กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะ เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา > เรื่องราวในอดีต และสรรพวิชา

Notices

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #21  
เก่า 27-02-2009, 12:42
เด็กเมื่อวานซืน เด็กเมื่อวานซืน is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 92
ได้ให้อนุโมทนา: 7,974
ได้รับอนุโมทนา 32,426 ครั้ง ใน 1,052 โพสต์
เด็กเมื่อวานซืน is on a distinguished road
Default

เสริม คุณพี่คนเก่าครับ

ตำแหน่งเดิมของ ท่านเจ้าคุณพระคลัง ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ท่านดำรงค์ตำแหน่ง หลวงสรวิชิต นายด่านเมืองอุทัยธานี ครับ

ท่านมีความชอบในการนำความวุ่นวายในเมืองธนบุรีไปถวายรายงาน ต่อ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งยังทรงพระยศเป็น สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ณ ด่านพระจารึก ครับ

ผลงานด้านวรรณกรรมของท่าน นอกจากจะเป็นแม่กองควบคุมการแปล นวนิยายสามก๊ก แล้ว ก็ยังมีอีกหลายงานครับ ที่อยากจะแนะนำคือ ลิลิตกระบวนพยุหะเพชรพวง อันเป็น ลิลิตที่พรรณาถึง ขบวนพยุหะในการเสด็จไปนมัสการพระพุทธบาท ที่ สระบุรี ของพระเจ้าแผ่นดิน ครั้งสมัยอยุธยา ครับ (ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะเป็นยุคสมเด็จพระนารายณ์มหาราชครับ )

ซึ่งในลิลิตฯ นี้จะพรรณาเป็นร้อยแก้ว ยิ่งถ้าได้ดูแผนผังภาพขบวนพยุหะประกอบ ก็จะยิ่งเข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ เมื่อปีที่แล้ว สมาคมห้องสมุดไทย ได้จัดพิมพ์หนังสือลิลิตฯ นี้ขึ้นมา แต่น่าเสียดายว่า ไม่ยอมจำหน่ายครับ แต่แจกฟรีสำหรับหน่วยงานทั่ว ๆ ไป ครับ (อดซื้อเก็บตามระเบียบ)

สำหรับภาพประกอบลิลิตฯ นี้ เราท่านอาจจะผ่านตามาบ้างแล้ว ไม่มากก็น้อย ก็คือ ภาพเขียนในพระอุโบสถ ของ วัดยม ที่จังหวัดอยุธยา ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ภาพนี้ได้ลบเลือนหายไปหมดแล้ว เพราะว่าเนื่องจากโดนน้ำฝนชะล้างออกไปจนหมด ประกอบกับ ท่านเจ้าอาวาสในยุคต่อ ๆ มาก็ไม่ได้ทำการบูรณะด้วยครับ

แต่โชคยังดีอยู่ว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ ให้ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอพระองค์หนึ่ง (จำพระนามไม่ได้เสียแล้ว) ได้ไปคัดลอกภาพเหล่านั้นเอาไว้ได้ก่อนที่จะเลือนหายไปหมดครับ แต่ตอนที่ไปดำเนินการคัดลอกนั้น ก็ไม่ได้ครบทุกภาพ เพราะบางส่วนก็เลือนหายไปแล้วครับ


ขอแนบภาพประกอบนะครับ
เป็นส่วนหนึ่งของ ภาพกระบวนพยุหเพชรพวง ครับ ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นระดับชั้นขุนนางที่กำลังบังคับช้างอยู่ (ดูตรงฉัตรกลางช้าง ๕ ชั้น) และ แถวหน้าและหลังจะเป็นบ่าวไพร่คอยเดินตามครับ จะเห็นว่ามีบ่าวถือสัปทนกั้นหน้า และ บ่าวด้านหลังถือเครื่องประกอบยศตามครับ (เช่น พานหมาก,พวกเครื่องถมเงิน ถมทองต่าง ๆ ตามที่ได้รับพระราชทานตามชั้นยศแลตำแหน่ง)


ส่วนภาพนี้ เป็นกระบวนทัพหลังครับ คราวงานพระราชสงครามศึกเมืองทวาย ปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กเมื่อวานซืน : 27-02-2009 เมื่อ 13:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เด็กเมื่อวานซืน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #22  
เก่า 27-02-2009, 13:49
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,275 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

พาออกนอกเรื่องไป ก็ต้องพาเลี้ยวกลับ ใช้หนี้ท่านทิด ผู้เริ่มเรื่องสงครามเก้าทัพ ด้วยพระราชนิพนธ์นิราศท่าดินแดง

นิราศเรื่องนี้ได้ทรงพระราชนิพนธ์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๙ เมื่อคราวเสด็จไปทรงทำศึกกับพม่า ที่ยกมารุกรานไทยที่ท่าดินแดง ทรงเสด็จไปการทัพครั้งนี้พร้อมกับ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ได้เสด็จโดยขบวนเรือจากกรุงเทพ ฯ ไปจนถึงเมืองไทรโยค แล้วจึงเดินทัพทางบกต่อไป

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้า ฯ ทรงเข้าตีค่ายพม่าที่ท่าดินแดง ในขณะที่กรมพระราชวังบวร ฯ ทรงเข้าตีค่ายพม่าที่ตำบลสามสบ ได้เข้าตีค่ายพม่าพร้อมกันทั้งสองทัพ เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๓๒๙ รบกันอยู่ สามวัน ถึงวันที่ ๒๓ เวลาบ่าย ฝ่ายไทยตีฝ่าเข้าค่ายพม่าได้ และได้รบติดพันกันอยู่จนพลบค่ำ พม่าจึงทิ้งค่ายแตกหนีไป กองทัพไทยได้ไล่ติดตามไปถึงค่ายพระมหาอุปราชา ที่ตำบลแม่กษัตร พระมหาอุปราชารู้ว่ากองทัพหน้าแตกแล้วก็ไม่ให้คิดต่อสู้ กองทัพพม่าแตกยับเยิน เสียรี้พลและอาวุธยุทโธปกรณ์มากมาย โดยเฉพาะปืนใหญ่ไม่สามารถจะลากกลับไปได้แม้แต่กระบอกเดียว

แสนรักสุดรักภิรมย์สมร
ทุกอนงค์ทรงลักษณ์อันสุนทร
สถาวรพูนสวาดิสวัสดี
ประกอบศักดิ์สมบูรณ์จำรูญเนตร
อัคเรศงอนงามจำเริญศรี
แสนกระสันปั่นป่วนฤดีทวี
มีมโนเสน่ห์น้อมถนอมนวล
อันราคีมิให้เคืองระคางข้อง
ปองประคองนิ่มเนื้อนวลสงวน
หวังสวาสดิ์มิรู้ขาดอารมณ์ครวญ
เป็นที่ชวนชูชื่นทุกอิริยา
เกษมสุขภิรมย์สมสมาน
เคยสำราญมิได้แรมนิราศา
ไม่นิราศขาดชมสักเวลา
บำเรอล้อมพร้อมหน้าไม่ราวัน

นิจาเอ๋ยโอ้กรรมจึงจำไกล
มาซ้ำให้ทุเรศร้างมไหสวรรย์
ก็เพราะมีอธิราชไภยัน
เข้าหักหั่นด่านแดนบุรีรมย์

จึงต้องกรูกรีธาพลากร
มาจำจรจากสุขเกษมสม
สารพัดสิ่งสวัสดิ์ที่เคยชม
ก็นิยมให้วิโยคด้วยจำเป็น


เมื่อวันออกนาเวศทุเรศสถาน
แสนสงสารสุดอาไลยใครจะเห็น
พี่เคยทัศนาเจ้าทุกเช้าเย็น
เพราะเกิดเข็ญจึงต้องละสละมา
ครั้นถึงด่านดาลเทวษทวีถึง
คนึงในให้หวนละห้อยหา
ถึงนางนองเหมือนพี่นองชลนา
ยิ่งทวาอาวรณ์สท้อนใจ
ครั้นถึงโขลนทวารยิ่งลานแล
ให้หวาดแหวอารมณ์ดังลมไข้
จนลุล่วงคลองชลามหาไชย
ย่านไกลสุดสายในตาแล
เหมือนอกเราที่นิรามาทุเรศ
เหลือสังเกตมุ่งหามาห่างแห
ระกำเดียวเปลี่ยวดิ้นฤดีแด
จนล่วงกระแสสาครบุรีไป
ลุสถานบ้านบ่อนาขวาง
ให้อางขนางร้อนรนกมลไหม้
ถึงย่านซื่อเหมือนพี่ซื่อสังวรใจ
มิได้มีลำเอียงเที่ยงธรรม
เมื่อถึงสามสิบสามคดแล้ว
แคล้วแคล้วเหมือนจะกลับมารับขวัญ
คล้ายคล้ายอัษฎงค์พระสุริยัน
ก็บรรลุถึงคลองสุนัขใน
พอชลาถอยถดลดลงฝั่ง
เรือดั่งเคืองเขินไม่เดินได้
พลพายรายกันลงเข็นไป
เหมือนเข็ญใจเคืองจิตที่จากมา
ครั้นเพลาสุริยาอรุณเรือง
แสงประเทืองเบื้องบูรพ์ทิศา
พอตกลึกแล้วให้ล่องนาวาคลา
ประทับท่าเมืองสมุทรบุรีรมย์
อันฝูงชนชาวบ้านย่านนั้น
ผิวพรรณไม่รื่นรวยสวยสม
ไม่เป็นที่ชวนชื่นอารมณ์ชม
ยิ่งเกรียมกรมสุดแสนระกำใจ
ให้ปั่นป่วนหวนสวาสดิ์ประวัติหา
จะดูใครไม่พาใจชื่นได้
จึงให้ออกนาวาคลาไคล
รีบไปตามสายชลธี
อันเรือหลังดั้งกันสิ้นทั้งหลาย
ก็พายแซงแข่งขึ้นไปอึงมี่
โห่สนั่นครั่นครื้นทั้งนาวี
มีแต่ความเกษมสุขไปทุกคน
เสียงเส้าเร้าเร่งพลพาย
เหมือนรักหมายสายสวาททุกขุมขน
ให้อักอ่วนป่วนจิตจลาจล
ถึงตำบลบางกุ้งเป็นคุ้งเลี้ยว
ยิ่งลับไม้ไกลเนตรทุเรศสถาน
ให้แดดาลหวั่นหวั่นกระสันเสียว
ดังเอกามาแต่นาวาเดียว
เปลี่ยวสวาสดินิราศไร้ภิรมย์ชม
มาถึงย่านนกแขวกแสกส่งเสียง
ทั้งสำเนียงถอนใจเพียงใจล่ม
เคยยินเสียงประโคมขานสำราญรมย์
โอ้ครั้งนี้มาระงมแต่เสียงนก
แสนทุเรศเวทนานิจาเอ๋ย
นี่ใครเลยจะเล็งเห็นในอก
ได้ระกำช้ำใจมาหลายยก
หวังจะป้องปิดปกให้พ้นไภย
มิให้หมู่พาลาอาธรรม์
มาย่ำยีเขตขัณฑ์บุรีได้
จึงสู้สละรักหักใจ
มาทนเทวษอยู่ไกลเอกา .........

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนเก่า : 25-05-2009 เมื่อ 14:27 เหตุผล: แก้เป็นเลขไทย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #23  
เก่า 09-04-2009, 15:34
เด็กแดง เด็กแดง is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 5
ได้ให้อนุโมทนา: 7,261
ได้รับอนุโมทนา 1,919 ครั้ง ใน 90 โพสต์
เด็กแดง is on a distinguished road
Default

ดีใจจังค่ะ...เข้ามาได้แล้ว..วันแรกเลยค่ะ
ขออีกได้ไหมคะ..ชอบมาก ๆ ค่ะ ยังไม่จุใจเลยค่ะ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กแดง : 11-04-2009 เมื่อ 13:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เด็กแดง ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #24  
เก่า 09-04-2009, 17:18
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,275 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

มาถึงก็ใช้งานคนแก่เชียว


...ถึงบำหรุเหมือนพี่นิราศรัก
ให้อักอ่วนครวญใคร่อาลัยหา
ครั้นลุราชบุรีภิรมยา
ที่อาทวาหักอารมย์ค่อยสมประดี
จึงรีบรัดจัดหมู่โยธา
ให้อยู่รักษาบุรีศรี
ครั้นอรุณเรืองแรงแสงรวี
ก็จรลีนาเวศทุเรศจร
ด่วนเดินทางโดยทางชลมารค
แสนลำบากด้วยร้างแรมสมร
กระหายหิวหวิวใจให้อาวรณ์
แต่ข้อนข้อนขุ่นเข็ญเป็นนิรันดร์
ถึงท่าราบเหมือนพี่ทาบทรวงถวิล
ยิ่งโดยดิ้นโหยหวนครวญกระสัน
ด้วยได้ทุกข์ฉุกใจมาหลายวัน
จนบรรลุเจ็ดเสมียนตำบลมา
ลำลำจะใคร่เรียกเสมียนหมาย
มารายทุกข์ที่ทุกข์คนึงหา
จึงรีบเร่งนาเวศครรไลยคลา
พอทิวากรเยื้องจะสายัณห์
ก็ลุถึงวังศาลาท่าลาด
ชายหาดทรายแดงดังแกล้งสรร
จึงประทับแรมรั้งยังที่นั้น
พอพักพวกพลขันธ์ให้สำราญ
พรั่งพร้อมล้อมวงเป็นหมู่หมวด
ชาวมหาดตำรวจแลทวยหาญ
เฝ้าแหนแน่นนันต์กราบกราน
นุ่งห่มสะคราญจำเริญตา
ต่างว่าจะเข้าโหมหักศึก
ห้าวฮึกขอขันอาสา
ไม่คิดกายขอถวายชีวา
พร้อมหน้าถ้วนทุกตัวไป
แต่ตริการที่จะผลาญอรินราช
จนโอภาสแสงจันทร์จำรัสไข
ให้ขุกคิดอาวรณ์สะท้อนใจ
ถึงอนงค์นางในไม่รู้วาย
ด้วยเคยทอดทัศนาไม่รารัก
ภิรมย์พักตร์ร้องรำบำเรอถวาย
บ้างเฝ้าแหนหมอบเมียงเรียงราย
กรกรายโบกพัชนีพาน
ยิ่งเร่าร้อนทอนทอดฤทัยทุกข์
เมื่อเคยสุขฤามาเสื่อมทุกสิ่งสมาน
จนลืมหลงที่ดำรงดำริการ
แต่เดือดดาลอารมณ์ไม่สมประดี
จนเพลาสิบทุ่มยิ่งรุ่มร้อน
ให้ยกพลนิกรออกจากที่
กระบวนทัพซับซ้อนมามากมี
โห่มี่สะเทือนก้องท้องวาริน
ถึงม่วงชุมเหมือนเคยประชุมเฝ้า
ยิ่งร้อนเร่ารื้อกำหนัดประวัติถวิล
ยามเสวยเคยเห็นเป็นอาจิณ
แดดิ้นถึงเนื้อวิมลมาลย์
แสนเทวษเสื่อมสิ้นสิ่งสวาสดิ
ด้วยนิราศแรมร้างห่างสถาน
ถึงยามชื่นมิได้ชื่นสำราญบาน
แต่นี้นานสวาสดิ์เว้นไม่เห็นใคร

ถึงปากแพรกซึ่งเป็นที่ประชุมพล
พร้อมพหลพลนิกรน้อยใหญ่
ค่ายคูเขื่อนขัณฑ์ทั้งนั้นไซ้
สารพัดแต่งไว้ทุกประการ
จึงรีบรัดจัดโดยกระบวนทัพ
สรรพด้วยพยุหทวยหาญ
ทุกหมู่หมวดตรวจกันไว้พร้อมการ
ครั้นได้ศุภวารเวลา
ให้ยกพลขึ้นทางไทรโยคสถาน
ทั้งบกเรือล้วนทหารอาสา
จะสังหารอริราชพาลา
อันสถิตย์อยู่ยังท่าดินแดง....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนเก่า : 18-04-2009 เมื่อ 20:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #25  
เก่า 09-04-2009, 17:47
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,275 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

ครั้นเดือนสามวันแรมเก้าค่ำ
ย่ำรุ่งสี่บาทอรุณแสง
จึงให้ยกพหลรณแรง
ล้วนกำแหงหาญเหี้ยมสงครามครัน
ไปโดยพยุหบาตรรัถยา
พลนาวาตามไปเป็นหลั่นหลั่น
สะพรึบพร้อมหน้าหลังดั้งกัน
โห่สนั่นสะเทือนท้องนทีธาร
รีบเร่งพลพายให้เร่งพาย
ฝืนสายชลเชี่ยวฉ่าฉาน
ถึงตำแหน่งแก่งหลวงศิลาดาล
ชลธารไหลเชี่ยวเป็นเกลียวมา
แต่จำเพาะเตราะตรอกซอกทาง
แก่งเกาะขัดขวางอยู่หนักหนา
แสนลำบากยากใจที่ไคลคลา
ใครจะเห็นเวทนาบรรดามี
สองวันบรรลุถึงวังยาง
คนึงวังอ้างว้างเกษมศรี
เคยเป็นสุขทุกเวลาราตรี
โอ้ครานี้มีกรรมมาจำไกล

ถึงบางลางยิ่งดาลทรวงสมร
ให้ขุ่นข้อนอารมณ์หม่นไหม้
จึงเร่งรีบนาวาคลาไคล
มาถึงไศลชลชีสีขริน
สูงส่งตรงโตรกโดดเดี่ยว
อยู่ริมสายชลเชี่ยวกระแสสินธุ์
พรายแพร้วดังแก้วแกมนิล
ปักษินบินร้องร้องระงมไพร
บ้างจับไม้รายเรียงบนเชิงเขา
บ้างง่วงเหงาหาคู่พิศมัย
นกเอ๋ยยังรู้มีอาลัย
อกเราฤๅจะไม่เวทนา
ครั้นบรรลุถึงศาลเทพารักษ์
อันพิทักษ์ปากน้ำประจำท่า
มีแต่ศาลสันโดษอยู่เอกา
คิดมาเหมือนอกพี่ที่จากจร
เห็นอารักษ์แล้วคิดสังเวชจิต
มาใช้มิตรเหมือนพี่ร้างแรมสมร
สารพัดจะวิบัติอนาทร
แต่ร้อนแรมตามทางทุเรศมา
ครั้นมาถึงวังนางตะเคียน
พิศเพี้ยนมิ่งไม้ใบหนา
ตั้งเคียงเรียงราบริมชลา
สาขารื่นรมสำราญใจ
ต้นไม้เปลาเปลาอยู่สล้าง
เหมือนไม้กระถางวางเรียงงามไสว
ชมพลางพลางรีบนาวาไป
บรรลุล่วงมาได้หลายตำบล
มาพลางทางแสนคนึงหา
นัยนาแลลับไพรสณฑ์
ยิ่งแดดาลร่านร้อนทุรนทน
จนลุดลเข้าท้องไอยรารมย์

เป็นช่องชั้นเชิงผาศิลาลาด
รุกขชาติรื่นรวยสวยสม
ไพจิตรพิศพรรณอยู่น่าชม
ลมพัดพากลิ่นสุมาลย์มา
มีท่อธารน้ำพุดุดัน
ตลอดลั่นไหลลงแต่ยอดผา
เป็นโปลงปล่องช่องชั้นบรรพตา
เซนซ่าดังสายสุหร่ายริน
บ้างเป็นท่อแถวทางหว่างบรรพต
เลี้ยวลดไหลมามิรู้สิ้น
น้ำใสไหลรินซอกศิขริน
แสนถวิลถึงสวาดิไม่คลาดคลา
เกษมสุขสรงสนานสำราญเริง
บันเทิงจิตพิศวงหรรษา
ชลอได้ก็จะใคร่ชลอมา
ให้เป็นที่ผาสุขทุกนางใน
คิดเคยเมื่อเคยสรงสนาน
สุธาธารทิพรสสดใส
อันหอมหวลอวลอบสุมาไลย
มาร้างไร้สุคนธกำจร
เจ้าเคยถวายภูษาสุธาสรง
อันบรรจงทิพรสเกษร
เคยไพบูลย์ด้วยดรุณนิกร
ทีนี้มาจำจรอยู่เอกา
ชมเขาลำเนาพนาวาศ
แสนสวาดิไม่วายถวิลหา....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนเก่า : 18-04-2009 เมื่อ 20:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #26  
เก่า 09-04-2009, 17:58
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,275 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

ถึงไทรโยคปลายแดนนัครา
มิให้หยุดโยธาเร่งคลาไคล
แต่เห็นทางท่าชลานั้น
เป็นเกาะแก่งขัดขึ้นล้วนเนินไศล
ยากที่นาวีจะหลีกไป
จึงสั่งให้รอรั้งยั้งนาวา
เร่งรีบคชสารอัสดร
บทจรตามแถวแนวพฤกษา
ชมพรรณมิ่งไม้นานา
บ้างทรงผลผกาเขียวขจี
ลางต้นสาขาดูน่าชม
รื่นร่มมิดแสงพระสุริยศรี
สดับเสียงปักษาสุวาที
ลิงค่างบ่างชนีวิเวกดง
เสนาะเสียงจักจั่นสนั่นไพร
แม่ม่ายลองในในป่าระหง
เรไรร้องหริ่งหริ่งอยู่ริมพง
ส่งเสียงดังสำเนียงอนงค์นวล
คิดคล้ายลม้ายเหมือนดนตรี
จำเรียงรี่เรื่อยโรยโหยหวน
ยิ่งซับซาบอาบชื่นอารมณ์ชวน
กำสรวลว้าเหว่ทุเรโรย
ฟังแต่เสียงสำเนียงนกวิหคร้อง
วิเวกก้องเกริ่นไพรฤทัยโหย
รุกขชาติแกว่งกวัดสบัดโบย
ลมโชยคันธรสจรุงใจ
ตะวันรอนอ่อนแสงจะอัสดง
เหล่าจัตุรงค์เตรียมกายทั้งนายไพร่
แรมรอนนอนแนวพนาไลย
แต่ไศลป่าระหงดงดอน
นอนเดียวเปลี่ยวเทวษทวีทุกข์
ไม่มีสุขเร่าร้อนสท้อนถอน
แสงจันทร์ส่องสว่างกลางอัมพร
ยิ่งอาวรณ์หวังสวาดิไม่ขาดคิด
วายุพัดพานดวงศศิธร
เขจรจรบังเมฆมิดสนิท
พิรุณโรยโปรยปรายใบไม้ชิด
สะท้านจิตเจียนจักเป็นไข้ใจ
เย็นฉ่ำน้ำฟ้าละอองฝน
มาทนเทวษครั้งนี้จะมีไหน
ถึงทั้งหลายหนาวกายได้ผิงไฟ
ไม่เหมือนพี่หนาวใจที่ในทรวง
เห็นดาวดึกนึกหวนรัญจวนหา
ในอุษาเพียงทับด้วยเขาหลวง
อันหาบหามที่เขาตามมาทั้งปวง
ไม่หนักทรวงเหมือนพี่หนักอาลัยไกล
เขาหนักหาบถึงที่ก็ได้พัก
พี่หนักรักนี้ไม่ปลงเอาลงได้
มีแต่คอยคอยทุกข์ทุกวันไป
จะเห็นใจฤาที่ใจการุณกัน
แต่นอนนิ่งกลิ้งกลับไม่หลับสนิท
ยิ่งคิดคิดก็ยิ่งโทมนัสสัน
จนอรุณเรืองศรีรวีวรรณ
จึงให้ยกพลขันธ์ยาตรา
ออกจากเนินผาศิลาพนัส
เร่งรัดทวยหาญทั้งซ้ายขวา
ไปตามแนวแถวในพนาวา
พอสุริยาสายัณห์ลงรอนรอน
ก็ถึงด่านท่าขนุนโดยหมาย
ให้ตั้งค่ายตามเชิงศิขร
แล้วรีบเร่งพหลพลนิกร
ทั้งลาวมอญเขมรไทยเข้าโจมตี
ทัพพม่าอยู่ยังท่าดินแดง
แต่งค่ายรายไว้เป็นถ้วนถี่
ทั้งเสบียงอาหารสารพันมี
ดังสร้างสรรค์ธานีทุกประการ
มีทั้งพ่อค้ามาขาย
ร้านรายกระท่อมพลทุกสถาน
ด้านหลังท่าทางวางตะพาน
ตามละหานห้วยน้ำทุกตำบล
ร้อยเส้นมีฉางระหว่างค่าย
ถ่ายเสบียงมาไว้ทุกแห่งหน
แล้วแต่งกองร้อยอยู่คอยคน
จนตำบลสามสบครบครัน
อันค่ายคูประตูหอรบ
ตบแต่งสารพันเป็นที่มั่น
ทั้งขวากหนามเขื่อนคูป้องกัน
เป็นชั้นชั้นอันดับมากมาย
ให้ทหารเข้าหักโหมโรมรัน
สามวันพวกพม่าก็พังพ่าย
แตกยับกระจัดพลัดพราย
ทั้งค่ายคอยน้อยใหญ่ไม่ต่อดี
ให้ติดตามไปจนแม่กษัตร
เหล่าพม่ารีบรัดลัดหนี
บ้างก็ตายก่ายกองในปัถพี
ด้วยเดชะบารมีที่ทำมา

ตั้งใจจะอุปถัมภก
ยอยกพระพุทธศาสนา
จะป้องกันขอบขัณฑสีมา
รักษาประชาชนแลมนตรี


จะบำรุงทั้งฝูงสุรางค์รัก
ให้อัคเรศเป็นสุขเจริญศรี
ครั้นเสร็จการผลาญราชไพรี
ก็ให้กรีธาทัพกลับมา
ทั้งทิวาราตรีไม่หยุดหย่อน
ด้วยอาวรณ์ทนเทวษถวิลหา
แสนคนึงถึงสวาดิไม่คลาดคลา
แต่พร่ำปรารภนั้นเป็นอาจิณ
จิตเจ็บจะขาดด้วยนิราศรส
จะอดไว้ก็สุดอาลัยถวิล
อันบำราบรบราชไพริน
ถึงจะไร้ศรศิลป์ที่ชิงไชย
ก็พอจะพยายามตามตี
ให้ชนะไพรีจงได้
จะสู้สงครามรักนี้หนักใจ
ด้วยไร้ศรรสสวาดิจะราวี
อันแสนศึกทั้งหลายก็พ่ายแพ้
ยากแต่จะรบรักให้หน่ายหนี
ที่ลำบากแต่หลังในครั้งนี้
สุดที่จะปรับทุกข์กับผู้ใด
อันฝูงสุรางค์นางทั้งหลาย
ยังค่อยอยู่สุขสบายฤาไฉน
ฤาในจิตคิดอ่านประการใด
อย่าอำไว้จงแจ้งแต่จริง เอย ฯ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย คนเก่า : 18-04-2009 เมื่อ 20:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #27  
เก่า 09-04-2009, 23:14
สไบเงิน สไบเงิน is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 28
ได้ให้อนุโมทนา: 33
ได้รับอนุโมทนา 16,029 ครั้ง ใน 589 โพสต์
สไบเงิน is on a distinguished road
Default

ทราบมาว่า ยังมีเหรียญ "วังหน้า" ไว้ให้บูชาอยู่ที่วัดมหาธาตุ ใกล้ ๆ ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ค่ะ

เคยมีรุ่นพี่ท่านหนึ่งบอกว่า ท่านเก็บเอาไว้ให้ลูกหลานท่านมาบูชา เพราะว่าสร้างไว้นานมากแล้ว และมีพระเกจิฯ ระดับสูงเมตตาปลุกเสก ไม่น่าจะเหลือมาถึงรุ่นเราให้ไปบูชากันได้ค่ะ

ชไมเคิลเชื่อสนิทใจว่าเป็นลูกหลานวังหน้าของแท้ดั้งเดิม เพราะว่าเกิดที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วก็ยังได้เรียนที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ซึ่งเป็นที่ดินของวังหน้าอีกด้วยค่ะ
(เพราะตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ได้รับความเมตตาจากท่านปู่พระอินทร์จับยัดเข้ามาเรียนในธรรมศาสตร์ได้ด้วยคะแนนสอบที่ฉิวเฉียดจริง ๆ )
แถมยังได้มีโอกาสบูชาเหรียญวังหน้าอีกด้วย
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สไบเงิน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #28  
เก่า 10-04-2009, 09:29
เด็กเมื่อวานซืน เด็กเมื่อวานซืน is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 92
ได้ให้อนุโมทนา: 7,974
ได้รับอนุโมทนา 32,426 ครั้ง ใน 1,052 โพสต์
เด็กเมื่อวานซืน is on a distinguished road
Default

พื้นที่ของโรงพยาบาลศิริราชนั้น แต่เดิมเป็นบริเวณพระราชวังของกรมพระราชวังบวรสถานภิมุข (วังหลัง) ซึ่งจะมีอาณาบริเวณเริ่มตั้งแต่วัดอมรินทราราม(วัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย)เขตบางกอกน้อยไปจนสุดถึงบริเวณนันทอุทยานของกองทัพเรือครับ ปัจจุบันยังมีแนวคูของพระราชวังหลังเดิมอยู่นะครับ

บริเวณวังหน้านั้นพื้นที่จะครอบคลุมตั้งแต่บริเวณสนามหลวงทั้งหมดไปจนถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,วิทยาลัยนาฏศิลป์,และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กเมื่อวานซืน : 10-04-2009 เมื่อ 09:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เด็กเมื่อวานซืน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #29  
เก่า 10-04-2009, 12:54
สไบเงิน สไบเงิน is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 28
ได้ให้อนุโมทนา: 33
ได้รับอนุโมทนา 16,029 ครั้ง ใน 589 โพสต์
สไบเงิน is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เด็กเมื่อวานซืน อ่านข้อความ
พื้นที่ของโรงพยาบาลศิริราชนั้น แต่เดิมเป็นบริเวณพระราชวังของกรมพระราชวังบวรสถานภิมุข (วังหลัง) ซึ่งจะมีอาณาบริเวณเริ่มตั้งแต่วัดอมรินทราราม(วัดหลวงพ่อโบสถ์น้อย)เขตบางกอกน้อยไปจนสุดถึงบริเวณนันทอุทยานของกองทัพเรือครับ ปัจจุบันยังมีแนวคูของพระราชวังหลังเดิมอยู่นะครับ

บริเวณวังหน้านั้นพื้นที่จะครอบคลุมตั้งแต่บริเวณสนามหลวงทั้งหมดไปจนถึงมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,วิทยาลัยนาฏศิลป์,และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติครับ
เป็นนัยยะบางอย่างที่มิอาจเปิดเผยได้ค่ะ
ชไมเคิลเป็นผีติดที่
เกิดศิริราช
ก็เลือกที่จะไปบริจาคเลือดที่ศิริราชเท่านั้น
จะบริจาคอวัยวะ ก็จะเลือกไปที่ศิริราชอีกค่ะ
แม้กระทั่งจะดื่มกาแฟเย็น ที่ท่าน้ำศิริราชก็เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในใจอีกด้วยค่ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สไบเงิน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #30  
เก่า 10-04-2009, 12:58
สไบเงิน สไบเงิน is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 28
ได้ให้อนุโมทนา: 33
ได้รับอนุโมทนา 16,029 ครั้ง ใน 589 โพสต์
สไบเงิน is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คนเก่า อ่านข้อความ
ฝากลูกหลานวังหน้าบูชาให้ได้ไหมจ๊ะ
หากมีโอกาสผ่านไปในเวลาทำการก็ยินดีให้บริการเสมอค่ะ (สถานที่ให้บูชานั้นเป็นตึกในวัดมหาธาตุที่เปิดทำการในเวลาราชการค่ะ)
แล้วจะมาแจ้งภายหลังนะคะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 37 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สไบเงิน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #31  
เก่า 26-10-2009, 14:26
ฅนเมืองพริบพรี
Guest
 
ข้อความ: n/a
Default

ขอน้อมกราบบูชาคุณขององค์ท่านที่มีต่อชาติ พระศาสนามาตั้งแต่ต้นจนปัจจุบัน

ข้าพเจ้าเองก็มีความผูกพันกับท่านมาก คิดเอาเองว่าคงจะเป็นลูกหลานหรือบริวารของท่านมาแต่กาลก่อน มาจนถึงปัจจุบัน ก็ได้มาเจอท่านตั้งใจว่าจะพยายามปฏิบัติตามท่านเพื่อเข้าถึงความดีที่ท่านถึงแล้วในชาติปัจจุบันนี้

- ความเศร้าหมองย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้มีสติสมบูรณ์ -
ผมชอบประโยคนี้มากครับ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ฅนเมืองพริบพรี : 26-10-2009 เมื่อ 14:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 29 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #32  
เก่า 03-11-2009, 13:08
ฅนเมืองพริบพรี
Guest
 
ข้อความ: n/a
Default

ในวันนี้เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของ
สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (วังหน้าพระยาเสือ)
ข้าพระองค์ขอน้อมบูชาคุณความดีที่พระองค์ท่านสร้างไว้ต่อแผ่นดินไทย และพระพุทธศาสนา

เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๓๔๖

มีเรื่องเล่าว่าระหว่างทรงประชวร
กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรด ฯ ให้เชิญพระองค์ขึ้นเสลี่ยงเสด็จออกไปวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ (ต่อมาเรียกวัดมหาธาตุ) เพื่อนมัสการพระประธานในพระอุโบสถทรงจบพระหัตถ์อุทิศถวายพระแสงเพื่อเป็นพุทธบูชาเพื่อให้ทำเป็นราวเทียน เป็นที่มาของรูปแบบพระบวรอนุสาวรีย์หน้าวัดมหาธาตุในปัจจุบัน
ครั้งนั้นเล่ากันว่าทรงบ่นว่า "ของนี้กูอุตสาห์ทำด้วยความคิดและเรี่ยวแรงเป็นหนักหนา...ต่อไปก็จะเป็นของท่านผู้อื่น...และทรงแช่งตอนหนึ่งว่า
"...นานไปใครที่มิใช่ลูกกู ถ้ามาเป็นเจ้าของเข้าครอบครอง
ขอผีสางเทวดาจงบันดาลอย่าให้มีความสุข..."
(สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ "ตำนานวังหน้า"
ประชุมพงศาวดารภาค ๑๓ อ้างในสมโชติ อ๋องสกุล "วังหน้า:ประวัติศาสตร์เมื่อ ๒๐๐ ปี บนดินแดนธรรมศาสตร์" ๒๕๒๕)

***ตลอดพระชนม์ชีพที่ทรงรับราชการ รวมระยะเวลา ๓๕ ปี จนกระทั่งสงครามครั้งสุดท้ายกับพม่าที่เมืองล้านนา และ รวมตลอดพระชนม์ชีพ พระองค์ทำสงครามถึง ๒๔ ครั้ง เพื่อกอบกู้เอกราชและสร้างความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร
***ความยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล พูดอย่างชาวบ้าน ว่า ท่านเกิดมาเพื่อรบ หรือ เกิดมาพร้อมกับดาบ แม่ทัพพม่าที่เป็นคู่รบให้สมัญญานามว่า “พระยาเสือ” ตรงกับพระนามที่ได้รับการอุปราชาภิเษก นับว่าท่านเป็นนักรบโดยแท้


สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (วังหน้าพระยาเสือ)
ได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์วัดตองปุแล้วถวายเป็นพระอารามหลวง
โปรดเกล้า ฯ พระราชทานนามใหม่ว่า วัดชนะสงคราม
เพื่อเป็นพุทธบูชาในการพระราชสงคราม
ที่พระองค์ทรงมีชัยชนะต่อพม่าในการรบทั้ง ๓ ครั้ง
ทั้งในสงครามเก้าทัพ ปี ๒๓๒๘
ศึกท่าดินแดงและสามสบ ปี ๒๓๒๙
และสงครามที่นครลำปางป่าซาง ในปี ๒๓๓๐
และได้โปรดให้บรรจุ พระเนื้อดินดิบ "วัดชนะสงคราม"
ไว้ในกรุพระเจดีย์เพื่อถวายเป็นเครื่องพุทธบูชา
หลังจากที่ต้องสังเวยชีวิตผู้คนมากมายเพื่อรักษาแผ่นดินเอาไว้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ฅนเมืองพริบพรี : 03-11-2009 เมื่อ 13:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 30 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #33  
เก่า 03-11-2009, 13:15
เด็กเมื่อวานซืน เด็กเมื่อวานซืน is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 92
ได้ให้อนุโมทนา: 7,974
ได้รับอนุโมทนา 32,426 ครั้ง ใน 1,052 โพสต์
เด็กเมื่อวานซืน is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ฅนเมืองพริบพรี อ่านข้อความ
มีเรื่องเล่าว่าระหว่างทรงประชวร
กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรด ฯ ให้เชิญพระองค์ขึ้นเสลี่ยงเสด็จออกไปวัดพระศรีสรรเพ็ชญ์ (ต่อมาเรียกวัดมหาธาตุ) เพื่อนมัสการพระประธานในพระอุโบสถทรงจับพระหัตถ์อุทิศถวายพระแสงเพื่อเป็นพุทธบูชาเพื่อให้ทำเป็นราวเทียน เป็นที่มาของรูปแบบพระบวรอนุสาวรีย์หน้าวัดมหาธาตุในปัจจุบัน
ครั้งนั้นเล่ากันว่าทรงบ่นว่า "ของนี้กูอุตสาห์ทำด้วยความคิดและเรี่ยวแรงเป็นหนักหนา...ต่อไปก็จะเป็นของท่านผู้อื่น...และทรงแช่งตอนหนึ่งว่า
"...นานไปใครที่มิใช้ลูกกู ถ้ามาเป็นเจ้าของเข้าครอบครอง
ขอผีสางเทวดาจงบันดาลอย่าให้มีความสุข..."
(สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ "ตำนานวังหน้า"
ประชุมพงศาวดารภาค ๑๓ อ้างในสมโชติ อ๋องสกุล "วังหน้า:ประวัติศาสตร์เมื่อ ๒๐๐ ปี บนดินแดนธรรมศาสตร์" ๒๕๒๕)
จบ หมายถึง การยกของขึ้นหรือพนมมือเหนือหน้าผากเพื่อตั้งใจอุทิศให้เวลาทำบุญ,
อีกความหมายคือ กิริยาที่ช้างชูงวงขึ้นเหนือหัวทําความเคารพ


ใช่

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เด็กเมื่อวานซืน : 03-11-2009 เมื่อ 13:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เด็กเมื่อวานซืน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #34  
เก่า 03-11-2009, 13:28
ฅนเมืองพริบพรี
Guest
 
ข้อความ: n/a
Default

สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท
(พระนามล่าสุดที่ถูกต้องและสมพระเกียรติที่สุด)

ทรงเป็นผู้เสกสร้างและค้ำจุนราชบัลลังก์ทูนถวายแด่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์ทรงเป็นแม่ทัพคู่พระทัยของสองมหาราชไทย

และทรงคือมหาบุรุษผู้รักษาเอกราชของชาติไทยไว้มิให้ล่มจมเป็นครั้งที่ ๓ มาจนสิ้นอายุขัย นอกจากการศึกสงครามแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นกำลังสำคัญในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและสร้างพระนครให้มั่นคงเป็นสง่าเชิดชูพระเกียรติแห่งราชวงศ์จักรีอีกด้วย

นอกจากนี้ พระองค์ทรงสถาปนาและปฏิสังขรณ์ วัดหลายแห่ง เช่น วัดมหาธาตุฯ วัดชนะสงคราม วัดโบสถ์ วัดบางลำภู วัดสมอแครง วัดส้มเกลี้ยง วัดสำเพ็ง วัดครุฑ เป็นต้น แม้ในช่วงสุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระองค์ได้รับสั่งให้คนหามพระองค์เข้าไปในพระอุโบสถวัดมหาธาตุฯ ทรงเอาเทียนติดพระแสงดาบแล้วตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระแสงดาบเป็นราวเทียนพุทธบูชาหน้าพระประธานพระพุทธปฏิมากร

พระองค์ทรงพระประชวรด้วยพระโรคนิ่ว เมื่อครั้งเสด็จยกทัพไปช่วยเมืองเชียงใหม่เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๔๕ หลังเสร็จศึกเสด็จกลับมากรุงเทพ ฯ พระโรคกำเริบมากขึ้น และเสด็จสวรรคตเมื่อแรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๓๔๖ สิริพระชนมายุได้ ๖๐ พรรษา
พระองค์ได้สถาปนา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏ์ หรือวัดมหาธาตุฯ เป็นพระอารามหลวงขนาดใหญ่ วัดนี้มีความสำคัญคือ เป็นสถานที่ที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎก และพระองค์ทรงผนวชที่วัดนี้ด้วย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ฅนเมืองพริบพรี : 03-11-2009 เมื่อ 14:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #35  
เก่า 03-11-2009, 14:02
เด็กเมื่อวานซืน เด็กเมื่อวานซืน is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 92
ได้ให้อนุโมทนา: 7,974
ได้รับอนุโมทนา 32,426 ครั้ง ใน 1,052 โพสต์
เด็กเมื่อวานซืน is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ฅนเมืองพริบพรี อ่านข้อความ
สมเด็จพระบวรราชเจ้า มหาสุรสิงหนาท (พระนามล่าสุดที่ถูกต้องและสมพระเกียรติที่สุด)


นอกจากนี้ พระองค์ทรงสถาปนาและปฏิสังขรณ์ วัดหลายแห่ง เช่น วัดมหาธาตุ ฯ วัดชนะสงคราม วัดโบสถ์ วัดบางลำภู วัดสมอแครง วัดส้มเกลี้ยง วัดสำเพ็ง วัดครุฑ เป็นต้น แม้ในช่วงสุดท้ายของพระชนม์ชีพ พระองค์ได้รับสั่งให้คนหามพระองค์เข้าไปในพระอุโบสถวัดมหาธาตุ ฯ ทรงเอาเทียนติดพระแสงดาบแล้วตั้งสัตยาธิษฐานถวายพระแสงดาบเป็นราวเทียนพุทธบูชาหน้าพระประธานพระพุทธปฏิมากร

พระองค์ทรงพระประชวรด้วยพระโรคนิ่ว เมื่อครั้งเสด็จยกทัพไปช่วยเมืองเชียงใหม่เมื่อปีพุทธศักราช ๒๓๔๕ หลังเสร็จศึกเสด็จกลับมากรุงเทพ ฯ พระโรคกำเริบมากขึ้น และเสด็จสวรรคตเมื่อแรม ๔ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีกุน ตรงกับวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๓๔๖ สิริพระชนมายุได้ ๖๐ พรรษา
พระองค์ได้สถาปนา วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ หรือวัดมหาธาตุ ฯ เป็นพระอารามหลวงขนาดใหญ่ วัดนี้มีความสำคัญคือ เป็นสถานที่ที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎก และพระองค์ทรงผนวชที่วัดนี้ด้วย
พระนามไม่ต้องเว้นวรรคครับ พิมพ์ติดกันเลย

เครื่องหมายไปยาลน้อย(ฯ) ไม่ต้องเว้นวรรคหน้า ให้พิมพ์ติดกับคำที่ต้องการจะย่อครับ

รังสฤษฏ์ หมายถึง สร้าง, แต่งตั้ง
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เด็กเมื่อวานซืน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #36  
เก่า 03-11-2009, 15:59
สไบเงิน สไบเงิน is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 28
ได้ให้อนุโมทนา: 33
ได้รับอนุโมทนา 16,029 ครั้ง ใน 589 โพสต์
สไบเงิน is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ สไบเงิน อ่านข้อความ
หากมีโอกาสผ่านไปในเวลาทำการก็ยินดีให้บริการเสมอค่ะ (สถานที่ให้บูชานั้นเป็นตึกในวัดมหาธาตุที่เปิดทำการในเวลาราชการค่ะ)
แล้วจะมาแจ้งภายหลังนะคะ
ฮือ ๆ
วันนี้สไบเงินเพิ่งจะมีโอกาสไปแถว ๆ วัดมหาธาตุฯในช่วงเวลาทำการเพื่อจะไปติดต่อขอบูชาเหรียญวังหน้าให้พี่คนเก่าตามสัญญา (ที่ทำไว้นานนักหนาแล้ว) ก็พบว่าเหรียญวังหน้ารุ่นนี้หมดไปแล้ว มีแต่เหรียญรุ่นใหม่เท่านั้นค่ะ

กราบขออภัยพี่คนเก่าที่หนูมิอาจสนองความประสงค์ของพี่ได้ค่ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สไบเงิน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #37  
เก่า 03-11-2009, 17:45
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,275 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

น้ำใจน้องสไบเงินช่างงามนัก
เพียงเท่านี้ก็ชื่นหัวใจพี่คนเก่าเป็นนักหนาแล้ว
มิพักต้องมีสิ่งใดมาให้ดอกเจ้า

(ใช้สำนวนให้เข้ากับเรื่องขุนศึกคู่บัลลังก์ ๒ แผ่นดิน)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #38  
เก่า 03-11-2009, 20:08
สไบเงิน สไบเงิน is offline
สมาชิก - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 28
ได้ให้อนุโมทนา: 33
ได้รับอนุโมทนา 16,029 ครั้ง ใน 589 โพสต์
สไบเงิน is on a distinguished road
Default

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ คนเก่า อ่านข้อความ
น้ำใจน้องสไบเงินช่างงามนัก
เพียงเท่านี้ก็ชื่นหัวใจพี่คนเก่าเป็นนักหนาแล้ว
มิพักต้องมีสิ่งใดมาให้ดอกเจ้า

(ใช้สำนวนให้เข้ากับเรื่องขุนศึกคู่บัลลังก์ ๒ แผ่นดิน)
เรื่องขุนศึกฯ อะไรที่พี่คนเก่าว่ามานั้นผู้แต่งเป็นใครหรือคะ? สงสัยหนูจะเกิดมาไม่ทันได้อ่านค่ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สไบเงิน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #39  
เก่า 04-11-2009, 09:18
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,275 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

เรื่อง "ขุนศึก" ของ "ไม้เมืองเดิม" จ้ะ
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:11



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว