กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 19-11-2016, 18:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรื่องการแผ่อุเบกขาในพรหมวิหาร ที่ผมเพิ่งจะเริ่มทำก็คือจับภาพพระ ?
ตอบ : พอก่อน...ผิดตั้งแต่แรกแล้ว อุเบกขาประเทศไหนเขาให้แผ่วะ...?! เขาให้ฝึกหัดสภาพจิตให้ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว สิ่งดีเข้ามาก็ไม่ยินดี สิ่งร้ายเข้ามาก็ไม่ยินร้าย มีใครเขาไปนั่งแผ่อุเบกขา..?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 19-11-2016, 18:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าฝึกกสิณ ต้องเป็นวิปัสสนาก่อน หรือทำสมถกรรมฐานก่อน ?
ตอบ : กสิณคือการเริ่มฝึกสมาธิ มีวัสดุพร้อมก็ฝึกไปได้เลย เพียงแต่ให้ฝึกควบกับลมหายใจเข้าไว้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 195 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 19-11-2016, 19:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ขณะที่สวดมนต์ทำวัตรอยู่ แล้วมีพระมาสะกิดเรา ทำให้จิตเราส่าย ฟุ้งเป็นชั่วโมง ไม่ทราบจะมีวิธีสร้างกำลังใจป้องกันตัวไหมครับ ?
ตอบ : เกาะภาพพระแล้วสวดไป ถ้าสมาธิดี สะกิดให้ตายก็ไม่หลุด

ส่วนใหญ่พวกเราจะเห็นว่าแค่สวดมนต์ ถ้าหากว่าสวดเป็นก็ไปได้ยันพระนิพพาน แต่คนเรามักจะไปคิดว่าแค่สวดมนต์ การสวดมนต์ขั้นต้นถ้าไม่มีสมาธิจะสวดผิด ให้สังเกตว่าเราเผลอคิดเรื่องอื่นเมื่อไรจะสวดผิดทันที

ถ้าเป็นผู้ที่คล่องตัวในอานาปานสติ คำสวดมนต์ก็คือคำภาวนา เพียงแต่เป็นคำภาวนาที่ยาวหน่อยเท่านั้น สำหรับผู้ที่เข้าถึงฌานสมาบัติ การสวดมนต์คือการซักซ้อมทรงฌานตั้งเวลา ถ้าหากว่าสวดมนต์ไม่เสร็จ สมาธิเราจะไม่คลายออกมา

สำหรับผู้ที่ได้ทิพจักขุญาณ ให้กำหนดภาพพระในขณะที่สวดมนต์ไปด้วย สมาธิยิ่งทรงตัวมากเท่าไร ภาพพระจะชัดเจนแจ่มใสมากเท่านั้น สำหรับผู้ที่ได้อภิญญา ให้ยกจิตขึ้นไปสวดมนต์ถวายพระบนพระนิพพานเลย ถ้ากำลังใจเราตั้งมั่นอยู่บนพระนิพพานบ่อย ๆ สภาพจิตเคยชินกับความสะอาด ปราศจาก รัก โลภ โกรธ หลง ของที่นั่น ถ้าจำอารมณ์นั้นได้ ลงมาแล้วประคับประคองรักษาอารมณ์นั้นไว้ ถ้าทำไปนาน ๆ จะหมดกิเลสแบบไม่รู้ตัว

สำหรับบุคคลที่แปลบาลีได้ คำสวดมนต์ส่วนใหญ่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ถ้าแปลได้ก็ทำตามไปเลย ถ้าปฏิบัติตามได้ โอกาสที่จะหลุดพ้นก็มีอย่างแน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 19-11-2016 เมื่อ 20:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 19-11-2016, 19:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ฉะนั้นใครที่บอกว่า "แค่สวดมนต์" สำคัญว่าคุณสวดเป็นไหม ? อาตมาทำมาแล้วทุกรูปแบบ ถ้าไม่ได้ทำก็บอกให้ไม่ได้ สมัยเป็นฆราวาสฝึกปฏิบัติใหม่ ๆ ก็ใช้วิธีการสวดมนต์เป็นการซักซ้อมการทรงสมาธิ

ทุกคนจะสงสัยว่าทำไมพระวัดท่าขนุนเจริญกรรมฐานแล้วมานั่งทำวัตร สมาธิก็หลุดหายหมดสิ ? พวกนั้นโง่มาก...ปล่อยมันไป แต่ถ้าบุคคลที่เข้าใจ ถึงเวลาเขาจะทรงสมาธิไว้ไม่ให้เคลื่อน ไม่ให้คลายออกไป

แต่เท่าที่สังเกต พระวัดท่าขนุนส่วนใหญ่ถึงเวลาก็นั่งแข็งทื่อ ปล่อยเจ้าอาวาสสวดไปคนเดียว ทรงสมาธิได้เหมือนกันแต่ไม่ใช่สมาธิใช้งาน อย่างท่านอาจารย์เตชะ อุ้มไปทิ้งแล้วยังไม่รู้ตัวเลย พระอื่นเดินกลับกุฏิหมดแล้ว อาจารย์เตชะยังนั่งเงียบอยู่นั่น

ตั้งใจจะให้ซักซ้อมการทรงฌานใช้งาน แต่หาคนทำได้น้อยมาก ถามว่าผิดหวังไหม ? ไม่หรอก...เพราะอย่างน้อย ๆ ฌานขั้นต้นท่านได้กันหมด เพียงแต่เจ้าอาวาสเหนื่อยหน่อย เพราะคนอื่นเล่นนั่งทรงฌานกันหมด ปล่อยให้เจ้าอาวาสสวดมนต์อยู่นั่นแหละ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2016 เมื่อ 20:09
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 19-11-2016, 20:09
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อุเบกขา ก็คือ ถ้าเราได้ยินเสียง ไม่ว่าเสียงนั้นจะเสียงดีหรือเสียงร้าย ก็ให้เราวางเฉยหรือครับ ?
ตอบ : รักษากำลังใจอย่าไปสนใจในเสียงนั้น เพราะทันทีที่คุณสนใจ คุณจะไปปรุงแต่ง ทันทีที่ปรุงแต่ง ถ้าไม่ชอบใจก็จะชอบใจ มี ๒ อย่างเท่านั้น ชอบใจก็เป็นราคะ ไม่ชอบใจก็เป็นโทสะ ฉะนั้น...อุเบกขาเป็นเรื่องที่จำเป็นในการฝึกปฏิบัติธรรมทุกระดับ ถ้าไม่มีอุเบกขาก็หาความเจริญในการปฏิบัติไม่ได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำได้แต่เบื้องต้นเท่านั้น เบื้องปลายสุดถ้าจะเข้าถึงจริง ๆ ต้องมีอุเบกขา โดยเฉพาะสังขารุเปกขาญาณ หยุดการปรุงแต่งทั้งปวง ในเมื่อหยุดการปรุงแต่งทั้งปวง รัก โลภ โกรธ หลง เกิดไม่ได้ แล้วจะเหลืออะไร ? กิเลสก็ตายเกลี้ยง..!

แต่สมัยนี้นักวิชาการเก่งมาก สังขารุเปกขาญาณของเขาเป็นแค่เบื้องกลางเท่านั้น เขาต้องมีมรรคฌานผลญาณอะไรให้ยุ่งไปหมด ไปนึกถึงหลวงพ่ออุตตะมะ ลุงสัจจะ มูลแก้ว จะไปเรียนอภิธรรม ท่านก็เตือน "โยมลัย อย่าไปเรียนอภิธรรมเลย เรียนไปเดี๋ยวจะไม่มีพระให้ไหว้นะ" เพราะคนเรียนอภิธรรมมักคิดว่าตัวเองเก่งกว่าพระ หารู้ไม่ว่าพระอภิธรรม พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้สอนมนุษย์ ท่านสอนพรหมเทวดาที่เป็นอุคฆฏิตัญญูบุคคล แค่ฟังหัวข้อก็เข้าใจแล้ว ขนาดนั้นยังใช้เวลาตั้ง ๓ เดือนของมนุษย์ ลองดูสิว่าถ้าพระพุทธเจ้าเทศน์ ๓ เดือน โดยไม่ไปไหน คนฟังจะเป็นลมตายก่อนไหม ? แต่ก็ยังมีพวกเก่งกล้าสามารถไปเรียนพระอภิธรรมกัน

อาตมายอมแพ้พระอภิธรรม ขออ่านผ่านตาเท่านั้น ไม่พยายามไปแตะเลย ที่พระพุทธเจ้าท่านจำเป็นต้องสอนตั้ง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ก็เพราะเป็นไปตามจริตของผู้ฟัง ในเมื่อเป็นไปตามจริตของผู้ฟัง ก็แปลว่าถึงจะเหมาะกับบุคคลประเภทหนึ่ง ก็ไม่แน่ว่าจะเหมาะกับบุคคลอีกประเภทหนึ่ง อย่างมหาสติปัฏฐานสูตร อาตมาว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนมนุษย์ต่างดาว คนก็ว่าพระอาจารย์เล็กเพี้ยน..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2016 เมื่อ 02:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 201 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 19-11-2016, 20:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มหาสติปัฏฐานสูตร พระพุทธเจ้าท่านเทศน์ที่หมู่บ้านกัมมาสธัมมะนิคมของชาวกุรุ เราต้องย้อนประวัติศาสตร์กลับไปในสมัยที่โลกยังมีพระเจ้าจักรพรรดิอยู่ พระองค์ท่านต้องแสดงพระราชอำนาจด้วยการปราบได้ในทวีปทั้ง ๔ แล้วกวาดต้อนเอาบุคคลของแต่ละทวีปมาเพื่อการแสดงซึ่งพระราชอำนาจ

บุคคลที่มาจากอุตรกุรุทวีป ท่านเอาไว้ที่แคว้นกุรุ บุคคลที่มาจากอมรโคยานทวีปเอาไว้ที่เมืองอมรปุระ บุคคลที่มาจากปุพวิเทหทวีปไว้ที่เมืองเทวทหะ ก็เมืองแม่ของพระพุทธเจ้า ฉะนั้น...ใครว่าพระพุทธเจ้าฉลาดเหนือมนุษย์ น่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาว ก็ไม่ผิดหรอก คนแคว้นกุรุฉลาดขนาดไหน ? ฉลาดขนาดนกแขกเต้าที่เลี้ยงไว้ยังเจริญอสุภกรรมฐานเป็นปกติ พวกเราทำได้อย่างนกไหม ?

เราจะสังเกตว่าพอกล่าวถึงกายในกาย เราก็ได้อานาปานบรรพ คือลมหายใจเข้าออก กิริยาบถบรรพ สัมปชัญญบรรพ พวกนี้พอแตะถึง แต่พอไปถึงเวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม บางคนไปไม่เป็นเลย ก็เพราะท่านสอนเฉพาะชาวกุรุ เราเอาแค่อานาปานบรรพ คือลมหายใจเข้าออกก็พอแล้ว เพราะว่าทุกบรรพหรือว่าทุกตอน แต่ละตอนพระองค์ท่านลงท้ายจุดจบไว้ให้หมดแล้ว ทำจบก็เป็นพระอรหันต์ได้

พระองค์ท่านว่า นะ จะ กิญจิ โลเก อุปาทิยะติ เราจะไม่ยึดสิ่งใด ๆ ในโลกนี้ ปล่อยให้หมดแล้วจะเหลืออะไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2016 เมื่อ 02:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 19-11-2016, 20:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ในเรื่องของกรรมฐานอย่าโลภมาก ทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้เห็นผลไปเลย แล้วของอื่นจะไม่ยาก แต่ถ้าทำแล้วยังไม่เห็นผลก็จะยากทุกประการ ฉะนั้น...อะไรที่ได้หลักแล้ว พอใจแก่ตัวเองแล้ว ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำให้จบ จบแล้วถ้าไม่ขี้เกียจค่อยขยับมาทำอย่างอื่นต่อ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2016 เมื่อ 02:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 19-11-2016, 20:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "อย่ากลัวอ้วน แต่ให้รู้จักประมาณในการกิน ถ้าหากว่ากินน้อยแล้วอ้วนแสดงว่าระบบเมตาบอลิซึ่มในร่างกายของเราพิลึกกว่าชาวบ้านเขา แต่ก็ประหยัดดี ส่วนพวกกินมากแล้วไม่อ้วนอย่างอาตมาถือว่าเลี้ยงเสียข้าวสุก..!

สาว ๆ สมัยนี้จะไปคุ้มคลั่งอะไรกับการอดข้าว ? การลดน้ำหนักที่แน่นอนคือทำงานหรือไม่ก็ออกกำลังกาย ทำงานไปทั้งวันเช้ายันค่ำ ดูสิว่าจะอ้วนไหม ? ส่วนใหญ่ที่อ้วนก็คือนั่ง ๆ นอน ๆ กินเสร็จแล้วก็นั่งเขี่ยไลน์ นอนเขี่ยไลน์ ถ้าแบบนี้รับประกันว่าเดือนเดียวเห็นผล..!

อะไรที่พอดีจะมีประโยชน์ อะไรที่ไม่พอดีก็จะมีโทษ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เขาวิเคราะห์ว่าออกซิเจนทำให้ร่างกายสดชื่น คลอโรฟิลทำให้ร่างกายรับออกซิเจนได้มาก แล้วก็ให้พวกเราซื้อมากิน อาตมาเห็นว่ามีโทษแน่ ๆ เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเลยว่า มีธาตุไฟที่กระตุ้นร่างกายให้เจริญเติบโต และก็มีธาตุไฟที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง

อาตมาเห็นคนที่กินน้ำผัก กินคลอโรฟิล กินน้ำออกซิเจน เหี่ยวดูไม่ได้เลย ร่างกายเสื่อมเร็วกว่าปกติ เนื่องจากออกซิเจนเกิน ก็ไปผลาญเซลล์ในร่างกาย ดังนั้น...เราจะเห็นในพระอัจฉริยภาพของพระพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสในเรื่องมัชฌิมาปฏิปทา ใช้ได้ทุกเรื่องจริง ๆ อะไรที่ไม่พอดี เกินหรือขาดก็จะก่อให้เกิดโทษ

แต่โยมคนนั้นเขาไม่รู้ตัวนะ ที่ไม่รู้ตัวเพราะว่าเหมือนกับเสพติดไปแล้ว เขาบอกว่าสดชื่นดี น่าจะอายุสั้นกว่าปกติไปหลายปี อยากแข็งแรงต้องออกกำลังกาย กินอาหารให้ถูกหลัก แต่ไม่ต้องกินครบ ๕ หมู่ อย่างอาตมาได้แค่หมู่ ๑ หมู่เดียว พระครูแสงเคยเดินหาอาหาร
กินแค่ ๒ หมู่ ยังบอกว่าขาอ่อนเลย โดยเฉพาะแค่สหกรณ์นิคม ๘๐,๐๐๐ ไร่ก็มีตั้ง ๒ หมู่ ไม่ต้องไปกินครบ ๕ หมู่หรอก ตายก่อนแน่ ๆ...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-11-2016 เมื่อ 02:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 204 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 21-11-2016, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยก่อนเวลาอาตมาเจองูตัวใหญ่ ๆ ต้องดูก่อนว่าเป็นงูจริงหรืองูปลอม ส่วนใหญ่งูปลอมจะเป็นเจ้าที่เจ้าทางเทวดาอารักษ์ ต้องการจะข่มขู่พวกโลภมาก ก็ใช้วิธีแปลงเป็นงูตัวใหญ่ ๆ คนจะได้วิ่งหนีกัน

มีคนไปขุดกรุปราสาทหินทางอีสาน เปิดกรุออกมา ปรากฏว่าฝนกระหน่ำลงมา กำลังตั้งหน้าตั้งตาจะโกยของ ทำไมอยู่ ๆ ฟ้ามืด เงยหน้าขึ้นไป เห็นเกล็ดใต้ท้องงูพาดผ่านหลุมแทบจะปิดหลุมมิด แล้วหลุมกว้างขนาดผืนพรมตรงหน้าอาตมา (ประมาณ ๓ X ๕ เมตร) คราวนี้ไม่มีใครเอาสมบัติแล้ว วิ่งกันป่าราบอย่างเดียว

อาตมาไปเจอที่บึงลับแลก็เหมือนกัน ชูหัวขึ้นมาจากบึงเลยคอไปหน่อยเดียว หัวงูเสมอกับภูเขา..! แล้วถ้ามาทั้งตัวจะใหญ่ขนาดไหน ? ประเภทนั้นดีอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ถ้าคุยกันรู้เรื่องก็ได้เพื่อนดีไปเลย ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็โกยเถอะโยม...!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2016 เมื่อ 03:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 194 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 21-11-2016, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนมาสมัครบวช โดยบอกว่าเคยบวชมาจากที่อื่น "ขออภัยที่ไม่สามารถรับได้ เพราะรุ่นนี้ต้องการเฉพาะพระที่บวชงาน ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย หรือ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีที่วัดท่าขนุนเท่านั้น บวชแล้วอาตมาไม่ได้กลัวว่าจะสึก แต่กลัวว่าจะอยู่ต่อ..! ก็คือ ถ้าไม่ได้รับการอบรมแล้วอยู่ต่อ เกิดทำผิดทำพลาดอะไรขึ้นมา จะพาอาตมาซวยไปด้วย

เอาเป็นว่างวดหน้าบวชถวายในหลวงครบ ๑๐๐ วันอีก ๘๙ รูป
ถึงคราวนั้นจะเปิดสมัครบวชแบบทั่วไป นัดล่วงหน้าเข้าวัดก่อนบวชสักอาทิตย์หนึ่ง จะได้ไปฝึกซ้อมอบรมกันก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2016 เมื่อ 03:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 21-11-2016, 21:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมมารับตะกรุดแม่ทัพของหลวงพ่อกวย "ได้ของแท้ไป คลำให้ขึ้นใจเลยนะว่าของแท้ลักษณะรูปร่างเป็นอย่างไร ถึงเวลาจะได้จำได้ อย่างนี้เรียกว่า "ลายห้าเสา" เชือกถักเขามีลายตะเข้ขบฟัน ลายห้าเสา ฯลฯ สารพัดลาย ของหลวงปู่ปานเป็นลายเสาเดี่ยวพันตัวเอง

อาตมามีตะกรุดหลวงปู่ปานอยู่ดอกหนึ่ง ท่านอุดผงวิเศษมาให้ด้วย คาดว่าอาจจะเป็นลูกศิษย์ทำเอง ก็คือ เวลาอุดผงพระของท่าน อุดไปอุดมาก็แอบอุดให้ตะกรุดของตัวเองไปด้วย แต่โลหะก็ใช่ ลายก็ใช่ รักก็ใช่ เอาเป็นว่าดอกนี้พิเศษกว่าเขาก็แล้วกัน "
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2016 เมื่อ 03:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 21-11-2016, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ส่วนใหญ่ตะกรุดของหลวงปู่ปานเป็นลายมือของหลวงพ่อเจิม หลวงพ่อเจิมเป็นเจ้าอาวาสวัดบางนมโค หลวงปู่ปานเป็นพระลูกวัด หลวงปู่ปานไม่อยากมีภาระเลยให้หลวงพ่อเจิมเป็นเจ้าอาวาสแทน แต่ใคร ๆ ก็ว่าหลวงปู่ปานเป็นเจ้าอาวาสทั้งนั้น เขาเรียกหลวงพ่อใหญ่ คนรุ่นเก่า ๆ ที่อาวุโสมากเขาเรียกว่า ท่านใหญ่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2016 เมื่อ 03:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 192 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #133  
เก่า 21-11-2016, 21:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอาพระสมเด็จบางขุนพรหมมาถวาย "แน่ใจแล้วนะ พระสมเด็จบางขุนพรหมถ้าราคาต่ำกว่าหกหลักนี่อาตมาให้เหยียบเลย

ที่ขำที่สุดก็คือ คุณตัวเล็กออกพระสมเด็จบางขุนพรหมองค์ละร้อย ตูจะสลบ...! วันก่อนก็เห็นมีขุนแผนผงพลายกุมารองค์ละร้อย อาตมาไปตรวจเห็นอยู่ ไม่รู้ว่าลงไปหรือยัง ? ถ้าลงไปคนที่รู้จักจะลังเลว่าจริงหรือปลอม ว่าจะให้ชักออกมาลงกระทู้ประมูลแทน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2016 เมื่อ 03:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #134  
เก่า 21-11-2016, 22:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงเหรียญปาป้ามุม "เหรียญนี้ทหาร GI สร้างถวาย หลวงพ่อมุม วัดปราสาทเยอร์เหนือ วัตถุมงคลทุกชิ้นของหลวงพ่อมุมรับประกันยิงไม่ออก บรรดา GI เห็นทหารไทยโดนยิงเท่าไรไม่เป็นอะไรสักที ก็อยากได้วัตถุมงคลบ้าง เพื่อน ๆ จึงพาไปกราบหลวงพ่อมุม ปรากฏว่าลองแล้วเห็นว่ายิงไม่ออกจริง ๆ ก็เลยช่วยกันสร้างเหรียญถวายหลวงพ่อมุมรุ่นหนึ่ง

เหรียญรุ่นนี้ชื่อจะเป็นภาษาอังกฤษ เขียน PAPA MUM สร้างโดยศิษย์ GI อาตมาไม่รู้จักหลวงพ่อมุมสมัยนั้นหรอก พระครูแสงท่านแนะนำให้ เพราะตอนช่วงวัยรุ่นพระครูแสงเล่นวัตถุมงคลก่อน ไปหัดส่อง หัดดู รุ่นพี่ก็จะช่วยบอกว่าของแท้มีลักษณะอย่างไร ต้องศึกษาให้ครบ ท้ายสุดไปทดสอบพระถ้ำเสือพิมพ์ตุ๊กตาองค์หนึ่ง หลายคนบอกว่าปลอม เพราะสวยเกินไป แต่พอทดสอบตามที่เซียนใหญ่ท่านแนะนำ ปรากฏว่าใช่ อาตมาก็เลยรีบตะครุบไว้ ใช้ติดตัวอยู่หลายปี

ถ้าพิมพ์ใช่ เนื้อใช่ คราบกรุใช่ ไม้ตายสุดท้ายก็คือหยดน้ำลงไป ๑ หยด ถ้าหายวับไปเลยก็ของแท้ เพราะของแท้สร้างมานานจะแห้งสนิท ถ้าหยดลงไปแล้วค่อย ๆ ซึมหรือติดอยู่บนผิวก็ของปลอม ของบางอย่างถ้าสวยเกินไป เซียนก็ไม่กล้าจับ ตีว่าปลอมไว้ก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-11-2016 เมื่อ 03:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #135  
เก่า 23-11-2016, 08:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"อาตมาถวายพระผงสุพรรณเนื้อดำแก่หลวงพ่อสมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดพิชยญาติการาม สมัยที่ยังเป็นท่านเจ้าคุณพระธรรมโมลีอยู่ บอกว่า "หลวงพ่อครับ...องค์นี้สวยเกินไป ถ้าไม่ใช่ของแท้ผมขออภัยด้วยนะครับ ผมอาจจะตาไม่ถึง" หายไปเดือนกว่า เจอหน้ากันใหม่ กราบเรียนถามว่า "เป็นอย่างไรครับหลวงพ่อ ?" "เฮ้ย...แท้ว่ะ" ถูกใจท่านสุด ๆ บอกว่าไม่เคยเจอพระสวยขนาดนี้

พระกรุขนาดมีหน้ามีตา ที่ภาษาเซียนเรียกว่า "หูตากระพริบ" นั้นหายาก อาตมาก็ไม่เชื่อสายตาตัวเอง ต้องดูกันหลาย ๆ ตา อะไรที่สวยเกินไป คนส่วนใหญ่ไม่กล้าแตะ...กลัวพลาดแล้วเจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2016 เมื่อ 10:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #136  
เก่า 23-11-2016, 09:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้อะไรที่เกี่ยวกับในหลวงขึ้นราคาหมด แต่อาตมาเตือนล่วงหน้ามาเป็นปีแล้ว จำกันได้ไหม ? ที่บอกว่าให้เก็บวัตถุ รูป หรือเหรียญในหลวงเอาไว้บ้าง"

ถาม : เขานิยมโชว์เหรียญในหลวงกัน ?
ตอบ : อาตมาไม่โชว์เหรียญหรอก ถ้าจะโชว์ต้องสมเด็จจิตรลดา องค์นี้พิมพ์เล็ก ปี ๒๕๐๘ ส่วนพิมพ์ใหญ่มีผู้หวังดีเอาทองคำแท่ง ๒๐ บาทแลกไปแล้ว องค์นี้ต้องคิดเยอะกว่าเพราะสวยกว่า

เจ้าของท่านไม่ให้หนังสือรับรองมา เพราะว่าหนังสือรับรองการพระราชทานเขาถือว่าเป็นเกียรติของวงศ์ตระกูล เขาสละให้มาแต่องค์พระ

ปี ๒๕๐๘ อาตมาเพิ่ง ๖ ขวบ องค์นี้ที่ชอบใจเพราะว่าใส่มวลสารเยอะ ลอยหน้าเพียบเลย เรื่องของเนื้อหา ของพิมพ์ทรง บางทีก็สามารถปลอมกันได้ แต่มวลสารปลอมไม่ได้

เป็นพระที่ฆราวาสสร้าง ไม่ผ่านการปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์ เพียงแต่ในหลวงทรงอธิษฐานจิตไว้เท่านั้น ปัจจุบันนี้ราคาเป็นล้าน พิมพ์เล็กจะหายากเพราะว่าสร้างน้อยกว่า

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2016 เมื่อ 13:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #137  
เก่า 23-11-2016, 09:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ต้องบอกว่าอาตมามีวาสนากับในหลวง เพราะสมัยฆราวาสช่วงวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๓-๔-๕ ธันวาคม อาตมาจะถือศีลแปดถวายพระองค์ท่านสามวัน พวกเราเคยทำอะไรลักษณะแบบนี้ถวายพระองค์ท่านบ้างไหม ? ลองนึกดูว่าวัยรุ่นกำลังกินกำลังนอนต้องมาอดข้าว เป็นรสชาติของชีวิตเหมือนกันนะ

รักษาศีลแปด เจริญพระกรรมฐาน ถวายเป็นพระราชกุศล เพราะฉะนั้น...ไม่ต้องแปลกใจหรอกว่า ทำไมอาตมาขึ้นพระนิพพานครั้งแรกถึงได้เห็นในหลวงเป็นพระภิกษุมาขวางหน้า แสดงนิมิตให้เห็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2016 เมื่อ 10:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #138  
เก่า 23-11-2016, 09:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

องค์ในหลวงบอกใบ้ให้พวกเราทราบว่า พระองค์ท่านเป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญวิริยบารมี ตั้งแต่ตอนที่พระองค์ท่านออกเหรียญและหนังสือพระมหาชนก เพียงแต่วิริยบารมีของพระองค์ท่านนั้น เป็นไปในด้านที่ทำทุกอย่างเพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2016 เมื่อ 10:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #139  
เก่า 23-11-2016, 09:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์เล็กจะสร้างน้อยกว่า แต่ถึงจะสร้างน้อย อาตมาก็มีสององค์นะ...! เพียงแต่อีกองค์อาตมายังไม่ได้เลี่ยมทองเท่านั้น ถ้ามีใครหอบทองแท่ง ๒๐ บาทมาให้ อาตมาจะตัดใจสละอีกองค์หนึ่งให้ แต่ต้องเอาไปเลี่ยมเองนะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2016 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #140  
เก่า 23-11-2016, 15:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,238 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ใส่บาตรพระแถวบ้าน ถือว่าเป็นสังฆทานไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ตั้งใจว่าจะใส่ใครก็เป็นสังฆทาน ต่อให้พระรูปเดียวก็เป็นสังฆทาน แต่ถ้าตั้งใจจะว่าจะใส่หลวงปู่รูปนั้น หลวงพ่อรูปนั้น ก็ได้แค่ปาฏิกบุคลิกทาน

ถาม : ถ้าเกิดท่านรับไปแล้วเข้ากุฏิ ไปฉันรูปเดียวเป็นของตัวเอง ?
ตอบ : นั่นเรื่องของท่าน เราจะไปเดือดร้อนอะไรกับท่านด้วย เราตั้งใจถวายเป็นสังฆทาน ส่วนท่านจะทำอย่างไรก็แล้วแต่เวรแต่กรรมของท่าน

ส่วนใหญ่วัดต่าง ๆ ที่ไม่รู้จริง ที่ครูบาอาจารย์ไม่ได้อบรมมา เวลาบิณฑบาตก็มักจะไปฉันคนเดียว โอกาสที่จะเป็นโทษมีมาก เพราะถ้าเขาตั้งใจถวายเป็นสังฆทาน เท่ากับไปน้อมลาภของสงฆ์มาเพื่อตน

แต่บางที่ก็ระบุชัดจนกระทั่งอาตมาก็สยอง เคยตามพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ไปบ้านโยมสันต์ ภู่กร ที่พิษณุโลก เขาใช้คำว่า "ขอน้อมถวายแด่พระอริยสงฆ์" อาตมาก็มองหน้าเพื่อนพระ "แล้วกูจะได้แดกไหมนี่ ?" เพื่อนพระก็สุดยอดมาก "มึงก็เป็นสักพักสิวะ" ก็จริงของเขานะ ตอนฉันก็พยายามเกาะพระนิพพานไว้ก็แล้วกัน ไม่อย่างนั้นไปกินของเขาเป็นโทษแน่ ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2016 เมื่อ 17:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 07:45



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว