กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 12-10-2015, 18:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การภาวนาคาถาเงินล้านแบบ ๑๐๘ จบ กับนั่งภาวนาสักครึ่งชั่วโมงแบบไหนจะดีกว่ากันครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าแบบไหนสมาธิดีกว่ากัน คาถาไม่ใช่สักแต่ว่าท่องให้คล่อง ๆ ปากเท่านั้น ต้องได้สมาธิด้วยผลถึงจะเกิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 01:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 205 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 12-10-2015, 19:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้เดือนหนึ่งอาตมามีรายจ่ายเกี่ยวกับพระนิสิตประมาณ ๘-๙ หมื่นบาท เดือนหน้านี่ค่าเทอมออกจะตกประมาณ ๘ แสนบาท ไปหนักตรงปริญญาเอกค่าเทอม ๙ หมื่นบาท แล้วของวัดท่าขนุนเรียนอยู่ตั้ง ๓-๔ คน มีปริญญาโทอีกตั้งเยอะ

ที่วัดอื่น ๆ เขาไม่ค่อยส่งพระเรียน มักจะไปยัดเยียดให้วัดที่มีกำลังเพราะอย่างนี้แหละ..รายจ่ายมาก มีบางท่านบอกว่ากฐินผมทั้งปียังได้ไม่ถึงแปดหมื่นบาทเลย อาจารย์เล็กจ่ายลูกน้องเดือนหนึ่ง ๘-๙ หมื่นบาท ไม่ได้คิดจะไปคุยอวดเขาหรอก เขาถามเองว่าส่งพระเรียนรายจ่ายเยอะไหม ? บอกว่าตั้งเงินเดือนให้ท่านไป อะไรเล็กน้อยท่านก็จ่ายเอง ถ้าค่าเทอมท่านก็มาเอาที่ผม ถามว่าประมาณเดือนละเท่าไร ? ก็เลยตอบท่านไป เล่นเอาทำท่าจะเป็นลมไปตาม ๆ กัน

แต่น่าเสียดายว่าพระภิกษุสามเณรของทองผาภูมิส่วนใหญ่แล้วขาดความพยายาม อาตมาตั้งทุนการศึกษาให้พระวัดอื่น ๑๐ ทุน ไม่มีใครมารับเลย คือจะจ่ายให้ทุกเดือน ขอให้ไปเรียนเท่านั้น แต่ไม่เอากันเลย จนกระทั่งท้ายสุด พระวัดท่าขนุนรำคาญ ก็เลยไปเรียนกันเอง อุตส่าห์ตั้งให้แล้วไม่เรียนกัน เรียนเองก็ได้วะ..!

ปีนี้มีท่านวิชาญ สิริสมฺปนฺโน มาจากวัดท่ามะเดื่อ ของพระครูสมจิตร พระอุปัชฌาย์ขาประจำของวัดท่าขนุน ไปเรียน ปปส. อยู่ที่วัดใต้ มักจะเข้าเรียนสาย เพื่อน ๆ ก็ถามว่าจะเช็คขาดไหม ? อาตมาบอกว่าเอ็งไม่ต้องเช็คหรอก เพราะข้ารู้ว่าท่านมาไกลแค่ไหน วัดท่านอยู่ไกลกว่าข้าอีก วัดท่านยังเลยวัดท่าขนุนไปอีก ๒๐ กว่ากิโลเมตร จากวัดท่าขนุนลงมาถึงวัดใต้ก็ ๑๔๐ กิโลเมตรแล้ว ท่านเอง ๑๖๐ กว่ากิโลเมตร เลยขึ้นไปทางด้านปิล็อก ขอให้มาเรียนเท่านั้นแหละ ไม่เช็คขาดหรอก มาสายหน่อยก็ได้ เพราะชั่วโมงแรกส่วนใหญ่ท่านมาไม่ทัน

ขอให้มีความเพียรในการเรียนเท่านั้นแหละ ครูบาอาจารย์ท่านสนับสนุนอยู่แล้ว จะไปบีบคั้นอะไรกันนักหนา ให้มาตรงเวลาตลอดได้ที่ไหน ไม่ใช่นักเรียนประจำนี่ครับ ขนาดนักเรียนประจำอยู่หอข้างห้องเรียน บางทียังป่วยมาไม่ไหวเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 01:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 13-10-2015, 13:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์สนทนากับพระลูกวัดที่ไปเรียนบาลี "เรื่องเก็งข้อสอบนั้นดูได้ แต่อย่าไปใส่ใจมาก คือเรียนแล้วควรจะรู้ให้ครบ ไม่ใช่ไปเลือกท่องเฉพาะที่เก็งไว้ เลือกท่องเฉพาะที่เก็ง ถ้าไม่ออกก็เจ๊งทุกราย

ปีแรกที่มหาเอท่านสอบ ตอนช่วงเช้าวันสอบผมก็โทรไปหาท่าน เพื่อจะบอกว่าออกตรงไหน แต่ว่าเป็นเรื่องของเวรของกรรม เพราะว่าท่านไม่รับโทรศัพท์ คือท่านปิดโทรศัพท์เพื่อที่จะตั้งหน้าตั้งตาท่องหนังสือ ผมก็เลยฝากข้อความไว้ แล้วท่านมาเปิดหลังจากสอบเสร็จแล้ว โมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตั้งแต่นั้นมาผมเลิกบอกข้อสอบเลย"


ถาม : ตอนนี้บอกใหม่ได้นะครับ
ตอบ :...(หัวเราะ)... ไม่เอาแล้ว ได้ด้วยความสามารถตัวเองภูมิใจกว่า เป็นห่วงท่าน อุตส่าห์บอกไป ปรากฏว่าท่านก็ดีจริง ๆ ปิดโทรศัพท์ท่องหนังสือ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 15:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 13-10-2015, 14:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความจริงพระวัดท่าขนุนของเรา ส่วนใหญ่แล้วจะมีการศึกษาทางโลกมาก่อน อย่างไม่มีเลยในปัจจุบันนี้ก็จบ ม.๖ ในเมื่อเป็นอย่างนั้นจึงพอไปแข่งกับบรรดาเด็กต่างด้าวได้ อาตมาใช้คำว่า "ไปตบเด็ก" บางคนจบปริญญาโทจากต่างประเทศ ส่วนเด็กพม่า เด็กกะเหรี่ยง บางทีกว่าจะปั้นหนังสือไทยได้สักบรรทัดหนึ่งปาไปครึ่งชั่วโมง กลายเป็นว่าคุณภาพต่างกัน วัดอื่นเขาจะมาว่าวัดท่าขนุนก็ไม่ถูก

ท่านปัญญาเป็นอย่างไรบ้าง ? อักขระเลขยันต์นี่เข้าใจขึ้นเยอะเลย
ว่ามาจากไหน..ใช่ไหม ? คุณไม่ได้เจตนาเรียนบาลี แค่จะหนีคนเท่านั้นเอง แต่ไหน ๆ เรียนแล้วก็เอาให้เต็มที่ เขามาก็ปฏิเสธเขาได้ แหม...ไม่ใช่ประเภทปฏิเสธคนไม่เป็น ท้ายสุดก็ต้องหนีเขา ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องหนีไปทั้งชาติ ผมเองนั่งรับสังฆทาน ถ้าหมดเวลาผมก็ลุกเลย ประเภทเพิ่งมา "เดี๋ยวก่อน ๆ" นี่ผมไม่ได้ยินหรอก จะเจริญศรัทธาต้องมีปัญญาประกอบด้วย ดูว่าอะไรเหมาะอะไรควร ไม่ใช่เรียกใช้ตูก็ไปกับเขาเรื่อย ไม่มีเวลาจะภาวนา ไม่มีเวลาจะพักผ่อน ท้ายสุดต้องหนีมาเรียนหนังสือ

ผมนึกถึงตัวเองเหมือนกัน ช่วงเรียนหนังสือเป็นช่วงพักผ่อน อยู่กับวัดนี่งานสารพัด บางคนบอกว่าอาจารย์ขยันเรียนจริง ๆ ไม่เคยขาดเลย บอกไปว่านี่แหละเวลาพักผ่อนของผม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 15:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 13-10-2015, 14:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กราบเรียนถามหลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต ว่าหลวงพ่อไม่เรียนเอกต่อหรือครับ ท่านบอกว่า "โอ๊ย..ไม่เอาหรอก ไม่ใช่อาจารย์เล็ก..ท่านพระนักเรียน" ?
ตอบ : ชวนท่านตั้งแต่แรกแล้ว ท่านบอกว่า “อาจารย์เล็กไปเรียนคนเดียวเถอะ ผมไม่ไหวหรอก” อาตมาเองก็ไม่ใช่พระนักเรียนนะ มาสายปฏิบัติเหมือนกัน เพียงแต่ทำตามที่พระพุทธเจ้าท่านสอน อนากุลา จ กมฺมนฺตา เอตมฺมํคลมุตฺตมํ ทำอะไรไม่คั่งค้างจึงจะเป็นอุดมมงคล ไปเรียนให้ค้าง ๆ คา ๆ ทำไม ? ก็ลุยให้จบไปเลย

เรื่องการเรียนสำคัญที่สุดตรงสมาธิ ทิ้งสมาธิไม่ได้เด็ดขาดเลย ทิ้งเมื่อไรนี่จะท้อ ฉะนั้น..ต้องภาวนาสู้กันเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 15:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 199 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 13-10-2015, 14:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยที่ผมเรียนบาลี ตอนแรกผมก็ไม่รู้เรื่องเหมือนกัน ตอนบิณฑบาตก็ท่องบาลีไปด้วยทุกเช้า ถึงเวลาก็เขียนใส่ซองปัจจัย โยมเขาถวายปัจจัยใส่ซองมา ซองเปล่าเหลือก็เสียดาย เก็บ ๆ ไว้ ถึงเวลาเขียนศัพท์ใส่แล้วก็เดินไปท่องไป เดี๋ยว ๆ ก็ล้วงขึ้นมาดู ญาติโยมคงคิดว่าพระรูปนี้มีสาวส่งจดหมายมาทุกวัน

ท่องไป ๆ แล้วรู้สึกเหมือนมีอะไรแตกโป๊ะข้างในหัว แล้วเข้าใจหมดเลย เข้าท่าดีเหมือนกัน ค่อย ๆ เรียนไป อย่างน้อย ๆ ก็เป็นมหาให้ได้ เอามากไม่ได้ สัก ๓-๔ ประโยคก็ยังดี แต่ที่ยากที่สุดก็ ๓-๔ ประโยคนั่นแหละ เพราะเป็นพื้นฐานที่ต้องหากินไปยันประโยค ๙ เลย แล้วประโยค ๗-๙ จะศึกษาเรื่องฉันท์ต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันนี้คนเก่งจริง ๆ มีน้อยลงไปเรื่อย ๆ แล้ว

หลวงพ่อบุญมา ท่านเจ้าคุณพระธรรมวโรดม วัดเบญจมบพิตร ก็มรณภาพไปแล้ว หลวงพ่อวัดราชโอรสตอนนี้เป็นพระมหาโพธิวงศาจารย์ ก็อายุกาลผ่านวัยไปเยอะแยะขนาดนั้นแล้ว คนเก่ง ๆ ล่วงลับไปเรื่อย คนใหม่ไม่หมั่นฝึกฝน ก็หาที่เก่งจริงได้ยาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 15:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 13-10-2015, 14:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การพกตะกรุดมหาสะท้อน ?
ตอบ : อย่าให้ต่ำกว่าเอวก็พอ ถ้าอยู่กับตัวอย่าให้ต่ำกว่าเอว

ถาม : ถ้าอยู่ในกระเป๋า ?
ตอบ : ถ้าอยู่ในกระเป๋าก็ไม่เป็นไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 15:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 13-10-2015, 14:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "เพื่อนพระเขาบอกว่าอาจารย์เล็กบ้า มีรถดี ๆ ไม่ขี่ เที่ยวไปไล่แจกวัดอื่นเขา มีใครขี่รถทีละ ๕ คันได้บ้างล่ะ ? ก็ได้ทีละคันเท่านั้น เหลือแล้วจะเอาไว้ทำอะไร ก็เอาไปแจกวัดอื่นเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 15:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 13-10-2015, 15:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แก้วจักรพรรดิของวัดท่าซุง องค์เล็กของท่านปู่ องค์ใหญ่ของท่านย่าหรือครับ ?
ตอบ : องค์ใหญ่ของท่านปู่ องค์เล็กของท่านย่า อย่าสลับกันสิวะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2015 เมื่อ 15:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 13-10-2015, 15:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อช่วงเข้าพรรษาใหม่ ๆ แม่ชีขนบรรดาผ้าไตรและเครื่องสังฆทานไปถวายวัดไกล ๆ หลายคันรถ หลายวัดก็น่าสงสารเพราะว่าไทยธรรมต่าง ๆ ไม่ค่อยจะมี บางทีผ้าจีวรก็เก่าจนเปื่อยเลย ถามว่าทำไมท่านไม่ไปอยู่วัดที่เจริญ ? บางท่านก็ติดที่ติดถิ่น ก็บ้านอยู่ตรงนั้น บวชก็ต้องอยู่ใกล้บ้านตัวเอง คราวนี้พอเป็นที่กันดาร ญาติโยมไปทำบุญกันลำบาก จึงไม่ค่อยมีอะไร

วัดท่าขนุนมีหน้าที่ไล่แจกปีละครั้ง ที่ขำ ๆ ก็คือตั้งความหวังไว้สูง ถวายอาสนะวัดละ ๕ ที่ แต่หาพระครบ ๕ รูปยากมากเลย บางวัดมี ๒-๓ รูปนี่เยอะมากแล้ว ส่วนใหญ่ก็เป็นหลวงปู่หลวงตาอายุมาก ๆ บวชเฝ้าวัด แบบเดียวกับวัดหนองบัวสมัยก่อน พอพระอาจารย์แสงหนีมาอยู่เมืองไทย ทางด้านโน้นไม่ใครดูแลวัดก็จับสลากกัน ปรากฏว่าหลวงตาอินทร์พานจับได้ก็ต้องบวชเฝ้าวัด

หลวงตาอินทร์พานมรณภาพไปแล้ว หลวงตาเย็นก็มรณภาพไปแล้ว ครูบาญาณก็มรณภาพไปแล้ว
บรรดาตัวละครในบันทึกเที่ยวพม่า ล่วงลับกันไปเป็นแถว ๆ "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 02:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 14-10-2015, 11:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตกลงว่าหลวงตาเย็นท่านได้สึกไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ได้สึก...มรณภาพในผ้าเหลือง อาตมาถวายปัจจัยสร้างเมรุลอยให้วัดของครูบาญาณ เขาทำโมทนาบัตรมาให้ใหญ่มาก

คนบ้านหนองบัว สองแคว บ้านใหม่สามพระยา บอกว่าครูบาอาจารย์ใหญ่ของเรา ถ้าทำให้น้อยหน้าก็อายบ้านอื่นเขา อาตมาถามว่าแล้วเมรุลอยราคาเท่าไร ? เขาบอกว่า “สี่แสนบาท” เออ...เอาไป สี่แสนบาทถ้าเป็นเงินพม่าก็เอา ๒๗ คูณเข้าไป อาตมาเป็นเจ้าภาพเขาก็เลยทำโมทนาบัตรมาให้ เป็นสี่สีใบใหญ่เกือบเท่าเตียงนอน ใส่กรอบมาเสร็จสรรพ แต่ความจริงมีรายจ่ายหลายอย่างที่ไม่มีความจำเป็นต้องจ่าย แต่เขาก็ไปจ่าย อย่างเช่นทำซองบอกบุญพิมพ์สี่สี แล้วฎีกาข้างในเป็นกระดาษแข็งเดินทอง
แพงเปล่า ๆ ต้องบอกว่าคุณทำได้อลังการสมเกียรติครูบาอาจารย์มาก แต่จ่ายมากไปโดยใช่เหตุ พอถึงเวลาคนก็เอาไปทิ้ง ซองใส่เงินกลับมาพอฉีกก็ต้องทิ้งอีก

จะไปว่าอะไรได้ ในเมื่อเขามีความคิดแต่ไม่มีสตางค์ ถึงเวลาได้สตางค์ไปก็ทำกันบรรลัยวายวอดหมด เมรุลอยทำสวย ๆ
เป็นวิมาน ๙ ยอดสี่แสนกว่าบาท วันสุดท้ายก็เผาไปพร้อมศพ

ครูบาญาณเป็นพระผู้ใหญ่ใจดีมาก ๆ ไม่ถือเนื้อถือตัวกับใครเลย ที่ขำที่สุดคือ
ตอนที่ถวายเครื่องตัดหญ้าให้ท่าน ท่านเก็บไว้ห้องนอนข้างเตียงเลย เพราะว่าของวัดหนองบัวพอถวายไปแล้ว พวกทหารขอยืมเอาไปตัดหญ้าที่ค่ายแล้วทำพัง ครูบาญาณท่านกลัวเขาจะมายืม ก็เลยเอาซ่อนไว้ข้างเตียงเลย

ด้วยความที่ค่านิยมเปลี่ยน จากที่แต่เดิมโยมเป็นคนสร้างโบสถ์วิหารการเปรียญถวายวัด ก็กลายเป็นพระต้องมาสร้างกันเอง ครูบาญาณท่านทำแทงค์น้ำ ฉาบปูนไปฉาบปูนมาก็ขว้างเกรียงทิ้ง บ่น “บักห่าเอ๊ย..กูหนีมาบวชเพราะขี้คร้านทำงาน ต้องมาทำหนักกว่าเก่าอีก” ...(หัวเราะ)...
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-10-2015 เมื่อ 15:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 14-10-2015, 11:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาคนเหาะกับหายตัว ที่จริงก็เป็นการทำให้ธาตุสี่ที่ประกอบขึ้นแบบไม่ใช่แท่งทึบ แทรกไปไหน ๆ เหมือนกันใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่..ถ้าเราอธิษฐานให้ลอยไปช้า ๆ จะเป็นเหาะ แต่ถ้าเราตั้งใจไปถึงปลายทางเลยจะเหมือนกับหายตัว เพราะไปเร็วจนตามองไม่ทัน ยกเว้นว่าหายตัวด้วยอำนาจของนีลกสิณ อันนั้นต้องเรียกว่ากำบังตัว เพราะว่าอยู่ตรงนั้นแหละ แต่จะมองไม่เห็น ส่วนที่ทำให้ธาตุ ๔ เป็นช่องแล้วลอดไปได้ นั่นเป็นอากาสกสิณ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 15:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 14-10-2015, 11:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูฝึกอาโลกกสิณแล้วรู้สึกว่าในอกมีสายใยอยู่กับดวงกสิณ แล้วพอเราทำไปเรื่อย ๆ นั่งสมาธินิ่ง ๆ แล้วก็ยิ่งมารวมกันเป็นดวง สว่างขึ้นเรื่อย ?
ตอบ : ทำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสว่างจ้าเหมือนกับเรามองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า ไปบรรเลงต่อ กำลังจะดีแล้ว

ถาม : เวลาไปในที่มืดแม้ว่าเราไม่ได้เปิดไฟก็สว่าง ไปในที่ไม่มีแสงสว่างก็สว่าง ?
ตอบ : เป็นเรื่องปกติจ้ะ

ถาม : แล้วแยกออกเป็นผู้ดูกับจิต มีผู้ดูแล้วก็มีจิต แม้ว่าจิตวุ่นวายสับสนแต่ก็ไม่ใช่เรา ?
ตอบ : อันนั้นเป็นอาการทำงานของจิต ตัวจิตจริง ๆ ก็คือที่ดูอยู่นั่นแหละ

ถาม : แล้วทำสมาธิแล้วมีไฟลุกขึ้นมา ?
ตอบ : เอาอย่างเดียวก่อน อย่าเพิ่งไปสนใจกับไฟ จับแสงสว่างในอกของเราให้สว่างเต็มที่ก่อน เอาให้ได้ขนาดเหมือนกับมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า

ถาม : หนูไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่น ?
ตอบ : ไม่ต้องไปสนใจอย่างอื่น อะไรมาพักเอาไว้ก่อน ไปนอนรอก่อน เดี๋ยวถึงคิวแล้วค่อยมา

ถาม : ถ้าทำสมาธิแล้วพอเห็นดวงนี้ แล้วก็มีสิ่งแปลกปลอมนั้นทำให้รู้สึกอึดอัด ?
ตอบ : ไม่ต้องไปสนใจ อยู่กับการภาวนาของเราไป ถ้าหากว่าต้องการให้สิ่งเหล่านั้นหมดไปเร็ว ก็ไปศึกษาเรื่องของสังโยชน์ ๑๐ แล้วพยายามตัดละกิเลสตามนั้น ถ้าหากว่าหมดกิเลส สิ่งแปลกปลอมก็จะหมดไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 15:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 14-10-2015, 12:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แม้แต่ครอบครัวพี่น้องต้องวางให้หมดใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด รักแต่ไม่ต้องผูกพัน ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไป ไม่ใช่ไปตัดเขาทิ้ง ยังต้องทำหน้าที่ของเราอยู่

ถาม : หนูขอลาไปภาวนาต่อนะคะ ?
ตอบ : เชิญจ้ะ ขอให้ประสบความสำเร็จมาก ๆ เวลาได้ยินโยมที่ปฏิบัติแล้วเริ่มได้ผลดีมาเล่าผลการปฏิบัติให้ฟังก็ชื่นใจหน่อย อย่างน้อยที่สอน ๆ ไปก็ไม่หายไปไหน ยังมีคนทำได้อยู่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 15:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 14-10-2015, 12:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอาภัตตาหารมาถวาย "ไอ้เจ้าไก่ตัวนี้มาจากไหนหว่า ? เล่นมาทวงส่วนกุศลเลย กลัวจะไม่ได้บุญ เอาลงไปให้แม่ครัวเขาจัดลงสำรับ เดี๋ยวจะลงไปงับหัวมัน ...(หัวเราะ)...

ต้องบอกว่าคนกับสัตว์เหมือนกัน คือบางคนก็มีความกล้าที่จะเรียกร้องสิทธิของตัวเอง บางคนก็ไม่กล้า ไอ้เจ้านี่ก็เหมือนกัน ถึงเวลาโผล่หน้ามา “กูจะเอา”
เลย โมทนาความดีไป ได้ไปเป็นเทวดาก็บุญโขแล้ว

สัตว์เลี้ยงถ้ากำลังเกาะคนจะไปเกิดเป็นคน ถ้าหากว่าเกาะพระจะไปเกิดเป็นเทวดา เจ้าของเลี้ยงอยู่ทุกวัน เขาก็ไม่รู้หรอกว่าเลี้ยงตัวเองเอาไว้ขาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 15:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 14-10-2015, 12:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มโนมยิทธิตรงนี้แก้อย่างไรครับ ถ้าแวบขึ้นมา แต่ตอบไม่ถูก ?
ตอบ : ให้เชื่อความรู้สึกแรก ส่วนใหญ่จะไปเอ๊ะ พอเอ๊ะก็เจ๊งเลย ตูก็เอ๊ะมาเยอะแล้ว อีกทีก็ไปใช้ตรรกะแบบทั่ว ๆ ของเราไปคิดเอาเองว่าไม่น่าจะใช่ ต้องเชื่อความรู้สึกแรกอย่างเดียวเลย

ถาม : เอาอันแรกเลยหรือครับ ?
ตอบ : อันแรกไว้ก่อน ถ้าเถียงขึ้นมาเมื่อไรก็พังเมื่อนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 15:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 14-10-2015, 19:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาผมบอกบุญ บอกว่าหมดเวลาปิดวันนี้ ถ้ามีคนโอนเงินมาไม่บอกที่มาที่ไปให้ผม...?
ตอบ : ก็เป็นความซวยของคุณเอง ต้องไปสืบหาให้ได้ว่าเป็นใคร แล้วตั้งใจทำบุญเรื่องอะไร แล้วไปจัดการให้เขาตามนั้น

ถาม : ผมบอกว่าให้โอนก่อน ๑๑ โมงครับ ?
ตอบ : ไปคุยกับท่านปู่นายบัญชีข้างล่างแล้วกัน ไปร้องทุกข์ตรงนั้น ไม่ต้องมาร้องทุกข์กับอาตมา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 20:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 14-10-2015, 19:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ปกติจะดูแลคุณแม่อยู่ที่บ้าน ตอนนี้คุณแม่นอนอยู่ที่โรงพยาบาล แกขาดสติ มีอาการโวยวายลูกคนที่ดูแลแก ขี้ระแวงลูก ลูกคนอื่นแกรับไม่ได้ แกยอมรับลูกชายได้คนเดียว แต่ว่าต้องทำงาน ไม่มีเวลาค่ะ ไม่ทราบว่าคุณแม่เป็นอย่างไรบ้างคะ ?
ตอบ : ส่งถึงมือหมอแล้วไม่ต้องถาม เป็นเรื่องธรรมดาถ้าวาระกรรมมาถึง บางคนจำคนในบ้านไม่ได้สักคน นี่ยังอุตส่าห์จำได้คนหนึ่ง

ถาม : เข้าหน้าแกไม่ได้เลยค่ะ แกเห็นหน้าแล้วจะระแวงเลยค่ะ ?
ตอบ : เรื่องปกติ ให้หมอเขาจัดการไป

ถาม : แล้วเราจะทำอย่างไรคะให้ท่านมีสติกลับมาดีขึ้น ?
ตอบ : นั่นเป็นหน้าที่หมอรักษา ถามพระจะช่วยอะไรได้เล่า ? คนเราถ้าต้องการรักษาสติไว้ ต้องมีการภาวนาเป็นปกติ พอภาวนาสติมั่นคง ต่อไปก็หลงลืมได้ยาก แต่คราวนี้แม่ของคุณไม่มีพื้นฐานทางนี้มา สติขาดไปแล้วกลายเป็นจำใครไม่ได้ แล้วจะไปแก้อีท่าไหน ? จะไปสอนให้แกภาวนาตอนนี้ก็ไม่ทันรับประทาน ปล่อยหมอเขารักษาตามอาการไป ช่วยได้แค่ไหนก็แค่นั้น คนทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง ถึงเวลาแล้วเราอาจจะแย่กว่าท่านก็ได้ ฉะนั้น..อะไรที่ทำเพื่อท่านได้ก็ทำให้เต็มที่ไป

เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดอย่างไรก็ไม่รู้ เดี๋ยวเรื่องโน่นเดี๋ยวเรื่องนี้ประเดประดังเข้ามา ให้รู้ว่าชาติก่อนเราเล่นเขาไว้เยอะทีเดียว ถึงเวลาเขาเลยตามมาเอาคืน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 20:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 14-10-2015, 19:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะไปฝึกอภิญญาค่ะ จะทำได้ไหม ?
ตอบ : ถ้ารักจะฝึกอภิญญาแล้วมัวแต่สงสัยว่าจะทำได้ไหม อย่าไปฝึกให้เสียเวลาเลย กำลังใจยังไม่พอ

ถาม : ทำไปเลยหรือคะ ?
ตอบ : ทำไปเลยไม่ต้องถาม

ถาม : แล้วขั้นตอนในการทำ ?
ตอบ : ไปดูคู่มือกรรมฐาน ๔๐ ของวัดท่าซุง ชอบใจตรงไหนก็ทำไปเลย

ถาม : แล้วของเก่า ?
ตอบ : ค่อย ๆ ภาวนาไป ถ้ากำลังใจเพียงพอ ทุกอย่างที่เคยทำได้จะกลับมาเอง แต่ถ้าของเก่ากลับมาแล้ว กำลังใจของเรายังยอมรับกฎของกรรมไม่ได้ก็ยังใช้ไม่ได้อยู่ดี เพราะเดี๋ยวก็ไปฝืนกฎของกรรม ทำให้ยุ่งไปหมด

ถาม : ทำอย่างไรจึงจะยอมรับกฎของกรรม ?
ตอบ : พิจารณาเยอะ ๆ ยอมรับให้ได้ว่าเราเกิดมาต้องทุกข์อย่างนี้ ธรรมดาเป็นอย่างนี้ ถ้าเห็นธรรมดาไม่ได้ ก็ยอมรับกฎของกรรมไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 20:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 14-10-2015, 19:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,063 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูปรารถนาครูบาอาจารย์สอนกสิณค่ะ ?
ตอบ : ทำ...ติดขัดตรงไหนแล้วมาถาม

ถาม : ไม่ได้ติดขัดค่ะ แต่กำลังเยอะ จนเกิดความกลัวในกำลัง ?
ตอบ : จงกลัวต่อไป กลัวแล้วฝึกไปทำอะไรวะ ?

ถาม : ไม่ได้ฝึกค่ะ เป็นขึ้นมาเอง ลองเพ่งกระดาษทิชชู่เป็นความรู้สึกว่าไฟลุกที่กระดาษทิชชู่จริง ๆ ค่ะ แล้ววิญญาณก็ปรากฏตัวต่อหน้า รู้สึกว่ากำลังแรงมาก โยมต้องทำอย่างไรเจ้าคะ ?
ตอบ : ถ้าเราทำได้จริง ๆ สั่งแค่ไหนก็เป็นแค่นั้น สั่งให้เผาเสื้อผ้าคน แค่ขนสักเส้นหนึ่งก็ยังไม่ไหม้เลย แล้วกลัวไปทำซากอะไร ?

ถาม : อยากฝึกเจ้าค่ะ รับเป็นศิษย์ได้ไหมเจ้าคะ ?
ตอบ : ก็บอกแล้วว่าไปทำ ติดขัดตรงไหนแล้วค่อยมาถาม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2015 เมื่อ 20:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว