กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 28-11-2013, 19:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,373 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่ถนัดของตนเอง จะขัดสมาธิหรือว่านั่งพับเพียบก็ได้ เพียงแต่ว่าตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๖ วันนี้ทางเว็บวัดท่าขนุนมีการเปิดให้ญาติโยมได้จองพระไพรีพินาศ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมา

หลักใหญ่ ๆ ของการสร้างวัตถุมงคลนั้น ก็คือเพื่อให้เป็นอนุสติ การตามระลึกถึงคุณความดีของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี่เป็นวัตถุประสงค์ใหญ่ วัตถุประสงค์ที่สอง...การใช้วัตถุมงคลต้องมีคาถากำกับ ก็คือการบังคับให้เราภาวนาโดยตรง ประการที่สาม...การใช้วัตถุมงคล บางสำนัก บางตำรา มีข้อห้ามต่าง ๆ ที่ต้องงดเว้น นั่นก็คือการทำตัวเราให้ชินต่อการงดเว้นเช่นเดียวกับการรักษาศีล

จะเห็นได้ว่าในเรื่องของวัตถุมงคลนั้น มีประโยชน์อยู่หลายประการด้วยกัน โดยเฉพาะตัวของอาตมาเอง สมัยก่อนก็ใช้วัตถุมงคลที่ติดตัวอยู่ในการกำหนดภาพพระเป็นปกติ ถ้าเป็นรูปพระพุทธก็เป็นพุทธานุสติ เป็นรูปหลวงปู่หลวงพ่อก็เป็นสังฆานุสติ แล้วโยงให้ระลึกถึงคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ดี คำสอนของหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ก็ดี เป็นธัมมานุสติ

หมายความว่าวัตถุมงคลทั้งหมด จะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เราต้องมีพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติเป็นหลักไว้ก่อน หลังจากนั้นจึงมีการภาวนาตัวบทพระคาถา ตลอดจนกระทั่งข้องดเว้น ซึ่งเป็นการปฏิบัติในศีลและสมาธิ และท้ายสุด ถ้าท่านทั้งหลายเห็นความไม่ปลอดภัยของร่างกายเรา เนื่องจากว่าการที่เราอาศัยวัตถุมงคลนั้น ก็คือเราต้องการความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นภัยที่มาจากภายนอก ด้วยบุคคลก็ดี ด้วยสัตว์ก็ดี ด้วยไสยเวทย์อาคม หรือภูติผีปิศาจใด ๆ ก็ดี ภัยทั้งหลายเหล่านี้ทำให้เราต้องคอยหวาดกลัวอยู่เสมอ จึงต้องหาวัตถุมงคลมาเพื่อป้องกันตัวเอง

การที่เราหาวัตถุมงคลมาป้องกันตัวเองจากภัยต่าง ๆ ทั้งหลายเหล่านี้ ย่อมทำให้เรามองเห็นชัดเจนว่า การเกิดมาในโลกนี้หาความดีไม่ได้ มีแต่สิ่งที่เราต้องสะดุ้งกลัวอยู่เสมอ การเกิดมามีร่างกายเช่นนี้หาความดีไม่ได้ เพราะต้องคอยระมัดระวังคอยหลบหลีกจากภัยอันตรายอยู่เสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2013 เมื่อ 01:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 73 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 02-12-2013, 16:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,373 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าเรามีปัญญาพิจารณามาถึงตรงนี้ ย่อมต้องต่อยอดไปอีกว่า แล้วถ้าอย่างนั้นทำอย่างไรเราถึงจะพ้นไปได้ เราก็จะเห็นได้ว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้น แม้จะอยู่ในสุคติภูมิ แต่ก็ยังประกอบไปด้วยความทุกข์เป็นปกติ เป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม เพียงแค่พ้นทุกข์ได้ชั่วคราว ถ้าหมดบุญเมื่อไร ต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ทุกข์อีก หรือถ้าหมดบุญแล้วลงไปสู่อบายภูมิ ก็ยิ่งทุกข์หนักเข้าไปใหญ่ มีสถานที่แห่งเดียวที่จะพ้นจากความทุกข์โดยสิ้นเชิง นั่นก็คือพระนิพพาน

เมื่อเป็นดังนั้นก็ขอให้ทุกคนตั้งใจว่า ถ้าเราเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ถึงแก่ชีวิตก็ดี หรือว่าหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี เราขอไปอยู่ที่พระนิพพานแห่งเดียว แล้วกำหนดนึกถึงภาพวัตถุมงคลนั้น ๆ ที่ติดตัวเราอยู่ จะเป็นรูปเหรียญครูบาอาจารย์ก็ดี หรือว่าเป็นรูปพระพุทธก็ดี ว่านั่นเป็นตัวแทนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นเป็นตัวแทนของครูบาอาจารย์ของเราที่อยู่บนพระนิพพาน

เราเห็นท่านก็คือเราอยู่ใกล้ชิดกับท่าน เราอยู่ใกล้ชิดกับท่านคือเราอยู่บนพระนิพพาน เมื่อวางกำลังใจดังนี้แล้ว ก็พิจารณาดูว่า ถ้ายังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ ก็กำหนดดูกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกควบไปด้วย ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ก็ให้กำหนดรู้คำภาวนาไปด้วย ถ้าลมหายใจเบาลงหรือว่าหายไป คำภาวนาเบาลงหรือขาดหายไป ก็ให้เรากำหนดรู้ว่า ตอนนี้ลมหายใจเบาลงหรือขาดหายไป คำภาวนาขาดหายไป เป็นต้น

อย่าอยากดิ้นรนให้เป็นเช่นนั้นและอย่าไปตะเกียกตะกายไปให้พ้นจากสภาพเช่นนั้น ถ้าเราเอาสติตามดูตามรู้ไปเฉย ๆ สภาพจิตเราจะดิ่งลึกเป็นสมาธิมากขึ้น ๆ จนกลายเป็นอัปปนาสมาธิในที่สุด ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา

พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าอ่อน)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-12-2013 เมื่อ 17:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 47 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 22-02-2014, 18:18
ชินเชาวน์'s Avatar
ชินเชาวน์ ชินเชาวน์ is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 260
ได้ให้อนุโมทนา: 13,956
ได้รับอนุโมทนา 50,189 ครั้ง ใน 1,278 โพสต์
ชินเชาวน์ is on a distinguished road
Default

สามารถรับชมได้ที่

http://www.sapanboon.com/vdo/demo.ph...ame=2556-11-02

ป.ล.
- สามารถชมบนไอโฟนและแอนดรอยด์ได้
- ห้ามคัดลอกไฟล์ไปเผยแพร่ที่อื่นเด็ดขาด !
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:57



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว