กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องบูรพาจารย์ > ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน

Notices

ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 24-07-2009, 17:02
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default หลวงตาเล่าเรื่องในบ้านใหญ่(ตอนที่ ๔)

ลูกหลานเอย...เมื่อฉบับที่แล้ว 'เสียงจากถ้ำ' ได้เล่า 'เรื่องในบ้านใหญ่' มาถึงไหนแล้วหนอ ถึงไหนก็ถึงตามนั้น... แต่ว่าที่กำลังจะมาถึงก็คือต้องส่งต้นฉบับนี้ให้โรงพิมพ์ทันต้นเดือนเมษายน เขาจะได้พิมพ์ถวายทันงานมุทิตาจิต ๑ พฤษภาคม แบบสบาย ๆ ไม่ต้องลุ้นเร่งกันหายใจไม่ออกบอกไม่ถูกไม่ถ้วนเรื่องที่ควรจะได้

ก่อนจะเล่าเรื่องใหญ่ต่อไป ก็พอเหมาะที่วันมะรืนนี้ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๑...เป็นวันงานประจำปีของวัดท่าซุง 'บ้านใหญ่' พอดี เลยมีแรงส่งให้เขียนเล่าถึงความหลังเมื่อยังอยู่ในบ้านของหลวงตาหลังนี้ ย้อนหลังไป ๒ ปี.. งานนี้หลวงพี่นันต์ยังนิมนต์พระราชาคณะและพระเถระผู้ใหญ่มาในงานตามที่พ่อเคยทำตลอดมา แต่เมื่อ ๒ ปีที่แล้วมา หลวงพี่นันต์งดนิมนต์พระมหาเถระดังกล่าวแล้ว คงนิมนต์แต่พระอาจารย์ เจ้าคณะที่เป็นศิษยานุศิษย์ที่เคารพรักหลวงพ่อฤๅษีโดยเฉพาะ...จากทั่วประเทศ... มาร่วมงานเดือนมีนาคม ใครจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจเจตนาพี่นันต์หรือไม่ก็ตามใจใครเถิด แต่หลวงตาคิดว่าหลวงตาเข้าใจดี...เพราะมีภาพชัดเจนติดใจหลวงตาอยู่ ๒ เรื่อง ๒ วาระ

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 24-07-2009 เมื่อ 17:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 85 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 24-07-2009, 20:55
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

เรื่องแรก...ก่อนหลวงตาจะได้บวช เป็นฆราวาสผู้ปรารถนาจะบวชทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าธรรมชาติชีวิตจิตใจของนักบวชเป็นอย่างไร...ตอนนั้นนะลูก...ก็ห่ามเห่อไปตามเรื่องหมาน้อยที่ยังไม่รู้จักกลิ่นเสือ ถวายชีวิตรับใช้พ่อรับใช้คณะสงฆ์วัดท่าซุง ซึ่งมีพระคุณหลวงพี่นันต์ พระคุณหลวงพี่โอ เจิดจ้าอร่ามเหลืองในหมู่สงฆ์อยู่ก่อนแล้ว (นี่หลวงตา...นี่น่าจะเรียกทั้งสองท่านว่า 'พระอาจารย์' ได้แล้ว ทำไมยังไม่เรียกเสีย...) ตอนนั้นหลวงพี่ชัยวัฒน์ หลวงพี่สุรจิตยังไม่ได้บวช ยังร่วมวงธรรมสนทนา..ก็กลุ่มใหญ่เชียวล่ะ.. หลวงตาน่ะ...ความดีน้อยแต่เสียงดังกว่าเพื่อน ก็เลยหลุดพูดออกมาตามภาพในใจ

"อีกไม่นานนะ... พอพวกเราบวชแล้ว แยกย้ายกันไปทำความเพียร ตั้งตัวเป็นหัวหน้าเป็นอาจารย์เขาแล้ว (ก็ยังอายอยู่นะลูกที่เล่าออกมานี่น่ะ...) พวกที่อยู่กับพ่อก็อยู่ไป พวกที่ไปประกาศพระศาสนาก็ประกาศไป พอถึงวันงานประจำปีนะ...พวกเรา...ก็จะมารวมกันที่บ้านใหญ่ กลับมาหาพ่อ มาหาพี่น้องกัน นัดหมายกันมา (ก็ยังพอฟังได้ไม่ขัดหู...นะ ตอนนี้)...เอาเลย! อย่างเรานี่ นั่งขัดสมาธิ มาเลย.. เอาประคำแกว่งเหนือหัว...เฮลิคอปเตอร์มาเลย..(...ฟังได้ไหมลูก? มันคอยจะล้นขอบเกินเขตไปเสียอย่างนี้แหละ..แต่พ่อฟังไม่ค่อยได้...เสียงดังมาก...ดังว่า เฮ้ย...เฮ้ย... มาจากทางหน้าต่างศาลานวราช ไม่รู้ท่านมาตั้งแต่เมื่อไร มันดึกแล้วนาลูกตอนนั้น...ก็ร่วงลงกับพื้นพับเพียบกราบ กราบ กราบ... แล้วก็วงแตกสลายตัวในทันทีทันใด) ...จะบอกลูกหลานว่าหลวงตามั่นใจว่าต้องมีวันที่พี่น้องนักบวชที่ไกลบ้านจะกลับมารวมกันเป็นประเพณี

เรื่องที่สอง...เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนหลวงตาบวชแล้ว เป็นเฮลิคอปเตอร์ออกจากบ้านใหญ่... มาประจำอยู่ที่วัดเขาวงนี้แล้ว วันนั้นเป็นวันงานทำบุญบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่สำนักแม่ชีประทุมที่ปากช่อง...เจ้าประคุณหลวงพ่อสมเด็จวัดสระเกศฯ เป็นประธาน หลวงพี่...(เอาเลย! เริ่มเรียกว่า)...พระอาจารย์อนันต์และคณะสงฆ์วัดท่าซุงเมตตาไปกัน พร้อมพรั่งด้วยศิษยานุศิษย์พระคุณหลวงพ่อฤๅษีมากมาย หลวงตาก็ไปด้วย จึงได้เห็นภาพนั้น... เห็นหลวงพ่อสมเด็จเรียกพระอาจารย์อนันต์เข้าไปพูดคล้ายสั่งความสำคัญอยู่นานเกือบ ๑๕ นาที พอเสร็จความพระอาจารย์อนันต์ก็ถอยมานั่งติดกับหลวงตา ท่านบอกว่าหลวงพ่อสมเด็จฯสั่งให้ท่านเป็นหัวหน้ารวบรวมศิษย์หลวงพ่อฤๅษีไว้ให้เป็นปึกแผ่น ทั้งที่เป็นพระสงฆ์และที่เป็นฆราวาส ให้คอยกำชับกำชาให้ประพฤติปฏิบัติตามที่หลวงพ่อฤๅษีสั่งสอนให้อยู่ในร่องรอยเดียวกัน ถ้าเป็นไปได้ก็ให้หาทางมอบนโยบายการปฏิบัติกรรมฐานและการสั่งสอนเผยแผ่...เป็นแบบอย่างเดียวกัน ใครจะทำอะไรที่เป็น..จำเป็นต้องผิดแผกเพิ่มเติมออกไปบ้างก็ให้ปรึกษาพระอาจารย์ พระครูปลัดอนันต์ก่อนทุกครั้งไป
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 24-07-2009, 21:00
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

ลูกหลานเอย... หลวงตายอมรับว่าหลวงตาหนักใจแทนพระอาจารย์อนันต์ แต่ก็มั่นใจว่าพระอาจารย์ต้องหาทางทำได้ มาบัดนี้ วันมะรืนนี้...วันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ และอีก ๒ ครั้งย้อนหลังไป ...หลวงตาก็เริ่มเห็นชัดว่าท่านทำได้...ท่านทำให้พระอาจารย์เจ้าสำนักและพระภิกษุที่เคารพรักหลวงพ่อฤๅษีมารวมกันได้ในงานประจำปี และท่านก็กล้าที่จะยกวันนี้ให้เป็นวันรวมพี่น้องร่วมพ่อครูอาจารย์ ไปดูกันเอาเองเถิดลูกหลาน พี่น้องร่วมสำนักทั้งหลาย ว่ามีมามากมายเพิ่มขึ้นทุกปีเพียงไร ท่านที่ยังไม่กล้าตัดสินใจ.. ยังลังเลอยู่..ก็รีบไปกันเสีย! แต่ไม่ต้องถึงกับควงประคำเหาะไปหรอกหนา

พ่อคุณเอ๋ย... ไปรวมกันที่บ้านใหญ่ของเรา..
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 83 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 24-07-2009, 21:10
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

วันนี้ ๑๕ มีนาคม...เล่าเรื่องต่อไปเกี่ยวกับบ้านใหญ่ที่วัดท่าซุง นี่หลวงตาเพิ่งรับสังฆทานญาติโยมเสร็จ เขามากันจากกรุงเทพฯบ้าง.. เขื่อนป่าสักบ้าง.. มีเวลาก็จะพิมพ์บันทึกเล่าไปเรื่อย ๆ ละทีนี้ จะรอให้ว่างแล้วเขียนแบบนักเขียนอาชีพไม่ได้แล้ว ลูกหลานเอย...พรุ่งนี้หลวงตาก็จะได้เห็นพระสงฆ์พี่น้องมากหน้าหลายตา... พบผู้หญิงผู้ชายหลายหลากมากใจหลายกระแสบุญ กะจะออกจากวัดเขาวงสัก ๖ โมงเช้า ทันงานสบาย ๆ จะได้พบคนอ่าน 'เสียงจากถ้ำนารายณ์' บ้างไหมหนอ

นึกย้อนไป...นึกได้แล้วก็อาย เฮ้อ...เอาละ!...เล่าก็เล่ากัน คือในเวลาที่พ่อยังมีชีวิตอยู่นั้น หรือแม้แต่สมัยที่สมเด็จพระบรมศาสดายังทรงพระชนม์ชีพอยู่นั้น โลกธรรมและกามคุณทั้งหลาย ก็ยังคงแสดงกำลังอำนาจควบคุมใจของสรรพสัตว์ที่ยังติดยึดขันธ์ห้าว่าเป็นของตนอยู่เป็นปรกติ แต่ว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายท่านไม่สนใจร่างกายขันธ์ห้า ท่านไม่ยอมรับว่ามันเป็นท่าน และท่านจะเป็นมัน.. ท่านพ้นเด็ดขาดแล้ว... โลกธรรมกามคุณที่มีอยู่ประจำโลก จึงทำร้ายใจท่านไม่ได้ แต่ว่าหลวงตาไม่เด็ดขาดเหมือนอย่างท่าน จึงถูกกระแสกิเลสเหล่านั้น ควบคุมให้อยู่ในอำนาจของมัน... ที่จริงคงจะพอใจเป็นทาสความเลวนั้นด้วย จะเล่าให้ฟัง...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 80 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 25-07-2009, 08:41
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

สมัยโน้น...พระและญาติโยมทั้งหลายที่เคารพนับถือพ่อมีมากมายนัก มีอยู่คณะหนึ่งไม่ขอเอ่ยชื่อและถิ่นที่อยู่ แต่ฟังเรื่องแล้วใครนึกออก ก็ขอได้โปรดทราบว่าหลวงตากำลังเล่าถึงวิบากกรรมความเลวของหลวงตาในเหตุการณ์ขณะนั้น หลวงพี่ท่านก็มุ่งดี ทำดี มีคนเคารพนับถือติดตามเป็นกลุ่มใหญ่มาก ดีทุกอย่าง...แต่มันเกิดเรื่องตรงที่ท่านมาคิดว่าหลวงตาเป็นพระดี ดีถึงที่สุดเสียด้วย ...กรรมดีของท่าน แต่เวรภัยร้าย..เป็นของหลวงตา

เวลาที่ท่านมากราบพระคุณพ่อ (หลวงพ่อฤๅษีฯ พระราชพรหมยาน พระอาจารย์พ่อของหลวงตาและของพวกเราทุกคน) ท่านก็มากราบหลวงตาด้วยทุกครั้ง...ท่านมีพรรษาพระมากกว่าอายุขันธ์ห้าน้อยกว่า หลวงตายังนึกไม่ออกว่าเราเองยอมให้ท่านกราบได้อย่างไร น่าจะพอใจด้วยละหนา ลูกเอ๋ย...โธ่ก็ท่านกราบจริง ๆ กราบทันทีที่พบหน้า ที่พื้นวัดหน้าโบสถ์ ท่านก็ทรุดตัวลงกราบกับพื้น มานึกดูตอนนี้นี่ ถ้าท่านไม่เคารพจริง ๆ ก็ต้องเป็นจงใจทำร้ายกันจริง ๆ กราบนี่ กราบกอบใส่หัวด้วยนะ พูดออกปากด้วยนะว่า

“ขอพระคุณปกเกล้า เป็นที่พึ่งได้กระผมได้บรรลุตามด้วยเถิด”

หลวงตาพยายามนึก แต่นึกไม่ออกว่า ตัวเองรับได้อย่างไรและวางใจอย่างไร แต่ก็ปล่อยให้เหตุการณ์อย่างนั้นเกิดต่อเนื่องได้ตลอดมา... เคยบอกท่านเหมือนกันว่า หลวงตายังไม่ดีตามที่ท่านพูดหรือคาดหวัง แต่ท่านบอกว่า

“พระบอก ไม่ผิดหรอก”

พระหนอพระ (ของท่าน) ...หลวงตาก็อยากจะเชื่อเสียด้วย แต่ไม่ยอมเชื่อตามนั้น! แล้วเหตุการณ์ใหญ่ก็เกิดขึ้นจนได้ เกิดประจักษ์ชัด ๆ ...จนหลวงตาจะเชื่อเสียดีกระมัง... คือมันอย่างนี้ลูก

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 25-07-2009 เมื่อ 11:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 73 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 25-07-2009, 08:56
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

ท่านและคณะก็มาที่กุฏิหลวงตาบ่อยขึ้น (กุฏิมันอยู่ติดกับเมรุเผาศพ ดูขลังอยู่ละ) ครั้งสำคัญนั้นก็คือมาบอกว่าพระในอารมณ์กรรมฐานมาบอกให้ท่านและลูกหลานคอยโมทนาธุการเหตุการณ์สำคัญ ...หลวงตาของพวกเราทั้งหลายจะจบกิจ บรรลุอรหัตผล ในเวลา ๐๔.๐๐ น. ...ของคืนสำคัญนั้น ท่านก็เลยจัดงานสำคัญล่วงหน้า คือนิมนต์พระสงฆ์วัดท่าซุง ๕ องค์ มีหลวงตาเป็นประธานไปโปรดลูกหลานถึงถิ่นที่อยู่ทางไกลโน้น... ในวันที่หลวงตาจะได้บรรลุ...เออหนอ...เป็นพระขีณาสพเจ้า ไปฉลองเป็นมงคลแก่ท้องถิ่นนั้น ฝนฟ้าจะได้ตกต้องแผ่นดินเสียที แห้งแล้งกันมานานแล้ว...

ก็เครียดสิหลวงตา !

ก็ชักจะได้กลิ่นฝนตามเขาไปสิหนา ... จะคิดอย่างไรดีหนอ

ไอ้เราก็รู้ว่าเรายังติด ยังขัด ยังขาดอะไรเพียงไหน... มันจะได้เชียวหรือในคืนเดียวนี้

เอ...ถ้ามันไม่มีเค้า เขาก็คงไม่จริงจังกันขนาดนั้น หรือจะจริงตามเขาว่า
เอาละ ! เราก็ทำความเพียรปรกติอยู่บ้างแล้ว จะเพิ่มอธิษฐานทับให้ได้ทันตามเขาว่าเสียดีไหม ถึงอย่างไรก็ไม่ขาดทุนเสียหายอะไรนี่นา

ลูกหลานเอย...ความเพียรที่ผิดปรกติ..ความเพียรที่มีความหวังตามเขาว่า อยากให้เขาได้โมทนาคุ้มค่าน้ำใจเขา เป็นความเพียรที่สร้างความเครียดให้หลวงตามาก..มาก เอ.. พรุ่งนี้เขามารับจะนั่งตรงไหน นั่งท่าไหน จึงจะสมภูมิ ..เอ้อ ..พระ.. อรหันต์ (โอย ..พุทโธ ธัมโม สังโฆ) แล้วหลวงพ่อ.. หลวงพี่นันต์.. หลวงพี่โอ.. หลวงพี่อาจินต์ ท่านจะ..จะ..ว่า จะโมทนาตอนไหน ลูกเอย...คืนนั้นหลวงตาไม่ได้นอน...ผุดลุกผุดนั่ง เดินจงกรมบ้าง ยืนบ้าง จนตี ๔...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 76 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 25-07-2009, 10:17
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

เอ...ฟ้าก็ยังไม่แลบ ไม่คำรณคำรามรับรองกันบ้างเลยหรือ...ฟ้าสางแล้ว พวกเขามากันแล้ว มากันเต็มหน้ากุฏิ เรานี่นะ ก็นั่งตัวตรงงงงุนอยู่

"โถ...เจ้าประคุณ พวกเรามาดูกัน ท่านไม่เหมือนเดิมจริง ๆ นั่งนิ่งทรงอุเบกขางามตามตำราเสียจริงหนอ..."

ลูกหลานของหลวงตาเอย หลังจากอ่านคราวนี้แล้ว ห้ามมาถามซ้ำเหตุการณ์ตอนนี้ นึกถึงแล้ว...ขนหัวมันลุก...ลูกหลานเอ๋ยอุตส่าห์มีชีวิตรอดนรกมาได้ อย่าถามให้หลวงตาเสียใจเลยหนา

เอาละ ก็เล่ากันต่อไป ก็ขึ้นรถตู้กันไปเต็มคัน ทั้งพระและฆราวาส มีติดตามกันอีกหลายคัน ไอ้หนูอีหนูเอ๋ย ... พอเข้าเขตลพบุรีต่อโคราช อ้าว...ว่าจะไม่ออกชื่อสถานที่... พอรถวิ่งเข้าเขตทิวเขา เรื่องที่ชวนให้เชื่อก็เกิดขึ้น

อยู่ดี ๆ ฝนก็ปรอยพรำลงมา อนิจจา ! มันตกลงมาแกล้งใครบ้างก็ไม่รู้ คือมันตกถูกหลังคารถเพียงครึ่งคัน ...อีกซีกครึ่งคันแดดออก เห็นเป็น ๒ ซีก ๒ ฝั่งไปตลอดทางข้างหน้าโน้น...ผู้คนในรถก็ฮือฮาปลื้มปีติกันสิหนอ หันมายกมือไหว้หลวงตา (พระองค์สำคัญของเขา) ลูกตาเชื่อมไปด้วยน้ำตาแห่งความปีติสุข หน้าตาของเขาผ่องใสยองใยกันเชียวละ (ลืมบอกไปว่า พอออกจากวัดท่าซุงฟ้าก็ครึ้มแล้วละ ...ดูท่านทำเถิดลูก)

หลวงตาทำอย่างไรล่ะทีนี้ ใจเรานะ.. ที่จริงก็อยากเป็นพระอรหันต์ ไม่อย่างนั้นจะบวชเข้ามาทำอะไร? แต่ใครล่ะจะรู้จักอารมณ์ใจเราเท่าตัวเราเอง มันไม่ใช่ ! ก็เลยแกล้งอธิษฐานจ้องตาไปที่ยอดเขาทางขวามือ

"...ถ้าที่เห็นอยู่ ที่เขาเชื่อกันอยู่มันเป็นความจริง เอ้า ! ขอให้ฟ้าแลบหรือฟ้าผ่าเป็นสายฟ้าลงไปที่ยอดเขา แล้วแลบให้ยาวติดต่อกันไป...ตลอดทิวเขาทั้ง ๓ ยอดนั้นเดี๋ยวนี้เลย..."

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 25-07-2009 เมื่อ 15:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 74 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 26-07-2009, 12:40
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

ลูกเอ๋ย ดูท่านทำ นึกไม่ทันขาดคำความหมายที่อธิษฐาน ฟ้าก็พลันผ่า ...ย้ำว่าผ่า แล้วแลบยาวต่อกันเป็นสายฟ้าเขียวปั้ดไปตลอดทั้งสามยอดนั้น โอยเวรกรรม ผู้คนก็พลันยกมือไหว้เทิดศีรษะ ส่วนหลวงตา...ไม่กล้าคิดต่อ ไม่กล้าคิดเด็ดขาด เพราะฝนก็พลันตกหนัก ตกชนิดจะพาหลวงตาตกนรกได้ถ้าหลงตัวเองไปตามเขา คือฝนตกออกหน้า ตกนำหน้ารถที่หลวงตานั่งไปสักครึ่งกิโลเมตรข้างหน้าโน้น เห็นรถบรรทุกดินวิ่งขึ้นถนนจากซอยข้างทาง...ฝุ่นลูกรังคลุ้งแดงนำหน้าฝนไป...เออ นำไป...ภายในรถก็โมทนาสาธุการออกทางปากด้วยว่า

“..(ออกชื่อจังหวัด)..ฝนไม่ตกมาเดือนกว่าแล้ว แห้งแล้งหนักหนา พอเจ้าพระคุณหลวงตามาเหยียบแผ่นดิน(ออกชื่อจังหวัด).. ฝนก็ตกด้วยบุญพระอรหันต์ (ขอโทษที่ต้องเขียนคำนี้) เป็นวาสนาของพวกเราแท้หนอ...(หนอ...หนอ.. ๆ)

ลูกหลานเอย เสียงนั้นส่วนหนึ่งมันก้องกังวานเข้าไปหวานชื่นอยู่ในใจหลวงตา อีกส่วนหนึ่งของสติก็เตือนว่า ...เราย่อมรู้เรื่องนิมิตที่เห็นด้วยตา เรื่องคำของคนที่เขาชม เขาด่า มันเป็นของไม่จริงจังอะไรหรอกลูกเอ๋ย อย่าเอาตรงนี้มาเป็นแก่นสารของการปฏิบัติธรรม ไปถามหลวงพี่นันต์หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาแล้ว ท่านก็ยิ้มแบบเข้าใจเรา

“เอ้อ...เอ้อ.. ระวัง ระวัง อย่าเชื่อใคร.. ให้เชื่อใจเราเองตอนมีสติปัญญา เอ้อ.. ดี ดี”

ไม่กล้าถามหลวงพ่อ
ไม่กล้าแม้แต่คิดจะถาม
เทวดามีจริง แล้วก็มีอานุภาพจริงนะลูก... แต่สิ่งที่ท่านทำได้จริงนั้นอาจจะไม่จริงก็ได้ ...แกล้งลองใจคนเสียก็ได้...
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 68 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 26-07-2009, 12:48
ทาริกา's Avatar
ทาริกา ทาริกา is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Feb 2009
สถานที่: ประชาชื่น
ข้อความ: 99
ได้ให้อนุโมทนา: 23,087
ได้รับอนุโมทนา 46,822 ครั้ง ใน 1,661 โพสต์
ทาริกา is on a distinguished road
Default

๑๖ เมษายนแล้ว... จบไปตอนหนึ่ง ! เรื่องของอะไรล่ะ ! เรื่องมันชวนให้เชื่อให้หลงตัวเองของนักปฏิบัติกรรมฐาน ถ้าเราไม่พินิจพิจารณาที่สติ ที่อารมณ์ใจว่ามันยังมีความเศร้าหมองมีความสกปรกเหลือติดอยู่อีกมากน้อยเพียงไร ในขณะที่นิมิตที่เกิดขึ้นจริง ๆ มาถึง เราจะหลงไปตามเรื่องราวนั้น อิ่มใจมั่นใจไปตามนั้น แล้วในขณะนั้นเอง.. ที่ลืมสติ.. ละอารมณ์ปัญญาที่พิจารณาความเลวที่ยังค้างคาใจอยู่อีก..อีกมาก

ไหน ๆ ก็เล่ามาแล้ว ก็ต่ออีกเรื่องหนึ่งได้ไหมลูก รำคาญก็อย่าอ่าน ..แต่ว่ามันเป็นเรื่องในบ้านใหญ่นะลูก ! มันเกิดผลกระทบกระเทือนต่อส่วนรวมในทางที่ไม่น่าโมทนา อ่านเถิดลูก ! (สรุปว่าหลวงตาให้อ่านค่ะ)

คือมันเป็นเรื่องที่สองในร้อยแปดเรื่อง ที่เทวดายุให้หลวงตาเสียคน มีโยมผู้ชายหนุ่ม ๆ คนหนึ่งอยู่ที่สหรัฐอเมริกาโน่น กลับมาเมืองไทยก็รีบมาหาหลวงตาที่วัดท่าซุงทันที กราบงามเกินสามครั้งด้วยความปีติ แล้วก็จ้องหน้าเชื่อมสายตาศรัทธาล้นไหลเข้าตาหลวงตาพูดว่า

“…หลวงตาดีต่อลูกมาก ไม่ทราบจะขอบพระคุณอย่างไร...”

ก็งงสิหลวงตา เพิ่งเคยเห็นหน้ากันครั้งแรก

“มีอะไรหรือ” ถามสาวหาเรื่องไป ก็ได้เรื่องว่า
“เมื่อเดือนก่อน..ผมยังอยู่ที่นิวยอร์กขณะนั่งกรรมฐานบนเตียงก่อนนอน หลวงตาไปสอนผมถึงหัวเตียง ขอบพระคุณหลวงตามาก”

“หือ..สอนอย่างไร ไปอย่างไร?”
ก็งงหนักเข้าไปอีก เราอยู่วัดท่าซุง ไม่เคยรู้จักหน้าตา แต่หนุ่มเมืองนอกไม่ยอมงงด้วย แกมองหน้า ทำตายิ้มแบบรู้ทันกัน อย่ามาทำแกล้งถามเลยหลวงตา.. อะไรทำนองนั้น

“หลวงตาเหาะลอยทะลุผนังอพาร์ตเมนท์ห้องนอน นั่งลอยอยู่เหนือหัวเตียง เห็นจะจะ..พูดสอนผมอยู่กว่าหนึ่งชั่วโมง”
พูดไปก็จ้องหน้าตาอิ่มบุญไป

“หลวงตาสอนผมถึง ๗ คืนติดต่อกันเวลาเดียวกันเป๊ะเลย คืนที่ ๘ ก็ไม่ไปสอนผมอีกจนถึงวันนี้ ..ทำไมหลวงตาไม่เมตตาลูกอีก?”

คิดหนักหน่วงอยู่ในใจ
หนักใจที่จะตอบเขายังไง...หน่วงใจคิดไม่ออกว่านี่มันอะไรกัน ! คราวนี้มาแปลกมาก ชวนให้ติดใจ ชวนให้คิดว่าหรือว่าไปจริง ๆ ตอนเข้าสมาธิทำกรรมฐาน? .. ทบทวนดูวันเวลา ถามเทียบเรียบเคียงแล้วพิจารณาอารมณ์ตอนช่วงนั้น ก็ได้เรื่องจริง !

คือช่วงนั้นกำลังเลวจัด ชัดเจน

ในเรื่องกามราคะ มันรบกวนหนัก หรือเราไปกวนมันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันมัวหมองมืดมัวตลอด เวลาที่เขาว่าเราเหาะไปสอนนั้น กำลังอยู่ในระยะเดินงุ่นง่าน จงกรมจงคดแก้อารมณ์อยู่... แล้วมันว่ากูไปสอนได้อย่างไร?

ลูกเอย.. เมื่อจนปัญญา หลวงตาจะถามหลวงพ่อ ไม่ได้ถามกับตัวท่านนะลูก ! นึกถามในใจ.. นึกว่าเมื่อตอนที่หลวงพ่อยังมีอารมณ์เหมือนเรา ถูกถามทึกทักอย่างเรานี้ พ่อจะคิด..จะตอบอย่างไรหนอ ..ช่วยลูกด้วยเถิด เจ้าประคุณเอ๋ย

ก็ได้อารมณ์มั่นใจ ได้คำตอบขึ้นมาในใจว่า

เรายังพิจารณากายคตาสติเป็นอารมณ์อยู่อย่างเดิม และทำให้หนักขึ้นเมื่อเกิดเหตุเกิดนิมิตให้เราหลงตัวเอง ส่วนที่รู้ว่าใจเรายังเลวอยู่นั้นมองให้ชัดให้มั่นใจว่าเรายังเลวอยู่ ใจเราจะเกาะกายคตาสติสอนใจเราอย่างเดียวจะไม่สอนใคร อย่ายอมรับว่าเราดีแล้ว

ส่วนที่เขาได้นิมิตได้ประโยชน์ เพราะเห็นเราไปสอนก็เป็นจริงของเขาแต่ไม่ใช่เราเก่งไปสอนเขาได้ อาจจะเป็นเทวดาหรือพระรักษาชีวิตซึ่งเป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในอดีตชาติ ซึ่งไม่ทอดทิ้งกัน ถึงเวลาท่านก็มาสอนมานำลูกของท่านให้ได้ประโยชน์สุขให้ถูกทาง แต่ถ้าท่านสอนเขาแบบสอนเข้าไปในใจ... เขาอาจจะสงสัยไม่ได้ประโยชน์ ก็เลยเอาคำสอนนั้นมาผูกอาศัยนิมิตหยาบ คือบุคคลที่ยังมีชีวิตซึ่งเขานับถือหรือว่าอาจจะพบพานกันในอนาคต เขาจะได้มั่นใจรับกระแสธรรมด้วยความปีติมีสมาธิมั่นคงอาจจะได้ประโยชน์มั่นคงได้ เป็นเรื่องของท่านกับของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา เรื่องของเราคือต้องรู้ว่าเรายังเลวอย่างไรบ้าง เพราะการเกาะยึดร่างกายยิ่งพิจารณากายคตาสติ จนเบื่อหน่ายร่างกายและนิมิตหมายว่าร่างกายดีมีประโยชน์สุข

จึงตอบเขาไปว่า.. ถ้าอยากให้ไปสอนอีกก็ทำอารมณ์ให้เหมือนเดิมตอนที่เห็นไปสอนนั้น และต้องทำให้อารมณ์ดีต่อเนื่องมากกว่าเดิม อาจจะเห็นไปสอนอย่างนั้นอีก

ตอบเสร็จก็นึกตามไปอีกว่า.. เจ้าประคุณรุนช่องเอ๋ย ! ไปจัดการกันเองก็แล้วกัน ถ้าอย่างไรช่วยเปลี่ยนให้อาจารย์อื่นเหาะไปสอนบ้างเถิด อย่าให้พระแก่ ๆ ต้องลำบากใจเลย..เจ้าประคุณ !

พอเวลาว่าง ได้โอกาสเหมาะสม ก็เข้าไปกราบเรียนเล่าให้ท่านอาจารย์อนันต์รับทราบและขอโอวาทปฏิบัติ

ท่านอาจารย์ก็ยิ้มอย่างเดิม
“เออดี.. ดี ..ระวัง... เชื่อหลวงพ่อไว้ แหม ! ทำไมเราไม่มีอย่างนี้บ้างนะ?” ดูท่านสบายใจ

พี่เอย..คนที่มีมากมักจะบอกว่าไม่มีหนอ...

.....................จบตอนที่ ๔..................

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 26-07-2009 เมื่อ 15:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 71 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ทาริกา ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:56



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว