กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 10-03-2013, 20:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ความว่าง แม้กระทั่งรูปก็ไม่มี เป็นความว่างแบบใด ?
ตอบ : อรูปฌาน ถ้าซ้อมอย่างนั้นบ่อย ๆ จะกลายเป็นอรูปฌาน เลี้ยวไม่ทันเดี๋ยวก็จะติดอยู่แค่นั้น ไม่ว่าจะซักซ้อมแบบไหนก็ตาม ท้ายสุดเอาใจเกาะพระนิพพานไว้ก่อน เกาะภาพพระไว้จะได้ปลอดภัย ถ้าซ้อมอรูปฌานบ่อย ๆ ถึงเวลาเคยชิน ติดอยู่ตรงนั้นแล้วแกะไม่ทัน ตายไปก็เฮงมากเลย

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ถ้าหากว่าว่างจริง ๆ ไม่ต้องเน้น จะเป็นเองโดยธรรมชาติ ถ้ายังต้องใช้ความพยายามอยู่ให้รู้ว่ายังไม่ว่างจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2013 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 10-03-2013, 20:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระถือตาลปัตรบังหน้าเพื่ออะไรครับ ?
ตอบ : ตอนแรกท่านป้องกันการเก้อเขินระหว่างพระกับโยม ก็เลยเอาตาลปัตรบังหน้าไว้ สมัยแรก ๆ ท่านเน้นในเรื่องของการระมัดระวังไม่ให้เห็นผู้หญิง พอมาสมัยหลังกลายเป็นว่า ทำขึ้นมาในลักษณะเป็นพัดยศก็มี ค่อย ๆ พัฒนาการมาเรื่อยจะกระทั่งถึงปัจจุบัน เจตนาดั้งเดิมจริง ๆ ก็คือเพื่อให้ภิกษุสำรวมสายตา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2013 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 10-03-2013, 20:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ภาวนาไปเรื่อย ๆ แล้วเห็นภาพพระ จำเป็นต้องจับลมหายใจไหมคะ ?
ตอบ : ถ้าจับลมหายใจได้ ความชัดเจนแจ่มใสจะมีมากกว่า แต่พอจับลมหายใจแล้ว ถ้าแบ่งความรู้สึกไม่เป็นก็จะหนักไปข้างใดข้างหนึ่ง ถ้าเราไปหนักตรงภาพพระก็จะลืมลมหายใจ ถ้าหนักที่ลมหายใจก็จะลืมภาพพระ เพราะฉะนั้นต้องซ้อมแยกให้ได้เท่า ๆ กัน ก็แค่แยกความรู้สึกออกไปหลาย ๆ ส่วนเท่านั้นเอง

ถาม : พอจับลมหายใจ ก็ลงมาอีก ?
ตอบ : ขึ้นไปใหม่ ตื๊อเอาไว้บ่อย ๆ ก็ชินไปเอง เขาเรียกว่ากีฬาสมาธิ ทำให้ความมั่นคงของสมาธิมีมากขึ้น เพราะได้ซักซ้อมอยู่บ่อย ๆ

ถาม : แล้วอย่างนี้จะได้สมาธิระดับไหน ?
ตอบ : ท้ายสุดจะระดับไหนก็ช่าง เราเอาผลก็คือ รัก โลภ โกรธ หลง เกิดไม่ได้ ทำอย่างไรก็ได้ให้ใจเราเกาะอยู่กับพระ เกาะอยู่กับความดี แล้วรัก โลภ โกรธ หลง กินเราไม่ได้ ถ้าสามารถยืดระยะเวลาได้ยาวนานเท่าไร ความผ่องใสของใจมีมากเท่านั้น ปัญญาก็จะเกิดขึ้น แล้วก็จะเห็นช่องทางเองว่า การที่เราจะหลีกไปให้พ้นจากวัฏสงสารควรจะทำอย่างไร โดยเฉพาะสภาพการณ์ที่เผชิญอยู่เฉพาะหน้าตอนนั้นควรจะทำอย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2013 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 10-03-2013, 20:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สำหรับการใช้พรหมวิหาร ๔ ในการมองผู้หญิง ไม่ให้รู้สึกเชิงชู้สาวต้องใช้กำลังฌานระดับใด ?
ตอบ : ฌาน ๔ ต่ำกว่านั้นก็ไม่ได้รับประทาน เพราะว่าในเรื่องของราคะกับโทสะ ถ้าจะกดให้อยู่แต่แรกต้องใช้กำลังถึงฌาน ๔ ถึงจะเอาไหว ถึงจะฌาน ๔ ถ้าเผลอก็ยังโดนงัดหงายท้องเลย

ถาม : พรหมวิหาร ๔ มีความสามารถเยอะ ...(ฟังไม่ชัด)
ตอบ : ต้องมีฌานเป็นเครื่องสนับสนุน ถ้าจะเอาก็อานิสงส์ ๑๑ ประการ ที่ท่านบอกว่า หลับก็เป็นสุข ตื่นก็เป็นสุข เทวดารักษา เป็นที่รักของมนุษย์ เป็นที่รักของอมนุษย์ ฯลฯ สรุปง่าย ๆ ว่าพรหมวิหาร ๔ สนับสนุนให้ศีลบารมีเต็ม สร้างความเยือกเย็นให้เกิดขึ้นกับสภาพจิตใจ การปฏิบัติกรรมฐานก็ก้าวหน้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-03-2013 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 10-03-2013, 20:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ตอนที่น้ำท่วมใหญ่ คนนั้นก็จะเอากระสอบทรายมา คนนี้ก็จะเอาเรือมาให้ใช้ที่บ้านวิริยบารมี อาตมาบอกว่าไม่ต้อง ตรงนี้ไม่ท่วมแน่นอน..มั่นใจ เขาก็ยังกลัวกันอีก ท้ายสุดน้ำขึ้น ๑ ศอก คนก็วิตกจริตกันยกใหญ่ กทม.ก็เริ่มมาทำสะพานให้เดิน อาตมาก็ยังยืนยันว่าไม่ต้อง

จำได้ว่าสมัยก่อนที่วัดท่าซุง ถ้ากฐินยังไม่เสร็จน้ำจะไม่ท่วมเด็ดขาด ปี ๒๕๒๖ น้ำหลากข้ามถนน แปลว่าสูงกว่าพื้นอีกฝั่งเป็นเมตร ๆ แต่น้ำไม่เข้าวัด เห็นชัด ๆ เลย คราวนี้พอกฐินเสร็จอาตมานอนแผ่หมดสภาพ เพราะทำงานมาสองวันสองคืนแล้ว หลวงพ่อท่านมาเคาะประตู "เฮ้ย ๆ รีบเก็บเสื่อ เดี๋ยวไม่ทัน" ม้วนเสื่อเพิ่งแบกขึ้นบ่า น้ำท่วมตาตุ่มแล้ว เพราะว่าเทวดาท่านรับปากไว้ว่าให้แค่นั้น เกือบไม่ทันอย่างที่ท่านว่าจริง ๆ

พอมารุ่นหลัง เคยเตือนสองครั้งแล้วท่านคงไม่ได้ฟัง บอกท่านว่าเป็นเจ้าอาวาสใหม่ ต้องบวงสรวงตกลงกันใหม่ ถ้าไม่บวงสรวงตกลงกันใหม่ เขายกเลิกข้อตกลงไป เพราะเขาถือว่าตกลงกับหลวงพ่อองค์เดิม พอเขาไม่สงเคราะห์ก็เฮงเลย ยังดีที่ว่าสมัยนี้เบิกงบหลวงได้ ถ้าเป็นอาตมา..น้ำท่วมจะได้แค่สองปีเท่านั้น ปีที่สามเจอเขื่อนแน่นอน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-03-2013 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 11-03-2013, 19:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าสวดคาถาเมตตาบ่อย ๆ จะไม่ทำให้สาว ๆ มารุมล้อมเราหรือครับ ?
ตอบ : เข้าใจผิด...เรื่องของคาถาอยู่ที่ใจเรามุ่ง ถ้าใจเรามุ่งไปเป็นเมตตามหานิยมก็ตัวใครตัวมัน สมัยก่อนเขาจะหาคาถาที่เป็นบาลีและมีความหมายคล้าย ๆ ของไทยด้วย “รุม” แปลว่า “มารายล้อมเยอะ ๆ” เขาก็เลยเอามาเป็นคาถาแบบนี้ แบบเดียวกับบทขัดในพระสูตรที่ว่า สัพพะสีวิสะชาตีนัง เอามาท่องเป็น สัพพะฝีวิสะชาตินัง แล้วเอาไปสูญฝีได้เพราะใจมุ่งอย่างนั้น เพราะฉะนั้นอยู่ที่เรา เราก็ท่องแล้วตั้งใจให้สาวออกไปไกล ๆ สิ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 11-03-2013, 19:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "แม่ชีที่วัดเขากังวลว่าศาลาการเปรียญเก่านั้น หลวงปู่พุกท่านฝังอาถรรพ์ไว้ทุกเสา เพราะสมัยก่อนคนเล่นไสยศาสตร์กันหนักมาก หลวงปู่พุกท่านก็เลยต้องทำสะกดไว้ก่อน แต่คราวนี้สิ่งที่ทำนั้นร้อน ถ้าหลวงปู่สายหรืออาตมาไม่อยู่ ที่นั่นก็จะมีเรื่อง ท่านบอกว่าต้องเอาขึ้นให้หมด ทุกวันนี้อาตมาก็เหมือนกับหมอผีที่คอยไปสะกดผีให้ พอไม่อยู่คนนั้นมีเรื่อง คนนี้มีเรื่อง พอกลับไปก็เงียบ ตูละเบื่อจริง ๆ

เขาก็ไม่รู้..ทั้ง ๆ ที่เตือนให้ระวัง ใครภาวนาดี ๆ ก็ไม่มีผลกระทบ แต่เขามักจะหลุดกัน ถ้าต้องการความปลอดภัย ผลกระทบเล็ก ๆ น้อย ๆ หลวงปู่พุกท่านถือว่ารับได้ แต่คราวนี้พอมาถึงระยะหลัง คนจำนวนมากขึ้น อย่างเวลาเข้าพรรษา พระที่วัดท่าขนุนแค่วัดเดียวมากกว่าเขาทั้งตำบล บางทีตำบลมีไม่ถึงครึ่งของวัดท่าขนุน กลายเป็นว่าคนมากแล้ว ใครกำลังใจไม่ดีแรงกระทบก็มากไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 11-03-2013, 19:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าตัดต้นไม้ใหญ่ที่ติดจอมปลวก ?
ตอบ : สมัยหลวงพ่อสร้างศาลา ๒ ไร่ที่วัดท่าซุง ต้องไถต้นทองกวาวกับจอมปลวกออกไปหลายอัน ถ้าจำไม่ผิดท่านต้องสร้างศาลเพียงตาให้ ๑๑ หลัง หลวงพ่อท่านเอาไปเรียงไว้ด้านข้างชั้นบนของศาลา ๒ ไร่

ถาม : ตัดกิ่งมาตั้งในศาลอย่างไรคะ ?
ตอบ : ตัดกิ่งที่ใหญ่หน่อยมาประมาณ ๑ ศอก หันปลายขึ้นแล้วก็ตั้งไว้ ถ้าหันปลายขึ้นท่านสามารถเอาวิมานมาแปะต่อได้ ถ้าหันโคนขึ้นก็เรียบร้อย ทำอะไรไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 11-03-2013, 20:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนอุทัยธานีเป็นเมืองหน้าด่านเก่า แต่ไม่ค่อยมีความสำคัญ เพราะเขาไปเน้นตรงเมืองสรรค์และเมืองสิงห์ ถึงเวลาจากอุทัยธานีลงมาต้องผ่านชัยนาท ก็จะติดด่านเมืองสรรค์ก่อนแล้วก็ติดด่านเมืองสิงห์บุรี ลงมาเป็นระยะ ๆ แถวนั้นพวกเราไปละเลงซะเละมาไม่รู้กี่งานต่อกี่งาน เวลาผ่านแถวนั้นต้องระวังให้ดี เขาจะเอาคืนเมื่อไรก็ไม่รู้..!?

ส่วนใหญ่อาตมาจะไม่เดินทางกลางคืนเลย ต้องระวังตัวลีบ ดูอย่างท่านจิตโต พลาดทีเดียวเจอไป ๔ ศพ..! พวกนี้เขาจ้องอยู่ เผลอเมื่อไรเขาได้ช่องก็เอาเลย ช่วงนั้นโดนกันทุกคน หลวงพ่อมนัส ประกันต้องออกรถใหม่ให้ แต่ตัวไม่เป็นอะไร พระครูหน่อยหน้ารถก็เป็นรูปต้นไม้เลย รถอาตมาหน้ารถก็เป็นรูปเสา แหม..เจ็บใจ อุตส่าห์ประกันทั้งอุบัติเหตุ ประกันทั้งสุขภาพ แต่ไม่ได้ใช้เลย

หลวงพี่เอก วัดเขาแร่ ขนาดรถใหม่ ๆ ก็ต้องมาเจ๊ง หลายคนโดนติด ๆ กันเลย แสดงว่าตอนที่ไปเล่นเขาไปพร้อม ๆ กัน ถึงเวลาเขาเอาคืนก็โดนพร้อม ๆ กัน ไปโทษเขาก็ไม่ได้ เขามีสิทธิ์ที่จะทวง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 11-03-2013, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ตลอดเส้นทางกรุงเทพฯ ยันเชียงใหม่ เป็นเส้นทางศึกตลอดเลย ยิ่งถ้าออกพิษณุโลก สุโขทัยด้วยยิ่งหนัก เพราะพิษณุโลกแทบจะเป็นเมืองหลวงสำรองในสมัยนั้น จากเชียงใหม่อย่างไรต้องตีพิษณุโลกให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นจะลงมาตีอยุธยาไม่ได้ เพราะจะโดนพิษณุโลกตีกระหนาบหลัง กลายเป็นเดินทางต้องระวังตัวลีบตลอดเวลา

อาตมาเคยยางรถระเบิด ๒ เส้นริมเหวเลย ปกติต้องพลิกลงเหว แต่นี่ระเบิดเสร็จรถก็จอดอยู่กับที่ ตอนนั้นพระครูแสงยังไม่ได้บวช เขาหักหลบรถแร่ โดนเบียดไปกระแทกขอบถนนที่ มีขอบคอนกรีตที่ถูกเบียดหักมานานแล้ว เหล็กเส้นโผล่อยู่พอดี เหล็กแทงใส่ยางทั้งหน้าทั้งหลังระเบิดพร้อมกันเลย ถึงแม้จะอย่างนั้นบุญก็ยังดี มีรถมาจอดถาม พอเขารู้ก็ช่วยถอดล้อเอาขึ้นรถไปปะให้ที่ร้านปะยางในอำเภอเถิน อาตมาก็คิดว่าจบกันแค่นั้น เดี๋ยวขากลับจะเช่ารถกลับมา ปรากฏว่าประมาณ ๒ ชั่วโมงผ่านไป ปะยางเสร็จสรรพเรียบร้อย รถเขาเลี้ยวกลับมาพอดี "อาจารย์จะไปหรือยังครับ ผมจะกลับแล้ว" ตกลงว่าได้นั่งรถฟรีทั้ง ๒ รอบ

แถวนั้นโดนบ่อย..โดนจนเข็ด พวกเราขึ้นไปก็ต้องระวัง ติดสินบนเจ้าที่ไว้ก่อน ตลอดทางเลย ขอความปลอดภัย จะอะไรก็ตามอย่าประมาท ไม่รู้เขาจะเอาคืนตอนไหน

วันก่อนอาตมาบอกกับพระ เพราะพระท่านลาไปทีเดียว ๑๑ รูป บอกเขาว่า "คุณรู้ไหม..? พวกเราสร้างเวรสร้างกรรมร่วมกันไว้เยอะ เวลาสุมหัวรวมกันเมื่อไร เขาเอาคืนทีนี่สาหัสเลยนะ" เวลาคนตามอาตมา เขารู้หรือเปล่าว่าอาตมาพาเขาไปตายมากี่ชาติแล้ว เวลาขยับไปไหนชอบตามกันนัก เล่นลาที ๑๑ คน คิดดูว่าวาระกรรมของแต่ละคนถ้ามาบรรจบกันจะหนักแค่ไหน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 11-03-2013, 20:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะเปลี่ยนศาลพระภูมิใหม่ ?
ตอบ : จุดธูปเทียนบอกท่านขออนุญาตเปลี่ยน ถ้าตั้งไม่ถูกทิศ ก็ขออนุญาตย้ายทิศด้วยเลย หาวันเวลาที่เหมาะสมเพื่อถอน แล้วพอศาลใหม่ขึ้นก็บวงสรวง ถ้าถอนแบบโบราณใช้น้ำมนต์ถอนโบสถ์ ลองไปหาในกูเกิ้ลหาคาถาถอนโบสถ์ ดูซิว่าจะมีไหม ? ชาวบ้านเรียกง่าย ๆ ว่าถอนโบสถ์ จริง ๆ แล้วก็คือถอนเสมา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-03-2013 เมื่อ 03:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 11-03-2013, 20:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,400,034 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนกุมภาพันธ์ ปี ๕๖ จบแล้วค่ะ
ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 148 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 17:22



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว