กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน ปี ๒๕๖๗ > เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๗

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 01-05-2024, 17:23
พิชวัฒน์'s Avatar
พิชวัฒน์ พิชวัฒน์ is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Aug 2014
ข้อความ: 345
ได้ให้อนุโมทนา: 3,307
ได้รับอนุโมทนา 18,837 ครั้ง ใน 823 โพสต์
พิชวัฒน์ is on a distinguished road
Default เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๖๗


ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ พิชวัฒน์ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 02-05-2024, 00:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,638
ได้ให้อนุโมทนา: 151,906
ได้รับอนุโมทนา 4,415,194 ครั้ง ใน 34,228 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เป็นวันที่กระผม/อาตมภาพค่อนข้างจะวุ่นวายกับชีวิต เนื่องจากว่าทางวัดท่าขนุนของเราและชุมชนฯ นั้น จะมีการเปิดตัว ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรม ตามโครงการ "เที่ยวชุมชน..ยลวิถี" ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ซึ่งวัดท่าขนุนของเรา ได้รับเลือกให้เป็น ๑ ใน ๑๐ สุดยอดชุมชนคุณธรรม

ทางกระทรวงวัฒนธรรมต้องการที่จะเปิดตัวชุมชน เพื่อให้ผู้คนรู้จักมากไปกว่านี้ จึงกำหนดวันเปิดตัว คือวันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ แต่เนื่องจากว่าเป็นการแจ้งมาในระยะเวลาที่กระชั้นมาก ทางเราจึงจำเป็นที่จะต้องติดต่อประสานงาน และโดยเฉพาะในส่วนของการจัดสถานที่ ซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากท่านนายกฯ ปาล์ม (นายศราวุธ ศรีทันดร) นายกเทศมนตรีตำบลทองผาภูมิ นำเอาเจ้าหน้าที่กองช่าง และเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย มาช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดสถานที่ให้

ส่วนอื่น ๆ ก็คือการแบ่งงานกัน ให้ทางชุมชนและโรงเรียนต่าง ๆ ช่วยกันจัดงานแสดง และออกบูธสินค้า ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ปกติเรามีอยู่ในทุกวันหยุดราชการและวันนักขัตฤกษ์อยู่แล้ว แต่ว่าต้องกำชับไปว่า "จัดเต็ม..!"

โดยเฉพาะการประสานไปกับหน่วยงานต่าง ๆ อย่างเช่นว่าพันตำรวจเอกมนตรี แตงโต ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ซึ่งรับผิดชอบด้านงานจราจร ตลอดจนกระทั่งทางชุมชนต่าง ๆ และหน่วยงานใกล้เคียง ซึ่งมีสถานที่กว้างขวาง อย่างเช่นโรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ หน่วยควบคุมโรคติดต่อโดยแมลง ๕.๑.๗ ตลอดจนกระทั่งสาธารณสุขอำเภอทองผาภูมิ นอกจากต้องเชิญท่านมาร่วมงานเปิดตัวแล้ว ยังต้องขออนุญาตในการใช้พื้นที่สำหรับจอดรถอีกด้วย

ส่วนหน่วยงานอื่น ๆ อีก ร้อยแปดพันเก้าภายในอำเภอทองผาภูมิ ก็ต้องทำหนังสือเชิญถึงหัวหน้าส่วนราชการนั้น ๆ หรือว่าทางด้านผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านและกำนัน ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของสถานที่โดยตำแหน่ง

จะว่าไปแล้ว เรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องที่ "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก" เนื่องเพราะว่าบางหน่วยงาน โดยปกติก็ไม่ปฏิสัมพันธ์กันเลย เนื่องเพราะว่าไม่ได้มีงานที่เกี่ยวข้องถึงกัน แต่เมื่อเป็นงานใหญ่ในระดับที่ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเดินทางมาร่วมงานด้วย ก็ต้องเชิญท่านทั้งหลายเหล่านี้มาเป็นเกียรติ ร่วมงานในฐานะหน่วยงานสำคัญในพื้นที่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-05-2024 เมื่อ 01:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 02-05-2024, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,638
ได้ให้อนุโมทนา: 151,906
ได้รับอนุโมทนา 4,415,194 ครั้ง ใน 34,228 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องนี้เมื่อทำหนังสือมาก ๆ แล้ว ก็ทำให้กระผม/อาตมภาพนึกถึงพี่ณพ (พันตำรวจเอกอรรณพ กอวัฒนา) นายตำรวจนอกราชการ สมัยนั้นจำได้ว่า เป็นงานทำบุญถวายพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งมีการทำบุญกันตลอด ๑๐๐ วัน

วันนั้นกระผม/อาตมภาพนั่งคุยกับพี่ณพอยู่ทางด้านข้าง ใกล้ ๆ สถานที่ตั้งสังขารพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ซึ่งเผื่อว่าถ้ามีพระผู้ใหญ่เข้ามา จะได้เข้าไปถวายการต้อนรับได้ทันท่วงที ปรากฏว่าที่เข้ามาพร้อมผู้ติดตามกลุ่มใหญ่ ก็คืออธิบดีกรมตำรวจท่านหนึ่ง กระผม/อาตมภาพจึงสะกิดพี่ณพว่า "เฮ้ย..เจ้านายมา ไปต้อนรับหน่อยสิ"

ปรากฏว่าพี่ณพทำเมินซะอย่างนั้น กระผม/อาตมภาพจึงถามว่า "ไม่คิดที่จะไปปฏิสันถารกับผู้บังคับบัญชาหน่อยหรือ ?" พี่ณพบอกว่า "ไปต้อนรับมันทำไม ? เชิญก็ไม่ได้เชิญ มันมาเอง แม้กระทั่งสตางค์ก็ยังไม่ได้หยอดตู้สักบาท แล้วแถมยังกินน้ำของเราไปอีกสองแก้วด้วย..! กระผม/อาตมภาพขำก๊ากอยู่ตรงนั้นเอง

ต้องบอกว่าคนอย่างพี่ณพเจริญในหน้าที่การงาน มาถึงระดับผู้บังคับการได้นี่ต้องถือว่าสุดยอดมากแล้ว เพราะว่าอันดับแรกก็คือ ย้ายมาจากตำรวจตระเวนชายแดน แล้วขณะเดียวกัน ก็อยู่ในประเภทตรงเป็นไม้บรรทัด มีอะไรก็พูดออกไปโป้ง ๆ แบบนี้ สันดานเดียวกับกระผม/อาตมภาพ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้สามารถที่จะคุยกันได้ทุกเรื่อง แล้วเราลองมาคิดดูว่า ถ้าเป็นอธิบดีกรมตำรวจท่านนั้นได้ยินลูกน้องพูดแบบนี้ ก็คงจะรักมาเป็นพิเศษ รับประกันได้ว่าจดจำไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน..!

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ต้องบอกว่า "สันดอนนั้นพอขุดได้ แต่สันดานนั้นขุดยาก" ถ้าว่ากันตามสำนวนของเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ก็คือ "เป็นวาสนาที่ตัดไม่ขาด" พูดเสียไพเราะ แต่ความจริงก็คือเป็นสันดานที่ฝังรากลึกอยู่ในจิตในใจ ข้ามชาติข้ามภพมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว

ความจริงคำว่า "สันดาน" นี้ ถ้าพูดเป็นภาษาไทยแล้วก็รู้สึกว่าแรง แต่ความจริงก็มาจากภาษาบาลีที่ว่า "สันตติ" คือความสืบเนื่องนั่นเอง แต่ละคนแต่ละท่านมีจริตมีนิสัยอย่างไร ในแต่ละชาติ แต่ละภพที่ผ่านไป ก็จะฝังรากลึกไปเรื่อย จนกระทั่งในที่สุดก็กลายเป็นตัวตน แล้วก็ขุดถอนยากที่สุด แม้กระทั่งพระอรหันต์ยังไม่สามารถที่จะแก้ไขตรงนี้ได้ จะยกตัวอย่างพระอรหันต์สักสององค์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-05-2024 เมื่อ 01:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 02-05-2024, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,638
ได้ให้อนุโมทนา: 151,906
ได้รับอนุโมทนา 4,415,194 ครั้ง ใน 34,228 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

องค์แรกก็คือพระสารีบุตรมหาเถระ องค์อัครสาวกเบื้องขวาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ที่เลิศด้วยปัญญา แต่ว่าเมื่อเดินทางร่วมกัน เจอสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นหลุม เป็นร่องอะไรก็ตาม ท่านอื่นก็ก้าวข้ามไปโดยสงบ พระสารีบุตรเผ่นแผล็วข้ามไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งแล้ว..!

ในเมื่อภิกษุปุถุชนกล่าวตำหนิมาถึงพระเนตรพระกรรณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ท่านเกรงว่าจะเป็นบาปเป็นกรรมที่ไปตำหนิพระอรหันต์ผู้บริสุทธิ์ จึงได้ตรัสถึงบุรพกรรมว่า พระสารีบุตรนั้นเคยเกิดเป็นวานร คือลิง ต่อเนื่องกันมา ๕๐๐ ชาติ จริตนิสัยบางอย่างจึงติดมา โดยที่แก้ไขไม่ได้ เมื่อเจอสถานที่ซึ่งคนทั่ว ๆ ไป ก้าวข้ามตามปกติ ท่านก็ใช้วิธีกระโดดข้ามเอาตามความเคยชินสมัยนั้น เป็นต้น

อีกท่านหนึ่งก็คือท่านปิลินทวัจฉเถระ ซึ่งเจอหน้าใครก็เรียกเขาว่า "ไอ้ถ่อย" ทำเอาญาติโยมหลายท่านโกรธเป็นอย่างยิ่ง ถึงขนาดไปฟ้ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลย เนื่องเพราะว่าการแต่งกายของพระภิกษุในพระพุทธศาสนานั้น ก็คือการโกนหัว นุ่งห่มผ้ากาสาวพัสตร์ ซึ่งความเชื่อถือของชาวชมพูทวีป หรือว่าอินเดียแต่โบราณนั้น บุคคลที่ไว้ผมสั้นหรือว่าโกนหัว ก็คือพวกกาลกิณี ในเมื่อเจอกาลกิณีบุคคลมาเรียกตัวเองว่า "ไอ้ถ่อย" หลายคนก็ทนไม่ได้ พูดง่าย ๆ ว่าไม่วางมวยใส่ตรงนั้นก็บุญโขแล้ว..!

เมื่อไปฟ้องร้ององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์จึงได้ตรัสว่า พระปิลินทวัจฉเถระนั้นเกิดในตระกูลพราหมณ์มาตลอด ๕๐๐ ชาติ ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงเห็นผู้อื่นต่ำกว่าตนเองทั้งหมด เนื่องเพราะว่าตระกูลพราหมณ์ในยุคนั้น ถือว่าเป็นตระกูลสูงพอ ๆ กับตระกูลกษัตริย์ ในเมื่อเคยชินกับการเรียกผู้อื่นว่า "ไอ้ถ่อย" จึงทำให้คนไม่พอใจ

พระปิลินทวัจฉเถระเกรงว่าจะเป็นโทษแก่บุคคลที่ไม่พอใจนั้น เนื่องเพราะว่าเคยไปถามพ่อค้าดีปลี ซึ่งเข็นดีปลีมาทั้งเกวียน จะไปขายที่ตลาดว่า "เข็นอะไรมาหรือไอ้ถ่อย ?" ทำให้พ่อค้านั้นโกรธมาก ตอบว่า "ขี้หนูสิวะ..!"

เมื่อไปถึงตลาด เปิดเสื่อลำแพนที่คลุมดีปลีออกมา ปรากฏว่ากลายเป็นขี้หนูไปทั้งเกวียน..! เพื่อนพ่อค้าจึงถามว่า "ในช่วงที่ท่านเข็นดีปลีมาตลอดทางนั้น มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?" พ่อค้าผู้นั้นจึงระลึกได้ว่าเจอสมณะรูปหนึ่ง เพื่อนพ่อค้าจึงบอกว่า "น่าจะเป็นบุคคลที่มีฤทธิ์ ให้ท่านรีบกลับไปขอขมา ดีปลีทั้งหลายจะได้ไม่ต้องกลายเป็นขี้หนูอย่างที่เห็นอยู่นี้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-05-2024 เมื่อ 01:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 02-05-2024, 00:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,638
ได้ให้อนุโมทนา: 151,906
ได้รับอนุโมทนา 4,415,194 ครั้ง ใน 34,228 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พ่อค้าผู้นั้นจึงรีบย้อนกลับไปทางเดิม และโชคดีเหลือเกินที่พระปิลินทวัจฉเถระยังไม่ได้ไปไกล เมื่อกล่าวขอขมาแล้ว ท่านจึงให้พรกลับไปว่า "ขอให้จงเป็นดีปลีตามเดิม" ขี้หนูทั้งเกวียนก็กลายเป็นดีปลี ซึ่งเป็นสินค้ามีราคา สามารถที่จะจำหน่ายได้ตามเดิม

พระปิลินทวัจฉเถระสลดใจว่า เราอยู่ในสังคมแบบนี้ กลายเป็นทุกข์เป็นโทษแก่บุคคลอื่น จึงเข้าไปอยู่ในป่า และปรากฏว่าท่านกลายเป็นที่รักของเทวดาเป็นอย่างยิ่ง ได้รับการอุปถัมภ์อุปัฏฐากดูแลอย่างเต็มที่ จนกระทั่งองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งให้เป็นเอตทัคคะบุคคล คือ ผู้บุคคลที่เลิศในด้านเป็นที่รักของเทวดา

เราท่านจะเห็นว่า ในเรื่องของสันดานนั้น กระผม/อาตมภาพก็คล้ายกับพี่ณพ ก็คือว่า ถ้ารู้สึกว่าไม่ดีก็ด่ากันตรงนั้นเลย..! ดังนั้น..ในเมื่อมาเจอการทำงานในปัจจุบันนี้ บางอย่างก็ยังสงสัยอยู่ เนื่องเพราะว่าหน่วยงานบางหน่วยงานนั้น อย่างเช่นว่าประมงอำเภอ ถ้าไม่ได้ไปปล่อยปลาแล้ว ก็คงไม่มีอะไรที่จะร่วมงานกันได้เลย เพราะขึ้นชื่อว่าประมง เราก็ต้องนึกถึงปลาสดทั้งตลาด..! เป็นต้น

พระจะไปเข้าใกล้ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะโดนนินทาว่าร้ายหรือเปล่า ? แต่พอมีงาน ก็ต้องเชิญท่านทั้งหลายมาเพื่อเป็นเกียรติกับงาน เห็นแล้วบางทีก็รู้สึกขำ บางทีก็รู้สึกเหมือนอย่างกับว่า เราจะเชิญมาให้ท่านเดือดร้อน หรือว่าเชิญมาให้เราเดือดร้อนก็ไม่รู้ ?

วันนี้ไม่มีอะไร จึงมาบ่นในเรื่องที่ไม่สมควรบ่นตามประสาคนแก่

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-05-2024 เมื่อ 01:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
จันทร์ในบ่อ

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 11:16



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว