กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 22-03-2010, 08:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,987 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default หลับอยู่แต่ก็รู้ว่าหลับ

ถาม : อารมณ์ที่ว่าหลับอยู่แต่ก็รู้ตัวว่าตื่นอยู่ รู้สึกว่าตัวเองมีอารมณ์ใกล้เคียงอย่างนั้น แต่ไม่มั่นใจว่าตื่นอยู่หรือเปล่า มีอารมณ์เป็นอย่างไรกันแน่ครับ ?
ตอบ : หลับอยู่แต่ก็รู้ว่าตอนนี้กำลังหลับ อะไรเกิดขึ้นรอบข้างจะรู้หมด ถ้าหากว่าใส่ใจก็จะคลายความรู้สึกออกมารับรู้ ถ้าไม่ใส่ใจก็จะนิ่งอยู่ในจุดเดิมของตัวเองต่อไป

ถาม : ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนตื่น ?
ตอบ : เหมือนตื่นทุกอย่าง เพียงแต่ว่าจะนิ่งอยู่อย่างนั้นแหละ และถ้าเรากดอารมณ์ลงลึกอีกนิดเดียว ก็จะตัดขาดหลับไปจริง ๆ ขณะเดียวกันถ้าคลายออกมาเมื่อไร ก็จะเริ่มรับรู้ทุกอย่างสารพัด

ถาม : จะชอบเป็นเคลิ้ม ๆ ระหว่างนั่งสมาธิ ?
ตอบ : พยายามสังเกตให้ได้ว่า อารมณ์ใจ..ถ้าเปรียบเป็นเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่ จะค่อย ๆ ลดลง...ลดลง...ลดลง จะลดไปเรื่อย พอถึงระดับหนึ่ง เหลืออีกนิดเดียว เรารู้ว่ากดอีกนิดนี่จะดับเลย ก็ให้เรารักษาระดับนั้นเอาไว้

ถ้าสามารถทำจนคล่องตัว ต่อไปเราเข้าถึงระดับนั้นเมื่อไรก็สบายเลย เท่าที่สังเกตดูจะมีอาการเกิดขึ้นทางร่างกายด้วย อย่างเช่นว่า จู่ ๆ หูเราเหมือนกับดังวิ้ง แล้วก็จะไปถึงอารมณ์นั้นเลย และหลังจากนั้นคุณก็แค่ประคองอารมณ์ตรงนั้นไว้ แล้วก็ตั้งเวลาไว้เลยว่าจะเอากี่นาที กี่ชั่วโมง จะเป็นไปตามเวลานั้น ถึงเวลาก็จะคลายออกมาเอง แต่ถ้ามีอะไรที่น่าสนใจ เราสามารถสั่งให้คลายออกมาเพื่อรับรู้ได้ อาจจะมีคนเรียก อาจจะมีโทรศัพท์ดัง พอคลายอารมณ์ออกมาปฏิสัมพันธ์กับเขาเสร็จแล้ว ก็รีบกลับเข้าไปจุดเดิม

ตอนนั้นร่างกายเราหลับ บางทีเรากรน เรายังได้ยินเลย แต่ว่าจิตยังตื่นอยู่ เพราะใจเราไม่ได้หลับด้วย ทำถึงตรงนั้นเมื่อไร จึงพอจะมีกำลังสู้กิเลสได้ ถ้าทำไม่ถึงยังสู้ไม่ได้หรอก

ถาม : ตรงนี้เป็นผลของสมาธิหรือสติครับ ?
ตอบ : เป็นผลของสมาธิที่สร้างสติ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2014 เมื่อ 16:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 96 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-03-2010, 08:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,987 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อก่อนตอนนั่งสมาธิใหม่ ๆ เวลาเข้าฌานได้ชั่วโมงสองชั่วโมง รู้สึกว่าเวลาเดี๋ยวเดียว แต่ตอนนี้รู้สึกเหมือนว่าเวลาผ่านไปนาน พอลืมตามาดู เพิ่งผ่านไปแค่สิบห้านาทีเอง ทำไมเป็นอย่างนั้นครับ ?
ตอบ : ตอนแรกจิตเราหยาบ พอจิตหยาบ ระยะเวลาที่ผ่านไปเราไม่รับรู้ กว่าที่จะคลายออกมาก็ผ่านไปนาน แต่ถ้าจิตละเอียดขึ้นเราจะรับรู้ทุกขั้นตอน แต่ว่ากำลังใจนิ่งอยู่เท่ากับตอนที่หยาบ ก็เลยพักน้อยแต่เหมือนกับได้พักมาก

ฉะนั้น..เวลาเหนื่อย ๆ ขึ้นมาก็จำเป็นต้องใช้วิธีนี้ พอพักนิดเดียวแต่เหมือนได้นอนพักเป็นชั่วโมง ๆ จะรู้สึกสดชื่นมาก แต่ว่าจริง ๆ แล้วเวลาเพิ่งผ่านไปนิดเดียว แต่ถ้าหากทิ้งดิ่งลึกเมื่อไรก็ยาว เพราะฉะนั้น..ต้องระวังด้วย ต้องกำหนดเวลาว่าเราจะทำเต็มที่สักเท่าไร ไม่อย่างนั้นอาจจะข้ามวันข้ามคืนไปเลย คนอื่นตกใจแย่ แต่เรารู้สึกว่าเดี๋ยวเดียว

ถาม : แล้วกำลังใจที่ว่าดิ่งลงในระดับนั้น เป็นกำลังใจที่อยู่ในสมาธิระดับไหนขึ้นไป ?
ตอบ : ปฐมฌานละเอียด

ถาม : แล้วแต่บุคคลว่าทำได้ในระดับไหน ?
ตอบ : ใช่..อย่าเผลอนะ..ถ้าเผลอหลับทันที แรก ๆ ที่เป็นปฐมฌานหยาบ เราเอาไม่อยู่หรอก จะวูบไปเลย ต้องซ้อมบ่อย ๆ จนคล่องตัวก่อน

ตอนที่ผมซ้อม ผมใช้วิธีเปิดเทปของหลวงพ่อวัดท่าซุงฟัง และเอาจิตจดจ่ออยู่กับเสียงเทป ว่าจะต้องฟังให้ได้ทุกคำ พอใจเราจี้ไป..จี้ไป ก็จะลึกลงไปถึงระดับที่ต้องการ แต่ถ้าเราไม่จี้ติดขนาดนั้น เผลอวูบเดียวก็จะหลับไปเลย

ถาม : แล้วยังได้ยินทุกคำไหมครับ?
ตอบ : ได้ยิน..และได้ยินเกินด้วย พอถึงเวลา เอ๊ะ..ทำไมวันนี้หลวงพ่อเทศน์ยาว ? ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าเทปหมดไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ แต่ยังได้ยินต่อเนื่องเป็นปกติ


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๓
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-08-2014 เมื่อ 16:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว