กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 23-12-2013, 21:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาซื้อทองคำเกินบัญชีไป ๔ ล้านกว่าบาท เพราะว่าพอทองลดราคามาจนได้ราคาพอใจก็รีบซื้อ ปล่อยไปเดี๋ยวขึ้นราคาอีก ทองคำแท่งละ ๕๐ บาทก็พอที่จะฟาดหัวคนถึงตายแล้ว หนักแท่งละ ๗ ขีดครึ่ง ความจริงน่าจะมีแท่งละ ๑๐ กิโลกรัม ไม่ใช่อะไร..ซื้อแล้วจะวางทิ้งไว้ตรงนี้ ดูว่าใครจะอุ้มไปไหว ?

สมัยเป็นฆราวาสอาตมาซื้อทองคำแท่งละ ๑๐ บาทไว้ ๒ แท่ง ยาวประมาณนิ้วมือ ทิ้งไว้บนเตียง พี่ชายเข้ามาหยิบ ๆ ดู “ไอ้ห่..ของแบบนี้เขาก็เอามาปลอมกันเล่นด้วย” แล้วก็โยนไว้ที่เดิม แสดงว่าอาตมานี่หุ่นไม่น่าเชื่อถือเลยว่าจะมีทองคำกับเขา ขนาดทองจริงเขายังเห็นเป็นปลอมเลย

ในชีวิตที่เห็นทองคำมากที่สุดก็คือทองธรรมชาติ มหาศาลเลย ที่วัดท่าซุงปีนั้นหลวงพ่อขอแรงให้ไปช่วยสร้างเพิงพักให้หมา ก็คือหมาที่ท่านเลี้ยงไว้ที่ตึกสงวนจิตรและเพื่อน ที่ท่านเรียกว่าตึกกลางน้ำ หมาก็วิ่งอยู่รอบ ๆ สระน้ำ ไม่มีที่ให้หลบร้อน หลวงพ่อท่านก็ขอให้ไปช่วยทำศาลาให้หมาหน่อย อาตมาก็ไป จำได้ว่ามีหลวงตาชลอด้วย หลวงตาสวัสดิ์ หลวงตาชลอ หลวงน้าสัมฤทธิ์ หลวงพี่สุธน ไปช่วยกันทำ คราวนี้ก็ไปหาเสาเก่า ๆ เอาในวัดนั่นแหละ

ปรากฏว่าเป็นเสาปูน สูง ๕ เมตร เป็นเสาที่เรียกเสาตีนช้าง ที่ต้นใหญ่ ๆ ตัวเสาขนาดหน้า ๕x๕ นิ้ว แต่ความยาว ๕ เมตร ก็คิดว่าเราต้องการสร้างสูงสัก ๒.๕ เมตร ถึง ๓ เมตรเท่านั้นเอง นี่เสายาวตั้ง ๕ เมตร อย่างน้อยก็ต้องขุดหลุมลึก ๒ เมตร จึงตั้งหน้าตั้งตาขุด ขุดไป ๆ ตักขึ้นมา เฮ้ย..! ทองคำ..เป็นทราย ๆ เลย แล้วทุกคนก็พร้อมใจกันโกยกลบไปเสียอย่างดี แล้วก็มาตัดเสาแทน ทอนให้เหลือยาวเท่าที่ต้องการ ตอนแรกทำไมไม่คิดที่จะตัด ? เหมือนกับท่านต้องการให้เรารู้ว่ามีอยู่จริง ๆ ทำให้พวกเราโง่ขุดหลุมลงไปได้ตั้ง ๒ เมตร ถ้าท่านไม่ได้ตั้งใจให้พวกเราเห็น อย่างไรก็ต้องคิดตัดเสา เพราะว่าเสายาวเกินต้องการไปมาก

อีกครั้งหนึ่งก็ไปดูภูเขาทองที่หลวงพ่อท่านบอกไว้ เพราะฉะนั้น..ชีวิตนี้ก็เลยเฉย ๆ กับของพวกนี้ คิดอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าอยากรวยเมื่อไรก็ไปสึก แล้วก็ไปขนเอา อะไรที่เห็นเยอะเกินไปก็จะหมดอยากไปเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 23-12-2013, 21:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตอนช่วงสร้างสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ที่วัดท่าซุง หมอนพพรมาปรึกษาว่า เป็นครั้งแรกที่จะมีพระรูปสมเด็จองค์ปฐมปรากฏขึ้นในโลก ก็ควรที่จะหาวัตถุที่มีราคาที่สุดเท่าที่เราหาได้มาสร้าง อาตมาถามหมอว่าหมอจะใช้อะไร ? “ทองคำครับ ผมไปถามช่างมาแล้ว บอกว่าใช้ประมาณตันครึ่ง” ก็ถามแล้วหมอจะหาอย่างไร ? หมอบอกว่า “ขอทองคำของหลวงพี่นั่นแหละ” แล้วท้ายสุดก็เอาแผนที่ทหารมาอาตมา ก็ทำเครื่องหมายให้ว่าอยู่ตรงนี้

หมอนพพรหายไป ๒ วัน กลับมาถึง “โอ้โฮ...หลวงพี่ มีมากมหาศาลจริง ๆ ครับ” “อะไรวะหมอ อาตมาขนาดแข็งแรง ๆ วิ่งไปนี่ ๒ วันเต็ม ๆ นะ หมอไปอย่างไร ๒ วันกลับมาแล้ว ?” หมอนพพรเคยโดนอาตมาลากเข้าป่าชนิดตะคริวกินมาแล้ว แกเดินอย่างไรก็ไม่ทันอาตมาหรอก อย่าว่าแต่วิ่ง หมอเขาว่า “ผมเป็นผู้บังคับกองพันครับ ผมมีสิทธิ์สั่งเฮลิคอปเตอร์ออกได้ ขีดเส้นให้เขาบินผ่านตรงนั้น แล้วผมเอาเครื่องวัดแร่วัด เข็มตียันเกจ์เลยครับ” นั่นขนาดวัดจากกลางอากาศนะ

ก็เลยบอกว่า "ถ้าอย่างนั้นหมอไปวางแผนมาแล้วกัน ในเมื่อเป็นผู้บังคับกองพัน มีทหารอยู่ในมือ ถ้าทหารแข็งแรงเต็มที่ คนละ ๓๐ กิโลกรัมน่าจะแบกไหว ก็ต้องเอาทหารไปอย่างน้อย ๕๐ คน " หมอหายไปเป็นอาทิตย์เลยคราวนี้ กลับมาบอกว่า “คงทำไม่ได้แล้วครับหลวงพี่” ถามว่าทำไม ? “๕๐ คนนี่ต่างคนต่างถือปืน ไม่มีใครฟังผมหรอก” โดยเฉพาะถ้าอาตมาไปนี่ซวยเลยนะ เพราะถ้าบอกว่าเอาแค่ไหนคือเอาแค่นั้น แล้วถ้าคนอื่นเขาโลภอยากได้ ประเภทหยิบใส่กระเป๋ามาสักกำสองกำ เจ้าที่เขาไม่ได้เล่นงานพวกนั้นหรอก เขาจะเล่นงานหัวหน้าคณะคืออาตมาก่อน ท้ายสุดต้องยกเลิกโครงการไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 23-12-2013, 21:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"หลังจากนั้นแล้วอีกหลายปี ไปอยู่ที่วัดท่าขนุนครั้งแรก ไปช่วยเขาบูรณะวัด ประมาณปี ๒๕๔๔ - ๒๕๔๕ ก็ปรากฏว่ามีโยมอยู่คนหนึ่ง ไปถามทาง มุ่งมั่นจะเข้าไปให้ได้ ก็เลยบอกทางเขาไป ปรากฏว่าหายไป ๓ - ๔ วัน ก็ถอยกลับมาสะบักสะบอม ถามว่าทำไม ? “สู้ทากไม่ไหวครับ” สำหรับทากขนาดอาตมาวิ่ง ๆ ยังโดนเกาะเต็มเท้าเลย คือพื้นพอสะเทือนทากก็จะยกหัวขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ใบไม้ไหวดังซ่า ๆ น่ากลัวมากเลย อาตมาไม่ค่อยจะกลัวพวกทากนี้หรอก ใช้วิธีวิ่งเอา แต่ก็โดนเกาะเต็มเท้า พอไปถึงตรงไหนที่พอหยุดได้ก็ปลดทิ้ง แล้ววิ่งต่อไป

ที่ต้องวิ่งไปไม่ใช่ว่าเก่ง เพราะ ๒ สาเหตุ สาเหตุแรกคือเวลาไม่พอ เพราะอาตมาขาดการลาไปดูแลหลวงปู่มหาอำพันที่ป่วยไป ๔๕ วัน เกินกำหนดของทางวัด ตอนแรกคณะกรรมการสงฆ์เขาลงมติให้ไล่ออก แล้วก็ส่งเรื่องไปถึงหลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงพ่อท่านแทงเรื่องลงมาว่า การกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ถือว่าสมควร ให้ตัดวันลาก็แล้วกัน ก็เลยกลายเป็นว่าอาตมาเป็นคนเดียวที่ลาได้แค่ ๗ วัน ในเมื่อ ๗ วัน เวลาไม่พอก็ต้องวิ่ง ประการที่สอง ที่วิ่งเพราะทากบังคับอยู่ ไปช้า ๆ ไม่ได้หรอก โดนกินเลือดตายเลย..!

ปรากฏว่าหายไปเดือนกว่า เจ้านั่นมาใหม่อีกรอบหนึ่ง มาคราวนี้ทำอย่างไร เช่าช้างของกะเหรี่ยงเข้าไป เออ..ฉลาดว่ะ เล่นขึ้นหลังช้าง จะเอาให้ได้ ปรากฏว่าเป๋กลับมาอีก ถามว่า “เป็นอย่างไรวะ ?” เขาบอกว่าเจอทากบนต้นไม้ ไปไม่รอด พวกทากตอง เป็นทากสีเขียว ๆ อยู่บนต้นไม้ พวกทากทั่วไปจะสีน้ำตาล ทากลายเสืออยู่ที่พื้น ถ้าทากตองจะอยู่บนต้นไม้ พอเดินผ่านก็ดีดใส่เรา เมื่อแปะลงมาเราจะรู้สึกเย็น ๆ ทำให้แกะทัน แต่ถ้าพวกความรู้สึกช้า ๆ เดี๋ยวทากเข้าหูเข้าหัวก็ยุ่งเลย สรุปแล้วก็คือไม่ได้รับประทานหรอก

แต่เป็นเรื่องแปลกอยู่เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับบุญของคน อาตมาเองตอนแรกก็หาไม่เจอ เพราะหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่าที่เมืองกาญจนบุรีมีภูเขาอยู่ลูกหนึ่ง ทางด้านทิศเหนือเป็นยอดแหลมขึ้นมาให้เป็นที่สังเกตได้ ภูเขาลูกนั้นจากกึ่งกลางออกไป ๑๕ กิโลเมตรโดยรอบ เป็นทองคำทั้งหมดเลย อาตมาก็พยายามเสาะหาแผนที่ทหารมา สมัยเรียนทหารอยู่เคยได้ที่ ๑ วิชาแผนที่ทหาร มองอย่างไรก็มองไม่ออก เพราะในแผนที่นั้นเป็นแค่ชั้นความสูง

ท้ายสุดก็ไปได้ข่าวว่ามี ตชด.เขารับซื้อทอง ชาวบ้านเขาร่อนทองกัน อาตมาก็เลยไปดู เห็นชาวบ้านร่อนทองในลำห้วยกันตลอดทางเลย ถึงเวลาตชด.เขาก็รวบรวมไว้สัก ๒๐ บาท ๓๐ บาท ๕๐ บาท ๑๐๐ บาท แล้วก็เอาเฮลิคอปเตอร์บินออกมาจำหน่ายทีหนึ่ง อาตมาจึงทวนน้ำขึ้นไปจนเจอ ที่ว่าเป็นเรื่องของบุญคนก็คือ ชาวบ้านทั้งหมดต้องรู้ว่าทองมากับน้ำ ทำไมไม่ขึ้นไปดูก็ไม่รู้ ? คาดว่าก็มีอยู่ ๒ อย่างคือ ถ้าไม่ใช่เทวดาเขาบังเอาไว้ เขาก็ได้ตามบุญของเขาแค่นั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 23-12-2013, 21:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เรื่องของทองคำธรรมชาติเป็นทรัพย์แผ่นดิน รอเวลาที่ผู้นำประเทศที่เห็นแก่ชาวบ้านจริง ๆ ได้เอาออกมาใช้งาน ถ้าสมัยนี้ออกมาก็เป็นของคนไม่กี่คน ไปขำตรงที่เขาเช่าช้างไป อาตมาเองยังคิดไม่ถึงเลย

แต่เรื่องของสมเด็จองค์ปฐม ท้ายสุดญาติโยมก็บริจาคทองคำร่วมสร้างกับหลวงพ่อไป ๗๘ กิโลกรัม หลวงพ่อท่านให้เทเบ้าที่ ๓ เบ้าแรกจะเป็นเศียรพระ เบ้าที่ ๒ นี่บริเวณพระอังสะ ก็คือบริเวณไหล่ เบ้าที่ ๓ น่าจะประมาณอก ท่านบอกว่า "ถ้าแกเทเบ้าแรก เดี๋ยวมีคนจ้องตัดเศียรพระ"

ตอนสร้างพระองค์ที่ ๑๐ กับพระองค์ที่ ๑๑ โยมบริจาคทองมา ๒๒ กิโลกรัม ทองที่ว่านี่คือทองจริง ๆ เลย ไม่ได้เกี่ยวกับพวกที่เป็นเพชรเป็นพลอย พวกที่เป็นเพชรเป็นพลอยเขาบริจาคกันมามหาศาลเลย แต่ว่าเอาไปหล่อไม่ได้ เพราะว่าเพชรพลอยจะแตกระเบิดเสียของหมด ท่านให้คัดออกมาเพื่อที่จะเอาบรรจุอย่างเดียว

ใครจองพระไว้ไปรับได้เลยนะจ๊ะ เอาทองแท่งไปให้คุณก้านบัวข้างหลัง โปรดอย่าเอามาใส่ขันให้อาตมา ระยะหลังนี่หลายที ต้องมาถามว่าทองคำของใคร พอถึงเวลาทำวัตรเสร็จแล้วเดินมา เขาใส่ย่ามกันเป็นทาง กลับมาถึงกุฏิมีทองคำด้วย แล้วก็ไม่เขียนไว้ด้วยว่าใคร ต้องมาหาตัวให้เจอ เพื่อที่จะได้ลงบัญชีถูกว่ารับจากใครมา น้ำหนักเท่าไร เดี๋ยวพอโยมเอาทองมาให้ครบงวดนี้ อาตมาก็มีทองเป็นสิบกิโลกรัมแล้ว ใกล้ความจริงแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 23-12-2013, 21:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยกังวลกับเรื่องเงินเรื่องทอง ทำให้บางทีทิ้งเงินทิ้งทองกองไว้เฉย ๆ แล้วก็ไม่หาย เพราะไม่มีใครคิดว่าจะเป็นอย่างนั้น อาจจะเป็นเพราะว่าในอดีตไม่ค่อยได้ทำกรรมเรื่องอทินนาทานหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ?

ครั้งแรกที่เกิดขึ้นเลยก็คือ ตอนนั้นอยู่ที่ชายแดน ทำหน้าที่เสมียนกองร้อย เบิกเบี้ยเลี้ยงมา ๒ แสนกว่าบาท จะจ่ายให้กำลังพล คราวนี้การเดินทางไปเบิกเบี้ยเลี้ยง ถนนอย่างกับเตาขนมครก เขย่าจนกรอบเลย ก็ปรากฏว่ากลับมาแล้วหมดสภาพ เอาถุงใส่เงินของธนาคารโยนไว้หัวเตียงแล้วก็หลับ ตื่นขึ้นมารุ่งเช้าก็ลืมไป จนกระทั่งถึงเย็น พวกบรรดาทหารเขาก็มาถาม “เมื่อไรจะจ่ายเบี้ยเลี้ยงผม ?” อาตมาก็ว่าตายแล้วกู..เงินอยู่ไหนวะ ? ก็วิ่งไปดู ปรากฏว่ากลิ้งลงไปอยู่ข้างซอกตู้ เตียงทหารจะมีเตียงแล้วก็มีตู้คั่นสลับกันไป ทางท้ายเตียงจะเป็นล็อกเกอร์เตี้ย ๆ ปรากฏว่าอยู่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีใครคิดว่าจะมีคนเอาเงินไปโยนทิ้งไว้อย่างนั้น ก็เลยไม่มีใครไปแล คิดว่าเป็นห่อของอย่างอื่น

บางทีอยู่ที่วัดก็เหมือนกัน ถึงเวลาเบิกเงินธนาคารมา ๓ ล้านบาท ๕ ล้านบาท จะมาจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง กลับมาบางทีเหนื่อยก็โยนกองไว้กลางกุฏิ พอไปตรวจงาน ตรวจไปตรวจมา ลืมว่าทิ้งเงินไว้ กลับมาก็ยังอยู่ที่นั่นแหละ ไม่ได้ไปไหนหรอก

ส่วนตอนไปพม่าเคยแลกเงินเขาทีหนึ่ง ๒๒ ล้าน เอาใส่กระสอบปุ๋ย มัดปากเสร็จก็โยนโครมใส่รถกระบะที่เราเช่าไป แล้วก็ไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวกินน้ำอยู่ ไม่มีคนสนใจเลย เพราะไม่มีใครคิดว่าจะมีคนเอาเงินทั้งกระสอบโยนไว้ท้ายรถกระบะ เพราะว่าตอนนั้นเงินไทย ๑ ล้านบาทแลกเงินพม่าได้ ๒๒ ล้าน แล้วพม่าก็ยังไม่มีธนบัตรใบพัน ใหญ่ที่สุดก็คือใบละ ๕๐๐ กับใบละ ๒๐๐ เงิน ๒๒ ล้านนี่ใส่กระสอบปุ๋ยเต็มแน่น ๆ เลย

ก็เลยทำให้เห็นว่า ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า บุคคลที่ไม่เคยมีกรรมอทินนาทานในอดีตมา ชาตินี้ทรัพย์สินจะไม่สูญหายด้วยประการต่าง ๆ ทั้งโจรภัย วาตภัย อัคคีภัย อุทกภัย ฯลฯ ก็น่าจะจริง เพราะเรื่องของการเงินนี่อาตมาหละหลวมมากเลย เป็นคนที่เห็นเงินจนเบื่อก็เลยไม่ได้ใส่ใจ
กับเงิน พลอยทำให้คนอื่นรู้สึกว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะว่ากุฏิบางทีก็เปิดทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ เอาไว้อย่างนั้นแหละ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 23-12-2013, 22:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนสมัยก่อนที่เขายังไม่มีนามสกุล เราจะอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตายอย่างไรครับ ?
ตอบ : นึกถึงเขาก็ใช้ได้แล้ว

เมื่อสักครู่หมอเสือถามว่า ถ้าผีที่เป็นคนโบราณไม่มีนามสกุล จะอุทิศส่วนกุศลให้เขาได้อย่างไร ? เรื่องของผีไม่ต้องมีนามสกุลจ้ะ เราแค่นึกถึงว่าเป็นเขาคนนั้นก็ใช้ได้แล้ว ถ้ารู้ชื่อรู้นามสกุล ให้ออกชื่อนามสกุลเจาะจงไป ถ้าไม่รู้ชื่อไม่รู้นามสกุล ให้นึกว่าเป็นผู้ตายคนนั้น ถ้าเห็นรูปให้ตั้งใจว่าเป็นเจ้าของรูป เจ้าของเงานั้น ถ้าได้ยินแต่เสียง ให้ตั้งใจว่าเป็นเจ้าของเสียงนั้น ถ้ามาแต่กลิ่นให้ตั้งใจว่าเป็นเจ้าของกลิ่นนั้น ใช้ได้เหมือนกัน

ไม่ต้องไปเสียเวลาไปหานามสกุลให้เขาหรอก เพราะว่าชื่อนามสกุลตรงกันมีเยอะแยะไป โดยเฉพาะฝรั่ง ต่อให้จูเนียร์ขนาดไหนก็ตาม พอไปอีก ๓ - ๔ ชั่วคน ก็เป็นซีเนียร์ไล่กันไปเรื่อย

ฝรั่งเขามีคตินิยมว่า พอรุ่นที่ ๓ ไปเขาจะตั้งชื่อคนรุ่นปู่รุ่นย่าเอาไว้ เพราะอย่างนั้นก็จะมีชื่อซ้ำ ๆ กันไปเรื่อย แต่ภพภูมิข้างล่างเขาไม่กังวล ข้างล่างเขาเอาชื่อแรก แล้วไม่ใช่ชื่อแรกธรรมดา อาจเป็นชื่อในชาติแรกด้วย ในความเป็นทิพย์ พอเขาเรียก เราจะรู้ทันทีว่านั่นคือตัวเรา เพราะฉะนั้น..ไม่ต้องกังวล ชื่ออะไรก็ช่างเถอะ สมมติด้วยกันทั้งนั้นแหละ

เรื่องของผีที่เกาะคนมา มี ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกคือเคยมีกรรมเนื่องกันมา สาเหตุที่สองคือเขาบังคับใช้ให้มา ถ้ากำลังใจเรามั่นคง หัดภาวนาจนกำลังใจทรงตัว ถ้าจะเอาปลอดภัยจริง ๆ ก็ระดับปฐมฌานขึ้นไป แต่ว่าให้ภาวนาอย่าทิ้ง ถ้าทิ้งช่วง เวลากุศลกรรมแทรกเขาก็มีโอกาสเกาะใหม่ได้ ถ้าเราภาวนาจนกำลังใจทรงตัวระดับปฐมฌาน กำลังของเราจะเท่ากับพรหม ซึ่งสูงเกินผีไปหลายล้านเท่า เขาทำอะไรเราไม่ได้หรอก

เพราะฉะนั้น..ให้ตั้งใจนึกถึงพระ แล้วก็จับลมหายใจภาวนาไว้ ถึงเวลานึกภาพพระแล้ว หายใจเข้าก็ให้ท่านไหลเข้าไปในตัวเราทั้งองค์ หายใจออกให้ท่านใหญ่ขึ้นมาคลุมตัวเราไว้ หายใจเข้าท่านก็เล็กลงไปอยู่ข้างใน หายใจออกท่านก็ใหญ่ขึ้นมาคลุมตัวเราไว้ ถ้าใครทำอย่างนี้ได้ ผีที่ไหนก็เข้าไม่ได้หรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 23-12-2013, 22:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ไปต่างประเทศเจอผีเยอะมาก แล้วลำบากตรงที่ว่า เขาไม่มีคนที่รู้ในเรื่องของการอุทิศส่วนกุศลให้ ผีก็เลยลำบากตะเกียกตะกายไปเรื่อย จนกว่าจะเจอคนที่ให้เขาได้ ก็จะไปรุมตอมกันเป็นฝูงเลย อาตมาไปอินโดนีเซียเจอทีหนึ่ง ๗,๐๐๐ - ๘,๐๐๐ ตัว ถ้าคนทั่ว ๆ ไปเห็นก็คงคิดว่าอาตมาเป่านกหวีดเรียกม็อบ..มากันทีขนาดนั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 23-12-2013, 22:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สิงห์ของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ตัวประมาณเล็บนิ้วก้อยเท่านั้นเอง แต่เขาแกะหัวหูหน้าตานี่สุดยอดมาก คิดว่าคงฝีมือระดับช่างสิบหมู่เลย เพราะสมัยนั้นเสด็จในกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ท่านไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ยิ้ม น่าจะมีพวกช่างหลวงแกะถวาย สมัยนี้ถ้าจะแกะให้ละเอียดได้ขนาดนั้นต้องใช้เลเซอร์อย่างเดียว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 24-12-2013, 11:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์พูดถึงเรื่องการเมืองว่า "กำลังดูว่านายหัวสุเทพจะลงอย่างไร ? เมื่อเช้าอาตมาพูดไปว่า ได้คืบจะเอาศอกแล้วจะจบไม่ลง ตอนนี้ปัญหาที่ถามก็คือว่า ถ้าขับไล่รัฐบาลออกไป แล้วใครจะเป็น ? ถ้าให้นายหัวสุเทพเป็นนายกฯ มีใครเอาไหม ? ต้องบอกว่าทำอะไรโดยไม่คิด

ดังนั้น..เราจะเห็นว่าเรื่องของสติสัมปชัญญะสำคัญมาก ๆ ถ้าช่วงที่รัฐบาลเขายอมถอย ถอนทุก พรบ.ออกไปแล้ว ตัวเองบอกเลิกม็อบ จะลงได้สวยสุด ๆ แล้วเลือกตั้งคราวหน้านี่เพื่อไทยเหนื่อยสาหัสเลย แต่คราวนี้คุณสุเทพไม่ยอมเลิก ตอนแรกก็ต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรม ซึ่งอาตมาก็เห็นด้วยเพราะเป็น พรบ.ห่วยแตกมาก ประเภทที่จะนิรโทษกรรมเหมาเข่ง ต่อไปเขาก็ฆ่าคนกันสนุกสนานแล้วก็นิรโทษเหมาเข่ง ไม่ต้องรับโทษกันสิ แต่พอเสร็จสรรพเรียบร้อย กลายเป็นต่อต้านระบอบทักษิณ

มีใครสามารถตอบอาตมาได้บ้างว่า ระบอบทักษิณคืออะไร ? ช่วยบอกหน่อยซิว่าคืออะไร ? ถ้าบอกว่าระบอบทักษิณคือการคอรัปชั่นโกงกิน แล้วโรงพัก ๓๐๐-๔๐๐ แห่ง มีแต่เสาโด่เด่คืออะไร ? แล้วถ้าจะเอาใกล้ตัวกว่านั้น ส.ป.ก. ๔-๐๑ คืออะไร ? ถ้าบอกว่าระบอบของทักษิณเผด็จการ แล้วที่ส่งทหารฆ่าชาวบ้านไป ๙๐ กว่าศพคืออะไร ? เพราะฉะนั้น..เขาตอบไม่ได้หรอกว่าคืออะไร รู้อยู่อย่างเดียวว่า ถ้าบุคคลคนนี้อยู่แล้วตัวเองจะทำอะไรลำบาก เพราะฉะนั้นควรจะให้เขาไป กลายเป็นทำเพื่อตัวเอง ไม่ใช่ทำเพื่อประชาชน ถ้าเรามีสติสัมปชัญญะหน่อยเดียวก็จะเห็น

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จริง ๆ แล้วก็คือ คนส่วนมากโดนหลอกให้เป็นเครื่องมือ ที่เขาบอกว่ากลัวผีทักษิณจนขึ้นสมองนั่นแหละ พูดอะไรถึงทักษิณออกมา ถูกผิดอย่างไรกูต่อต้านไว้ก่อน

ถ้าถามว่าคุณทักษิณทำผิดไหมที่ผ่าน ๆ มา ถ้าบอกว่าเรื่องการขายดาวเทียมให้เทมาเส็ก ก็นั่นเป็นกิจการของแก แล้วอีกอย่างแกแก้กฎหมายเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยขาย ก็ไม่ผิด แต่ปรากฏว่ากฎหมายใหม่ที่ออกมา โดยเฉพาะรัฐธรรมนูญปี ๒๕๕๐ ผิดหลักนิติธรรมของทั้งโลกเลย เพราะว่าเป็นการเอาผิดย้อนหลัง ซึ่งไม่มีกฎหมายประเทศไหนในโลกเขาทำกันอย่างนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีข้อห้าม ตราบนั้นยังไม่ผิด แม้กระทั่งศาสนาพุทธของเราก็เหมือนกัน ตราบใดที่ยังไม่บัญญัติศีล ก็ไม่ผิด บุคคลที่เป็นต้นบัญญัติศีลพระพุทธเจ้ายังยกให้ เพราะท่านถือว่ายังไม่มีข้อห้ามมาก่อน

แต่นี่มาเอาผิดย้อนหลัง ในขณะที่ยังไม่มีกฎหมายอย่างนี้ ซึ่งไม่ถูกหลักนิติธรรม แต่เขาก็ทำกัน แล้วก็ปล่อยกันมาเรื่อยเปื่อย ซึ่งถ้าจะประท้วง ควรที่จะประท้วงกันตรงนี้ แบบนี้ทั่วโลกเขาสนับสนุน เพราะไม่มีกฎหมายประเทศไหนเขาไปเอาผิดย้อนหลัง ถ้าวันไหนที่ประกาศเป็นกฎหมายเรียบร้อยแล้วใครทำผิด นั่นถึงจะเอาผิดได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 24-12-2013, 11:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"เราจะเห็นว่าเรื่อง ๒ มาตรฐานในบ้านเรานั้นชัดเจนมาก โดยเฉพาะต่างคนต่างก็ดึงฟ้าต่ำ ยึดประเทศไทยถวายคืนเป็นระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ถามหน่อยว่าในหลวงจะรับไหม ? ฟังดูก็บ้าแล้ว ปรากฏว่าคนที่บ้าก็เยอะเสียด้วย ก็เลยไปกันเรื่อยเปื่อย อาตมานั่งดูแล้วก็ว่าดีเหมือนกัน บ้านเราเมืองเราก่อนหน้านี้เป็นเสือตัวที่ ๕ ของเอเชีย แซงหน้าประเทศจีนอีกต่างหาก ปัจจุบันนี้เป็นเต่าตัวสุดท้ายของอาเซียน ไม่ต้องไปไหนหรอก ประท้วงกันอยู่นั่นแหละ

เหมือนกับว่านายหัวสุเทพเดินเข้าซอยตันเอง ก็แกเล่นประกาศว่ายุบสภา นายกฯ ลาออก แกก็ไม่รับ แล้วจะให้ทำอย่างไร ?..ถามหน่อย ไม่เป็นไร...โบราณเขาบอกว่าคนบ้ามี ๕๐๐ จำพวก ถ้าเพิ่มมาอีกจำพวกหนึ่งก็ไม่มากเท่าไรหรอก

บ้านเราโชคดีที่ยังมีในหลวงอยู่ แต่ในขณะเดียวกันอาตมาก็สงสารในหลวงมาก บ้านเราประเภท ๒ - ๓ คนทะเลาะกันยังหาความสุขไม่ได้ แล้วถ้าลูก ๖๐ กว่าล้านคนทะเลาะกัน จะฆ่ากันอยู่ทุกวัน แล้วจะให้ในหลวงท่านมีความสุขได้อย่างไร ?

คนเราส่วนใหญ่มีนิสัยดูความผิดคนอื่น ไม่ได้ดูความผิดตัวเอง ในเมื่อดูความผิดคนอื่น เห็นข้อบกพร่องของคนอื่น ก็พยายามที่จะไปจี้ให้เขาแก้ไข โดยที่ไม่ได้แก้ไขตัวเอง อย่างที่เขาบอกว่า ผิดคนอื่นมองเห็นเป็นภูเขา ผิดของเรามองเห็นเท่าเส้นขน ตดคนอื่นเหม็นเบื่อเหลือจะทน ตดของตนถึงเหม็นไม่เป็นไร พระพุทธเจ้าถึงได้ตรัสว่า อัตตนา โจทยัตตานัง ให้กล่าวโทษโจทย์ตัวเองไว้เสมอ เราจะได้ปรับปรุง กาย วาจา ใจ ของเราให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ

เราปรับปรุงแก้ไขคนอื่นไม่ได้หรอก เรื่องของคนอื่นเป็นเรื่องของโลก โลกทั้งโลกเราไปแบกก็หนักเกินไป เพราะฉะนั้น..ต้องดูที่ตัวเรา แก้ที่ตัวเรา ทุกอย่างจะจบ อย่างที่หลวงปู่ดู่ วัดสะแกบอกว่า คนดีเขาไม่ตีใคร ไม่ว่าจะตีด้วยคำพูด จะตีด้วยร่างกายอะไรก็ตาม

โดยเฉพาะพระเราดันไปออกม็อบกับเขา พระเราเมื่อถึงเวลาควรจะเป็นผู้ที่คอยเตือนสติญาติโยม ไม่ใช่ไปสนับสนุนข้างใดข้างหนึ่ง เพราะเราต้องยอมรับว่าทุกอย่างเป็นไปตามกรรม ถ้าตักเตือนแล้ว บอกกล่าวแล้ว เขาไม่ฟังก็ต้องปล่อยวาง ไม่ใช่ไปนั่งอยู่กลางม็อบ แล้วก็ไปยกไมค์ประกาศปาว ๆ เสียเอง ลักษณะอย่างนั้นกลายเป็นเอาพระพุทธศาสนาทั้งคณะสงฆ์ไปเป็นบันไดรองรับเท้า ส่งเสริมตัวเองให้เด่นขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 16:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 24-12-2013, 11:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ธูปเทียนแพธรรมดากับธูปเทียนบูชาครู ?
ตอบ : สมัยก่อนการบูชาครูก็มีธูป เทียน ดอกไม้ คราวนี้ของเรามีหลักว่า ถ้าเป็นธูปเทียน ถ้าเป็นเทียนแพ ใช้เป็นพิธีหลวง ถ้าเป็นพิธีของพวกเราให้ใช้เทียน ธูป ก็ต้องพลิกบนพลิกล่าง จริง ๆ ก็ชุดเดียวกันนั่นแหละ แต่ว่าหลักการต่างกัน เราเองถ้ารู้ก็ทำให้ถูก ถ้าไม่รู้ก็มั่ว ๆ ไปเถอะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 24-12-2013, 12:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าบ้านเมืองเรายังวุ่นวายอย่างนี้ไปอีกระยะหนึ่ง ค่าเงินบาทจะตก เพราะว่าเศรษฐกิจหยุดชะงัก ตอนนั้นทองก็จะแพงขึ้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 24-12-2013, 12:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึง คุณ ญ.ผู้หญิง ซึ่งเพิ่งเข้าโรงพยาบาลผ่าไส้ติ่งไปว่า "ขนาดสร้างบุญสร้างกุศลไว้เสียเยอะแยะยังไม่รอดเลย ความดีส่วนความดี ความชั่วส่วนความชั่ว ถึงเวลาดีความดีก็ส่งผล ถึงเวลาความชั่วส่งผล เราก็ลำบากเดือดร้อน จึงควรจะเลือกทำแต่ทางด้านดี "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 24-12-2013, 12:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงนี้ญาติโยมหลายท่านแปรสภาพเป็นนักเล่นพระ แล้วไม่ใช่นักเล่นพระแบบสะสม แต่เล่นแบบตั้งใจขายเอากำไร..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 24-12-2013, 12:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถวายสังฆทานแล้ว ช่วยอุทิศส่วนกุศลให้นายหัวสุเทพด้วยนะ ให้เขาเจอบันไดลงหน่อย ตอนนี้เลยธงไปเยอะ หาบันไดไม่เจอแล้ว ถ้าเลิกม็อบตั้งแต่ชนะเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม งวดหน้านี่เพื่อไทยสาหัสเลย เพราะกลายเป็นประชาธิปัตย์ฉกคะแนนเสียงไปหมด คราวนี้ไม่ยอมเลิก เลยธงมาจนป่านนี้ กลายเป็นสร้างความเดือดร้อนให้แก่ส่วนรวม โดยเฉพาะเรื่องของงบประมาณ ไปห้ามจ่ายเงินเดือน คนที่เดือดร้อนที่สุดก็คือ บรรดาข้าราชการชั้นผู้น้อยที่ใกล้ชิดกับประชาชน คราวนี้ฐานคะแนนเสียงก็หายไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 15:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 24-12-2013, 12:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครที่จองพระไพรีพินาศทองคำไว้ โปรดระมัดระวังให้ดี อย่าไปกดแถวพระนาสิก คือจมูกพระ เพราะทองคำแท่งเนื้อเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ อ่อนมาก ถ้ากดแล้วท่านก็จะกลายเป็นพระจมูกบี้ ถ้าใครจะแงะออกดู ให้พยายามแกะออกทางด้านฐาน แล้วพอเวลาใส่คืนก็กดทางด้านฐาน

สมัยก่อนท่านเจ้าคุณพระราชปริยัติโมลี (โสภา เขมสรโณ) ท่านเป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เจ้าอาวาสวัดพระงาม พระอารามหลวง จบประโยค ๙ มา ท่านชอบจริง ๆ เรื่องพระเครื่อง ท่านบอกว่าท่านจะเสาะหาแต่เหรียญคณาจารย์ที่จมูกไม่ถลอก คือบรรดาเหรียญต่าง ๆ จุดที่สูงที่สุดก็คือจมูก แล้วก็จะเป็นจุดที่โดนกระทบถลอกเร็วที่สุด ท่านก็บอกว่าจะหาเหรียญที่จมูกไม่ถลอก จะเป็นเหรียญอาจารย์รุ่นใหม่แค่ไหนก็ได้ ถ้าจมูกไม่ถลอกเอามาเถอะ ท่านรับทั้งนั้น

ท่านบอกว่าแรก ๆ ท่านก็ไม่คิดที่จะศึกษาเรื่องพระเครื่องหรอก แต่คราวนี้พอรับตำแหน่งใหญ่ขึ้นไปเรื่อย ๆ บรรดาผู้ใต้บังคับบัญชาก็หาวัตถุมงคลมาให้ พอเอาไปให้เซียนพระดูแล้วเขาบอกว่าปลอม..อายเขา ก็เลยต้องหัดดูเองจนเป็น ท่านบอกว่าขนาดเป็นแล้ว ยังมีคนเอาของปลอมมาหลอกอยู่เรื่อย

ท่านเจ้าคุณโสภาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านบอกว่า “เล็ก..พอข้าเป็นเจ้าคณะภาคแล้ว แกมาเป็นเลขาฯ ให้ทีนะ” อาตมากราบเรียนว่า “ไม่รับหรอกครับ หลวงพ่อคงได้เป็นเจ้าคณะภาค ๑๙ แน่ ๆ” การปกครองคณะสงฆ์มหานิกายมีแค่ ๑๘ ภาค อาตมาบอกว่าท่านเป็นได้แค่ภาค ๑๙ แล้วก็จริง ๆ ท่านมรณภาพก่อน ท่านต้องการพระที่ทำงานคล่องตัว โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชาแต่ละระดับชั้น ถ้ามีพระเลขาฯ เก่ง ๆ นี่ พูดง่าย ๆ ว่าเลขาฯ รับงานแทนได้เกือบหมด แล้วถ้าปลอมลายมือเป็นอย่างอาตมาก็เซ็นแทนได้ด้วย..!

อาตมาทำสถิติ อยู่ชายแดนเจ้านายไม่อยู่ เซ็นอนุมัติแทนมาแล้ว ปรากฏว่าเป็นการรุกล้ำของอากาศยานไร้สัญชาติ ซึ่งมีวี่แววว่าเป็นของฝ่ายตรงข้ามแน่นอน ออกคำสั่งให้ตรวจการ โดยเซ็นอนุมัติคำสั่งเอง ปรากฏว่าเป็นเรื่องจริง ตรวจสอบแล้วว่าเราป้องกันได้ทัน เขาไม่สามารถจะล่วงล้ำน่านฟ้าเข้ามาได้ลึก ผู้บัญชาการกองพลเรียกเจ้านายไปชม เจ้านายกลับมาแบบงง ๆ แกถามว่า “กูเซ็นไปตอนไหนวะ ?” ก็เลยเรียนท่านไปว่า “ฝีมือผมเองแหละครับ” ท่านก็ดูสมุดบันทึกคำสั่งหน้านั้น ดูเสร็จท่านบอกว่า “อย่าบ่อยนะมึง..!” เจ้าของลายเซ็นมาดูลายเซ็นเอง แล้วสงสัยว่าตัวเองเซ็นไปตอนไหน นึกเอาก็แล้วกัน

ทหารที่อยู่ชายแดนสมัยก่อน โดนบังคับให้จำแบบอากาศยานรบทุกประเภท มองเห็นบนฟ้าลิบ ๆ ต้องแยกออกว่าเป็นยี่ห้อไหนรุ่นไหน แล้วก็ยานยนต์รบทุกประเภท ตรวจการณ์เจอไกล ๆ ชนิดกล้องส่องทางไกลเห็นเท่าแมลงวันหัวเขียว ก็ต้องแยกออกว่าเป็นรถถังรุ่นไหน ยี่ห้อไหน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 16:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 24-12-2013, 12:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อาตมาขอแรงทิดโต (สถิระ ชัยชนะกลาง) ถอดยันต์ดวงมหาพิชัยสงคราม คราวนี้ยันต์มหาพิชัยสงคราม ท่านเจ้ากรมฯ เสริมเป็นคนลอกแบบออกมาจากตำราพระร่วง แล้วตำราพระร่วงเล่มเล็ก ประมาณว่าใหญ่กว่าคัมภีร์เทศน์ แต่เล็กกว่าสมุดข่อย ท่านเจ้ากรมฯ เสริมไม่รู้ภาษาขอม แต่ท่านสามารถลอกออกมาได้ขนาดนั้น ก็เลยทิ้งปริศนาไว้ให้พวกเราเสียเยอะแยะเลย

ถ้าตัวคาถารอบนอกนี่อาตมาอ่านไม่เป็นก็ไม่รู้หรอก ว่าที่ท่านเขียน ๆ มานั่นทั้งตกทั้งหล่น จะไปโทษท่านเจ้ากรมฯ ก็ไม่ได้ เพราะท่านเห็นอย่างไรท่านเขียนอย่างนั้น ท่านไม่เข้าใจว่าภาษาขอมว่าอย่างไร ท่านลอกแบบตามมา เหมือนกับเราลอกภาษาต่างประเทศที่เราไม่รู้ พอลอกตัวที่เราไม่รู้ เขียนไป ๆ ก็งงว่าสมบูรณ์หรือยัง ? ก็เลยให้ทิดโตช่วยจัดการ เพราะว่าทิดโตฝากฝีมือเอาไว้ตอนทำยันต์มหาเศรษฐีเงินล้าน เห็นว่าเรื่องนี้ไว้ใจได้ก็เลย
ขอใช้บริการหน่อย

รุ่นของพวกเราได้เปรียบตรงที่ว่า คอมพิวเตอร์สามารถสร้างแบบอักษรต่าง ๆ ได้ แม้กระทั่งบาลีขอมก็ทำได้ แต่ว่ามี ๒ อย่างก็คือขอมไทย ขอมไทยบางทีใส่ไม้หันอากาศ ใส่วรรณยุกต์เข้าไปด้วย แต่ว่าขอมที่เป็นของเขมรจริง ๆ นั่นก็ต่างจากขอมโบราณเยอะ แม้กระทั่งอาตมาไปเขมรแล้วอ่านภาษาเขมรออกเกือบทั้งหมด แต่ก็แปลได้ไม่หมด ตอนนี้ก็เลยให้ทิดโตแกะลายแทงอยู่

กำลังรอพระนามพระพุทธเจ้า ๓๗ พระองค์อยู่ ถ้าได้ครบก็เป็นอันว่าสมบูรณ์ แต่ว่าตอนท้ายให้ลงเสียง ‘อะ’ หมดนะ ตัณหังกะระ เมธังกะระ โกณฑัญญะ ฯลฯ ยกเว้นท่านที่ท้ายลงด้วย ‘อิ’ ‘อี’ อย่างเช่น พระพุทธสิกขี เวสสะภู ฯลฯ ต้องลงตามปกติของเขา ชื่ออื่น ๆ ต้องลงอะหมด สิทธัตถะ ปุสสะ พระพุทธเทวเทพ ต้องเป็นเทวะเทวะ ๒ คำซ้อนกัน ถ้าเป็นปฐมาวิภัติ เอกวจนะ จะเป็นเทวะเทโว แต่คราวนี้ถ้าอยู่ในลักษณะการขานพระนามก็เป็นเทวะเทวะ ก็คือเทวเทพ พอมาถึงกัปของเราก็เป็น พระกะกุสันธะ โกนาคะมะนะ กัสสะปะ โคตะมะ

เกิดมามีผลงานฝากไว้ในพระศาสนาก็พอแล้ว ไม่ต้องเอาอะไรมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-12-2013 เมื่อ 15:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 24-12-2013, 12:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้พระที่วัดกำลังสนุกสนานกับการสัก เพราะว่ามีมือสักระดับสุดยอดของโลกไปบวชอยู่ ท่านสักทีราคาเป็นแสนบาท แต่ที่วัดนั่นสักฟรี ท่านไปแข่งขันสักลายวิจิตรแล้วได้ที่ ๑ มา ตอนนี้พระที่วัดลายไปทั้งตัว ดูทิดหนุ่ยเล็กของเรา เต็ม ๒ แขนเลย เห็นแก่ของฟรี พวกไม่ต้องเสียเงิน ก็สักไปเถอะ

วันก่อนบอกกับพระทั้งวัดว่า พวกคุณขลังไปหมดทั้งตัวแล้ว มีผมไม่มีลายอยู่คนเดียว เลยไม่ขลัง เป็นอาจารย์พวกคุณไม่ได้แล้ว ...(หัวเราะ)... แต่เขาเก่งนะ อักขระขอมแม่นมากเลย ขอให้มีลายให้ลอกนิดเดียว อักขระไม่ต้องลอกเลย ประเภทเล่นสด อย่างยันต์เกราะเพชร ขอให้มีลาย เขาสักอักขระเองได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 16:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 24-12-2013, 12:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการทำดอกบัวครรภ์รักษา เหมือนกับการทดสอบกำลังใจว่าจะทำจริงหรือเปล่า ? คาถาสำหรับเสกแต่ละบทนี่ยาวเป็นกิโลเมตรทั้งนั้นเลย ญาติโยมไม่รู้หรอกว่า กว่าจะเสกเสร็จแต่ละครั้งไม่หนี ๒ ชั่วโมงครึ่ง..!

ครั้งก่อนมีโยมมาขอ พอทำเสร็จส่งให้ เขาถามว่า "ใช้อย่างไร ?" เลยด่ากระจาย กระทั่งใช้อย่างไรก็ไม่รู้ แล้วเสือกมาขอ..มึงเห็นกูว่างนักใช่ไหม..?!!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 24-12-2013 เมื่อ 20:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 24-12-2013, 12:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,474
ได้ให้อนุโมทนา: 151,107
ได้รับอนุโมทนา 4,404,000 ครั้ง ใน 34,063 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ครูดี ๆ ไปตั้งโรงเรียนสอนพิเศษกันหมด แบบเดียวกับเกาหลี ครูบางคนมีลูกศิษย์เป็นล้านเลย น่าจะเก่งกว่าครูอุ๊ของเรา ครูลิลลี่เก่งภาษาไทย ตกลงครูลิลลี่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ? อาตมายังสงสัยจนถึงทุกวันนี้

ครูประเภทนี้ที่เด็กเขาจะชอบ เพราะว่าสอนแล้วเด็กรู้เรื่อง อย่างวิชาเคมีน่าสับสนกับชีวิตจะตายไป แค่ท่องสูตรธาตุอย่างเดียวก็ตายแล้ว แต่ครูอุ๊สามารถทำให้เป็นของง่ายได้ ท่านทั้งหลายเหล่านี้น่าจะให้เป็นครูสอนครูด้วยกันเองมากกว่า สอนครูอีกที อย่างของต่างประเทศคนที่เรียนเก่งที่สุด เขาให้ไปเป็นครู เงินเดือนของเขาแพงมาก แพงกว่าหมออีก ถ้าอย่างนั้นเด็กจะพัฒนา เก่งขึ้นไปเรื่อย ๆ

แต่บ้านเรา คนเก่งที่สุดไปเรียนหมอ เรียนวิศวะ คนที่ไม่ได้เรื่องไปเรียนครู ก็เลยกลายเป็นกลับข้างกับที่อื่น ของเขายิ่งไปยิ่งเก่ง เพราะว่าครูมีคุณภาพ ของเราเอาคนไร้คุณภาพมาเป็นครู..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-12-2013 เมื่อ 16:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:20



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว