กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #161  
เก่า 30-12-2011, 08:45
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พอดีหนูจะรับงานบริษัท ไม่ทราบว่าจะเหมาะสมกับงานไหมคะ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าเราทำได้ไหม ? เรื่องความเหมาะสมสามารถไปปรับกันทีหลังได้ ถ้าเราคิดว่าความสามารถของเราเพียงพอก็ทำไป พูดง่าย ๆ ว่าต่อให้เป็นงานที่เราไม่ชอบก็พยายามชอบ เดี๋ยวก็ดีเอง ถ้ามัวแต่ไปไล่ถามคนอื่นว่าเหมาะสมไหม ชาตินี้ไม่ต้องหางานทำหรอก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #162  
เก่า 30-12-2011, 08:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การจ่ายเงินใต้โต๊ะ
ตอบ : ไม่ผิดอะไรเพราะเป็นส่วนของการอำนวยความสะดวก เพียงแต่ว่ายิ่งจ่ายก็ยิ่งเยอะ เราเอาเงินไปให้เขา ไม่ได้ขโมยเงินเขามา ถ้าหากว่าเราคิดว่าผิด ก็เท่ากับว่าเราหาความเศร้าหมองมาใส่ใจเราเอง ก็เท่ากับว่าเรากำลังสร้างอบายภูมิให้กับตัวเอง

เราก็คิดว่าจ่ายค่าอำนวยความสะดวกในการงานตามปกติไป ส่วนเขาจะเอาไปทำอะไร หรือว่าเขาเองสมควรรับหรือไม่ เราไม่ได้ใส่ใจ ต้องตัดให้เป็น ไม่อย่างนั้นจะเศร้าหมองเปล่า ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #163  
เก่า 30-12-2011, 11:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ขนาดวันนี้อาตมาไม่จับไข้ พอสรงน้ำแล้วยังหนาวเข้าไปถึงกระดูก คนเราพอไฟธาตุหมดก็แย่ นึกถึงหลวงพ่อวัดท่าซุง สมัยก่อนเวลาท่านจะโกนผมแต่ละครั้ง หลวงพี่ประทีปต้องโกนแห้ง ๆ ให้

อาตมาถามว่าทำไมหลวงพ่อไม่สระผมก่อน ผมจะได้นิ่มโกนง่าย ท่านบอกว่า “สระได้ที่ไหนเล่า ?” ตอนนี้อาตมารู้แล้วว่าทำไมท่านสระไม่ได้ เพราะตัวเองหนาวเข้าไปในอกตอนอาบน้ำ

อย่างหลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ท่านสรงน้ำปีละครั้ง อาตมาสงสัยจะต้องเอาอย่างนั้นบ้าง แสดงว่าแก่แล้วไม่มีอะไรดี แต่พระเรานี่แปลก ของอื่นพอเก่าพอแก่แล้วเขาโละทิ้ง ส่วนพระยิ่งแก่เขายิ่งใช้ อาตมากะว่าอีกไม่กี่ปีจะเกษียณตัวเอง แต่ก็ยังหาคนแทนไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #164  
เก่า 30-12-2011, 11:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาผมฝึกกรรมฐานที่บ้าน ระหว่างการที่ใช้วิธีเปิดเทปฟังไปเรื่อย ๆ กับการนึกเอาว่าท่านเคยสอนแบบไหนแล้วก็นึกตาม อย่างไหนดีกว่ากันครับ ?
ตอบ : ใช้ปัญญาตัวเองก็เหนื่อยหน่อย ถ้าการสอนนั้นเราสามารถน้อมจิตตามไปได้เลยจะสบายกว่า เพียงแต่ว่าครูบาอาจารย์ที่จะสอนลักษณะนั้น ในประเทศไทยนับจำนวนนิ้วมือ ๑๐ นิ้วยังเหลือเลย เพราะส่วนใหญ่ท่านให้ไปขวนขวายปฏิบัติเอง ประเภทนำกันทุกฝีก้าวนั้นหายาก อาตมาเองก็เริ่มทิ้งแล้ว ไปหากินเอาเองบ้าง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 173 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #165  
เก่า 30-12-2011, 16:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้าว่าตามกฎหมาย เจ้าอาวาสออกใบอนุโมทนาบัตรได้ไม่เกินใบละ ๕๐๐,๐๐๐ บาท ถ้าเกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาทแต่ไม่ถึง ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ต้องให้เจ้าคณะตำบลออกให้ ถ้าเกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาทแต่ไม่ถึง ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท ต้องให้เจ้าคณะอำเภอเป็นคนออกให้ ถ้า ๑,๕๐๐,๐๐๐ บาท แต่ไม่เกิน ๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้เจ้าคณะจังหวัดเป็นคนออก เพราะฉะนั้น..ใบอนุโมทนาบัตรที่ออกอย่างถูกต้องตามกฎหมายเลย ก็คือใบละไม่เกินห้าแสนบาท

กฎของมหาเถรสมาคมนี้ออกมาในสมัยมีคดีเครื่องราชฯ เพราะมีการออกใบอนุโมทนาบัตรเป็นสิบ ๆ ล้านเพื่อให้เขาไปขอเครื่องราชฯ กัน บางครั้งก็ไม่ได้รับเงินจริง แต่ว่าออกตัวเลขให้เขาไป พอเขาได้รับเครื่องราชฯ มา ก็จะมาถวายเงินสมนาคุณ

ต้องบอกว่ากฎระเบียบต่าง ๆ มีขึ้นมาเพื่อปิดรูรั่ว แม้กระทั่งการจัดงานวัดต่าง ๆ ก็ต้องออกกฎระเบียบออกมาว่า ห้ามผู้อื่นมารับเหมาจัดงานแทนวัด เพราะว่าพวกที่มารับเหมาจัดงานแทนวัด เขาจะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กำไรมากที่สุด ก็เลยมีการพนันต่าง ๆ มาด้วย มีกระทั่งโคโยตี้มาด้วย แล้วจะไปตำหนิเขาก็ไม่ได้ เพราะเขาเหมาไปแล้ว เขาก็ต้องเอากำไรให้มากที่สุด แต่ความเสียหายตกอยู่กับวัด

วันนั้นอาตมาดวงเฮงมากเลย ไปพร้อมกับหลวงพ่อพระเทพเมธากร ตอนนั้นท่านยังเป็นเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีอยู่ คนขับรถดันจอดรถเข้าไปใต้เวทีพอดี พอเงยขึ้นไป มีแต่บิกินีเต็มไปหมด..! เขากำลังเต้นกันอยู่บนเวที สงสัยคนขับรถมีแผนก็เลยจอดรถตรงนั้น

ถ้าหากว่าจัดงานไม่เกิน ๗ วัน ต้องให้เจ้าคณะจังหวัดเซ็นอนุมัติ ถ้าจัดงานไม่เกิน ๙ วันต้องให้เจ้าคณะภาคเซ็นอนุมัติ ถ้าเกินกว่านั้นต้องถึงเจ้าคณะหนใหญ่ แต่มีบางแห่งเขาจัด ๑๒ วัน ๑๒ คืน มีอยู่รายหนึ่งอยู่ทางอำเภอบ่อพลอย โดนสอบสวนเกือบจะโดนถอดจากความเป็นเจ้าอาวาส เพราะว่าจัดงาน ๗ วัน ๗ คืน คนมาดีเหลือเกิน เห็นเงินเข้าวัดมากเลยทำหนังสือขออนุญาตจัดงานเพิ่ม

แต่เขาไม่อนุมัติ ส่วนท่านเองจัดต่อไปแล้วก็เลยซวย เป็นตัวอย่างที่ฮือฮาไปทั้งจังหวัด ถึงได้บอกว่าถ้าหนังสืออนุมัติยังไม่ลงมาว่าให้จัดหรือไม่ให้จัด โปรดหยุดไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 166 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #166  
เก่า 31-12-2011, 07:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขาบอกว่าหลวงปู่ละมัยอายุ ๑๓๕ ปี จริงไหมครับ?
ตอบ : ไม่จริง อาตมาเคยถามท่านเมื่อครั้งไปหล่อพระที่หนองคาย ปีไหนจำไม่ได้แล้ว งานหล่อพระครั้งนั้นหลวงปู่ท่านเป็นประธาน

อาตมาถามท่าน ท่านบอกว่าเพิ่งจะอายุ ๗๐ กว่าปี คนเขาลือกันไปเอง ตอนนี้ท่านก็น่าจะอายุ ๘๐ - ๙๐ ปีแล้ว ตอนที่ไปหล่อพระท่านนิมนต์ครูบาอาจารย์สายอีสานไปเยอะ แต่ที่สนิทกับอาตมาที่สุดคือหลวงเตี่ยสุรเสียง เพราะว่าพรรษาไล่เลี่ยกัน ไปนั่งสุมหัวคุยกันจนดึก คุยไปคุยมาหลับคอพับไปทั้งคู่..!

หลวงปู่ละมัยมาถึงตอนไหนก็ไม่รู้ มาเจอท่านตอนเช้าก็ไปกราบ บอกท่านว่าเขาบวงสรวงเวลา ๐๘.๒๙ น. นะครับ ท่านบอกว่า “เออ..คุณนั่นแหละทำ” ความเฮงมาถึงจนได้ พระระดับนั้นอยู่แทนที่อาตมาจะได้อาศัยท่าน ท่านกลับปล่อยอาตมาออกเดี่ยวเสียอีก

ถาม : ทำไมคนเขาไปลืออายุท่านเยอะขนาดนั้นครับ ?
ตอบ : ท่านคุยเรื่องเก่าเป็นปกติ คนก็เลยไปคำนวณว่า ถ้าท่านรู้เรื่องนี้ดีแสดงว่าต้องอยู่ในยุคนั้น

นึกถึงหลวงปู่เทพโลกอุดร ถามท่านว่า “หลวงปู่อายุเท่าไรแล้วครับ ?” ท่านบอกว่า “จำไม่ได้ว่ะ..ปรางค์ ๓ ยอด สร้างมากี่ปีแล้ววะ” ตอบท่านว่า “๑,๔๐๐ กว่าปีแล้วครับ” ท่านก็บอก “เออ..ข้าไปยืนดูตอนเขาสร้างกันอยู่”


ถาม : แล้วหลวงพี่ไปคุยกับท่านตอนไหนครับ ?
ตอบ : ตามล่าท่านมาตลอดชีวิต จะได้เจอตัวเป็น ๆ สักทีก็แสนยาก อาตมาอยากจะเจอตัวเนื้อ ๆ ท่านไม่ยอมให้เจอเนื้อ ๆ สักที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 09:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #167  
เก่า 31-12-2011, 08:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนที่โชคดีและโชคร้ายไปในตัวคือคุณสุดเฉลียว หลวงปู่ท่านมาบิณฑบาต แต่ท่านมาตอนบ่าย เดินเข้ามาในบ้าน โยมเพิ่งกินอาหารกลางวันไป ของใหม่ก็ไม่มี เหลือแต่ที่กินแล้ว จะบอกท่านก็อาย เลยบอกว่า “ฉันเป็นคริสต์ค่ะ”

หลวงปู่ท่านก็ไม่ว่าอะไร หันหลังเดินกลับ คุณสุดเฉลียวจึงเฉลียวใจขึ้นมาว่าพระอะไรสูงขนาดนี้ หัวค้ำเพดานเลย สงสัยแค่นั้นแหละ พอนึกสงสัยขึ้นมาก็เลยวิ่งตามไปดู บ้านคุณสุดเฉลียวเป็นตึกแถว มี ๖ ห้อง หน้าบ้านเป็นถนนใหญ่ เชื่อไหมว่าไม่มีใครเห็นพระเดินมา และไม่มีใครเห็นว่าท่านไป

ถาม : จริง ๆ ท่านตั้งใจจะสงเคราะห์เขาอยู่แล้วใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ใช่..ต้องบอกว่าบุญมีแต่กรรมบัง

ถาม : ทำไมท่านต้องไปตอนบ่ายครับ เพราะถ้าจะว่าไปคนที่เขาเคร่งครัดในเรื่องกฎระเบียบ เขาก็จะไม่ให้ ?
ตอบ : นั่นยังดีนะ บางทีท่านบิณฑบาตตอนเย็น ไปบิณฑบาตแต่บาตรไม่มี ชาวบ้านก็ถามว่า “หลวงตา..แล้วจะใส่บาตรอย่างไรล่ะ?” ท่านก็คว้ากะละมังข้าวหมามา "ใส่นี่แหละ" ใส่ลงไปอะไรต่อมิอะไรท่านก็คลุก ๆ รวมกันแล้วก็ฉัน ฉันเสร็จให้พรท่านก็ไป ชาวบ้านก็งง แต่พอไปดูไม่เห็นข้าวปลาไม่แหว่งเลย ท่านฉันอย่างไรของท่านก็ไม่รู้ ที่เห็นต่อหน้าต่อตาท่านฉันหมดไปครึ่งค่อนกะละมัง

ตอนท่านไปวัดท่าซุงท่านไปในสภาพเป็นเณร อาตมาก็มองหาว่าพระสูง ๑ วา อยู่ที่ไหน หาไปเถอะ ไม่เจอหรอก ปรากฏว่าท่านมาแบบเณร หลวงพ่อวัดท่าซุงถามว่า ทำไมมาเป็นเณร ท่านบอกว่า “งานแกคนเยอะ ตัวใหญ่เดินลำบาก ตัวเล็กมุดง่ายดี”

ถาม : ท่านเก่งขนาดนี้ ตอนกรุงแตกท่านช่วยไม่ได้หรือครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่หน้าที่ และถ้าไม่ใช่วาระกรรมเหตุการณ์ก็ไม่เป็นอย่างนั้น หน้าที่ของท่านก็คือตามเก็บบริวารให้หมด เรื่องอื่นไม่ใช่ทั้งนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 09:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #168  
เก่า 31-12-2011, 08:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,075 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนธันวาคม ปี ๒๕๕๔ หมดแล้วค่ะ

รูป
ชนิดของไฟล์: jpg IMG_7172 re.jpg (83.5 KB, 850 views)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-12-2011 เมื่อ 09:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว