กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เคล็ดวิชาต่าง ๆ

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 21-10-2009, 16:50
นางมารร้าย นางมารร้าย is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 16,587
ได้รับอนุโมทนา 75,110 ครั้ง ใน 1,359 โพสต์
นางมารร้าย is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
..........รบกวนพี่นางมารร้าย ช่วยตรวจดูเครื่องที่จะใช้ในพิธีบวงสรวงหน่อยครับ ว่าคาดตกบกพร่องส่วนใดบ้างครับ
น่าจะเป็นขาด ใช่ไหมคะ

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
..........๒. บายศรีปากชาม ๔ ชุด ประดับด้วยดอกไม้แดง ๑ ชุด, ดอกไม้เหลือง ๑ ชุด, สีน้ำเงิน แต่อนุโลมให้ใช้ดอกไม้สีม่วง ๑ ชุด, ดอกไม้ขาว ๑ ชุด (เย็บบายศรีลูกเจ็ดชั้นเดียว ตรงกลางเป็นกรวยใบตองใส่ข้าวปากหม้อ แล้วใช้ไข่ต้มเสียบไว้ยอดกรวย)
สมัยหลวงปู่ฤๅษีฯ เขาไม่ได้ประดับที่ตัวบายศรีปากชามเป็น ๔ สีตามทิศ แต่สมัยนี้พัฒนาขึ้น สวยขึ้น อะไรที่ดีขึ้นสวยขึ้นก็ต้องโมทนาด้วยค่ะ ดีแล้วค่ะ

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
..........๓. ข้าวตอก ดอกไม้
๔ ชุด สำหรับ ๔ ทิศนะคะ ถ้าจะเรียงสวย ๆ แบบที่วัดก็ทิศละ ๕ (ข้าวตอก ๕ กระทง ดอกไม้สีตามทิศอีก ๕ กระทง) ถ้าโต๊ะเล็กก็อย่างละกระทง

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
..........๗. ขนมต้มขาว (แป้งข้าวเหนียวปั้นกลมไส้กระฉีก) ขนมต้มแดง (แป้งข้าวเหนียวปั้นกลมแบนคลุก กับหน้ากระฉีก) อย่างละ ๔ จาน
หมายถึงจานเล็ก ๆ ใช่ไหมคะ เพราะที่วัดก็ใช้ใส่พานขนาดประมาณถ้วยขนมเล็ก ๆ


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
..........๙. หัวหมู ๓ หัวพร้อมน้ำจิ้มด้วย
..........๑๐. ปลาช่อนนึ่ง (แปะซะ ) ๑ ตัว และน้ำจิ้ม
น้ำจิ้มนั่นควรเป็นนำจิ้มแจ่วพร้อมผักนึ่งนะคะ อันนี้ไม่ต้องขึ้นโต๊ะไหว้ค่ะ แต่เอามาฝากพี่ ๆ ที่บ้านอนุสาวรีย์หลังบวงสรวงไงคะ พร้อมปลาช่อนแป๊ะซะ หรือไก่ หรือหัวหมู...ตามแต่จะเมตตาค่ะ...อิอิ

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
..........๑๔. กระดาษแดงรองหัวหมูและไก่
ซื้อสีผสมอาหารแบบผง แล้วเอาผงมาละเลงบนไก่และหัวหมูให้แดงเถือกไปเลยค่ะ จะได้อานิสงส์กันวินาศภัยเพิ่มด้วย

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
๑๒. ถั่วลาชมาศ (ถั่วเขียวเลาะเปลือกคั่ว) ๔ จาน
๑๕. น้ำดื่ม ๕ แก้ว
๑๖. หมากพลู ๕ คำ ยานัตถุ์ ( ยี่ห้อ “ลูกสาวหมอมี” เท่านั้น ), น้ำโอเลี้ยง ๑ แก้ว, ลูกสาลี่พร้อมปอกเป็นชิ้น, กระโถน
ข้อ ๑๔ เราะเปลือกค่ะ ใช้ ร.เรือ ค่ะ ถ้า ล.ลิง นั่น ใช้ตอนน้องไปเลาะเลียบรั้วบ้านสาว ๆ ค่ะ
ข้อ ๑๕ นี่ไม่เคยเห็นนะคะ ไม่ว่าสมัยหลวงปู่ฤๅษีฯหรือพระอาจารย์
ข้อ ๑๖ คิดว่าคงตั้งใจไหว้หลวงปู่ฤๅษีฯ ซึ่งพระอาจารย์ท่านใช้เฉพาะหมากพลูกับยานัตถุ์ ซึ่งเป็นของที่หลวงปู่ฯท่านขาดไม่ได้สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จึงถือเสมือนเป็นสัญลักษณ์แทนองค์

นอกนั้นไม่ใช่ค่ะ โดยเฉพาะกระโถนนี่ไม่น่ามาอยู่บนโต๊ะบวงสรวงได้เลยนะคะ ถ้าจะเอาขนาดนั้นสงสัยอีกหน่อยคงต้องมีแว่นตา ไม้เท้า ฯลฯ กันบนโต๊ะบวงสรวงให้วุ่นไปหมด

โอเลี้ยงกับสาลี่นั่นพี่ก็ชอบค่ะ ถ้าไม่รู้จะเอาไปไหนก็เอามาบ้านอนุสาวรีย์พร้อมปลาแป๊ะซะก็ได้ค่ะ...น้ำจิ้มแจ่วด้วยนะคะ...พี่จะรอนะคะ

อย่าลืมแก้คำผิดด้วย ช่วยชาติกันนะคะ เราไม่รักชาติไทยแล้วใครจะรัก
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นางมารร้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 21-10-2009, 22:28
ล้อมเดช ล้อมเดช is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jul 2009
ข้อความ: 4
ได้ให้อนุโมทนา: 19,359
ได้รับอนุโมทนา 6,822 ครั้ง ใน 242 โพสต์
ล้อมเดช is on a distinguished road
Default

..........ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร

..........พี่นางมารร้ายครับ เรื่องกระโถน พอดีผมจะนำไปวางไว้ข้างล่างนะครับ (ตรงบริเวณจุดตั้งรูปหลวงพ่อครับ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 93 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ล้อมเดช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 22-10-2009, 09:05
นางมารร้าย นางมารร้าย is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 16,587
ได้รับอนุโมทนา 75,110 ครั้ง ใน 1,359 โพสต์
นางมารร้าย is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
..........ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร

..........พี่นางมารร้ายครับ เรื่องกระโถน พอดีผมจะนำไปวางไว้ข้างล่างนะครับ (ตรงบริเวณจุดตั้งรูปหลวงพ่อครับ)
แล้วหลังบวงสรวงเสร็จ น้องจะจัดการอย่างไรกับกระโถนนั่นล่ะคะ

บายศรีและการบวงสรวงเป็นของสูง ตัวบายศรีหลังบวงสรวงแล้ว ยังต้องนำไปลอยน้ำ...ไม่ใช่ทิ้งขยะ ของใช้ที่ใช้ในพิธีส่วนใหญ่ทางวัดจะแยกต่างหาก ไม่ปะปนกับของที่ใช้ปกติ แต่ถ้าเป็นตามบ้าน ก็อนุโลมได้ เพราะถ้วยชามส่วนใหญ่ก็ใช้บนโต๊ะกินข้าว...ไม่ใช่ของต่ำอะไร

แต่กระโถนนี่สิ ตอนบวงสรวงก็ไม่ใช่ของจำเป็น ถ้าเข้าพิธีแล้วก็จะเอามาใช้ใส่ของต่ำ ๆ อย่างปกติก็ไม่ได้ แล้วจะเอาขึ้นหิ้งพระบูชาอย่างยานัตถุ์หมากพลูก็ไม่สมควร แล้วจะทำให้ชีวิตยุ่งยากไปทำไมละคะ

เพิ่งสังเกตว่าวันเสาร์ที่ ๗ นั่นเป็นเสาร์ห้า (แม้จะข้างแรม) ครูบาอาจารย์บอกว่าวันนี้แรงเกินไปสำหรับงานอื่น ๆ เหมาะจะบวงสรวงเกี่ยวกับวัตถุมงคลและพุทธาภิเษกเท่านั้น ตกลงว่าน้องจะบวงสรวงขอสร้างวัตถุมงคลอย่างเจ๊สายฯหรือเปล่าคะ ถึงเลือกใช้วันนี้

ภาษาไทยไม่แข็งแรง ยิ่งต้องเข้าเว็บนี้มารับใบแดงบ่อย ๆ ค่ะ เดี๋ยวก็ด้าน..เอ๊ย..ดีเอง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นางมารร้าย : 22-10-2009 เมื่อ 09:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นางมารร้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 22-10-2009, 12:06
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,001
ได้รับอนุโมทนา 133,090 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ นางมารร้าย อ่านข้อความ
เจ๊สายฯขา อย่าลืมแก้ เลาะ เป็น เราะ ด้วยนะคะ
แก้แล้วจ้ะ

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คนเก่า อ่านข้อความ
ในวันเสาร์ห้าข้างแรม มักนิยมทำคุณไสย เสน่ห์ยาแฝด ฝังรูปฝังรอย

แต่ก็เคยไปร่วมพิธีบวงสรวงพุทธาภิเษกของวัดเขาวงอยู่ครั้งหนึ่ง จัดในวันเสาร์ห้าข้างแรม ครั้งนั้นแว่ว ๆ เอ๊ะได้ยินจากหลวงพี่เอกว่า เป็นฤกษ์มหาเสน่ห์ หรืออะไรทำนองนี้
เรื่องวันเสาร์ห้าข้างแรมนี้ เพิ่งให้ข้อมูลทีมงานไปตามข้อความในกระทู้นี้
http://www.watthakhanun.com/webboard...read.php?t=948

มีใจความสำคัญระบุว่าต้องเป็นข้างขึ้นเท่านั้น

ถาม : บวงสรวงทำไมเสาร์ห้า ?
ตอบ : วันเสาร์ห้า ตามสายครูบาอาจารย์ท่านถือเป็นวันไหว้ครูประจำสายของเรา พิธีบวงสรวงก็คือว่า เหมือนกับรำลึกถึงครูบาอาจารย์ที่มีเมตตากรุณา สั่งสอนพวกเราสืบ ๆ กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ ลักษณะของงานบวงสรวงที่ทำก็ไหว้ตั้งแต่พระพุทธเจ้าลงมา เพราะพระพุทธเจ้าต้องเป็นครูใหญ่อยู่แล้ว

ถาม : ทำไมต้องใช้เสาร์ห้านี้คืออะไร ?
ตอบ : คือวันเสาร์ขึ้นห้าค่ำ ถ้าได้เดือนห้ายิ่งดี ถ้าไม่ได้เดือนห้าเดือนไหนก็ได้แต่ต้องเป็นข้างขึ้น คือ ตามสายครูบาอาจารย์เขากำหนดมาอย่างนั้น

ก็เลยจำมาเช่นนี้เสมอ
วันเสาร์ที่ ๗ กับวันที่ ๔ พฤศจิกายน ศกนี้ เป็นอมฤตโชคจ้ะ
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 22-10-2009 เมื่อ 12:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 25-10-2009, 21:41
ล้อมเดช ล้อมเดช is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jul 2009
ข้อความ: 4
ได้ให้อนุโมทนา: 19,359
ได้รับอนุโมทนา 6,822 ครั้ง ใน 242 โพสต์
ล้อมเดช is on a distinguished road
Default

..........พี่นางมารร้ายครับ ผมรบกวนสอบถามเรื่องน้ำมนต์ครับ หลังจากเสร็จพิธีบวงสรวงแล้ว เราต้องนำน้ำมนต์ไปใช้ทำอะไรหรือเปล่าครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 87 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ล้อมเดช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 25-10-2009, 23:41
ตัวแสบจำเป็น's Avatar
ตัวแสบจำเป็น ตัวแสบจำเป็น is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
สถานที่: บางกอก
ข้อความ: 119
ได้ให้อนุโมทนา: 18,697
ได้รับอนุโมทนา 24,566 ครั้ง ใน 954 โพสต์
ตัวแสบจำเป็น is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ลัก...ยิ้ม อ่านข้อความ
ตรงกับวันเสาร์ วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓
(วันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕)
.........................................................

แล้วหลวงพี่ท่านจะมีพิธีบวงสรวงเสาร์ ๕ ไหมเอ่ย
มีครับ.. หลวงพ่อท่านบอกไว้แล้ว เมื่อวันงานกฐินครับ
__________________
ชีวิตเป็นของไม่เที่ยง แต่ความตายเป็นของเที่ยง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ตัวแสบจำเป็น ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 26-10-2009, 10:27
นางมารร้าย นางมารร้าย is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 16,587
ได้รับอนุโมทนา 75,110 ครั้ง ใน 1,359 โพสต์
นางมารร้าย is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ล้อมเดช อ่านข้อความ
..........พี่นางมารร้ายครับ ผมรบกวนสอบถามเรื่องน้ำมนต์ครับ หลังจากเสร็จพิธีบวงสรวงแล้ว เราต้องนำน้ำมนต์ไปใช้ทำอะไรหรือเปล่าครับ
เวลาบวงสรวงเองที่บ้านพี่ไม่เคยตั้งขันน้ำมนต์ไว้ แต่ถ้าตั้งก็คงเอามากินหมด เพราะมีน้ำมนต์จากงานบวงสรวงใหญ่ของพระอาจารย์เก็บไว้ใช้เยอะแล้ว
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 96 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นางมารร้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 26-10-2009, 11:40
นางมารร้าย นางมารร้าย is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 16,587
ได้รับอนุโมทนา 75,110 ครั้ง ใน 1,359 โพสต์
นางมารร้าย is on a distinguished road
Default ประสบการณ์การบวงสรวงที่บ้านตัวเอง

ตอนนางมารร้ายบวงสรวงเองที่บ้าน ไม่มีเวลาเย็บบายศรี เลยไปหาซื้อจากปากคลองตลาด สังเกตได้ว่าเวลาไปซื้อตอนดึก ๓ - ๔ ทุ่ม จะมีให้เลือกเยอะมาก (กลางวันมีขายอยู่แค่เจ้าสองเจ้า)

บายศรีใหญ่ ใหญ่แค่ใส่พานใหญ่ ๆ (รู้สึกจะเป็นพาน ๘ นิ้ว) ถ้ามีพานอยู่แล้วจะไม่เอาพาน...ก็ได้ลดราคาค่าพานไปอีก มักบอกราคาเป็นคู่ ตั้งแต่คู่ละ ๕๐๐ ถึงคู่ละเป็นพัน แต่เดี่ยว ๆ ก็ขายโดยไม่บวกราคา แม่ค้าจะถามว่าเอาแบบไหว้เทพ ไหว้พรหม หรือไหว้พระ นางมารร้ายก็เลยเอาไหว้พระทั้งคู่ พานหนึ่งไว้เป็นประธานบนโต๊ะบวงสรวง อีกพานไปตั้งบนโต๊ะหน้าศาลพระภูมิพร้อมปลาและถั่ว...(คงได้น่า...ทีบายศรีแบบล้านช้างยังมีตัวลูกเป็นสิบ ๆ เลย)

บายศรีปากชาม ขนาดใส่ถ้วยข้าวต้มโฟม ตรงกลางเป็นกรวย ที่ตั้งขายเขามักประดับด้วยดาวเรือง ลองเดินดูมีบางเจ้าที่ประกอบไปขายไป ก็เลยไปขอซื้อแบบที่ยังไม่ประดับดอกไม้จากเขาเพื่อมาประดับดอกไม้เอง ก็ได้ลดราคาไปอีกคู่ละสิบบาท ประดับดอกไม้คู่ละ ๖๐ - ๗๐

ตอนเอาข้าวปากหม้อกรอกลงกรวย ก็ดึงเอาหนังยางที่รัดกรวยกับตัวบายศรีออก เอามาใส่ข้าวได้สักสองสามช้อน แล้วเอาตัวบายศรีประกบรัดหนังยางไว้เหมือนเดิม...ตามรอยเดิม เอาดอกไม้ใส่ไปรอบ ๆ แล้วเอาไม้เสียบลูกชิ้นยาว ๆ เหลาให้แหลมสองด้าน เสียบจากยอดกรวยลงไป เหลือพ้นยอดให้พอเสียบไข่ต้มอยู่

ใครไม่สะดวก..เอาที่ประดับเสร็จแล้วก็ได้นะคะ เพราะสมัยหลวงปู่ฤๅษีฯบวงสรวงนี่...บายศรีสี่ทิศประดับดอกไม้เหมือนกันเปี๊ยบ ต่างกันแค่ดอกไม้ใส่พานสี่ทิศเท่านั้นเองที่สีตามทิศ

ที่บ้านโต๊ะเล็ก ใช้ไก่ ๑ ตัวกับหมูชิ้น ๓ ชิ้น อุตส่าห์ไปซื้อสันในอย่างดีมา น้องสาวบอกว่าต้องใช้หมูบวงสรวง เป็นสามชั้นแบบไม่ค่อยมีมัน (ไม่รู้เขาดูตำราจากไหน) ก็ไม่เป็นไร...สบายใจอย่างไรก็เอา

ถึงเวลาก็รีบตั้งโต๊ะแต่เช้า เปิด MP3 เสียงหลวงปู่ฯบวงสรวง เสร็จสรรพทุกคนในบ้านก็เผ่นไปธุระกันหมดโดยไม่รอธูปดับ ในใจก็เป็นห่วงกลัวแมวมาทึ้งของบวงสรวง ก็ได้แต่กำหนดจิตบอกท่านเจ้าที่ว่าพวกหนูยุ่งจริง ๆ อยู่เฝ้ากันไม่ได้ ที่เหลือหลังจากนี้ก็สุดแท้แต่ท่านเถิดค่ะ เพราะของบวงสรวงทั้งหมดนี่หนูถวายท่านไปหมดแล้ว

ปรากฏว่าแม่กลับมาบ้านคนแรกตอนเที่ยง บอกว่ากระดาษแดงรองไก่ไหม้เป็นวงอยู่แค่รอบตัวไก่ นอกนั้นไม่มีอะไรไหม้เลย ไม่รู้ไหม้และดับเองได้อย่างไร ธูปเทียนก็ไม่ล้ม แต่ที่แปลกที่สุดคือ แมวจรจัดแถวนั้นหายหัวไปไหนหมดไม่รู้ จะไก่จะหมูก็อยู่ครบ...อันนี้สิไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เพราะแมวแถวนั้นเยอะมาก เจอหน้ากันทุกวันวันละตัวสองตัว บวงสรวงคราวที่แล้วมันยังพากันมามองน้ำลายยืดอยู่รอบ ๆ เลย แต่วันที่บวงสรวงคราวนี้นี่มันหายไปอย่างไร้วี่แววทั้งวัน นางมารร้ายกลับมาตอนเย็นลองเดินหายังไม่เจอเลยค่ะ เจอโผล่มาอีกทีก็ค่ำแล้ว สรุปว่าหายไปเช้าจรดเย็นเลยค่ะ

แสดงว่าที่ทำนี่ต้องมีผลแน่นอนค่ะ ถ้าเราจำเป็นจริง ๆ ท่านก็ช่วยได้แม้แต่ดับไฟและไล่แมว!

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นางมารร้าย : 26-10-2009 เมื่อ 12:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นางมารร้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 18-04-2010, 18:34
วาโยรัตนะ วาโยรัตนะ is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 13,972
ได้รับอนุโมทนา 45,909 ครั้ง ใน 953 โพสต์
วาโยรัตนะ is on a distinguished road
Default

"บายศรี"

ความหมายของ “บายศรี” นั้น สันนิษฐานว่าได้รัอิทธิพล มาจาก ลัทธิพราหมณ์ซึ่งเข้ามาทางเขมร ทั้งนี้เพราะคำว่า “ บาย ” ภาษาเขมรแปลว่า ข้าวสุก ภาษาถิ่นอีสาน แปลว่า จับต้อง,สัมผัส ส่วนคำว่า “ ศรี ” มาจากภาษาสันสกฤตตรงกับภาษาบาลีว่า “ สิริ ” แปลว่า มิ่งขวัญ

ดังนั้นคำว่า “ บายศรี ” น่าจะแปลได้ว่า ข้าวขวัญ หรือ สิ่งที่น่าสัมผัสกับความดีงาม
“ บายศรี ” ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานแปลว่า ข้าวอันเป็นสิริ,ขวัญข้าว หรือภาชนะที่จัดตกแต่ง ให้สวยงามเป็นพิเศษด้วยใบตองและดอกไม้สด เพื่อเป็นสำรับใส่อาหารคาวหวาน ในพิธีสังเวยบูชาและพิธีทำขวัญต่าง ๆ

สมัยโบราณมีการเรียกพิธีสู่ขวัญว่า “ บาศรี ” ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก เป็นพิธีสำหรับบุคคลชั้นเจ้านาย เพราะคำว่า “ บา ” เป็นภาษาโบราณอีสานใช้เป็นคำนำหน้าเรียกเจ้านาย เช่น บาท้าว,บาบ่าว,บาคราญ เป็นต้น ส่วนคำว่า “ ศรี ” หมายถึง ผู้หญิงและสิ่งที่เป็นสิริมงคล “ บาศรี ” จึงหมายถึง การทำพิธีที่เป็นสิริมงคล แต่ปัจจุบันนี้คำว่า บาศรี ไม่ค่อยนิยม เรียกกันแล้ว มักนิยมเรียกว่า “บายศรี” บายศรีจะเรียก เป็นองค์ มีหลายประเภท เช่น บายศรีเทพ บายศรีพรหม เป็นต้น

ส่วนต่าง ๆ ที่ประกอบกันเป็นบายศรี มีความหมายในทางดี เช่น
-กรวยข้าวหมายถึงความอุดมสมบูรณ์
-ใบชัยพฤกษ์หรือใบคูนหมายถึง อายุยืนยาว
-ดอกดาวเรืองหมายถึงความเจริญรุ่งเรือง
-ดอกรักหมายถึงความรักที่มั่นคง
-ไข่ต้ม...ในกรณีบายศรีแต่งงาน จะมีสองฟอง เป็นของเสี่ยงทายแทนหัวใจฝ่ายชายฝ่ายหญิง ว่าจะรักกันมั่นคง ผ่าไข่ต้มเป็นสองซีกแล้วดูกันที่ไข่แดง ถ้าเอียงไปอยู่ข้างใด ทายว่าใจโลเล แต่ถ้าอยู่ตรงกลางแสดงว่าหัวใจรักมั่นคง

ความหมายของชั้นบายศรีมิได้มีการกำหนดไว้ตายตัว หากแต่เป็นเพียงผู้ที่ประดิษฐ์บายศรีมีความเชื่อศรัทธาต่อสิ่งใดแล้ว ก็มักจะน้อมนำคำสอนหรือความเชื่อต่าง ๆ มาประดิษฐ์บายศรีเป็นชั้น ๆ และแปลความหมายตามนัยที่ตนประสงค์ต่อสิ่งศรัทธานั้น ๆ ตัวอย่างเช่น

๓ ชั้น เพื่อระลึกถึง พระรัตนตรัยมีองค์ ๓ ในศาสนาพุธ ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หรือเทพเจ้า ๓ พระองค์ ในศาสนาฮินดู ได้แก่ พระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหม

๕ ชั้น เพื่อระลึกถึง ขันธ์ทั้ง ๕ หรือที่ทางพระพุทธศาสนาเรียกว่าเบญจขันธ์ ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

๗ ชั้น เพื่อระลึกถึง โพชฌงค์ ๗ ซึ่งเป็นธรรมที่เป็นองค์แห่งการตรัสรู้ ได้แก่ สติ ธัมมวิจยะ วิริยะ ปีติ ปัสสัทธิ สมาธิ อุเบกขา (พจนานุกรมพุธศาสตร์ : ๒๓๙)

๙ ชั้น เชื่อเป็นมงคลสูงสุดในการดำเนินชีวิตจะได้ก้าวหน้ารุ่งเรือง ไม่ว่าจะทำการใด ๆ มักนิยมเลข ๙ มากกว่าเลขอื่น เพื่อระลึกถึงพุทธคุณ ๙ หรือคุณของพระพุทธเจ้า ๙ ประการที่เรียกว่า "นวารหาทิคุณ"

"นวารหาทิคุณ" คือ พระพุทธคุณ ๙ ได้แก่

๑ . อะระหัง คือ เป็นพระอรหันต์ คือ เป็นผู้บริสุทธิ์ไกลจากกิเลส ทำลายกำแพงแห่งสังสารจักรได้แล้ว เป็นผู้ควรแนะนำสั่งสอนผู้อื่น ควรได้รับความเคารพบูชาเป็นต้น

๒.สัมมาสัมพุทโธ เป็นผู้ตรัสรู้ชอบเอง

๓.วิชชาจะระณะสัมปันโน เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชา คือ ความรู้และจรณะ คือความประพฤติ

๔.สุคะโต เป็นผู้เสด็จไปดีแล้ว คือ ทรงดำเนินพระพุทธจริยาให้เป็นไปโดยสำเร็จผลด้วยดี พระองค์เองก็ได้ตรัสรู้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ทรงบำเพ็ญพุทธกิจก็สำเร็จประโยชน์ยิ่งใหญ่แก่ชนทั้งหลายในที่ที่เสด็จไป และได้ประดิษฐ์พระศาสนาไว้ แม้ปรินิพพานแล้วก็เป็นประโยชน์แก่มหาชนสืบมา

๕.โลกวิทู เป็นผู้รู้แจ้งโลก คือ ทรงรู้แจ้งสภาวะอันเป็นคติธรรมดาแห่งโลกคือสังขารทั้งหลาย ทรงหยั่งทราบอัธยาศัยสันดานแห่งสัตว์โลกทั้งปวง ผู้เป็นไปตามอำนาจแห่งคติธรรมโดยถ่องแท้ เป็นเหตุให้ทรงดำเนินพระองค์เป็นอิสระ พ้นจากอำนาจครอบงำแห่งคติธรรมดานั้นและทรงเป็นที่พึ่งแห่งสัตว์ทั้งหลายผู้ยังจมอยู่ในกระแสโลกได้

๖.อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ฝึกได้ ไม่มีใครยิ่งไปกว่า คือ ทรงเป็นผู้ฝึกคนได้ดีเยี่ยมไม่มีผู้ใดเท่าเทียม

๗.สัตถา เทวะมะนุสสานัง เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย

๘.พุทโธ เป็นผู้ตื่นและเบิกบานแล้ว คือ ทรงตื่นเองจากความเชื่อถือและข้อปฏิบัติทั้งหลายที่ถือกันมาผิด ๆ ด้วย ทรงปลุกผู้อื่นให้พ้นจากความหลงงมงายด้วย อนึ่ง เพราะไม่ติด ไม่หลง ไม่ห่วงกังวลในสิ่งใด ๆ มีการคำนึงประโยชน์ส่วนตนเป็นต้น จึงมีพระทัยเบิกบาน บำเพ็ญพุทธกิจได้ถูกต้องบริบูรณ์โดยถือธรรมเป็นประมาณ การที่ทรงพระคุณสมบูรณ์เช่นนี้และทรงบำเพ็ญพุทธกิจได้เรียบร้อยบริบูรณ์เช่นนี้ ย่อมอาศัยเหตุคือความเป็นผู้ตื่นและย่อมให้เกิดผลคือทำให้เบิกบานด้วย

๙.ภควา ทรงเป็นผู้มีโชค คือจะทรงทำการใด ก็ลุล่วงปลอดภัยทุกประการหรือเป็นผู้จำแนกธรรม
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 19-04-2010 เมื่อ 09:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 18-04-2010, 18:38
วาโยรัตนะ วาโยรัตนะ is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 550
ได้ให้อนุโมทนา: 13,972
ได้รับอนุโมทนา 45,909 ครั้ง ใน 953 โพสต์
วาโยรัตนะ is on a distinguished road
Default

การจัดทำ "บายศรี" นั้น เริ่มจากการนำใบตองที่ได้มาจากกล้วยตานี เย็บเป็นบายศรี ประดับด้วยดอกไม้มงคลต่าง ๆ ส่วนตัวบายศรี ยังแบ่งออกตามลักษณะการใช้งานในการบูชาที่แตกต่างออกไปเช่น

บายศรีปากชาม ลักษณะบายศรีปากชาม รองด้วยชามที่มีขนาดเหมาะสม ตัวแม่มี ๕ ลูก จำนวน ๓ ด้าน และมีลูก ๓ ลูก แซมอีก ๓ ด้าน จากนั้นจะมีแมงดาที่แม่บายศรีอีกทั้ง ๓ ด้าน ตรงกลางจะม้วนเป็นกรวยด้วยใบตองตานี ภายในใส่ข้าวสวยไว้ภายใน ยอดบายศรีจะใช้ไข่ต้มเสียบ ส่วนรอบๆ จะมีการประดับไปด้วย ดอกไม้มงคลต่างๆ บายศรีปากชาม เป็นบายศรีที่ใช้ในการสักการบูชา เทพยดา ครูบาอาจารย์ ในการบวงสรวงเทพยดาในทุก ๆ พิธีกรรมจะขาดบายศรีปากชามไม่ได้

บายศรีเทพ จะมีลักษณะ ตัวแม่ ๙ ลูก ตัวลูก ๕ ลูก ปัจจุบันจะไม่ใส่ข้าวภายในกรวยเหมือนบายศรีปากชาม แต่ก็อนุโลมให้ใช้ เรียกว่าบายศรีเทพเพื่อสักการะบูชาเทพยดา

บายศรีพรหม จะใช้ตัวแม่ ๑๖ ลูก ตัวลูก ๙ ลูก ภายในกรวยที่อยู่ตรงกลาง จะบรรจุด้วย หญ้าแพรก ใบโพธิ์ ใบขนุน ดอกเข็ม ด้านนอก จะใช้หมาก,พลู,บุหรี่ ,ดอกไม้มงคลประดับ ใช้ในพิธีกรรมการบวงสรวงพระพรหม เช่น การตั้งศาล หรือพิธีกรรมบวงสรวงในงานไหว้ครู
นอกจากนี้ บายศรีพรหมที่ทำเป็นพุ่ม ยังมีบายศรีพรหมประกาศิต ที่ใช้ในด้านการบวงสรวง ที่ให้ผลดีแก่สานุศิษย์ ทั้งผู้ชายผู้หญิง ก็สามารถสักการะได้ จะมีตัวลูกเรียงกัน ๑๖ ลูก ทั้ง ๒ ด้าน รวม ๓๒ ลูก มองดูเป็นรูป ใบพายใช้ ๔ ด้าน ใน ๑ พาน ตรงกลางจะมีใบไม้มงคลเหมือนบายศรีพรหมทั่วไป ซึ่งบรรจุอยู่ตรงกลางกรวย

บายศรีหลัก ใช้บายศรีสลับกันไป เช่น ชั้นแรก ๓๒ ลูก หรือ ๑๖ ลูก ชั้นต่อไป ก็ลดลงตามแต่ผู้สั่งจะสั่งทำ บายศรีหลักมี ๙ ชั้น หรือ ๗ ชั้น หรือ ๕ ชั้น ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ในพิธีกรรมไหว้ครู ซึ่งให้ความหมาย “ด้านการตั้งตัว มีหลักมีฐานที่มั่นคง”

บายศรีตอ ตำราโบราณจะใช้ต้นกล้วยเป็นแกนกลาง รัดด้วยบายศรีเป็นชั้นหนึ่งหรือสองชั้นก็มี ชั้นแรกด้านบนจะใช้บายศรีแม่ ตั้งขึ้น ๕ ลูกแล้วลง ๕ ลูก เป็น ๓ ด้าน ช่วงตรงกลางของช่องว่าง จะคั่นด้วยตัวลูกขึ้น ๓ ลูก ลง ๓ ลูก บนยอดจะใส่กระทง หมาก,พลู,บุหรี่,ของหวาน เช่น เม็ดขนุน ทองยอด แล้วปิดด้วยกรวย เป็นบายศรีซึ่งใช้ในทาง ขอขมาต่อเทพยดาครูบาอาจารย์พื้นล่าง

บายศรีบัลลังก์ ซึ่งมีทั้ง บัลลังก์บรมครู,บัลลังก์ศิวะ,บัลลังก์นารายณ์ (ส่วนใหญ่จะทำเป็นรูปพระยานาค มี ๕ - ๗ เศียร) บางครั้ง ก็ทำบัลลังก์เป็นรูปพระยาครุฑ,บัลลังก์ธรรมจักรก็มี บัลลังก์พิฆเนศ,บัลลังก์จุฬามณี แล้วแต่เจ้าพิธีต่าง ๆ จะสั่งทำ ให้ผลด้านความมั่นคง และอุดมสมบูรณ์
__________________
สักวันหนึ่งสี่ชีวิตจะได้พบซึ่งกันและกันเมื่อทุกอย่างพร้อม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วาโยรัตนะ : 19-04-2010 เมื่อ 06:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 88 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ วาโยรัตนะ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 10-05-2010, 16:16
ลูกตาล ลูกตาล is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Apr 2009
ข้อความ: 2
ได้ให้อนุโมทนา: 0
ได้รับอนุโมทนา 2,929 ครั้ง ใน 86 โพสต์
ลูกตาล is on a distinguished road
Default

ผมสงสัยเกี่ยวกับเครื่องบวงสรวงในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้ครับ

๑. เรื่องบายศรีต้น
ในการทำพิธีบวงสรวงที่บ้านควรใช้บายศรีลูกเก้า ๓ ชั้น ๕ ตัว หรือบายศรีลูกเก้า ๑ ชั้น ๕ ตัวครับ หรือสามารถใช้ได้ ๒ แบบ


๒.ยอดบายศรี
ในกระทู้บอกว่าให้ประดับ ธูป เทียน ดอกไม้ จะประดับอย่างไรครับ หรือทางร้านทำบายศรีต้องทำให้อยู่แล้วครับ

๓. ข้าวตอกและถั่วเขียวคั่วเราะเปลือกสามารถหาซื้อได้ที่ใดครับ กรณีถ้า
หาถั่วเขียวคั่วเราะเปลือกไม่ได้สามารถใช้ถั่วเขียวคั่วธรรมดาได้หรือไม่ครับ
๓.๑ ถ้าหากต้องการทำถั่วเขียวคั่วเราะเปลือก สามารถทำได้โดยเอาถั่วเขียวมาคั่วแล้วเราะเปลือกใช่หรือไม่ครับ

๔.ปลาช่อนนึ่งต้องนำขึ้นโต๊ะบวงสรวงหรือไม่ครับ กรณีถ้าต้องการไหว้ศาลพระภูมิแต่ศาลอยู่ไกลจากบริเวณบ้าน และควรวางไว้ตำแหน่งใดของโต๊ะบวงสรวงครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 76 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลูกตาล ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 10-05-2010, 17:15
นางมารร้าย นางมารร้าย is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 16,587
ได้รับอนุโมทนา 75,110 ครั้ง ใน 1,359 โพสต์
นางมารร้าย is on a distinguished road
Default

จากประสบการณ์ค่ะ

๑. ทั้ง ๒ แบบ
๒. สั่งร้านทำ
๓. ข้าวตอก เจอที่ร้านสังฆภัณฑ์ ถั่วทอง เจอที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต
หาถั่วทองไม่ได้ ก็เห็นเขานิยมใช้ถั่วเขียวคั่วกัน
๓.๑ ทำไม่เป็นค่ะ แต่คิดว่าน่าจะเราะเปลือกก่อนคั่ว เพราะคั่วแล้วดูท่าจะเราะยาก
๔. ที่บ้านใช้โต๊ะเล็กวางหน้าศาลพระภูมิแยกออกไป แต่ถ้าจำเป็นต้องวางรวมบนโต๊ะบวงสรวง ก็กะว่าจะวางตรงไหนก็ได้ที่มีที่ว่างค่ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 76 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นางมารร้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 11-05-2010, 23:32
ลูกตาล ลูกตาล is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Apr 2009
ข้อความ: 2
ได้ให้อนุโมทนา: 0
ได้รับอนุโมทนา 2,929 ครั้ง ใน 86 โพสต์
ลูกตาล is on a distinguished road
Default

ขอเรียนถามอีกเรื่องครับ
ถ้าต้องการจะเย็บบายศรีเองจำเป็นต้องไหว้ครูก่อนหรือไม่ ถ้าจำเป็นการไหว้ครูควรทำอย่างไรเช่น ต้องใช้ของอะไรบ้าง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 72 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลูกตาล ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 12-05-2010, 09:32
นางมารร้าย นางมารร้าย is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 16,587
ได้รับอนุโมทนา 75,110 ครั้ง ใน 1,359 โพสต์
นางมารร้าย is on a distinguished road
Default

ไหว้ครูบายศรี ใช้เงิน ๑๒ บาท ใส่พานกับดอกไม้ วางถวายที่หิ้งพระ (แล้วเอาถวายพระภายหลัง) คราวใดลืมไหว้ จะทำออกมาเบี้ยว ๆ บูด ๆ บ้าง ทำช้าบ้าง เดี๋ยวแมวหมาตบตีกันให้รำคาญใจไร้อารมณ์ทำบ้าง ฯลฯ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นางมารร้าย : 12-05-2010 เมื่อ 09:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 82 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นางมารร้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 29-06-2010, 17:46
นางมารร้าย นางมารร้าย is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
ข้อความ: 619
ได้ให้อนุโมทนา: 16,587
ได้รับอนุโมทนา 75,110 ครั้ง ใน 1,359 โพสต์
นางมารร้าย is on a distinguished road
Default

ไปหาจากกูเกิ้ลค่ะ

ขนมต้มขาว ขนมต้มแดง ซึ่งทั้งสองอย่างมีขายตลอด ๒๔ ชั่วโมงที่ปากคลองตลาด (โซนขนมหวาน ค่อนไป
ทางใกล้ ร.ร.ราชินี)

ถั่วทอง ซื้อมาคั่วเองพอหอม ๆ
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg ขนมต้มขาว1.jpg (44.2 KB, 150 views)
ชนิดของไฟล์: jpg ขนมต้มขาว2.jpg (24.2 KB, 148 views)
ชนิดของไฟล์: jpg ขนมต้มแดง1.jpg (28.9 KB, 155 views)
ชนิดของไฟล์: jpg ขนมต้มแดง2.jpg (19.6 KB, 133 views)
ชนิดของไฟล์: jpg ถั่วทอง1.JPG (41.8 KB, 164 views)
ชนิดของไฟล์: jpg ถั่วทอง2.jpg (45.0 KB, 150 views)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 94 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ นางมารร้าย ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 08-09-2010, 12:15
เสาวลักษณ์๐๗๑ เสาวลักษณ์๐๗๑ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2010
ข้อความ: 1
ได้ให้อนุโมทนา: 223
ได้รับอนุโมทนา 217 ครั้ง ใน 8 โพสต์
เสาวลักษณ์๐๗๑ is on a distinguished road
Default คำถามเกี่ยวกับเวลาค่ะ

อยากทราบว่าเวลาในการบวงสรวง ควรที่จะเป็นตอนเช้า ไม่เกินเที่ยง หากแต่ถ้าอยู่ต่างประเทศ เราควรยึดเวลาในเมืองไทยหรีอเวลาของประเทศนั้น ๆ (ซึ่งอาจเป็นตอนกลางคืนของเมืองไทย) ดีคะ
รบกวนท่านผู้รู้ตอบด้วยค่ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 74 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เสาวลักษณ์๐๗๑ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 09-09-2010, 10:00
ภูวกร's Avatar
ภูวกร ภูวกร is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2009
ข้อความ: 2
ได้ให้อนุโมทนา: 326
ได้รับอนุโมทนา 1,044 ครั้ง ใน 35 โพสต์
ภูวกร is on a distinguished road
Default

ถ้ามีภาพบายศรีแต่ละประเภท ประกอบจะดีมากเลยครับ เช่น บายศรีปากชาม ลักษณะบายศรีปากชาม รองด้วยชามที่มีขนาดเหมาะสม ตัวแม่มี ๕ ลูก จำนวน ๓ ด้าน และมีลูก ๓ ลูก แซมอีก ๓ ด้าน จากนั้นจะมีแมงดาที่แม่บายศรีอีกทั้ง ๓ ด้าน
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 75 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ภูวกร ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 27-01-2012, 00:17
พรศักดิ์'s Avatar
พรศักดิ์ พรศักดิ์ is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: กทม.
ข้อความ: 12
ได้ให้อนุโมทนา: 31,432
ได้รับอนุโมทนา 41,449 ครั้ง ใน 1,328 โพสต์
พรศักดิ์ is on a distinguished road
Default

สอบถามพี่นางมารร้ายครับว่า ศาลเก่าที่ตั้งอยู่ผิดทิศ จะย้ายศาลใหม่โดยไม่รื้อศาลเก่าจะได้หรือไม่ครับ? สาเหตุคือพ่อท่านไม่เห็นด้วย ถ้าทำได้ผมจะตั้งศาลใหม่โดยไม่ต้องรื้อศาลเก่า
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พรศักดิ์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 27-01-2012, 08:38
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,280 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

แต่ถ้ามีคนทักให้คุณพ่อหรือคุณพรศักดิ์ไม่สบายใจ จะตามใจคนทักต่อไปเรื่อย ๆ ไหมครับ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 65 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 27-01-2012, 10:27
พรศักดิ์'s Avatar
พรศักดิ์ พรศักดิ์ is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: กทม.
ข้อความ: 12
ได้ให้อนุโมทนา: 31,432
ได้รับอนุโมทนา 41,449 ครั้ง ใน 1,328 โพสต์
พรศักดิ์ is on a distinguished road
Default

พ่อท่านว่าตั้งมาสามสิบปีแล้วไม่มีอะไร แล้วก็กี่คนต่อกี่คนก็ว่าดีแล้วถูกแล้ว ที่สำคัญก็คือ ผมไม่สามารถหาตำรามาหักล้างความเชื่อนั้นได้เสียด้วย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พรศักดิ์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว