กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 10-08-2015, 20:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘

ถาม : หากเราเกิดนึกเห็นภาพว่าร่างกายตัวเองต้องกลายเป็นของคนอื่น ท้ายสุดต้องกลายเป็นขี้เถ้าไม่เหลืออะไรเลย ลักษณะนี้ถือว่ายังอยู่ในขอบเขตของอสุภกรรมฐานหรือไม่คะ ?
ตอบ :ที่ว่าเห็นร่างตัวเองเป็นของคนอื่น เห็นเป็นของหนุ่มคนไหนล่ะ ? ...(หัวเราะ)... ในส่วนนี้ควรจะเป็นปัญญาในกายคตาสติและอสุภกรรมฐานรวมกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 10-08-2015, 20:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราหยอดเงินในกระปุกแล้วอธิษฐานว่า จะเอาเงินไปสร้างสมเด็จองค์ปฐมพร้อมเครื่องอัฐบริขารแบบนี้ แล้วถ้าเราเอาเงินไปทำบุญซ่อมองค์ปฐมแทนจะได้ไหมครับ จะผิดจุดประสงค์ไหมครับ ?
ตอบ : ตั้งใจไว้ ถ้าเปลี่ยนใจก็ผิดวัตถุประสงค์แน่ ๆ อยู่แล้ว

ถาม : แล้วอย่างนี้ถ้าเอาไปทำจะมีโทษไหมครับ ?
ตอบ : ทำได้..แต่หาของใหม่ไปใช้แทนของเดิมด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 10-08-2015, 20:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูเป็นคนชอบสวดมนต์ แต่หลายครั้งมักสวดในที่ทำงาน ช่วงพักหรือช่วงที่ต้องการสมาธิก่อนการคิดวางแผนงาน แต่ไม่ได้พนมมือเพราะเกรงว่าเพื่อนร่วมงานจะหาว่า "บ้า..นั่งไหว้จอคอมพิวเตอร์" หลายครั้งก็ไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมงานทราบว่าเรากำลังสวดมนต์ เพราะเกรงว่าเขาจะเห็นว่าเคร่งศาสนาค่ะ ขอกราบเรียนถามพระอาจารย์ว่า การสวดมนต์แบบไม่พนมมือบาปไหมคะ ?
ตอบ : พนมในใจสิ..ทำความดีจะเอาอะไรมาบาป ? ความจริงเป็นคนฉลาดและมีปัญญาด้วยซ้ำไปที่รู้จักหลีกเลี่ยง เพราะไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นโทษกับคนอื่นเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 244 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 10-08-2015, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การขอความเมตตาจากพระสงฆ์ ขอท่านช่วยอธิษฐานจิตสิ่งต่าง ๆ เช่น ทองคำ มวลสารเพื่อนำไปหล่อพระ หรือให้ท่านจารอักขระให้ อย่างนี้ถือเป็นการใช้งานพระหรือไม่ ? และหากมีความจำเป็นต้องกระทำการดังกล่าว ควรทำอย่างไรให้ถูกต้องและเหมาะสม ?
ตอบ : ถือเป็นการใช้ทุกกรณี วิธีที่เหมาะสมที่สุดก็คืออย่าใช้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 10-08-2015, 20:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในการทำบุญที่เป็นทานนั้น จิตของผู้ให้ทานอาจมีลักษณะที่ต่างกันคือ
๑) ขณะให้ทานจิตนั้นมีตัณหาเป็นที่ตั้ง เช่น ทำบุญเพราะปรารถนาที่จะร่ำรวย ปรารถนาที่จะพ้นจากทุกขเวทนา ทำบุญเพราะอยากได้วัตถุมงคล เป็นต้น
๒) ขณะให้ทานจิตนั้นมีศรัทธาเป็นที่ตั้ง เช่น มีศรัทธาในพระศาสดาเจ้า จึงทำบุญเพื่อเทิดทูนพระองค์ ทำบุญเพื่อรักษาพระศาสนา เป็นต้น
๓) ขณะให้ทานจิตนั้นมีพรหมวิหาร ๔ เป็นที่ตั้ง เช่น มีคนมาบอกบุญ ก็ทำบุญด้วยความรู้สึกว่า การให้เป็นสิ่งที่ดี คนอื่นลำบากกว่าเรา ถ้าเราให้ เขาก็จะมีความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็มิได้ปรารถนาสิ่งใดเป็นการตอบแทน ให้แล้วก็จบกันไป เป็นต้น
๔) ขณะให้ทานจิตนั้นมีความกตัญญูกตเวทิตาเป็นที่ตั้ง เช่น ถวายปัจจัยแด่พระภิกษุผู้เคยอบรมกรรมฐานให้ แม้จะทำให้ตนลำบากอยู่บ้าง ก็มิได้หวั่นเกรง เป็นต้น

ทั้งหมดนี้ ต่างก็เป็นการสละทรัพย์ภายนอกออก จึงอยากกราบเรียนถามถึงผลของการให้ทานทั้ง ๔ ลักษณะว่า แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรครับ ?

ตอบ : ไม่นึกว่าจะฟุ้งซ่านได้ขนาดนี้..! การให้ทานนั้น ๑.วัตถุทานบริสุทธิ์ ๒.เจตนาในการให้บริสุทธิ์ ๓.ผู้ให้คือตัวเองมีศีลบริสุทธิ์ ๔.ผู้รับมีศีลบริสุทธิ์ ถือว่าได้บุญเต็ม ๑๐๐ ส่วน ถ้าส่วนใดส่วนหนึ่งพร่องก็ตัดไป ๒๕ เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้น..ดูเอาก็แล้วกันว่า ที่ถามมาทั้ง ๔ ลักษณะนั้นเข้ากับข้อใดบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 10-08-2015, 21:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไม่ค่อยจะขยันภาวนา เพราะว่าพอถึงจุดหนึ่งจะรู้สึกกลัวทุกทีและหยุดภาวนาไปเลย กลัวว่าออกไปแล้วจิตไม่เข้าร่าง กลัวมีคนมาเสียบแทน และถ้าผมจะตัดร่างกาย ไม่เข้าใจว่าต้องตัดร่างกายอย่างไรครับ ?
ตอบ : ไปเขียงหมูขอเขาช่วยหั่นให้..! การภาวนาถ้ายังกลัวอยู่ แปลว่ายังตัดร่างกายไม่ได้ ชีวิตนี้ไม่ต้องเอาดีอะไรกับใคร

ส่วนการภาวนาหลุดออกไป
แล้วกลัวจะกลับไม่ได้ ข้อนี้ถือว่าเหลวไหลมาก อาตมาลองมาแล้วทุกรูปแบบ ทันทีที่เราออกไปจิตก็จะกลับท่าเดียว ไม่ใช่กลับไม่ได้ เกิดอะไรขึ้นแม้แต่นิดเดียวจิตจะกลับมาสู่ร่างกายทันที สภาพจิตนี้ผูกพันกับร่างกายนี้เป็นพิเศษ ฉะนั้น..ไม่ต้องห่วงว่าไปแล้วจะกลับไม่ได้ แต่จงกลัวว่าจะไปไม่ได้ดีกว่า

ถาม : ถ้าจะตัดร่างกายให้ได้จริง ๆ นี่มีวิธีอย่างไรครับ ?
ตอบ : พิจารณาแยกแยะให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ร่างกายนี้เป็นเพียงธาตุ ๔ คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบกันขึ้นมาให้เราอาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น เหมือนกับเสื้อผ้าชุดหนึ่งหรือเหมือนกับรถยนต์คันหนึ่ง ถึงเวลาแล้วเสื้อผ้าย่อมไม่ใช่ตัวเรา หรือรถยนต์ก็ย่อมไม่ใช่คนขับ พยายามเห็นให้ได้อย่างชัดเจน แล้วจิตใจก็จะค่อย ๆ คลายการยึดในร่างกายลงไปเอง

ต้องพิจารณาทบทวน ย้ำบ่อย ๆ ซ้ำบ่อย ๆ จะเบื่อไม่ได้ จนกว่าเมื่อบอกว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา แล้วจิตใจยอมรับอย่างแท้จริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 10-08-2015, 21:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าพระสงฆ์ไปเที่ยวในต่างประเทศแล้วเข้าไปเที่ยวในป่า เห็นดินอุดมสมบูรณ์ดี ได้ใช้โยมที่ไปด้วยกันเก็บดินนั้นมาหวังเพื่อจะมาปลูกต้นไม้ในวัด การกระทำแบบนี้พระสงฆ์รูปนั้นจะต้องอาบัติปาราชิกหรือไม่ครับ ? ถ้าพระสงฆ์ไปเอาทรายจากน้ำตกในป่าเขา เพื่อนำมาก่อสร้างพระพุทธรูปหรือสร้างวิหารทานต่าง ๆ จะมีโทษหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ต้องบอกว่าอาจจะต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระแบบเหลวไหลที่สุด ไปเที่ยวต่างประเทศแล้วเก็บดินกลับมาปลูกต้นไม้บ้านเรา ใครจะมีอารมณ์ขนาดนั้น ?

ถาม : ท่านอาจจะเป็นชาวไร่เก่าก็ได้ครับ เห็นว่าดินอุดมสมบูรณ์ปลูกต้นไม้น่าจะดีเลยเอามา
ตอบ : อาตมารับประกันว่าร้อยละร้อย..ไม่มีหรอก เพราะส่วนใหญ่ที่เห็นจะซื้อแต่ของฝาก ถึงเวลาถ้ากระเป๋าไม่พอใส่ของฝากก็ทิ้งดินไปเอง

ถ้าของนั้นมีเจ้าของและเจ้าของไม่ได้อนุญาต ของนั้นมีราคา ๑ บาทขึ้นไปจะขาดจากความเป็นพระทันที เพราะฉะนั้น..อย่าเสี่ยงเป็นอันขาด

ส่วนการที่เอาทรายจากธรรมชาติมาเพื่อการก่อสร้าง ปกติแล้วทำได้ แต่ต้องดูด้วยว่าสถานที่นั้นเป็นอุทยานหรือเปล่า ? ถ้าเป็นอุทยานเขามีกฎหมายห้ามอยู่แล้ว ขืนไปทำเข้า ไม่ได้แต่ผิดศีลอย่างเดียว กฎหมายก็ผิดด้วย ส่วนถ้าเป็นในแม่น้ำลำคลอง แล้วเราไปงมทรายในจำนวนที่มากจนเกินไป ข้อนี้อาตมาไม่แน่ใจว่าต้องเสียภาษีหรือเปล่า ? ถ้าหากว่าต้องเสียภาษีแล้วไปเอามาเฉย ๆ ก็โดนอาบัติปาราชิกเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 10-08-2015, 21:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงนี้เวลาเจอคนที่คุ้นหน้าหรือรู้จัก ผมจะไม่ค่อยอยากสบตา เพราะสบตาแล้วต้องมีการพูดคุยกัน ผมรู้สึกว่าไม่อยากคุยด้วย แต่ถ้าจะคุยก็คุยได้ และจะหาทางปลีกตัวเร็วที่สุด โดยเลือกที่จะไม่คุยดีกว่า ชอบที่จะอยู่คนเดียวในพื้นที่ซึ่งผมรู้สึกสบาย โดยไม่ค่อยอยากให้ใครที่มาคุยด้วยรบกวน แต่ก็ไปอยู่ในที่คนเยอะได้ โดยที่คนเหล่านั้นไม่รู้จักกัน ไม่ต้องมีการสื่อสารกัน

บ่อยครั้งมีเหตุการณ์ที่บางคนเข้าใจผมผิดไปจากความจริง โดยที่คิดไปเอง และก็เอาความเข้าใจผิดไปเล่ากับคนอื่น ๆ ผมก็ดันรู้และเห็นตลอด แต่ทำไมไม่อยากไปแก้ข่าวหรือไปปรับข้อมูลที่แท้จริงกับคนอื่น ๆ และก็สบายใจได้เองกับสิ่งที่เราไม่ได้เป็นแบบนั้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงวุ่นวาย โกรธ และร้อนที่จะไปโต้ตอบและบอกความจริงให้สะใจ

ช่วงนี้เห็นใคร ๆ บางทีเห็นเขาก็มีความสุข หรือดีใจมากกับการกระทำและการดำเนินชีวิตของเขา เช่น ได้แฟน ได้ทรัพย์สินที่ขวนขวายหามา และอื่น ๆ ทำไมผมรู้สึกทวนไปเองจากสิ่งที่เขาขวนขวายมาตั้งแต่ต้น แล้วรู้สึกสลด หดหู่ ทุกข์เวลาเห็นเขาดิ้นรนเพื่อให้ได้มา ไม่ได้รู้สึกยินดีไปในเรื่องราวของเขาเหล่านั้นเลย ทั้งหมดนี้ผมไปติดอะไรไหมครับ ? ดูเหมือนจะดี แต่ไม่กลมกลืน ไม่กลมกล่อมในการมีชีวิตอย่างไรก็ไม่รู้ครับ ?

ตอบ : ใกล้บ้าแล้ว..! ลองถามเพื่อนรอบข้างทุกคนดู..เขาว่าบ้าไหม ? การปฏิบัติของเราถ้าห่างโลกไปเรื่อย ๆ ก็เป็นการดี แต่อย่าลืมว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม การที่อยู่ร่วมกับคนอื่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ ทำอย่างไรที่เราจะปรับตัวเองให้โลกไม่ช้ำธรรมไม่เสีย อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ในลักษณะของน้ำกลิ้งบนใบบอน ก็คือไม่ติดอยู่กับใบบอนหรือไม่ติดอยู่กับโลกนี้ แต่สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้

แสดงว่าโยมที่ถามมาเริ่มจะอยู่ในลักษณะของการเข้าถึงความสันโดษ ต้องการความวิเวก ปรารถนาการอยู่คนเดียว แต่ยังไม่สามารถที่จะปรับตัวให้กลมกลืนได้ เขาก็สามารถวิเคราะห์ตัวเองได้อยู่แล้ว พยายามปรับตัวหน่อยก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 10-08-2015, 21:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่ดูลมหายใจแล้วภาวนาสัมปฏิจฉามิ จะมีอาการปวดบริเวณกรามทั้งสองข้างและมักจะมีน้ำลาย ทำให้ต้องกลืนน้ำลายบ่อย ๆ กราบเรียนถามพระอาจารย์ว่าต้องแก้อย่างไรบ้างครับ ? ขอพระอาจารย์ชี้แนะด้วยครับ
ตอบ : ตัดกรามออกแล้วจะไม่มีกรามให้ปวด..! เป็นเพียงอาการที่ร่างกายมารบกวน เขาเรียกว่าขันธมาร ไปสนใจก็ไม่ต้องภาวนากันพอดี ทำไม่รู้ไม่ชี้ภาวนาของเราไป เพื่อแลกกับการเข้าถึงธรรมแม้แต่ตายเราก็ยอม กับแค่ปวดนิดหน่อยจะเป็นอะไรไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-08-2015 เมื่อ 11:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 10-08-2015, 21:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การทำถึงซึ่งพระนิพพานนั้นเป็นเรื่องที่ต้องสั่งสมมาหลายภพชาติ มิได้ง่ายเหมือนอย่างที่บอกกล่าวกัน เลยคิดว่าอยากทำให้ศีลบริสุทธิ์ คงพอเหมาะกับตัวเรา เพราะไม่คุ้นเคยกับการนั่งสมาธิ การทำวิปัสสนา เหมือนที่คนที่มีบารมีสะสมมาตั้งแต่ชาติที่ผ่านมา กราบเรียนถามว่า การทำให้ศีลบริสุทธิ์นั้นต้องทำอย่างไรครับ ? ผมขอแค่นี้พอแล้วครับสำหรับชาตินี้
ตอบ : รับประกันว่าอีกหลายกัป..!

ถาม : หลายกัปอย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็เขายินดีแค่นั้น ศีล สมาธิ แล้วยังต้องมีปัญญาอีก แต่ละอย่างต้องผ่านการสั่งสมมาหลายกัป ถึงจะเพียงพอในการตัดกิเลส ในเมื่อตั้งใจแค่ก้าวแรก ก็ยังเหลืออีกหลายกัปกว่าจะไปได้ การรักษาศีลให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ก็คือ การรักษาศีลด้วยตัวเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นคนอื่นละเมิดศีล ก็แค่นั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 10-08-2015, 21:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตามที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานกล่าวถึงพระที่มีลาภมาก ได้แก่ สมเด็จพระพุทธกัสสโป (ปางพุทธลีลา) และสมเด็จพระพุทธทีปังกร (พระพุทธโสธร) มีลาภมหาศาลมาก และหลวงพ่อเล็กเคยกล่าวถึงพระพุทธรูปหยกวัดท่าขนุนว่า เป็นรูปลักษณะของสมเด็จพระพุทธกัสสโป เป็นปางพุทธลีลา สมเด็จพระพุทธกัสสโปและสมเด็จพระพุทธทีปังกร ทั้งสองพระองค์บารมีหนักในด้านลาภมาก

รบกวนถามว่า ๑. สมเด็จพระกกุสันโธ มีรูปลักษณะเป็นพระปางอะไร ? และมีบารมีหนักในด้านใดครับ ? ๒. สมเด็จพระโกนาคมโน มีรูปลักษณะเป็นพระปางอะไร ? และมีบารมีหนักในด้านใดครับ ?

ตอบ : ขอแก้ข้อเข้าใจผิดก่อน เรื่องนี้ยืนยันว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงไม่เคยพูดไว้ ท่านพูดไว้แค่ครึ่งเดียว ก็คือ พระพุทธกัสสปะกับพระพุทธทีปังกรเป็นพระพุทธเจ้าที่มากด้วยลาภ เพราะว่าสร้างบารมีเริ่มต้นด้วยการให้ทาน ส่วนอาตมาเองพูดว่า ได้รับพรจากสมเด็จพระพุทธกัสสปะว่า ถ้าพระองค์ท่านมา จะมาในลักษณะของพระพุทธลีลาประทานพร ส่วนพระพุทธทีปังกรให้พรว่า ถ้าพระองค์ท่านมา จะมาในลักษณะพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน มีสภาพค่อนข้างอ้วนท้วนสมบูรณ์ นี่เป็นเรื่องที่พระองค์ให้เฉพาะตัว ดันเสือกเอาไปยำรวมกัน...! แล้วเสือกยำผิดด้วย ส่วนที่เหลือถ้าอยากรู้ให้ไปถามพระองค์ท่านเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 10-08-2015, 21:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อไม่กี่วันมานี้ ผมตื่นลืมตาก็ลุกขึ้นมานั่งสวด อิติปิ โส ฯ ๓ ห้อง ๓ จบ เสร็จแล้วก็หันไปจัดหมอนและที่นอน วางหมอนเข้าที่ หัวปักหมอนดิ่งหลับ แล้วก็เหมือนฝันว่าจะเข้าไปกราบพระในห้อง ๆ หนึ่ง พอเปิดประตูเข้าไป เหมือนเดินหลับตา จะลืมตาก็ไม่ได้ ตอนนี้รู้สึกถึงตัวที่หลับอยู่บนที่นอนด้วย จะฝืนลืมตาให้ได้เพราะอึดอัดมาก ฝืนจนในฝันลืมตาได้ ก็เห็นคนชุดขาวนั่งอยู่ในห้องไม่มาก แล้วก็มีพระรูปร่างสูงโปร่ง จะหนุ่มก็ไม่หนุ่ม แต่ไม่ถึงกับอายุมาก นั่งอยู่พื้นยกระดับ ผมก็เข้าไปนั่งข้าง ๆ ท่าน ท่านก็หันมาบอกผมว่า "ให้ภาวนาพุทโธถี่ ๆ"

ในฝันผมก็ถามกลับไปทันทีว่า "บริกรรมคาถาเงินล้านได้ไหมครับ ?" ท่านก็นิ่งไปอึดใจหนึ่ง แล้วก็บอกว่า "ได้" ผมมาหาข้อมูลในภายหลัง ปรากฏว่าท่านคือ หลวงพ่อเกษม เขมโก จะขอโอกาสถามหลวงพ่อว่า ผมไม่ทำตามที่ท่านสั่งแบบนั้น จะเป็นอะไรไหมครับ ? ถ้าจะท่องพุทโธถี่ ๆ ก็เสียดายคาถาเงินล้าน จะท่องคาถาเงินล้าน ก็รู้สึกว่าถ้าไม่สำคัญท่านก็ไม่สั่ง ขอความเมตตาหลวงพ่อด้วยครับ

ตอบ : แบ่งกัน..ภาวนาอย่างละครึ่งวัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-08-2015 เมื่อ 19:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 10-08-2015, 21:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ระหว่างพระองค์ที่ ๑๑ กับสมเด็จองค์ปฐมลอยองค์ พระเครื่องสองรุ่นนี้ ถ้าใช้กำลังใจทรงตัวในระดับเดียวกันอาราธนา รุ่นไหนจะมีอานุภาพในทางมหาลาภมากกว่ากันครับ ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจเท่ากันอานุภาพก็เท่ากัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 10-08-2015, 21:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าบนหลวงพ่อขอสิ่งหนึ่งไว้ และยังไม่ได้ตามที่ขอ แต่กลัวว่าจะทำไม่ได้ตามที่บนไว้ เลยจะขอเปลี่ยนคำบนใหม่ เพื่อให้ได้สิ่งเดิมที่ต้องการได้ไหมคะ ?
ตอบ : ต้องบอกว่าคงจะหวังยาก ขนาดความตั้งใจยังไม่แน่นอน แล้วจะไปเอาอะไรแน่นอน ตอนอยากได้นี่อะไรก็ได้ใช่ไหม ? จะให้แก้บนวันนี้ก็ยอม พอถึงเวลาแล้วก็เปลี่ยนใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 10-08-2015, 21:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมควรไหม ที่จะพาสุนัขที่เราเลี้ยงไว้ไปบริจาคเลือด ? ไม่แน่ใจว่าสุนัขจะเต็มใจหรือไม่ ถ้าไม่สมควรเราจะปฏิเสธคนที่มาขอความช่วยเหลืออย่างไรดี ?
ตอบ : ให้ไปถามหมาตัวนั้น ถ้าเขาไม่เต็มใจก็มีปัญหาแน่ ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 03:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 10-08-2015, 21:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่ตัวเราเจตนาทำอาหารเพื่อกินเอง และได้ชิมในอาหารนั้นด้วย แต่สามีได้นำไปถวายพระโดยไม่ได้สอบถามเสียก่อน กรณีเช่นนี้ใครบาป ถ้าบาปจะแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : ยินดีตามสามีไปจะได้บุญทั้งคู่ ทำอาหารถ้าไม่ชิมแล้วจะรู้หรือว่ารสเป็นอย่างไร ?

ถาม : อย่างนี้ก็ไม่ถือว่าเป็นของเดนไปถวายพระใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่เป็น..ของเดนก็คือเรากินในสำรับนั้นเลย นี่ตักออกมาชิมเท่านั้น มีใครเป็นสุดยอดแม่ครัวที่ทำอาหารโดยไม่ชิมบ้าง ? ช่วยยกมือขึ้นหน่อย ...(มีโยมยกมือ)... แล้วคนกินบ่นไหม ? ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 04:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 10-08-2015, 21:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระอรหันต์กับผู้ทรงศีลที่ยังไม่บรรลุเป็นพระอรหันต์ ถ้าได้มีการทำพุทธาภิเษกวัตถุมงคล วัตถุมงคลที่ออกมานั้นจะแตกต่างกันหรือไม่ ?
ตอบ : แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว ไม่ต้องถึงพระอรหันต์หรอก แค่พระโสดาบันกับผู้ทรงศีลธรรมดาก็เปรียบกันไม่ได้อยู่แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 04:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 10-08-2015, 21:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัตถุที่นำไปแช่ในน้ำมนต์ จะเป็นวัตถุมงคลและศักดิ์สิทธิ์ เหมือนพุทธาภิเษกเลยหรือไม่ ?
ตอบ : ยาก..ส่วนมากเอาไปแช่เท่ ๆ อย่างนั้นแหละ ถ้าน้ำมนต์ไม่ซึมเข้าไปในวัตถุ ก็แทบจะไม่ได้อะไรเลย

ถาม : ไม่ได้ใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ได้นิดหนึ่ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 04:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 11-08-2015, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อได้ยินว่าโลกมีแต่ความทุกข์ แต่คิดว่ามีความสุข แต่เป็นความสุขที่มีแล้วก็หมด ไม่ยั่งยืน ต้องแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : ไม่ต้องแก้..แค่พยายามเห็นความสุขให้เป็นความทุกข์ให้ได้ก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 15:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 11-08-2015, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “การถามปัญหาในการปฏิบัติธรรม บางท่านไม่ได้ตั้งใจเอาคำตอบ แค่เจตนาจะอวดว่าตัวเองทำอะไรได้ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าสงสารมาก ปัจจุบันนี้คนประเภทนี้มีเยอะ แล้วชอบเข้าไปแสดงความคิดในเว็บต่าง ๆ ต้องบอกว่ามีโทษมากกว่าประโยชน์”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-08-2015 เมื่อ 15:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:12



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว