กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 27-04-2009, 20:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ เดือนมกราคม ๒๕๕๒

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ทุกคนเห็นว่าเป็นเทศกาลแห่งความรื่นเริง แต่อาตมากลับมองไปที่ภัยจากความตายหรือมรณานุสติซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้

แค่ในช่วงที่อาตมาเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพฯ ระหว่างทางก็พบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เฉพาะแค่วันที่เดินทางเข้ามา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นถึง ๔ ราย แถมเป็นขาเข้าเสียด้วย


การที่เราเป็นนักปฏิบัติเจริญพระกรรมฐาน ต้องรู้จักมองในหลาย ๆ ด้าน รู้จักพิจารณาในด้านของตน แล้วก็พิจารณามองออกไปในด้านอื่น ๆ เป็นอนุโลม ปฏิโลม มองออกไปและมองเข้ามา ถ้าเรารู้จักมองอย่างนี้ก็จะได้มุมมองอะไรที่ดี ๆ และเป็นธรรมะอีกมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นมุมมองที่ถูกต้องเสียด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 19-04-2015 เมื่อ 20:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 27-04-2009, 20:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้งหนึ่ง อาตมาเคยนั่งรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ ปรากฏว่าแท๊กซี่ขับ ๆ ไป รถเกิดติดตรงไฟแดงพอดี โดยที่รถคันข้างหน้าได้ทำการแหกไฟเหลืองไปได้ทัน โชเฟอร์ก็เลยหันมาบอกกับอาตมาว่า "แหม..ท่าน ผมช้าไปนิดเดียว" อาตมาจึงบอกโชเฟอร์ไปว่า "โยมต้องคิดอย่างนี้สิว่า น่าดีใจออก ที่เราได้อยู่เป็นคันแรก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-03-2011 เมื่อ 22:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 27-04-2009, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

นอกจากนี้ พวกเราต้องมองทุกอย่างให้เป็นครู ภาษิตจีนเขาบอกว่า"ขงเบ้งคนเดียว ก็สู้ช่างถักรองเท้า ๓ คนไม่ได้" จำไว้ เห็นขอทาน ๓ คนเดินมา ต้องคิดว่า อย่างน้อย ๆ ๑ ใน ๓ คนนั้นต้องเป็นครูให้แก่เราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-03-2011 เมื่อ 22:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 27-04-2009, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีเหตุรถน้ำมันพลิกคว่ำบริเวณจุดลงทางด่วนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ห่างจากที่บ้านอนุสาวรีย์ของพวกเราไม่ไกลนัก น่าจะสักประมาณ ๑๐๐ เมตร
พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครที่มีความมั่นใจในคุณพระศรีรัตนตรัย หรือมีพระศรีอินทราทิตย์เนื้อดินเผาที่อาตมาแจกในงานกฐิน ก็ลองอาราธนาแล้วเดินเข้าไปจุดไฟตรงบริเวณรถน้ำมันพลิกคว่ำ จะได้เป็นการพิสูจน์ความมั่นคงของจิตใจ และอานุภาพของคุณพระศรีรัตนตรัย

บุคคลผู้มีความเชื่อมั่นในคุณพระรัตนตรัยจริง ๆ อาตมานับเอาตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไปนะ เพราะว่าถ้าต่ำลงมากว่านั้นจะบอกว่าเชื่อมั่นจริง ๆ ก็คงจะยังไม่ได้

ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง ๔ ได้ให้พรกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านไว้ว่า
หากบุคคลใดตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านก็จะสั่งให้เทวดาคอยให้การคุ้มครองทันที"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 27-04-2009, 20:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"กฎกติกาแห่งความเป็นพระโสดาบันไม่มากหรอก แค่เคารพพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์จริง ๆ ๓ ข้อแล้วล่ะ อีกข้อก็คือมีศีล ๕ บริสุทธิ์ ไม่ทำเอง ไม่ยินดีที่เห็นคนอื่นทำ และไม่สั่งให้คนอื่นไปทำ ข้อสุดท้ายก็คิดว่าเราจะต้องตายแน่ ตายแล้วเราจะไปนิพพาน

ถ้า ๕ ข้อมันมากเกินไป ก็ลดมาเหลือ ๓ ข้อ คือ ความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ รวบเป็นข้อเดียวคือความเคารพในคุณพระศรีรัตนตรัย มีศีลบริสุทธิ์ คิดว่าตายจะไปพระนิพพาน

ถ้า ๓ ข้อมันมากเกินไป ก็ลดลงเหลือแค่ข้อเดียว คือ การรักษาศีลให้บริสุทธิ์ โดยคิดว่าเราจะรักษาศีลก็เพราะเราเคารพในคุณของพระรัตนตรัย เพื่อที่ตายแล้วจะได้ไปพระนิพพาน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 19-04-2015 เมื่อ 20:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 27-04-2009, 20:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์ยกตัวอย่างพระที่วัดท่าขนุน ซึ่งต้องเสียนิ้วเท้าด้วยเหตุจากโรคเบาหวาน "ท่านป๊อบกำลังใจเข้มแข็งและเด็ดขาดในหลาย ๆ เรื่อง แต่แพ้อยู่เรื่องเดียวคือเรื่องการกิน เห็นเป็นไม่ได้ต้องกิน

อาตมาบอกกับท่านป๊อบไปว่า "ถ้าคุณสามารถอดใจในเรื่องการกินได้ คุณก็สามารถที่จะอดใจในการไม่ละเมิดสิกขาบททั้งปวงได้ เพราะมันใช้กำลังใจเท่า ๆ กัน"


พวกเราทั้งหมดก็เช่นกัน หากเราสามารถระงับจิตใจระงับความอยากของตนเองในเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้แล้ว การระงับความชั่วในด้านอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะมันใช้กำลังใจเท่า ๆ กัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 27-04-2009, 20:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "บุคคลที่ก้าวข้ามสิ่งสมมติได้แล้วอย่างแท้จริง จะเคารพสมมติด้วย จะไม่มีการย่ำยีหรือดูถูกสิ่งสมมตินั้น

ยกตัวอย่างหลวงปู่มั่น ในวันที่หลวงปู่บรรลุธรรม หลวงปู่ได้ก้มกราบกระท่อม กราบแล้วกราบอีกอย่างสุดซึ้ง เพราะหลวงปู่ได้ใช้กระท่อมนั้นเป็นที่บำเพ็ญเพียรภาวนา

ในขณะที่พระอีกรูปหนึ่งได้ย่ำยีพระพุทธรูป โดยเอาน้ำกรดราดพระพุทธรูปและตบเศียรพระ แล้วบอกว่า พระพุทธรูปเป็นแค่เพียงสิ่งสมมติ การทำเช่นนี้เป็นการขวางทางมรรคผลของเขาชัด ๆ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 27-04-2009, 20:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โบราณเขาบอกว่า เจองูกับเจอแขก ให้ตีแขกก่อน

พวกแขกนะ เขาถือคติที่ว่า เขาทำอะไรคนอื่นได้ แต่ถ้าใครทำเขาไม่ปล่อยไว้แน่ เพราะฉะนั้น..ใครที่จะคบค้าหรือทำธุรกิจกับพวกนี้ อย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 27-04-2009, 20:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาที่อยู่ในฌาน ๔ แล้วสามารถฟังเสียงสัตว์รู้เรื่องได้ใช่หรือไม่คะ?
ตอบ : ถ้าไม่มีพื้นฐานนิรุตติมาก่อน ก็ฟังไม่รู้เรื่องหรอก

นิรุตติ หรือนิรุตติปฏิสัมภิทาญาณ = มีปัญญาแตกฉานในด้านภาษา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 19-04-2015 เมื่อ 20:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 27-04-2009, 21:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วที่บอกว่า โคตรภูญาณมีตั้งแต่ โสดาบัน สกิทาคา อนาคามี และอรหันต์ นั่นแสดงว่า อารมณ์โคตรภูญาณมีอยู่ในทุกระดับหรือคะ?
ตอบ : ใช่

ถาม : ถ้าอย่างนั้นอารมณ์โคตรภูญาณใช่อย่างเดียวกับมรรคหรือไม่คะ เช่น สกิทาคามิมรรค?
ตอบ : โคตรภูญาณจะบางกว่า แต่ถ้าจะเปรียบเป็นมรรค ก็เหมือนกับมรรคเมื่อเริ่มต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 27-04-2009, 21:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าอยากจะตั้งโรงทานเพื่อเลี้ยงสัมภเวสี เปรต และอสุรกาย จะทำได้หรือไม่? และหากทำแล้วจะมีผลดีหรือผลเสียกับผู้ทำอย่างไร?
ตอบ : ทำได้ ก็นำเอาอาหารคาวหวานและเหล้า ไปวางไว้ที่ทางสามแพร่ง แล้วก็จุดธูปเชิญให้มากินกัน

ถาม : ถ้าไม่มีเหล้าจะได้หรือไม่ครับ?
ตอบ : ได้

สมัยก่อนหลวงปู่ปานท่านก็ทำ โดยหลวงปู่ท่านจะวงสายสิญจน์ไว้เป็นบริเวณ แล้วนำอาหารคาวหวานไปตั้งเอาไว้ ท่านว่ามีขนมจีน ๘ หาบ น้ำยาอีก ๘ หม้อ จากนั้นก็ทำพิธีเชิญหรือเรียกเขามากินนั่นแหละ หลังจากเชิญเสร็จ ก็ปรากฏว่า เขาแห่มากันจนท้องฟ้ามืดครึ้มไปหมด และในบริเวณนั้นก็จะปรากฏเสียงคนเดิน คนคุย และกินอาหารกันให้แซ่ดไปหมด ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ยินเสียงชัด แต่ไม่เห็นตัว..!

พอผ่านไปสักพักหนึ่ง พอมีลมกรรโชกวูบมา และท้องฟ้าเริ่มมีแสงสว่างส่องกลับลงมาอีกครั้งหนึ่ง ก็ปรากฏว่า อาหารคาวหวานทั้งหลายมีขนมจีนเป็นต้น ได้อันตรธานหายไปจากวงพิธีแทบทั้งหมด นี่เขาไม่เรียกว่ากินแต่นาม แต่มันล่อรูปไปด้วยจนเกลี้ยงเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 27-04-2009, 22:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วจะมีผลดีหรือผลเสียกับผู้ทำ?
ตอบ : พวกนี้ก็จะตามเราไปตลอดเวลาเลย

ถ้าพวกนี้ตาม ขณะใดที่กุศลยังให้ผลกับเราอยู่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าอกุศลกรรมเข้าหรือดวงตกเมื่อไหร่พวกนี้มันเอาแย่แน่ ๆ แบบผิดใจไม่ยอมให้มันกินอีกเสียที มันก็เล่นงานเอา ต้องมีสติอยู่กับตัวตลอดเวลา

ถาม : แต่หลวงปู่ท่านทำได้
ตอบ : ก็นั่นหลวงปู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 27-04-2009, 22:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พิจารณาอสุภะแล้ว เท่าไหร่ ๆ มันก็ยังไม่รู้สึกเหม็นเสียที
ตอบ : ลองไปดูเขียงหมูแถว ๆ ตลาด ที่นั่นนะเหมือนกันไม่มีผิด

ถาม : รู้สึกว่าปฏิบัติไปเรื่อย ๆ มันยิ่งยากขึ้น เพราะเมื่อก่อนเวลาที่มีอะไรเข้ามาทางอายตนะ จะเห็นว่ามันเป็นตัวรัก โลภ โกรธ หลง แต่เดี๋ยวนี้มันไปลงที่สักกายทิฏฐิทั้งหมด เลยกลายเป็นว่าเห็นว่ามันมีเยอะแยะบานตะไท ต้องระวังใจเยอะเลยค่ะ
ตอบ : ถ้าจิตเราสามารถเห็นได้ละเอียดขนาดนี้ ก็แสดงว่ามีสติปัญญาสามารถพอที่จะสู้กับมันได้

ถาม : แต่ก็เห็นว่าสติเราช้ากว่ามันอยู่ดีค่ะ
ตอบ : ถึงแม้จะช้า แต่ก็ยังดีที่ยังเห็นมัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 27-04-2009, 22:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เวลาที่พวกเรารู้สึกตกใจนั้น มันเป็นการส่งจิตออกนอกแล้วสติมันดึงกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว เหมือนกับใจมันวูบออกไป
ถ้าเราปฏิบัติไปเรื่อย ๆ ถึงจุดหนึ่งแล้วจะเห็นได้เองว่า เวลาเจออะไรก็ไม่รู้สึกตกใจ ต่อให้สิ่งนั้นเกิดต่อหน้าแบบฉับพลันก็ตาม มันก็ยังนิ่งอยู่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 27-04-2009, 22:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมารู้สึกว่าตัวเองเกิดมาแล้วรู้สึกคุ้ม เพราะอาตมาเจออะไรมาเยอะ ผ่านอะไรมาเยอะ คงเป็นเพราะอาตมาเป็นคนไม่กลัวอะไร ทีนี้ก็เลยชอบลองไปทั่ว รู้สึกว่าตัวเองเจออะไรมาเยอะกว่าคนอื่นเขา

เคยไปกินหูฉลามที่ภัตตาคารหนึ่ง สมัยนั้นชามเดียวเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนเลย ปรากฏว่าพอลองแล้ว รสชาติไม่เป็นที่ถูกปาก เพราะอาตมาชินกับรสชาติจัดจ้านในแบบอาหารไทย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 28-04-2009, 10:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อในอดีตเรามีรูปร่างอย่างไร จะไม่ต่างจากในชาติปัจจุบัน"

ถาม : ทำอย่างไรจึงจะให้รูปร่างเปลี่ยนไปในทางที่สวยงามขึ้น?
ตอบ : ให้สร้างหรือหล่อพระพุทธรูปให้งาม ๆ แล้วอธิษฐานขอให้ตนเองมีรูปงามดั่งพระพุทธรูปนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 28-04-2009, 10:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "บุคคลที่ถวายตาลปัตร ธรรมาสน์ หรืออาสนะรองนั่ง พวกนี้เป็นบุคคลที่มักโดนถีบให้เป็นผู้นำอยู่เสมอ เพราะตาลปัตรทำให้เด่น ธรรมาสน์ อาสนะ ทำให้สูงกว่าคนอื่นเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 19-04-2015 เมื่อ 20:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 28-04-2009, 10:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "ในเรื่องการปฏิบัติเราต้องทำเสมือนว่าเป็นก้อนหินที่อยู่กลางลำน้ำ โดยไม่หวั่นไหวลอยตามกระแสน้ำไป แต่อย่าทำเป็นเสมือนใบไม้ใบหญ้า ที่แตกแพ ลอยไปตามกระแส"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 19:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 28-04-2009, 10:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "จงทำจิตใจของเราให้เหมือนดั่ง ดิน น้ำ ไฟ ลม คือ

แผ่นดิน รองรับคนและสัตว์ สิ่งที่ทั้งดีและไม่ดีอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยกว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้ไม่ดี

น้ำ
มีความเต็มอยู่เสมอในขอบทั้ง ๒ ฝั่งอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกสถานที่

ไฟ เผาผลาญทั้งสิ่งดีหรือไม่ดีโดยเสมอภาค ไม่เลือกว่าจะเป็นสิ่งที่ดีหรือไม่ดี หากโยนเข้าไปในกองไฟ ไฟก็จะแผดเผาให้มอดสูญสลายไปเท่าเทียมกันโดยทั้งสิ้น

ลม พัดไปในทุก ๆ สถานที่โดยเท่าเทียม ยังความสดชื่น เย็นสบายให้กับทุกสิ่งที่ลมพัดไปสัมผัส โดยเท่าเทียม ไม่มีเลือกว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนี้ไม่ดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 28-04-2009, 10:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,368
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าเรื่องหลวงปู่ครูบาธรรมชัยให้ฟังว่า "หลวงปู่ครูบาธรรมชัยเป็นพระที่อ่อนน้อมมาก เวลาที่หลวงปู่นำผ้าไตรไปถวายให้หลวงพ่อ พอลูกศิษย์หลวงปู่ถือผ้าไตรใส่พานมา หลวงปู่ก็หยิบเอาผ้าไตรนั้นแล้วทูนไว้บนศีรษะ เดินเข้าไปถวายหลวงพ่อ ประมาณว่า ไม่มีสิ่งใดที่มีค่าพอที่จะใส่ผ้าไตรไปถวายหลวงพ่อได้อีกแล้ว เลยเอาศีรษะของท่านนี่แหละ เป็นที่รองรับผ้าไตรนั้น แล้วน้อมไปถวายหลวงพ่อ

หลวงปู่เป็นพระที่มีลูกศิษย์ลูกหาเยอะ แต่ท่านไม่ถือตัวเลย และอีกประการ ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เป็นพระอริยะเจ้า ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ ตอนนั้นท่านยังไม่ได้เปลี่ยนใจไปเป็นพระอัครสาวกของพระศรีอริยเมตไตรย มานะท่านแทบจะไม่มีเลย


อาตมาถ่ายรูปตอนนั้นไม่ทัน กำลังจะหยิบกล้องมาถ่าย หันมาอีกทีหลวงปู่ถวายเสร็จแล้ว ซึ่งภาพที่หลวงปู่กำลังถวายนั้นเป็นภาพที่งดงามมาก
"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-03-2011 เมื่อ 18:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:24



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว