กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 10-01-2016, 21:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทุกวันนี้ดูเหมือนอินเทอร์เน็ตและ Facebook จะมีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ปุถุชนในโลกแห่งความเป็นจริงยิ่งกว่าสมัยก่อน และดูเหมือนจะเป็นเกือบทุกอย่างของชีวิต เช่น การรู้จักคน การซื้อขายสินค้า การทำบุญ และการปฏิสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่สามารถสร้างกุศลกรรมและอกุศลกรรมได้อย่างรวดเร็วและฉับพลัน อีกทั้งสามารถทำให้เกิดความสุขและความทุกข์แบบปลอม ๆ ได้แนบเนียนเสียเหลือเกิน ผมกราบขอคำชี้แนะจากพระอาจารย์ว่า ผมผิดปกติหรือไม่ที่มีความรู้สึกเช่นนี้มาสักพักใหญ่แล้ว ? และขอกราบเรียนถามถึงวิธีการหนีรอดจากเครื่องมือของบ่วงมารนี้ได้
ตอบ : ผิดปกติไหม ? ก็ถือว่าแปลกแยกจากสังคม ส่วนวิธีทำอย่างไรจะให้ได้ประโยชน์ที่สุดหรือหลุดพ้นไปได้ ก็พยายามใช้ไปในเรื่องของการปฏิบัติธรรม หรือใช้สนับสนุนศีล สมาธิ ปัญญา ของเราให้ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 09:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 10-01-2016, 21:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผู้ที่ปรารถนาความเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า จะสามารถบรรลุความเป็นพระโสดาบันได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ได้ละความปรารถนานั้นเสียก่อนก็บรรลุไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 09:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 10-01-2016, 21:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เคยมีคนบอกว่าเรื่องการย้ายเจดีย์นั้น หากนำเอาเงินทำบุญของพุทธบริษัทมาใช้ในงานบุญที่มีอานิสงส์มากกว่าเจตนาเดิมที่คนร่วมบุญมา ไม่ถือว่าเป็นการย้ายเจดีย์จริงไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเจ้าของเงินไม่ยินดีด้วย อย่างไรก็โดน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 09:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 10-01-2016, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าฆราวาสมีปัญหากับพระสงฆ์ และต้องการขอขมาท่าน แต่ไม่สามารถขอขมาแบบตัวต่อตัวได้ ใช้วิธีถวายพานดอกไม้ธูปเทียนแพขอขมาต่อหน้าพระพุทธรูป และภาวนาคำขอขมาพระรัตนตรัยต่อพระเครื่องประจำตัวก่อนนอนตลอดทุกคืน อยากทราบว่าการทำเช่นนี้ถือว่าการขอขมาพระรัตนตรัยมีผลสมบูรณ์หรือไม่ครับ ? และหากไม่สมบูรณ์ กราบขอคำชี้แนะที่ถูกต้องจากพระอาจารย์ด้วยครับ
ตอบ : ดูท่าว่าจะไปไม่รอดหรอก เพราะใจกังวลเหลือเกิน สำหรับบุคคลนี้ที่ถาม เกิดจากการที่ไม่มีความกล้าหาญพอที่จะไปเผชิญหน้ากับพระท่าน ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ที่บอกว่าไม่สามารถไปพบและขอขมาซึ่งหน้าได้ ก็เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-01-2016 เมื่อ 14:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 11-01-2016, 11:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การถามคำถาม มีบุคคลหลายประเภทด้วยกัน ประเภทแรก...ถามเพื่อตั้งใจให้อาตมารับรองผลการปฏิบัติ เพื่อที่จะได้เอาไปอวดคนอื่นเขา ประเภทนี้จะเห็นว่าอาตมาจะไม่ตอบเลย ประเภทที่สอง...ถามให้คนอื่นรู้สึกว่าตนเองเป็นคนดี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจพอกัน ฉะนั้น...ในส่วนที่น่าตอบที่สุดคือ ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติ เราติดขัดตรงไหนแล้วสอบถามมา ไม่ใช่ถามเปะปะไปเรื่อยเปื่อย หรืออวดความรู้ของตนเอง แต่บุคคลที่ว่ามาก็ดันมีมากเสียอีก..!

ไปนึกถึงแม่ชีท่านหนึ่งไปพักที่วัดท่าซุงราว ๆ ปี ๒๕๒๘ ประมาณหกโมงเช้าก็ไปทุบประตูศาลานวราช บอกว่า "ท่าน..เทปที่เปิดเมื่อเช้ามืด มีขายไหม ?" พระก็ตั้งหลักไม่ทัน ถามว่าเทปไหน ? แม่ชีก็ว่า "เทปที่ด่าฉันน่ะ" พระก็บอกว่า "ไม่มีนะ...เทปที่ด่าโยม" เขายืนยันว่ามี พระท่านถามว่า "โยมได้ยินเสียงด่าหรือ ?" เขายืนยันว่าหลวงพ่อด่าเขาตลอดครึ่งชั่วโมงที่ฟังเทป

ในเมื่อเป็นเช่นนั้นพระท่านก็ถามต่อว่า "เกิดอะไรขึ้นถึงโดนด่าอย่างนั้น หลวงพ่อท่านด่าด้วยเรื่องอะไร ?" เขาตอบว่า ได้ปฏิบัติธรรมไปจนถึงระดับหนึ่งแล้วรู้สึกว่าตัวเองดี ก็เลยตั้งใจจะมาสนทนาธรรมกับหลวงพ่อ แต่ความตั้งใจอยู่ในลักษณะที่จะอวดว่าตัวเองดีแล้ว เวลาฟังเทปตอนเช้ามืดก็เลยได้ยินหลวงพ่อท่านด่า "อวดดี..ความรู้มีแค่หางอึ่ง ปฏิบัติได้นิดหน่อย ตั้งใจจะมาหาเรื่องคุยอวดชาวบ้านเขา หาเรื่องลงนรกชัด ๆ...ฯลฯ" หลวงพ่อท่านก็ว่าของท่านไปเรื่อย

สรุปได้ความว่า เทปที่เปิดตอนเช้ามืดนั้น เป็นเทปปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ ตั้งแต่ต้นจนท้ายไม่มีคำด่าสักคำเดียว แสดงว่าหูดีมาก สามารถได้ยินในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ยิน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-01-2016 เมื่อ 13:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 11-01-2016, 11:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยก่อนพอเลิกกรรมฐานทุ่มครึ่ง พวกเราก็มาจับกลุ่มสนทนาธรรมกัน พอสองทุ่มทางวัดจะเปิดเสียงตามสายของหลวงพ่อ หลวงตาวัชรชัยก็ยกมือไหว้อย่างดี แล้วก็ปิดเสียงที่ลำโพง ปรากฏว่าวันนั้นดวงเฮงทั้งคณะเลย พอยกมือไหว้ เอื้อมมือจะไปปิดเสียงลำโพง ก็มีเสียงหลวงพ่อดังออกมาว่า "ไอ้พวกชอบคุยแข่งเสียงธรรมะ แถมยังชอบปิดเสียงลำโพงด้วย หาเรื่องไปอเวจีทั้งก๊วน...!" สรุปแล้วเทปของหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านด่าได้จริง ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-01-2016 เมื่อ 15:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 11-01-2016, 11:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาก็เจอมากับตัวเอง หลวงพ่อท่านเทศน์ว่าพระนางโรหิณีเกิดมาสวยมาก แต่ไม่กล้าที่จะไปพบพระพุทธเจ้า เพราะได้ยินว่าพระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญเรื่องความงาม อาตมาก็นึกในใจว่า "ไม่น่าจะใช่ เพราะตามที่เคยอ่านมาเป็นพระนางรูปนันทา" เสียงหลวงพ่อในเทปบอกว่า "ถ้าในพระสูตรเป็นพระนางรูปนันทา แต่ในธรรมบทบอกว่าเป็นพระนางโรหิณี" อ้าว...แค่คิดในใจท่านก็เถียงแล้ว แสดงว่าเทปเสียงหลวงพ่อวัดท่าซุงเถียงเก่งทุกม้วน...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 13:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 11-01-2016, 11:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ประสบการณ์ที่พบบ่อยก็คือ เวลาตั้งใจฟังเสียงสอนธรรมของหลวงพ่อวัดท่าซุง โดยปกติอาตมาจะฟังตั้งแต่ต้นจนจบ โดยขยับขาเปลี่ยนท่านั่งเพียงครั้งเดียว บางวันฟังไปพลิกขาไปสองครั้งก็แล้ว สามครั้งก็แล้ว ไม่จบสักที จนในที่สุดก็เกิดความสงสัยว่าทำไมวันนี้ท่านเทศน์ยาวแท้ ? จึงลืมตาขึ้นมาดู ปรากฏว่าทันทีที่ลืมตามา เสียงก็หายวับไปเลย เทปที่ตั้งใจเปิดฟังดีดจบไปตั้งนานแล้ว แต่ทำไมได้ยินเสียงต่อเนื่องตลอดเวลาก็ไม่รู้ ? เนื้อหาก็ต่อเนื่องเป็นเรื่องเดียวกันอีกด้วย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 13:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 231 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 11-01-2016, 12:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ความเจ็บไข้ได้ป่วยสำหรับนักปฏิบัติแล้วถือเป็นกำไรใหญ่ อันดับแรก...ได้เห็นว่าร่างกายนี้ไม่ดีจริง ๆ อันดับที่สอง...การประคับประคองร่างกายตัวเองต้องใช้กำลังของสติ สมาธิมากกว่าปกติ ในลักษณะอย่างนั้นกิเลสจะกินใจของเราไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อเห็นความตายมาอยู่ตรงหน้า อาการเจ็บไข้ได้ป่วยหนักอย่างนี้ไม่ทราบว่าจะรอดหรือเปล่า ? ถ้าท่านที่ทำได้ก็จะส่งใจไปเกาะพระหรือเกาะพระนิพพานไว้ก่อน เป็นการประกันความเสี่ยง แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักปฏิบัติธรรม บางทีก็โอดครวญอยู่กับความเจ็บป่วยนั้น

ถ้าเป็นนักปฏิบัติที่ปฏิบัติไปได้ระยะหนึ่ง บางทีไม่รู้ว่าตัวเองทำไปแล้ว ผลในการปฏิบัติมีมากน้อยเท่าไร ตอนเจ็บไข้ได้ป่วยหนัก ๆ จะรู้ว่าต้นทุนของเรามีเพียงพอหรือไม่ เพราะกำลังที่เราปฏิบัติได้ทั้งหมดจะมารวมตัวกัน แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตอนนั้นเรามีกำลังเท่าไร ถ้าใครเป็นแล้วกำลังใจไม่เกาะร่างกาย ปล่อยวางได้เป็นปกติ รักษาไปตามหน้าที่...หายก็หาย ถ้าไม่หาย...จะตายก็เชิญตามสบาย ถ้าไม่มีความหวั่นไหว ปล่อยวางได้ขนาดนั้น โอกาสที่จะไปพระนิพพานก็มีสูง จึงสามารถวัดผลการปฏิบัติของตนเองได้ด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 13:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 11-01-2016, 13:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญแบบปัญญาธิกะ บำเพ็ญบารมีเพียง ๔ อสงไขยหรือครับ ?
ตอบ : เฉพาะตอนท้าย

ถาม : ปรมัตถบารมี ?
ตอบ : ถูกต้อง บารมีต้นของปัญญาธิกะบำเพ็ญ ๗ อสงไขย บารมีกลางบำเพ็ญ ๙ อสงไขย บารมีปลายบำเพ็ญ ๔ อสงไขย รวมแล้ว ๒๐ อสงไขยถ้วน ๆ กับเศษอีกหนึ่งแสนมหากัป เพราะฉะนั้น...ได้ยินมาว่าปัญญาธิกะบำเพ็ญมา ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป โปรดทราบว่านั่นเป็นตอนท้ายเท่านั้น

บาลีท่านบอกว่า จิตติตัง สัตตะสังเขยยัง คิดในใจว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าใช้เวลา ๗ อสงไขย นะวะสังเขยยะ วาจะกัง พูดว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้า ๙ อสงไขยกัป ก็เหลือสุดท้าย กาย วาจา ใจทำเพื่อความเป็นพระพุทธเจ้า ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป ถ้าเป็นศรัทธาธิกะก็บวกเท่าตัวเลย รวมแล้ว ๔๐ อสงไขย วิริยาธิกะบวกไปอีกเท่าตัว รวมแล้ว ๘๐ อสงไขย

ส่วนใหญ่ท่านทั้งหลายเหล่านี้ทำเพื่อความสุขความสบายของบริวาร ท่านก็เลยไม่ค่อยได้ใส่ใจว่าตัวเองจะลำบาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 11-01-2016 เมื่อ 15:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 11-01-2016, 14:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อวัดท่าซุงสัมพันธ์กับสมเด็จองค์ปฐมอย่างไรครับ ?
ตอบ : เคยเกิดเจอท่านมา

ถาม : แล้วท่านปรารถนาพุทธภูมิสมัยสมเด็จองค์ปฐมหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่ได้ถาม ท่านเพียงแต่บอกว่าสมัยที่ท่านปรารถนาพุทธภูมิครั้งแรก ภูกระดึงยังเป็นเกาะเล็ก ๆ อยู่กลางทะเล ตอนนี้น้ำถอยไปยังปักษ์ใต้แล้ว แค่สมัยคณะของหลวงพ่อโสณะกับหลวงพ่ออุตตระมาเผยแผ่พุทธศาสนาในสุวรรณภูมิ ตอนนั้นนครปฐมอยู่ชายทะเล เป็นท่าเรือที่คนเข้ามาค้าขายกัน ปัจจุบันทะเลถอยยาวไปถึงชะอำของเพชรบุรีแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 17:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 225 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 11-01-2016, 14:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "โดยปกติแล้วหลังการจัดงานวัด อาตมาจะอาศัยเวลาทำวัตรค่ำวันนั้น สรุปและประเมินผลการจัดงานว่ามีอะไรผิดพลาดที่ต้องแก้ไขบ้าง

เมื่อวานนี้ข้อผิดพลาดใหญ่ที่เห็นก็คือคน โดยเฉพาะแม่งานก็คือคุณชยาคมน์ พลาดตรงที่ไม่กล้าตัดสินใจ คนมาแน่นขนาดนั้นต้องเปิดบ้านให้เขาขึ้นเลย ไม่อย่างนั้นจะระบายคนไปทางไหน ? เขาให้คนวิ่งมาถาม อาตมาก็เลยไม่ตอบ โทษฐานที่ตัดสินใจไม่ได้ ท้ายสุดก็ไม่ยอมตัดสินใจอีก อาตมาจึงต้องเปิดบ้านเอง

ถ้าหากว่าเป็นแม่งานต้องกล้าตัดสินใจ สมัยอยู่วัดท่าซุง หลวงพ่อตั้งคณะกรรมการสงฆ์ ๑๒ รูป ให้ดำเนินการแทนท่าน ให้อำนาจถึงขนาดว่า ถ้ากรรมการสงฆ์ ๒ ใน ๓ มีมติขับไล่ท่านออกจากวัด ท่านก็จะไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าตัดสินใจสักคน ไม่ว่าเรื่องอะไรท้ายสุดก็ต้องให้หลวงพ่อท่านตัดสินใจ แล้วท่านจะตั้งคณะกรรมการสงฆ์ไว้ทำอะไร ?

ท้ายสุดพออาตมาไปถวายการรับใช้หลวงพ่อ อะไรที่มั่นใจว่าทำแล้วไม่พลาดแน่ จะตัดสินใจทำแทนท่านไปเลย เพราะฉะนั้น...ช่วงสี่พรรษาสุดท้ายก่อนที่หลวงพ่อท่านจะมรณภาพ ท่านก็เลยเรียกใช้อาตมาอยู่คนเดียว เพราะอาตมา "กล้ารับผิด" พูดง่าย ๆ ว่าถ้าพลาดยอมแม้กระทั่งให้หลวงพ่อไล่ออกจากวัด แต่จะพยายามให้งานไปถึงท่านให้น้อยที่สุด เพื่อถนอมสังขารของท่านเอาไว้ให้นานที่สุด ก็เลยเป็นคนที่กล้าตัดสินใจและค่อนข้างที่จะเผด็จการ

ส่วนใหญ่แล้วคนเรามักจะกลัวผิดกลัวพลาด ถนัดรับแต่ชอบ ไม่รับผิด ถ้ามีคนตัดสินใจแทนก็จะทำงานแบบสบายใจ ฉะนั้น...คนที่จะตัดสินใจรับผิดจึงหาได้ยาก ต่อไปถ้ารักที่จะทำอะไรโปรดรับผิดเสียบ้าง แล้วงานทุกอย่างจะไปได้ดีขึ้นกว่านี้ ถ้าเป็นแม่งานก็ไม่ต้องเกรงใจใครแล้ว แม้แต่เจ้าของบ้านก็ออกไปห่าง ๆ เลย ต้องตัดสินใจได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่วิ่งมาถามทุกเรื่อง ถ้ามาถามทุกเรื่องอาตมาก็เป็นแม่งานเอง ไม่ใช่คนอื่นเป็น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 17:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 11-01-2016, 14:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"งานในส่วนอื่นของเมื่อวานนี้ก็คาดว่าจะเรียบร้อย ที่ต้องใช้คำว่า "คาดว่า" เพราะอาตมาไปไหนไม่ได้ ติดอยู่ข้างบนนี้ ไม่ได้ลงไปดู ได้ไปดูเอาก็ตอนที่เก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว

เคยย้ำเตือนตั้งแต่สมัยจัดงานนิโรธกรรมของครูบาวิฑูรย์ที่ปรียานันท์ธรรมสถานครั้งแรก ๆ ว่า ใครรับงานต้องเป็นผู้เสียสละ ก็คือต้องประจำอยู่กับหน้าที่ของตนเอง ไม่ใช่ไปเสนอหน้าอยู่ใกล้ ๆ ครูบาอาจารย์ ถ้าเช่นนั้นงานของตัวเองก็จะบกพร่อง แล้วก็จะพาให้งานส่วนอื่นเสียไปด้วย

งานของครูบาวิฑูรย์ส่วนที่ต้องแก้ไข แม้กระทั่งครั้งล่าสุดก็คือการจราจร อาตมาบอกไปครั้งหนึ่งว่า ให้หาไฟไปติดตรงทางเข้าด้านนอกให้คนเขาเห็น ปรากฏว่าไปติดเอาปากทางฝั่งโน้น แปลว่าคนเห็นคือเลยทางเข้าไปแล้ว ค่อนข้างจะติดได้ปัญญานิ่มมาก ไม่รู้เคยขับรถหรือเปล่า ? ต้องติดก่อนทางเข้าอย่างน้อยสัก ๑๐-๒๐ เมตร รถจะได้ชะลอและเข้าได้ทัน หรือถ้าจะให้ดีก็แต่งชุดสะท้อนแสง แล้วถือแท่งไฟโบกให้เขาเห็นเลย ปีนี้อาตมาก็เกือบจะถลำเลยไป ดีที่รู้ว่าทางเข้าอยู่บริเวณนั้น ถ้าคนที่ไม่รู้ก็คงต้องไปวนรถกลับมาใหม่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 17:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 11-01-2016, 14:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาสร้างพระ ทำไมถึงต้องสร้างสมเด็จองค์ปฐมกัน ?
ตอบ : อยู่ที่ความตั้งใจของเขา ส่วนใหญ่ที่สร้างแล้วประกาศว่าสร้างสมเด็จองค์ปฐมก็เพราะต้องการอานิสงส์ เนื่องจากหลวงพ่อวัดท่าซุงเคยบอกกับลูกศิษย์ว่า ถ้าใครสร้างสมเด็จองค์ปฐม พระยายมราชจะขึ้นบัญชีทองคำไว้ให้ ท่านเหล่านี้ถ้าไม่ใช่ถึงขนาดทำอนันตริยกรรมแล้ว ท่านจะพยายามประคองจิตให้นึกถึงความดีให้ได้ก่อนตาย คนก็เลยโยนภาระให้พระยายมราช โดยการประกาศว่ากูก็สร้างสมเด็จองค์ปฐม ถึงได้สร้างกันยกใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-01-2016 เมื่อ 17:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 12-01-2016, 13:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ไปงานศพแล้วผีตามมาค่ะ ?
ตอบ : ไปบอกผีว่า มีปัญญาก็ตามไปเถอะ ถ้าเอ็งตามมา ข้าจะไม่อุทิศส่วนกุศลให้เอ็ง..!

ถาม : ทำให้ไม่สบายเลยค่ะ ?
ตอบ : ที่เขาบอกว่าไปแล้วชง อาตมาไปทีไรก็ชงทุกที บางทีตามมาเป็นร้อยเลย พวกไม่ใช่เจ้าของศพก็ตามมาด้วย เขาอยากได้บุญ ไปงานศพนี่ไข้จับตะครั่นตะครอเลย บางทีไม่ได้เฉลียวใจ ไม่ได้ตั้งใจดู ก็ปล่อยให้เขาตามไป

ถาม : เขาทำให้หลวงพ่อไม่สบายหรือคะ ?
ตอบ : ตะครั่นตะครอเหมือนจะจับไข้ บางทีกระอักกระอ่วนอยากจะอาเจียนก็มี แล้วแต่ว่าแรงมากแรงน้อย

ถาม : ทำไมจึงมีผลได้ขนาดนั้น ?
ตอบ : เขาพยายามตามตื๊อเรา ถ้าอุทิศส่วนกุศลให้เขาไป แผ่เมตตาให้เขาไปก็จบแล้ว แต่นี่บางทีลืม ไม่ได้นึกถึงเขา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2016 เมื่อ 16:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 12-01-2016, 14:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์บอกกับโยมเรื่องที่ทำงานว่า "ทน ๆ เอาหน่อย อยู่ที่ไหนเราก็ต้องทน ถ้าทนแรงเสียดทานไม่ได้ อยู่ที่ไหนก็ลำบาก น่าเบื่ออย่างนี้ทุกที่แหละ โลกนี้ไม่มีอะไรได้ดั่งใจหรอก..ต้องทนอยู่ไป ตายแล้วอย่ามาเกิดอีกก็แล้วกัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2016 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 12-01-2016, 19:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมใส่กางเกงขาสั้น (มาก) มาบ้านวิริยบารมี พระอาจารย์จึงกล่าวกับโยมว่า "โยมใส่ชุดจนอาตมานึกว่าไม่ได้นุ่งอะไรข้างล่าง ถ้าตั้งใจมาหาพระไม่ต้องสวยมาก เล่นใส่สวยมากเดี๋ยวคนเขาจะนินทาเอา..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2016 เมื่อ 11:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 12-01-2016, 19:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันเสาร์นี้เตรียมสตางค์ไว้ทำบุญ ๒๐๐ บาท มีเหรียญของขวัญปีใหม่แจกให้ ยกเว้นใครอยากได้มากกว่า ๑ เหรียญก็เตรียมสตางค์ไว้เยอะ ๆ เหรียญของขวัญปีใหม่ชุดเดิมนั่นแหละ แต่ชุดนี้เป็นเนื้อชินตะกั่ว รับไปแล้วโปรดระวังจมูกพระจะบี้ ออกในราคาเหรียญละ ๒๐๐ บาทแค่พรุ่งนี้เท่านั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-01-2016 เมื่อ 19:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 12-01-2016, 19:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาเพิ่งจะทำบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดเสร็จ จะส่งพรุ่งนี้ ฝากพระที่วัดไว้ให้ท่านไปส่งแทน ปีที่ผ่านมาจ่ายเกินรายรับไปนิดหน่อยแค่ ๔๐ ล้านกว่าบาท บวกของเก่าแล้วจ่ายเกินไป ๗๗ ล้านกว่าบาท ไม่เป็นไรหรอก...เดี๋ยวพวกเราช่วยกันทำบุญนิด ๆ หน่อย ๆ ก็หมดหนี้ไปเอง เพราะปีนี้มีการก่อสร้างใหญ่ ๆ อยู่แค่เมรุเท่านั้น ตอนนี้พวกโครงสร้างที่ถือว่าเป็นส่วนราคาแพงและสำคัญก็จ่ายไปจะหมดแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2016 เมื่อ 11:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 12-01-2016, 19:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,030 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เหรียญของขวัญปีใหม่นั่นเข้าพิธีมา ๓ งานแล้ว เข้าเสาร์ ๕ มา ๒ ครั้ง แล้วก็เข้ากรรมฐาน ๓ วันมาอีกครั้งหนึ่ง ต้องบอกว่างานนี้เก็บความลับดีมาก โผล่ออกมาแล้วถึงจะรู้กัน แม้แต่อาตมาเองก็ยังไม่ได้เห็นว่าหน้าตาเหรียญเป็นอย่างไร เปิดกล่องเห็นพร้อมกันวันนั้นแหละ

รู้ไหมทำไมต้องเก็บความลับขนาดนั้น ? เพราะมีคนสร้างเลียนแบบทันทีทันใดเลย พอสร้างเลียนแบบแล้วก็เอามาเข้าพิธีของวัดท่าขนุน ขนาดมีดหมอเพชราวุธยังทำเลียนแบบกันให้ชุ่ยไปหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-01-2016 เมื่อ 19:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 02:23



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว