กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 18-04-2010, 20:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง พอเข้าไปใจจะสงบทันที เพราะกระแสบุญที่ไปทางเดียวกันช่วยเสริม

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ครูบาน้อยเขาตามไปเก็บเอาดินแต่ละสถานที่มา ให้เขาชำระหนี้สงฆ์และก็ขุดใส่ถุงมา ตอนนี้กลายเป็นพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านไปเรียบร้อยแล้ว

จะเห็นได้ว่าพระปิดตาที่ราคาถูกที่สุด คือ พระปิดตาเนื้อผง แต่จริง ๆ แล้วส่วนผสมมากที่สุด อาตมายืนยันว่า พระปิดตาเนื้อนวโลหะกับเนื้อผง ส่วนผสมมากที่สุด

อย่างพระปิดตาเนื้อเงินหรือเนื้อทอง เอาส่วนผสมอื่นใส่ไปแล้ว ก็จะเสียของ ต้องใส่เฉพาะชนวนที่เป็นเงินหรือทองแท้

แต่พระปิดตาเนื้อทองนี่ได้เปรียบ เพราะมีตะกรุดมหาสะท้อนไปสองดอกแล้ว ยังมียันต์ครูอีก ๕ บาท และตะกรุดโสฬสทองคำอีก"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 02:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 18-04-2010, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เรายึดมั่นในธรรม ยึดมั่นในการปฏิบัติ ยึดไปยึดมากลายเป็นสักกายทิฏฐิและมานะ ซึ่งตรงนี้เป็นเพราะเราไปคิดว่า ธรรมนั้น หรืออารมณ์การปฏิบัตินั้นเป็นของเราหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : ใช่เลย

ถาม : ทีนี้ก็เลยกลายเป็นว่า ไม่ว่าเราจะเข้าถึงธรรม ถึงอารมณ์ในตัวไหน ก็ต้องมีการพิจารณาลงที่ว่า ไม่มีตัวตน ไม่มีการยึดมั่นถือมั่น ?
ตอบ : ท้ายสุดก็ต้องคลายการยึดมั่นถือมั่นไป แม้กระทั่งในธรรมที่ปฏิบัติได้ ก็สักแต่เป็นดีชั่วเท่านั้น ขึ้นอยู่กับการกระทำของเรา ในเมื่อไปถึงตรงจุดนั้น ดีก็ไม่เกาะ ชั่วก็ไม่เกาะแล้ว ทำดีเพราะรู้ว่าดี ละชั่วเพราะรู้ว่าชั่ว

ถาม : อย่างเวลาเราอยู่ในอารมณ์กรรมฐานกองใด ณ เวลานั้น ทีนี้พอเราคลายออกมาเพื่อมารับรู้สิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือเพื่อออกมาปฏิสัมพันธ์ หรือเพื่อออกมาทำงานใดงานหนึ่ง พอเราเห็นว่างานนั้นเสร็จแล้ว เราก็กลับไปอยู่ตรงอารมณ์เดิมของเรา ถึงจะเป็นสมถะก็จริง แต่หนูมองว่าเป็นปัญญาด้วย เพราะเรารู้ว่า ถ้าปล่อยให้อยู่กับตรงนั้นนาน ๆ แล้ว จะมีการปรุงแต่งต่อไป
ตอบ : เป็นโลกียปัญญา เพราะต้องอาศัยกำลังสมถะในการช่วยป้องกัน ถ้าหากว่าเป็นโลกุตรปัญญา ในส่วนของปัญญาจริง ๆ ก็คือ เห็นแล้วปล่อยวางได้

แต่ว่าเราจำเป็นต้องทำอย่างนั้นไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะไม่ปลอดภัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 03:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 18-04-2010, 21:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องการทรงฌาน ได้ฌาน ภิกษุกับฆราวาสมีการได้เปรียบหรือเสียเปรียบกันอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ภิกษุมีเวลาทำมากกว่า

ถาม : แล้วศีลเป็นปัจจัยหนึ่งหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ศีลทำให้พระเสียเปรียบเขาเยอะ

ถาม : ถ้าถือศีลแปด จะทรงฌานได้ง่ายกว่าหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ศีลแปดเป็นส่วนที่ละเอียดอ่อน เน้นในธรรมะมาก ถ้าปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นจริง ๆ จะได้ง่ายกว่า แต่ในเรื่องของฌานสมาบัติไม่ได้เกี่ยวกันตรงจุดนี้ เรื่องของฌานสมาบัติสำคัญที่ว่า ทำดี ทำถูก หรือเปล่า ?

ถาม : ผมได้ยินมาว่า ถ้าเข้าฌานจะทำให้เกิดปัญญาแหลมคมในการตัดกิเลสได้มากขึ้น นี่ถูกหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 03:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 18-04-2010, 22:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าคนที่ตั้งใจจะไปบวชที่วัดท่าขนุน ควรลองไปศึกษาดูก่อนที่วัดสัก ๓ เดือน แบบประเพณีโบราณ เพื่อที่จะดูว่าตัวเองทนต่อพระวินัยได้หรือเปล่า ?
ตอบ : ต้อง ๓ ปี จะได้รู้ว่าทนได้จริงหรือเปล่า ?..(หัวเราะ).. ก็ตามใจ ไม่ได้ห้าม อย่างน้อยควรจะเข้าวัดก่อนบวชสัก ๗ วัน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 03:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 19-04-2010, 09:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำว่า ปัจจัยไทยธรรม เริ่มมาจากประเทศไทยหรืออย่างไรครับ ? เห็นเขียนว่า ไทยธรรม
ตอบ : เป็นการเปลี่ยนจากคำว่า "ไทยทาน" เป็น "ไทยธรรม"

คำว่า "ไทย" กับคำว่า "ทาน" มีความหมายเดียวกัน แปลว่า ให้ ถ้าเป็นไทยทาน หมายถึงให้ซ้อนให้ ถ้าเป็นไทยธรรม หมายถึงของที่ควรให้
ฉะนั้น..คำที่ถูกต้อง เขาสรุปว่าควรเป็นไทยธรรม


ถาม : ถ้าไทย แปลว่าให้ แล้วที่เราตั้งชื่อว่า คนไทยละคะ ?
ตอบ : คนละศัพท์กัน ไทยของเรา ตัวนี้ความหมายคือ อิสระ(เป็นใหญ่) หรือเจริญ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 10:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 19-04-2010, 09:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พวกปลวกที่มากัดกินคัมภีร์ ก็เท่ากับตกนรกหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : โทษเขามีน้อย เพราะว่าเขาไม่รู้ แต่พวกเรานี่รู้ ๆ อยู่แล้วไปทำ โทษสาหัสกว่ากันเยอะเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 10:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 19-04-2010, 09:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกสัตว์..ถ้าเขาฆ่าพ่อฆ่าแม่ ไม่เป็นอนันตริยกรรม เพราะว่าเขาไม่รู้ เขาอยู่ในภพภูมิที่มืดบอดกว่า

แต่คน..ถ้าไปฆ่าพ่อฆ่าแม่ โทษเป็นอนันตริยกรรม เจตนาหรือไม่เจตนาก็โดน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 19-04-2010, 09:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าเทวดามีโทสะเมื่อไร ก็จะเสียกายทิพย์ไป แปลว่าต้องจุติ ไฟโทสะจะทำลายกายทิพย์ของเทวดา เขาเรียกว่า โกรธาพลขัย (หมดอายุเพราะความโกรธ) ฉะนั้น..เทวดาห้ามโกรธ โกรธเมื่อไรก็จุติเลย"

ถาม : แล้วถ้าเทวดาหมั่นไส้ละคะ ?
ตอบ : หมั่นไส้ก็ยังพอได้ แต่อย่าให้มากกว่านี้นะ เพราะหมั่นไส้ก็มีพื้นฐานมาจากความโกรธ อย่าให้ถึงขีดก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-04-2010 เมื่อ 10:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 20-04-2010, 10:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถามเรื่องการใช้ซอฟต์แวร์ผิดลิขสิทธิ์ ?
ตอบ : ต้องใช้คำว่าจำเป็น

ถาม : แล้วอย่างนี้ผิดศีลหรือเปล่า ?
ตอบ : ผิดแน่นอน

ถาม : ถ้าเราคิดว่ามีอยู่แล้วในท้องตลาด แล้วเราเดินไปซื้อมา อย่างนี้จะได้ไหมครับ ?
ตอบ : เท่ากับรับซื้อของโจร..!

ถาม : แต่อย่างกรณีสัตว์ตาย เรายังไปซื้อซากสัตว์มากินได้
ตอบ : นั่นคนละกรณีกัน ถ้าสัตว์นั้นเขาขโมยมา คุณไปซื้อก็ผิด เรื่องของธรรมะเขาว่ากันตรงไปตรงมา ผิดคือผิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2010 เมื่อ 12:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 20-04-2010, 10:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า
"ดอกบัวเมืองไทย แบ่งง่าย ๆ ออกเป็น ๓ เหล่า คือ
๑) บัวหลวง จุดเด่นคือ ก้านชูสูงเหนือน้ำและมีหนาม
สีขาว เรียกว่า ปุณฑริกา สีแดง เรียกว่า ปัทมา
๒) บัวสาย
สีขาว เรียกว่า กมุท หรือโกมุท สีแดง เรียกว่า สัตตบุศย์ หรือสัตตบรรณ
๓) บัวผัน บัวเผื่อน ดอกค่อนข้างเล็ก สายเล็ก ๆ
สีม่วงน้ำเงิน เรียกว่า นิลุบล หรือนิโลตบล สีเหลือง เรียกว่า จงกลนี

พันธุ์บัวที่เหลือในปัจจุบัน เป็นบัวลูกผสมหรือบัวต่างประเทศทั้งนั้น ถ้าอยากรู้จักบัวให้มาก ๆ ให้ไปที่ปางอุบล ของอาจารย์เสริมลาภ วสุวัต ท่านเป็นด็อกเตอร์ทางบัวโดยเฉพาะ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2010 เมื่อ 12:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 20-04-2010, 11:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราติดอยู่ในนิวรณ์เบื้องต้น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ทำอย่างไรจะเบรกให้ชะงัดเลยคะ ?
ตอบ : อันดับแรก สมาธิต้องทรงตัวจริง ๆ ถ้าหากสมาธิทรงตัว ยิ่งได้ระดับฌานสี่ ก็ยิ่งเบรกได้อยู่หมัดเลย

ถาม : ถ้าหากยังฟุ้งอยู่ละคะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่ายังฟุ้งอยู่ โอกาสเบรกไม่มีหรอกจ้ะ เขาลากเราไปทุกที

ถาม : ไม่อยากถลำลึกค่ะ
ตอบ : รีบ ๆ ไปฝึกสมาธิ ให้เป็นอัปปนาสมาธิตั้งแต่ปฐมฌานขึ้นไป แล้วอย่าให้หลุด ก็จะเบรกได้ แต่ถ้าจะเอามั่นคง ต้องเป็นฌานสี่แบบคล่องตัว ถ้าเราได้ฌานสี่แบบคล่องตัวนี่เป็นพื้นฐานของพระอนาคามีเลย ถ้าขึ้นถึงอนาคามีเมื่อไรก็ไม่ต้องเบรกแล้ว เลิกกันไปเลย

ถาม : ยากค่ะ
ตอบ : ไม่ยากหรอก ลองดู ขอให้ทำจริง ๆ เถอะ ให้นึกว่า ขนาดชั่วเรายังชั่วมาด้วยความตั้งอกตั้งใจ แล้วถ้าเราลองดีด้วยความตั้งอกตั้งใจดูบ้าง เคยตั้งใจชั่วมาแล้วก็ตั้งใจดีบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2010 เมื่อ 12:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 20-04-2010, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "พระปิดตารุ่นนี้มีอยู่หลายองค์ที่เนื้อเกิน เนื้อเกินอย่าไปแกะออกนะ ถือว่าดี อะไรที่งอก ที่เกินมา โบราณเขาถือว่าเป็นมงคลทั้งนั้น

เนื้อเกินนั้นเกิดจากว่า เวลาเขาฉีดแบบด้วยขี้ผึ้ง แล้วขี้ผึ้งล้น เกินไปเท่าไรเนื้อก็จะยื่นมาเท่านั้น บางองค์ก็เป็นเม็ดกลม ๆ เหมือนกับพระธาตุงอก บางองค์ก็อาจจะมีก้านขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ถ้าใครเจอถือว่าโชคดีมาก ๆ เก็บไว้ให้ดี ๆ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2010 เมื่อ 12:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 20-04-2010, 12:12
กาแฟ กาแฟ is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jul 2009
ข้อความ: 13
ได้ให้อนุโมทนา: 4,690
ได้รับอนุโมทนา 6,225 ครั้ง ใน 126 โพสต์
กาแฟ is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี อ่านข้อความ
พระอาจารย์กล่าวว่า "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายแห่ง พอเข้าไปใจจะสงบทันที เพราะกระแสบุญที่ไปทางเดียวกันช่วยเสริม

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ครูบาน้อยเขาตามไปเก็บเอาดินแต่ละสถานที่มา ให้เขาชำระหนี้สงฆ์และก็ขุดใส่ถุงมา ตอนนี้กลายเป็นพระปิดตามหาเศรษฐีเงินล้านไปเรียบร้อยแล้ว

จะเห็นได้ว่าพระปิดตาที่ราคาถูกที่สุด คือ พระปิดตาเนื้อผง แต่จริง ๆ แล้วส่วนผสมมากที่สุด อาตมายืนยันว่า พระปิดตาเนื้อนวโลหะกับเนื้อผง ส่วนผสมมากที่สุด

อย่างพระปิดตาเนื้อเงินหรือเนื้อทอง เอาส่วนผสมอื่นใส่ไปแล้ว ก็จะเสียของ ต้องใส่เฉพาะชนวนที่เป็นเงินหรือทองแท้

แต่พระปิดตาเนื้อทองนี่ได้เปรียบ เพราะมีตะกรุดมหาสะท้อนไปสองดอกแล้ว ยังมียันต์ครูอีก ๕ บาท และตะกรุดโสฬสทองคำอีก"



อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี อ่านข้อความ
พระอาจารย์บอกว่า "พระปิดตารุ่นนี้มีอยู่หลายองค์ที่เนื้อเกิน เนื้อเกินอย่าไปแกะออกนะ ถือว่าดี อะไรที่งอก ที่เกินมาโบราณเขาถือว่าเป็นมงคลทั้งนั้น

เนื้อเกินนั้นเกิดจากว่า เวลาเขาฉีดแบบด้วยขี้ผึ้ง แบบมันเกิน มันเกินเท่าไรเนื้อก็จะยื่นมาเท่านั้น บางองค์ก็เป็นเม็ดกลม ๆ เหมือนกับพระธาตุงอก บางองค์ก็อาจจะมีก้านขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ถ้าใครเจอถือว่าโชคดีมาก ๆ เก็บไว้ให้ดี ๆ "

ขอนำไปเผยแพร่เป็นธรรมทานครับ (ขอรวมไว้ทั้งหมดด้วยนะครับเผื่อจะทยอยนำไปเผยแพร่)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 155 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ กาแฟ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 20-04-2010, 12:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จำไว้เลยนะ เรื่องทำน้ำมนต์แล้วออกเป็นหวย อาตมาไม่ได้มีเจตนาแม้แต่ครั้งเดียว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเอง บังคับไม่ได้

ครั้งที่ชัดที่สุดก็คือ ไปตั้งศาลที่อุดรธานี ทำน้ำมนต์ไปเรื่อย แล้วน้ำตาเทียนก็ไหลยืดออกไปเหมือนกับตัวเลข แล้วลื่นปรู๊ดไปอยู่ที่ขอบขัน เรียงตัวเลขให้เสร็จสรรพสามตัว ปรากฏว่าพวกที่ไปด้วยกัน ๗ - ๘ คน ไม่มีใครเล่นสักคน พอเอามาเล่าให้ที่นี่ฟัง แม่ทองดี (เจ้าของบ้านอนุสาวรีย์) ถูกไปสองหมื่น..!

ฉะนั้น..เรื่องนี้ไม่ได้เจตนา จะถูกจะผิดห้ามมาโทษกัน เขาเป็นของเขาเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2010 เมื่อ 13:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 20-04-2010, 12:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าให้ฟังว่า "สมเด็จองค์ปฐมรุ่นแรก หลวงพ่อสั่งสร้างสามหมื่นองค์ พอถึงวันพุทธาภิเษก ช่างเพิ่งจะทำได้แค่สามพันองค์ เพราะเวลาถอดแบบแล้วซุ้มมักจะหัก ลองนึกดู คนไปงานเป็นแสน ๆ แต่มีพระแค่สามพันองค์ ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น ?

อาตมาเองบูชาไว้ ๑๐๐ องค์ แต่ไม่เหลือเลยสักองค์ พอพุทธาภิเษกเสร็จเราก็รีบเก็บใส่ย่าม ดันมีคนเห็น..!

ตอนที่ไปยืนจำหน่ายอีก ๒,๙๐๐ องค์ ปรากฏว่า ส.ห. ๕ คนเอาไม่อยู่ คนซื้อดันจนเคาน์เตอร์พัง ลุยเข้าไปข้างใน หลวงพี่วิรัช (พระปลัดวิรัช โอภาโส) ผ้าผ่อนกะรุ่งกะริ่งเลย ไม่ต้องห่วง รับรองจ่ายเงินทุกคน แต่เขาขอคว้าพระไว้ก่อน..!

ที่ชอกช้ำที่สุดมีอยู่รายหนึ่ง ก็คือ ลูกศิษย์หลวงพี่สามารถ เอาสมเด็จองค์ปฐมแขวนไว้หน้ารถ คนมาเห็นเข้า จัดการทุบกระจก นิมนต์พระไป จ่ายค่ากระจกพร้อมกับค่าพระไว้ให้สองพัน เขาเอาเงินวางไว้ให้ในรถเลย

อะไรจะศรัทธาจนขาดสติขนาดนั้น..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2010 เมื่อ 13:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 20-04-2010, 12:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สมเด็จองค์ปฐมรุ่นแรกพอสร้างแล้วมีกริ่ง คนก็ไปเขย่ากันใหญ่ ไม่รู้เป็นอะไรกัน รู้ว่ามีกริ่ง แต่ก็ยังจะเขย่า อยากฟัง

พอรุ่นสองหลวงพ่อท่านก็เลยไม่ให้บรรจุกริ่ง ท่านบอกว่าทำลักษณะนั้นเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 23-04-2010, 13:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ข้อห้ามของเป่ายันต์เกราะเพชรมีสองข้อ คือ ห้ามลักขโมยกับห้ามดื่มสุรา อย่างที่ทำงานเขาให้ไปซื้อกระเช้า เขามีของแถมมา แล้วคนไปซื้อเอาของแถมไว้เอง อันนี้ผิดถึงขั้นลักทรัพย์ไหมคะ ?
ตอบ : ทำไมไม่ให้เขาไปเลย ?

ถาม : ก็คนซื้ออยากได้
ตอบ : ก็บอกเขาไปสิ ว่ามีของแถมมา เราขอของแถมนะ คุณเอากระเช้าไปก็แล้วกัน จะได้พ้น ๆ ไปเลย ไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจแบบนี้

ถาม : แล้วถ้าไม่บอกเข้าข่ายลักทรัพย์ไหมคะ ?
ตอบ : เขาต้องการกระเช้า เราหากระเช้าให้เขาได้ ก็แปลว่าเขาได้ไปตามวัตถุประสงค์แล้ว เพียงแต่ว่าอย่าไปทำอะไรที่หมิ่นเหม่ต่อการศีลขาดอย่างนี้อีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 23-04-2010, 13:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัตถุมงคลที่เราได้มาจากครูบาอาจารย์องค์อื่น เราแล้วเอาไปเข้าพิธีอื่นอีก เป็นการปรามาสไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ได้ปรามาสหรอกจ้ะ เพียงแต่ว่าขาดความมั่นใจ บางทีก็อยู่ที่กำลังใจของเราว่า ยังไม่มั่นคงต่อพระรัตนตรัย ทำให้เข้าถึงธรรมช้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 23-04-2010, 13:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเราถวายพระพุทธรูป สมเด็จองค์ปฐม สมเด็จองค์ปัจจุบัน พระแก้วมรกต แต่ละองค์อานิสงส์แตกต่างกันหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ที่เขาถวายพระ เขาต้องการอย่างเดียว คือ อานิสงส์การสร้างพระ ในเมื่อต้องการอานิสงส์การสร้างพระ คุณจะถวายพระพุทธรูปแบบไหน องค์ไหน ก็ได้อานิสงส์การสร้างพระเหมือนกัน

คราวนี้สำคัญตรงที่ว่าใหญ่หรือเล็กเท่านั้น ถ้าหากว่าสร้างพระใหญ่ก็ได้อานิสงส์มาก ตรงนี้จริงหรือไม่?..ก็ไม่แน่ว่าจะจริงนะ ถ้าคนสร้างพระองค์เล็ก ๆ แต่สร้างบ่อย กับคนสร้างองค์ใหญ่ครั้งเดียว คนสร้างบ่อย ๆ ก็อานิสงส์เยอะกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 23-04-2010, 15:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้มีเศรษฐีคนหนึ่งจะตั้งโรงงานหลอมแก้วให้ แต่เขาติดเรื่องเสื้อแดงเสียก่อน
ตอบ : ปล่อยให้เป็นไปตามวาระ คือ จะได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่ อย่าไปตั้งความหวัง เพราะว่าถ้าเราได้มาก็เหนื่อย ในเรื่องของธรรมะนั้นแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือ ถ้าเราอยากมักจะไม่ได้ ตัดความอยากได้เมื่อไรก็จะมา

เพราะฉะนั้น..เราต้องวางกำลังใจให้เป็นไปตามเหตุการณ์เฉพาะหน้า ถ้าหากสมควรอย่างไรที่จะต้องทำ ก็ขอให้เป็นไปตามอย่างที่เขาบอกมา ถ้าหากไม่สมควร เขาจะไม่ทำให้ ก็เรื่องของเขา ไม่อย่างนั้นเราจะเครียดเปล่า ๆ


ถาม : ช่วงนี้เป็นช่วงหาคน ช่วงหาคนนี่เหนื่อย ถ้าเหตุการณ์เสื้อแดงทำให้บ้านเมืองไม่ปกติ จนเศรษฐีเขาไม่ตั้งโรงงานให้ ผมจะได้หยุดหาเสียที เพราะเหนื่อยเหมือนกัน พระอาจารย์ว่ามีโอกาสไหมครับ ?
ตอบ : มีโอกาสที่จะเหนื่อย บุคคลประเภทอย่างพวกเรานั้นสบายไม่ได้หรอก สถานการณ์จะบังคับให้เป็นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 23-04-2010 เมื่อ 15:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:31



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว