กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ในวาระสำคัญต่าง ๆ

Notices

กระทู้ถูกปิด
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 26-12-2011, 10:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์วันพ่อ ปี ๒๕๕๔


เทศน์วันพ่อ ที่วัดทองผาภูมิ วันศุกร์ที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๔


นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมันติ

ณ บัดนี้อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนาในมังคลกถา เพื่อเป็นเครื่องโสรจสรงองคศรัทธาบารมี ของบรรดาธนิสราทานบดีทั้งหลาย ที่พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศล ณ ลานหลวงพ่อ ภปร.พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์ ซึ่งจัดโดยเทศบาลตำบลทองผาภูมิ เพื่อร่วมกันถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษาในวันนี้

ญาติโยมทั้งหลาย องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานั้น จัดเป็นหนึ่งในบุรพการี คือบุคคลที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ซึ่งประกอบไปด้วย องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๑ พระภิกษุสงฆ์ ๑ บิดามารดา ๑ ครูบาอาจารย์ ๑ และพระมหากษัตริย์ ๑

ท่านทั้งหลายเหล่านี้กล่าวว่าเป็นบุคคลที่หาได้ยาก เพราะว่ากระทำคุณแก่พวกเราโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ทั้งสิ้น ดังเป็นที่ทุกท่านได้ทราบอยู่แล้วว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานั้น เสด็จขึ้นครองราชย์ในวาระที่ประเทศชาติตกอยู่ในความคับขันเป็นอย่างยิ่ง เพราะสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช คือ ในหลวงรัชกาลที่ ๘ โดนลอบปลงพระชนม์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราในขณะนั้น ทรงดำรงตำแหน่งสมเด็จพระอนุชาธิราช ยังเป็นเยาวชน ไม่บรรลุนิติภาวะ มีพระชนมายุเพียง ๑๙ พรรษาเท่านั้น แต่พระองค์ท่านได้รับภารธุระซึ่งหนักเป็นอย่างยิ่ง ก็คือต้องรับผิดชอบต่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ

เมื่อพระองค์ท่านได้เข้าพิธีบรมราชาภิเษกอย่างเป็นทางการ ได้ตรัสพระปฐมบรมราชโองการว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยามซึ่งทุกท่านที่เกิดทัน หรือท่านที่ได้ตั้งใจศึกษาประวัติการทรงงานของพระองค์แล้ว จะเห็นได้ว่า ตลอดระยะเวลาการครองราชย์ ๖๕ ปีที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ไม่เคยกระทำผิดไปจากพระปฐมบรมราชโองการที่ได้ประทานเอาไว้เลย

พระองค์ท่านทรงปฏิบัติภาระทุกอย่าง เพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทย โดยไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยาก อาตมาภาพอยากจะกล่าวว่า ในพื้นแผ่นดินไทยของเรานี้ ไม่มีใครที่จะไปได้ทั่วถึงยิ่งไปกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราอีกแล้ว
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg SAM_5590.jpg (62.9 KB, 423 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-12-2011 เมื่อ 18:01
สมาชิก 89 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-12-2011, 08:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสทองผาภูมิ เมื่อ ๙ มกราคม ๒๕๒๙

สถานที่แม้จะทุรกันดารขนาดไหนก็ตาม พระองค์ท่านก็เสด็จไปถึง บางแห่งก็ต้องเสด็จพระราชดำเนินโดยพระบาท บางแห่งก็ต้องทรงม้าเข้าไป บางแห่งก็ต้องทรงเรือเข้าไป พระองค์ท่านเสด็จไปเพื่อสร้างประโยชน์สุขให้กับประชาชนจริง ๆ ดังที่จะยกตัวอย่างก็คือ

การที่พระองค์ท่านได้แปรเปลี่ยนการปลูกฝิ่นของชาวเขา ให้หันมาปลูกพืชผลการเกษตรแทน จนกระทั่งสามารถทำให้ฝิ่นหมดไปจากประเทศไทยได้ เป็นความสำเร็จที่ไม่มีประเทศไหนในโลกเคยทำได้มาก่อน และประเทศอื่นก็ได้พากันนำเอาแบบอย่างนี้ไปประพฤติปฏิบัติ แต่ว่าไม่มีใครสามารถทำได้ครบถ้วน ๑๐๐ % เหมือนอย่างในประเทศไทย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ทรงงานเพื่อประชาชนอยู่ตลอดเวลา กว่าจะได้บรรทมแต่ละคืนก็ตกตี ๒ ตี ๓ แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนพระวรกายเลย งานต่าง ๆ ที่พระองค์ท่านทรงทำนั้น นอกจากเพื่อประโยชน์สุขของปวงชนชาวไทยแล้ว บางอย่างยังเผื่อแผ่ไปถึงชาวโลกด้วย อย่างเช่นโครงการทำฝนเทียม เป็นต้น

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ของเรา ทรงคิดค้นวิธีการทำฝนเทียม สามารถทำให้ฝนตกทั้ง ๆ ที่มิใช่ฤดูฝน สามารถกำหนดให้ฝนตกในพื้นที่ซึ่งต้องการได้ สิทธิบัตรอันนี้ทั้งโลกยอมรับในพระปรีชาสามารถของพระองค์ท่าน และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต นำวิธีการทำฝนเทียม ซึ่งพระองค์ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญมากที่สุด เอาไปใช้ในประเทศของเขา เพื่อประโยชน์สุขของประชากรของเขาทั้งหลายเหล่านั้นบ้าง

หรือว่ากังหันน้ำชัยพัฒนา ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดำริคิดค้นขึ้น จนสามารถแก้ไขสภาพน้ำเสียให้กลายเป็นน้ำดีได้ ได้รับการจดสิทธิบัตรเป็นของส่วนพระองค์ แต่เมื่อมีผู้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเพื่อนำไปใช้บ้าง พระองค์ท่านก็มอบให้เขานำไปใช้งานเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ได้ เราจะเห็นได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานั้น ไม่เคยทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเพื่อพระองค์เองแม้แต่น้อย นอกจากเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนคนไทยและชาวโลกเท่านั้น

เมื่อครั้งที่พระองค์ครองราชย์ครบ ๒๕ ปี ในปี ๒๕๑๔ มีการจัดงานฉลองรัชดาภิเษก อาตมภาพตอนนั้นยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

ถ้าจำไม่ผิด ตอนนั้น จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีดำริว่าจะสร้างพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ เมื่อได้นำความขึ้นกราบบังคมทูลขอคำปรึกษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระดำรัสว่า“สร้างไปทำไม..ไม่มีประโยชน์ สร้างถนนให้ชาวบ้านดีกว่า” ดังนั้นเราจึงมีถนนรัชดาภิเษกขึ้นมา

เมื่อพระองค์ครองราชย์ครบ ๕๐ ปี รัฐบาลท่านบรรหาร ศิลปอาชา รวบรวมเงินจากข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน จำนวน ๙๙๙ ล้านบาท น้อมเกล้าฯ ถวายในวาระสำคัญนั้น แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานคืนมาทั้งหมด รับสั่งว่า“ให้เอาไปแก้ปัญหาน้ำท่วม”
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg IMG0079.jpg (57.8 KB, 368 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2011 เมื่อ 08:32
สมาชิก 82 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 28-12-2011, 08:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีปฏิสันถารกับพระเถระเมื่อเสด็จประพาสทองผาภูมิ
(ที่สี่จากขวาคือหลวงปู่อุตตะมะ ซ้ายสุดคือหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน)

แม้กระทั่งเมื่อเสด็จไปรักษาพระองค์อยู่ที่พระราชวังไกลกังวล นายกรัฐมนตรีคือ ท่านทักษิณ ชินวัตร กราบทูลขอพระบรมราชานุญาต ให้สำนักพระราชวังปรับปรุงพระราชวังไกลกังวล ให้เป็นสถานที่เหมาะสมแก่การพักผ่อนยิ่งกว่านี้ และจะขอปรับปรุงโรงพยาบาลหัวหิน ให้มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด เพื่อที่จะได้ถวายการรักษาพระองค์ได้อย่างเต็มที่

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่า “การปรับปรุงโรงพยาบาลหัวหิน เป็นการช่วยคนหมู่มากได้ เป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่การปรับปรุงพระราชวังนั้นไม่ต้องหรอก แค่นี้เราก็อยู่สบายพอแล้ว”

เราจะเห็นได้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรานั้น ไม่เคยคำนึงถึงความสุขส่วนพระองค์เลย ทรงลำบากตากตรำพระวรกายเพื่อประชาชนอยู่เสมอ ไม่ว่าประชาชนจะมีความลำบากเดือดร้อนที่ใด ก็เสด็จไปถึงยังที่นั้น ภาพที่ประทับใจประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่งก็คือ ภาพที่พระองค์ท่านทรงงานจนพระเสโทหยดลงที่ปลายพระนาสิก เป็นสิ่งที่ยืนยันอย่างชัดเจนว่า พระองค์ท่านทรงเหน็ดเหนื่อยเพื่อประชาชนเพียงใด ซึ่งมีผู้รจนากลอนไว้ว่า

“พระเสโทหลั่งไหลมิหายเหือด..........ไพรฟ้าเดือดร้อนมีที่ตรงไหน
ธ เสด็จทั่วด้าวเพื่อชาวไทย..............ดับร้อนให้ผ่อนเย็นเป็นสุขพลัน

นี่คือสิ่งที่พระองค์ได้ทำ และประชาชนชาวไทยทุกคนตลอดจนชาวโลกทั้งหลายก็ได้เห็น เมื่องานฉลองกาญจนาภิเษกที่พระองค์ทรงครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ได้มีการขับเพลงเฉลิมเกียรติ ระบุถึงสิ่งที่พระองค์ทรงทำ ให้เห็นภาพพจน์อย่างชัดเจนว่า ความสุขของพระองค์ไม่ใช่การอยู่ในพระบรมมหาราชวัง แต่เป็นการอยู่กับประชาชนของพระองค์ ดังเนื้อเพลงที่ว่า

“พิมานทิพย์คือท้องทุ่ง...............ม่านราวรุ้งคือเขาเขิน
ร้อนหนาวในราวเนิน..................มาลูบไล้ต่างสุคนธ์
รอยพระบาทที่ยาตรา.................แทบทั่วหล้าฟ้าสกล
พระเสโทที่ถั่งท้น........................ถ้าไหลรวมคงท่วมไทย

นี่คือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา พระองค์ตรากตรำพระวรกาย ทรงงานเพื่อประชาชนชาวไทย จนกระทั่งปีนี้พระองค์ท่านเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา หรือเรียกตามภาษาชาวบ้านว่าอายุครบ ๗ รอบแล้ว

ถ้าเป็นชาวบ้านทั่ว ๆ ไปก็เป็นคุณปู่ คุณตา มีลูกมีหลานคอยเลี้ยงดู คอยเอาอกเอาใจ แต่พระองค์ท่านยังไม่ได้พักผ่อนพระวรกายเลยแม้แต่น้อย ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้ เกิดมหาอุทกภัยขึ้น ทำให้ชาวบ้านต้องเดือนร้อนไป ๒๐ กว่าจังหวัด

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงติดตามข่าวน้ำท่วมอยู่ตลอดเวลา แทบจะไม่ได้พักผ่อนบรรทมเลย ทรงมีพระราชดำริต่าง ๆ ออกมา เพื่อผ่อนคลายความทุกข์ให้กับชาวบ้าน พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ต่างก็ดำเนินตามรอยพระบาท เสด็จออกช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบความทุกข์ยากจากภาวะน้ำท่วม
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg IMG0004.jpg (57.0 KB, 320 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-12-2011 เมื่อ 08:34
สมาชิก 70 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 29-12-2011, 08:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
ขึ้นบรรจุบนพระเกศของหลวงพ่อ ภปร.พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์

ชาวทองผาภูมิของเรา นำโดยท่านนายกเทศมนตรีประเทศ บุญยงค์ ก็ได้นำเอาสิ่งของไปบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในนามของชาวอำเภอชาวทองผาภูมิทั้งหมด นี่คือสิ่งที่เราทั้งหลายได้โดยเสด็จตาม ในสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงปฏิบัติตลอด ๖๕ ปี ที่ได้เสวยราชย์มา

จะเห็นได้ว่า การเป็นพระมหากษัตริย์ของพระองค์ท่าน ไม่ใช่การเสวยราชย์ แต่เป็นการครองใจราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปฏิบัติหน้าที่เหล่านี้ ด้วยน้ำพระทัยเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ทุกสิ่งทุกอย่างที่พระองค์ทรงกระทำนั้น พระองค์ไม่ได้ต้องการคำสรรเสริญจากพวกเรา ไม่ได้ต้องการให้จัดงานเทิดพระเกียรติอย่างที่พวกเราทำกันอยู่ในขณะนี้

แต่สิ่งที่พระองค์ต้องการจริง ๆ ก็คือ ให้พวกเราปฏิบัติตามในสิ่งที่พระองค์ได้กระทำไว้แล้ว ศาสตราจารย์แมนเฟรด ชาวเยอรมัน ได้กล่าวเอาไว้ว่า น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนไทยทั้งปวง ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นครูผู้ยิ่งใหญ่ แต่ไม่มีใครทำตามที่ครูสอนเลย

เราลองมานึกดูว่า ถ้าหากว่านักเรียนไม่ทำตามที่ครูสอน แล้วจะเป็นนักเรียนที่ดีได้อย่างไร แล้วครูที่มีแต่นักเรียนที่ไม่ฟังคำครูเลยนั้น จะรู้สึกอย่างไร แต่พระองค์ก็ไม่เคยย่อท้อ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทรงงานเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนตลอดมา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทยมาตลอด ๖๕ ปี แม้กระทั่งสิ่งของที่พระองค์ใช้เป็นการส่วนตัว อย่างฉลองพระองค์หรือฉลองพระบาท พูดง่าย ๆ ว่าเสื้อผ้าและรองเท้า พระองค์ท่านก็ไม่ได้โปรดของใหม่ ไม่ได้โปรดของมีราคาหรือมียี่ห้อ

หากแต่ให้ช่างซ่อมแล้วซ่อมอีก ซ่อมจนกระทั่งไม่สามารถที่จะใช้งานต่อไปได้ ถึงจะยอมสละ ขณะเดียวกัน แม้แต่ของใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างยาสีพระทนต์คือยาสีฟันนั้น พระองค์ท่านก็ใช้จนกระทั่งคนเห็นแล้วตะลึงว่าทำได้จนถึงขนาดนี้ คือใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์รีดหลอดยาสีพระทนต์ จนกระทั่งหลอดยาสีพระทนต์แบนเป็นกระดาษ ใช้จนหมดเกลี้ยงจริง ๆ

พระองค์ทรงดำเนินชีวิตเป็นตัวอย่างตลอดมา แล้วพวกเรามีใครตั้งใจปฏิบัติตามรอยพระบาทบ้าง ? หรือว่าถึงเวลาก็ได้แต่เปล่งเสียงว่า “ทรงพระเจริญ” ถึงเวลาก็ร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีว่า “ธ ประสงค์ใด จงสฤษดิ์ดัง หวังวรหฤทัย” แต่มีใครทำตามที่พระองค์ท่านทรงทำเป็นตัวอย่างบ้าง ?
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg IMG0086.jpg (62.0 KB, 245 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:41
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 29-12-2011, 08:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


กระเช้าพระบรมสารีริกธาตุที่ทรงอัญเชิญขึ้นไปบรรจุบนยอดพระเกศ

เราเปล่งคำว่าทรงพระเจริญ หรือร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ร้องเพลงสดุดีมหาราชา จัดงานเทิดพระเกียรติให้คนเห็นความสำคัญของพระองค์ท่านนั้นก็เป็นการดี คนรุ่นหลังจะได้เห็นความสำคัญของพระองค์ท่าน ว่าทรงทุ่มเทพระชนม์ชีพเพื่อประชาชนอย่างไร

แต่สิ่งที่พระองค์ตั้งความหวังไว้นั้นก็คือ ต้องการให้ประชากรไทยทั้ง ๖๐ กว่าล้านของเรา ได้ดำเนินตามรอยพระบาท โดยใช้ชีวิตอย่างพอเพียง สามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ เป็นผู้ที่ประหยัด รู้จักซื้อในสิ่งที่ควรซื้อ รู้จักใช้สิ่งของต่าง ๆ ด้วยความประหยัด มัธยัสถ์ เพื่อสร้างความเจริญมั่นคงให้แก่ประเทศชาติของเรา

เพราะว่าบุคคลที่ประหยัดมัธยัสถ์ย่อมมีเงินออมเหลือ เมื่อมีเงินออมเหลือนำเข้าสู่ระบบ ก็จะมีการนำไปหมุนเวียนเพื่อใช้ในการพัฒนาประเทศ ถ้าเราทุกคนสามารถทำอย่างนั้นได้ ประเทศชาติของเราจะเจริญยิ่งกว่ามหาอำนาจอย่างประเทศจีน อเมริกา รัสเซีย หรืออย่างมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอย่าง ญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ อย่างแน่นอน

ในโอกาสอันสำคัญวันนี้ เทศบาลตำบลทองผาภูมิ นำโดยท่านนายกเทศมนตรีประเทศ บุญยงค์ ได้จัดงาน “รอยเท้าพ่อที่ทองผาภูมิ สู่เมืองน่าอยู่แห่งฟากฟ้าตะวันตก” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา นับว่าเป็นวาระที่เป็นมงคลเป็นอย่างยิ่ง ที่พวกเราทั้งหลายจะได้ถวายความจงรักภักดี

แม้กระทั่งบรรดานักเรียนทั้งหลาย ที่ตั้งใจมาบวชเณรถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็เป็นเรื่องที่น่าสรรเสริญในน้ำใจอย่างยิ่ง ที่พวกท่านทั้งหลายได้พร้อมใจกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีอย่างเป็นรูปธรรม

แต่ว่าสิ่งที่พวกเราทำทั้งหลายเหล่านี้ ยังไม่ใช่ความจงรักภักดีอย่างแท้จริง เป็นแค่ส่วนเปลือกเท่านั้น แล้วทำอย่างไรเราจะเข้าถึงแก่นของความจงรักภักดีได้ ? นั่นก็คือพระองค์ท่านแนะนำให้เราปฏิบัติอย่างไร พระองค์ท่านทรงดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างอย่างไร ก็ให้เราปฏิบัติอย่างนั้น

ถ้าหากว่าพวกเราทำอย่างนี้ได้ พระองค์ท่านจะปลาบปลื้มพระทัยเป็นอย่างยิ่ง และคงจะมีกำลังพระราชหฤทัย ที่จะดำรงพระวรกายอยู่ต่อไป เพื่อเป็นมิ่งขวัญแก่พวกเราทั้งหลายไปอีกนานเท่านาน
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg IMG0092.jpg (39.9 KB, 246 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2011 เมื่อ 11:45
สมาชิก 52 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 30-12-2011, 07:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,150 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจิมหลวงพ่อ ภปร.พระพุทธกาญจนธรรมพิทักษ์

ที่อาตมภาพมาแสดงพระธรรมเทศนาในวันนี้ ก็เพื่อที่จะบอกกับท่านทั้งหลายว่า เราปล่อยให้พ่อของเราเหนื่อยเพื่อประเทศชาติมาถึง ๖๕ ปีแล้ว ถึงวาระที่พวกเราจะต้องช่วยกันแบ่งเบาพระราชภาระบ้าง

ตัวอย่างในทางการคณะสงฆ์ ที่พระองค์แต่งตั้งสมณศักดิ์ให้แก่พระภิกษุสงฆ์รูปใดก็ตาม ในสัญญาบัตรแต่งตั้งนั้นจะมีคำว่า “ขอพระคุณเจ้าจงรับภารธุระในพระพุทธศาสนา อบรมสั่งสอนประชาชน นี่คือสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงฝากไว้กับคณะสงฆ์

เช่นเดียวกัน ความหวังของพระองค์ท่านที่ฝากเอาไว้สำหรับประชาชนทุกคนก็คือ พระองค์ท่านได้ดำรงตนเป็นแบบอย่างมาตลอด ๖๕ ปี จนบัดนี้ทรงชราภาพมากแล้ว ไม่ทราบว่าจะสามารถอยู่เป็นตัวอย่างแก่พวกเราต่อไปได้อีกนานเท่าไร

ขอให้พวกเราปฏิบัติตามแบบอย่างที่พระองค์ได้ทรงกระทำ เพื่อที่ประเทศชาติของเราจะได้เจริญรุ่งเรือง เพื่อที่พระองค์ท่านจะได้คลายห่วง คลายกังวล ได้ผ่อนคลายพระทัยว่า บัดนี้ลูกหลานไทยของพระองค์ท่าน ได้เดินตามรอยพระบาทของพระองค์แล้ว พระองค์ท่านจะได้ทรงงานน้อยลง เพื่อที่จะได้อยู่เป็นมิ่งขวัญของพวกเราไปตราบสิ้นกาลนาน

อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนามาในพระบาลีที่ว่า ปูชา จะ ปูชะนียานัง เอตัมมังคะละมุตตะมัง แปลความว่า การบูชาบุคคลที่ควรบูชา จัดว่าเป็นมงคลอย่างสูงสุดนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา นับเป็นบุคคลที่ควรแก่การบูชาเป็นอย่างยิ่ง

แต่เราอย่าบูชาด้วยอามิส คือการจัดงานเฉลิมพระเกียรติเพียงอย่างเดียว หากแต่ให้ปฏิบัติบูชา คือทำตามที่พระองค์ท่านได้ทรงดำเนินชีวิตเป็นแบบอย่างแก่พวกเราทั้งหลาย มาเป็นเวลาอันยาวนาน จึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องและสมควร

เทสนาวสาเน ในท้ายสุดแห่งพระธรรมเทศนา อาตมภาพขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มี พระพุทธรัตนะ พระธรรมรัตนะ และ พระสังฆะรัตนะเป็นประธาน มี บารมีของหลวงพ่อ ภปร. พระพุทธกาญจนาธรรมพิทักษ์ และบารมีของหลวงปู่สาย อคฺควํโส แห่งวัดท่าขนุนเป็นที่สุด ขอได้โปรดช่วยอภิบาลรักษา องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา ให้มีพระพลานามัยที่แข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่พวกเราทั้งหลายไปตราบสิ้นกาลนาน

และขอให้อำนาจแห่งกุศลผลบุญ ที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วในวันนี้ จงเป็นปฏิพรย้อนสนองกลับไป ให้ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่เจริญไปด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ ตลอดจนธนสารสมบัติอันเป็นที่พึงใจทั้งปวง อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนามาก็พอสมควรแก่เวลา จึงขอสมมติยุติพระธรรมเทศนาลงคงไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้


---------------------------------------------------------
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg IMG0094.jpg (46.9 KB, 167 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-01-2012 เมื่อ 14:06
สมาชิก 48 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
กระทู้ถูกปิด


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 20:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว