กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

Notices

พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) รวมธรรมะจากพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 17-09-2009, 08:31
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,452 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default ดารา นักร้อง นักแสดงส่วนใหญ่ตกนรก

ถาม : เมื่อกี้ผมเล่าให้น้องเขาฟังครับ เรื่องดารา ถ้าไม่เคยทำบุญอย่างอื่น ตกนรกหมดเพราะทำให้คนยึดติด ก็รู้สึกเอ๊ะ..ในเมื่อดาราเขาทำสัมมาอาชีวะแล้ว ทำไมต้องไปตกนรกด้วย ในเมื่อถ้าเขาไม่ทำเขาก็ไม่มีกิน ?

ตอบ : เพราะเป็นมิจฉาทิฏฐิ คือ สิ่งที่เขาทำนั้นค้านกับธรรมะที่แท้จริง เพราะว่าสิ่งที่เขาทำเป็นมายา ทำให้คนหลงไปยึดติดอยู่

สังเกตไหมว่า นางอิจฉาเข้าไปในตลาด ดีไม่ดีเจอเปลือกทุเรียนตบ หรือไม่ก็รองเท้าขว้างเอา นั่น..คนเขายึดขนาดนั้น

พระพุทธเจ้าสอนให้ละ พวกนี้ทำให้ยึด จึงตรงกันข้ามกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน เรียกว่ามิจฉาทิฏฐิ โทษของมิจฉาทิฏฐินี่หนักมาก ไปอเวจีที่เดียว น่าสงสารมากเลย

ในพระไตรปิฎกก็มีอยู่ คือ พระตาลปุตตคามินีเถระ ท่านเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงมาก ได้รับการอบรมมาจากวงการนักแสดงไว้ว่า บุคคลที่สร้างความรื่นเริงให้แก่ผู้อื่น จะได้เป็นสหายของเทวดาชั้นดาวดึงส์ ก็คือว่าจะได้ไปเกิดที่นั่น ภาษาบาลีฟังยาก ต้องแปลเป็นไทยอีกทีหนึ่ง ท่านก็ยึดมั่นในจุดนั้นเรื่อยมา

คราวนี้พอไปเปิดการแสดงที่เมืองสาวัตถี ได้ยินมาว่าพระสมณโคดมทราบเรื่องทุกอย่าง ได้โอกาสก็เข้าไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้าว่า สิ่งที่ทำมาจะทำให้ได้เกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์จริงไหม ? พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า ดูก่อน..มายากร อย่าเพิ่งให้เราพยากรณ์เลย ท่านถามถึง ๓ วาระ พอถึงครั้งที่ ๓ พระพุทธเจ้าจึงตอบว่าลงอเวจีมหานรก..!

คราวนี้ดีตรงที่ว่าท่านเชื่อ นั่งร้องไห้เลย ถามว่าทำอย่างไรถึงจะรอดได้ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ต้องบวชแล้วปฏิบัติธรรม ไม่นานท่านก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์ เป็นอันว่ารอดไป ถ้าไม่เชื่อก็ซวย..!

คราวนี้ของเราก็มีตัวอย่างอยู่ ดาราวัยรุ่นที่ตาย ดูสิว่าคนไปงานศพกี่หมื่น ? ถ่ายรูปลงหนังสือพิมพ์ออกมาเห็นแล้วตกใจ เขาทำให้คนติดได้ขนาดนั้น แล้วดาราเพลงร็อกของญี่ปุ่น มากันที คนแห่กันไปดอนเมือง รถติดบรรลัยวายวอดเลย นั่น..คนติดขนาดไหน ? แต่เป็นการยึดในทางที่ผิด จริง ๆ แล้วการปฏิบัติต้องปล่อย ถ้ายึดเมื่อไรก็ติดอยู่แค่นั้นแหละ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-11-2013 เมื่อ 15:05 เหตุผล: ตัดคำว่าตื้อออก
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 107 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 17-09-2009, 08:31
โอรส's Avatar
โอรส โอรส is offline
นายทะเบียน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 897
ได้ให้อนุโมทนา: 37,411
ได้รับอนุโมทนา 206,452 ครั้ง ใน 3,180 โพสต์
โอรส is on a distinguished road
Default

ถาม : แต่ว่าเป็นเรื่องทางโลกนะครับ ไม่มีก็ไม่ได้
ตอบ : ไม่มีก็ได้ ถ้าหากว่าคนเราพอใจมีธรรมะประกอบอยู่ แต่บังเอิญว่าคนเราไม่สนใจจะหันมาหาธรรมะ ไปสนใจแต่ทางด้านโน้น จริง ๆ แล้วพวกนี้น่าสงสารมาก การแสดง แสง สี เสียง อะไรต่าง ๆ ก็ดี ที่เกิดขึ้นมา เพื่อกระตุ้นในเรื่องของรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เหล่านี้ทำให้ปีติเกิดขึ้นในใจชั่วคราว ทำให้จิตฟูขึ้นมา ทำให้รู้สึกว่ามีความสุข แต่เป็นความสุขที่เกิดจากการกระตุ้นภายนอก

ไม่เหมือนกับการรักษาศีล เจริญภาวนา ที่เป็นความสุข ที่เป็นปีติที่เกิดขึ้นจากภายใน ซึ่งอยู่ยั้งยืนยงกว่า เพราะว่าเราสร้างขึ้นมาเอง แต่ว่าอันโน้นเกิดจากการกระตุ้นภายนอก เมื่อขาดสิ่งกระตุ้นนั้นก็จะขาดหายไป พวกนี้ก็จะเกิดอาการทุกข์ขึ้นมา ทุกข์ตรงที่ว่า เอ๊ะ..ทำไมความสุขที่เคยมีหายไป ? ก็ตะเกียกตะกายไปหาอีก ก็ต้องไปกินเหล้าเมายา ไปเต้นรำ ไปเข้าคลับเข้าบาร์ เข้าโรงหนังฟังเพลง ไปกรี๊ดกันถึงจะมัน

ถาม : พวกนักร้องก็เหมือนกันหรือครับ ?
ตอบ : เหมือนกันหมด พวกนี้ส่วนใหญ่แล้วทำให้คนยึดติด ถ้าไม่เคยทำบุญอื่นมา ในลักษณะที่กำลังใจทรงตัว โอกาสรอดอเวจีน้อยเต็มที น่าสงสาร

ถาม : อย่างนี้พวกนักฟุตบอล ก็เกี่ยวเนื่องไหมครับ ?
ตอบ : ก็มีสิทธิ์เหมือนกัน

ถาม : อย่างพวกแมนฯ ยูฯ ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล
ตอบ : พวกนี้จริง ๆ ก็ไม่น่าไปโทษเขานะ ไอ้คนระยำดันไปติดเอง..!

ถาม : เลยพาเขาซวยไปด้วย
ตอบ : ต้องดูเจตนาของเขา ถ้าเจตนาของเขาคือว่าวางลีลา จะมีท่าแปลก ๆ อะไรออกมาเพื่อดึงดูดใจคน นี่เจตนาชัดเลย โทษ ๑๐๐ % แต่ถ้าหากว่าเป็นอาชีพของตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด คนอื่นจะเป็นอย่างไรเราไม่เกี่ยว นี่โอกาสรอดยังมีเยอะ คราวนี้แบบแรกมักจะเยอะ เป็นแบบแรกเกือบหมด

ถาม : ตายแน่ เดวิด เบคแฮม ...(หัวเราะ)... โห..ทั้งสามีภรรยาเลย
ตอบ : เอาให้ถึงเวลาก็ไปดูแล้วกัน ถ้าคนไปติดเขาเอง จริง ๆ แล้ว โทษเขาไม่มี แต่ว่าพวกนี้ส่วนใหญ่เจตนาหาจุดเด่นขึ้นมาเพื่อดึงดูด ซึ่งช่วยได้เยอะ ชื่อเสียงของตัวเองก็ได้ เงินทองก็มากขึ้น

ถาม : ถ้าเป็นดารา ก็คิดว่าเราทำหน้าที่ของเรา
ตอบ : คือทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดไป แล้วถึงเวลาเรื่องของบุญของบาปนั้น บาปเราก็ละ บุญเราก็ทำ ให้จิตใจเราเกาะบุญมากกว่าบาป โอกาสรอดก็จะมี

สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย โอรส : 24-10-2014 เมื่อ 13:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ โอรส ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:40



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว