กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-11-2012, 22:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,432 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอย่างไรก็ได้ ตามแต่ที่เรามีความถนัด

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันที่สองของเดือนนี้..วันนี้มีบุคคลถามปัญหาว่า การที่เราสนใจจริยาผู้อื่นนั้น มีขอบเขตเพียงใด ? การสนใจในจริยาของผู้อื่นนั้นส่วนใหญ่แล้วจะก่อให้เกิดรัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นในใจของพวกเรา

สมัยที่ยังอยู่วัดท่าซุง พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงย้ำนักย้ำหนาว่า อย่าสนใจจริยาของคนอื่น ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด แต่ในเมื่อญาติโยมสงสัยจึงได้ให้คำอธิบายไปว่า บุคคลบางประเภทก็ต้องสนใจในจริยาของคนอื่น บุคคลบางประเภทห้ามสนใจในจริยาของคนอื่นอย่างเด็ดขาด

บุคคลที่ต้องสนใจในจริยาของคนอื่น อย่างเช่น ผู้บังคับบัญชา ถ้าไม่สนใจจริยาความประพฤติของผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่มีการว่ากล่าวตักเตือนเมื่อเขาทั้งหลายเหล่านั้นทำผิด ก็อาจจะสั่งสมจนกลายเป็น สันตานานุสัย ที่ฝังรากลึกอยู่ในใจของแต่ละคน ก่อให้เกิดผลร้าย และอาจจะถึงขนาดทำให้หน่วยงานนั้น ๆ พังทลายลงไปได้

ดังนั้น..บุคคลที่เป็นผู้บังคับบัญชา อย่างเช่น ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร เจ้าอาวาส ผู้อำนวยการ ผู้จัดการ หรือหัวหน้าคนงานเหล่านี้ จำเป็นต้องสนใจจริยาของผู้อื่น แต่ต้องไม่ประกอบไปด้วยอคติทั้ง ๔ คือ ต้องไม่ลำเอียงเพราะรัก (โลภ) ลำเอียงเพราะโกรธ ลำเอียงเพราะกลัว ลำเอียงเพราะหลง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-11-2012 เมื่อ 03:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 71 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-11-2012, 22:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,432 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในส่วนของบุคคลทั่วไป ถ้าเป็นนักปฏิบัติธรรม ไม่ควรสนใจจริยาของบุคคลอื่น แต่ถ้าจะสนใจจริยาของคนอื่นนั้น ให้ดูในลักษณะที่ว่า บุคคลนี้ประพฤติดีแล้ว ถูกต้องแล้ว สมควรที่เป็นแบบอย่างให้เราประพฤติปฏิบัติตาม แล้วก็เอาตัวอย่างนั้น ๆ มาประพฤติปฏิบัติ เพื่อสร้างความเจริญให้แก่ตัวเรา เมื่อเห็นบุคคลที่ทำไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมก็ตาม เราก็เอามาเป็นบทเรียนสอนใจว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เราจะไม่กระทำอย่างเด็ดขาด

แต่ในส่วนของการสนใจจริยาคนอื่นเพื่อเป็นบทเรียนแก่ตนนั้น ก็ต้องระมัดระวังไว้ อย่าให้เกิดตัวปฏิฆะหรืออารมณ์กระทบขึ้น เพราะถ้าเกิดปฏิฆะเมื่อไร เราก็จะมีความโน้มเอียงไปในทางที่จิตใจเศร้าหมอง ก่อให้เกิดรัก โลภ โกรธ หลง ขึ้นในใจของเรา

ดังนั้น..ครูบาอาจารย์จึงมักจะเตือนว่าอย่าสนใจในจริยาคนอื่น โดยเฉพาะพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านเตือนลูกศิษย์อยู่เสมอ ท่านบอกว่าให้ใช้ อัตตนา โจทยัตตานัง คือการกล่าวโทษโจทย์ตนเองเอาไว้เสมอ ว่าเรายังมีข้อผิดพลาด ข้อบกพร่องที่ใดบ้าง แล้วพยายามแก้ไขให้ดีขึ้น เพื่อให้มีกาย วาจา และใจที่ดีขึ้นกว่านี้

และให้ใช้ นิสสัมมะ กะระณัง เสยโย คือใคร่ครวญเสียก่อนแล้วจึงคิด จึงพูด จึงทำ ดังที่ผู้รู้บางท่านกล่าวว่า ให้คิดทุกอย่างที่เราจะทำ แต่อย่าทำทุกอย่างที่เราคิด ถ้าเรารู้จักตักเตือนตัวเองก่อน เราก็จะกระทำในสิ่งที่ถูกที่ควรมากกว่า โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อยลง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-11-2012 เมื่อ 02:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 70 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 02-12-2012, 18:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,432 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เมื่อตั้งคำถามว่า การสนใจจริยาของคนอื่นนั้นมีขอบเขตขนาดไหน ? ขอตอบว่า การที่เราสนใจจริยาคนอื่นนั้น ถ้าเอามาเป็นตัวอย่างในการประพฤติปฏิบัติของเรา ก็สามารถที่จะสนใจได้ แต่ต้องระมัดระวัง ตั้งกำลังใจให้เป็นกลาง อย่าไปยินดียินร้ายกับความประพฤติที่เราเห็น ไม่เช่นนั้นจะก่อให้เกิดโทษ รัก โลภ โกรธ หลงเกิดขึ้น ทำให้จิตใจของเราเศร้าหมอง ถ้าตายตอนนั้นก็ตกสู่อบายภูมิ

ในส่วนที่เป็นผู้บังคับบัญชา จำเป็นที่จะต้องสนใจจริยาของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้รู้ว่าแต่ละท่านมีความประพฤติปฏิบัติอย่างไร จำเป็นจะต้องแก้ไขให้ดีขึ้นอย่างไร แต่ต้องไม่ประกอบไปด้วยอคติทั้ง ๔ คือลำเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะโกรธ ลำเอียงเพราะกลัว ลำเอียงเพราะหลง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะได้เป็นข้อเตือนใจแก่เราว่า การสนใจจริยาของผู้อื่นนั้น ถ้าวางกำลังใจถูกต้องก็สามารถที่จะสนใจได้ แต่ถ้าวางกำลังใจผิดพลาด เราไปสนใจก็มีแต่ขาดทุน เพราะทำให้จิตใจของเราเศร้าหมองลงไปทุกที เป็นต้น

เราทุกคนที่เป็นนักปฏิบัติ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำการขัดเกลากาย วาจา และใจ ของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะว่าการปฏิบัติในหลักธรรมะนั้น ท่านบอกว่าทำไปแล้วต้องประกอบไปด้วย อัปปิจฉตา คือความมักน้อย สันตุฏฐิตา คือความสันโดษ สัลเลขตา คือการขัดเกลา กาย วาจา ใจ ของเราให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ปวิเวกตา คือการหลีกออกจากหมู่ ไม่คลุกคลีกับคนอื่นที่เป็นเหตุให้จิตใจของตนเองฟุ้งซ่าน เป็นต้น

ถ้าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นแก่เรา ก็เป็นเครื่องวัดว่าการปฏิบัติของเรามีความก้าวหน้าเท่าไร แต่ถ้าปฏิบัติไปแล้วสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ยังไม่เกิดขึ้น ก็อาจจะแปลว่าเราหลงไปผิดทางก็ได้ จึงต้องระมัดระวัง ดึงกำลังใจของตนให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอย อยู่กับศีล อยู่กับสมาธิ อยู่กับปัญญา อย่าไปฟุ้งซ่านด้วยการไปสนใจจริยาของผู้อื่น เป็นต้น

ลำดับต่อไปนี้ ก็ขอให้ทุกท่านกำหนดลมหายใจเข้าออก พร้อมกับคำภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันเสาร์ที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๕๕

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้าและเถรี)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-12-2012 เมื่อ 19:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 21-12-2013, 15:15
ชินเชาวน์'s Avatar
ชินเชาวน์ ชินเชาวน์ is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Oct 2008
ข้อความ: 260
ได้ให้อนุโมทนา: 13,956
ได้รับอนุโมทนา 50,189 ครั้ง ใน 1,278 โพสต์
ชินเชาวน์ is on a distinguished road
Default

สามารถรับชมได้ที่

http://www.sapanboon.com/vdo/demo.ph...ame=2555-11-03

ป.ล.
- สามารถชมบนไอโฟนและแอนดรอยด์ได้
- ห้ามคัดลอกไฟล์ไปเผยแพร่ที่อื่นเด็ดขาด !
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ชินเชาวน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว