กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน

Notices

กระทู้ถูกปิด
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 21-03-2011, 23:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,247 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๔

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตน ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติเอาไว้เฉพาะหน้า เอาความรู้สึกทั้งหมดของเราไหลตามลมหายใจเข้าไป ไหลตามลมหายใจออกมา ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเราอยู่กับลมหายใจเฉพาะหน้าอย่างนี้ ถ้าหากว่าไปคิดเรื่องอื่นเมื่อไร ก็ให้ดึงกลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าออกเสียใหม่

วันนี้เป็นวันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติธรรมประจำต้นเดือนมีนาคมวันที่สองของพวกเรา เมื่อครู่ก่อนการปฏิบัติธรรม ที่ได้กล่าวถึงความยากลำบากต่าง ๆ ที่เรากำลังเผชิญอยู่ เนื่องจากสภาวะของเศรษฐกิจที่ทำให้เป็นไปนั้น

นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่เราควรจะคำนึงถึงว่า ความจริงแล้ว พวกเราทั้งหมดนั้น กำลังดำรงชีวิตอยู่ท่ามกลางกองทุกข์ โดยเฉพาะสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ข้าวของทุกอย่างขึ้นราคา บางอย่างก็ขาดตลาดหาได้ยาก ทำให้เราต้องดิ้นรน ใช้ความพยายามมากกว่าปกติ เพื่อที่จะหาปัจจัยให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ ทั้งของตนเอง ทั้งของครอบครัว เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ เท่ากับว่าเพิ่มทุกข์ให้แก่เราโดยใช่เหตุ

เนื่องเพราะว่าสภาพของความทุกข์นั้น ตามปกติก็มีกับร่างกายของเราอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นความหนาว ความร้อน ความหิว ความกระหาย ความเจ็บไข้ได้ป่วย เป็นต้น ตลอดจนกระทั่งทุกข์จากความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย ความพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ความปรารถนาที่ไม่สมหวัง ความกระทบกระทั่งอารมณ์ที่ไม่ชอบใจ เป็นต้น

ชีวิตของเราเมื่อดำเนินอยู่ในกองทุกข์อย่างนี้ ถ้าหากว่าเรามาเกิดใหม่อีกเมื่อไร ก็จะมีสภาพความทุกข์ที่ไม่รู้จักจบจักสิ้นอย่างนี้อีก จึงอยากให้ทุกคนเตือนสติตัวเองว่า ขึ้นชื่อว่าเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์อย่างนี้ เกิดมามีร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์อย่างนี้ เรายังมีความปรารถนาอีกหรือไม่ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-03-2011 เมื่อ 04:33
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 22-03-2011, 16:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,247 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เนื่องเพราะว่า สภาพสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ ทั้งภายในและภายนอกประเทศนั้น ยังจะเกิดขึ้นและคุกคามพวกเราไปอีกเป็นระยะเวลานานทีเดียว

ขณะนี้ในต่างประเทศนั้น เกิดการจลาจลในประเทศที่เคร่งครัดกับหลักการของทางศาสนา เคร่งครัดกับระบอบการปกครอง ไม่ยอมให้ประชาชนมาท้าทายอำนาจของรัฐบาล แต่ประเทศทั้งหลายเหล่านั้น ก็ถูกประชาชนเดินขบวนขับไล่ผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นตูนิเซียก็ดี อียิปต์ก็ดี ซึ่งประสบความสำเร็จไปแล้ว คือประชาชนสามารถขับไล่ผู้นำเก่าออกไปได้

หรือที่ยืดเยื้ออยู่อย่างลิเบีย ซึ่งยังเป็นการต่อสู้กันอยู่ระหว่างฝ่ายผู้นำที่ครองอำนาจ และฝ่ายประชาชนที่ต้องการขับไล่เผด็จการ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้มีแต่จะแผ่กระจายกว้างออกไปเรื่อย เพราะว่าบุคคลที่โดนกดขี่อยู่ในระบอบการปกครองที่เข้มงวดนั้น ย่อมต้องการแสวงหาทางออก ต้องการความอิสระเป็นปกติอยู่แล้ว

เมื่อย้อนมานึกถึงตัวของพวกเราทั้งหลายว่า เราเกิดมามีร่างกายนี้ เท่ากับว่าเราถูกบีบบังคับให้เกิดมาอยู่บนกองทุกข์แล้ว เราจะดิ้นรนเพื่อความเป็นอิสระของเราบ้างหรือไม่ ? ถ้าหากว่าเราต้องการดิ้นรนเพื่อความเป็นอิสระของเรา เพื่อการหลุดพ้นจากกองทุกข์ สถานที่เดียวที่จะพ้นจากความทุกข์อย่างแท้จริงนั้นก็คือพระนิพพาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2011 เมื่อ 04:13
สมาชิก 58 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 23-03-2011, 10:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,247 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเราไม่ตั้งความปรารถนาว่าจะเกิดมาในโลกที่ทุกข์ยากอย่างนี้ เราไม่ต้องการร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์อย่างนี้ เราหวังความหลุดพ้นไปสู่พระนิพพาน

เราก็ต้องมาทบทวนเครื่องมือที่จะนำพาเราไปสู่พระนิพพานซึ่งได้แก่ ศีล สมาธิ และปัญญา ก็ให้ทุกท่านตั้งใจว่า ขณะนี้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ที่เรานั่งอยู่ ศีลทุกสิกขาบทของเราบริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่มีข้อไหนบกพร่อง ตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป เราจะประคับประคองรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์

เมื่อเรามั่นใจแล้วว่าศีลของเราบริสุทธิ์ ก็ตามดูตามรู้ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา เพื่อให้สมาธิตั้งมั่นและทรงตัว เมื่อสมาธิของเราตั้งมั่นทรงตัวไปถึงระดับหนึ่ง เต็มที่แล้ว ไม่สามารถจะดำเนินต่อไปได้มากกว่านั้นแล้ว สภาพจิตก็จะคลายออกจากสมาธิเองโดยอัตโนมัติ อาจเป็นระยะเวลาที่ยาวนานหรือมีระยะเวลาแค่ไม่กี่นาที

เมื่อสภาพใจคลายออกจากสมาธินั้นมา เราต้องรีบหาสิ่งที่ประเทืองปัญญา ให้มองเห็นความเป็นจริงของร่างกายนี้ ของโลกนี้ เพื่อให้ใจมาขบคิดไคร่ครวญ ไม่เช่นนั้นแล้ว สิ่งที่ท่านทำมาคือสมาธินั้น จะถูกใจชักนำไปในทางที่ต่ำ เป็นการใช้กำลังสมาธิที่สะสมได้มา ไปฟุ้งซ่านสู่อารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง และการฟุ้งซ่านนั้นจะรุนแรงมาก รั้งได้ยาก เพราะว่ากำลังสมาธิที่เราสะสมได้ เอาไปใช้ในเรื่องนั้นเสียแล้ว

เมื่อเรามาคิดก็ให้คิดอยู่ในลักษณะที่ว่า สภาพของร่างกายนี้ก็ดี โลกนี้ก็ดี ตลอดจนกระทั่งวัตถุธาตุสิ่งของต่าง ๆ ก็ตาม มีสภาพของความไม่เที่ยง มีสภาพของความเป็นทุกข์ มีสภาพไม่ใช่ตัวตน ยึดถือมั่นหมายไม่ได้ หรือว่าจะคิดพิจารณาให้เห็นว่าความทุกข์เกิดจากอะไร แล้วระงับซึ่งสาเหตุนั้นเสีย ความทุกข์ก็ไม่เกิดแก่เรา

หรือว่าพิจารณาตามนัยวิปัสสนาญาณ ๙ อย่าง คือเห็นความเกิดความดับของทุกสรรพสิ่ง หรือเห็นว่าทุกสิ่งล้วนแล้วแต่ดับสลายไปหมดสิ้น หรืออย่างที่ได้กล่าวไปก็คือ เห็นว่าเป็นทุกข์เป็นภัย เป็นของน่ากลัว เราไม่พึงปรารถนาในร่างกายนี้และโลกนี้อีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-03-2011 เมื่อ 17:39
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 24-03-2011, 15:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,247 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าหากว่าท่านคิดทบทวน จนสภาพจิตมั่นอกมั่นใจว่าไม่มีความต้องการในร่างกายนี้แล้ว ไม่มีความต้องการในร่างกายคนอื่นแล้ว ไม่มีความต้องการเกิดมาในโลกนี้แล้ว การเกิดเป็นเทวดา เป็นพรหมที่พ้นทุกข์ชั่วคราวก็ไม่พึงปรารถนา เราต้องการที่เดียวคือพระนิพพาน

ก็ให้ทุกคนยกจิตขึ้นเกาะพระนิพพาน ท่านใดที่ใช้มโนมยิทธิได้ยกจิตขึ้นไปกราบพระข้างบนนั้น ถ้าท่านใดที่ทำไม่ได้ ก็ขอให้นึกถึงพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบมากที่สุด ตั้งใจว่านั่นเป็นองค์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า น้อมจิตน้อมใจยึดท่านเป็นที่พึ่งที่ระลึก คิดว่าถ้าเราตายลงไปตอนนี้ เราก็ขอมาอยู่กับพระองค์ท่านที่นี่คือพระนิพพาน

เมื่อใจของเราจดจ่อแน่วแน่อยู่กับเป้าหมายแล้ว ถ้าหากว่าท่านทั้งหลาย ยังมีลมหายใจเข้าออกอยู่ ให้กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ถ้ายังมีคำภาวนาอยู่ ก็กำหนดคำภาวนาไปด้วย ถ้าหากว่าไม่มีลมหายใจ ไม่มีคำภาวนา ก็กำหนดรู้ว่าตอนนี้ไม่มีลมหายใจไม่มีคำภาวนา

ประคับประคองรักษาอารมณ์ของเราให้นิ่ง อยู่กับพระนิพพานหรือกับภาพพระขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราเอาไว้อย่างนี้ จนกว่าจะได้ยินสัญญานบอกว่าหมดเวลา


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๔
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-03-2011 เมื่อ 17:16
สมาชิก 45 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
กระทู้ถูกปิด


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:34



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว