กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #141  
เก่า 28-12-2017, 19:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าคนอยู่ข้าง ๆ พูดคำว่า "นิพพาน ๆ ๆ ๆ" กรอกหูคนใกล้ตายจะได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้แต่ไม่มีประโยชน์ เพราะว่าสภาพจิตที่ไม่ได้ฝึกมาจนชิน แม้เข้าใจคำว่า "พระนิพพาน" ก็ไม่รู้ว่าจะไปอย่างไร กำลังใจที่จะไปพระนิพพานต้องปล่อยวางหมดทุกอย่าง ดีไม่ดีคำพูดกรอกหู อาจทำให้เขายึดเสียด้วยซ้ำ เหมือนคนที่บอกว่าจะไปเชียงใหม่ แต่ยืนกอดเสา แล้วจะไปได้อย่างไร ? แต่ให้เขาพูดกรอกหูเอาไว้เถอะ อย่างน้อย ๆ เขาจะได้ไปในที่ดี ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2017 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #142  
เก่า 28-12-2017, 20:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานเจ้าคณะอำเภอชนแดนโดนจับสึกเข้าห้องขังไปแล้ว เรื่องนี้ร้ายแรงกว่าที่คิด เพียงแต่ว่าคนมองเกมออกก็ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร เพราะว่าถ้าช่วยเหลือก็เป็นการปกป้องพวกเดียวกัน เขาจะถือว่ามหาเถรสมาคมเป็นองค์กรที่ใช้ไม่ได้ เห็นแก่พวกแก่พ้อง

อย่าลืมว่าพระครูกิตติพัชรคุณท่านเป็นตัวเล็กที่สุดในคดีเงินทอน คราวนี้พอเริ่มตรงนั้นแล้วไม่มีใครกล้าขยับ เขาก็จะก้าวขึ้นมาเรื่อย ๆ เพราะว่าในชุดแรกนั้นมีท่านเจ้าคุณประเทือง (พระเทพเสนาบดี) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ที่ถือว่าเป็นเจ้าคณะจังหวัดรุ่นใหม่มาแรงที่สุด แล้วมีท่านเจ้าคุณบุญเทียม (พระราชรัตนมุนี) เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนกลาง ถ้าขยับขึ้นมาถึงสองรายนี้ ใครขยับตามคนนั้นโดน กลายเป็นหมากรุกฆาต ปกป้องพวกเดียวกันก็ปกป้องไม่ได้ แต่ถ้าไม่ปกป้องพวกเดียวกัน เขาก็รุกคืบหน้ามาเรื่อย ๆ

เรื่องพวกนี้จริง ๆ แล้วไม่ใช่ความผิดของพระ เพราะว่าสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นพี่เลี้ยงของพระ มีหน้าที่แนะนำว่าพระต้องทำอย่างไรจึงจะถูกระเบียบถูกกฎหมาย แล้วเงินที่หายก็หายไปในสำนักพุทธฯ ทั้งนั้น แต่กลายเป็นว่าเขาเอาเรื่องนี้มาเล่นงานพระ แล้วก็ไม่มีใครกล้าออกมาพูด เพราะว่าล้วนแต่มีแผลทั้งนั้น

ตอนนี้วัดใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯ โดนเขาขึ้นบัญชีไว้เยอะแยะไปหมด ถ้าเขารุกคืบหน้ามาถึงพระเทพเสนาบดีหรือพระราชรัตนมุนีได้ จะขยับไปใหญ่กว่านั้น หมากนี้เดินลึกมากชนิดที่มองไม่เห็น ส่วนคนมองเห็นก็ไม่กล้าทำอะไร"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2017 เมื่อ 02:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #143  
เก่า 28-12-2017, 20:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในประเทศอื่น ศาสนาอื่น ใช้วิธีการสงครามยึดบ้านยึดเมือง แต่ในประเทศเรา เขาใช้วิธีออกกฎหมาย แล้วเอากฎหมายมาเล่นงานเรา เพราะฉะนั้นแง่มุมอะไรที่ผิดกฎหมายแม้แต่นิดเดียวก็โดนหมด

ถ้าเราสังเกตดูในช่วงที่ผ่านมา ในเรื่องของการปรองดองและสมานฉันท์ ฝ่ายหนึ่งทำอะไรไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนก็ผิดหมด โดนตัดสินคดีเข้าคุกอย่างรวดเร็ว ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งคดีใหญ่โตแทบจะล้นฟ้า ไม่ได้รับการพิจารณาแม้แต่เรื่องเดียว เราเห็นชัด ๆ อยู่แล้วว่าเรื่องกฎหมายเขาเอาไว้เล่นงานคนฝ่ายตรงข้าม

การที่จะยึดประเทศไทยได้ต้องทำลายสถาบันศาสนา ซึ่งก็เห็น ๆ อยู่ว่าโดนเบี่ยงประเด็นจากความผิดของพวกฆราวาสที่กินเงินพระ กลายเป็นพระผิด จะว่าไปแล้วถ้าคนเราไม่มีแผล ก็ไม่ต้องหวาดกลัว แต่คราวนี้ส่วนใหญ่มีแผลทั้งนั้น เลยกลายเป็นอะไรที่วางตัวยาก ขยับลำบาก พูดง่าย ๆ ว่าขยับไปทางไหนก็โดนไปหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2017 เมื่อ 02:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #144  
เก่า 28-12-2017, 20:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พวกเขาทำกันเป็นขบวนการ ถ้าเราพูดไปก็จะมีคนอ้างวาทกรรมว่าเป็นทฤษฎีสมรู้ร่วมคิด คือคิดอย่างไรก็สมเหตุสมผล แต่เขาทำจริง ๆ ดูอย่างหลวงพ่อสมเด็จฯ วัดปากน้ำไม่มีความผิด ศาลตัดสินยกฟ้อง แต่ไม่มีใครแก้ข่าว แต่ท่านเละไปแล้ว กลายเป็นท่านมีมลทินติดตัวไปตลอดชีวิต ทั้งที่ศาลตัดสินว่าไม่มีความผิดเลย

ขบวนการทั้งหลายเหล่านี้ช่วยกันกระหน่ำซ้ำเติม แต่ถ้าเป็นเรื่องดี ๆ เขาจะไม่พูดถึง จะไปรอกฎของกรรมเล่นงานก็ต้องรอจนเขาตาย รู้สึกว่าจะต้องทำใจ

ของหลวงพ่อวัดปากน้ำ รถยนต์ที่ซื้อมาเป็นรถหนีภาษี ซึ่งศาลตัดสินชัดเจนว่าถ้าคุณซื้อของหนีภาษีมาหนึ่งชิ้น ความผิดอยู่ที่คุณ หรืออยู่ที่คนขาย ? ถ้าคนไม่เอาของชิ้นนั้นมาขาย คุณจะไปซื้อจากไหน ? ศาลก็เลยยกฟ้อง แต่เมื่อยกฟ้องแล้ว ก็ไม่มีการแก้ข่าว พูดง่าย ๆ ว่า เล่นงานไปแล้ว ได้ผลตามความปรารถนาไปแล้ว ทำลายความเชื่อถือในท่านไปแล้ว

แล้วมีบอกไหมว่าทำไมยกฟ้อง ? มีบอกไหมว่าทำไมท่านไม่ผิด ? ดีที่ท่านเมตตามากบอกว่าอย่าไปเอาเรื่องเอาราวเขา เพราะเรื่องแบบนี้ปกติแล้วฟ้องกลับได้ หมิ่นประมาทต่อสาธารณชน ไปนึกถึงที่หลวงพ่อสมเด็จฯ วัดสระเกศ ท่านไปวางรากฐานในต่างประเทศเอาไว้ ท่านบอกไว้ชัด ๆ เลยว่า ถ้าศาสนาพุทธในบ้านเราอยู่ไม่ได้ จะได้มีที่ให้เราไปกันได้ นั่นคือการมองเห็น วิสัยทัศน์ที่ยาวไกลเกินกว่าปกติชนจะเห็นได้ ถ้าไม่ได้พระระดับนั้น ก็ไม่มีทางหรอกที่จะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2017 เมื่อ 02:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 159 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #145  
เก่า 28-12-2017, 20:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คุยกับพระ "ผมไปสร้างวัดที่พม่า ๒๐ กว่าปีแล้ว อย่างไรผมมีวัดอยู่แน่ โดยเฉพาะพม่าเขาต่อต้านอิสลามสุดชีวิตอยู่แล้ว ศาสนาอื่นจะมาหือไม่ได้ ดูอย่างญี่ปุ่น คุณนับถืออิสลามได้แต่ห้ามมีศาสนาพิธี ห้ามมีศาสนาสถาน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-12-2017 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #146  
เก่า 30-12-2017, 08:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วัดวังปะโท่เลยทองผาภูมิไป ๒๒ กิโลเมตร แต่ถ้าทำดี ๆ วัดไม่ขี้เหร่หรอก เขามีหลวงพ่อตะเคียนทองอายุหลายร้อยปี แกะสลักจากตะเคียนทองทั้งต้น สามารถทำเป็นแหล่งเที่ยวได้

เป็นวัดอดีตเจ้าคณะอำเภอสังขละบุรี สมัยก่อนที่จะสร้างเขื่อน ถ้าจะขึ้นไปสังขละบุรีต้องผ่านวังปะโท่ขึ้นไป แต่ปัจจุบันถนนที่ผ่านหน้าวัดท่าขนุนเป็นถนนตัดใหม่ เขาจึงไปทางนี้ ถ้าถนนสายเก่าจมอยู่ในน้ำเกือบหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2017 เมื่อ 14:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #147  
เก่า 30-12-2017, 09:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “สีผึ้งหลวงพ่อทาบ ไม่รู้ท่านใช้สูตรอะไร อาจจะเป็นว่านยาตัวนั้น ทำให้สีผึ้งแข็งเป็นหินเลย วันก่อนลองทำให้ละลายดู ละลายอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ท้ายสุดเอาเข้าไมโครเวฟเลย ตากแดดไม่ละลาย ใช้น้ำร้อนไม่ละลาย เข้าไมโครเวฟหมดเรื่องหมดราวไปเลย ละลายก็จริงแต่พอถึงเวลาเย็นตัวก็แข็งเป็นหินเหมือนเดิม

ที่ทำละลายเพราะสีผึ้งที่ได้มาเป็นตลับดั้งเดิม ซึ่งเขามีตะกรุดสาริกาอยู่ ๒ ดอกกับพระนางกวักองค์หนึ่ง อาตมาจะเอาพระออกมาแล้วจะได้แบ่งสีผึ้งให้เขา ปรากฏว่า
พอเอาพระออกมาพักเดียวสีผึ้งก็แข็งเป็นหินเหมือนเดิม ต้องใช้มีดมาค่อย ๆ แซะเอา”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2017 เมื่อ 14:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 145 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #148  
เก่า 30-12-2017, 09:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “คนเมืองน่าสงสาร น่าสงสารตรงที่ว่า ถ้าสาธารณูปโภคมีปัญหาก็จะเดือดร้อนกันหมด คนต่างจังหวัดอย่างอาตมาไม่มีปัญหา เพราะว่าแม่น้ำอยู่หลังวัด ตอนนี้เขาวัดคุณภาพน้ำทุกเดือน เหตุที่ต้องวัดคุณภาพน้ำทุกเดือน เพราะว่าทางด้านเทศบาลเขาใช้น้ำไปทำประปา

พอถึงช่วงเวลาปล่อยน้ำจากเขื่อนได้สักครึ่งชั่วโมง ทางเทศบาลก็จะเริ่มสูบ ก็คือให้น้ำใหม่ไล่น้ำเก่าไปก่อน แล้วน้ำใหม่หน้าเขื่อนส่วนใหญ่บางทีก็มีฟองน้ำหรือขยะอยู่ ต้องบอกว่าเทศบาลทำงานรอบคอบมาก โดยเฉพาะครั้งแรกเห็นโรงสูบน้ำ เป็นบันไดลงไปเฉย ๆ เดินบิณฑบาตครั้งต่อมาปรากฏว่ามีประตูเรียบร้อยแล้ว ป้องกันคนไปรบกวน เกิดมีใครเอาสลอดใส่ลงไปก็ได้ท้องร่วงกันหมดทั้งอำเภอ

คนกรุงเทพฯ ก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน ถ้าสาธารณูปโภคหรือข้าวของไม่สามารถส่งถึงได้นี่ลำบากเลย ไปนึกถึงปี ๒๕๕๔ ข้าวของในห้างสรรพสินค้าหมดเกลี้ยงไม่เหลืออะไรเลย นอกจากชั้นเปล่า ๆ วาง นั่นคือลักษณะของการขาดแคลน เพราะว่าเส้นทางเข้ากรุงเทพ ฯ โดนน้ำตัดขาดหมด เหลือทางด้านพระราม ๒ เส้นเดียว ยังโชคดีที่เป็นด้านพระราม ๒ เพราะว่าอาหารทะเลยังเข้ามาได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-12-2017 เมื่อ 14:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #149  
เก่า 31-12-2017, 00:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (พระถามเรื่องนิมิต)
ตอบ : เรื่องของนิมิตบางทีก็เป็นการทดสอบกำลังใจ แกล้งให้เราหลงทิศหลงทาง นิมิตที่เกิดขึ้นบางทีอยู่ในลักษณะมาทดสอบว่า เราเองลืมคำสั่งครูบาอาจารย์หรือเปล่า ? มีความมั่นคงต่อสัจจบารมีเราแค่ไหน ? สำหรับผมเองไม่ค่อยเอานิมิตมาเป็นอารมณ์หรอกครับ ถ้ามาออกคำสั่งกันเป็นตัวตนชัด ๆ อย่างนั้นค่อยเอามาพิจารณา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2017 เมื่อ 14:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #150  
เก่า 31-12-2017, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ไปญี่ปุ่นเที่ยวนี้ ผู้ที่อำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวให้เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ก็คือท่านพลเอกฮิเดกิ โตโจ ถามท่านว่า คุณเป็นอาชญากรสงครามไม่ใช่หรือ ? ตายแล้วไปดีได้อย่างไร ? ท่านบอกว่า “ตามประวัติผมฆ่าตัวตายนะครับ” ก็เลยถามว่าแล้วฆ่าตัวตายเกี่ยวอะไรกับไปดี ? ท่านบอกว่า “คนที่กำลังใจไม่หวั่นไหวแม้แต่ความตาย ถ้าสมาธิไม่ทรงตัวจะทำไม่ได้ครับ” อาตมาก็ต้องยอมท่าน สรุปว่าบรรดาเสือสงครามโลกทั้งหมดมีท่านที่ไปดีที่สุด คนอื่นลงไปแช่ออนเซ็นมาแล้วทั้งนั้น...!

แต่ที่ทึ่งกว่านั้นก็คือ ผู้รักษาความปลอดภัยเป็นซามูไรยุคเก่า ๒ วันแรกยังไม่ได้คุยอะไรกัน พอวันที่ ๓ มีเวลาก็เลยเรียกมาคุย ถามว่าชื่ออะไร ? ท่านบอกว่าชื่อเบ็นโนะสึเกะ ถามว่าทำอะไรถึงมาเป็นเทวดาได้ ? ท่านบอกว่าฝึกวิถีซามูไรจนกระทั่งสามารถรู้เขารู้เรา รู้ว่าแม้กระทั่งว่าคู่ต่อสู้จะมาอย่างไร ลักษณะนั้นเป็นเจโตปริยญาณเลยนะ

ถามท่านว่า แล้วคุณตายในการรบครั้งไหน ? ท่านบอกว่าไม่เคยแพ้ใคร อาตมาก็สะดุ้งเฮือก บอกว่าไม่เคยแพ้ใคร ที่ได้ยินมามีคนเดียวก็คือปรมาจารย์ห้าห่วงมุซาชิ ท่านก็เลยบอกว่า “ผมคือยามาโมะโตะ เบ็นโนะสึเกะ คนรุ่นหลังเขาเรียกผมว่า มุซาชิครับ” ท่านบอกชื่อเดิม ไม่ยอมบอกชื่อใหม่

ถามว่า คุณทำได้ขนาดนั้นทำไมมาเป็นลูกน้องของโอจิซัง (ท่านนายพลฮิเดกิ) ? ท่านบอกว่า “ผมป่วยนานครับ สมาธิคลายตัวหมด” น่าเสียดาย...ก่อนตายท่านป่วยนาน สภาพสังขารที่โดนกัดกร่อนด้วยความเจ็บไข้ได้ป่วยทำให้หลุดจากสมาธิ เลยไปได้แค่ชั้นจาตุมหาราช อาตมาก็รู้จักแต่มุซาชิ ที่ไหนได้ ท่านบอกว่าเป็นชื่อใหม่ เกิดมาชื่อเบ็นโนะสึเกะ มีธรรมเนียมประเภทตั้งชื่อใหม่เหมือนกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-01-2018 เมื่อ 10:13
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 146 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #151  
เก่า 31-12-2017, 00:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ครั้งที่แล้วไป มีทิดเต้ย ทิดฝุ่น คุณอรรณพถวายเงินเยนให้ติดตัวไปหมื่นกว่าเยน กลับมามีอยู่สามหมื่นกว่าเยน..! ตูก็ว่าตูใช้เยอะนะ งวดนี้ยังไม่ทันจะไปอเมริกาตามที่เขานิมนต์ ธนบัตรดอลลาร์มาเพียบเลย

ที่ไปส่วนใหญ่ไปดูกิจการของวัดเพื่อที่จะเอามาใช้งานที่บ้านเรา แล้วก็เอามาสอนนักศึกษา เพราะว่าจะต้องสอนเกี่ยวกับพุทธศาสนาทั้งทางตะวันออกและตะวันตก แต่ละประเทศควรที่จะมีข้อมูลใหม่ล่าสุดของเขา ก็เลยไปดูแต่วัด แทบจะไม่ได้ไปที่อื่นเลย

คราวนี้ในส่วนที่ไปก็วัดเกินร้อยละ ๘๐ ไม่เก็บเงิน หมายความว่าไม่เก็บเงินพระนะ พอถึงเวลาจะไปซื้อตั๋วเขาบอก "โอโบะซัง มูเรียวไดสึ" ก็คือเป็นพระภิกษุไม่ต้องจ่าย ประหยัดไปได้เยอะเลย เพราะว่าแต่ละวัดนี่ ค่าเข้าชม ๕๐๐ เยนเป็นอย่างต่ำ แล้วถ้าจะเข้าพิพิธภัณฑ์วัดก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก

ที่ญี่ปุ่นเป็นญี่ปุ่นได้ทุกวันนี้เพราะวิถีนักรบที่เขาเรียกว่าบูชิโด กับพระพุทธศาสนา สองอย่างหลอมรวมกันขึ้นมาทำให้เขาเป็นบุคคลที่ไม่เหมือนใคร มีความอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ว่าจริงจังกับทุกเรื่องในชีวิต ทำอะไรทุ่มเทด้วยชีวิตเลย ทั่วโลกคนทำงานมีแต่ต้องการชั่วโมงทำงานน้อย ๆ แต่ญี่ปุ่นรัฐบาลต้องบังคับให้ทำงานน้อยลง แล้วเขาออกกำลังโดยธรรมชาติก็คือเดิน แต่ละวัดที่อาตมาไปเดินกันขาลากจริง ๆ ญี่ปุ่นพื้นที่น้อยก็จริง แต่วัดของเขาแต่ละวัดพื้นที่กว้างขวางมาก แล้วดูแลรักษาได้สะอาด สงบ ร่มรื่นน่าอยู่ ประทับใจมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2017 เมื่อ 14:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #152  
เก่า 31-12-2017, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ไปถึงยังทึ่งว่าทำไมวัดเขาใหญ่ขนาดนี้ ? ไหนบอกว่าไม่ค่อยมีพื้นที่ คงจะเหมือนกับประเทศของเรา ที่เขาบอกว่าที่ไหนสวย ๆ ไม่พระหรือรีสอร์ทยึดไปหมด เพราะว่าพระก็มักจะไปหาที่ซึ่งเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมไว้ก่อน พอถึงเวลาสร้างเป็นวัดขึ้นมา ดูแลรักษาดี ขออนุญาตตั้งเป็นวัดได้ ก็กลายเป็นพื้นที่วัดไปหมด

แต่ว่าภูมิใจอยู่อย่างเดียวขณะที่ไปสวนหินเซน อาตมานับหินได้ครบ ขณะที่คนอื่นนับให้ตายก็ไม่ครบ เขาไปนั่งเฝ้าเลยว่าทำอย่างไรจะนับให้ครบ ต้องบอกว่าสายตาที่ดูวัตถุมงคลแล้วรู้ตำหนิ กับหินก้อนเบ้อเร่อจะดูไม่ออกเชียวหรือ ? แต่ก็เหลือเชื่อจริง ๆ หินแค่ไม่กี่ก้อนเรียกนักท่องเที่ยวได้ขนาดนั้น พื้นที่ก็ไม่ได้กว้างหรอก เขาทำเป็นสวนหิน แล้วเขาก็ไปนั่งจ้องกันเป็นแถว ดูเขาแล้วนิ่งมากเลย พยายามจะหาสัจจธรรมจากก้อนหินตรงหน้าให้ได้

อาตมาเองไม่ต้องเสียเวลาเลย หินก็ค่อย ๆ เปื่อย ค่อย ๆ ผุ อยู่นั่นแหละ การที่คงสภาพอยู่ไม่ได้คืออนัตตา การที่ต้องทนกับความเสื่อมสลายคือความทุกข์ ขณะที่เสื่อมสลายก็คืออนิจจัง ชัด ๆ อยู่แล้ว แต่เขาก็ไปนั่งจ้องกันอยู่ได้ทั้งวัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2017 เมื่อ 14:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #153  
เก่า 31-12-2017, 00:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนญี่ปุ่น เขาบำรุงพระศาสนา วัดมีพื้นที่ใหญ่โต ดูแลวัดอย่างดี ทำไมไม่รักษาศีลห้า โดยเฉพาะข้อปาณาติบาต ให้เคร่ง ยังนิยมกินสัตว์ทะเลเป็น ๆ อยู่ ?
ตอบ :ญี่ปุ่นถูกจำกัดด้วยทรัพยากร ไม่ฆ่าก็ไม่มีกิน เพราะว่าทะเลล้อมรอบอยู่ ไปแล้วจึงได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วญี่ปุ่นอัตคัดขัดสนมาก ถ้าไม่มีทะเลกับไม่มีของจากต่างประเทศส่งเข้าไปนี่ตายเลย พื้นที่เพาะปลูกมีน้อยมาก อาชีพชาวนาเป็นอาชีพที่ค่าตัวแพงที่สุด รัฐบาลต้องขอร้องให้ทำนา ตั้งเงินเดือนสูง ๆ เป็นอาชีพที่มีเกียรติมาก

ที่ไม่อยากไปญี่ปุ่นเพราะว่ามีเจ้าหนี้มาก เคยไปกวาดเขาหมดเมืองเลย สรุปว่างวดนี้ไปตกลงอโหสิกรรมกันได้ เขาขอบุญปล่อยสัตว์ของอาตมาตลอด ๓๒ ปีที่ผ่านมา ก็ต้องให้เขา ไม่อย่างนั้นแล้วปราสาทฮิเมจิอาตมาจะเข้าไม่ได้ โหดมากเลยใช่ไหม ? คนอื่นเขาไม่รู้ว่าอาตมาทุกข์ทรมานแค่ไหนกว่าจะเดินได้สักเมตรหนึ่ง ท้ายสุดก็เลยต้องตกลงกันว่าจะเอาอย่างไร ?"


ถาม : เขามาขวางหรือคะ ?
ตอบ : กำลังที่เขาดันออกมากดอาตมาเอาไว้แทบจะกระดิกไม่ได้เลย เขาอาศัยหมู่มากเข้าว่า เหมือนกับที่พระราชมณเฑียรทองที่มัณฑะเลย์ แรงที่ผลักออกมาอย่างกับต้องเดินฝ่าน้ำตกเข้าไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-01-2018 เมื่อ 19:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 141 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #154  
เก่า 31-12-2017, 00:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาเนิ่นนานขนาดนั้นแล้ว ทำไมเขาไม่ไปเกิด ?
ตอบ : อันดับแรกคือบุคคลที่มีเวรมีกรรมกันมา อันดับที่ ๒ กำลังใจที่ยังยึดมั่นต่อหน้าที่ แม้ตายแล้วเขายังไปไหนไม่ได้ แบบเดียวกับพวกที่เฝ้าขุมทองญี่ปุ่นที่กาญจนบุรี อาตมาบอกว่า "ญี่ปุ่นแพ้สงครามแล้ว" พูดให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ เขาบอกว่า "ยึดไปตั้งครึ่งโลก แค่ ๒-๓ วันจะแพ้ได้อย่างไร ?" คือในโลกของเขาผ่านไปแค่ ๒-๓ วัน เขาไปยึดเกาะอยู่กับหน้าที่อะไรของเขา พูดง่าย ๆ ว่าเขาไปมัดตัวเองเอาไว้ เลยไปไหนไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2017 เมื่อ 14:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 140 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #155  
เก่า 31-12-2017, 00:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประการที่ ๒ ที่ไม่อยากไปญี่ปุ่นเพราะของแพงเหลือใจ กินชานมหนึ่งถ้วย ๕๐๐ เยน โอ๊ย...จะเป็นลม ลองนึกดูว่า ๑๐๐ เยนเท่ากับ ๓๐ บาท ชานมถ้วยแค่พอ ๆ กับกาแฟสตาร์บัคส์

แต่ว่าของเขานี่เครื่องอำนวยความสะดวกเหลือล้นจริง ๆ เลย ไปไหนก็มีแต่ตู้หยอด จะเอาน้ำ จะเอาชา จะเอาอะไร มีทั้งร้อนเย็น แล้วที่อำนวยความสะดวกได้ดีมาก ก็คือจะใส่ธนบัตรใส่เหรียญใส่เกิน เขามีทอนให้ทั้งนั้นแหละ แต่อาตมาชอบชาร้อนเขานะ พวกชาเขียว

ขวดหล่นมาตอนแรกไม่นึกว่าจะร้อนได้ขนาดนั้น ร้อนเกือบ ๖๐ องศาเห็นจะได้ คืออากาศบ้านเขาเย็น ต้องมีของร้อน โดยเฉพาะโถส้วมนั่งสบายอย่าบอกใครเลย เขาอุ่นโถส้วมให้ อาตมาก็สงสัยว่าทำไมต้องเปิดสวิทซ์ไฟอีกอันหนึ่ง อ๋อ...เป็นสวิทช์สำหรับก๊อกน้ำกับโถส้วม ถ้าไม่เปิดก็เย็นเฉียบ

ที่ไปนอนคืนแรกเป็นอพาตร์เมนท์แบบญี่ปุ่น ห้องแคบ ๆ ฟูกสั้น ๆ ผ้าห่มสั้น ๆ อาตมาก็ขายาว ใส่ถุงเท้าแล้วเท้าโผล่ออกไป หนาวอย่าบอกใครเลย อากาศแค่ ๙ องศาเซลเซียส ท้ายสุดก็เลยต้องโวยวาย บอกท่านผู้ดูแลให้ช่วยหน่อย "ตูไม่ใช่คนญี่ปุ่นโว้ย จะหนาวตายอยู่แล้ว" ท้ายสุดเลยนอนสบาย อุ่นเหมือนกับอยู่ที่วัด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2017 เมื่อ 14:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 138 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #156  
เก่า 31-12-2017, 01:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนที่นั่นเขาเป็นคนตรงต่อเวลามาก ๆ เลย นัดอะไรไม่เคยพลาดเลย มีแต่ก่อนไม่มีหลัง โดยเฉพาะรถตู้ เจ้าประคุณมาก่อนหนึ่งชั่วโมง อาตมาก็รอว่าตรงเวลาแล้วจะลงไป ที่ไหนได้...ลงไปเขาบอกว่ามารออยู่ก่อนหนึ่งชั่วโมงแล้ว

แต่อย่าไปเช่ารถที่ญี่ปุ่นนะ แพงสุด ๆ บ้านเราวันละ ๑,๕๐๐ บาท ค่าน้ำมันต่างหาก สำหรับรถตู้ของเขาวันละ ๓๕,๐๐๐ บาทไทย ไปอยู่ ๕ วันโยมจ่ายค่ารถตู้ไปแสนกว่าบาท ถ้าเป็นพวกเราจะกล้าเช่าไปไหม ? ไปแล้วแม้ว่าจะได้ประโยชน์หลาย ๆ อย่าง แต่ว่าสงสารโยม ไปแล้วทำให้โยมเขาสิ้นเปลืองมาก ก็เลยไม่อยากจะไปอีก

อย่างที่ครอบครัวคุณลือชัย นิยมชาติ นิมนต์ไปอเมริกาก็เหมือนกัน ตอนแรกกำหนดมาเกือบ ๓๐ วัน แล้วนั่งเครื่องบินภายในประเทศตลอดเลย คุณลองคิดดูว่าเขาจะต้องจ่ายเท่าไร ? ท้ายสุดก็เลยบอกว่าพยายามบีบลงมาอย่าให้เกิน ๑๐ วัน ไม่ใช่ว่ามีโยมจ่ายแล้วเราจะฉวยโอกาสไปถลุงเขา ขนาดหลวงพ่อวัดท่าซุงชวนไปอาตมายังไม่ไปเลย กลัวว่าจะทำงานไม่คุ้มกับค่าเครื่องบิน

คิดดูว่า ๕ วัน ที่ญี่ปุ่น เฉพาะค่าเช่ารถตู้หมดไปแสนกว่าบาท โยมเขาก็กล้าเช่า อาตมาได้ยินนี่ใจหายแวบเลย ตอนแรกไม่รู้หรอก แอบถามคนขับว่าค่ารถวันละเท่าไร เขาบอกว่าวันละ ๓๕,๐๐๐ บาท ไม่ใช่ ๓๕,๐๐๐ เยนนะ ๓๕,๐๐๐ บาท แล้วยังมีทิปอีกต่างหาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 31-12-2017 เมื่อ 21:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 137 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #157  
เก่า 31-12-2017, 09:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่ชอบใจที่สุดคือด่านเก็บเงินทางด่วนเขา ถ้าเป็นบ้านเรานี่รถติดยันเชียงรายเลย..! ไปถึงก็ “สวัสดีครับ ๑,๖๓๐ เยนครับ มีแบงค์ย่อยไหมครับ ? ขอหน่อยครับ ขอบคุณมากครับ ผมรับมาแค่นี้ ทอนแค่นี้นะครับ โอกาสหน้าเจอกันใหม่นะครับ” โห...ทำไมมีเวลาคุยได้ขนาดนั้น เฮ้อ...เหนื่อยใจ

ถาม : มีช่องอัตโนมัติเหมือนบ้านเราไหมครับ ?
ตอบ : มีช่องอัตโนมัติ แต่เขาไม่ค่อยใช้กัน เพราะว่าเขาเป็นสังคมคนสูงอายุ บรรดาคุณลุงคุณตามาทำงานกันทั้งนั้น อย่าไปคิดว่าเขาแก่นะ เดินเร็วมากเลย โดยเฉพาะตามสถานีรถไฟฟ้า เราเดินช้าจะโดนชนจริง ๆ ไม่ใช่ว่าเดินเร็วจนเราต้องวิ่งตามอย่างเดียว ถึงเวลารีบด่วนเขาวิ่งอีกด้วย กลายเป็นว่าเขาออกกำลังหนักอยู่ทุกวัน

ที่ชอบยิ่งกว่านั้นก็คือห้องสูบบุหรี่ มีแต่ห้องเปล่า ๆ ไม่ให้นั่ง ให้ไปยืนอัดกันเอง จะได้รีบ ๆ สูบ บ้านเรา แหม...เบาะหนังอย่างดีเลย ไปถึงก็นั่งไขว่ห้างสูบบุหรี่ บ้านเขาเป็นห้องเปล่า ๆ ใครติดบุหรี่อยู่ที่ญี่ปุ่นนี่เดินสาหัสเลยนะ กว่าจะเจอห้องสูบบุหรี่ ไม่ได้มีอยู่ทั่วไป เขามีป้ายเป็นภาษาญี่ปุ่นบอก กว่าจะเดินหาเจอ ถ้าเป็นบ้านเราก็หายอยากไปแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2017 เมื่อ 14:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #158  
เก่า 31-12-2017, 09:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ที่วัดโทไดจิ ที่มีพระพุทธรูปใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น เขามีเสาที่มีช่องเหลี่ยม ๆ ถ้าหากว่าใครอธิษฐานอะไรแล้วสำเร็จจะลอดผ่านไปได้ ส่วนใหญ่ก็มีแต่เด็ก ๆ ลอด ปรากฏว่าป๋าติ๋มที่ไปด้วยลอดได้ ไม่น่าเชื่อ แกบอกว่ามาครั้งก่อนแกลอดได้ ครั้งนี้อ้วนขึ้นตั้งเยอะก็ยังอุตส่าห์ลอดได้อีก เหลือเชื่อเลย พวกฝรั่งถ่ายรูปกันใหญ่ เห็นผู้ใหญ่ขนาดนั้นไปต่อแถวเด็ก

สรุปว่าประเทศญี่ปุ่นอากาศดี คนกินอาหารที่มีไขมันต่ำ ต้องออกกำลังกายภาคบังคับ ส่วนใหญ่ก็เลยอายุยืน ไปทางไหนมีแต่คุณลุงคุณตาทำงานเต็มไปหมด ไม่มีใครเลี้ยงหลานอยู่กับบ้านเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2017 เมื่อ 14:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #159  
เก่า 31-12-2017, 22:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คำว่า "นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้" เป็นได้หรือคะ ? เจ้านายเขาสอนว่า ให้หนูปฏิบัติ ถ้าเราทิ้งอัตตา เราจะนิพพานที่นี่ เขาบอกว่าเข้านิพพานแล้ว ?
ตอบ : ฆราวาสเข้าพระนิพพานแล้วอยู่ไม่ได้หรอก เพียงแต่ว่าอาจจะเข้าถึงอารมณ์บางส่วนได้ คำว่า "นิพพานที่นี่ เดี๋ยวนี้" สำหรับบุคคลที่เข้าถึงจริง ๆ นั้นใช่ เพราะว่าพระนิพพานไม่ได้อยู่ที่ไหนหรอก ถ้าเราเข้าถึงจริง ๆ พระนิพพานก็อยู่ในทุกหนทุกแห่ง เพียงแต่ว่าถ้าคนที่เข้าถึงจริงถ้าเป็นฆราวาสจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะว่าเป็นโทษแก่คนอื่นเขามาก

ถาม : เขาพูดว่า "นิพพานคือสุญญัง" แต่หนูจำได้ หนูเคยอ่านเจอว่า....(ไม่ชัด)... ?
ตอบ : คำว่า สุญญัง แปลว่า ว่าง คือ ว่างจากกิเลส รัก โลภ โกรธ หลง แต่มีคนไปแปลว่า ไม่มี สูญ คือไม่มีอะไร พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ชัด ๆ ว่า ตทายตนัง คืออายตนะนั้นมีอยู่ คำว่าอายตนะ หมายถึงพระนิพพาน

ท่านกล่าวถึงพระนิพพานว่าไม่ใช่พระอาทิตย์ ไม่ใช่พระจันทร์ ไม่ใช่ดิน ไม่ใช่น้ำ ไม่ใช่ลม ไม่ใช่ไฟ ไม่ใช่อากาสานัญจายตนะ ไม่ใช่วิญญาณัญจายตนะ ไม่ใช่อากิญจัญญายตนะ ไม่ใช่เนวสัญญานาสัญญายตนะ แต่ท่านยืนยันว่ามีอยู่ ในเมื่อมีอยู่ ก็แปลว่าไม่ได้สูญ เพียงแต่ว่าคำว่า สูญ ต้องคนที่เข้าถึงจริง ๆ จึงจะรู้ว่าสูญนั้นคือ ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง โดยสิ้นเชิง

คำว่า สูญ ตัวนี้ก็คือ สุญญตา หรือ สุญญัง ที่แปลว่า ว่างจากกิเลสทั้งปวง ต้องทำให้ถึงจะได้ไม่สงสัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-01-2018 เมื่อ 04:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #160  
เก่า 31-12-2017, 22:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,194 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่บ้านมีต้นไม้ใหญ่ จะตัดครับ ?
ตอบ : ต้นอะไร ?

ถาม : มะฮอกกานีครับ ?
ตอบ : ตั้งศาลเพียงตาให้เขาหนึ่งหลัง แล้วก็ตัดกิ่งค่อนข้างใหญ่หน่อย สักครึ่งคืบหรือคืบหนึ่งก็ได้ หันปลายขึ้นเอาไว้ในศาล ที่เอากิ่งใหญ่หน่อยเพื่อให้ตั้งได้ถนัด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-01-2018 เมื่อ 09:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:30



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว