#1
|
||||
|
||||
ไข้หัวลม
พระอาจารย์เล็กบอกว่า "ไข้หัวลม คือ อาการไข้ที่เกิดตอนช่วงเปลี่ยนฤดู ร่างกายเราปรับไม่ทัน ก็จะป่วย "
ท่านแนะนำมาว่า "ให้กินต้มโคล้งใบมะขามอ่อนกับหัวปลาช่อน หรือไม่ก็แกงส้มดอกแค กินไปเยอะ ๆ รับรองไม่เป็นไข้ จะว่าไปก็ถูกหลักสุขภาพเพราะมีวิตามินซี ตรงนี้เขาถ่ายทอดภูมิปัญญาสืบเนื่องกันมาแต่โบราณ ปัจจุบันที่ร้านอาหารไทยกระจายไปทั่วโลกเพราะฝรั่งเขามาวิจัยแล้วพบว่า อาหารไทยประกอบด้วยสมุนไพรเยอะมากเลยกลายเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะพวกต้มยำกุ้ง และต้มข่าไก่"
__________________
........................ เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-05-2012 เมื่อ 20:37 |
สมาชิก 100 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#2
|
|||
|
|||
เมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๕ ไปกราบครูบาอาจารย์มา ท่านอ้างอิงถึงยาแก้ไขหัวลมที่พระอาจารย์เคยบอกไว้ดังข้างต้น
แล้วจึงให้ตำรับยาเบญจโลกวิเชียร หรือยาห้าราก มีคุณเสมอแก้วมณีทั้ง ๕ ที่ท่านปู่ชีวกฯ ให้ไว้ (หรือแก้วห้าดวง... ไปค้นข้อมูลเพิ่มเติม พบว่ามีอีกชื่อว่า ยาเพชรสว่าง) แม้ว่ายานี้จะขึ้นทะเบียนเป็นตำรับยาไทยแล้วก็ตาม แต่ตำรับที่ได้มามีแตกต่างกันอยู่ ๑ ชนิดใน ๕ ชนิดที่บันทึกเป็นตำรับยาที่ขึ้นทะเบียนไว้ ใช้แก้ไข้... พวกไข้หัวลม ไข้พิษ ไข้กาฬ และกระทุ้งพิษไข้ ให้นำ รากชิงชี่ รากมะเดื่อชุมพร รากท้าวยายม่อม รากย่านาง และรากเกล็ดปลาหมอ (ตำรับยาทั่วไปใช้รากคนทา แทนรากเกล็ดปลาหมอ) อย่างละหนักเท่า ๆ กัน เช่น หนัก ๓ บาทเท่ากัน มาบดละเอียดผสมกัน ใส่แคปซูล รับประทานครั้งละ ๕ เม็ด หากกินเมื่อเริ่มรู้สึกว่าจะเป็นหวัด ประมาณ ๒๐ นาทีหลังกินยาก็จะหาย
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว... กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑ แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 15-05-2012 เมื่อ 16:29 เหตุผล: ลงรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น วันที่กราบฟังมา และแก้ไขขนาดรับประทาน จาก ๑ เม็ด ครั้งเดียว เป็นคราวละ ๕ เม็ด |
สมาชิก 66 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#3
|
||||
|
||||
อ้างอิง:
ตัวของรากชิงชี่ ตามร้านไม่ใช่ราก "ล่อมาทั้งต้นเลย" รากย่านาง ตามร้านก็แบบเดียวกัน จึงต้องเพิ่มปริมาณเป็น สามเท่า ถ้าให้ดีให้เพิ่ม รากก้างปลาแดง สามส่วน รากก้างปลาขาวอีก สามส่วน สรรพคุณรวมจะดีขึ้น อย่าเชื่อสูตรยาและร้านยาทั้งหมด อาจจะผิดพลาดได้
__________________
เต้ย:ทำ(ยังไง)อย่างไรกับอารมณ์ที่อยู่ตรงกลาง ไม่สุข ไม่ทุกข์ หลวงตา:กำหนดรู้ว่ามันอยู่ตรงกลาง ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุรจิตร : 03-05-2012 เมื่อ 10:49 |
สมาชิก 59 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุรจิตร ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#4
|
||||
|
||||
ตัวอย่าง
รากชิงชี่ ๓ บาท รากย่านาง ๓ บาท รากคนทา ๑ บาท รากท้าวยายม่อม ๑ บาท รากมะเดื่อชุมพร ๑ บาท รากก้างปลาแดง ๓ บาท รากก้างปลาขาว ๓ บาท ๑ บาท = ๑๕ กรัม
__________________
เต้ย:ทำ(ยังไง)อย่างไรกับอารมณ์ที่อยู่ตรงกลาง ไม่สุข ไม่ทุกข์ หลวงตา:กำหนดรู้ว่ามันอยู่ตรงกลาง ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุรจิตร : 03-05-2012 เมื่อ 13:54 เหตุผล: แก้แล้วนะพี่จี๋ |
สมาชิก 49 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุรจิตร ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#5
|
|||
|
|||
ผมได้รับคำแนะนำมาเหมือนกันกับที่คุณสุรจิตรแนะนำครับ
ถ้าหากเราไปซื้อตัวยาตามร้านยาที่ขึ้นชื่อ จะมีอย่างอื่นปนมาด้วยครับ ทำให้สรรพคุณยาลดลงไป ส่วนเรื่องสัดส่วนยานั้นผมไม่ขอแนะนำนะครับ ผมยังไม่ชำนาญก็เลยแนะนำไม่ได้ครับ สำหรับท่านที่มีอายุเริ่มจะพ้นวัยกลางคนไปแล้ว แนะนำให้ลองกินยาห้ารากดูครับ เป็นยาที่ช่วยกระทุ้งพิษที่หลบอยู่ภายในได้ดีทีเดียว สำหรับพิษที่อยู่ในร่างกายเรา ส่วนมากจะหลบอยู่จนภูมิคุ้มกันภายในร่างกายเราเสื่อม ถึงจะเริ่มปรากฏอาการออกมา แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สวัสดิกะ : 03-05-2012 เมื่อ 15:19 |
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สวัสดิกะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#6
|
||||
|
||||
ยาสูตรนี้ใช้สำหรับตระกูล เชื้อไข้หวัด ไข้เลือดออก บรรเทาน้ำเหลืองเสีย
ไม่ใช่พิษแมลงสัตว์กัดต่อย พิษงู และ สารพิษจำพวกโลหะหนักนะครับ
__________________
เต้ย:ทำ(ยังไง)อย่างไรกับอารมณ์ที่อยู่ตรงกลาง ไม่สุข ไม่ทุกข์ หลวงตา:กำหนดรู้ว่ามันอยู่ตรงกลาง ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม |
สมาชิก 46 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สุรจิตร ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
#7
|
|||
|
|||
ใช่ครับ ขออภัยทุกท่านด้วยครับที่อธิบายไม่ละเอียด
|
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สวัสดิกะ ในข้อความที่เขียนด้านบน | ||
ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) | |
|
|