กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 04-10-2013, 18:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เคยมีผู้รู้ท่านตั้งข้อสังเกตว่า อยากรู้ว่ามูลค่าเงินลดลงหรือเปล่าให้ดูที่เหรียญ ถ้าเหรียญเล็กลงไปเรื่อย มูลค่าเงินก็เล็กลงไปด้วย อย่างปัจจุบันประเทศญี่ปุ่นเหรียญ ๑ เยน แทบจะไม่มีค่ามีราคาอะไรเลย แต่ต้องทำออกมา เพราะว่าอย่างเวลาเก็บค่าไฟฟ้าเขามีเศษสตางค์ ต้องทอนให้เขา แล้วเหรียญ ๑ เยน ไม่สามารถใช้โลหะทำได้ เพราะมูลค่าเกินราคา เขาเลยต้องใช้กระดาษพิมพ์ แล้วพ่นสีเงิน ๆ แทน

บ้านเราเหรียญสลึง เหรียญ ๕๐ สตางค์ ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยจะรับแล้ว อาตมาเองรับมาเป็นถุง เข้าร้าน 7 Eleven ทีไรเขาขอแลกหมดทุกที ถ้าใครกลัวว่าจะใช้เหรียญสลึง เหรียญ ๕๐ สตางค์ไม่ได้ ให้ใช้ใน
ร้าน 7 Eleven เขาจะเก็บไว้ทอน พอเห็นถือไปเป็นถุงเขาแทบจะปล้นเลย ขอร้องเป็นการใหญ่ขอแลกด้วย อาตมาก็ทำเป็นเล่นตัวไม่ยอมให้แลก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-10-2013 เมื่อ 19:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 04-10-2013, 19:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยนี้ความเร่งรีบในการทำมาหากินอย่างหนึ่ง ทำให้มีการปฏิสัมพันธ์กับคนน้อยลง อย่างในกรุงเทพฯ บ้านจัดสรรรั้วบ้านติดกันแต่ไม่รู้จักกันหรอก สมัยก่อนพอเขาถามลูกใคร พอบอกชื่อพ่อชื่อแม่ เขาสาวไปยังปู่ย่าตาทวดได้เลย เขารู้จักกันทั้งหมู่บ้าน ทั้งตำบล

สมัยก่อนทำไมคนไม่มีนามสกุล ? เพราะเขารู้จักกันหมด ถึงเวลารัชกาลที่ ๖ ทรงตั้งนามสกุลขึ้นมา เขาก็ยังรู้จักกันอยู่ มาระยะหลัง ๆ ต้องบอกว่าการคมนาคมทำให้การเดินทางรวดเร็วขึ้น คล่องตัวขึ้น ทำให้คนโยกไปย้ายมา คนคุ้นเคยเก่า ๆ จึงหมดไป เลยทำให้ไม่รู้จักกันอย่างแต่ก่อน ที่ดินขายให้คนนั้น ขายให้คนนี้ เปลี่ยนมือไปเรื่อย ต้องโทษว่าเป็นความเจริญทำให้คนไม่รู้จักกัน เพราะเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2013 เมื่อ 20:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 06-10-2013, 11:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของที่ดิน ถ้ามีอยู่อย่าขายทิ้ง อย่างน้อยยังมีที่ปลูกบ้านหรือทำไร่ทำนา ปลูกอะไรทิ้งไว้นิด ๆ หน่อย ๆ แบบเดียวกับท่านผู้พิพากษาไปซื้อที่แถวกะเหรี่ยงบ้านกล้วย ๒๐๐ ไร่ แล้วลงมะนาวไว้ จ้างกะเหรี่ยง ๒ คนดูแลให้ กะว่าพอเกษียณแล้ว ๒ คนผัวเมียจะไปอยู่ที่นั่น พอปีที่ ๓ ลูกน้องโทรมา บอกเจ้านายว่า มีคนมาขอซื้อมะนาวลูกละ ๓ บาท เจ้านายบอกให้ขายไป พอไม่กี่วัน ลูกน้องหอบเงินมาให้ ๔๐๐,๐๐๐ บาท เจ้านายตกตะลึงตาค้าง..!

ปีนั้นมะนาวลูกละ ๘ บาท เขาไปขอซื้อถึงไร่แล้วเก็บเอง เขาให้ลูกละ ๓ บาท แล้วมะนาว ๒๐๐ ไร่มีกี่ต้น ? ต้นหนึ่งอย่างไม่มี ๆ ก็เป็นร้อยลูก แล้วนั่นเพิ่งปีที่ ๓ ต้นยังโตไม่เต็มที่ ยังออกลูกไม่เต็มที่เลย รวยตั้งแต่ก่อนเกษียณแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-10-2013 เมื่อ 20:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 06-10-2013, 11:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้วัดสระพังกำลังจะเลียนแบบวัดท่าขนุน พระอาจารย์วิโรจน์อุตส่าห์ขนเทียนไปให้ทางวัดท่าขนุนหนึ่งคันรถ แล้วบอกว่าจะทำของตัวเองบ้าง ขอยืมแบบไป แต่ของท่านทำช้า เพราะท่านจะเอาลวดร้อยข้างใน ซึ่งท่านไม่รู้ว่าทางเราร้อยมาก่อน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ พอเอาลวดร้อยข้างใน แทงไปไส้เทียนก็ย่นตามไป ไม่ค่อยจะทะลุ

ท่านตั้งใจจะทำถ้วยสเตนเลส เพราะมีลูกศิษย์ที่ทำโรงงานสเตนเลส จะให้ทำแบบมาเพื่องานนี้เลย อาตมาบอกว่าถ้าท่านสั่งทำได้ สั่งให้ผมด้วย ๑๐,๐๐๐ ถ้วย เพียงแต่ว่าต้องเอามาทดสอบก่อนว่า
เวลาโดนความร้อนมาก ๆ มีบิดมีเบี้ยวอะไรหรือเปล่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-10-2013 เมื่อ 01:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 06-10-2013, 12:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราอธิษฐานขอในตอนงานเป่ายันต์ เป็นอธิษฐานบารมีหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นเหมือนกัน แต่ว่าคนที่จะใช้อธิษฐานบารมีนั้น ส่วนใหญ่ต้องเป็นอุปบารมีขั้นปลายแล้ว โอกาสที่จะไม่ทำอะไรเลยเป็นเรื่องยาก แสดงว่าอย่างน้อยต้องมีของเก่าตุนไว้เยอะ ขอแล้วมีสิทธิ์ได้เหมือนกัน ถ้ายังไม่ถึงอุปบารมีขั้นปลาย ยังอธิษฐานไม่เป็นหรอก

ถาม : เหมือนกับการไปอ้อนวอนขอกับพระเจ้าอย่างนี้ ?
ตอบ : ถ้าเราทำความดีในเรื่องศีล สมาธิ ปัญญาช่วย โอกาสสำเร็จก็มีมากเพราะต้นทุนเราสูง แต่ถ้าขออย่างเดียวแล้วต้นทุนเรามีน้อย โอกาสที่จะได้ก็มีน้อย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-10-2013 เมื่อ 17:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 08-10-2013, 11:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าว่า "เมื่อครู่ที่ขึ้นไปพัก นอนภาวนาอิติปิ โส ฯ ๓ ห้องได้ ๑๐ จบ กับคาถาชินบัญชร อีก ๕ จบ ถ้าเป็นสมัยก่อนก็ต้องทวนทุกวัน คาถาแต่ละบท ๆ ทวนจนกำลังใจทรงตัวก่อน แล้วจึงย้ายบทใหม่ มาระยะหลังนี้เริ่มทิ้ง ใช้แค่ไม่กี่บท ส่วนใหญ่ก็เอาอิติปิ โส ฯ ๓ ห้องเป็นหลัก หรือถ้าตอนบิณฑบาตก็ภาวนาคาถาชินบัญชร..ยาวดี จะได้รู้ว่าพลาดหรือเปล่า ? เพราะว่าตอนบิณฑบาตต้องหยุดให้พรโยมเป็นระยะ ๆ เพราะฉะนั้น..ต้องท่องบทยาว ๆ จะได้รู้ว่าเราผิดพลาดหรือไม่"

ถาม : เวลาท่องใช้สมาธิระดับไหน ?
ตอบ :สมาธิสูงเท่าไรก็เอาแค่นั้น รักษาสมาธิเอาไว้สักครู่จนมั่นใจ แล้วค่อยเปลี่ยนบทใหม่

ถาม : ถ้ามีหลายคาถา ?
ตอบ : โอ๊ย...สมัยก่อนอาตมาภาวนาคาถาเป็นร้อยบท กว่าจะภาวนาครบก็หมดวันพอดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 18:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 08-10-2013, 11:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเข้าใจหลอก ท่านว่า “ไอ้หนู..คาถาบทนี้ดีอย่างนี้ ลูกลองเอาไปทำดู ภาวนาอย่างต่ำครึ่งชั่วโมงนะ อย่าลืม..ต้องรักษาศีล ๕ ด้วยถึงจะได้ผลเร็ว” เรียบร้อย..กว่าจะรู้เรื่อง ก็โดนท่านหลอกให้ภาวนาจนชินแล้ว

เรื่องของคาถาอาคม ส่วนใหญ่แล้วเขาเชื่อว่าเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ เราจะเรียกว่าไสยศาสตร์ก็ได้ แต่ครูบาอาจารย์ท่านปรับมาจนเข้ากับกรรมฐาน ก็เลยกลายเป็นพุทธศาสตร์ไป โดยเฉพาะเรื่องของไสยศาสตร์นั้น บางทีอาตมาไปดูแล้วก็ขำ ๆ คาถาส่วนใหญ่เป็นหัวใจพระธรรมทั้งนั้นเลย แต่เขาเอาไปทำเสน่ห์บ้าง อะไรบ้างยุ่งไปหมด แสดงว่าคาถาเป็นเพียงเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิ พอเป็นสมาธิแล้ว พวกเราตั้งใจให้เป็นอย่างไรก็จะเป็นอย่างนั้น เรื่องของคาถาจึงไม่มีความจำเป็น จะใช้ บทอะไรก็ได้

หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม ตอนเด็ก ๆ พ่อพาไปทิ้งไว้ที่ศาลา พ่อขึ้นไปคุยกับหลวงพ่อที่วัด คุยเพลินจนค่ำ ท่านเป็นเด็กอยู่คนเดียวในศาลาก็กลัวผี จึงคิดในใจว่า "กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว" ไปเรื่อย ๆ ใจเป็นสมาธิ กายในหลุดออกไปเฉยเลย ก็เลยสงสัยว่า “วัดยังไม่มืดนี่” ก็เลยหายกลัวผี แต่ความจริงที่ไม่มืดคือกายในเห็น จริง ๆ กลางคืนมืดตื๋อไปตั้งนานแล้ว

สรุปได้ว่า “กลัวแล้ว ไม่เอาแล้ว” ก็สามารถถอดจิตได้เหมือนกัน คาถาก็เลยกลายเป็นเครื่องโยงใจให้เป็นสมาธิเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 08-10-2013, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนขึ้นไปบ้านกะเหรี่ยง ชวนโยมว่านั่งช้างเข้าไปกันไหม ? เขาบอกว่าไม่เอา นั่งช้างเข้าไปครึ่งวัน นั่งออกมาอีกครึ่งวัน โดนเขย่าตายพอดี ครั้งนั้นเกือบจะโดนตำรวจจับที่ด่านยะอุ เพราะว่าครูแดง (นนลณีย์) ไปด้วย พอดีว่าฝนตก ครูแดงก็เอาเสื้อกันฝนใส่คลุมตัว เห็นแต่หน้า แล้วก็นอนหลับอยู่ที่กระบะท้าย ปรากฏว่าผ่านด่านตำรวจ ส่องไฟแล้วครูแดงไม่ตื่น ส่องอย่างไรก็ไม่ตื่น เรียกอย่างไรก็ไม่ตื่น แล้วหน้าครูแดงขาวมาก ซีดเหมือนกับคนตายเลย ท้ายสุดตำรวจต้องเรียกทั้งพระทั้งโยมลงไป ถามว่าตายแล้วหรือยัง ? กว่าจะทุบเรียกขึ้นมาได้ คนเรานอนได้เหมือนตายขนาดนั้นเลยหรือ ? ฝนก็แปะ ๆ ไปตลอดทาง กลางคืนอย่างนั้นหลับเป็นตายขนาดนั้น คนหามไปทิ้งถังขยะยังไม่รู้ตัวเลย"

ถาม : หลับสนิทแบบนั้น ถ้าตายตอนนั้นจะไปไหนครับ ?
ตอบ : ก็ดูว่าก่อนหลับเขาคิดถึงอะไร ถ้าใจเกาะอะไรก็ไปแถวนั้นแหละ

เจออยู่ไม่กี่คน ถ้าที่วัดก็พระครูน้อย พระครูน้อยอดเพลเป็นประจำ เพราะตะโกนเรียกเท่าไรไม่ได้ยินหรอก ต้องไปทุบประตูหรือหน้าต่าง แปลกดีที่คนเราหลับลึกได้ขนาดนั้น ส่วนอาตมาแค่หมาเดินก็ตื่นแล้ว ตึกแดง ๒ ข้างเอากรวดไปโรยไว้ หมาเดินก็จะมีเสียง..แซ็ก ๆ..แซ็ก ๆ


ถาม : ถ้าคนเข้าสมาธิลึก ๆ จนเหมือนกับคนตาย มดไม่กินหรือครับ ?
ตอบ :ถ้ายังมีไออุ่นอยู่ มดยังไม่กิน แต่คราวนี้ว่าพวกปฏิบัติธรรมบางทีเชื่อไม่ได้ ถ้าไม่ใช่สมาธิคุ้มอยู่ก็เสร็จหมด เพราะว่าถอดจิตออกไปแล้วร่างกายเหมือนคนตาย ปู่โทน หลำแพร ล่าสุดได้ยินว่าอายุ ๑๑๔ ปี ตอนที่ไปหาท่าน ท่านบอกว่าหลวงปู่โลกอุดรให้ยาไว้อีกตัวหนึ่ง กินแล้วจะอยู่ต่อได้อีก แต่ว่ายังไม่กล้ากิน ถามว่าทำไม ? เขาบอกว่า สลบเหมือนตายไป ๗ วัน ต้องหาคนที่ไว้ใจได้มาเฝ้า ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวโดนมดเจาะตากินหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 08-10-2013, 11:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คำว่า “โม้” เป็นภาษาไทยโบราณ แปลว่าใหญ่ แบบเดียวกับ ย่าโม ถ้าออกเสียงตามภาษาเก่าจริง ๆ ต้องเป็น ย่าโม้ แปลว่าคุณย่าผู้เป็นใหญ่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 08-10-2013, 11:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "พวกกะเหรี่ยงมีคำทำนายที่ต่อเนื่องกันมาเป็นร้อยปีว่า “ถ้าม้ามีเขา เสามีดอก และงูใหญ่เลี้อยมาถึงหมู่บ้านเมื่อไร เผ่าพันธุ์กะเหรี่ยงโดนกินหมด”

ม้ามีเขาคือม้าญี่ปุ่น มอเตอร์ไซค์ฮอนด้ารุ่นแรก ๆ เหมือนม้ามีเขาจริง ๆ พวกม้ามีเขานี่ขึ้นดอยเป็นพวกแรก ๆ เลย เสามีดอกก็คือเสาไฟฟ้า ถึงเวลากลางคืนก็บาน สว่างโร่ แสดงว่าพวกบรรดาหมอผีของเขาก็มีทิพจักขุญาณที่เห็นอนาคตเหมือนกัน แต่คราวนี้เขาเรียกไม่ถูกว่านั่นคืออะไร แบบเดียวกับที่นอสตราดามุสบอกว่า เขาเอาอาวุธไฟไปไว้ในท้องปลา สมัยนี้ถึงรู้ว่าเป็นเรือดำน้ำ

งูใหญ่มาถึงหมู่บ้านเมื่อไรก็โดนกินหมด งูใหญ่ก็คือถนน ตามจริงการเปลี่ยนแปลงก็เป็นไปตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้าที่ว่าทุกอย่างไม่เที่ยง แต่นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ถึงขนาดเปลี่ยนวิถีชีวิตของเผ่าพันธุ์ไปเลย รู้สึกว่าอเนจอนาถ จากบุคคลที่พออยู่พอกิน สันโดษ ก็ต้องกลายเป็นแข่งขันกัน คนนั้นมี คนนี้มี เราก็ต้องมีบ้าง จากที่ทำแค่พออยู่พอกิน ก็ต้องทำลักษณะเชิงพาณิชย์ ก็ต้องไปตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้น เพื่อให้ได้ผลิตผลมากขึ้น

อาตมาขึ้นดอยไปเจอเด็กไฮไลท์ผม ๗ – ๘ สีก็มี อะไรที่ข้างล่างมี บนดอยมีหมด

ความเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ต้องเกิดอยู่แล้ว แต่รู้สึกว่าเปลี่ยนเร็วเกินไป ฝรั่งเขาบอกว่าบางทีมีคนที่ป่วยเป็นโรค Future Shock คือรับการเปลี่ยนแปลงที่เร็วเกินไปของอนาคตเขาไม่ไหว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 08-10-2013, 11:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความเชื่ออย่างหนึ่งที่เป็นสากล และชาวเขาแก้ไม่ตกก็คือ ความกลัวผี ทันสมัยใหม่เสมอขนาดไหนก็กลัวผี พวกกะเหรี่ยงพอมืดลงก็ไม่ต้องชวนเลย เขาไม่ออกจากบ้าน พอเห็นอาตมาเดินทางตอนกลางคืนก็สงสัยว่าไม่กลัวผีหรือ ? อาตมาบอกว่ากลัวงูมากกว่า

ความกลัวเกิดจากความไม่รู้ เป็นภาษาพระเรียกว่า อวิชชา ในเมื่อไม่รู้ก็กลัว พอรู้แล้วก็หายกลัว (หรือว่ากลัวยิ่งขึ้น ?) ส่วนใหญ่รู้แล้วจะหายกลัว ถ้ารู้ความจริงว่าผีน่าสงสาร ก็เปลี่ยนจากกลัวมาเป็นสงสารผีแทน เขาลำบาก ถึงเวลาทำได้สวยที่สุดแค่ที่เราวิ่งหนี..!

มีคนสงสัยว่าผีทำไมต้องมีผ้าขาวมาคลุมด้วย แสดงว่าปรากฏตัวไม่ชัด ก็เลยอาศัยผ้าเป็นรูปแทน

ถาม : ถ้าผีมาลักษณะเหมือนคน จะรู้ได้อย่างไรว่านั่นเป็นผี ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจเพ่งมองจะมองทะลุ ไม่อย่างนั้นจะคิดว่าเป็นคน

เวลาผีจะปรากฏตัว ต้องใช้กำลังดึงเอาดิน น้ำ ลม ไฟ ไปรวมกันให้เกิดร่างหยาบขึ้น คราวนี้ไฟฟ้าของเรากระพริบด้วยความเร็วประมาณ ๕๐ รอบต่อวินาที แรงที่กระพริบเป็นคลื่น จะกระแทกจนกระทั่งพวกโมเลกุลโดนดึงมารวมกันไม่ได้ เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าเป็นผีที่ฝีมือต่ำ ๆ หน่อย จะปรากฏตัวไม่ได้เลย ใครนะที่เป็นต้นคิดว่า ถ้าเปิดไฟแล้วผีจะไม่หลอก ? รู้ได้อย่างไร ? แสดงว่าเขาเคยเปิดแล้วผีกระจายหายไปเลย แต่ว่ากันได้เฉพาะผีที่ฝีมือต่ำ ๆ นะ ถ้าพวกฝีมือสูง ๆ ก็เสร็จเขาอยู่ดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 08-10-2013, 11:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าตั้งศาลพระภูมิในช่วงเข้าพรรษา ควรใช้เดือนไหน ?
ตอบ : ปกติแล้วเขาไม่นิยมทำในพรรษา ให้ทำนอกพรรษา หาวันพฤหัสบดี ข้างขึ้น เดือนคู่ ก็คือ เดือน ๑๒ เดือนยี่ เดือน ๔ เดือน ๖ เดือน ๘ ข้างขึ้น ในพรรษาหมอเขาไม่รับตั้งให้ ฉะนั้น..บอกพระภูมิท่านว่าใจเย็น ๆ อีกพักเดียว เดือน ๑๒ แล้วจะตั้งให้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-10-2013 เมื่อ 19:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 08-10-2013, 11:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,166 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนกันยายนปี ๕๖ หมดแล้วค่ะ

ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 15:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว