กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 02-04-2014, 21:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เราจะเห็นได้ว่า ในเรื่องของรัก โลภ โกรธ หลง จะกินเราตั้งแต่ลืมตาตื่น จะเด็กจะผู้ใหญ่ก็โดนกินทั้งนั้นแหละ"

ถาม : ในกรณีที่จิตปฏิสนธิก็กินตั้งแต่ตอนนั้นหรือครับ ?
ตอบ : กินมาก่อนนั้นอีก แต่นี่หมายถึงว่าในแต่ละวัน สภาพจิตของเราตอนหลับจะทิ้งไปชั่วคราว ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อไรก็โดนกินใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2014 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 02-04-2014, 21:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ตำราโหงวเฮ้งฉบับแรกของโลกที่มีหลักฐานชัดเจนคือมหาปุริสลักษณะ ไม่มีใครเถียงได้ เพราะว่าเขาดูกันมาตั้งแต่โบราณแล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-04-2014 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 03-04-2014, 21:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การงานสะดุด ?
ตอบ : ไปนั่งภาวนาคาถาเงินล้านของหลวงพ่อวัดท่าซุง ทำให้สม่ำเสมอทุกวัน ถ้าทำจริง ๆ จัง ๆ ไม่เกิน ๒ เดือนเท่านั้นแหละ งานจะทับตาย เมื่องานสะดุดก็ต้องหาบุญใหญ่มาช่วย บุญใหญ่ที่สุดก็คือภาวนา แล้วถ้าภาวนาคาถาเงินล้าน ก็จะมีความคล่องตัวมาก

ถาม : อย่างเดียวหรือครับ ?
ตอบ : อย่างเดียวก็พอแล้วจ้ะ ขอให้ทำจริงเท่านั้นแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-04-2014 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 03-04-2014, 21:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กำหนดวันกฐินปลดหนี้ที่วัดรัตนานุภาพแล้วยังคะ ?
ตอบ : กำหนดไว้ตั้งนานแล้ว มีอยู่ในเว็บไม่ใช่หรือ ? ในกำหนดการประจำปี ๒๕๕๗ วันที่ ๒๖ ตุลาคม วันอาทิตย์ ต้องไปตั้งแต่วันศุกร์เหมือนเดิม เพราะเราจะไปถึงวันเสาร์แล้วค้างคืนหนึ่ง พอเช้าวันอาทิตย์ทอดกฐินเสร็จก็ตัวใครตัวมัน คงได้เหมารถไฟกันอีกแล้ว คราวที่แล้วเหมารถไฟเขาไปเท่าไร ? ๒ ตู้ใช่ไหม ? ๘๐ ที่นั่ง นอนคุยกันไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-04-2014 เมื่อ 02:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 160 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 03-04-2014, 22:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีวัตถุมงคลที่เป็นคู่ปรับไสยศาสตร์ไหมคะ ?
ตอบ : ยันต์เกราะเพชรอย่างไรเล่า คู่ปรับไสยศาสตร์โดยตรง พกติดตัวแล้วภาวนาอิติปิ โสฯ ๓ ห้องทุกวัน

ถาม : ยังมีตะกรุดมหาสะท้อนไหมคะ?
ตอบ : เลิกทำแล้วเพราะอันตราย บางคนเอาไปเล่นเขาถึงตาย อาตมาเลยโดนพระท่านตำหนิมา

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ถ้าใครเขาทำอภิญญาแล้วไปใช้วิธีนี้จะเสื่อม ส่วนใหญ่แล้วที่ไสยศาสตร์ทำแล้วมีผลเพราะว่าเรากลัว ถ้าไม่กลัวนี่ ประเภทเรียกว่าชนะไปครึ่งหนึ่งแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-04-2014 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 163 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 04-04-2014, 19:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พุทธวจนะที่กล่าวว่า “อวิชชาแต่ก่อนไม่ปรากฏ แต่บัดนี้มี” หมายความว่าอะไรครับ ?
ตอบ : ก็คือ สภาพของจิตของเราถ้ายังไม่ปรุงแต่ง สิ่งทั้งหลายที่เป็นโทษก็ยังไม่เกิดขึ้น พอปรุงแต่งขึ้นมาเมื่อไร สิ่งที่เป็นโทษจะเกิดขึ้นทันที ก็แปลว่าเราทำไปโดยไม่รู้ ความไม่รู้ก็คืออวิชชา มีหลายท่านสงสัยว่าใครเป็นตัวสร้างกิเลส แต่ไม่สงสัยว่าตัวกูเป็นคนสร้างกิเลส..! เพราะว่ามีการปรุงแต่งถึงได้เกิดขึ้น ตัวเองไปชอบใจไม่ชอบใจ ยินดียินร้ายนี่ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

ถาม : เป็นเพราะเหตุปัจจุบัน ?
ตอบ : อวิชชาเป็นอดีตเหตุ การเกิดมาเป็นปัจจุบันผล ตัณหาเป็นปัจจุบันเหตุ การเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบเป็นอนาคตผล ฉะนั้น..ถ้าเราไม่สร้างเหตุ ผลก็ไม่มี สร้างเมื่อไรก็มีเมื่อนั้น

ถาม : ในชีวิตประจำวันตอนที่เราไม่มีสมาธิ เราโดนกิเลสกินอยู่ตลอดเลยใช่ไหมคะ ?
ตอบ : ถึงมีสมาธิ มีโอกาสโดนกิเลสละเอียดกินอยู่ตลอดเวลา แต่บางช่วงอย่างเช่นว่าสลบ หมดสติ แล้วไม่ได้ทำอะไร หรือว่าหลับไป ตอนช่วงนั้นก็แค่อยู่ในสภาพจิตของเราที่มืดบอด ไม่ได้ทำดีทำชั่ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2014 เมื่อ 03:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 04-04-2014, 19:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : “ในขณะแห่งญาณที่รู้แจ้งซึ่งอวิชชา” รู้อย่างไรครับ ?
ตอบ : เป็นช่วงเวลาที่เห็นว่าสาเหตุนั้นเกิดจากอะไร ก่อนที่จะรู้เห็นอย่างนั้นได้ สติ สมาธิ ปัญญาต้องได้รับการสั่งสมมามากพอ ขณะเดียวกัน สภาพของความแหลมคมของปัญญาก็ต้องสามารถแทงทะลุไปถึงสิ่งที่ถูกปิดบังอยู่ตามลำดับ อย่างเช่นว่าส่วนของกิเลสหยาบที่แสดงออกภายนอก กิเลสปานกลางที่คุกรุ่นภายใน กำลังรอการระเบิดออกมา หรือกิเลสละเอียดที่เป็นสิ่งที่นอนเนื่องอยู่ในสันดานของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2014 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 04-04-2014, 19:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : จะมีอาการแบบไหนครับ ที่เป็นญาณทัสนะ ?
ตอบ : ประกอบไปด้วย ๑. รู้เห็น ๒. ใช้ความพยายามในการละ ๓. ตัดละได้ ๔. รู้ชัดว่าตนเองละได้ ๕. ทบทวนอยู่เสมอ ก็คือไม่ประมาท ในตอนสุดท้าย จะทบทวนขึ้นหน้าถอยหลัง ถอยหลังขึ้นหน้า เพื่อความมั่นใจว่าตนเองสามารถละได้แน่นอนแล้ว ถ้ารู้เห็นเฉย ๆ เรียกว่าญาณทัสสนะ ถ้าตัดละได้ เรียกว่าวิมุตติญาณทัสนะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2014 เมื่อ 03:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 04-04-2014, 19:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อนุปาทิเสสนิพพานยังเกิดขึ้นในปัจจุบันได้ไหม ?
ตอบ : เขาบอกว่า ถ้าตราบในที่ไตรสิกขายังสมบูรณ์บริบูรณ์อยู่ ตราบนั้นเกิดได้อยู่ตลอด วิสัยของแต่ละคนสั่งสมมาไม่เหมือนกัน ถ้าวิสัยของท่านสั่งสมมาอย่างนั้นก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

ถาม : จะมีความแตกต่างอย่างไรระหว่างสอุปาทิเสสนิพพานและอนุปาทิเสสนิพพาน ?
ตอบ : ท่านอธิบายไว้ว่า สอุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสแล้วยังมีขันธ์ ๕ อยู่ อนุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสพร้อมกับดับขันธ์ไปด้วย พูดง่าย ๆ คืออย่างหนึ่งเข้าถึงมรรคผลพร้อมกับตาย กับอีกอย่างหนึ่งเข้าถึงมรรคผลแล้วยังอยู่ได้

ถาม : แต่ในพระพุทธวจนะท่านแสดงว่า “ปรากฏแม้ในปัจจุบันอยู่”
ตอบ : ในเรื่องของพวกนี้ เรามากล่าวถึงไม่มีประโยชน์ เหตุที่ไม่มีประโยชน์เพราะว่าเราเข้าไม่ถึงจริง ได้แต่คิดว่า คาดว่า ตอบไปก็ไม่รู้ว่าตอบถูกหรือเปล่า คนถามก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถามไปแล้วจะได้ประโยชน์อะไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2014 เมื่อ 03:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 04-04-2014, 19:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในขณะแห่งมรรคแต่ละมรรค ตั้งแต่โสดาปัตติมรรคจนถึงอรหัตตมรรคมีความแตกต่างอย่างไรบ้างเป็นนิมิต เป็นอารมณ์ ?
ตอบ : ถ้าเป็นโสดาปัตติมรรคจะมีความรักในพระนิพพานเป็นอย่างยิ่ง ประเภทตีก็ไม่ไปไล่ก็ไม่หนี ถ้ามาถึงสกทาคามีมรรค เหมือนอย่างกับว่าความรักความโกรธหายไปเฉย ๆ ความจริงยังมีอยู่ แต่เนื่องจากอำนาจของการก้าวเข้าถึงสูงกว่าอารมณ์โสดาบันทั่วไปมาก ก็เลยกลายเป็นว่าในส่วนของ ราคะ โทสะ เบาบางลงเหมือนกับไม่เหลือ

ในส่วนของอนาคามิมรรคจะรู้สึกรังเกียจร่างกายนี้เป็นที่สุด ไม่ว่าจะตัวเราตัวเขา ประเภทเดินผ่านคนอื่นบางทีอ้วกแตกใส่เขา จะโดนเขาชกหน้าเอา ถ้าในส่วนของอรหัตตมรรคจะอยู่ในลักษณะที่ว่า "ไม่เห็นเลยว่าจะมีอะไรที่ควรค่าแก่การยึดถือไว้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2014 เมื่อ 03:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 134 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 04-04-2014, 20:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างไหนถึงเรียกว่ารูปในนาม ?
ตอบ : ถ้าส่วนไหนก็ตาม ที่เราไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยประสาทร่างกายของเรา ก็จัดอยู่ในส่วนของนามทั้งหมด ส่วนประเภทที่ว่ามือเราจับต้องแล้วสามารถสัมผัสได้ หรือว่าสายตามองเห็นเรียกว่ารูป คราวนี้ส่วนไหนก็ตามถ้าเกินจากตรงนี้ไปก็จัดอยู่ในนาม แต่ถ้าสายรูปนามที่เขาเรียนมาละเอียดจริง ๆ เขาก็มีรูปในนามอีกต่างหาก ก็คือเสียงที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่ได้ยิน กลิ่นที่มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ แต่ได้กลิ่น เป็นต้น

ถาม : ประสาทร่างกายก็เป็นส่วนที่สัมผัสไม่ได้ ?
ตอบ : ประสาทร่างกายทั่ว ๆ ไปสัมผัสไม่ได้เขาจัดเป็นส่วนของนาม แต่อย่างของเสียง เราสัมผัสได้ แต่ว่ามองไม่เห็น เขาเลยเรียกว่ารูปในนาม ถ้าไปศึกษาสายนี้จะสนุกสนานไปอีกนาน สายนี้ที่สำคัญจริง ๆ ก็คือวัดปราสาททองที่สุพรรณบุรี มีคนปฏิบัติตามสายนี้มากเหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2014 เมื่อ 03:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 04-04-2014, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนที่ได้สมาธิแล้วเกิดญาณทัสนะ เห็นสภาพร่างกายมีความแปรเปลี่ยนไป จัดว่าเป็นวิปัสสนาญาณไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเห็นจริงแล้วสภาพจิตยอมรับ ว่าสภาพร่างกายมีธรรมดาเป็นอย่างนั้น ก็จัดเป็นวิปัสสนาญาณ ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นก็เป็นแค่ญาณ คือเครื่องรู้เฉย ๆ

ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : ให้เห็นให้ได้ก่อน ส่วนปัญญาเพียงพอที่จะปล่อยวางหรือไม่ค่อยว่ากันอีกที
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-04-2014 เมื่อ 03:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 133 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 04-04-2014, 20:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เก็บตกเดือนมีนาคมปี ๕๗ หมดแล้วค่ะ

ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา คะน้า เถรี รัตนาวุธ และคะน้าอ่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:46



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว