กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 08-04-2015, 09:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พยายามทบทวนอยู่ทุกวัน ว่าเราปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร ? ตอนนี้ทำไปถึงไหน ? ยังตรงเป้าหมายอยู่หรือไม่ ? ห่างจากจุดมุ่งหมายใกล้ไกลเท่าไร ? ต้องทำอย่างไรถึงจะเข้าใกล้จุดหมายนั้น ? ส่วนใหญ่แล้วพวกเราพอทำไประยะหนึ่ง ก็ลืมแม้กระทั่งจุดมุ่งหมายของตน แล้วก็ไม่ได้พากเพียรพยายามที่จะตั้งหน้าตั้งตาทำให้สำเร็จผลจริง ๆ จึงเหมือนอยู่ในสภาพของคนที่เดินไปถึงทางตัน หาความก้าวหน้าไม่ได้ กี่ปี ๆ ทำไปก็ได้อยู่แค่นั้น

อย่าลืมว่าในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ในเรื่องของการสร้างความดี มีระดับของศีล ของสมาธิ ของปัญญา ถ้าศีลของเรายังบกพร่องอยู่ ระดับแรกของเรายังเข้าไม่ถึง จะให้ทรงสมาธิจนเอาดีได้เลยย่อมเป็นไปได้ยาก ถ้าหากว่าศีลไม่ทรงตัว สมาธิไม่หนักแน่น จะให้ปัญญาเกิดเพียงพอในการสู้กับกิเลส ก็เป็นของที่เป็นไปไม่ได้ หลวงพ่อวัดท่าซุงจึงเตือนพระ ตลอดจนญาติโยมให้ทวนศีลของตนเองอยู่เสมอ ๆ โดยเฉพาะพิจารณาในสังโยชน์ ๑๐ ว่ามีตัวใดที่ยังร้อยรัดเราอยู่ ให้พยายามที่จะตัดละไปทีละตัว

จริง ๆ ที่ว่ามาทั้งหมดนี่มากกว่าที่สอนตอนเจริญกรรมฐานอีก แต่เพียงรู้สึกว่าเหมือนกับตักน้ำรดหลังหมาอย่างไรไม่รู้ เข้าใจคำว่าตักน้ำรดหลังหมาไหม ? คือถ้าตักน้ำรดหัวตอ หัวตอยังเปียก ตักน้ำรดหลังหมา โดนสะบัดพรืดเดียวหายหมด"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 08-04-2015 เมื่อ 16:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 08-04-2015, 09:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ไปปฏิบัติธรรมครั้งนี้เอาเสื้อสีม่วงไปใส่กันดีไหม ? ใส่สักวันหนึ่งจะได้ถ่ายรูปกับป้าย ใครไปปฏิบัติธรรมที่วัดท่าขนุนช่วงสงกรานต์ขอเสื้อสีม่วงสักตัวหนึ่ง จะได้นัดกันใส่แล้วถ่ายรูป ถวายสมเด็จพระเทพฯ ท่าน ปกติวัดเราต้องส่งรายงานการปฏิบัติทุกปีอยู่แล้ว ปีนี้มัวแต่วิ่งเรื่องวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกอยู่ เพิ่งจะส่งรายงานไปเมื่อ ๒ อาทิตย์ก่อนนี้เอง ปกติต้องส่งประมาณต้นเดือนมกราคม”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2015 เมื่อ 16:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 08-04-2015, 11:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “เมื่อวันมาฆบูชาที่ผ่านมามีการบวชพระหลายรูป ในส่วนที่ชอบใจก็คือท่านตั้งใจปฏิบัติกันจริง ๆ แม้กระทั่งเวลาพักผ่อนก็ยังไปนั่งซ้อมนั่งทวนสวดมนต์กัน นอกเหนือเวลากรรมฐานท่านก็ยังไปเดินจงกรม ไปภาวนาของท่านกันอยู่ ถือว่าท่านทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ เป็นที่น่ายินดีและน่าโมทนา ถ้ารักษาความดีนี้ไว้ได้ โอกาสที่จะเจริญงอกงามในพุทธศาสนาก็มีสูง พระที่วัดเขาเลิกสงสัยกันแล้วว่าหลวงพ่อไม่ค่อยอยู่วัด ทำไมกลับไปแล้วด่าถูกทุกที”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2015 เมื่อ 16:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 08-04-2015, 11:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า “ศาลาการเปรียญวัดท่าขนุนที่สร้างในวาระครบรอบ ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย ค่าใช้จ่ายอยู่ที่เกือบ ๕๔ ล้านบาทแล้ว ตอนช่วงนี้เหลือของแพง ก็คือการกรุหลังคา ต้องบอกว่าทำฝ้านั่นแหละ แต่กรุด้วยไม้ ซึ่งเราทุกคนก็รู้ว่าไม้ราคาแพงแค่ไหน

ตอนนี้ไม้พื้นของหมู่เรือนไทยลงเต็มครบถ้วนแล้ว ก็เหลือแต่ไม้กรุหลังคา คาดว่าอีกหลายล้านกว่าจะจบ แต่ได้แจ้งเอาไว้แล้วว่าพยายามจะให้เสร็จภายในสงกรานต์ ดูท่าจะเหลืองานไปเกินสงกรานต์อีกหน่อย

ท่านใดที่จะไปปฏิบัติธรรมช่วงสงกรานต์ จะเห็นความก้าวหน้าของงานด้วยตัวเอง กรุณาเดินขึ้นไปให้ถึงชั้นบนที่เป็นหมู่เรือนไทยด้วย บันไดแค่ ๖๖ ขั้นเท่านั้น คุณสุรีย์ที่เป็นช่างรับเหมา จากคนสุขภาพไม่ดี เดินจากที่พักตรงแดนสงบด้านหลังโรงครัวของวัด ขึ้นบันไดไม่กี่ขั้นก็หอบจนต้องนั่งพัก เดี๋ยวนี้บันได ๖๖ ขั้นนี่เรื่องเล็กเลย ขึ้นอยู่ทุกวันจนแข็งแรงไปโดยปริยาย มีคนถามว่า “ทำไมไม่ติดลิฟต์ ?” ขอตอบว่า “อาตมาชอบขึ้นบันได เพราะฉะนั้น..คนอื่นก็ต้องชอบด้วย..!”

เหตุที่ไม่ติดลิฟต์เพราะว่าทองผาภูมิทั้งอำเภอมีลิฟต์อยู่ที่เดียว ก็คือสำนักงานเทศบาลตำบลทองผาภูมิ ถ้าขืนไปทำเป็นแห่งที่ ๒ ก็จะแปลกแยกจากสังคมแบบนั้น ต่อไปอะไรดี ๆ จะไปไว้ชั้นบนให้หมด ...(หัวเราะ)... ใครอยากเห็นต้องเดินขึ้นไปดูเอง

หลวงปู่อำนวย (พระครูมงคลสุตาภรณ์ วัดไชยชนะสงคราม) ไม่ได้มางานวัดครั้งหนึ่งเพราะไปผ่าตัดลอกต้อหิน โผล่มาตกใจ “อาจารย์เล็กเนรมิตศาลามาได้อย่างไร ?” กราบเรียนว่า “ไม่ได้เนรมิตหรอกครับ ช่างเขาทำ หลวงปู่ไม่ได้มาตั้งปีหนึ่งแล้ว”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-04-2015 เมื่อ 16:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 09-04-2015, 16:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องดูส่วนรวมเป็นใหญ่ เหมือนกับที่วัด พระหลายรูปท่านทำงาน ท่านก็เล่นนิติศาสตร์ตรง ๆ เลย อาตมาต้องคอยเตือนท่านว่า ถ้าคุณมองระหว่างบุคคลต่อบุคคลก็ได้ แต่ถ้าคุณมองภาพรวมว่าทั้งวัดนี่ไม่ได้แล้ว คุณต้องคำนึงด้วยว่า ถ้าตรงไปตรงมาจนเกินไป จะมีผลกระทบอะไรบ้าง

เรื่องของพระจะพอเหมาะ พอดี พอควร แต่ถ้าคนอวดรู้ อวดฉลาดเอาไปขยายความ บางทีเสียหายเยอะ เหมือนอย่างที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านกล่าวถึง เป็นที่เข้าใจกันว่าคืออะไร แต่เขาเอาไปขยายความเสียชัด หลายเรื่องมีโอกาสที่จะโดนข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หรือแอบอ้างเบื้องสูง เวลาคนเกิดอารมณ์ร่วมขึ้นมาก็อยู่ในลักษณะที่ว่า เรารู้แล้วควรจะบอกต่อ เพื่อคนอื่นจะได้เห็นความสำคัญของเรา กลายเป็นเอากิเลสตัวเองรวมเข้าไปด้วย แล้วเรื่องก็กลายเป็นเสียหายในวงกว้าง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2015 เมื่อ 17:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 09-04-2015, 16:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึง กฐินปลดหนี้ที่เนปาล "คิดว่าถ้าไปคณะใหญ่ จะไปเที่ยวคงลำบาก คงต้องมุ่งเป้าไปกฐินก่อนเลย เรื่องเที่ยวกลายเป็นของแถม มีโอกาสก็แวะ ไม่มีก็กลับ เพราะคณะใหญ่เราจะไปใช้รถตู้ก็เปลืองมาก ทางด้านเนปาลเขาบังคับเลยว่า รถคันหนึ่งต่อไกด์คนหนึ่ง ในเมื่อเป็นดังนั้น ถ้าเราใช้รถใหญ่ ทางนั้นรถใหญ่จะวิ่งอย่างไร ถนนกับรถตู้เท่ากันพอดี ไปมาแล้วยังสงสัยว่าผ่านมาได้อย่างไร ?

คนกรุงเทพฯ ถ้าถ้อยทีถ้อยอาศัยกันเหมือนคนเนปาลบ้านเมืองจะน่าอยู่มากเลย รถราแน่นไปหมด คนก็เยอะ แต่เขาไปกันได้ ขนาดเราวิ่งไปเต็มถนน ไม่มีทางหลีกกันเลย เขาก็ประเภทคนโน้นถอยนิด คนนี้ถอยหน่อย คันนั้นมุดเข้าซอย แล้วก็ไปกันได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 09-04-2015 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 09-04-2015, 16:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครจองสมเด็จองค์ปฐมครั้งนี้ ถ้าพลาดเพราะพิมพ์ผิดนี่คงจำไปอีกนาน อย่างที่บอกไปเมื่อเช้าว่า ส่วนใหญ่จองกันแบบไม่ดูตาม้าตาเรือ ไม่ดูกติกาอะไรทั้งนั้น จองอย่างเดียวเลย ขนาดว่ามีการแจ้งกติกาเป็นระยะ ๆ ก็ยังอุตส่าห์ผิดกันจนได้ บางคนก็บอกแก้ไขแค่สถานที่รับ ไม่ได้แก้ตัวเลขจอง "อ๋อ...จะแก้อะไรก็โดน" บางคนก็เร่งให้รับรองสถานภาพตัวเองไว ๆ เพราะยืนยันตัวตนแล้ว ก็ต้องบอกว่าเป็นหน้าที่ของมัคคนายกเท่านั้น

เดี๋ยวต้องมีเรื่องประหลาดใจปิดท้ายกระทู้วัตถุมงคล เพราะว่าทั้งตะกรุด ทั้งสมเด็จองค์ปฐม ก็น่าจะพอชดเชยกับทองที่ซื้อไปแล้ว สมเด็จองค์ปฐมเอาปัจจัยไปสร้างมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ ส่งท้ายปิดกระทู้ ไม่รู้ว่าจะมีอะไร ถึงเวลาจองแล้วก็ให้ทันแล้วกัน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2015 เมื่อ 17:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 09-04-2015, 16:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อาตมาจะแจกหนังสือประวัติวัดท่าขนุนในงานศพคุณถาวร สองเมือง โยมเขาช่วยงานวัดมานานแล้วมาเสียชีวิต ช่วยกันมาตั้งแต่สมัยอยู่ที่เกาะพระฤๅษีใหม่ ๆ เพราะฉะนั้น..ถึงเวลาเขาตายก็ให้แบบไม่ต้องเสียดาย

เวลาญาติโยมที่เคยใส่บาตร ถ้าเขาตาย อาตมาสั่งพระที่วัดไว้เลยว่า จองเป็นเจ้าภาพในนามของวัดอย่างน้อย ๑ คืน แล้วก็ถามเขาด้วยว่ามีแขกเท่าไร วันออกศพจะได้เอาของที่ระลึกไปช่วย อย่างน้อย ๆ ให้คนเขาเห็นว่าไม่เสียทีที่ใส่บาตรวัดนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2015 เมื่อ 17:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 09-04-2015, 16:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ไม่กี่วันอาตมาต้องไปรับตราตั้งเจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ อาตมาเคยลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลมาครั้งหนึ่งแล้ว ปรากฏว่าปีนี้ตำแหน่งว่างทีเดียว ๓ ตำแหน่ง ก็แปลว่าปฏิเสธอย่างไรก็ไม่รอด โดยเฉพาะตำแหน่งที่ว่างก็คือตำแหน่งเจ้าคณะตำบลท่าขนุน เขต ๒ ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งวัดท่าขนุนเอง

โดยปกติแล้วเกณฑ์อย่างหนึ่งก็คือว่า เจ้าคณะตำบลต้องอยู่ในพื้นที่ตัวเอง จึงปฏิเสธไม่ได้ โดนเขาจับยัดจนได้ แล้วอีกส่วนหนึ่งก็คือว่า ปกติแล้วจะต้องเป็นรักษาการก่อน ๖ เดือน ลักษณะเหมือนกับทดลองงาน ถ้าเห็นสมควรถึงจะตั้งให้ แต่ปรากฏว่าอาตมาไม่ได้มีการทดลองงาน ตราตั้งมาเป็นตัวจริงไปเลย เขาอาจจะเห็นว่าของเก่าเคยเป็นมาแล้วก็ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2015 เมื่อ 17:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 09-04-2015, 16:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงเรื่องการเรียนว่า "นึกถึงคำสอนของพระเดชพระคุณท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ท่านเคยเตือนมาตั้งแต่สมัยผมเรียนบาลีอยู่ ท่านบอกว่า “ท่านเล็ก เรื่องการเรียนอย่าทิ้งสมาธินะ ถ้าทิ้งเมื่อไรจะท้อ” เห็นชัด ๆ เลยว่า ถ้าสมาธิไม่ดีนี่ไปเลย เพราะอาตมาวัดตัวเองอยู่ตลอด

ท่านอาจารย์สั่งแก้วิทยานิพนธ์ แก้แล้วแก้อีก แก้แต่ละครั้งหน้าตาไม่ได้เหมือนเดิมเลย เรามีหงุดหงิดไหม ? มีเครียดไหม ? ต้องวัดตัวเองอยู่ตลอด วัดไปวัดมายังยิ้มได้อยู่ อาการยังไม่หนัก แต่ประเภทถึงเวลาโทรมา “อาจารย์..ผมไม่เรียนแล้ว..ผมลาออก” นั่นแสดงว่ารับแรงกดดันไม่ได้

ตอนนี้วัดท่าขนุนเลยไม่มีรองเจ้าอาวาส ไม่มีผู้ช่วยเจ้าอาวาส หมดสิ้นซากไปเลย ตั้งรองเจ้าอาวาสไว้ ๑ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสไว้ ๖ ไม่เหลือเลย รองเจ้าอาวาสกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสจะพ้นตำแหน่งก็เมื่อ ๑.ให้ออก ๒.ไล่ออก ๓.ปลดออก ๔.มรณภาพ ๕.ลาออก ๖.ไปรับตำแหน่งที่อื่น ให้ออก ไล่ออก ปลดออกต้องผิดจริยาพระสังฆาธิการร้ายแรง ถ้าลาออกอยู่ในดุลพินิจ พ้นตำแหน่งเพราะมรณภาพนี่บังคับไม่ได้ ท่านตายแล้วก็ต้องให้ท่านตายไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-04-2015 เมื่อ 17:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 09-04-2015, 17:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการเรียน อาตมาเห็นเป็นของสนุก ก็คือเรียนเท่าไรก็ได้ความรู้เท่านั้น แต่คนอื่นรู้สึกว่าจะเครียดกับพวกตำรา

สมัยเรียนปริญญาตรี วิธีการเรียนของอาตมาก็คือ ทวนของเก่าว่าอาจารย์สอนไปถึงไหน ตั้งใจฟังในห้อง สรุปให้ได้ว่าวันนี้อาจารย์พูดถึงหัวข้ออะไร ในเมื่อได้หัวข้อใหญ่แล้ว หัวข้อย่อยคืออะไร จะจดอยู่แค่นั้น ส่วนรายละเอียดใช้วิธีจำเอา เมื่อจดเสร็จ เอามาลอกลงสมุดอีกครั้งหนึ่ง เท่ากับได้ทวนอีกรอบ แล้วก่อนสอบก็จะทำสรุปไว้อ่านทบทวน

มีอยู่วันหนึ่งท่านอาจารย์สุรวัฒน์ ทองเกลี้ยง กำลังตรวจข้อสอบอยู่ อาตมาเดินผ่านไปพอดี จึงถามท่านว่า “ขออภัยครับท่านอาจารย์ ผมได้เท่าไรครับ ?” ท่านอาจารย์ก็ถามว่าเลขที่เท่าไร พอแจ้งเลขที่ไปท่านก็ไปพลิกดู “เต็ม...เก่งนี่ครับ” เรียนท่านว่า "เป็นวิชาที่ผมอ่านน้อยที่สุดเลย อ่านแค่ ๒๐ เที่ยวเท่านั้นเอง" เด็กสมัยนี้อ่านได้สักเที่ยวหนึ่งไหม ?

เพราะฉะนั้น..ที่เด็กสมัยนี้เขาทึ่งว่าหลวงพ่อทำคะแนนเต็มร้อยได้อย่างไร บอกว่าไม่ต้องสงสัยเลย อ่านหนังสือต่างกันขนาดนี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2015 เมื่อ 02:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 09-04-2015, 17:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมเด็จองค์ปฐมลอยองค์ ช่างณุบอกว่าจะเสร็จภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้ ทั้งเนื้อชุบทองและเนื้อเงิน ค่าแรงค่าวัสดุทั้งสิ้น ๑,๑๖๕,๐๐๐ บาท โยมไม่ต้องตกใจ อาตมามีจ่าย แต่ว่าเนื้อทองคำ ๑๐๐ องค์ช่างณุทำถวายฟรี ๆ คือไม่คิดค่าแรง แต่อาตมาต้องจ่ายค่าทองเอง ถ้าทำถวายฟรีโดยไม่จ่ายค่าทองจะน่ารักกว่านี้มาก หนักองค์ละเกือบ ๒ บาท

ตอนช่วงนี้พวกบรรดาช่างและโรงงานทำวัตถุมงคล อยากทำวัตถุมงคลของวัดท่าขนุน เพราะว่าทำให้ทางโรงงานหรือทางช่างมีชื่อเสียง วัตถุมงคลของวัดออกมาหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือเลย ซึ่งในส่วนนี้เป็นส่วนที่เขาสามารถเอาไปโฆษณาโรงงานของตัวเองได้ เพราะของที่อื่นส่วนใหญ่ทำมาแล้ว ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะออกได้หมด แต่ของวัดท่าขนุนส่วนใหญ่ทำยังไม่ทันจะเสร็จ ก็จองหมดไปแล้ว"


ถาม : เนื้อเงินไม่ทำเพิ่มหรือคะ ?
ตอบ : เนื้ออะไรก็ไม่ทำเพิ่ม "ท่าน" สั่งแค่ไหนก็ทำได้แค่นั้น อาตมาเป็นคนที่ไม่ชอบต่อรอง เพราะเกรงใจ..บาทาหลวงพ่อท่านใหญ่ เดี๋ยวโดนท่านเหยียบแบน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2015 เมื่อ 02:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 09-04-2015, 17:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ธนบัตรที่ระลึก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวโรกาส..ทำไมใช้ฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ แล้วถ้าเกิดรัฐบาลไม่จัดงานฉลองให้นี่ไม่แย่หรือ ? ต้องบอกว่าทำความดีแล้วมีคนเห็น งานจัดฉลองกันใหญ่ พอ ๆ กับงานสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ฉลองครบรอบสำคัญ ๗๒ ปี ๘๐ ปีประมาณนั้น

ของฆราวาสที่เห็นก็มีคุณแสงชัย สุนทรวัฒน์ ตอนงานเผาคนแห่ไปเป็นแสนเลย นั่นทำความดีมาทั้งชีวิต เพียงแต่ขัดผลประโยชน์จึงโดนสั่งฆ่า คนเราตราบใดที่ยังเอาผลประโยชน์ของตัวเองเป็นใหญ่ ประเทศชาติก็เจริญยาก คนทำเพื่อประเทศชาติ แต่ไปขัดผลประโยชน์เขา ยังโดนสั่งฆ่าเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2015 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 216 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 10-04-2015, 13:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลามีคนถามถึงความหมายคำว่าบุญ เรานิยามด้วยบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าบุญคือความดี โดยเฉพาะความดีในบุญกิริยาวัตถุทั้ง ๑๐ ประการ เป็นสิ่งที่ทำแล้วทุกคนสรรเสริญ มีความเห็นร่วมกันว่าเป็นของดีแท้ ถ้าเราระบุตรงนี้ไม่ได้ คนเขายังขัดคอได้ ก็ไม่น่าจะใช่บุญแท้

ถาม : คำว่า บุญ กับ กุศล ต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : กุศลจริง ๆ เขาหมายถึงความฉลาด เป็นความฉลาดในการทำความดี คนก็เลยมักจะเรียกรวมกันว่าบุญกุศล เพราะว่าเป็นเรื่องของความดีทั้งคู่ แต่อยากจะบอกว่าบุญคือความดีที่เราทำ กุศลคือผลดีที่เราได้จากการกระทำนั้น ถ้าแยกอย่างนี้จะชัดกว่า

ถาม : ขอให้ช่วยยกตัวอย่างหน่อยครับ ?
ตอบ : อย่างเช่นว่า บุคคลคนหนึ่งตั้งใจทำความดีมาตลอดชีวิต ผลของความดีก็ส่งให้เขาเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงเกียรติยศ เป็นที่เคารพนับถือและเชื่อถือของคนอื่น เพราะฉะนั้น..ส่วนที่เขาทำก็คือบุญ เมื่อบุญที่เขาทำส่งผลให้ ส่วนนั้นเรียกว่ากุศล

แต่โดยวิสัยของคนเราแล้ว ต้องบอกว่าไม่ค่อยจะยินดีกับความดีคนอื่น ยกเว้นว่าสิ่งนั้นเป็นของดีจริงดีแท้ ขนาดทำสิ่งที่ดีจริงดีแท้ ยังถูกคนสงสัยว่าทำเอาหน้าหรือเปล่า ? แต่อย่าถึงขนาดผันเงินของสหกรณ์ไปทำบุญเลย เดี๋ยวจะไม่ได้ประกันตัว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2015 เมื่อ 15:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 10-04-2015, 13:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สิ่งเล็กน้อย ๆ บางคนก็บอกว่าเป็นความดี ดังนั้นแต่ละคนก็ให้ไม่เท่ากัน ?
ตอบ : เขามองคนละอย่างกัน อย่างเช่นพวกเราไปทำสังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน เขาก็ถามว่าทำไมไม่ไปเลี้ยงเด็กกำพร้าเล่า ? ทำไมไม่ไปช่วยคนยากจนในถิ่นทุรกันดาร ? เพราะฉะนั้น..อยู่ที่กำลังใจของเขา แต่ถ้าเรารู้จักสังเกตก็จะเห็นว่า สิ่งที่เขาว่ามาว่าเป็นความดีของเขาก็อยู่ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ หมวดทาน ไม่ได้เกินไปจากนั้นหรอก

การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกำลังใจของเรา กำลังใจสูงก็ตีความได้สูง กำลังใจต่ำก็ตีความได้ต่ำ


ถาม : ทำอย่างไรจะทำให้กำลังใจสูง ?
ตอบ : ไม่ต้องไปกังวลถึงตรงนั้น เรามีหน้าที่ทำอย่างเดียว ถ้าละเอียดขึ้นก็จะเข้าถึงได้มากขึ้นเอง

ถาม : บางทีรู้สึกเหมือนถอยหลังค่ะ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าถอยหลังก็รีบขึ้นหน้า รู้ตัวแล้วนี่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2015 เมื่อ 15:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 10-04-2015, 13:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คิดไม่ตก ?
ตอบ : ถ้าคิดไม่ตกแล้วก็เหมือนกับแบกโลกเอาไว้ เหนื่อยอย่าบอกใครเลย

ถาม : แก้ตนเองไม่ได้ แล้วไปแก้คนอื่น ?
ตอบ : ไม่มีใครแก้คนอื่นได้ เพราะคนอื่นก็คือโลก ไม่มีใครแบกโลกไหวหรอก ดูที่ตัว แก้ที่ตัว ถ้าตัวเราดี เดี๋ยวคนรอบข้างก็ดีตามไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-04-2015 เมื่อ 15:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 10-04-2015, 17:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกเราส่วนหนึ่งกลัวว่าจะดำ อาตมาเองขนาดเป็นลูกเจ๊กแท้ ๆ ยังตากแดดจนดำเลย ไปกลัวอะไรกับแดด ถ้าคนไหนขาว ๆ นี่จำไว้เลยว่าเอาตัวไม่รอดหรอก เข้าป่าอดตายแน่..!

ที่อาตมาดำจนเหมือนกับคนละคนกับสมัยก่อน ก็เพราะว่าไปโดนหนักตอนช่วงเป็นทหาร ขนาดผิวลอกเป็นแผ่น ๆ เลย รู้สึกหูคัน ๆ ลองจับดู หนังกรอบหลุดออกมาเป็นแผ่นเลย แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจหรอก

ตอนหล่อพระที่อาตมาบอกว่าไปแบกฟืน แผลเพิ่งจะหาย เวลาทำงานมัวไปห่วงหล่อห่วงสวยอยู่ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ไปนึกถึงรุ่นพี่สาวสมัยก่อนเขาก็พันผ้าเป็นไอ้โม่งเหมือนกัน และใส่งอบ พูดถึงงอบสมัยนี้ไม่เจอเลย สมัยนั้นจะมีหมวกกุยเล้ยของจีนกับงอบ กุยเล้ยนี่โยมแม่ของอาตมาสานเองได้ เก็บใบไผ่ใบใหญ่ ๆ มาค่อย ๆ สอดทีละใบ ๆ จนแน่นฝนไม่รั่วเลย

งอบต้องบอกว่าเป็นภูมิปัญญาของไทยเรา เพราะว่าตัวรังงอบระบายอากาศได้ดี ที่แน่ ๆ ก็คือกลายเป็นของที่ระลึกที่วิเศษมาก ฝรั่งชอบซื้อ สมัยนี้น่าจะเหลือแต่ขายเป็นของที่ระลึกแล้ว เพราะว่าชาวนาเขาไม่ได้หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินแล้ว ส่วนใหญ่อาศัยควายเหล็ก อาศัยรถดำ รถเกี่ยว รถหว่าน สมัยก่อนเขาต้องไถดะ ไถแปร ตีโคลน กว่าจะหว่านได้ ต้องบอกว่าบรรพบุรุษของเราลำบากลำบนมามาก เป็นกระดูกสันหลังของชาติจริง ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2015 เมื่อ 05:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 11-04-2015, 19:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาใช้มโนมยิทธิเต็มกำลังขึ้นไปข้างบน ทำอย่างไรจะเห็นให้ชัดเจนครับ มองเทวดาไม่เห็นครับ ?
ตอบ : ใช้วิธีพิจารณาวิปัสสนาญาณ ให้เห็นชัด ๆ ว่าร่างกายนี้ไม่ใช่ของเราแล้วขึ้นไปใหม่ ถ้าไม่พิจารณาขึ้นไปแล้วกำลังไม่มั่นคงพอ มักจะเห็นแค่มัว ๆ ถ้าทำอย่างไรก็ไม่ชัด ให้กราบขอบารมีพระพุทธเจ้า ขอให้เห็นได้ชัดเจนแจ่มใสด้วย

ถาม : ทำไมขึ้นไปแล้วจึงโดนถีบให้ลงมา ?
ตอบ : บางทีเราขึ้นไปแล้วล้นมาก ท่านก็เลยช่วยยันให้ด้วยความรักและเมตตา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2015 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 11-04-2015, 19:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมฝึกและศึกษาเพื่อความเป็นพุทธภูมิ ถึงเวลาที่จะควรต้องปรับความรู้ด้วยไหมครับ ?
ตอบ : ศึกษาและปฏิบัติไป ถ้าเข้าถึงจริง ๆ จะเกิดความแตกฉานขึ้นมาเอง

ถาม : ต้องเข้มข้น ศึกษาศาสตร์ต่าง ๆ ไหมครับ ?
ตอบ : เสียเวลา พระไตรปิฎกเล่มเดียวคุณก็ศึกษาไปหลายชาติแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-04-2015 เมื่อ 20:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 12-04-2015, 15:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,370
ได้ให้อนุโมทนา: 150,683
ได้รับอนุโมทนา 4,397,016 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตัวปฏิฆะแก้ยาก ?
ตอบ : เหตุที่ยากเพราะสติ สมาธิ ของเราไม่ดีพอ ถ้าสติดีพอจะรู้ตัวเร็วว่าเหตุการณ์ใด ๆ จะเกิดขึ้น ทันทีที่กระทบเราจะได้ระงับยับยั้งทัน ระงับยับยั้งด้วยอะไร ? ด้วยกำลังของสมาธิ เพราะฉะนั้น..ถ้าสติสมาธิไม่พอ คุณต้องภาวนาอย่างเดียวเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-04-2015 เมื่อ 17:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 00:36



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว