กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 10-06-2011, 05:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำสังฆทานเป็นชุด มีพระสวดด้วย กับหยอดตู้สังฆทาน แบบไหนบุญมากกว่ากัน ?
ตอบ : ไม่ว่าจะยกมาถวายอย่างนี้หรือหยอดตู้ถวายเป็นสังฆทาน ถ้ากำลังใจดีก็มีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ถ้ากำลังใจยังไม่ดี ยังยึดรูปแบบอยู่ ก็ทำแบบเป็นพิธีการ จะได้รู้สึกว่าตัวเองทำจริง ๆ

เพราะฉะนั้น..บุญจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับกำลังใจของเรา ถ้าเป็นอาตมาหยอดตู้ทำง่ายกว่า เวลาได้อะไรก็ได้ง่ายกว่า แต่ถ้ากำลังใจห่วย ๆ จะต้องเห็นของให้ครบก่อนถึงจะรู้สึกว่าได้ทำ ก็รอไปก่อน

ถาม : แล้วสร้างอุโบสถกับวิหารทาน อานิสงส์อันเดียวกันหรือเปล่า ?
ตอบ : อานิสงส์เดียวกัน เป็นบุญวิหารทานเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2011 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 10-06-2011, 05:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่ได้มโนมยิทธิ เขาจะสามารถใช้ความสามารถญาณ ๘ ได้หมดทุกอย่างไหม ?
ตอบ : ได้..แต่ความสามารถแต่ละอย่างจะไม่เท่ากัน แล้วแต่บารมีที่สร้างเสริมมา ต่อให้ได้ญาณ ๘ ครบถ้วนทุกอย่างเหมือนกัน ก็จะชำนาญแต่ละอย่างไม่เท่ากัน อย่างเช่นบางคนอาจจะเก่งในทางทิพจักขุญาณ บางคนอาจจะเก่งทางระลึกชาติ บางคนอาจจะเก่งทางรู้ใจคนอื่น

ถาม : บางคนก็ได้ไม่ครบใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ถ้าหากได้ทิพจักขุญาณตัวเดียวอย่างอื่นก็ได้ครบ เพราะว่าเป็นการใช้ทิพจักขุญาณในการรู้เรื่องต่าง ๆ ถ้าเราไปดูอดีตเขาเรียกอตีตังสญาณ ดูอนาคตเรียกอนาคตังสญาณ เป็นต้น เพราะฉะนั้น..ถ้าหากว่าได้ทิพจักขุญาณตัวเดียวเท่ากับได้ครบนั่นแหละ เพียงแต่ว่าจะชำนาญด้านไหนเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 04-12-2015 เมื่อ 19:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 10-06-2011, 19:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พวกฝรั่งเขาไม่ได้ทำบุญในพุทธศาสนา ทำไมเขาจึงมีทรัพย์สินเยอะ ?
ตอบ : อย่าลืมว่าเราเห็นแค่ชาตินี้ ฝรั่งเขามีการให้ทานเป็นปกติ ในเมื่อเขาให้ทานเป็นปกติ ผลทานก็ย่อมเกิดโภคสมบัติต่าง ๆ สมบูรณ์บริบูรณ์อยู่แล้ว ไม่ใช่ว่ามีแต่พระพุทธศาสนาของเราเท่านั้นที่ให้ทานแล้วจะให้ผล เรื่องของความดีจะเป็นคนศาสนาไหนก็ตาม ถ้าทำก็ให้ผลอยู่แล้ว

ถาม : ให้ทานคนไม่ดีกับให้ทานกับพระอรหันต์ต่างกันใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ต่างกัน สำคัญตรงที่คุณได้ทำหรือเปล่า ? ถ้าคุณมัวแต่รอพระอรหันต์แล้วจึงค่อยทำ ชาติหน้าบ่าย ๆ คงจะมีโอกาส
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2011 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 10-06-2011, 19:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เคยได้ยินว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทย ก็เลยสงสัยว่าสมัยพระพุทธกาลพระพุทธเจ้าพูดภาษาไทยหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : พระพุทธเจ้าเป็นสัพพัญญู ท่านสามารถใช้ทุกภาษาได้ แต่ว่าภาษาหลักในการเผยแผ่ธรรมะในสมัยนั้น คือภาษาบาลี เหมือนกับประเทศเราในปัจจุบันนี้ที่ใช้ภาษากลางคุยกับคนทุกภาคได้

ที่ว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนไทยนั้น เกิดจากสมมติบัญญัติของพวกคุณทีหลัง สมัยนั้นไม่มีประเทศไทย มีแต่ชมพูทวีป

ถาม : อินเดียสมัยก่อนอยู่รวมกันทุกเชื้อชาติใช่ไหมครับ ?
ตอบ : แม้ในปัจจุบันเขาก็อยู่กันสามร้อยกว่าเชื้อชาติ เพราะมีถึงสามร้อยกว่าภาษา

ถาม : แสดงว่าคนไทยที่อยู่ในประเทศไทยปัจจุบันนี้ก็โดนไล่ลงมาใช่หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เสียเวลาไปคิด ไปนั่งภาวนาจะดีกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2011 เมื่อ 02:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 10-06-2011, 20:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในเรื่องมโนมยิทธิ ผมนั่งสมาธิแต่ไม่ได้กำหนดภาพพระ พอรู้สึกว่าจิตนิ่งก็เห็นภาพชัดขึ้นมา ใช้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : สำคัญตรงที่ว่าใช้งานได้ไหม ? ถ้าเป็นการฝึกปฏิบัติเฉย ๆ เรากำหนดภาพพระอย่างเดียวก็ใช้ได้ แต่ถ้าตั้งใจทำในมโนมยิทธิ ถึงเวลากำหนดภาพพระขึ้นมาแล้ว ในเรื่องญาณคือเครื่องรู้ต่าง ๆ (ญาณ ๘) อย่างใดอย่างหนึ่งเราต้องทำได้ ไม่อย่างนั้นแล้วถ้าเราใช้งานไม่ได้ก็เท่ากับเป็นพุทธานุสติเฉย ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2011 เมื่อ 02:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 10-06-2011, 20:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำสังฆทานควรเลือกเนื้อนาบุญหรือเปล่า ?
ตอบ : มีโอกาสก็เลือก ไม่มีโอกาสทำดะไปเลย เพราะสังฆทานเป็นบุญพิเศษ ทำที่ไหนก็อานิสงส์เท่ากัน


ถาม : เลือกกับไม่เลือกต่างกันไหมครับ ?
ตอบ : ต่างกันตรงที่ว่า ถ้าเลือก..โอกาสทำจะน้อย สังฆะคือหมู่สงฆ์ ผู้รับเป็นเพียงตัวแทนเท่านั้น เพราะฉะนั้น..จะทำที่ไหนก็อานิสงส์เท่ากัน

ถาม : แล้วพระรูปเดียวรับสังฆทาน ?
ตอบ : เหมือนกัน เพราะท่านเป็นตัวแทนเฉย ๆ

ถาม : แล้วถ้าเจาะจงบุคคลเล่าครับ ?
ตอบ : อานิสงส์จะลดลงมาหน่อยเพราะไม่ใช่สังฆทาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2011 เมื่อ 02:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 10-06-2011, 20:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในช่วงวันหนึ่ง ไม่รู้ว่าผมใช้มโนมยิทธิหรือเปล่า ? แต่ในใจผมนึกถึงแต่คำว่านิพพานอย่างเดียว ใช้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : จัดเป็นอุปสมานุสติ กำลังใจเกาะพระนิพพาน ใช้มโนมยิทธิไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ขอให้นึกถึงพระนิพพานได้ก็แล้วกัน

ถาม : ถ้าผมตายตอนนี้ ผมจะไปไหมครับ ?
ตอบ : ไปแน่ แต่..ไม่รู้ว่าไปไหน..!

ถาม : แล้วผมจะได้ไปนิพพานไหมครับ ?
ตอบ : ไม่มีใครบอกได้ จนกว่าจะถึงเวลานั้นเอง กำลังใจมุ่งตรงต่อเป้าหมาย พยายามปฏิบัติในกติกาที่ทำให้เราไปพระนิพพานได้ ส่วนจะไปได้หรือไปไม่ได้..ช่างมัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-06-2011 เมื่อ 02:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 12-06-2011, 20:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "หลวงปู่ทวดเป็นพระที่มรณภาพแล้วดัง ตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่ก็ดังเหมือนกัน เพราะท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชอยู่ระยะหนึ่ง

สาเหตุที่ท่านดังมากหลังจากมรณภาพแล้ว เพราะว่ามีรถไฟสายใต้ขบวนหนึ่งวิ่งผ่านหน้าวัดช้างให้ เนื่องจากพนักงานขับรถไฟเป็นคนภาคอื่น จึงคิดลองของ โดยท้าทายว่าถ้าหลวงปู่ทวดศักดิ์สิทธิ์จริงช่วยแสดงอภินิหารให้ดูหน่อย

ปรากฏว่ารถไฟวิ่งไปถึงหน้าวัดช้างให้แล้วหยุดอยู่กับที่ทั้งที่เครื่องเดินเป็นปกติ ไม่ว่าเครื่องจะเดินดีขนาดไหนแต่ว่าตัวรถขบวนไม่ไป จนต้องลงไปจุดธูปขอขมาท่าน รถไฟจึงวิ่งต่อไปได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 12-06-2011, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สูตรของดีหมีที่ผสมกับเหล้าขาวแก้อัมพาตจากเส้นเลือดในสมองแตก ต้องใช้ปริมาณเท่าไรครับ ?
ตอบ : ใส่ดีหมีลงไปจนสีของเหล้าเปลี่ยนเป็นสีชา อย่าเอาชาแก่นักก็แล้วกัน ต้องเป็นดีหมีแท้นะ เพราะปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะเป็นถุงอัณฑะของแพะ เอามาขูดให้บางแล้วเคี่ยวน้ำตาลจนไหม้ใส่ลงไปแทน ปลอมได้เนียนมาก

ถาม : ใช้ดีวัวแทนได้ไหม ?
ตอบ : ไม่ได้..เขาบอกว่าดีหมีของแท้ ถ้าเรากำไว้ในมือ เลียหลังมือยังขมเลย ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ? ไม่เคยลองเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 12-06-2011, 20:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนเข้าสมาธิกรรมฐาน ดูลมสามฐาน ใช้คำบริกรรมพุทโธและยกจิตไว้ที่กระหม่อมค่ะ เกิดสภาวธรรมก็คือ จิตไปจับอยู่ที่กระหม่อมระยะหนึ่ง จิตก็ลืมลมหายใจ พอมีสติรู้ว่าลมหายใจเป็นอย่างไรก็ตัดกลับมาที่ลมหายใจ รู้สึกว่าละเอียดขึ้น แต่สภาวะตรงนั้นที่สัมผัสจะเบา ๆ ตรงที่กระหม่อม
ตอบ : ของเราทำข้ามขั้นตอนไปจ้ะ พวกนั้นต้องคนที่ฝึกมาอย่างชำนาญมาแล้ว ถ้าหากว่าทั่ว ๆ ไปเขาให้เอาความรู้สึกทั้งหมดไหลไปกับลมหายใจ ลมหายใจไหลเข้าเราไหลตามไปด้วย ลมหายใจไหลออกเราไหลตามไปด้วย ถ้าหากว่าเรายังไม่ชำนาญแล้วไปทำอย่างนั้นก็จะงง ๆ ว่านี่คืออะไรกันแน่

ถาม : สงสัยว่าสิ่งที่กระทำอยู่ เอาจิตไปจับอยู่ที่กระหม่อม ก็เหมือนกับการที่จิตระลึกรู้อยู่ที่เดียว โดยการบังคับให้อยู่ และลืมกายลืมใจหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วใช้ได้จ้ะ เพราะทำให้จิตสงบแล้วนิวรณ์กินใจของเราไม่ได้ แต่ว่าจะไม่ทรงตัวมากไปกว่านั้น
ถ้าจะให้อารมณ์ใจทรงตัวมากไปกว่านั้น ความรู้สึกทั้งหมดต้องไหลไปกับลมหายใจเข้าออกโดยไม่ไปอยู่ที่อื่น กำหนดรู้ลมตลอดไปเลย ยิ่งละเอียดมากเท่าไรก็ยิ่งกำหนดรู้ชัดขึ้น ท้ายที่สุดก็จะไม่มีฐานลม คำว่าไม่มีฐานเพราะว่ารู้ตลอดตั้งแต่เข้ายันออกตลอดทางเลย

ถาม : แล้วการพักที่ฐานที่กระหม่อมเป็นอย่างไรคะ ?
ตอบ : ไม่เป็นอย่างไร เป็นการแยกจิตไปอยู่ที่หนึ่ง แล้วความรู้สึกอยู่อีกที่หนึ่งเท่านั้นเอง สำหรับคนที่ชำนาญมาก ๆ เขาแยกได้เป็นสิบ ๆ ที่พร้อมกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 12-06-2011, 20:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีอารมณ์เกิดขึ้น คือ ระลึกรู้เองว่ามีเปลวไฟ เป็นมโนมยิทธิแต่ไม่ใช่ตาเนื้อ และเห็นเป็นกระดูก พิจารณาว่าเป็นกระดูกในตัว นั่นเป็นสิ่งที่เราสมมติขึ้นมา หรือว่าจิตเราบอก ?
ตอบ : เราไม่ได้ปฏิบัติธรรมมาเพียงชาติเดียว แต่ละคนกว่าจะมาถึงนี่ปฏิบัติกันมานับชาติไม่ถ้วนแล้ว กรรมฐานเก่า ๆ ในอดีตที่เคยทำได้มีอยู่ ส่วนไหนที่คล่องตัว ถ้าจิตสงบได้ที่ก็จะมาเอง

การเห็นโครงกระดูกก็เป็นอัฏฐิกอสุภะ การเห็นไฟก็เป็นเตโชกสิณ ถ้าความรู้สึกของเราทรงตัวมั่นคงแล้ว นิวรณ์กินใจไม่ได้แล้ว จะหันไปพิจารณาโครงกระดูกนั้นแทนก็ได้ ให้เห็นว่าสภาพร่างกายของเราก็ดี คนอื่นก็ดี สัตว์ทั้งหลายก็ดี ไม่มีแก่นสารอะไร ท้ายสุดก็ตายเหลือแต่โครงกระดูกแบบนี้ ให้ใจของเราเบื่อหน่าย หมดความอยากมี อยากได้ ในร่างกายของตัวเองและคนอื่น

หรือไม่ก็ถ้าหากว่าเปลวไฟปรากฏชัด เราก็กำหนดเปลวไฟเป็นเตโชกสิณ การกำหนดก็แค่เอาสติจดจ่ออยู่กับภาพตรงนั้น กำหนดว่าเตโชกสิณังไปเรื่อย ๆ ภาพไฟก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ยิ่งทำนานเท่าไร ความจางลง บางลง ของภาพนั้นก็จะมีมากขึ้น จนในที่สุดก็จะขาวสะอาด พอเราสามารถบังคับให้ใหญ่เล็กตามใจของเราได้ ก็ลองอธิษฐานใช้ผลของกสิณดู

แต่ว่าการปฏิบัติจริง ๆ แล้ว ถ้าเราทำอย่างไหนอยู่ให้ทำอย่างนั้นให้ตลอดไปก่อน จนอารมณ์ใจทรงตัวเต็มที่จริง ๆ ถ้าเป็นกรรมฐานทั่ว ๆ ไปคือให้ได้ฌาน ๔ ไปเลย แล้วหลังจากนั้นแล้วค่อยเปลี่ยนกองใหม่ ไม่อย่างนั้นเรามัวแต่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่ การทรงตัวก็จะไม่มี ผลที่จะเกิดจริง ๆ ก็ไม่ได้

ถาม : แล้วของโยมควรจะทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : เอาของเก่าก่อน ถ้าเราดูลมก็ทำเต็มที่จนถึงทรงฌาน ๔ ไปเลย แล้วหลังจากนั้นแล้วค่อยเปลี่ยน ของที่เคยทำได้แล้ว ถึงเวลาขยับเปลี่ยนไปพักเดียวก็ได้แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 12-06-2011, 20:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การรู้ตัวอาการของจิต เห็นความโกรธ ความโลภ ความเป็นอัตตาของตัว แต่ก็ยังฟู
ตอบ : ถ้าจิตละเอียดมากขึ้นก็จะเห็นมากขึ้น แต่ว่าให้เห็นในลักษณะเป็นผู้ดู คือรู้ว่าตอนนี้อารมณ์ใจอย่างนี้เกิดขึ้นกับเรา แล้วก็สักแต่ว่ารับรู้ไว้ ไม่ไปยินดียินร้ายด้วย ถ้าอย่างนั้นก็จะกลายเป็นวิปัสสนา ก็คือเห็นจริงอยู่กับปัจจุบัน แต่ถ้าหากว่าเราไปยินดียินร้ายด้วย จิตใจก็จะเศร้าหมองไม่ผ่องใส ถ้าตายตอนนั้นก็ขาดทุน

ถาม : ถ้าเห็นแล้วเรารู้สึก เหมือนระลึกรู้ แล้วจิตเกิดปีติขึ้น ?
ตอบ : ก็ดีจ้ะ แต่ก็เป็นแค่ปีติ ปีติก็เป็นเรื่องแค่กามาวจร ถ้าเราหวังหลุดพ้นจะต้องก้าวข้ามไปให้สูงกว่านั้น ไม่ไปยินดียินร้ายด้วย สักแต่ว่ารู้เห็น ให้สติระลึกรู้อยู่กับปัจจุบัน ให้เห็นว่าสภาพของจิตของเราจริง ๆ นั้นคบหาไม่ได้เลย เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็ร้าย เดี๋ยวรัก เดี๋ยวโลภ เดี๋ยวโกรธ เดี๋ยวหลง เกิดมาเมื่อไรก็จะเจออย่างนี้ ในที่สุดก็จะเบื่อหน่ายคลายกำหนัด ไม่ต้องการ หมดความยึดมั่นถือมั่น จิตก็จะถอนออกมาแล้วหลุดพ้นไปเอง

ถาม : ให้กลับไปดูลมหายใจ ?
ตอบ : กลับไปดูลมหายใจใหม่ แล้วก็กำหนดรู้อยู่กับปัจจุบันของเรา อะไรมาให้รู้อยู่เฉพาะหน้า อย่าไปยินดียินร้าย อย่าไปปรุงแต่งด้วย มาเท่าไรกองเอาไว้ตรงนั้นแหละ

ถาม : เรารู้อยู่ว่าจิตส่งไปทางไหนของร่างกาย พอเรามีสติรู้เราก็มาดูลมหายใจอีก ?
ตอบ : ถ้าเราทำจนคล่องตัวแล้ว จะรู้อัตโนมัติไม่ต้องบังคับ เราก็แค่ประคองการรู้อัตโนมัตินั้นไว้เท่านั้น

ถาม : การรู้ลมหายใจต้องกำหนดคำบริกรรมไหมคะ ?
ตอบ : แรก ๆ ต้องกำหนดจ้ะ แต่พอทรงตัวแล้วจะเป็นเองอัตโนมัติ เราไม่ต้องภาวนา ไม่ต้องกำหนดก็ภาวนาเอง เราไม่ต้องกำหนดก็รู้ลมเอง แล้วเราก็ประคองรักษาสภาพนั้นเอาไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 12-06-2011, 21:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนที่เดินจงกรม รู้สึกว่าเวลากำหนดแล้วอึดอัด พอรู้ว่าเคลื่อนไปเป็นธรรมดา กลับมาที่ตากลับมาที่ใจจึงสบาย อย่างนี้ไม่ต้องกำหนดองค์บริกรรมก็ได้ ?
ตอบ : ไม่ต้องจ้ะ เพราะว่าการกำหนดองค์บริกรรมจริง ๆ เพื่อให้หมู่คณะได้ทำโดยพร้อมเพรียงกัน ปกติแล้วถ้าหากว่าทำจนกระทั่งเข้าใจว่าขั้นตอนมีอย่างไรแล้ว เขามักจะให้แยกไปปฏิบัติคนเดียว

แต่การปฏิบัติที่เขามักจะทำเป็นหมู่พร้อม ๆ กัน ก็เลยทำให้คนที่มีความก้าวหน้ามากกว่าบางทีรู้สึกรำคาญ เพราะต้องไปนับหนึ่งกับเขาอยู่ตลอด จริง ๆ แล้วก็คือเราแยกไปทำตามสบายของเรา อันไหนที่ทำแล้วจิตของเราสบาย ทรงตัว กิเลสกินไม่ได้ ถือว่าใช้ได้ทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 12-06-2011, 21:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาภาวนาจับลมหายใจจะหนักหัวตรงนี้ แล้วก็เปลี่ยนที่ไปเรื่อยค่ะ ?
ตอบ : ปล่อยให้เป็นต่อไป ไม่ต้องไปใส่ใจ มัวแต่ไปห่วงกังวลอยู่ ก็ไม่ต้องไปไหนสิ รู้สักแต่ว่ารู้ ทำได้ไหม ?

ถาม : มีดพับที่เอาไปเข้าพิธีเป็นวัตถุมงคล จะเอาไปใช้ตัดทั่วไปได้ไหมคะ ?
ตอบ : ได้..ใช้ไปเถอะ ก็เขาให้ใช้นี่ เพียงแต่ว่าใช้อย่างมีสติแล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 12-06-2011, 21:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมภาวนาคาถาเงินล้านพร้อมกับจับลมหายใจ ภาวนาไปลมหายใจหายไปเหลือแต่คำภาวนา ต้องถอยลงมาพิจารณาหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ไม่ต้องจ้ะ ปล่อยยาวไปเลยจนกว่าจะครบตามเวลาหรือตามจำนวนจบที่เราต้องการ เสร็จแล้วหลังจากนั้นเราค่อยคลายอารมณ์ออกมาพิจารณา

เรื่องของคาถาต้องทำจริงจังและสม่ำเสมอ เคยทำวันละเท่าไรต้องทำวันละเท่านั้น ถ้าหากว่าเริ่มเป็นอย่างของคุณว่านี่ ทำต่อเนื่องได้สัก ๒ เดือน ต่อไปเงินทับตาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 12-06-2011, 21:53
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์แนะนำโยมที่ตั้งครรภ์ว่า "พยายามรักษาศีลปฏิบัติธรรมให้เป็นปกติ โดยเฉพาะสมัยนี้พวกอาหารการกินต่าง ๆ อุดมสมบูรณ์มากเกินไป ทำให้เด็กพลังงานล้นเกิน เด็กที่พลังงานล้นเกินจะอยู่นิ่งไม่ได้

ถ้าหากว่าเรานั่งสมาธิทุกวันจนกระทั่งอารมณ์ทรงตัว จะส่งผลไปถึงลูกด้วย ต่อไปลูกก็จะนิ่งเป็นตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่อย่างนั้นให้เด็กนั่งนิ่ง ๆ นี่ตายแน่เลย ต้องจับมัดกันอย่างเดียว

ทำไปทุกวัน รักษาศีล ๘ ได้ยิ่งดี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 02:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 13-06-2011, 11:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อาการแพ้ท้องนี่มีผลมาจากกรรมปาณาติบาตหรือเปล่าคะ ?
ตอบ : เป็นอาการปกติของคนท้อง แต่จะเรียกว่ามีกรรมก็ได้ บางคนก็ไม่เคยแพ้เลย บางคนก็แพ้ตั้งแต่วันแรกยันวันคลอดเลย

พวกที่ไม่เคยแพ้เพราะเขาไม่รู้ว่าต้องแพ้ ร่างกายจึงไม่ได้ตั้งระบบไว้ว่าต้องแพ้ พวกที่ไม่เคยแพ้เลยถ้าหากว่ากินยาคุมก็ไม่มีอาการอะไรเลย ส่วนพวกที่แพ้ท้องมาก ๆ นี่ยาคุมก็กินไม่ได้ กินแล้วก็อาเจียน ความจริงเขาไม่ได้แพ้เพราะเด็ก แต่อาการแพ้เกิดจากระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-03-2012 เมื่อ 17:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 13-06-2011, 11:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ก่อนวันเกิดนี่จะมีเคราะห์หรือคะ ?
ตอบ : ประมาณก่อนเกิดเดือนหนึ่งและหลังเกิดเดือนหนึ่ง จะเป็นช่วงรอยต่อของกรรม เพราะฉะนั้น..ช่วงนั้นถ้ามีอะไรดีหรือร้ายเข้ามา จะหนักกว่าเวลาอื่น เขาให้ทำบุญกันเอาไว้ก่อน

อย่างของอาตมารู้ว่าของจะหาย เพราะว่าตอนนี้ราหูกำลังจะออกพ้นไปจากราศีเกิด ก็ไปปล่อยนกส่งท่าน แล้วต้องไปปล่อยที่วัดเชียงมั่นด้วยนะ ที่อื่นไม่ปล่อย เพราะสนิทกับคนขายที่นั่น การปล่อยนกมีอานิสงส์ป้องกันของหายได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 13:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 13-06-2011, 11:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปล่อยปลาอานิสงส์เหมือนกันไหมคะ ?
ตอบ : ไม่เหมือนเพราะว่าปลาเขาจะเอาไปฆ่า การปล่อยปลาจึงมีอานิสงส์ต่อชีวิต ส่วนนกนี่เขาไม่ฆ่าหรอก เขาเก็บไว้ให้เราปล่อย แต่ว่าถ้าเป็นปลาเขาตั้งใจเอามาขายให้เราปล่อยนี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง

อย่างท่านอาจารย์วิโรจน์ วัดสระพัง ถึงเวลาก็มาชวน "อาจารย์เล็ก..ปล่อยปลาด้วยกันไหม ?" อาตมาบอกว่า "ไม่เอาหรอก..ปล่อยอย่างคุณจะไปได้อะไร เล่นไปสั่งเขาตีอวนมาที ๓ - ๔ ตัน ปลาอยู่ในบ่อยังสบายกว่าโดนเขาลากขึ้นมาตั้งเยอะ" แต่ว่าไปแล้วทำอย่างท่านอาจารย์วิโรจน์นั้น จะมีอานิสงส์ได้บริวารมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 13:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #40  
เก่า 13-06-2011, 13:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วันที่ ๒๔ เขาไหว้เจ้า เขาบอกว่าราหูเคลื่อนจากราศีธนูเข้าสู่ราศีพิจิก เป็นมหาอุจจ์
ตอบ : คำว่า "อุจจ์" ตัวนี้เป็นบาลี แปลว่าสูงมาก เช่น อุจฺโจ รุกฺโข อันว่าต้นไม้ซึ่งสูงมาก

ดังนั้น..มหาอุจจ์ตัวนี้ ก็แปลว่ากำลังกุมชะตาเต็มที่แล้ว แต่ว่าราหูเข้าก็ดี ถ้าเราทำพิธีรับแล้ว ส่วนใหญ่ต้องการอะไรจะได้อย่างนั้น ต่อไปอะไรที่ยากก็จะง่ายขึ้น

ถาม : เราจะดูอย่างไรว่าราหูจะมา ราหูจะไปเมื่อไร ?
ตอบ : เปิดตำราพระเคราะห์เสวยอายุในพรหมชาติก็ได้ เขาจะมีบอกไว้ เราก็ไล่ดูไปเรื่อยว่าอายุกี่ปีกี่เดือนกี่วัน ราหูจะเสวยอายุในช่วงไหน

ปกติแล้วเราเกิดวันไหนจะเริ่มต้นที่ดาวนั้น อย่างอาตมาเกิดวันอาทิตย์ ก็คือพระอาทิตย์เสวยอายุ ๖ ปีแรก ถัดไปอีก ๑๕ ปีพระจันทร์เสวยอายุ เป็น ๒๑ ถัดไปอีก ๘ ปีพระอังคารเสวยอายุ ก็ไปถึง ๒๙ ถัดไปอีก ๑๗ ปีพระพุธเสวยอายุ ก็เป็น ๔๖ ก็แปลว่า ปัจจุบันนี้ของอาตมาก็คือ ๑๙ ปีของพฤหัสบดี แต่ไม่ใช่พฤหัสบดีเสวยอายุอย่างเดียว เพราะว่าจะมีดาวจรแทรกเข้ามาเป็นระยะ ๆ อย่างราหูบ้าง ศุกร์บ้าง พุธบ้าง ตามแต่จังหวะการโคจรของเขา

แต่ว่าดาวหลัก ๆ ตอนนี้คือดาวพฤหัสบดี คราวนี้ถ้าดาวพฤหัสบดีเสวยอายุอยู่มักจะต้องอ้วน เพราะเป็นดาวใหญ่ที่สุดในนพเคราะห์ทั้งหมด แต่เขามีข้อแม้ว่าถ้าคนไหนไม่อ้วน จะรวยแทน เพราะฉะนั้น..ตอนนี้อาตมาจะรวยใหญ่ไปถึงอายุ ๖๕ พอ ๖๕ ไปแล้วก็จะรวยใหญ่ขึ้นไปอีก สรุปแล้วหาดี เอ๊ย..หาชั่วไม่ได้ มีแต่ดีอย่างเดียว เพราะทุกอย่างอยู่ที่กำลังใจเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-06-2011 เมื่อ 16:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:04



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว