กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #41  
เก่า 14-01-2012, 11:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การภาวนา คืออะไร ?
ตอบ : ภาวนาแปลว่าทำให้เจริญ อะไรที่ทำให้จิตของเราห่างไกลจากรัก โลภ โกรธ หลง จัดเป็นการภาวนาทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2012 เมื่อ 18:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #42  
เก่า 14-01-2012, 11:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทีแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะถือศีล ๘ แต่ได้ยินพระท่านให้ศีลจึงพนมมือรับ แล้วถ้าผมกินข้าวเย็นจะผิดไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าคุณตั้งใจรับศีลถือว่าผิดสัจจะ ถ้าไม่ได้ตั้งเจตนาไว้ก่อน รับเอาไว้ก็ถือว่าเป็นส่วนของกุศล เพราะว่าจะทำมากหรือทำน้อย อานุภาพศีล ๘ ย่อมมากกว่าศีล ๕ อยู่แล้ว

ถาม : ถือศีล ๘ ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้หรือครับ ?
ตอบ : จะมากหรือน้อยก็ได้ ไม่กี่นาทีก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2012 เมื่อ 18:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #43  
เก่า 14-01-2012, 12:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมควรจะทำ เพื่อให้ลูกสาวสนใจทางนี้ครับ ?
ตอบ : ทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างให้เขาเห็นทุกวัน ถึงเวลาก็สวดมนต์ไหว้พระ นำเขาไปทำด้วย เขาจะรู้เรื่องไม่รู้เรื่องก็นำเขาทำ เดี๋ยวเขาก็คล้อยตามไปเอง

การปลูกฝังต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก ๆ อาตมาเองยังไม่รู้ภาษา หลับคอพับคออ่อนอยู่ พ่อพาไปสวดมนต์ทุกวัน หลับอยู่ก็ได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง ท้ายสุดจำได้หมด พอเข้าเรียนป.๑ ครูเห็นสวดมนต์ได้ตั้งเยอะแยะก็เลยให้เป็นหัวหน้าชั้นไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2012 เมื่อ 18:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #44  
เก่า 14-01-2012, 12:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีคนเขาสงสัยว่าพระทันตธาตุของพระพุทธกัสสปที่เอามาให้นมัสการ สมัยพระพุทธกัสสปผ่านมานานขนาดนั้นยังมีพระธาตุอยู่อีกหรือครับ ?
ตอบ : พระธาตุของพระพุทธกัสสปยังไม่ไกลนะ ของสมเด็จองค์ปฐมยังมีอยู่เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2012 เมื่อ 18:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #45  
เก่า 14-01-2012, 12:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานที่ไปสนามหลวง เห็นพวกดาราแล้วนึกถึงเรื่องหนึ่ง จะว่าขำก็ขำ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นเหมือนเราหรือเปล่า ? แต่เขาต้องรู้สึกอย่างเดียวกับเราแน่ ๆ เลย

ก็คือการที่ไปไหนแล้วต้องสวยอยู่ตลอดเวลา นี่เหนื่อยน่าดูเลย เราว่าเขาเองอาจจะไม่เห็นตรงนี้ แต่เขาเองต้องรู้สึก คือเขารู้สึกว่าเขาเหนื่อย แต่เขาต้องทำ ทำอย่างไรจะให้สวยอยู่ตลอดนี่คงเหนื่อยน่าดู"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2012 เมื่อ 18:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #46  
เก่า 14-01-2012, 12:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนพูดถึงข้าวของว่าราคาแพงขึ้น พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "ขึ้นไปเลย ขึ้นให้เยอะ ๆ เพราะถ้าราคาไม่แพงจริงคนไทยจะไม่รู้ตัวหรอก ตอนน้ำมันขึ้น ๒๐ กว่าบาท รถเหลือบนถนนอยู่หน่อยเดียว ไป ๆ มา ๆ คนไทยชักตายด้าน รถเริ่มเต็มถนนอีกแล้ว เพราะฉะนั้น..ขึ้นได้ขึ้นไปเยอะ ๆ จะให้สมเหตุสมผลต้องสักลิตรละ ๖๐ บาท

บ้านเราส่วนใหญ่นักการเมืองมักจะทำงานโดยอิงคะแนนเสียงชาวบ้าน ก็เลยไม่มีใครกล้าทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมจริง ๆ เพราะกลัวเสียคะแนน ถ้าเป็นอาตมาก็ทำเอาสะใจ งานเดียวจบเลย ถึงครั้งหน้าคุณไม่เลือกผมก็ช่าง ขอให้ประเทศชาติดีก็แล้วกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2012 เมื่อ 18:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #47  
เก่า 14-01-2012, 12:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีนายทหารจากเหล่าพลาธิการมาทำบุญ พระอาจารย์ถามว่ายังมีการผลิตรองเท้าเบอร์ ๑๒ อยู่อีกหรือไม่ ? แล้วเล่าให้ฟังว่า "ทหารรุ่นอาตมามีคนที่ตัวใหญ่บึ้กเลย เพื่อน ๆ เรียกกันว่า "ไอ้ยักษ์" ชื่อศิลปชัย บำรุงกิจ กับ ฉลอง ไพรงาม เวลาแข่งกีฬา ท.บ. จะลงวอลเลย์บอล คู่นี้ยืนคู่หน้าเมื่อไร คู่ต่อสู้หนาว เพราะเขาไม่ต้องกระโดดเลย แค่ยื่นมือตบอย่างเดียว พอฝ่ายตรงข้ามเซ็ตลูก เขาก็ยื่นมือตบได้เลย กลายเป็นอีกฝ่ายเซ็ตลูกใส่มือให้

ไอ้ยักษ์เป็นทหารคนเดียวที่ดึงข้อที่บาร์เดี่ยวไม่ได้ พอเอามือจับบาร์ คางก็เกยพอดี จึงไม่สามารถที่จะดึงข้อเหมือนคนอื่นได้ ครูฝึกบอกให้เปลี่ยนไปวิดพื้น ๑ ล้านครั้ง ใช้หนี้ทุกครั้งที่เจอ เขาก็มารายงาน “ตามคำสั่งของครูฝึก ให้กระผม..นักเรียนนายสิบศิลปชัย บำรุงกิจ วิดพื้น ๑ ล้านครั้ง ขออนุญาตใช้หนี้ ๕ ครั้งครับ..!” แล้วก็วิดพื้นไป ๕ ครั้ง แบบนี้ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด เจอหน้าทุกครั้งให้ใช้หนี้ “ตอนนี้กระผมได้วิดพื้นไปแล้วทั้งหมด ๒๐ ครั้ง เหลืออีก ๙๙๙,๙๘๐ ครั้งครับ..!”

ทหารมีอะไรที่ตลกสำหรับคนนอก แต่คนที่เจอข้างในบางทีก็หัวเราะไม่ออก จะไปสนุกตอนเล่าให้คนอื่นฟังนี่แหละ อาตมาว่าเท้าตัวเองใหญ่แล้วนะ ยังใส่รองเท้าแค่เบอร์ ๗ ส่วนไอ้ยักษ์ใส่เบอร์ ๑๒..! หารองเท้าจนหมดคลังก็ไม่ได้ ต้องขอให้ทางพลาธิการตัดพิเศษให้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 15-01-2012 เมื่อ 11:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #48  
เก่า 14-01-2012, 13:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถั่วลาชมาศหน้าตาเป็นอย่างไรหรือครับ ?
ตอบ : ถั่วเขียวแกะเปลือกคั่ว ถั่วเขียวที่เขาเอาไว้ทำเต้าส่วนนั่นแหละ

ถาม : หาซื้อได้ที่ไหนครับ ?
ตอบ : ตลาดมีขายเป็นกุรุส ที่เขาขายไว้ทำเต้าส่วน เคยเห็นไหม ? หรือไม่เคยกินเต้าส่วนอีก เป็นถั่วเขียวแกะเปลือก เราจะเห็นเป็นเหลือง ๆ
ลาชะแปลว่าข้าวตอก มาศแปลว่าทอง ข้าวตอกทองก็คือถั่วเขียวคั่วสุก คั่วให้สุก..ไม่ใช่ให้ไหม้..!

ถาม : แล้วขนมต้มขาว ขนมต้มแดงล่ะครับ ?
ตอบ : ขนมต้มธรรมดาคือขนมต้มขาว ขนมต้มแดงจะเป็นแป้งที่เขาบี้แบน ๆ แล้วเคี่ยวน้ำตาลราดลงไปก็เลยเป็นสีแดง ความจริงเป็นสีน้ำตาลเข้มมากกว่า

ถาม : ต้องจัดของครบทั้ง ๔ ทิศไหมครับ ?
ตอบ : ต้องดูว่าเราตั้งโต๊ะใหญ่หรือโต๊ะเล็ก ถ้าโต๊ะเล็กก็ไม่ต้องครบ ๔ ทิศ ถ้าโต๊ะใหญ่ก็ต้องครบ

ถาม : ผมจะเอาธงพิชัยสงครามไปติดแทนรูปพระภูมิได้ไหมครับ ?
ตอบ : ทำได้..ถึงเวลาขออนุญาตท่านติดธงพิชัยสงคราม อย่างอาตมาเป็นพระ เวลาไหว้เทวดาท่านจะไม่ยอมรับ จึงต้องหาวัตถุที่ไหว้ได้ไปใส่แทน ถึงเวลาจะได้นึกถึงท่านไปด้วย เหมือนกับศาลเจ้าที่ของบ้านวิริยบารมี อาตมาเอาพระไปตั้งไว้ เวลาไหว้พระก็เท่ากับไหว้ท่านไปด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วเทวดาท่านไม่ยอมรับ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2012 เมื่อ 18:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #49  
เก่า 15-01-2012, 09:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็กรุ่นหลัง ๆ ไม่รู้ว่าทำไมพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย จึงทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับในหลวง ที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ ไม่ให้ความสำคัญกับในหลวง เพราะว่ารุ่นของเขาไม่เคยผ่านความทุกข์ยากลำบากมา เหมือนกับรุ่นพ่อรุ่นแม่

ถ้าเขาได้ผ่านช่วงสงครามโลก สงครามมหาเอเชียบูรพา เขาจะรู้ว่าในระหว่างประเทศชาติวิกฤตขนาดนั้น ศูนย์รวมใจเพียงหนึ่งเดียวของเราคือในหลวง ในระหว่างที่ประเทศชาติเกิดความแตกแยกทางความคิด ฝ่ายหนึ่งเข้าป่าจับอาวุธ อีกฝ่ายหนึ่งอยู่ในเมือง พระองค์ท่านทำจนกระทั่งเขาเปลี่ยนความคิด จากศัตรูกลับมาร่วมกันพัฒนาประเทศชาติได้

ในช่วงที่เผด็จการทหารครองเมือง ถึงเวลาชาวบ้านและนักศึกษาประท้วงก็โดนปราบโดนฆ่า พระองค์ท่านก็สามารถระงับเหตุทั้งหลายเหล่านั้นลงได้

บรรดาชาวเขาที่ปลูกฝิ่นเป็นอาชีพเพราะว่าทำเงินให้กับเขาได้ เนื่องจากว่าปลูกมาก็มีคนซื้อ พระองค์ท่านก็ไปเปลี่ยนเป็นการปลูกพืชผลในพื้นที่สูง จนกระทั่งมีฐานะมั่นคง มีโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ออกมา ทำให้พวกเขาอยู่กินกันได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยยาเสพติด

ดังนั้น..คนรุ่นนั้นจะเห็นชัด ๆ ว่าในหลวงสร้างคุณประโยชน์มหาศาลเพื่อประเทศชาติและประชาชนขนาดไหน ก็จะเกิดความเคารพขึ้นมาเอง เกิดความรักขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องเสียเวลาไปปลุกใจ ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกร้อง แต่ว่าเด็กรุ่นใหม่ ๆ เขาไม่ได้ผ่านสภาวะประเทศชาติที่เป็นอย่างนั้นมาก่อน ต่อให้เกิดปี ๒๕๓๕ ที่ประเทศชาติเกิดวิกฤตครั้งสุดท้าย ปีนี้เขาก็อายุ ๒๐ ปีโดยไม่เคยเห็นเรื่องเหล่านั้นมาก่อนเลย

เพราะฉะนั้น..เด็กรุ่นหลังจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ถึงได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับในหลวงได้ขนาดนั้น ต้องบอกว่าคนรุ่นหลังนี้เสียชาติเกิดจริง ๆ..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 10:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #50  
เก่า 15-01-2012, 09:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ที่ขำ ๆ กว่านั้นก็คือ หลวงปู่หลวงพ่อรุ่นครูบาอาจารย์เก่า ๆ เป็นพระเถระ ๔-๕ แผ่นดิน เพราะถ้าเกิดช่วงรัชกาลที่ ๖-๘ ก็ไม่กี่ปี ยิ่งไปเจอหลวงปู่สีเป็นพระเถระตั้ง ๕ แผ่นดิน มารุ่นของอาตมานี่ต่อให้อายุ ๖๕ แล้วก็ยังแผ่นดินเดียว เพราะในหลวงทรงครองราชย์มาเป็นปีที่ ๖๖ แล้ว

ต่างประเทศเขารู้และเห็นคุณค่าของในหลวงมากกว่าพวกเราหลายเท่า พวกเราเหมือนหนูอยู่บนกองข้าวสาร จึงไม่เห็นคุณค่า วันไหนไปเป็นหนูในทะเลทราย กว่าจะหาข้าวสารได้สักเม็ดหนึ่งไม่รู้ว่ากี่คืนกี่วันถึงจะเห็นคุณค่า แต่ก็อาจจะสายไปแล้วก็ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-01-2012 เมื่อ 02:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #51  
เก่า 15-01-2012, 10:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ภาวะน้ำท่วมที่ผ่านมา แต่ละคนคงมีผลสรุปกับตัวเองว่า มีสิ่งที่มีมากเกินในชีวิตของตนนั้นมีอยู่เยอะมาก จนกองพะเนินเทินทึกเลย ส่วนใหญ่แช่น้ำแล้วเสียหายหมด เอาไปขายของเก่าก็ไม่ได้

มีเรื่องหนึ่งที่เขาอาจจะทำได้จริง น่าเชื่อถือ แต่อาตมาก็ขอบอกว่าอย่าไปร่วมลงทุนกับพวกนี้ คือพวกที่เขาบอกว่า การนำเอาเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มาแปรรูปวงจรข้างใน ที่มีส่วนผสมของพวกทองพวกเงินอยู่ เสร็จแล้วมาแยกโลหะธาตุทั้งหลายเหล่านี้ออกมาขายต่างหาก จะทำกำไรมหาศาลให้ จึงมาชักชวนเราไปร่วมลงทุนด้วย การชวนให้ลงทุนด้วย ก็อาจจะให้ลงหุ้นเป็นเงินตรง ๆ หรืออาจชักชวนไปซื้อที่ดิน ๑,๐๐๐-๒,๐๐๐ ไร่ เพื่อสร้างโรงงานมหึมาที่จะทำเรื่องนี้ให้ครบวงจร

ถ้าได้ยินก็ให้รู้ไว้เลยว่ากำลังจะซวยแล้ว บอกเขาไปเลยว่าถ้าดวงฉันจะรวยง่ายขนาดนั้น ก็รวยไปนานแล้ว เป็นความจริงที่ว่าวงจรของเครื่องรับวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ จะประกอบด้วยโลหะธาตุมีค่าต่าง ๆ แต่มีน้อยมากขนาดเท่าขี้ตายุง ต้องใช้กี่แสนกี่ล้านเครื่องกว่าที่จะรวมกันแล้วมีมูลค่าทางการตลาดเพียงพอที่จะทำกำไรได้ ?

แต่คนเราพอได้ยินว่าราคาเท่านั้นราคาเท่านี้ เป็นตัวเลขมหาศาลก็จะเกิดความโลภอยากได้ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ทำให้กลายเป็นเหยื่อเขาได้ง่าย ถึงเวลาเขาชักชวนให้ลงทุนก็ควักกระเป๋าไป ดีไม่ดีก็ชักชวนพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ลงทุนคนละสองแสนสามแสนบาท ด้วยความหวังที่ว่า อีกไม่กี่เดือนก็คืนทุน แถมมีกำไรอีกมหาศาล

ลองถามพวกนี้สักหน่อยสิว่า ถ้ารวยขนาดนั้นทำไมไม่ไปชักชวนพี่น้องเพื่อนฝูงของคุณทำ ? ทำไมต้องมาชวนเราด้วย ? เขาก็จะบอกว่าเราเป็นคนมีบุญบารมี จะช่วยหนุนเสริมดวงของเขาได้ แบบนี้แทนที่จะเป็นวิทยาศาสตร์ก็กลายเป็นไสยศาสตร์ไปเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 10:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #52  
เก่า 15-01-2012, 10:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ฟังแล้วคิดให้ดี ๆ อย่าให้ความโลภบังหน้า จุดอ่อนของคนก็คือ รัก โลภ โกรธ หลง เขาก็จะใช้ตรงจุดนี้แหละมาหลอกลวงเรา แบบเดียวกับที่กิเลสมารหลอก อย่างเรื่องตกทอง จนทุกวันนี้ก็ยังหากินกันได้ ทั้ง ๆ ที่เขารู้กันจนทั่วแล้วก็ยังหากินกันได้อยู่ดี

อยู่ ๆ ก็ไปเจอทองหนัก ๕ บาท เขาบอกว่าเราอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ก็ต้องมีส่วนได้ด้วย ทองตั้ง ๕ บาท จะแบ่งกันอย่างไร จะตัดก็น่าเสียดาย คุณมีทองติดตัวไหม ? ถ้ามีสร้อยมีแหวนสักบาทสองบาท เอาอันนั้นแหละมา แล้วคุณเอาทองเส้นใหญ่ ๕ บาทไป เราก็เห็นว่าทองที่เขาเจอ ๕ บาท ขณะที่ทองของเรา ๕๐ สตางค์หรือบาทเดียว ความโลภเริ่มบังหน้า ปัญญาชักจะเริ่มหมด อะไรจะมีน้ำใจขนาดนั้นนะ เขาเป็นคนเห็นแท้ ๆ เราแค่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ยังคิดจะแบ่งให้เรา

ล่าสุดมีคุณยายคนหนึ่งโดนหลอกให้ซื้อรางวัลที่ ๑ ไปหกแสนบาท ทั้ง ๆ ที่รางวัลที่ ๑ สองล้านบาท ยายไปเบิกไม่เป็น เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไม่ถูก ยายก็ควักเสียจนหมดธนาคารให้เขาไปหกแสนบาท แล้วก็ได้ล็อตเตอร์รี่ปลอมมา ๑ คู่ จะว่าปลอมก็ไม่ใช่ ของจริงนั่นแหละเพียงแต่ว่าเขาตัดเอาตัวเลขมาตัวหนึ่ง มาแปะให้ดูเหมือนรางวัลที่ ๑ เท่านั้นเอง ถ้าไม่ไปลูบ ๆ คลำ ๆ หรือส่องดูให้ดีก็เสร็จ

คุณยายพอรู้ว่าเป็นล็อตเตอร์รี่ปลอมก็เป็นลมไปเลย ยังโชคดีที่ไม่หัวใจวายตาย เงินเก็บที่จะเอาไว้ใช้ตอนแก่ติดปีกบินไปหมดแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 10:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #53  
เก่า 15-01-2012, 10:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จะว่าไปแล้วตรงนี้เกิดจากกรรมเก่า ในอดีตเราต้องเคยหลอกลวงฉ้อโกงเขามา พอมาถึงชาติปัจจุบันกรรมนี้ตามมาทันเราก็โดนบ้าง พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า อย่าประมาทว่ากรรมชั่วเพียงเล็กน้อยแล้วไปทำ ขณะเดียวกันก็อย่าประมาทว่ากรรมดีเพียงเล็กน้อยแล้วไม่ทำ เพราะว่าความดีความชั่วแม้เล็กน้อยแค่ไหนก็ตาม ถ้าถึงวาระ..กรรมนั้นก็ส่งผลเสมอ

เพราะฉะนั้นถ้ามีบางคนถามว่า พระพุทธศาสนาสอนว่าอะไร ? ถ้าเราตอบหลักธรรมชั้นสูงจนเกินไป บางทีเขาก็ไม่เข้าใจ มีหลักหนึ่งที่ตอบได้คือ สอนให้เชื่อกรรม มีเชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เชื่อการส่งผลของกรรม เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

เชื่อกรรม ก็คือ ทำ..แล้วถึงจะได้ เชื่อผลของกรรม ก็คือ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อการส่งผลของกรรม ก็คือ คุณดีในปัจจุบันนี้เพราะกรรมดีในอดีต คุณไม่ดีในปัจจุบันนี้เพราะกรรมไม่ดีในอดีต เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ก็คือ เชื่อว่าท่านรู้จริงแล้วเอามาบอกเรา

บาลีว่า กัมมสัทธา วิปากสัทธา กัมมสกตาสัทธา ตถาคตโพธิสัทธา ส่วนไทยเราว่า เชื่อกรรม เชื่อผลของกรรม เชื่อการส่งผลของกรรม เชื่อการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า บาลีฟังง่ายกว่าภาษาไทยอีก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 11:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #54  
เก่า 15-01-2012, 11:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "มีประเพณีอยู่อย่างหนึ่งที่อาตมาเห็นแล้วขำก็ขำ ทุเรศก็ทุเรศ คือการที่เอาข้าวปลาอาหารไปตั้งหน้าโลง แล้วก็เคาะก๊อก ๆ เรียก..พ่อกินข้าว..แม่กินข้าว..ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ไม่เคยเรียกหรอก ถ้าเป็นอาตมาอยู่ในโลง จะบอกว่า "เออ..ตั้งไว้ตรงนั้นแหละ" เจอแบบนี้ ดูซิว่าจะวิ่งไหม..!

เพราะฉะนั้น..ให้รีบทำดีกับพ่อแม่ตั้งแต่ตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านจะได้เกิดความปลื้มใจชื่นใจว่าลูก ๆ มีความรัก มีความกตัญญูต่อท่าน ไม่ใช่ว่าพอตายแล้วค่อยไปเคาะโลง ถ้าเจอผีขี้รำคาญอย่างอาตมาก็คงได้วิ่งกันกระจายทั้งศาลา..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #55  
เก่า 15-01-2012, 12:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีความรู้สึกว่า ...(ไม่ได้ยิน)...
ตอบ : เรื่องปกติ เน้นลมหายใจเข้าออก ถ้าสมาธิทรงตัวถึงระดับปฐมฌานละเอียดขึ้นไปถึงจะพอใช้ได้ ไม่อย่างนั้นแล้วไม่พอ กว่าจะรู้ตัวก็โดน รัก โลภ โกรธ หลง ดึงไปไกลแล้ว รู้ตัวก็ให้เร่งทำไว้ ไม่ใช่ว่ารู้ตัวแล้วก็ไปนั่งดูเฉย ๆ ปล่อยให้กิเลสดึงเราไปทุกที

ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา สิ่งที่ต้องรีบสร้างไว้ เมื่อไม่มีศรัทธาก็ไม่คิดที่อยากจะปฏิบัติ ในเมื่อไม่มีศรัทธา วิริยะความพากเพียรก็น้อย เมื่อไม่มีความเพียรที่จะสร้างขึ้นมาสติก็ตั้งมั่นได้ยาก เมื่อสติไม่ตั้งมั่นสมาธิก็ไม่ทรงตัว เมื่อสมาธิไม่ทรงตัวปัญญาก็ไม่เกิด ปัญญาไม่เกิดก็ไม่รู้ว่าความศรัทธาต่อสิ่งที่เราทำนั้นดีอย่างไร วนเป็นงูกินหางอย่างนี้แหละ

ท่านบอกว่าเปรียบเหมือนรถที่เทียมม้า ๕ ตัว ศรัทธากับปัญญาต้องไปด้วยกัน วิริยะกับสมาธิต้องไปด้วยกัน สติต้องนำหน้า เมื่อสตินำหน้า อีก ๒ คู่ตามหลังมาก็สามารถที่จะนำรถไปได้ดี ถ้าสลับผิดที่ผิดทางเมื่อไรก็มั่วไปหมด

ถาม : พยายามรักษาศีลเป็นเรื่องปกติ แต่ยังมีความรู้สึกหนัก
ตอบ : ถ้ายังหนักอยู่ แปลว่ากำลังใจของเรา สติสมาธิของเรา ยังไม่ค่อยได้อยู่กับศีล ยังเลื่อนไหลไปด้านอื่นอยู่มาก เราต้องคอยบังคับให้อยู่กับร่องกับรอย

ถ้าหากว่าเรามีสติสมาธิเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับศีล แค่ขยับตัวก็รู้แล้วว่าศีลจะขาดหรือไม่ ถ้าถึงเวลานั้นก็เบาสบาย ไม่ต้องเสียเวลาไปไล่ตามกันอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 13:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #56  
เก่า 15-01-2012, 12:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับญาติโยมที่มาลาไปอเมริกาว่า "ระยะนี้ดินฟ้าอากาศแปรปรวนมาก ทางประเทศตะวันตกมีพวกพายุทอร์นาโดเพิ่มมากเป็นพิเศษ จากที่เคยมีปีละไม่กี่ลูก ก็เพิ่มมากขึ้นมาเป็นเท่าตัว

ไปที่ไหนก็อย่าลืมสวดมนต์ไหว้พระ ขอบารมีพระท่านคุ้มครอง ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนบารมีของพระท่านก็ไปถึงอยู่แล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 13:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #57  
เก่า 15-01-2012, 13:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๕ นี้ มีงานพุทธาภิเษกและเป่ายันต์เกราะเพชร หลายต่อหลายรายมาขออนุญาตเอาวัตถุมงคลมาเข้าพิธี อาตมาไม่เคยหวงห้าม แต่จะมีปัญหาทีหลังทุกครั้ง พอถึงเวลาแล้วญาติโยมบางส่วนที่พบเห็นวัตถุมงคลชนิดนั้น ก็จะวิ่งไปเอาที่วัดท่าขนุนซึ่งไม่มีให้

ใครจะทำบุญไม่ได้ห้าม ใครจะเอาของมาเข้าพิธีไม่ได้ว่า แต่เวลาเอาของไปบอกบุญต่อ หรือเอาไปแจกเขา ให้บอกให้ชัดด้วยว่าทางวัดไม่ได้ทำ ไม่ใช่ว่าให้เขาวิ่งไปหาที่วัดอยู่ประจำ พอไม่มีเขาก็ไม่พอใจเพราะว่าเดินทางมาไกล"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 13:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #58  
เก่า 15-01-2012, 13:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"จากการเป่ายันต์เกราะเพชรที่ผ่าน ๆ มา มีญาติโยมจำนวนหนึ่งที่ไปโดนไสยศาสตร์มา พอไปเข้าพิธีแล้วหายจากอาการเหล่านั้น ก็ไม่ทราบว่าไปพูดต่ออย่างไร จนกลายเป็นว่าอาตมาเป็นผู้รักษาโรคพวกนี้ ทำให้มีคนหอบหิ้วกันมาให้รักษาอยู่เสมอ บางคนก็เดินทางมาไกล ๖๐๐-๗๐๐ กิโลเมตร

เพราะฉะนั้น..ขอประกาศบอกให้ทราบชัด ๆ เลยว่า อาตมาไม่มีความสามารถในการรักษาโรคพวกนี้ ที่เขาหายได้เพราะว่าไปร่วมพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร ซึ่งยันต์เกราะเพชรนั้นเป็นคู่ศึก เป็นสิ่งต่อต้านกับไสยศาสตร์โดยตรง

ถ้าหากว่าใครเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยไสยศาสตร์ให้ไปเข้าพิธีเป่ายันต์ฯ ไม่ต้องหามกันไปหาอาตมาอย่างที่ผ่าน ๆ มา ถึงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะอาตมารักษาไม่เป็น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 15-01-2012 เมื่อ 15:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #59  
เก่า 15-01-2012, 13:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "การส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของปีนี้ รู้สึกว่าทั้งหน่วยราชการและประชาชนมีความตื่นตัวมาก ในเรื่องของการรับปีใหม่วิถีพุทธ คือมีการสวดมนต์ข้ามปีและเจริญกรรมฐาน

สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องดี แต่ก็มีข้อผิดพลาดเพราะขาดการประสานงานกัน ในส่วนของกรุงเทพฯ ชาวบ้านส่วนใหญ่มาร่วมกันสวดมนต์ข้ามปีที่วัดสระเกศ แต่พอออกจากวัดมาหารถเมล์กลับไม่ได้ มีหลายร้อยคนต้องเดินข้ามสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่ฝั่งถนนอรุณอมรินทร์ ใช้คำว่าหลายร้อยคนเพราะเดินเหมือนกับเดินขบวนกันเลย

ทางราชการโฆษณาประชาสัมพันธ์สร้างความตื่นตัวให้กับชาวบ้าน แต่ไม่มีการจัดการขนส่งมวลชนมารองรับ เหมือนกับช่วงแรกที่เขาเห่อเรื่องบั้งไฟพญานาค รถติดอยู่ห่างจากตัวจังหวัดหนองคายเกือบ ๓๐ กิโลเมตร โฆษณาให้คนไปเป็นหมื่นเป็นแสนแต่ไม่มีที่จอดรถ ไม่มีที่พัก เอาแต่โหมโฆษณาอย่างเดียวโดยไม่มีแผนงานอื่นรองรับ

เรื่องที่จอดรถกับที่พักก็ยังพอทน แต่ห้องน้ำห้องส้วมจะไปหาที่ไหนเพราะคนเป็นหมื่น ๆ ที่ลำบากที่สุดก็บรรดาวัดวาอารามริมฝั่งโขง พอญาติโยมกลับกันไปทางนี้พระเณรก็เดือดร้อน ต้องเรียกหารถเทศบาลมาดูดส้วมกันอุตลุด เพราะส้วมล้นไปเลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 13:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #60  
เก่า 15-01-2012, 13:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,375
ได้ให้อนุโมทนา: 150,734
ได้รับอนุโมทนา 4,397,250 ครั้ง ใน 33,964 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"การทำงานต้องคิดทุกอย่างให้รอบคอบ ว่างานอย่างนี้เกิดขึ้นจะมีอะไรตามมา จะได้เตรียมแก้ไขปัญหาล่วงหน้าเอาไว้ อย่างวัดท่าขนุนไม่มีปัญหา เพราะว่าโยมไปค้างที่วัดเลย ส่วนที่เป็นคนในพื้นที่เขาก็เดินทางมาแล้วกลับเลย และที่แน่ ๆ เรามีเสียงตามสาย คุณไม่ต้องมาถึงวัดก็ได้ยินทั่วอำเภอ เพราะฉะนั้น..ทางวัดเราไม่มีปัญหา แต่ในกรุงเทพฯ การสวดมนต์ข้ามปีกลายเป็นปัญหาใหญ่

เป็นที่น่ายินดีว่าประชาชนตื่นตัวในการต้อนรับปีใหม่แบบไทย ๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปชนแก้วนับเวลาถอยหลังกัน แต่ปรากฏว่ามาแล้วประทับใจมาก เดินกันขาลากเลย ปีหน้ายังจะกล้ามาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ?

วัดท่าขนุนนอกจากจัดสวดมนต์ออกเสียงตามสายแล้ว ยังมีการถ่ายทอดทางอินเตอร์เน็ตไปทั่วโลกด้วย เพราะฉะนั้น..ต่อให้เราไม่ได้ไปก็สามารถเปิดเข้าไปที่เว็บวัดท่าขนุนและเว็บสะพานบุญ เพื่อร่วมพิธีได้ มีทั้งภาพมีทั้งเสียงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ดู ๆ ไปแล้วบางคนเกิดความอยากไปขึ้นมาเฉย ๆ เพราะมีคนนั่งเต็มศาลาสวดมนต์ไปพร้อม ๆ กัน

ได้เห็น ได้ยิน เกิดศรัทธาขึ้นมา ยังไม่รู้ว่าปีหน้าที่พอจะรองรับหรือเปล่า ? ปีนี้แค่ลำพังผู้ปฏิบัติธรรมก็เต็มศาลาอยู่แล้ว ยังมีชาวบ้านเดินทางมาร่วมงานอีกส่วนหนึ่งด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 13:46
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:01



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว