแต่งร่างกาย หรือว่าประดับด้วยเครื่องประดับที่มีค่า เว้นจากของหอมเครื่องย้อมเครื่องทาทั้งหมด ข้อที่ ๘ จริง ๆ เป็นศีลข้อที่ ๙ ของสามเณร ก็คือเว้นจากที่นอนสูง ที่นอนใหญ่ ที่ภายในยัดด้วยนุ่นและสำลี

ถ้าอยู่ในสถานที่ซึ่งไม่แน่ใจว่าคนมีความเข้าใจหรือเปล่า ก็ควรที่จะแปลให้ญาติโยมเขาฟังด้วย เมื่อช่วงประมาณ ๒ อาทิตย์ที่ผ่านมา มีคณะญาติโยมจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตไปทำบุญที่วัดท่าขนุน เมื่อสมาทานศีลอาตมาก็แปลศีลให้ฟังด้วย เพราะมั่นใจว่าที่สมาทานส่วนใหญ่ไม่รู้หรอกว่าศีลจริง ๆ เป็นอย่างไร เรียกว่าทำตามพิธีกรรมเท่านั้น

ศีลเป็นพื้นฐานของสมาธิและปัญญา ถ้าศีลไม่ทรงตัว สมาธิจะไม่เกิด การที่เราระมัดระวังรักษาศีลอยู่ทุกอิริยาบถ ก็คือการฝึกสมาธินั่นเอง ขณะเดียวกันถ้าไม่มีสมาธิ ก็จะไม่มีสิ่งที่จะมายับยั้งชั่งใจของตัวเองในการที่จะละเมิดศีล ดังนั้น...การรักษาศีลสร้างสมาธิให้เกิด เมื่อสมาธิเกิดจะมาช่วยระงับยับยั้งใจของตนเองในการรักษาศีลอีกทีหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-05-2014 เมื่อ 16:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 14-05-2014, 11:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,369
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อมีศีล มีสมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัวถึงระดับหนึ่ง ปัญญาก็จะเกิดขึ้น จะเห็นช่องทางว่า ควรจะทำอย่างไรแนวทางการปฏิบัติของตนจึงจะเจริญก้าวหน้าไปเรื่อย เมื่อถึงเวลาแล้วปัญญาก็จะคุมศีลให้ละเอียดยิ่งขึ้นไป ศีลยิ่งละเอียดสมาธิก็ยิ่งทรงตัว สมาธิยิ่งทรงตัวปัญญาก็ยิ่งเกิด ท้ายสุดก็จะเกิดความเบื่อหน่าย ไม่อยากมีร่างกายนี้ ไม่อยากเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์อย่างนี้ ถ้าจิตใจปล่อยวางได้จริง ๆ ไม่ยึดติดกับสิ่งทั้งปวง ก็สามารถที่จะหลุดพ้นจากกองทุกข์ไปสู่พระนิพพานได้

ปัจจุบันมีหลายรายแสดงความรู้แบบเพี้ยน ๆ อยู่ตามเว็บพระพุทธศาสนาต่าง ๆ โดยเฉพาะเว็บพลังจิต อธิบายในลักษณะว่าพระโสดาบันรักษาศีล พระอนาคามีเจริญสมาธิ พระอรหันต์เจริญปัญญา แสดงว่าเข้าใจผิด เป็นมิจฉาทิฐิเต็ม ๆ เพราะไม่ว่าจะเป็นกัลยาณชนหรือพระอริยเจ้าก็ตาม ต้องปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญาทั้งนั้น ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไป ย่อมไม่สามารถเข้าถึงความดีระดับสูงได้

ในเรื่องของการปฏิบัติเป็นเรื่องที่น่ากลัว น่ากลัวตรงที่ว่าหลงผิดได้ง่าย การหลงผิดนั้นส่วนใหญ่แล้วหลงผิดเพราะว่าเข้าถึงธรรมส่วนใดส่วนหนึ่ง แล้วไปยึดมั่นถือมั่นว่านั่นคือสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเรา เหมือนอย่างกับว่าตนเองมีแสงสว่างเท่าหิ่งห้อย แล้วก็เที่ยวบอกกล่าวว่าพระอาทิตย์สว่างแค่นี้ เท่ากับเป็นการกล่าวตู่พระพุทธเจ้า มีแต่จะสร้างโทษให้เกิดกับตัวเองมากขึ้น

แต่ว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ตักเตือนกันได้ยาก เพราะว่าบุคคลมักจะมีความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ตนเองรู้เห็น ถ้าไม่สามารถชี้แจงแสดงเหตุได้อย่างถ่องแท้จริง ๆ มักจะไม่ยอมรับ แล้วกลายเป็นถกเถียงกัน วิวาทะกัน ในเมื่อเกิดวิวาทะขึ้นมา รัก โลภ โกรธ หลงต่าง ๆ ก็ประดังประเดเข้ามา กว่าจะรู้ตัวก็ไหลตามกิเลสไปไกลแล้ว ดังนั้น..เรื่อง
การปฏิบัติธรรมะ ถ้าไม่ใช่ธรรมสากัจฉา คืออยู่ในลักษณะที่สนทนาธรรมเพื่อหวังความเจริญแล้ว ก็ไม่ควรที่จะเอาไปคุยข่มทับถมกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 18-05-2014 เมื่อ 09:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:28



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว