กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 19-08-2014, 14:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมฝันเห็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เห็นท่านบรรยายธรรมให้คนฟังอยู่ พอผมเข้าไปใกล้ ท่านก็ลอยขึ้นไป ผมก็ร้องไห้ร้องห่ม ?
ตอบ : เรื่องของความฝัน ถ้าฝันแล้วเจอสิ่งที่ดี อย่างน้อย ๆ กำลังใจของเราก็อยู่ในด้านดีมากกว่าชั่ว คราวนี้สำคัญอยู่ตรงที่ว่า ถ้าเรามัวแต่ไปตีความอยู่ก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไร ถ้าคนฝันทุกวันก็ประสาทกินกันพอดี เจอพระถือเป็นมงคลใหญ่ เก็บเอาไว้เป็นกำลังใจตัวเองก็พอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-08-2014 เมื่อ 17:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 20-08-2014, 15:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การบวชเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก เพราะเป็นบุญในส่วนของเนกขัมมบารมี ซึ่งในการสร้างบารมีทั้งหมด แทบจะไม่มีใครเริ่มต้นด้วยเนกขัมมบารมี ในเมื่อแทบจะไม่มีใครเริ่มต้นด้วยเนกขัมมบารมี ถ้าไม่ได้มีวิสัยการบวชมาก่อน โอกาสที่จะบวชต้องบอกว่าเป็นศูนย์เลย หรือไม่ก็บวชแล้วอยู่ไม่ได้ เพราะไม่ใช่วิสัยของตน

โดยเฉพาะการบวชในสมัยนี้ ที่อยู่เป็นพรรษาหายากมาก ส่วนใหญ่เขาบวชกัน ๓ วันบ้าง ๗ วันบ้าง ๑๕ วันบ้าง เดือนหนึ่งบ้าง บางคนบวชแล้วสึกกลับบ้านไป เขายังเก็บโต๊ะจีนไม่เสร็จเลย สมัยก่อนทางบ้านอาตมาจะมีสมาคมตระกูลแซ่ เวลาเขามีงานก็ต้องช่วยกันไปช่วยกันมา เช่น เขาใส่ซองให้เรามาร้อยหนึ่ง ครั้งต่อไปเราต้องใส่ซองเขาไป ๑๕๐ มีอยู่บ้านหนึ่ง มีแต่ใส่ซองให้คนอื่นมาตลอด คนเป็นลูกก็ไม่คิดที่จะบวชหรอก เพราะไม่ใช่วิสัยของตนเอง ต่อมาลูกบ้านนี้บวช เลี้ยงโต๊ะอะไรเสร็จสรรพเรียบร้อย วันรุ่งขึ้นก็สึก คนเขาด่ากันทั้งตำบล ว่าตั้งใจบวชมาเอาซองอย่างเดียว

ส่วนอาตมานั้น ที่บ้านมีพี่ชายคนโต พี่สาวคนโตสองคน และพี่ชายคนที่สามที่แต่งงานไป นอกนั้นก็ไม่ได้แต่ง โอกาสที่จะได้ครองเรือนเหมือนคนอื่นเขาก็ไม่มี พอมางานบวชของอาตมา อาตมาก็หนีไปบวชที่อุทัยธานี พี่ชายคนโตเขาก็บ่น เพราะว่าพี่ชายคนโตเป็นคนไปสมาคม ต้องควักเงินให้เขาตลอด บ่นว่าบวชทั้งทีจะถอนทุนสักหน่อยก็ไม่ได้ หนีไปบวชยันอุทัยธานีโน่น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 20-08-2014, 15:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ปัจจุบันนี้ที่วัดท่าขนุนเวลาบวช ก็ไม่มีการแห่อะไรหรอก วนรอบโบสถ์ ๓ รอบก็บวชได้แล้ว ยกเว้นว่าครอบครัวไหนจัดเครื่องเสียงมา คุณก็แห่กันเองแล้วกัน แต่อย่าให้ผิดเวลานะ ถึงเวลานัดพระอุปัชฌาย์มาแล้วยังไม่เสร็จก็โดนด่ากระจาย..!

มีอยู่รายหนึ่ง อาตมาบอกว่านัดพระอุปัชฌาย์ไว้ ๘ โมงเช้า ท่านมีงานที่อื่นต่อ ให้มาถึงวัดอย่างช้า ๗ โมงครึ่ง ปรากฏว่า ๘ โมง ๑๐ นาที แล้วเพิ่งจะโผล่มา มาถึงตั้งขบวนแห่ อาตมาบอกว่า "ถ้าจะแห่ก็แห่ไปบวชวัดอื่น ถ้าจะบวชที่นี่ให้เข้าโบสถ์มาเลย ไม่ต้องแห่หรอก.." เดินเหี่ยวเข้ามา มีการมากระซิบอีกว่า "ไม่แห่แล้วจะได้บุญหรือ ?" ถ้าอาตมาไม่ได้ย้ำนี่จะไม่ว่าอะไร บอกไปตั้งแต่วันสมัครบวชแล้ว ตอนโกนหัวนาคก็ย้ำอีกรอบหนึ่งว่า
ต้องมาให้ทัน ๗ โมงครึ่ง

ส่วนอีกรายหนึ่งน่าสงสารมาก น่าสงสารนักดนตรี เขาไปจ้างวงดนตรีแห่มาจากบ้าน พอวนรอบโบสถ์ ๓ รอบ นักดนตรีก็ประเภทเป่าไปตีไป พอครบ ๓ รอบแล้วยังไม่หายมัน เจ้าภาพบอกเอาให้ครบ ๙ รอบ ไม่ได้เห็นใจเลยว่าเครื่องเป่าจะเหนื่อยขนาดไหน ลองนึกดูว่าแซกโซโฟนหนักเท่าไร ไหนจะต้องเดินไปเป่าไปอีก กว่าจะเดินครบ ๙ รอบจะตายเอา อาตมาอยากจะตะโกนบอกว่า "ถ้าอยากได้บุญจริง ๆ ก็เอา ๑๐๘ รอบไปเลย" ดูว่าจะมีปัญญาไหม ? ประเภทนั่งเป่าเฉย ๆ ก็จะแย่แล้ว นี่ต้องเดินเป่า แล้วเขาไปลือกันว่าบวชวัดท่าขนุนห้ามแห่ พอหลุดจากปากไปแล้วกลายเป็นคนละเรื่องไปทุกที

อาตมาไม่ให้คณะนั้นแห่เพราะว่าพระอุปัชฌาย์นั่งรอนานแล้ว เขาไปบอกว่าบวชวัดท่าขนุน อาจารย์ไม่ให้แห่ แต่ก็ดี ต่อไปใครมาบวชจะได้รู้ว่าไม่ต้องแห่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 20-08-2014, 15:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลานั่งสมาธิรู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ?
ตอบ : เลิกห่วง เลิกกลัวตายก็หายแล้ว

ถาม : ผมหายแล้วครับ แต่คนที่เขาติด เขาติดมาเป็นปี ๆ ครับ ?
ตอบ : เขาเรียกว่ากลัวตาย บอกเขาให้พิจารณาจนเห็นชัด ๆ ว่าเกิดมาแล้วต้องตายแน่ ๆ จะได้เลิกกลัวตาย ไม่อย่างนั้นพอถึงเวลาลมหายใจหมด ก็รีบตะเกียกตะกายไปหายใจ สภาพร่างกายอยู่ในระดับของลมหายใจละเอียด แล้วมากระชากลมหายใจหยาบก็เหมือนกลับไปเริ่มใหม่ พิจารณาให้เห็นว่าเราต้องตายแน่ ๆ พอเลิกกลัวตาย ก็เลิกทำอย่างนั้นไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 21-08-2014, 13:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การฝึกกสิณจินตนาการได้ไหมครับ ?
ตอบ : หาวัสดุมา ไม่ใช่จินตนาการ ถ้าจินตนาการจะเอาอะไรเป็นองค์กสิณ ? นอกจากความคิดตัวเอง หาวัสดุมาใช้งานก่อน จนภาพกสิณติดตาติดใจแล้วถึงเลิกใช้ นึกถึงเมื่อไรภาพก็ปรากฏ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 21-08-2014, 13:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่ติงลี่ส่งข่าวมาว่า ที่วัดโดนรุกอีกแล้ว น่าจะโดนไถไปครึ่งถนนค่ะ
ตอบ : กว่าที่หลวงพ่อสมคิดจะไปลุยจนได้ที่คืนมา ก็แทบจะเอาชีวิตไปทิ้ง ถ้ามีขอบเขตชัดเจนก็น่าจะสร้างรั้วตั้งแต่แรกแล้ว ไม่เห็นหรือว่าของวัดหนองบ้านเก่า เขาเริ่มด้วยรั้ว

เดี๋ยวนี้คนไม่ค่อยจะกลัวบาปกลัวกรรม ถึงเวลาก็รุกได้เขาก็รุก บอกท่านติงลี่ว่า ถ้าจะไปให้เอาหลวงพ่อสมคิดไปด้วย จะได้ช่วยชี้แนว ที่วัดนั้นมีอยู่ ๘๘ ไร่ เขารุกจนเหลืออยู่หน่อยเดียว ของวัดท่าขนุนก็หายไปเกือบ ๑๐๐ ไร่ เพราะว่าช่วงที่อาจารย์สมเด็จเป็นเจ้าอาวาส ท่านไม่ค่อยใส่ใจกิจการงานของวัด พอดีเขาเปิดให้ขึ้นทะเบียนเป็น นส. ๓ ทางวัดก็ไม่ได้ไปดูไปแลไปแจ้งอะไร คนอื่นเขาเลยออกเอกสารสิทธิ์ทับที่วัดไป โดยเฉพาะฝั่งถนนตรงข้าม เดิมเป็นที่วัดทั้งหมด คิดดูแล้วกันว่ากี่ร้อยไร่ ไม่เหลือเลย ตอนนี้เหลืออยู่แค่ ๕๐ กว่าไร่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 21-08-2014, 13:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ท่านบอกว่า ดอกบัว ๑ ดอกแทนดอกไม้อื่นได้เป็นหมื่นดอก คนเห็นดอกบัวก็มักจะนึกถึงพระรัตนตรัยไว้ก่อน ดอกบัวบ้านเราสมัยนี้ก็เพี้ยนไปเยอะ เพราะมีพันธุ์ผสมออกมา

บ้านเราแต่เดิมมีพวกบัวหลวง บัวผัน บัวเผื่อน บัวสาย บัวหลวงสีขาวเรียกว่าปุณฑริกา บัวหลวงสีแดงเรียกว่าปัทมา บัวสายสีขาวเรียกว่าโกมุท บัวสายสีแดงเรียกว่าสัตตบุษย์หรือสัตตบรรณ บัวเผื่อนสีเหลืองเรียกว่าจงกลนี บัวเผื่อนสีน้ำเงินเรียกว่านิลุบล แยกกันออกหรือเปล่า ? มาตอนหลังกลายเป็นพันธุ์ผสมหมด

แล้วก็มีบัวกระด้ง เรียกว่าบัววิกตอเรีย หนามเพียบ ใบใหญ่เป็นกระด้ง เอาเด็กไปวางนอนเล่นได้ แต่ใต้ใบหนามเยอะมาก พอใบแก่หน่อยหนามข้างล่างแข็งชนิดที่ใครลุยเข้าไปไม่ได้เลย บัววิกตอเรียไม่ใช่บัวพื้นบ้านของเรา เป็นบัวทางอเมริกากลาง ทางโน้นแหล่งน้ำธรรมชาติมีปลากินพืชเยอะมาก ถ้าไม่มีหนามไว้รักษาตัวเอง ก็โดนปลากินหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2014 เมื่อ 04:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 21-08-2014, 13:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ครูบาเหนือชัยท่านเส้นโลหิตในสมองแตก เป็นอัมพาตไปครึ่งซีก ตอนที่ท่านเส้นโลหิตในสมองแตกแล้ว อาตมาไปเยี่ยม ไปดูเครื่องวัดความดัน ๒๐๕/๑๒๐ น่ากลัวมาก ขนาดแตกแล้วนะ ปกติความดันตัวล่าง ๙๐ ก็แย่แล้ว นี่ปาไป ๑๒๐ คิดว่าเครื่องรวนหรือเปล่า อาตมาก็กดให้เครื่องทำงานใหม่

ไม่ต้องสงสัย..อาตมาอยู่โรงพยาบาลมาเยอะ เฝ้าไข้โยมพ่อ ๖ ปี เฝ้าไข้โยมแม่ ๓ ปี เฝ้าไข้หลวงปู่มหาอำพัน ๔ ปี รวมแล้วอยู่โรงพยาบาลมา ๑๐ กว่าปี เครื่องไม้เครื่องมือใช้เป็นหมด ไปวัดใหม่ ปรากฏว่ายังเหมือนเดิม บอกพยาบาลว่าความดันสูงเกินไป พยาบาลเอายามาฉีดลดให้ อาตมาก็นึกว่าฉีดแล้วจะลด ที่ไหนได้..ลดนิดเดียว เห็นพยาบาลบอกว่า บางคนฉีดทั้งวันยังไม่ค่อยจะลด พอเห็นคนอื่นความดันสูง ๆ แล้วก็อิจฉาเขา เพราะของอาตมาไม่ค่อยจะสูงเท่าไร

เมื่อเดือนก่อนที่วัดมีบริจาคโลหิตถวายพระราชกุศลในหลวง เดินตรวจงานกลับมาใหม่ ๆ ก็ให้พยาบาลวัดความดัน วัดการเต้นของหัวใจ ปกติแล้วถ้าไปเดินหรือไปออกกำลังมา เขาจะไม่วัดให้ เพราะความดันจะสูง อาตมาวัดเสร็จสรรพเรียบร้อยออกมา ๑๐๒/๖๔ ก็เลยมีผู้หวังดีวัดชีพจรให้ ได้ ๕๗ ครั้งต่อนาที บอกเขาว่าถ้านั่งเฉย ๆ จะเหลือแค่หน่อยเดียว

พวกเราเป็นนักปฏิบัติ ถ้าตั้งใจทำกันจริง ๆ ถึงเวลากำลังใจทรงตัว ความดันหรือการเต้นของหัวใจจะลดลงโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะว่าถ้าทรงสมาธิระดับสูง ๆ เหลือแต่ลมหายใจละเอียด อาการภายนอกคนทั่ว ๆ ไปก็คิดว่าตายไปแล้ว มีอยู่เที่ยวหนึ่งอาตมาเดินคุยกับพระครูน้อยและปลัดเผื่อน ๒ คน อยู่ที่เกาะพระฤๅษี คนหนึ่งก็จับแขนขวา คนหนึ่งก็จับแขนซ้าย เดินคุยกันไปก็จับชีพจรไปด้วย สักพักหนึ่งทั้งสองคนก็หัวเราะ "ไม่เห็นเต้นเลยครับ" "คุณกำลังคุยกับผีอยู่ คนตายแล้วยังเดินได้..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 21-08-2014, 13:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีพระที่วัดได้เอาพระพุทธรูปเก่าแก่ในวัดไปถวายให้.. ?
ตอบ : ถ้าขึ้นทะเบียนวัดแล้วแตะไม่ได้เลย ต่อให้พระทั้งวัดยกให้ก็ไม่ได้ เพราะพระพุทธรูปจัดอยู่ในส่วนของครุภัณฑ์ ครุแปลว่าหนัก ไม่สามารถยกย้ายจ่ายโอนได้

ถาม : เมื่อตอนถวายไปไม่คิดว่าเป็นพระทองคำ ?
ตอบ : จะทองคำหรือธรรมดาก็ไม่ได้ ของวัดท่าขนุนจะไม่ขึ้นทะเบียนพระพุทธรูป ขึ้นทะเบียนแล้วจำหน่ายจ่ายโอนไม่ได้ จำหน่ายคือเอาออกจากบัญชี ฉะนั้น..พอถึงเวลาวัดอื่นมาขอ อาตมาก็ให้เขาได้ ถ้าขึ้นทะเบียนเมื่อไรหมดสิทธิ์เลย พวกเครื่องมือก่อสร้างก็ถือเป็นครุภัณฑ์ ห้ามให้วัดอื่น เพราะถ้าถึงเวลาวัดตัวเองต้องใช้ เดี๋ยวจะไม่มี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 21-08-2014, 14:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พยายามเน้นให้พระท่านศึกษาในส่วนของอภิสมาจาร ก็คือศีลที่มานอกปาติโมกข์ให้มาก ๆ เพราะศีลในปาติโมกข์มี ๒๒๗ ข้อก็จริง แต่ศีลนอกปาติโมกข์มีอีกเป็นพัน ฉะนั้น..ใครบอกว่าพระรักษาศีล ๒๒๗ ข้อนี่ไม่จริงเลย เล่นกันเป็นพันข้อ

พระวัดท่าขนุนสึกไปรูปหนึ่ง เพราะว่ารักษาศีลไม่ไหว เขาบอกว่าศีลตั้ง ๒๑,๐๐๐ ข้อ เขารักษาไม่ไหวหรอก เนื่องจากว่าตอนที่พระครูแสงเป็นพี่เลี้ยง ท่านไปอธิบายเรื่องศีล แล้วด้วยความที่ท่านเป็นนักศึกษาปริญญาโทมา ก็โยงเรื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน พระวินัยปิฎกคือในส่วนของศีลพระมี ๒๑,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ พระท่านฟังไม่ถนัด ท่านคิดว่ามีศีล ๒๑,๐๐๐ ข้อ ท่านสึกไปเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 21-08-2014, 14:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ต้องโทษครูบาอาจารย์ อย่างวัดท่าขนุนใช้ระเบียบโบราณ คือพระถ้ายังไม่ถึง ๕ พรรษายังไม่ให้ไปอยู่ที่อื่น แปลว่าถ้าคุณจะบวชที่นี่ ต้องกัดฟันทนอย่างน้อย ๕ พรรษา ถ้า ๕ ปีผ่านไปแล้วความประพฤติยังไม่น่าไว้วางใจก็ไม่ให้ไป แต่คราวนี้พระอุปัชฌาย์อาจารย์สมัยใหม่ ส่วนใหญ่แล้วบวชเสร็จแล้วก็ทิ้งเลย ไม่อบรมสั่งสอน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-08-2014 เมื่อ 15:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 22-08-2014, 11:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คนสมัครบวชงาน ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย ให้มาซ้อมขานนาค ไม่ควรขาด ถ้าขาดแล้วไปไม่เป็น มีสิทธิ์โดนไล่ออกจากโบสถ์ ไม่ได้บวช..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2014 เมื่อ 14:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 22-08-2014, 12:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เอาพระพุทธรูปไปฝัง เหมาะหรือไม่คะ ?
ตอบ : ต้องดูว่าลักษณะพื้นที่เป็นอย่างไร อย่างของวัดท่าขนุน เวลาสร้างฐานพระหรือสร้างอาคารที่เพดานปิดมิดชิดแข็งแรง ก็จะเอาพระพุทธรูปที่รับสังฆทานไปบรรจุเอาไว้ ไม่อย่างนั้นพระสังฆทานโดยเฉพาะรุ่นหลัง ๆ ต้องบอกว่าเห็นแก่ตัวมาก คือวัสดุไม่มีราคาและไม่แข็งแรง ปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นปูนปลาสเตอร์ลงสี ถ้าดูแลไม่ดีนอกจากสกปรกไม่น่าเลื่อมใส กลายเป็นที่สลดใจแล้ว ยังแตกหักได้ง่าย ก็จะเอาไปบรรจุไว้ในฐานพระใหญ่ เพื่อที่ว่าจะได้กราบไหว้บูชา แต่ที่เอาไปฝัง ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีเจตนาอะไร ?

ถาม : เขาบอกว่าถ้าไม่ฝังจะตรัสรู้ที่ไหน นอกจากใต้ต้นโพธิ์ ?
ตอบ : สงสัยเหมือนกันแหละว่าวัดนั้นใครสอนมา อย่างของวัด.... ที่ให้ลูกศิษย์ทุบพระพุทธรูป ถ้าที่เป็นโลหะก็หลอมไปชั่งกิโลไปขาย รับรองว่าไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดอีกนาน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2014 เมื่อ 14:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 22-08-2014, 13:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ระยะหลัง ๆ พระพุทธศาสนาของเรามีเรื่องเพี้ยน ๆ เข้ามาเยอะ เหตุที่เป็นอย่างนั้นเพราะบรรดาร่างทรงจริงบ้าง ทรงปลอมบ้าง รู้จริงบ้าง รู้ไม่จริงบ้าง ปนกันมั่วไปหมด โดยเฉพาะวัดวาอารามต่าง ๆ ไปเอาเทพเจ้าของฮินดูบ้าง มหายานบ้าง เข้ามาเต็มไปหมด อย่างเจ้าแม่กวนอิม พระพิฆเณศวร์ เต็มวัดไปหมด

เรื่องพวกนี้พอปนเข้ามาก็ทำให้สับสน อาตมาเองสร้างสมเด็จองค์ปฐมองค์ใหญ่ไว้หน้าวัด เพื่อที่จะให้เขากราบไหว้บูชากัน ปรากฏว่าสมเด็จองค์ปฐมของอาตมากลายเป็นเจ้าพ่อไปเรียบร้อยแล้ว รถผ่านกี่คันบีบแตรแปร๊น ๆ แล้วก็ไป นึกเอาก็แล้วกันว่าเจตนาผิดไปขนาดไหน อุตส่าห์ลงทุนไปเป็น ๑๐ ล้านบาท ดันเห็นพระพุทธเจ้าเป็นเจ้าพ่อไปได้..!

เรื่องพวกนี้ พอมีขึ้นมา ทำให้เห็นชัดว่า ในเรื่องของศาสนานั้น ยิ่งนานก็ยิ่งห่างไกลไปจากแก่นแท้ ฉะนั้น..ไม่ต้องหวังเลยว่าการปฏิบัติจะถูกหลัก ไม่อย่างนั้นจะมีการนิมนต์พระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ใหม่หรือ..?

หลายต่อหลายคนบอกว่า ทำไมไม่สร้างรูปหลวงพ่อฤๅษีให้ใหญ่ที่สุดในโลก ? อาตมาไม่อยากสร้างหลวงพ่อให้กลายเป็นเทพเจ้า เราสร้างเอาไว้ให้เขากราบไหว้ ระลึกถึงเป็นอนุสติ แต่พวกนี้ไปถึงก็จุดธูปบน ลองนึกดูสิว่าเป็นอย่างไร ? เราตั้งใจจะเอาถึงพระนิพพานเลย พวกนี้เขาเอาแค่ปัจจุบันเท่านั้นแหละ เดือนร้อนอะไรมาถึงก็บนอย่างเดียวเลย กลายเป็นเรื่องที่หัวเราะไม่ออก ร้องไห้ไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2014 เมื่อ 14:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 22-08-2014, 13:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ปีนี้ปฏิทินผิดทั้งประเทศไทยเลย เท่าที่ค้นเจอมีอยู่เว็บเดียวที่ถูก เนื่องจากว่าปีนี้เป็นปีอธิกวาร เดือน ๗ จะมีข้างแรม ๑๕ ค่ำ แต่ว่าเขาไม่มีกัน ตั้งแต่แรม ๑๔ ค่ำเดือน ๗ ปฏิทินก็ผิดตลอด แล้วทุกวันนี้อาตมาก็ต้องผิดตามเขา เพราะถ้าไม่ผิดตามเขา ช่วงวันพระในพรรษาชาวบ้านจะไม่มาทำบุญตามวันที่ถูก เขาจะทำบุญตามวันที่ผิด เพราะปฏิทินลงไว้อย่างนั้น

อยากรู้ว่าปีหน้าเขาจะทำอย่างไรให้ถูก ปีหน้ามีเดือน ๘ สองหน ปีนี้ต้องมีวันเพิ่มมาอีกวันหนึ่งเพื่อให้พอที่จะมีเดือน ๘ สองหน ถ้าดูตามปฏิทินร้อยปียังไม่ผิด แต่ดูตามปฏิทินที่ออกมาใช้งานนี่ผิดหมดเลย เพราะว่าเดี๋ยวนี้สิ่งที่เผยแพร่ก็คืออินเตอร์เน็ต ซึ่งอินเตอร์เน็ตนี่พอผิดแล้ว คนคัดลอกต่อกันไปก็ผิดตามกันไปเรื่อย กลายเป็นผิดไปหมด อาตมาเจอมาเยอะต่อเยอะแล้ว ค้นข้อมูลบางอย่างแล้วผิด ไปดูอีกกี่อันก็ผิด สรุปแล้วผิดที่เดียวกันด้วย แสดงว่าเขาคัดลอกต่อ ๆ กันไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2014 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 22-08-2014, 13:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วิธีแก้ความอาย ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วถ้าหากว่าเราตั้งใจปฏิบัติใน ศีล สมาธิ ปัญญา จะเกิดความมั่นใจในตัวเองขึ้น เพราะว่าคุณความดีที่เราทำเป็นของดีแท้ พอเราเกิดความมั่นใจในตนเองขึ้น ความขี้อายก็จะหายไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2014 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 22-08-2014, 13:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นั่งสมาธิวันละ... มากไปหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่มีคำว่ามาก ส่วนใหญ่ที่ทำในปัจจุบันไม่พอใช้ด้วยซ้ำไป

ถาม : ควรจะวันละกี่ชั่วโมง ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจละกิเลสก็ต้องวันละ ๒๔ ชั่วโมง

ถาม : ๒๐ ชั่วโมงได้ไหมครับ ?
ตอบ : แล้วคุณคิดว่ากิเลสกินคุณวันละ ๒๐ ชั่วโมงหรือ ?

ถาม : เวลานั่งต้องมีสติ
ตอบ : ต่อให้ไม่นั่งก็ต้องมีสติ

ถาม : นั่งสมาธิแล้วต้องเดินจงกรมไหมครับ ?
ตอบ : จะเดินหรือไม่เดินก็ได้ แต่สมาธิต้องทำไว้เสมอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-08-2014 เมื่อ 14:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 22-08-2014, 14:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีลูกศิษย์พาลูกแฝดชายหญิงมาหา พระอาจารย์กล่าวว่า "ถึงจะเป็นฝาแฝดก็ตาม แต่ผู้หญิงจะโตเร็วกว่า เรื่องนี้โบราณเขารู้ดี โบราณเขากำหนดให้เด็กผู้หญิงโกนจุกตอน ๑๑ ขวบ เด็กผู้ชายโกนจุกตอนอายุ ๑๓ ขวบ แสดงว่าเด็กผู้หญิงโตเร็วกว่า ๒ ปี

ในพระอภัยมณีเขาว่า "อันกุมารศรีสุวรรณนั้นเป็นน้อง เนื้อดั่งทองนพคุณจำรูญศรี เพิ่งโสกันต์ชันษาสิบสามปี ชนนีรักใคร่ดังนัยนา" ศรีสุวรรณเพิ่งจะโกนจุกตอน ๑๓ เด็กผู้หญิงโกนจุกตอน ๑๑ ถ้าเป็นในรั้วในวัง พอ ๑๑ ขวบก็ห้ามออกมาข้างนอกแล้ว ต้องเก็บเนื้อเก็บตัวอยู่วังหลัง คราวนี้มีสมเด็จเจ้าฟ้าสุธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร์ พระองค์ท่านทำหน้าที่เหมือนเป็นเลขานุการส่วนพระองค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมาตั้งแต่แรก

พออายุ ๑๑ ก็มีคำสั่งต้องไปเก็บตัวอยู่ฝ่ายใน พระองค์ท่านไม่ยอม จะช่วยงานทูลกระหม่อมพ่อต่อ คนอื่นก็คิดว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะธรรมเนียมเป็นอย่างนี้ ปรากฏว่าพระองค์ท่านฉลาดกว่า เข้าไปหาในหลวงรัชกาลที่ ๕ ขอให้สั่งให้ท่านเป็นเด็ก ในหลวงรัชกาลที่ ๕ ตรัสว่าจะสั่งได้อย่างไร เพราะคนต้องโตขึ้นไปเรื่อย พระองค์ท่านกราบทูลว่า "ทูลกระหม่อมพ่อเป็นทั้งเจ้าฟ้าเป็นทั้งเจ้าแผ่นดิน เพราะฉะนั้น..ต้องสั่งได้" สั่งอย่าให้ท่านต้องเป็นสาว จะได้ช่วยงานทูลกระหม่อมพ่อที่ฝ่ายหน้าได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ตัวเล็ก : 22-08-2014 เมื่อ 21:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 23-08-2014, 13:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นอนไม่หลับค่ะ
ตอบ : ให้ตั้งใจว่าไม่หลับได้แหละดี เราจะภาวนาให้เยอะเลย รับประกันว่าพักเดียวก็หลับ อาตมาเองยังสงสัยว่าตัวเองแก่เกินแกงหรือตัวเองไม่มีกังวลกันแน่ นอนเมื่อไรเป็นหลับ ทุกวันนี้ต้องคอยบอกตัวเองให้ตื่น

วิธีแก้การนอนไม่หลับมี ๒ วิธี วิธีแรกไปซื้อแกงขี้เหล็กมาหนึ่งถุง แล้วก็กินคนเดียวให้หมดเลย พอหาจะได้ไหม ? วิธีที่ ๒ คือไปหาต้นไมยราบ ต้นสีม่วงแดงที่แตะแล้วใบหุบ บางคนเรียกว่าต้นกระทืบยอบ ถอนมาสัก ๗ -๘ ต้น ล้างทั้งต้นทั้งรากให้สะอาด ใส่หม้อต้มกับน้ำหนึ่งหม้อแล้วกินแทนน้ำ อย่ากินเยอะนะ ไม่อย่างนั้นจะหลับไม่ค่อยตื่น ถ้าเป็นแกงขี้เหล็กก็หาที่อร่อย ๆ กินไปเลย แต่กินแกงขี้เหล็กแล้วตื่นสายไม่ได้ เพราะต้องรีบเข้าห้องน้ำ เขาไม่เรียกว่าท้องร่วงหรอก เขาเรียกว่ายาระบาย แต่รับประกันเรื่องหลับ..หลับแน่นอน

เมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ยังอยู่ที่เกาะพระฤๅษี มีพระที่นอนไม่หลับ ก็ให้ท่านไปเอาต้นขี้เหล็กมาสับ ๆ ตากให้แห้ง ท่านบอกว่าเข้าพรรษาจะตากแห้งได้อย่างไรเพราะมีแต่ฝน เลยให้เอาไปคั่วไฟ พอแห้งแล้วเอามาชงน้ำกิน ท่านบอกว่าได้ผล หลับแต่ขี้แตก..! เป็นยานอนหลับแบบไทย ๆ ที่ไม่อันตรายด้วย ไม่ต้องไปติดยานอนหลับฝรั่ง ยานอนหลับฝรั่งถ้าไม่กินจะนอนไม่หลับ ของเรากินแล้วผ่อนคลายประสาท พอเราพักผ่อนพอ ต่อไปก็หลับเองได้ ไม่ต้องใช้ยาอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2014 เมื่อ 14:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 23-08-2014, 13:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,223 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมายังไม่เคยกินยานอนหลับ ยังไม่เคยโดนวางยาสลบ หวังว่าคงจะไม่เคยต่อไป มีฝรั่งหลายคนที่เขาโดนวางยา แต่เขาไม่ได้สลบ เขาหลับ แสดงว่าสภาพจิตเขาตื่นอยู่ เขาบอกเขารู้ตัวตลอดเวลาที่โดนผ่าตัด เจ็บจนบอกไม่ถูก แต่ไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้ เพราะร่างกายหลับ มีบันทึกเอาไว้หลายราย เลยมาคิดว่าถ้าวันร้ายคืนร้าย อาตมาเองโดนวางยาจะเป็นลักษณะนี้หรือเปล่า ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-08-2014 เมื่อ 14:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:41



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว