กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 20-09-2011, 08:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเรานั่งมองพระแล้วมีรัศมีล้อมองค์พระ แล้วสักพักหนึ่งเปลี่ยนทรง จะมีความหมายอะไรไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มีอะไรหรอก ให้ถือเป็นพุทธานุสติเท่านั้น อย่าไปตีความ เดี๋ยวจะเข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2011 เมื่อ 11:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 20-09-2011, 08:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : รู้สึกตัวเองแย่ลงค่ะ
ตอบ : แย่ลงก็ต้องเร่งให้ดีขึ้น ตอนนี้หันไปข้างหลังก็ไม่เห็นต้นทาง มองไปข้างหน้าก็ไม่เห็นจุดหมาย มีอยู่ทางเดียวคือต้องเดินขึ้นหน้าเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2011 เมื่อ 11:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 20-09-2011, 08:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพื่อนของโยมคนหนึ่ง เวลาเขาดี ๆ เขาก็บอกว่าจะไปนิพพาน แต่บางทีก็ออกมาด่า ๆ แล้วไปกราบพระใหม่
ตอบ : คนปฏิบัติใหม่ ๆ ได้อย่างนั้นก็ดีมากแล้ว เพราะว่าอย่างน้อย ๆ ก็ยังดีที่ชนะความโกรธ ชนะกิเลสได้บ้าง อย่าให้แพ้ตลอด พอไปนาน ๆ สะสมมากขึ้นก็จะชนะมากกว่าแพ้ แล้วก็จะดีขึ้นเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-09-2011 เมื่อ 11:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 21-09-2011, 03:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่ถ้าใครสังเกตตอนอาตมากราบพระ จะเห็นชัด ๆ ว่า เบญจางคประดิษฐ์นั้นคือ เวลากราบมือและศอกต่อเข่า ปัจจุบันนี้เห็นหลายคนกราบแล้วมือและศอกอยู่ข้างเข่า อีกประการก็คือกราบไม่ลง ไม่ถึงพื้น จะบอกว่าติดพุงก็ไม่ใช่ เพราะลูกสาวอาตมาน้ำหนัก ๙๓ กิโลกรัม ยังกราบพระได้นิ่มมาก แสดงว่าพุงไม่เกี่ยว

ปัจจุบันเวลาตั้งโต๊ะหมู่ มักจะมีโต๊ะสำหรับกราบ ถ้าเป็นโต๊ะหมู่ของพระเขาให้เอาโต๊ะสำหรับกราบออก ฆราวาสน่าจะยังนิยมตั้งโต๊ะกราบอยู่ การตั้งโต๊ะกราบทำให้กราบไม่ครบองค์ ๕ ที่แน่ ๆ ก็คือศอกกับหน้าผากไม่ลงพื้น

เพราะฉะนั้น..ให้เข้าใจไว้เลยนะว่า ถ้าหากตั้งโต๊ะหมู่ก็ให้เอาโต๊ะกราบออก ถ้ามีคนถามก็ชี้แจงเขาด้วยว่าการกราบพระนั้น เรากราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ประกอบด้วยองค์ ๕ เข่า ๒ ศอก ๒ หน้าผาก ๑ ถ้ามีโต๊ะนี่ เราจะกราบได้ไม่ครบองค์ ๕ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2011 เมื่อ 18:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 21-09-2011, 04:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ศิลปะของไทยเรามีความประณีตทุกอย่าง แม้กระทั่งพวกโขนละคร โขนละครของเรานี่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยกัน ไม่ได้มาจากอินเดีย แม้ว่าเนื้อหาในการเล่นจะมาจากรามายณะหรือรามเกียรติ์ของอินเดียก็ตาม แต่ว่าโขนละครของเราเป็นภูมิปัญญาของตระกูลขอม พอมาถึงไทยแล้ว เราดัดแปลงจนกระทั่งดูดี ทางด้านเขมรต้องมาเลียนแบบของไทยกลับไปอีกทีหนึ่ง เป็นการส่งผ่านวัฒนธรรมย้อนไปย้อนมา

ถ้าใครเคยไปเขมร ไปเยี่ยมพระราชวังเขมรินทร์ เห็นชัด ๆ เลยว่าเขาถอดแบบพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทไป แต่ว่าฝีมือยังไม่ได้เท่าของเรา

สมัยเด็กที่เราเรียนกาพย์ห่อโคลงฯ เขาบอกว่า
จักรีพระที่นั่ง........สามยอดตั้งตรูตาชม
สำราญสถานสม...........สถิตถิ่นปิ่นนรา
ดุสิตปราสาทตั้ง............พระมนังคะศิลา
พิมานรัถยา.............อุดมอาสน์ราชฐาน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2011 เมื่อ 18:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 21-09-2011, 04:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สมัยก่อนหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านทำคทาใหม่ ๆ อาตมายังเป็นฆราวาสอยู่ พอสอนมโนมยิทธิเสร็จ ออกมาจากห้อง มาถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ เห็นท่านใช้คทาแตะคนนั้นแตะคนนี้ อาตมาก็กราบเรียนหลวงพ่อว่า "ขอผมบ้างครับ" ท่านฟาดเปรี้ยง..! เสียงสนั่นเลย เสียงสนั่นอย่างกับท่านแกล้งตีลงบนโต๊ะ

ท่านบอกว่า "ขอทั้งทีให้เบา ๆ เดี๋ยวหาว่าขี้เหนียว" คนอื่นนึกว่าท่านฟาดโต๊ะ จริง ๆ แล้วท่านฟาดหัวอาตมานั่นแหละ แต่ความรู้สึกตอนนั้นไม่รู้สึกเจ็บเลย รู้สึกพองวูบไปทั้งตัว อยู่ในท่าคุกเข่าก้มหัว ตัวลอยขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ท่านให้เยอะจริง ๆ ครั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2011 เมื่อ 18:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 21-09-2011, 04:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระอัลเลาะห์ ?
ตอบ : พระอัลเลาะห์จริง ๆ คือ พระโยนกธรรมรักขิต เป็นพระอรหันต์ในพระพุทธศาสนา แต่ตอนหลังคนนับถือไปนับถือมาจนเพี้ยน เพราะว่ารอจนกระทั่งประมาณ ๑,๒๐๐ ปีแล้ว ถึงมาเริ่มฟื้นฟูกันใหม่

แถว ๆ เขตนั้นเขาเรียกว่าโยนก มีในส่วนของอัฟกานิสถาน จะมีแถวที่เขาเรียกแบกเทรีย ที่เป็นอาณาจักรโบราณ แล้วก็มีทาริม ปัจจุบันสถานที่พวกนี้อยู่ในประเทศที่ลงด้วยคำว่า "สถาน" เยอะแยะไปหมด เช่น อัฟกานิสถาน อุซเบกิสถาน คีร์กิสถาน ฯลฯ

อัลเลาะห์จริง ๆ มาจากคำว่า "อัลลาฮะ" ก็คือ "อรหันต์" เขาออกเสียงได้แค่นั้น เพราะฉะนั้นถ้าหากเราไหว้พระอัลเลาะห์ถูกตัวจริง ๆ ก็จะเป็นพระอรหันต์ คือพระโยนกธรรมรักขิตตะ

ถาม : ทำไมไม่มีรูปแทนองค์พระอัลเลาะห์ ?
ตอบ : พระโยนกธรรมรักขิต ท่านตั้งใจว่า ถ้าหากยังมีสิ่งให้ยึด คนจะหลุดพ้นยาก เหมือนกับบอกว่าเราจะไปเชียงใหม่ แต่ยังยืนกอดเสาอยู่ แล้วจะไปได้ไหมเล่า ? นั่นจริง ๆ เป็นเจตนาที่ดีมาก ๆ เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-09-2011 เมื่อ 19:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 21-09-2011, 04:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีหลายอย่างที่ศาสนาพุทธเข้าไปทางด้านเขา แต่เขาพยายามที่จะทำลายเสียไม่ให้เหลือ เพื่อที่จะเอาศาสนาของตัวเองอย่างเดียว อย่างงานศิวาราตรีที่เขามีการลอยบาป มีการบูชาพระศิวะกัน จำไม่ได้ว่าที่เมืองไหน เขาจะเอาดอกดาวเรืองไปสุม ๆ จนเต็มพระพักตร์พระศิวะเลย เพราะเขาไม่ต้องการให้เห็นว่าคนโบราณเขาแกะสลักพระพุทธรูปเล็ก ๆ ไว้ที่พระนลาตของพระศิวะ

ท่านที่รู้จริง ท่านเอาพระเหนือเทพ แต่ท่านที่นับถือเทพว่ายิ่งใหญ่ที่สุดท่านยอมไม่ได้ แต่คราวนี้จะไปเปลี่ยนแปลงจะไปลบไปอะไร ก็กลัวจะเป็นการลบหลู่เทพเจ้าของตัวเองที่นับถือ ก็เลยใช้วิธีนี้ ถึงเวลามีงานก็เอาดอกไม้ไปสุมไว้เสีย

ทางด้านนั้นไม่แน่ใจ แต่ว่าบรรดานักปราชญ์สมัยก่อนอย่างสมัยของเพลโต โสเครติส ท่านเดินทางจากทางด้านกรีกมาศึกษาหาความรู้ทางด้านนี้ ก็เลยสงสัยว่าคำสอนของท่านบางอย่างของเขาเหมือนกับศาสนาพุทธของเรา จะบอกว่าวิสัยนักปราชญ์มักคิดอะไรคล้าย ๆ กันก็ใช่ แต่ก็ระแวงว่าท่านเดินทางมาศึกษาก็น่าจะได้อะไรไปบ้าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-09-2011 เมื่อ 19:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 21-09-2011, 12:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเรามีปัญหา จะทำให้จิตปลอดโปร่งสบาย ๆ อย่างไรดีคะ ?
ตอบ : ก็อย่ารับปัญหาเข้ามาทับตัวเองสิ ส่วนใหญ่ที่จิตไม่ปลอดโปร่งเพราะเรารับปัญหาเข้ามาทับตัวเองเสียเยอะ แบบเดียวกับที่บอกว่าสงสารเขา สงสารไปสงสารมา แบกปัญหาแทนเขา ก็ตายสิจ๊ะ

พระพุทธเจ้าเป็นสุดยอดของศาสดาจริง ๆ พระองค์ท่านสอนให้เรามี เมตตา กรุณา มุทิตาแล้ว ยังสอนหลักธรรมป้องกันไม่ให้เราบ้า นั่นก็คือต้องมีอุเบกขา ไม่อย่างนั้นสงสารเขา เมตตาเขาจนเกินประมาณ ช่วยเขาได้แล้วก็มาเครียด มาเศร้า มาเสียใจเอง จะบ้าเสียเปล่า ๆ

เพราะฉะนั้น..หลักธรรมท่านให้ไว้ ๔ ข้อ ต้องใช้ให้ครบ ถ้าใช้ไม่ครบแล้วเราจะแย่ ทำตัวเป็นก๊วยเจ๋งไปได้ ครั้งแรกก๊วยเจ๋งฝึกกำลังภายในอยู่ท่าเดียว พอไปเจอโอวหยางอู่จี้ลูกศิษย์เฒ่าพิษปัจฉิมซึ่งมีฝีมือเหนือกว่า โอวหยางอู่จี้ดูไปดูมาเห็นก๊วยเจ๋งเป็นอยู่ท่าเดียว จึงจัดการเสียน่วมเลย เพราะฉะนั้น..ฝึกใช้ให้ครบ ๔ นะจ๊ะ ถ้าไม่ครบ ๔ นี่กิเลสอัดเราน่วมแน่

ถาม : บางทีเราก็ยังทำไม่ได้ ?
ตอบ : ทำไม่ได้ก็พยายามต่อไป จริง ๆ แล้วทั้งหมดสำคัญตรงสมาธิ วันนี้บอกกับโยมที่ไปปฏิบัติที่วัดท่าซุงมาว่า ไปมาหลายวัน อารมณ์ใจทรงตัว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือระมัดระวังรักษาอารมณ์เอาไว้ อย่าให้รั่ว พูดแค่ที่จำเป็น ไม่อย่างนั้นกำลังที่เราสั่งสมเอาไว้จะรั่วออกทางวาจาหมด แล้วก็ไม่พอใช้ในการตัดกิเลส ไม่พอใช้ในการดึงตัวเองขึ้นมาให้สูงจากสภาพปกติตรงนั้น

ในเมื่อจิตใจเราไม่ได้สูงกว่าเขา ถึงเวลาไปรับภาระมากก็ทับเราแบน ถ้าหากว่าสภาพจิตใจสูงกว่า คือความเข้มแข็งมีมากกว่า เท่ากับว่าเรายืดคอพ้นขึ้นมาแล้ว อย่างน้อย ๆ หนักแค่ไหนก็ยังหายใจได้ ถ้าตอนนี้ดีที่สุดก็คือไม่รับเลย กองเอาไว้ตรงนั้นแหละ

ระวังให้มาก พวกเราส่วนใหญ่เสียตรงปาก พอถึงเวลาก็โม้กระจาย กำลังที่สั่งสมไว้ก็ไปกับปากหมด เพราะกำลังนี้จะรั่วออกทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ รั่วทุกรูเลย พระพุทธเจ้าถึงสอนว่า ถ้าหากว่าจะจับเหี้ย เราต้องอุดรูไว้ ๕ รู เหลือแค่รูเดียว นั่งเฝ้าไว้เดี๋ยวเหี้ยก็ออกมาให้เราจับเอง ดังนั้น..ให้ปิดตา หู จมูก ลิ้น กาย ระวังใจอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นเด็กชาวนาจับเหี้ยกินไม่ได้หรอก ถ้าเปิดเอาไว้หลายรูเหี้ยก็หนีออกได้ทุกรู
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-09-2011 เมื่อ 18:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 22-09-2011, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ทางศาสนาฮินดูที่ปฏิบัติตามหลักโยคะ จะมีช่วงหนึ่งที่เขาเรียกว่าวานปรัสถ์ คือช่วงที่ออกป่าเพื่อแสวงหาธรรม

ศาสนาฮินดูนี้เหมือนเป็นข้อบังคับไปในตัวว่า เมื่อบรรลุธรรมแล้วให้กลับมาสอนคนอื่น เขาจะมีวัยต้นเรียกว่า พรหมจารีย์ วัยถัดมาคือ คฤหัสถ์ วัยครองเรือน วัยถัดมาคือ วานปรัสถ์ ผู้ออกป่า วัยถัดมาคือ สันยาสี กลับมาเป็นอาจารย์สอนคนอื่น หลักการเขาดีมาก

การแสวงหาโมกษะ คือ ความหลุดพ้นตามความเข้าใจของเขา โดยการไปอยู่กับปรมาตมัน(ตัวตนผู้เป็นใหญ่) ส่วนใหญ่เขาหมายถึงพรหม ไม่ใช่การหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 22-09-2011, 08:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การบรรลุธรรมของบางท่านที่ปฏิบัติแล้วเข้าถึงอรหัตผลเลย กับบางท่านที่ต้องผ่านเป็นขั้นเป็นตอนไป อย่างนี้เป็นเพราะอะไรครับ ?
ตอบ : เป็นจริตนิสัยเฉพาะของแต่ละคน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 22-09-2011, 08:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูอยากจะร้องไห้ วนอยู่สิบรอบกว่าจะมาถึงที่นี่ มือถือก็เสีย โทรถามทางไม่ได้
ตอบ : ไม่เป็นไร ถือว่าทดสอบกำลังใจ แต่ไม่ผ่าน..! แล้วมาถึงนี่ได้อย่างไร ?

ถาม : จอดแล้วก็ถามทาง จอดแล้วก็ถามทาง
ตอบ : ถ้าทำอย่างนั้นตั้งแต่รอบแรกก็มาถึงแล้ว นิสัยไม่ถามทางเป็นนิสัยผู้ชาย เพราะผู้ชายมีศักดิ์ศรีค้ำคออยู่ แต่ไม่ใช่อาตมา อาตมาถือภาษิตโบราณว่า หนทางอยู่ที่ปาก ไปไหนไม่รู้จักทางก็ถามดะ ถามเองด้วย เพราะเวลาพระถามเขาจะตั้งใจตอบ

ไม่เป็นไร...จะได้รู้ว่าที่ปฏิบัติมายังไม่พอใช้งาน พอกระทบยังกำเริบได้ง่าย

ถาม : อุตส่าห์ดีใจว่าเมื่อคืนมีเทวดามาคุม นึกว่าท่านจะมาคุมเราให้มาบ้านวิริยบารมีได้สบาย แต่ที่ไหนได้..?
ตอบ : ที่แท้มาหลอกให้เราหลงทาง ตอนนี้เชื่อหรือยังว่า เจออะไรเชื่อไม่ได้สักอย่าง คิดดูแล้วกันว่า เขาบอกให้ไปขุดสมบัติตรงนั้น มีภูมิประเทศอย่างนั้น มีเครื่องหมายอย่างนั้น ตรงหมดทุกอย่าง แต่พอไปถึง ขุดแล้วไม่เจออะไร

เขามาใหม่ก็บอกว่า ตอนนั้นทำพิธีไม่ถูก ไปเวลาไม่ถูก อาตมาก็ไปใหม่ พอครั้งที่ ๓ ไม่ไปแล้ว เขาโผล่หน้ามา อาตมาบอกว่า "ถ้าจะให้ ก็เอาไปจำหน่ายเอง โอนเงินเข้าบัญชีมาแล้วจะรับ..!" ตั้งแต่นั้นมาไม่มีเทวดาที่ไหนมาทดสอบอย่างนี้อีกเลย เพราะท่านต้องเอาไปจำหน่ายเอง โอนเข้าบัญชีเองอีกต่างหาก โดนไป ๒ ครั้งก็พอแล้ว

ทุกอย่างใช่หมด ยกเว้นของที่เขาจะให้นั้นไม่ใช่ จะบอกว่ารู้ไม่ตรงก็ไม่ใช่ แค่จะหลอกให้เสียเวลา ต้องบอกว่ากำลังใจของเรายังเชื่อไม่ได้ จนกว่าจะผ่านข้อทดสอบที่แท้จริง พอทดสอบเข้าไปจริง ๆ ก็เพิ่งจะรู้ว่าไม่ผ่าน

ถาม : ถ้าผ่านแล้วจะเจอข้อต่อไปหรือคะ ?
ตอบ : ก็จะเจอที่แย่ขึ้น มีแต่หนักขึ้นไม่มีเบาลง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 22-09-2011, 09:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ญาติธรรมคนหนึ่งอยู่สระบุรี เป็นโรคอะไรก็ไม่รู้คันไปทั้งตัว เดี๋ยวเขาก็คันตรงนั้น คันตรงนี้
ตอบ : ให้เขาเอาน้ำมันชาตรีมาอธิษฐานกิน น้ำมันชาตรีกินได้เพราะเป็นน้ำมันงา กินช้อนเดียวก็พอแล้ว ถ้าไม่เกรงใจจะกินหมดขวดก็ได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 22-09-2011, 09:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกว่า "พออายุมากขึ้นร่างกายเริ่มสะสมไขมัน เพราะอายุมากขึ้นการทำมาหากินไม่คล่องตัวเหมือนหนุ่มสาว ก็ต้องสะสมไว้ เผื่ออด

ในเมื่อพวกเราไม่อยากจะสะสมก็ต้องใช้ให้หมด แต่สิ่งที่เราใช้ไม่มากเท่ากับที่กิน ก็เลยเหลือ มีอยู่ ๒ อย่าง คือกินให้น้อยลงหรือใช้ให้มากขึ้น ไม่ต้องไปเข้าสำนักออกกำลังหรอก กวาดบ้านถูบ้านทำไปเถอะ กินเช้า ลดกลางวัน งดเย็น เพราะส่วนใหญ่ที่เน้นกินคือมื้อเย็น กินแล้วไม่ได้ใช้งาน ร่างกายเก็บสะสมไว้ทุกวันก็เลยอ้วน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 22-09-2011, 10:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ฝันเห็นช้าง
ตอบ : ถ้าฝันว่าขี่ช้างแปลว่างานใหญ่จะสำเร็จ

ถาม : หนีช้าง
ตอบ : ถ้าฝันว่าหนีช้างก็พิจารณาว่าติดหนี้หรือติดการบนที่ไหนหรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 22-09-2011, 10:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นั่งสมาธิแล้วไปหยุดอยู่ที่ตัวโยกโคลง ไปต่อไม่ได้ครับ
ตอบ : ปล่อยให้เต็มที่แล้วอาการโยกโคลงจะเลิกไปเอง ถ้าหากเราไปกลัว ไปอายก็จะเป็นไม่เลิก ถ้ารู้จักสังเกตจะเห็นว่าจริง ๆ ใจตอนนั้นนิ่ง เรามีหน้าที่รับรู้อย่างเดียว ปล่อยให้ดิ้นตึงตังโครมครามให้เต็มที่ไปเลย แล้วกำลังใจจะผ่านไปทรงฌานได้

อาตมาติดอยู่ตรงนี้ ๓ เดือนกว่า ดิ้นทุกวัน ดิ้นจนคนอื่นเขาตกใจว่าบ้านจะพัง อย่ากลัวและอย่าอายคน ปล่อยเต็มที่ไปเลย คิดว่าถ้าจะเป็นอย่างไรก็เป็นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 22-09-2011, 10:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราทำเรื่องเบิกเงินนอกเวลาไว้วันนี้ แต่วันนี้ไม่ได้ทำงาน วันหลังมาทำชดใช้จะผิดหรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้าเอาไปโดยไม่ชดใช้จะผิด ถ้าเรามาทำชดใช้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าตายก่อน..! ถ้าตายก่อนก็ผิดเต็ม ๆ เพราะยังไม่ได้ทำงานให้เขา

ถาม : ถ้าก่อนหน้านี้เราทำไปแล้ว แต่ไม่ได้ตั้งใจจะเบิก ถ้าเราไปเบิกย้อน ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้ตั้งใจเบิกไว้ก่อน ไปเบิกทีหลังถือว่าไม่ถูกต้อง ต้องตั้งใจเบิกแล้วมาเบิกรวมกันทีหลัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2011 เมื่อ 14:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 22-09-2011, 15:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ยันต์มหาพิชัยสงครามนี่ถ้าไม่มีเหรียญเอกราชจะสามารถเลี่ยมแบบเดี่ยว ๆ ไหมครับ?
ตอบ : ได้...แล้วใครเขาบังคับให้เลี่ยมคู่ ?

ถาม : รบกวนปลุกด้วยครับ
ตอบ : ปลุกก็ตายห่_พอดี..! จำไว้เลยว่ายันต์พิชัยสงครามห้ามปลุกเด็ดขาด หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสั่งห้ามไว้ ตัวอย่างที่ชัดที่สุดคือหลวงตาวัชรชัยสมัยยังไม่ได้บวช พอเขาเอาผ้ายันต์พิชัยสงครามมาวางจำหน่ายที่บ้านสายลม จะมีเศษผ้าที่เขาตัดเป็นเส้นเล็ก ๆ ผูกอยู่เป็นมัด พอแกะออกหลวงตาก็เอามาคาดหัวแล้วก็ทำท่าให้ถ่ายรูป ไม่รู้เท้าใครเตะมา โครมเดียวหลวงตากระเด็นไปติดข้างฝา นั่นแค่เศษ ๆ ผ้าที่เข้าพิธีนะ..ยังห้ามเล่นเลย

หลวงตาคอเอียงเลย ต้องให้พี่ ๆ เขามานวดให้ พอพี่ตั้วช่วยจับเส้นก็ถึงกับสะบัดมือพรวดเลย เหมือนโดนไฟดูด "ไอ้ห่_ มึงไปทำอะไรมาวะ ? ของแรงปานนี้" หลวงตาสารภาพว่าเอาเศษผ้าที่ผูกยันต์พิชัยสงครามมาคาดหัวเล่น

พี่ตั้วไปเอาน้ำมนต์ของหลวงพ่อมาควั่นข้อมือตัวเองจึงนวดได้ ไม่อย่างนั้นจะเข้าตัว หลวงพ่อถึงได้เตือนว่า ธงพิชัยสงครามอย่าปลุก ถ้าปลุกแล้วทานกำลังไม่ได้ เดี๋ยวจะตายเอา ถ้าจะเป็นประเภทเส้นโลหิตในสมองแตก เป็นวัตถุมงคลอย่างเดียวที่ห้ามลองด้วยการปลุก ใครจะลองก็ไม่ว่า จองเมรุไว้ก่อนเลย..!

อะไรที่หลวงพ่อสั่ง นานแค่ไหนอาตมาก็จำไม่ลืม เพราะว่าคำสั่งที่ท่านสั่งก็เพื่อประโยชน์ของเราทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-09-2014 เมื่อ 12:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 22-09-2011, 16:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ธงมหาพิชัยสงครามพอพ้นจากหลวงพ่อวัดท่าซุงแล้ว คนอื่นก็ทำก็ได้แค่สวยเท่านั้น ท่านบอกว่าอานุภาพได้ไม่ถึง ๕ เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าไม่ใช่เชื้อสายของท่าน

ท้าวมหาชมพูก็คือพระร่วง ท่านเป็นเจ้าของธงมหาพิชัยสงคราม ในเมื่อหลวงพ่อท่านไม่มีลูกไม่มีหลานที่สืบสายท่านโดยตรง ท่านจึงถวายตำราพระร่วงให้กับในหลวงไป ด้วยความที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินสามารถเริ่มต้นสายวิชาการใหม่ได้ทุกประเภท อยู่ในลักษณะที่ทรงประทานให้ เพราะฉะนั้น..ใครอยากได้ให้ไปขอจากในหลวง ถ้าในหลวงประทานให้ถือว่าท่านครอบครูให้เราเป็นต้นสายใหม่

วิชาการอะไรที่ขาดช่วงลง ในหลวงสามารถที่จะครอบครูให้ใหม่ได้ เพราะถือว่าท่านเป็นทั้งเจ้าฟ้าเป็นทั้งเจ้าแผ่นดิน เขาถือกันอย่างนี้มาตั้งแต่โบราณ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2011 เมื่อ 02:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 23-09-2011, 08:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,539
ได้ให้อนุโมทนา: 151,571
ได้รับอนุโมทนา 4,406,943 ครั้ง ใน 34,129 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ก่อนพุทธศาสนาจะเกิดขึ้น มีศีล ๕ ศีล ๘ หรือไม่ครับ ?
ตอบ : พวกโยคีฤๅษีส่วนใหญ่เขามีศีล ๕ ศีล ๘ เป็นปกติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น..อย่าคิดว่าศีล ๕ เป็นของศาสนาพุทธ ความจริงศีล ๕ เป็นของศาสนาเชน

ถาม : ใครสร้างกฎขึ้นมา ?
ตอบ : ศาสดาเขาเห็นว่าเหมาะ เขาจึงสร้างขึ้นมา ศาสดาของศาสนาเชนคือท่านมหาวีระ มีศีล ๕ ก่อนศาสนาพุทธจะเกิดขึ้น มีวันหยุดธรรมสวนะ ศาสนาพุทธมามีตามหลัง ถึงได้บอกว่าคนที่จะเอาศาสนาพุทธบริสุทธิ์ หาทั้งชาติก็หาไม่เจอ โดยเฉพาะธรรมะของพระพุทธเจ้ามีส่วนที่ท่านเห็นว่า สิ่งที่ศาสนาอื่นบัญญัติไว้เหมาะสมแล้ว ท่านก็นำมาใช้ อย่างเช่นศีล ๕ หรือวันพระ เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีส่วนที่ท่านดัดแปลงจากศาสนาอื่นมาเพื่อให้สมบูรณ์ เช่น สิงคาลกสูตร ที่สิงคาลกมานพไหว้ทิศทั้ง ๖ อยู่ พระพุทธเจ้าทรงแนะนำว่า ถ้าจะไหว้ให้ถูกต้อง ต้องไหว้ดังนี้ทิศเบื้องบน คือสมณชีพรามณ์ ต้องปฏิบัติอย่างไร ทิศเบื้องล่าง คือข้าทาสบริวาร ต้องปฏิบัติอย่างไร

ทิศเบื้องหน้า คือพ่อแม่ ต้องปฏิบัติอย่างไร ทิศเบื้องหลัง คือบุตรภริยา ต้องปฏิบัติอย่างไร ทิศเบื้องขวา คือครูบาอาจารย์ ต้องปฏิบัติอย่างไร ทิศเบื้องซ้าย คือมิตรสหาย ต้องปฏิบัติอย่างไร นี่คือส่วนที่ท่านดัดแปลงให้ถูกต้องสมบูรณ์

ส่วนที่เป็นพุทธแท้ ๆ ก็คือ อริยสัจ สิ่งที่ท่านตรัสรู้มากกว่าศาสดาอื่นเขา เพราะหลักการปฏิบัติศาสนาอื่นเขาก็มีถึงสมาบัติแปดแล้ว เพียงแต่ว่าการปฏิบัติของเขาเน้นร่างกายมากเกินไป คิดว่าใครทรมานได้ยิ่งกว่าก็จะทำให้พระเจ้ารักมากกว่า กลายเป็นผิดไปหน่อยเดียว ถ้าเลี้ยวถูกทางก็ไปลิบโลกแล้ว

แต่ว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้เท่ากับว่าบ่มเพาะตัวเองจนไปถึงระดับที่บารมีของท่านเต็ม พอฟังเทศน์จบเดียวก็บรรลุกันเป็นแถว เพราะฉะนั้น..จะว่าสิ่งท่านทำจะไม่มีประโยชน์ก็ไม่ได้ อย่างท่านที่เสียประโยชน์ไป เช่น ท่านอาฬารดาบสตายก่อนพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ๗ วัน ท่านอุทกดาบสยิ่งน่าเสียดายใหญ่ ตายวันเดียวกับที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ไม่ทันได้เจอพระพุทธเจ้าตอนตรัสรู้แล้ว แสดงว่าท่านอาฬารดาบสตายวันขึ้น ๘ ค่ำเดือน ๖ ท่านอุทกดาบสตายวันขึ้น ๑๕ ค่ำ วันวิสาขะพอดี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2011 เมื่อ 11:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
ณัชพงศ์

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 10:50



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว