กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เรื่องเล่าต่าง ๆ โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เส้นทางพระโพธิสัตว์

Notices

เส้นทางพระโพธิสัตว์ การท่องไปในเมืองพม่า โดยพระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 11-07-2011, 22:28
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,275 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default เส้นทางพระโพธิสัตว์ ตอนที่ ๘

ตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนตีสอง แล้วนอนภาวนาแข่งกับเสียงกัดฟันของท่านป๊อป และเสียงกรนของพลขับทั้งสอง อากาศเย็นทีเดียว เสียงหวูดรถไฟดังมาไม่ไกล องค์พระมหาธาตุชุยมอดอสว่างจ้ากลางแสงไฟ...

เก็บข้าวของเสร็จ พระมาตามไปฉันเช้า เณรนั่งเรียงกันเป็นแถวยาวหลายแถว มีข้าวหม้อมหึมาอยู่ข้างที่ฉัน พระพี่เลี้ยงถือหม้อแกงและกาละมังใส่ข้าว เดินตรวจแถวแบบทหาร ข้าวหรือกับพร่องจะเติมให้ทันที...


ตอนเช้ามีกับข้าวอย่างเดียว ตอนเพลมีกับข้าว ๒ อย่าง ฉันเพื่ออยู่จริง ๆ..!

พระท่านจัดโต๊ะต่างหากให้เราหนึ่งโต๊ะ กับข้าวเป็นปลาย่างกับแกงส้ม นับว่าดีเกินเหตุ เพราะเณรได้ฉันแกงส้มอย่างเดียว ซ้ำหลังอาหารของเรายังมีกล้วยเป็นของหวาน ขณะที่เณรไม่มีเลย ทำเอาท่านชาแทบจะฉันไม่ลง เพราะเณรพากันมองจนกล้วยแทบจะละลาย..! วัดพม่าถึงอยู่กลางเมืองก็ยังคงลำบากจนขนาดนี้...

รอจนทิดจิตร โซยุนท์ และตันอู กินกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราค่อยออกมาถามทางไปบ้านชานหยั่วจี พอดีมาถามข้างสถานีรถไฟ ผู้หมวดกันยุนท์จึงขอตัวจากคณะ แยกทางนั่งรถไฟไปมัณฑะเลย์ก่อน แล้วจะไปรอเราที่บ้านลูกเขยเมืองเมย์เมี้ยว...
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 08MonkLunch3.jpg (93.2 KB, 712 views)
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2011 เมื่อ 13:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 103 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 11-07-2011, 22:37
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,275 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

จากที่บอกว่านั่งรถไม่ไหว เพราะมันกระแทกจนระบม ไม่สบายเหมือนเรือที่นอนไป เห็นทีจะไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าไม่มีความอดทนแบบนั้น ก็ไม่ควรมาเป็นทหาร สาเหตุที่แท้จริงน่าจะมาจากที่เขาขอมาด้วย บอกว่าจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ อาตมาจึงให้จ่ายเฉพาะค่าอาหารเย็นทุกวัน...

อาตมาลืมไปว่า อาจารย์ปริญญาโทยังได้เงินเดือนแค่ ๑,๓๐๐ จั๊ต เมื่อวานเย็นเขากินกันไป ๙๐๐ จั๊ต..! เงินเดือนผู้หมวดคงจะไม่เกินปริญญาโท กินกันทีเงินเดือนหมดไปทั้งเดือน แบบนี้ขืนไปกับเรามีหวังขายบ้าน ขายลูก ขายเมียแน่ ๆ..!


เดินลัดเลาะไปตามทางรถไฟ ที่เห็นหลังอยู่ก็คือท่านป๊อป

ร่ำลากันเสร็จ คณะของเราแยกมาตามทางที่เขาบอก อยู่ห่างจากด่านเก็บเงินเข้าเมืองประมาณ ๓๐๐ เมตรเอง แต่ทางเข้าเป็นทางเกวียน รถไปไม่ได้ ต้องย่ำต๊อกไป ๓ ไมล์ อาตมาทิ้งรองเท้าไว้บนรถ ของใหม่ ๆ มันดุ ขืนเอาไปด้วยเดี๋ยวมันกัดกระจาย..!

เดินไปหน่อยก็ขึ้นมาบนทางรถไฟ ทิดจิตรที่ทิ้งรองเท้าตามอาตมา เต้นเป็นผีกองกอยด้วยความเจ็บเท้า อาตมาที่เลิกบิณฑบาตมา ๔ ปี รู้สึกเจ็บเหมือนกัน เดินตามหมอนไม้ที่ขาดมาตรฐานกว้างบ้างแคบบ้างได้ไม่นาน ทนเจ็บเท้าไม่ไหว เผ่นลงทางเกวียนดีกว่า...
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 70.jpg (65.5 KB, 708 views)
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-07-2011 เมื่อ 13:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 105 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 18-07-2011, 15:12
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,275 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

ฝุ่นนิ่ม ๆ ท่วมหลังเท้าค่อยยังชั่ว ถึงเดินยากกว่าแต่นุ่มกว่ากันเยอะ อากาศเย็นเยือกของยามเช้าทำให้ไม่เหนื่อยง่าย เดินมาจนถึงทางแยกจากทางรถไฟเข้าหมู่บ้าน ยังไม่มีเหงื่อสักนิด บรรดานักเรียนที่ขี่จักรยานอยู่ พอเห็นพระเดินมาจะลงจากรถกันหมด...


สะพานข้ามคลองก่อนเข้าหมู่บ้านซานหยั่วจี

เลาะตามคันนาถึงหมู่บ้าน ข้ามสะพานไม้แล้วเลี้ยวซ้าย หมู่บ้านเขาเงียบสงบน่าอยู่จริง ๆ พระเณรกำลังออกบิณฑบาต พวกเราล้างเท้าแล้วเดินขึ้นกุฏิหลังที่ดูดีที่สุด คาดว่าสังขารของหลวงปู่ท่านคงจะอยู่บนนั้น ไปถึงแล้วแทบเข่าอ่อน มีแต่บริขารของท่านกับโลงเปล่า..!

พระองค์หนึ่งชื่ออูปัณฑิตะ มาสอบถามแล้วเล่าให้ฟังว่า หลวงปู่ท่านคืออูลักขณะ อายุ ๘๔ พรรษา ๖๐ มรณภาพเมื่อแรม ๔ ค่ำ เดือน ๔ ปีที่แล้วนี้เอง ก่อนมรณภาพมีคนไปกราบหลวงปู่ตามะยะที่พะอาง หลวงปู่บอกว่าไม่ต้องมาหาท่านหรอก พระที่ปะโกก็มี เก่งกว่าท่านซะอีก..!


บริขารที่หลวงปู่ใช้ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่

หลังจากหลวงปู่ตามะยะเปิดเผยเรื่องของท่าน อีกไม่นานท่านก็มรณภาพ อาตมาสอบถามว่าสังขารของท่านยังอยู่หรือไม่..? หลวงพ่อปัณฑิตะบอกว่า บรรจุโลงแก้วอยู่ข้างศาลานี่เอง โล่งอกไปที เห็นแต่โลงเปล่า ๆ นึกว่าเขาเผาไปแล้ว...
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 71.jpg (94.8 KB, 574 views)
ชนิดของไฟล์: jpg 72.jpg (99.2 KB, 573 views)
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2011 เมื่อ 03:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-07-2011, 15:17
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,275 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

เห็นศาลาที่ตั้งสังขารของท่าน รู้สึกว่ามันเก่าคร่ำคร่า ไม่ได้สมกับความดีของท่านเลย ยิ่งเห็นสังขารที่ขาดการดูแลเอาใจใส่ ปล่อยให้หยากไย่ใยแมงมุมเกลื่อนกลาดยิ่งเศร้าใจ นี่มันไก่ได้แก้วมณีชัด ๆ ไม่ได้รู้ถึงคุณค่าเลย...


ที่บรรจุสังขารหลวงปู่ มองเข้าไปตรงช่องปลายเท้าจะเห็นแต่ใยแมงมุมเต็มไปหมด

กราบแทบเท้าทำบุญกับท่าน “ธรรมใดที่หลวงปู่รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว ขอลูกทั้งหลายได้มีส่วนรู้เห็นธรรมนั้น ในชาติปัจจุบันนี้เถิด...” รอท่านตู่ที่หายไปส้วมนาน จนเหมือนตกส้วมตายไปแล้ว หลวงพ่อปัณฑิตะท่านมาชี้ทางลัดให้...

เดินตัดกลางนามาขึ้นทางรถไฟ แล้วรีบจ้ำแข่งกับดวงตะวันกลับทางเดิม ทำเวลาทั้งขาไปขากลับเท่ากันเด๊ะคือ ๑ ชั่วโมง ท่านป๊อปกับท่านตู่ถูกทิ้งลิบ ๆ แทบมองไม่เห็น บอกแล้วว่าแรงหนุ่มหรือจะมาสู้คนเดินนาน...!


สองข้างทางเป็นเพิงขายเครื่องปั้นดินเผาและแตงโม

ออกรถตรงไปทางย่างกุ้ง พอพ้นตัวเมืองถนนขยายเป็นสี่เลน ข้างทางมีเครื่องปั้นดินเผากับแตงโมขายมากมาย รถวิ่งไปได้ประมาณ ๑๐ ไมล์ เครื่องดับเอาดื้อ ๆ ทีแรกคิดว่าน้ำมันหมด ความจริงกลายเป็นสายไฟขาด..!
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 73.jpg (96.4 KB, 573 views)
ชนิดของไฟล์: jpg 78.jpg (90.7 KB, 569 views)
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2011 เมื่อ 03:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 21-07-2011, 22:08
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,275 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

ยอดพลขับซ่อมครู่หนึ่งก็ไปต่อได้ ทิดจิตรขอลงไปซื้อแตงโม ราคาลูกละ ๔๐๐ จั๊ต ซื้อหนึ่งลูกขอเขาชิมครึ่งลูก..! สีแดงพอใช้ แต่รสจืดอย่างกับน้ำเปล่า วิ่งมาถึงบ้านเท่าจั้น โซยุนท์ขอเติมน้ำมัน ถามราคาดูแกลลอนละ ๒๗๐ จั๊ต...


ให้อาหารลุงขาวที่บ้านเท่าจั้นก่อนเข้าเขตเมืองย่างกุ้ง

ไปต่ออาจจะแพงกว่านี้ อาตมาจึงสั่งตุนเต็มที่ ได้ ๓๐ แกลลอน จ่ายไป ๘,๑๐๐ จั๊ต แล้วมุ่งเข้าเมืองย่างกุ้ง อาศัยหลวงปู่ผ่านด่านเข้าเมืองฟรีตามเคย ตลอดทางจากปะโกมาถึงย่างกุ้งไม่มีด่านบุญเลย ถนนใหญ่รถวิ่งเร็วเขาคงเรี่ยไรไม่ได้กระมัง..?

ฉันเพลกันนอกเมืองหมดไป ๑,๔๐๐ จั๊ต เจ้าของร้านเห็นพระ ๕ รูป ตกเลขมงคลพอดี จึงขอเลี้ยงกาแฟกับขนมเค้กแถมท้าย จากนั้นบอกกับพลขับมือหนึ่งว่า ใกล้อะไรแวะที่นั่น ไม่ต้องรีบร้อน เวลาของเรามีเหลือเฟือ จะค้างที่ย่างกุ้งตั้ง ๒ คืน...


หลังคาคลุมทางเดินและซุ้มประตูวัดไจ๊กะเลาะ

แห่งแรกคือพระเจดีย์ไจ๊กะเลาะ เป็นที่ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรดอสุรินทราหู ซุ้มประตูและทางเดินลวดลายงดงามมาก จุดที่พระพุทธเจ้าประทับ เขาทำเครื่องหมายเอาไว้ พวกเราไปกราบอธิษฐานกันตามอัธยาศัย...
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg 79.jpg (91.8 KB, 569 views)
ชนิดของไฟล์: jpg 82.jpg (97.9 KB, 567 views)
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-07-2011 เมื่อ 03:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 98 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 26-07-2011, 13:01
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,275 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

เห็นพระเจดีย์ทรงแปลกตา รูปทรงเหมือนโดมของสุเหร่าอิสลาม อาตมาให้แวะเข้าไป นี่คือวัดมหาซานดอชีนเมียะพะยาจี เรียกง่าย ๆ ว่าวัดอะเลงงาซินท์ โอ้โฮ...มหึมามโหฬาร ศิลปะคล้ายไปทางแขกฮินดูผสมอิสลาม เหมือนศาสนสถานของศาสนาซิกข์ ใหญ่โตจนขึ้นไปบนหอคอยของวัดแล้ว ยังหามุมถ่ายรูปไม่ได้เลย..!


มณฑปวัดอะเลงงาซินท์

กราบพระประธานที่เป็นพระองค์ใหญ่ทาสีเขียวปี๋ สมกับชื่อเมียะพะยาจี (หลวงพ่อโตแก้วมรกต) จากนั้นโชเฟอร์ของเราพาเข้าไปในตึกเก่างั่ก มีคุณยายแก่ ๆ เฝ้าอยู่คนเดียว ขอกุญแจจากคุณยายไขประตู ขึ้นไปบนชั้นสามของตึก...


หลวงพ่อเมียะพะยาจี (หลวงพ่อโตแก้วมรกต)

โอ้โฮเฮะ...แบบนี้ถ้าไม่มาแม่ตีตายแน่ ๆ..! นี่มันผ้าขี้ริ้วห่อโคตรเพชรแท้ ๆ... พระพุทธรูปทองคำหน้าตักเกือบ ๒ ศอก ทรงเครื่องแบบพระวิสุทธิเทพ อลังการงดงามจนตะลึง ยิ่งท่านนาวินอ่านประวัติให้ฟังยิ่งน่าทึ่งเข้าไปใหญ่...
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg m20053.jpg (94.8 KB, 552 views)
ชนิดของไฟล์: jpg m20054.jpg (101.3 KB, 552 views)
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-07-2011 เมื่อ 14:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 92 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 26-07-2011, 13:06
คิมหันต์ คิมหันต์ is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 663
ได้ให้อนุโมทนา: 26,519
ได้รับอนุโมทนา 88,275 ครั้ง ใน 1,256 โพสต์
คิมหันต์ is on a distinguished road
Default

พระพุทธรูปทองคำองค์นี้ เป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลของพระมหากษัตริย์ถึง ๖ พระองค์ ตั้งแต่พระเจ้าอลองพญา มาจนถึงพระเจ้าธีบอ..! มาซ่อนอยู่ในที่ผุ ๆ พัง ๆ แบบคนคาดไม่ถึง ใคร ๆ มากราบทำบุญที่เจดีย์แล้วก็คงกลับเลย ผ่านของวิเศษสุดเช่นนี้ไปเปล่า โดยไม่ได้กราบชมเป็นบุญตา นับว่าน่าเสียดายเป็นที่สุด...

อาตมาพยายามเช็ดกระจกเก่า ๆ ที่กั้นห้องบรรจุพระ เพื่อจะได้ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก แต่ความสกปรกมันจับจนเข้าเนื้อ เช็ดเท่าไรก็ไม่สะอาด จนคิดว่าดีที่สุดเท่าที่ทำได้ จากนั้นบรรจงวางมุมกล้องอย่างประณีตที่สุด แล้วกลั้นใจลั่นชัตเตอร์...


เทียวไปเทียวมาอยู่หลายปี ถ่ายภาพมาได้ดีที่สุดแค่นี้แหละพี่น้องเอ๋ย..!

“แกร็ก..!” ระบบกล้องทำงานแค่ครึ่งเดียว ซ้ำตัวเลขดิจิตอลหายวับไปกับตา เหลือแต่จอขาวโล่ง..! แบบนี้แสดงว่าท่านไม่ให้ถ่ายแน่ ขอลองอีกทีน่า..ทั้งที่แสงพอแท้ ๆ แฟล็ชกลับทำงาน สะท้อนกับกระจกขาวพร่าไปหมด..!

ฟิล์มก็มีน้อย แต่ความอยากได้รูปพระแสนงามไว้บูชา ทำให้ต้องขอลองอีกที “แว่บ..!” หมดสิทธิ์ครับผม...ขาวสะอาดด้วยแสงแฟล็ชอีกครั้ง..! ถามคุณยายว่าขอเปิดเข้าไปถ่ายด้านในจะได้หรือไม่..? คุณยายบอกว่าไม่ได้เป็นผู้ถือกุญแจจ้ะ...

คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป
รูป
ชนิดของไฟล์: jpg m20056.jpg (101.5 KB, 554 views)
__________________
ไม่ติดในสุข ไม่กังวลในทุกข์ วางเฉยในร่างกายนี้ ปล่อยวางภาระทั้งปวง ยอมรับกฎของกรรม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-07-2011 เมื่อ 17:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 90 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คิมหันต์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:30



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว