กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 01-10-2013, 12:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๑๕ สิงหาคมที่ผ่านมา ที่วัดจัดอบรมพระนวกะ ก็คือ อบรมพระใหม่ของคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ปีนี้มีพระเณรทั้งหมด ๔๑๑ รูป พออบรมเสร็จ ตอนบ่ายก็วิ่งขึ้นเชียงใหม่ ความจริงไม่คิดจะไปหรอก กะว่าจะนอนพักสักคืนหนึ่ง แล้วตีสองวันที่ ๑๖ ก็ค่อยขึ้นไป เพื่อที่จะถึงวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ที่ลำพูนตอนเช้ามืด แต่ปรากฏว่ามีผู้หวังดี ไปปล่อยข่าวว่าอาตมาจะไป พวกเชียงใหม่เขาโทรศัพท์มากันหูดับตับไหม้ ท้ายสุดก็เลยต้องวิ่งขึ้นไปเชียงใหม่ อยู่เชียงใหม่ครึ่งวันแล้วก็วิ่งลงมาลำพูน ถึงลำพูนค่ำวันที่ ๑๖ พอดี ก็สรุปว่าเป็นความเมตตาของโยมที่กลัวว่าอาตมาจะงานน้อย..!

เช้าวันที่ ๑๗ สิงหาคม อยู่ช่วยงานหลวงพ่อสิงห์ ทำบวงสรวง รับสังฆทาน พุทธาภิเษก สืบชะตาเสร็จ ประมาณ ๑๑ โมงกว่าก็ฉันเพล ฉันเพลเสร็จก็บินมาวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ บางเขน มาเผาศพของหลวงพ่อทวิชของหลวงพ่อนิล ตอน ๕ โมงเย็น บินจากลำพูนลงมาด้วยรถยนต์ บินจริง ๆ เขาเหยียบมาแค่ ๒๔๐ เท่านั้น..! ไม่อย่างนั้นก็ไม่ทัน จากลำพูนลงมาแค่ ๔ ชั่วโมงครึ่ง ท้ายสุดมาวัดพระศรีรัตนมหาธาตุประมาณ ๔ โมงครึ่ง มาถึงก่อนงานเขานิดหนึ่ง

ส่วนใหญ่พอขึ้นเหนือทีไร กลับมาไม่กี่วัน ก็จะได้ใบสั่งทางไปรษณีย์มา โดนไป ๗๐๐ บาททุกงวด วิ่งความเร็วเกินที่กฎหมายกำหนด แต่น่าเจ็บใจ..ตอนวิ่ง ๒๐๐ กว่าดันไม่ถ่าย ไปถ่ายตอนร้อยกว่า ไม่อย่างนั้นจะเก็บไว้เป็นสถิติว่า โดนจับความเร็วขนาดนี้จริง ๆ นะ ญาติโยมโปรดอย่าเลียนแบบ ไม่ใช่เรื่องสนุก งานมีต่อเนื่องกัน ไม่ไปเร็วก็ไม่ได้

มีอยู่เที่ยวหนึ่งโดนจับก่อนจะถึง อ.เถิน ตำรวจเขาก็โบก ตอนนั้นพระครูแสงชัยยังไม่ได้บวช ก็เบรกเอี๊ยดรถเลื้อยเป็นงูเลย ตำรวจ ๔ คนโดดหนีกันหมด พอคุณจ่าโผล่หน้ามาถึง คุณแสงชัยก็ส่งใบขับขี่ให้ “ไม่เอาครับ ผมจะเอาพระ ขอพระหลวงพ่อให้ผมด้วย ขับเร็วขนาดนี้ต้องมีของดีแน่เลย” อาตมาล้วงพระให้ไป ๔ องค์ “ขออีก ๒ องค์ครับ ยังมีเพื่อนดักอยู่ข้างหน้าอีก ๒ คน” เพื่อนดักรออยู่ข้างหน้า ถ้าหลุดจากด่านนี้ ข้างหน้ายังจับได้อีกชุดหนึ่ง สรุปว่าอย่าไปทำอย่างนั้น..อันตรายมาก

ปกติเวลาตำรวจเจอพระก็มักจะปล่อยผ่านไป คราวนี้เจอพระมาเร็วขนาดนั้นเลยขอวัตถุมงคลแทน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2013 เมื่อ 13:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 01-10-2013, 12:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตะกรุดพระแม่ธรณี ถ้าเอาไปแยกแต่ละดอกออกจากกัน อานุภาพจะยังใช้ได้เหมือนปกติหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ไม่ได้

ถาม : แล้วมีข้อห้ามอะไรหรือไม่คะ ?
ตอบ : ห้ามคนที่ไม่มีเอาไปใช้ ตะกรุดเขาต้องครบชุด ถ้าไม่ครบก็ได้อักขระไม่ครบ ๗ ตัว

ถาม : แล้วถ้าแยกแต่ละดอกออกมา แล้วพกไว้ตามที่ต่าง ๆ ?
ตอบ : ทำอย่างไรก็ได้จะทัดหู จะอมไว้ในปาก จะฝังไว้ในเนื้อ อะไรก็ได้ ให้อยู่ครบ ๗ ดอกก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2013 เมื่อ 13:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 01-10-2013, 12:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่จิตรวมเป็นสมาธิ จะรู้ได้อย่างไรคะ ?
ตอบ : ความเป็นสมาธิ ดูง่าย ๆ ว่า ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ฯลฯ แล้วเราไม่สนใจ นั่นแสดงว่าจิตเริ่มรวมแล้ว แล้วถ้าถึงขนาดตัดจากอารมณ์ภายนอก อยู่แต่ข้างในไม่รับรู้ข้างนอกเลย นั่นรวมแน่ ๆ

ถาม : แล้วถ้าเราไม่ได้ยินข้างนอก อยู่แต่ข้างใน ?
ตอบ : อันนั้นเริ่มรวมมากแล้ว ก็คือพอเริ่มทรงตัว ได้ยินแต่จะไม่สนใจ เห็นก็ไม่สนใจ อยู่แต่ข้างใน แล้วจะแน่นมากขึ้น ๆ บางทีตึงเป๋ง เหมือนอย่างกับกลายเป็นหิน

ถาม : ถ้าแน่นมาก ๆ ?
ตอบ : ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่ตายหรอก เป็นแค่อาการเท่านั้น เรารับรู้ไว้เฉย ๆ ว่าตอนนี้เป็นอย่างนั้น ไม่ต้องไปสนใจ ถ้ามีลมหายใจอยู่ก็ดูลมไป ถ้ามีคำภาวนาอยู่ก็ภาวนาไป ถ้าไม่มีก็ดูว่าตอนนี้กำลังเป็นอย่างนี้ ให้รับรู้ไว้เฉย ๆ อยากเป็นอย่างไรก็ช่าง

ถาม : เลิกจากสมาธิออกมาแล้วสบายใจ ?
ตอบ : จ้ะ..เวลาเลิกออกมารู้สึกโล่ง เบาสบายอย่าบอกใครเลย ตอนไม่เลิกนี่ตัวแข็งโป๊ก เริ่มมาถูกทางแล้วจ้ะ ต่อไปทำแล้วอย่าคิดไปอยากได้อย่างนั้นอีก เรามีหน้าที่ทำ จะเป็นหรือไม่เป็นก็ช่าง ถ้าเราไปอยากได้ ใจจะไม่นิ่ง เข้าไม่ถึง ภาวนาไปเรื่อย ๆ เหมือนเดิม ถ้าเป็นก็ตามดูไปเรื่อย ๆ อย่ากลัวก็ใช้ได้ เรากำลังทำความดีอยู่ ตายตอนนั้นอย่างแย่ ๆ ถ้าจิตทรงตัวก็ไปเป็นพรหม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2013 เมื่อ 13:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 01-10-2013, 13:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่จับศูนย์กลางกาย มักจะวูบลงไปเรื่อย ?
ตอบ : ก็ลงไปเรื่อย ๆ อย่างที่เขาบอก กำหนดจุดศูนย์กลาง ของศูนย์กลาง ของศูนย์กลาง ลงไปเรื่อย ๆ เมื่ออารมณ์ใจทรงตัวเต็มที่ ถ้าไม่ใช่ดวงปฐมมรรคเกิดขึ้น ก็อาจจะก้าวข้ามขั้นไปเป็นธรรมกายเลย แต่ขอให้ลงกลางไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่น

มีบางคนบอกว่าลงไปเรื่อย ๆ มืด ๆ กลัวจะลงนรกไปเลย ไอ้บ้า...! นรกไม่ได้อยู่ใต้ดิน ตามลงไปเรื่อย ๆ ถ้าดวงปฐมมรรคไม่ปรากฏเสียก่อน ก็อาจจะได้ธรรมกายไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2013 เมื่อ 13:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 01-10-2013, 13:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าตามหลักเวชศาสตร์วรรณนาของตำราแพทย์แผนไทย เขาบอกว่าคนถ้าอายุ ๓๕ ปีขึ้นไป ให้หาอาหารที่มีรสขมมากินบ้าง โดยเฉพาะสักปักษ์ละ ๑ - ๒ ครั้ง ปักษ์หนึ่งก็ครึ่งเดือน ตีเสียว่าสัปดาห์ละครั้งก็แล้วกัน

อาหารรสขมของเรามีมะระ ต้องเป็นมะระขี้นก มะระจีนไม่ขมหรอก มีมะระ สะเดา เพกาที่ชาวบ้านเรียกว่าลิ้นฟ้า อย่าให้ถึงขนาดบอระเพ็ดเลยนะ เขาทำบอระเพ็ดแช่อิ่ม ไม่มีรสขมเลย ไม่รู้ว่าทำอย่างไร ล้างรสขมออกได้อย่างไรก็ไม่รู้ แช่อิ่มมาเหลืองใสเลย

ถ้าตำราของหลวงพี่โอ (พระครูสมุห์พิชิต ฐิตวีโร) ใช้เถาบอระเพ็ดยาว ๑ คืบ เคี้ยวกินไปเลย บางคนเอาขนาดพันรอบหัวตัวเอง ไอ้นั่นเกินคืบ น่าจะ ๒ คืบกว่า ท่านก็เคี้ยวกินของท่านได้หน้าตาเฉยเหมือนกัน คือร่างกายของคนเราอย่างน้อย ๆ ก็ประกอบด้วยธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม คราวนี้พออายุมากขึ้น ธาตุมักจะพร่อง หมอสมัยใหม่เขาบอกว่าฮอร์โมนเริ่มขาด พอธาตุพร่องก็ต้องหาทางเสริมธาตุ แล้วยาที่มีรสขมนี่เป็นเรื่องแปลกมาก ถ้าร่างกายร้อนเกิน ยาจะไปปรับให้เย็น ถ้าร่างกายเย็นเกินจะไปปรับให้ร้อน เป็นตัวยาที่ประหลาดที่สุดอยู่อย่างเดียว เพราะฉะนั้น..โบราณเวลาเขียนตำรับยา จะต้องแทรกยาดำไว้เสมอ เพราะยาดำมีรสขม เพื่อเอาไปปรับธาตุโดยเฉพาะ

เขามีรสขม รสเผ็ด รสจืด รสหวาน รสมัน รสฝาด รสฝาดนี่สมานแผล เขาแยกยาตามรส คนโบราณต้องชิมยาทุกอย่าง ต้องเรียนให้ได้ขนาดท่านปู่หมอชีวกฯ ถึงจะเก่งจริง "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2013 เมื่อ 13:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 01-10-2013, 13:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมนั่งสมาธิตามที่ท่านสอนคราวที่แล้ว เมื่อก่อนเป็นดวงวูบวาบ เดี๋ยวนี้เป็นเสี้ยวแค่นี้ ?
ตอบ : กำหนดภาวนาแล้วนึกถึงตรงนั้นไปเรื่อย ๆ ถ้าสว่างเต็มที่เมื่อไรเดี๋ยวภาพพระจะโผล่มาเอง

ถาม : ผมกลัวครับ ผมเห็นพญานาคตัวสีขาวใหญ่เท่าตึก ผมทำสังฆทานไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังเห็นอยู่ ?
ตอบ : เขามาดูแล จะไล่เขาไปไหน ? เวลาทำอะไรเราจะได้ปลอดภัย ที่ถวายสังฆทานให้จะได้ไล่ไปไกล ๆ ใช่ไหม ? เขาเรียกว่ากลัวไม่เข้าเรื่อง ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2013 เมื่อ 13:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 01-10-2013, 18:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ดูตอนนี้นึกว่าท่านเพิ่งอายุ ๓๐ ปี
ตอบ : ฉันแก่ถอยหลัง แต่โยมแก่ขึ้นหน้า โยมอายุ ๗๗ ปี ฉันอายุ ๕๕ ปี ห่างกัน ๒๒ ปี เลขซ้ำทั้งนั้นเลย ความจริงถ้าฉันตะกายอยู่เต็มที่ก็ประมาณ ๗๗ ปี ทำความดีไว้เยอะ ๆ ทำทาน ศีล ภาวนาไว้ จะอยู่กี่ปีก็ช่างเถอะ อยู่ได้ก็อยู่ อยู่ไม่ได้ก็ไป

อยู่ ๗๗ ปีอย่างนี้บ้างเอาไหม ? มีหลายคนบอกว่าไม่เอา ขอตายก่อน ถามว่าทำไม ? เขาบอกว่าเดี๋ยวไม่สวย อยู่นานแล้วแก่เดี๋ยวไม่สวย อาตมาก็นึกว่าเข้าถึงธรรมเลยอยากตาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2013 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 02-10-2013, 18:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พอสิ้นหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ มหาเถรสมาคมมีมติให้หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำ ทำหน้าที่ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ก็เท่ากับเป็นสมเด็จพระสังฆราชนั่นแหละ ปรากฏว่าปีนี้ท่านที่ไม่เคยไปวัดปากน้ำก็ไป กลายเป็นถนนทุกสายมุ่งสู่วัดปากน้ำ ปกติอาตมาเอารถเข้าไปไม่ได้หรอก ตัวเล็กเกินไป เข้าแล้วไปเกะกะเขา แต่จะเข้าเสียอย่าง เลยใช้วิธีติดสินบน ถึงเวลาก็ขอเจ้าที่ท่าน ไปถึงก็ไหลตามรถคันหน้าเข้าไป ปรากฏว่าคันหน้าเป็นหลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน

ตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกที่ว่าง มหาเถรสมาคมมีมติให้หลวงพ่อพรหมเวที วัดไตรมิตร ขึ้นเป็นเจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก ก็เท่ากับตำแหน่งสมเด็จพระราชาคณะอยู่ในมือของท่าน แบบเดียวกับการที่หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดพิชัยญาติ ขึ้นเป็นเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ตอนนั้นท่านยังเป็นเจ้าคุณพรหมโมลีอยู่ ก็เท่ากับแถมตำแหน่งสมเด็จฯ ให้นั่นเอง เป็นที่รู้กัน

หนตะวันออกเป็นคณะสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุด มีพระมากที่สุด คุมภาคอีสานและภาคตะวันออก ส่วนเจ้าอาวาสวัดสระเกศก็ตั้งท่านเจ้าคุณพรหมสุธีรักษาการณ์ การดูแลพระภิกษุสามเณรที่เดินทางไปต่างประเทศ ก็ท่านเจ้าคุณพรหมสุธีรับเป็นประธานศูนย์ไป

ท่านใดมีโอกาสก็ไปกราบสักการะสังขารของหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศบ้างนะ ท่านบอกว่า ตอนเป็น ๆ ไปรับพรท่านมาเยอะแล้ว ตอนท่านมรณภาพแล้วไปขอพรท่านบ้าง วันสรงน้ำ อาตมาวิ่งจากทองผาภูมิมา ไปถึงวัดสระเกศตอนเที่ยง ๕๐ นาที ตามข่าวเขาบอกว่าเปิดสรงน้ำบ่ายโมง ไปถึงปรากฏว่าพระท่านนั่งกันเป็นระเบียบเรียบร้อย มียืนอยู่แค่ ๓ รูป ตายละวา...มาเกือบไม่ทัน ก็วิ่งไปต่อท้ายเขาเป็นรูปที่ ๔

พระครูอมรโฆษิตเดินมาถึงก็ “อ้าว... อาจารย์จะเข้าสรงเลยหรือครับ” บอกท่านว่า “ถ้าได้เลยก็ดี” ท่านจึงไปขอตัดแถวโยมให้เข้าไปสรง พอตอน
สรงน้ำสังเกตว่าทำไมเขาถ่ายรูปกันจัง พอออกมาถึงจะรู้ว่าเป็นพระที่เข้าไปถวายน้ำสรงเป็นชุดแรกเลย คนอื่นท่านยังนั่งรอกันอยู่ อาตมาคิดว่าไม่ทัน เพราะเห็นเขานั่งกันหมด ยืนอยู่แค่ ๓ รูป อุตส่าห์ไปต่อแถวเป็นรูปที่ ๔ ท้ายสุดก็เลยเอาหน้าไปออกหนังสือพิมพ์ไทยรัฐโดยไม่ได้เจตนา ก็เห็นพระผู้ใหญ่ท่านนั่งกันหมด แม้กระทั่งหลวงพ่อสมเด็จพระวันรัต นึกว่าเขาสรงกันไปหมดแล้ว ยังคิดว่าเรามาเกือบไม่ทัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 19:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 02-10-2013, 19:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เคยมีความรู้สึกอิ่ม มองทุกอย่างเหมือนกับรู้สึกเมตตา แต่ทำไมเป็นอยู่ชั่วคราวแล้วหายไป ?
ตอบ : นึกย้อนหลังไปจ้ะ ว่าตอนนั้นเราคิดอะไร ทำอะไร อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบไหน แล้วก็คิดแบบนั้น พูดแบบนั้น ทำแบบนั้น อยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบนั้นอีกครั้ง เพราะว่าลักษณะนั้นเป็นการเข้าถึง แล้วเรารักษากำลังใจไว้ไม่อยู่ การหายไปจึงเป็นเรื่องปกติ แต่ดีอยู่อย่างที่เหมือนกับหลอกให้เรากินของอร่อย แล้วต่อไปเราจะตะเกียกตะกายหาทางกินให้ได้อีก ทำต่อไปเรื่อย ๆ จ้ะ

ถาม : รู้สึกเย็น ๆ ดีแต่เป็นอยู่ได้ ๒ - ๓ วัน
ตอบ : ๒ - ๓ วันนี่ได้เยอะมากแล้ว บางคนเข้าถึงแค่พักเดียว สำคัญตรงต้องประคองอารมณ์ไว้ให้ได้ ส่วนใหญ่เราไปเผลอสติ ปล่อยก็หลุดหายไป คราวนี้เราทำแล้วเราอยากได้ใหม่ ตัวอยากได้ทำให้ใจไม่มั่นคง ฟุ้งซ่าน ก็เลยไม่ได้สักที ย้อนไปนึกถึงว่าตอนนั้นเราทำอะไร แล้วก็ทำอย่างนั้นใหม่ พระพุทธเจ้าท่านถึงได้ตรัสไว้ในโพชฌงค์ ๗ ว่ามีธัมมวิจยะ ต้องรู้จักแยกแยะ ว่าถ้าทำอย่างนี้ผลอย่างนี้จะเกิดขึ้น ผลอย่างนี้เกิดขึ้นมาจากอะไร ดังนั้นต้องหาเหตุให้เจอ ไม่อย่างนั้นการปฏิบัติจะไม่ก้าวหน้าจ้ะ

ถาม : ไม่รู้ว่าหายไปไหนค่ะ
ตอบ : ไม่ได้หายไปไหนหรอก อยู่แถว ๆ นั้นแหละ แต่ว่าคลำหาไม่เจอ

ถาม : มีความรู้สึกว่าหายไปค่ะ ครูบาอาจารย์บอกไม่หาย แต่ว่าเราไม่รู้จะเอาคืนมาอย่างไร ?
ตอบ : ไปเริ่มต้นใหม่ ศีล สมาธิ ปัญญา เหมือนเดิมจ้ะ จะทำให้เรารู้ว่าอารมณ์ที่ทำให้เราประกอบไปด้วยเมตตาจริง ๆ เป็นอย่างไร เป็นมิตรกับคนและสัตว์ไปหมด เห็นเขาก็รักก็สงสารไปหมด ไม่คิดจะเป็นศัตรูกับใคร ไม่คิดจะเบียดเบียนใครด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ อยากให้เขาพ้นทุกข์เหมือนกัน อยากให้เขามีความสุขแบบเดียวกัน

ถาม : เป็นอารมณ์ที่ดี ทำไมไม่กี่วันหายไปเลย
ตอบ : ถ้าอยากได้ก็ไม่มีทางได้หรอกจ้ะ เรามีหน้าที่ภาวนา ทำเหมือนเดิม ส่วนจะเกิดหรือไม่เกิดเรื่องของเขาอย่าไปสนใจ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวก็มาใหม่ แต่ถ้าไปอยากได้เข้า ก็ฟุ้งแล้วจะไปไม่ถึง นักปฏิบัติส่วนใหญ่จะมีปัญหาตรงนี้ พอทำถึงจุดที่คิดว่าดีแล้วก็อยากจะให้ได้อย่างนั้น พออยากจะให้ได้อย่างนั้น ตัวอยากก็บังเสียแล้ว ทำอะไรก็เข้าไม่ถึงเสียที

ถาม : ตอนที่ได้ตอนนั้นพยายามประคองอารมณ์ไว้ แต่ไม่ได้
ตอบ : ตอนช่วงที่ได้มาแล้วให้เอาสติจดจ่อต่อเนื่อง รักษาอารมณ์นั้นเอาไว้ ส่วนใหญ่แล้วเราไม่ได้ไปตั้งใจประคองเอาไว้ มัวแต่กินเพลิน พอมัวแต่กินเพลินผลก็หมด ถึงย้ำหนักย้ำหนาว่านักปฏิบัติต้องรักษาอารมณ์ให้ต่อเนื่องให้ได้ ถ้ารักษาต่อเนื่องไม่ได้ก็ยังเอาดีไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 02-10-2013, 19:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ดวงจิตของคนที่ตายไปแล้ว เขาจะสามารถโทรศัพท์ได้ไหมคะ ?
ตอบ : สบาย....คณะของวัดป่าละอู ที่เขาไปวัดท่าซุง เขาจัดร้านตอนเช้า ๆ เพื่อรอเปิดร้านขายของ แล้ววิทยุมือถือ Walkie Talkie ยังไม่ได้เปิดหรอก เขาก็กดเล่น “ฮัลโหล เทวดาเจ้าขา วันนี้ช่วยให้ขายของดี ๆ นะจ๊ะ” วิทยุไม่ได้เปิดหรอก แต่มีเสียงตอบว่า “นี่เทวดาจากดาวดึงส์นะจ๊ะ เมื่อวานขาย (ไอ้โน่นไอ้นี่) วันนี้มี (ไอ้นี่ ๆ) ใช่ไหม ?” ประเภทสนุกไปเลย แต่คนฟังขนหัวตั้ง..!

ถาม : แล้วแปลว่าอะไรคะ ?
ตอบ : ก็ไม่มีอะไร อยากติดต่อด้วยก็ไปคุยกับเขา พอเขาคุยด้วยก็ไปกลัวเขาอีก

ถาม : มีคนที่ตายไป พอสาร์ทจีนเขาก็บอกว่า ให้โทรศัพท์ไปหาพี่น้องเขาด้วย เขาก็โทรศัพท์มาหาคนรู้จัก คุยก็เป็นเสียงเขานี่แหละค่ะ เขาบอกอยู่ป่าหิมพานต์ จะมาได้เฉพาะวันโกน
ตอบ : พอถึงเวลาวันโกนก็เตรียมชาร์จโทรศัพท์ไว้เลย

ถาม : เป็นไปได้ใช่ไหมคะ?
ตอบ : ได้จ้ะ วันโกนของเราคือวันพระของเขา เวลาของเราเดินช้าไป ๑ วันของเขา

ถาม : แล้วดวงจิตแบบนี้เป็นแบบไหนคะ ?
ตอบ : ก็กึ่งเทวดาแล้วจ้ะ

ถาม : เขาบอกว่าจะติดต่อได้อีก ๒ ปี แล้วเดี๋ยวเขาก็จะไปแล้ว
ตอบ : มีอะไรก็ถามเขาไปเรื่อย ป่าหิมพานต์มีหวยไหมจ๊ะ ?

ถาม : เขาบอกว่าบอกหวยไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเขาจะเสื่อม
ตอบ : แสดงว่ากันไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่เป็นไรจ้ะ ให้คุยได้แล้วกัน ถ้าติดขัดเรื่องทำมาหากินก็ลองคุยกับเขาดู ถ้าไม่เหลือวิสัยจริง ๆ เขาก็พอจะช่วยได้ เป็นเรื่องปกติจ้ะ

ถาม : ไม่เคยอ่านเจอในหนังสือที่ไหน ก็คิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นไปไม่ได้ค่ะ
ตอบ : เป็นไปไม่ได้เพราะเรายังไม่เจอ เจอแล้วก็เป็นไปได้เองแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 02-10-2013, 19:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สามีก็บอกว่าบอกเบอร์โทรศัพท์เขาไปสิ เดี๋ยวเขาก็โทรกลับ วันโกนเขาก็โทรมา
ตอบ : แสดงว่าเดี๋ยวนี้ป่าหิมพานต์เขาพัฒนาแล้ว บอกเขาว่าคราวหน้าติดต่อมาทางอีเมล์ดีกว่า หรือไม่ก็ส่งไลน์แชทกันไปเลย

ถาม : ยังว่าเดี๋ยวจะส่งไอโฟน ๕ ไปให้
ตอบ : อย่าไปเล่นกับเทวดานางฟ้า อยากได้อะไรเขาแค่นึกก็ได้แล้ว เพราะฉะนั้น..จะไปไลน์ไปแชทกับท่าน เดี๋ยวท่านก็มาหรอก ที่โน่นของเขาสำเร็จรูป อยากได้อะไรก็นึกเอา

ถาม : เราก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้
ตอบ : ที่อาตมาเล่ามาก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้หรอก พูดเล่น ๆ เขาตอบมาจริง ๆ

ถาม : ยังไม่ได้เปิดเครื่องใช่ไหมครับ?
ตอบ : วิทยุเขายังไม่ได้เปิดเลย เขารอเวลางานจริง ๆ ถึงจะได้เปิด พูดเล่น ๆ ก่อน ที่ไหนได้เสียงตอบดังอู้เลย

ถาม : ต้องเคยเนื่องกันหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : อีกอย่างวาระต้องเปิดพอดี ถ้าวาระไม่ถึง เขาก็ติดต่อไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 02-10-2013, 19:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อารมณ์ที่เข้าถึงในคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คืออารมณ์แบบไหนคะ ?
ตอบ : มีความเคารพอยู่เต็มหัวใจ ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ แม้ด้วยเหตุแห่งชีวิต พูดง่าย ๆ ก็คือให้ตายลงไปก็ไม่ยอมล่วงเกิน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 02-10-2013, 19:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อาหารทะเลทำให้เป็นริดสีดวงหรือครับ ?
ตอบ : อาหารทุกอย่างที่เป็นโปรตีน ไม่ต้องอาหารทะเลก็ได้ เพราะว่าโปรตีนโมเลกุลจะละเอียด มักจะเกาะลำไส้ ทำให้เราต้องใช้แรงเบ่งมาก ริดสีดวงก็เจริญเติบโต

ถาม : แล้วอย่างพวกถั่วก็มีโปรตีน
ตอบ : ก็ลักษณะเดียวกันนี่แหละ เขาถึงได้ไม่ให้กินอย่างเดียว อย่างน้อย ๆ ก็ ๓ ต่อ ๗ ถ้าอยากจะหายริดสีดวงก็อาศัยข้าวกล้องเป็นหลัก แล้วก็ตามมาด้วยผัก เอาข้าวกับผักเสีย ๗ ส่วน เนื้อสัตว์ ๓ ส่วน โดยประมาณ

ถาม : แล้วภูมิแพ้เรื่องทางเดินหายใจ พอจะมีทางรักษาให้หายขาดได้ไหมครับ ?
ตอบ : มีหมอยาจีนเขารักษาได้ ยาไทยนี่ยังไม่เคยเจอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 02-10-2013, 20:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไปกราบพระอาจารย์เปลี่ยน วัดป่าอรัญวิเวก หน้าตาเหมือนเดิมทุกอย่างเลย ไปครั้งหลังหน้าตาก็เหมือนเดิม หน้าตาไม่เปลี่ยน
ตอบ : สมัยเด็ก ๆ ไปกราบท่าน ท่านส่งหนังสือให้ อาตมาแบ ๒ มือรับ ท่านเลยมองหน้า ไม่เคยเจอใครรับหนังสือท่านี้ ต้องบอกว่าในลูกศิษย์สายหลวงปู่มั่น หลวงปู่เปลี่ยนท่านถือว่าอาวุโสระดับต้น ๆ เลย เพราะส่วนใหญ่ล่วงลับกันไปแล้ว

ถาม : ท่านอายุ ๘๐ แล้วหรือคะ ?
ตอบ : จ้ะ...ดูอย่างไรก็ประมาณ ๕๐ เท่านั้นแหละ ความจริงก็มีเปลี่ยน แต่ท่านเปลี่ยนช้าหน่อย เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ก็ไม่ได้สังเกต
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 02-10-2013, 20:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อาจารย์ครับ ทำอย่างไรถึงจะเข้าฌานลึก ๆ ได้เป็นประจำครับ ?
ตอบ : ซ้อมบ่อย ๆ ตอบอย่างกำปั้นทุบดินเลย ซ้อมบ่อย ๆ พอมีความคล่อง นึกเมื่อไรก็เข้าได้เมื่อนั้น ภาษาบาลีเขาเรียกสมาปัชชนวสี ความชำนาญในการเข้าถึงฌานในระดับต่าง ๆ แล้วมีวุฏฐานวสี ความชำนาญในการออกจากฌาน เพราะฉะนั้น..สำคัญที่ซักซ้อมอย่างเดียว ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ให้เข้าฌานสลับฌานให้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 02-10-2013, 20:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่เราคิดมาก ถ้าเราอยากปล่อยให้ใจว่าง ๆ เราจะทำอารมณ์อย่างไร ?
ตอบ : อยู่กับลมหายใจเข้าออกจ้ะ ปกติแล้วคนส่วนใหญ่ทุกข์เพราะความคิดตัวเอง ก็คือส่งใจไปยังอดีต โหยหาอาลัยอยู่นั่น ส่งใจไปอนาคต ฟุ้งซ่านอยากเป็นนั่น อยากได้นี่ อดีตผ่านไปแล้ว รถที่ออกจากท่าไปแล้ว เรานั่งไม่ได้หรอก อนาคตก็ยังมาไม่ถึง รถที่ยังไม่เข้าท่าก็นั่งไม่ได้เหมือนกัน ก็ต้องปัจจุบันนี้เท่านั้น เพียงแค่รถตรงหน้าของเราที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ก็คือลมหายใจเข้าออก

ถ้าเราอยู่กับลมหายใจเข้าออก จิตใจไม่ฟุ้งซ่านไปที่อื่น ความคิดต่าง ๆ ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะความคิดส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นพาไปรัก โลภ โกรธ หลง นี่จะเป็นความคิดที่อยู่กับปัจจุบัน อยู่กับลมหายใจเข้าออกตรงนี้เฉพาะหน้า หยุดการปรุงแต่งทั้งหมด ไฟที่เผาเราอยู่ด้วยรัก โลภ โกรธ หลง ที่เราคอยไปใส่เชื้ออยู่ตลอดเวลา จะดับลงชั่วคราวเพราะไม่มีเชื้อไฟ ความสุขความสงบจะเกิดกับเราชั่วคราว

คราวนี้พอรักษาไว้ได้นาน ๆ กำลังใจผ่องใสมากขึ้น ๆ เราจะเห็นช่องทางเองว่าทำอย่างไรถึงจะก้าวหน้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-10-2013 เมื่อ 09:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 02-10-2013, 20:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีใครเคยไปวัดท่าการ้องมาบ้าง ? วัดท่าการ้องมีส้วมสวยที่สุดในประเทศไทย น่าจะเป็นแถวอยุธยากระมัง ? ลองไปหาดูในอินเตอร์เน็ตก็ได้ มีแน่ ๆ เลย ดูแล้วเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งที่ดึงคนเข้าวัด แต่อาตมากลัวว่าถ้าโยมแปลเจตนาผิด ชาติต่อไปจะเกิดเป็นหนอน เพราะไปวัดแล้วตั้งใจไปดูส้วม ไม่ได้ตั้งใจไปไหว้พระ เพราะฉะนั้น..การไปวัดท่าการ้องห้ามวางกำลังใจผิดนะ วางกำลังใจผิดเกาะส้วมแน่ ๆ เลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 02-10-2013, 20:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลายท่านคงเห็นสะพานมอญแล้ว เขาสร้างขึ้นมาใช้ชั่วคราว แทนสะพานหลวงพ่ออุตตมะที่โดนน้ำซัดขาดไป เห็นแล้วทึ่งว่าฝีมือชาวบ้านทำได้ขนาดนั้น ลักษณะเหมือนกับแพลอยน้ำ แล้วมีการทำโค้งขึ้นให้เรือลอดได้ด้วย เสียอยู่อย่างเดียวว่า จะย้ายให้ห่างจากสะพานเดิมเพราะแม่น้ำซัดไปกระทบ ปรากฏว่าเจ้าของแพท่องเที่ยวเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย ไม่ยอมขยับแพ อ้างว่าขยับแพแล้วเดี๋ยวไม่มีลูกค้าไป คนประเภทนี้รับประกันว่าไม่ใช่สายพุทธภูมิเด็ดขาด สายพุทธภูมินี่เห็นความลำบากของผู้อื่นเมื่อไรโดดไปช่วยเลย

นี่ขนาดคนทั้งอำเภอไปขอร้องยังไม่ยอมย้าย ขยับออกไปแค่ ๓๐ เมตรเอง กลัวลูกค้าจะไม่ไป ถ้าคนที่เคยชินกับการเสียสละ พอไปเจอบุคคลประเภทนั้นแทบจะไม่อยากอยู่ร่วมโลกด้วยเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-10-2013 เมื่อ 20:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 02-10-2013, 20:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภิกษุที่เป็นวิกลจริตพอบวชเข้ามาแล้วห้ามสึกหรือครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่ห้ามสึก แต่สึกไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าท่านสึกด้วยความเต็มใจหรือเปล่า

ถาม : เหมือนมีพระวินัยเว้นไว้ด้วยว่า ยกเว้นภิกษุวิกลจริต
ตอบ : จำเป็นต้องเว้น เพราะท่านไม่ได้มีเจตนาจะไปละเมิดศีล แต่ทำไปเพราะตอนนั้นสติไม่สมบูรณ์

ถาม : แล้วถ้าคนที่บวชไปแล้วปฏิบัติเคร่งเครียดจนเกิดวิกลจริต พระพุทธศาสนาจะเลี้ยงไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : จนกว่าจะหาย ส่วนหายแล้วท่านจะอยู่หรือไม่อยู่อีกเรื่องหนึ่ง แต่พระพุทธเจ้าท่านยกไว้ให้เลย เรียก อมูฬหวินัย เป็นพระวินัยที่ยกให้สำหรับภิกษุที่กระทำอาบัติในระหว่างวิกลจริต ว่าปรับท่านไม่ได้ เพราะตอนนั้นไม่มีสติ การที่ภิกษุจะลาสิกขาหรือว่าสึกจากความเป็นพระ ท่านบอกว่าต้องเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ บุคคลที่รับรู้การสึกต้องเป็นผู้ที่รู้เดียงสา ก็คือเข้าใจว่าท่านขอสึก ไม่ใช่สึกกับต้นโพธิ์..!

จะว่าไปแล้วท่านก็กันเอาไว้เหมือนกัน เพราะถ้าท่านไม่อยากจะสึก พอได้สติขึ้นมา อ้าว...ทำไมเรากลายเป็นอย่างนี้ไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-10-2013 เมื่อ 01:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 02-10-2013, 20:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่เขาเป็นกระเทย วันหนึ่งความรู้สึกที่เขาอยากเป็นผู้หญิงขาดสะบั้นลง แสดงว่าอกุศลกรรมตรงนั้นขาดลงหรือครับ ?
ตอบ : น่าจะหมดกรรมแล้ว แต่ตอนนั้นจะกลับคืนเป็นคนปกติได้ยากแล้ว เพราะเป็นมาทั้งชีวิตจนกระทั่งเคยชินแล้ว พอถึงเวลาเลิกเป็นขึ้นมานี่คงตีหน้าไม่ถูก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-10-2013 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:17



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว