กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 13-09-2009, 09:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กรรมที่ทำให้คนมีลักษณะวิตกจริต
ตอบ : อ๋อ ไม่มีอะไรจ้ะ ขาดการภาวนา ถ้าหากการภาวนามีสติมั่นคง มันจะไม่เป็นวิตกจริต แสดงว่าบำเพ็ญบารมีในด้านของการภาวนาน้อยไป

ถาม : แล้วถ้าอยากรู้ว่าในอดีตเคยทำกรรมอะไรมา ใช้มโนฯ ขึ้นไปถามท่านโดยตรง กลัวว่าคนที่เราถามจะไม่ใช่พระพุทธเจ้า
ตอบ : ถ้าหากว่ากลัวก็ไม่ต้องทำอะไร ทำให้มันได้ก่อน ไปให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปแยกแยะว่าใช่หรือไม่ใช่ ถ้าไปลังเลตั้งแต่ก่อนทำนี่ไปไหนไม่รอดหรอก เขาเรียกว่าตีตนไปก่อนไข้ เคยได้ยินไหม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 13-09-2009, 09:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่พี่ซันและพี่ตู่กำลังคุยเรื่องการรวบรวมวัตถุมงคล เพื่อนำไปเปิดให้คนในเว็บบูชา ช่วยงานกฐินตุ๊ป้อ
หลวงพ่อเล็กก็กล่าวว่า "คราวนี้เราจะได้เห็นว่าความสามัคคีสำคัญมาก พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า สุขา สงฺฆสฺส สามคฺคี ความสามัคคีในหมู่คณะย่อมก่อให้เกิดความสุข คนเดียวมันไม่ไหวหรอก ให้มันแน่ขนาดไหนก็แบกไม่ไหวหรอก ต่อให้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเถอะ ถ้าไม่มีสัตตรัตนะก็ไปไม่รอดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นทำคนเดียวไม่ได้เด็ดขาด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 11:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 13-09-2009, 09:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีท่านหนึ่งที่ตาบอด ได้มาทำสังฆทานที่บ้านอนุสาวรีย์เป็นประจำ ต้นเดือนที่ผ่านมาในขณะที่เขากำลังหยิบสิ่งของ หลวงพ่อได้กล่าวว่า

"สังเกตไหมว่าเวลาที่เขาจะทำอะไร เขาต้องตั้งสมาธิก่อน การตั้งสมาธิอย่างนี้มันเป็นทิพจักขุญาณอย่างหนึ่ง เพราะมันจะเพ่งความรู้สึกลงไปในสิ่งที่ตัวเองกระทำ จริง ๆ ถ้าหากเปลี่ยนวิธีฝึกนิดเดียวได้มโนมยิทธิเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 12:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 13-09-2009, 10:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลังจากที่พี่สาวท่านหนึ่งถวายสังฆทานเสร็จ ก็ได้กล่าวกับหลวงพ่อว่า "ขอบคุณมากนะคะหลวงพี่ ตอนนี้เป็นอภิชาตเมียแล้วค่ะ"

หลวงพ่อท่านก็หัวเราะ พร้อมกับพูดว่า "สุดยอดต้องทำให้ได้อย่างนี้"

แล้วหลวงพ่อก็เล่าให้ฟังว่า "เขาโมโหแฟน โดนยื่นคำขาด ถามเราว่าจะทำอย่างไร ก็บอกว่าทำไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยเวลาเลยไปอาทิตย์หนึ่งแล้วค่อยมาเจรจากัน เพราะว่าตอนนั้นมันเป็นการใช้อารมณ์ พอผ่านไปแล้วมันจะรู้ตัว มันเริ่มจะตรองแล้วว่าฝ่ายนั้นขาดเราจะเป็นอย่างไร ฝ่ายนี้ก็เออไม่มีเขาเราจะเป็นอย่างไร บางทีพระก็ไม่ได้แนะนำอะไรมากหรอก แต่มันได้ผล เหมือนนักมวยกับเทรนเนอร์ นักมวยอยู่บนเวทีไม่เห็นช่องทางอะไรเลย เทรนเนอร์อยู่ข้างล่างก็บอกให้ต่อยซ้าย เตะขวา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 13-09-2009, 10:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อเคยเทศน์มหาชาติหรือเปล่าคะ
ตอบ : จำเขามา มันเหนื่อย เทศน์มหาชาติตั้งนะโม ๓ นาที นะกว่าจะลงโมได้ เอื้อนจนลิ้นห้อย

ถาม : เดี๋ยวนี้แถวบ้านหนูเขาอ่านเฉย ๆ ไม่ได้เป็นเทศน์ทำนอง
ตอบ : จริง ๆ ต้องเป็นทำนองแหล่ คนที่เก่ง ๆ เขาใช้ปากทำเสียงกลอง ฆ้อง ปี่ได้ทุกอย่าง ต้องมีใจรัก แต่ที่หลวงพ่อไม่เอาเพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านห้ามขับลำด้วยเสียงอันยาว บุคคลผู้ขับลำด้วยเสียงอันยาวเกิดโทษหลายประการ ประการที่หนึ่ง ผู้อื่นย่อมหลงในเสียงนั้น ประการที่สอง แม้แต่ตัวเองนานไปก็หลงในเสียงของตน


ถาม : แสดงว่าหลวงพ่อฟังบ่อย
ตอบ : จำได้ ยังสงสัยอยู่ว่าหัวตัวเองเป็นอะไร ฟังเขาแล้วมันขโมยได้เลย ตอนแรกฟังหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ตอนนั้นท่านเล่นดนตรีปี่พาทย์ วงดนตรีไทย ทีนี้มีอยู่เพลงหนึ่งที่อาจารย์ไม่ต่อให้ เพราะเขาถือว่าคนละสาย คนละทางกัน แล้วเขาก็หวงมากด้วย ปรากฏว่าวันนั้นไม่รู้เกิดอะไรขึ้น ท่านบอกว่าเขาไปเล่นในงานศพ ตอนพระฉันเช้าเขาตีรอบหนึ่ง พอพระฉันเพลเขาตีอีกรอบหนึ่ง ตอนเย็นประโคมศพตีอีกรอบหนึ่ง หลวงพ่อก็บอกว่าเสร็จท่าน ครั้งแรกจับจังหวะ ครั้งที่สองทวน ครั้งที่สามมั่นใจ ได้ขนาดนั้นเลย

"สมาธิมันทรงตัว มันจะจำแม่น ต้องบอกว่าของเก่า ของเก่าเคยทำไว้ มาชาติใหม่กินทุนเดิม สมาธิเดิมมันดี ความจำก็เลยดีด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-08-2014 เมื่อ 14:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 13-09-2009, 11:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในขณะที่หลวงพ่อกำลังสนทนากับหลวงพี่เอในเรื่องความจำ ท่านบอกว่า "แถวบ้านผมนิยมสวดเจ็ดตำนาน บทแรกเขาจะขึ้นโยจักขุมา โยจักขุมาเป็นบทแรกที่ผมจำได้ บทต่อไปคือ อเสวนา กว่าจะบวชนี่จำได้เยอะแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 13-09-2009, 11:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็กกล่าวว่า "สุขภาพมันแย่ ต้องรีบสมมติสถานการณ์ไว้ด้วย ถ้าไม่มีหลวงพ่อแล้วจะอยู่อย่างไร"

ถาม : ตอนสมัยหลวงพ่อ หลวงพ่อก็คิดว่า เออ หลวงพ่อฤๅษีจะไปทุกวัน
ตอบ : คนอื่นประมาท ส่วนใหญ่คิดว่าท่านจะอยู่ถึง ๑๒๐

ถาม : ขนาดตัวหนูเองยังคิดเลยว่าจะไปทุกวัน
ตอบ : แต่ละวันกอบโกยความดีใส่ตัวให้มากที่สุด ช่วงนี้มันจะบู๊หน่อยช่างหัวมัน วันที่นั่งทำงานแล้วความดันขึ้นจนแทบจะระเบิด มันปวดหัวจนนอนไม่ได้ ในสมองมันรู้สึกเลยว่ามีก้อนอะไรมาเบียดประสาทจนหัวหมุน มันจะอาเจียน แสดงว่าเส้นเลือดมันโป่ง พักไม่พอ ไม่มีเวลาเหมือนชาวบ้านเขา เราก็คิดว่าในเมื่ออะไรก็ช่วยไม่ได้ ทำงานให้มันตายคางานไปเลย กะว่าก่อนตายจะเกลางานให้ดีที่สุด อย่างน้อยคนมาเห็นเข้า มันส่งงานแทนเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 25-08-2014 เมื่อ 14:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 13-09-2009, 14:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เป็นไปได้ไหมคะ ที่คนโมทนาบุญจะได้อานิสงส์ก่อน
ตอบ : เป็นไปไม่ได้ โมทนาได้เท่าเขายังไม่ได้เลย เพราะว่าไม่ได้ลงทุนด้วยกายวาจาใจของตัวเอง ใช้แต่ใจอย่างเดียว แต่ว่าในส่วนที่จะพึงได้นั้น ถามว่าได้เหมือนเจ้าของไหม....เหมือน แต่ว่าได้ทีหลัง ผลต้องเกิดจากเจ้าของบุญก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 13-09-2009, 14:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่ไม่ได้มโนฯ หรือจับภาพพระได้ไม่ชัดเจน จะสามารถทำให้จิตจับพระนิพพานได้หรือไม่คะ
ตอบ : ได้ ขอให้เรามั่นใจว่านั่นคือพระนิพพาน

ถาม : แล้วอารมณ์จะเป็นอย่างไรหรือคะ
ตอบ : เป็นอย่างไร พยายามพิจารณาว่าการไม่มีสิ่งร้อยรัดใด ๆ เลย มีความสุขเบาสบาย จิตใจที่ปราศจากการรัก โลภ โกรธ หลง มีความเบาสบายอย่างไร เสร็จแล้วก็รักษาอารมณ์นั้นไว้

ถาม : เคยตั้งอารมณ์อาราธนาพระพุทธเจ้ามาเพื่อเป็นกำลังใจในการปฏิบัติและก็กำหนดว่าพระพุทธเจ้าอยู่เบื้องหน้า ปรากฏว่าเกิดความรู้สึกว่าพระพุทธเจ้าอยู่เบื้องหน้าจริง ๆ แล้วดีใจจนน้ำตาไหล อันนี้เป็นจิตจับพระนิพพานหรือจิตปรุงแต่งขึ้นมา
ตอบ : จัดเป็นพุทธานุสติ เป็นทิพจักขุญาณด้วย เพียงแต่ว่าถ้าไม่มั่นใจก็จะไม่รู้ว่านั่นคือทิพจักขุญาณจริง ๆ
นั่นแหละคือลักษณะการเห็นพระ เขาเห็นแบบนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 15:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 13-09-2009, 18:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำอย่างไรจึงจะขายของดี
ตอบ : ท่องคาถาเงินล้าน แล้วขายของถูก ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 13-09-2009, 18:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าใครเคยเห็นสมุดเล็คเชอร์ของหลวงพ่อ จะคิดว่าท่านคัดลายมือ เพราะลายมือท่านเรียบร้อยเป็นระเบียบ
หลวงพ่อบอกว่า "ที่เล็คเชอร์มันออกมาดี ก็เพราะเราจำแม่น พอเราจำแม่นก็ไม่ต้องรีบ เวลาเขียนก็เขียนไปเรื่อย ๆ คนเห็นเขาก็บอกว่าเราคัดลายมือ"

มีคุณป้าท่านหนึ่งสังเกตเห็นลายมือของหลวงพ่อ จึงบอกว่า "สระโอของท่านนี่ไม่มีใครเหมือน"

หลวงพ่อก็บอกว่า "หมอดูบอกว่า ลายมือลักษณะนี้มีแต่ขึ้น ไม่มีลง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 18:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 13-09-2009, 18:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วเวลาที่เขาเจิม (เจิมหน้าผากบ่าวสาว) เขาเจิมอะไร หลวงพี่พอจะรู้ไหมครับ
ตอบ : ในการเจิม โบราณเขาจะยึดเอาพระรัตนตรัยเป็นใหญ่ ก็คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บางคนถ้าถือธรรมเป็นใหญ่ ก็อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

อย่าไปบอกเจ้าสาวหรือเจ้าบ่าวล่ะ เดี๋ยวมันช็อกตาย
ถ้าคิดว่าดีเราก็เจิม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-09-2009 เมื่อ 19:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 13-09-2009, 20:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "พระครูไพโรจน์ภัทรคุณ (วัดสระพัง) ท่านยังจะไปเกิดอีกเยอะ ท่านสร้างบารมี หล่อพระประธานทุกปี ช่วงปลายสิงหาคม คือวันเกิดท่าน ท่านก็หล่อพระประธานแล้วก็เลี้ยงพระ ๑,๐๐๐ รูป ทำอย่างนี้มาหลายต่อหลายปี เฉพาะที่นิมนต์มานั้นแค่ปัจจัยก็มหาศาลแล้ว

ใครต้องการพระประธาน โดยเฉพาะพระประธานโลหะหล่อ ให้ไปลงชื่อจองได้ ท่านจะหล่อไล่ให้เรื่อย ๆ จนกว่าจะครบ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 14-09-2009, 06:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อบอกว่า "พระสมเด็จศรีอินทราทิตย์ อย่าคิดว่ามีเยอะ เพราะว่าสร้างมาหนึ่งแสนองค์ บรรจุกรุไปเก้าหมื่นกว่าองค์ ที่เอามาแจกก็ดี เอามาจำหน่ายก็ดี เท่ากับว่าเหลืออยู่หน่อยเดียว เป็นของที่ตั้งใจทำเพื่อกันภัยพิบัติโดยตรงด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 14-09-2009, 07:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถามเรื่องจิตค่ะ คือ วันก่อนตอนนั่งสมาธิ เห็นจิตตัวเอง พอได้ยินเสียงดังขึ้นมา ก็เห็นขึ้นว่ามันเกิดเสียง แล้วมันก็ดับไปแล้ว หลังจากนั้นก็เห็นตัวเองอยู่ในบ้านแคบ เหมือนไปมอง แล้วก็...
ตอบ : จริง ๆ คือมันเป็นสภาพปกติของมัน มันคอยจะรับรู้ทุกอย่างที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจ

ถาม : ก็เห็นว่ามันไปรับรู้ตัวอายตนะทั้ง ๕ ก็เห็นว่ามันบังคับไม่ได้ เพราะมันยิ่งไปฟัง
ตอบ : มันบังคับได้ แต่ว่าสติ สมาธิ ปัญญาจะต้องเข้มแข็ง แหลมคม และรวดเร็วพอที่จะทันมัน ถ้ายังไม่พอเมื่อไหร่บังคับมันไม่ได้ ก็แปลว่าเราต้องเพิ่มการปฏิบัติสมาธิอะไรให้มากขึ้น

ถาม : ตอนนี้ยังน้อยไป
ตอบ : มันไม่พอที่จะใช้งาน ถ้าพอที่จะใช้งาน มันจะต้องป้องกันตัวเองได้จากรัก โลภ โกรธ หลงที่เกิดขึ้นทางอายตนะทั้งหมด แต่ทีนี้มันยังไม่เพียงพอ กว่าจะรู้มันพาเราไปไกลแล้ว ต้องเพิ่มขึ้นอีดนิด ให้เวลาปฏิบัติกับมันมากหน่อย คำว่ามากหน่อยในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าให้เรานั่งกรรมฐานให้มากขึ้น แต่ว่าเรานั่งปฏิบัติแล้ว พอเลิกจากการปฏิบัติตรงนั้นให้เรารักษาอารมณ์ให้อยู่กับเราให้นานขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 14-09-2009, 11:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กิเลสที่ตัวละเอียดขึ้นไปละอย่างไรคะ
ตอบ : มันไม่ได้ละอย่างไรหรอก มันก็พิจารณาให้เห็นถึงความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรเป็นเราเป็นของเรา เพียงแต่ว่านานไป ๆ มันก็จะค่อย ๆ คลายออกได้ ซ้ำอยู่อย่างนั้น

ถาม : ตอนแรกก็กะฟันแค่สังโยชน์ ๕ ไป ๆ มา ๆ ตัวอื่นโผล่มาอีกอย่างแรง แค่นี้จึงไม่พอ
ตอบ : อย่าคิดว่ามันหมด มันมีเยอะกว่าที่คิด เคยบอกว่ามันเหมือนกับเราโค่นต้นไม้ มันล้มลง ฟ้าสะท้านดินสะเทือน เราทำอะไรได้เยอะเหลือเกิน ที่ไหนได้พ่อคุณ ตอกับรากเยอะกว่ากิ่งข้างบนอีก

ถาม : ตอนแรกก็นึกว่าจะสบาย
ตอบ : อาตมาเป็นมาหลายยกแล้วไอ้จะสบายนี่ แรก ๆ พอผ่านไปจุดหนึ่ง โอ๊ย สบายแล้วเรา ที่ไหนได้ เดี๋ยวมีที่แย่กว่านั้นอีก ไปค่อย ๆ ทำ

ถาม : แล้วแบบเวลาที่ไล่กรรมฐาน ๔๐ ตอนแรกที่หนูไล่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปทีละกอง ๆ ตอนหลังเลยมารู้ว่ามันสามารถทำในระดับเดียวได้
ตอบ : มันทรงอารมณ์เต็มที่แล้วเราค่อยเปลี่ยนอารมณ์นิดเดียว ไม่ต้องไปขึ้น ๆ ลง ๆ

ถาม : หนูขอถามความแน่ใจหน่อยค่ะว่า อารมณ์ที่เป็นสีลานุสติมันคล้ายกับพรหมวิหารใช่หรือเปล่าคะ
ตอบ : คล้ายกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 14-09-2009, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อคะ หลวงพ่อฝึกกสิณกองแรกนานไหมคะ
ตอบ : อันแรกนาน แต่ว่าอันอื่นง่ายแล้ว ก็บอกแล้วว่ามันไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่นเลย มันต้องคอยประคองตลอด ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวหาย

ถาม : เวลาจับภาพ เมื่อภาพกสิณเปลี่ยนเป็นนิมิตสีขาวแล้ว แต่ทีนี้มันหายไป แต่เราก็จำภาพที่เป็นสีขาวได้ ทีนี้เราต้องกลับไปย้อนใหม่ไหมคะ
ตอบ : แค่นึกใหม่ ไม่ต้องเริ่ม

ถาม : แล้วสังโยชน์ ๑๐ อย่างคนที่ต้องละตัวอรูปราคะ พวกสายอื่นที่เขาไม่ได้ฝึกอรูปฌานอย่างนี้แล้วเขาจะละอย่างไรคะ
ตอบ : ละในส่วนที่ไม่ใช่รูป อย่างเช่นพวกกลิ่น เสียง รส

ถาม : บางครั้งหนูมาไล่ดูว่า เป็นไปได้ไหมว่าฟุ้งซ่านแล้วไม่เป็นไปในทางกิเลส สรุปว่ามันเป็นไปไม่ได้ค่ะหลวงพ่อ
ตอบ : มันก็คิดอยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่ อยากดีอย่างนั้น อยากดีอย่างนี้

ถาม : ถึงแม้มันจะเป็นไปในด้านกุศล
ตอบ : กุศลมันก็ฟุ้ง เพราะใจมันไม่รวม เมื่อใจมันไม่รวม พอกำลังมันหมด ทีนี้กิเลสมันตีตายเลย

ถาม : แต่ว่าห้ามไม่ให้ฟุ้งซ่านนี่มันยากนะคะหลวงพ่อ หนูเคยลองนั่งรถเมล์มาถึงอนุสาวรีย์ อยากจะดูว่ามันจะคุมได้นานสักเท่าไหร่ ปรากฏว่าได้ไม่นานค่ะหลวงพ่อ
ตอบ : แค่ ๒ นาทีก็ถือว่าเก่ง อะไรที่แว่บเข้ามาทางตาก็มองส่องไป (หัวเราะ ) ไม่ยาก ขอยืนยัน

ถาม : อย่างบางครั้งเราพิจารณาในร่างกาย แค่เราพิจารณานิดเดียว มันก็ได้กรรมฐานหลายกองไปในเวลาเดียวกัน อย่างเช่นตัวอสุภะ มันได้ทั้งธาตุ ๔ และตัวกายคตา
ตอบ : มันทำได้ ของมันเนื่องกันอยู่แล้ว ถ้าเคยคลำ ๆ มาบ้าง ถึงเวลามันก็ไปลงที่เดียวกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 14-09-2009, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปฏิฆะกับโทสะต่างกันอย่างไรคะ
ตอบ : ปฏิฆะมันเป็นตัวกระทบ โทสะนั่นอารมณ์มันเกิดแล้ว ปฏิฆะพอกระทบแล้วความรู้สึกมันเกิด แต่ว่ามันเกิดในลักษณะเหมือนกับว่าสะเก็ดไฟมันกระทบเชื้อ แต่โทสะนี่มันไหม้เป็นเปลวแล้ว

ถาม : แล้วอย่างเวลาอารมณ์ที่มันกระทบ มันยังไม่ได้ไปลงที่ตัวโทสะ
ตอบ : มันจะดีหรือไม่ดีมันเป็นปฏิฆะแล้ว ถ้าปรุงเมื่อไหร่ไปทันที เพราะฉะนั้นอย่าเป็นแม่ครัว

ถาม : อย่างสังเกตถ้าเป็นอารมณ์กระทบที่ไปในทางไม่พอใจ มันก็ไปลงที่ถือตัวถือตนอยู่ดี
ตอบ : มันบวกกัน มันจะต้องมีมานะ เมื่อมีมานะมันก็ก่อให้เกิดโทสะ

ถาม : แล้วอย่างเวลาที่เราเกิดอารมณ์ปั่นป่วน เรารู้ คือ เราเห็นพายุ เรากำลังมองดูพายุที่อยู่ข้างใน ตรงอารมณ์ที่มันเกิดปั่นป่วนตรงนั้น มันเป็นในลักษณะที่ว่าเราปรุงไปแล้วหรือเปล่า หรือว่ามันเกิดขึ้นตามสภาวะปกติธรรมชาติของมัน
ตอบ : มันปรุงไปแล้ว ถ้าไม่ปรุงมันไม่เกิด เพียงแต่ว่ามันปรุงยังไม่พอ รสยังไม่ได้ที่ ถ้ารสได้ที่เมื่อไหร่จะมันส์กว่านี้เยอะ

จึงได้บอกว่าการปฏิบัติของเราคือการฝึกสติ เมื่อสติมันทรงตัว มันรู้เท่าทัน เห็นต้นเหตุของมัน มันก็จะไม่ปรุงอีก เรียกง่าย ๆ ว่ามันรู้จักเข็ด ถ้าไม่รู้จักเข็ดก็ยังปรุงไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็อร่อยไปเรื่อย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 14-09-2009, 12:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนนำพระธาตุมาให้หลวงพ่อท่านดู ท่านบอกว่า "บอกแล้วเรื่องพระธาตุไม่ต้องดูว่าจริงหรือปลอม ดูว่าใจยึดหรือเปล่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 101 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 14-09-2009, 12:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,152 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูพยายามจับภาพพระแล้วก็ภาวนาไปด้วยระหว่างวัน เสร็จแล้วมันก็มีอารมณ์แนบแน่น สบายดี แต่มันยังแน่น หนัก ๆ หน่อย อย่างนี้ถือว่าเป็นอารมณ์พระนิพพานหรือเปล่าคะ
ตอบ : จะว่าเป็นก็ได้ แต่มันเป็นจากการที่เราใช้สมาธิมาก พอใช้สมาธิมากมันกดกิเลสได้เหมือนกัน เขาเรียกว่าเป็น วิขัมภนวิมุตติ ข่มกิเลสเอาไว้ ถ้าข่มนานก็หลุดได้เหมือนกัน

ถาม : แล้วมีความรู้สึกว่าพระอยู่ตรงหน้าจริง ๆ พอพระอยู่ตรงหน้าจริง ๆ เกิดขึ้นเยอะ ๆ นี่ เหมือนตัวเองจะหลุดไปในอีกมิติหนึ่ง มันจะโล่ง ๆ เบา ๆ อันนี้ดีใช่ไหมคะ
ตอบ : ดีจ้ะ

ถาม : หนูจะภาวนาตอนนอนด้วย แล้วตัวมันหลุดออกไปค่ะ แต่ก่อนระหว่างจะหลุดรู้ตัวดีว่าตอนนี้มันนิ่งแล้วนะ มันวืดไปแล้ว แล้วมันก็หลุดออกมาแบบนี้แหละค่ะ การที่เรารู้สึกตัวตลอดเวลาแบบนี้แสดงว่าเราหลุดไปจริง ๆ ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ
ตอบ : แล้วมันฝันไหมล่ะ ถ้ามันรู้ทุกขั้นตอน ควบคุมได้ทุกขั้นตอน มันผ่านหมดได้ มันก็ไปจริง ๆ

ถาม : แต่ทีนี้ตอนแรกที่หนูออกไป มืดตื๋อ มองไม่เห็นอะไรเลย
ตอบ : มันขาดการพิจารณา

ถาม : เกี่ยวไหมว่าตอนนั้นยังไม่สว่าง
ตอบ : ไม่เกี่ยว ถ้าพิจารณาตัดร่างกาย มันก็จะสว่าง

ถาม : พอออกไปมันก็เหาะไปเที่ยวไปเล่น แล้วรู้สึกว่าตัวเองฝ่าลมฝ่าแดด เหมือนตัวไปจริง ๆ แสดงว่าไปแบบเต็มกำลังใช่ไหมคะ
ตอบ : ไปแบบเต็มกำลัง

ถาม : เต็มกำลังแสดงว่าหนูคงจะเคยถึงฌาน ๔ บ้างใช่ไหมคะ
ตอบ : น่าจะได้นิด ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 102 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:14



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว