กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 03-07-2016, 22:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๙

ถาม : แต่ก่อนผมสงสัยครับว่าพระสารีบุตร ท่านฟังธรรมจากพระอัสชิเถระแล้วบรรลุเป็นพระโสดาบัน โดยที่ไม่เคยเห็นพระพุทธเจ้าเลยได้อย่างไร ?

ธรรมที่พระอัสชิเถระ ท่านสอนว่า "ธรรมเหล่าใด เกิดแต่เหตุ พระตถาคตกล่าวเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น และความดับของธรรมเหล่านั้น พระมหาสมณะมีวาทะอย่างนี้" หลังจากฟังจบแล้ว พระสารีบุตรเป็นบรรลุเป็นพระโสดาบันทันที แล้วท่านก็เอาไปบอกพระโมคคัลลานะ ท่านก็บรรลุเป็นพระโสดาบันทันที

ผมสงสัยมาหลายเดือนมาก ผมเลยพิจารณาเลยสรุปได้ว่า ทุกอย่างในโลกนี้ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน และทุกอย่างในโลกนี้ ก็มีสภาพเปลี่ยนแปลงเสื่อมสลาย และในที่สุดก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เลยไปตรงกับคำสั่งสอนของพระที่ว่า "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" เลยอยากทราบว่า ท่านพิจารณาประมาณนี้เปล่าครับเลยได้เป็นพระโสดาบัน ?

ตอบ : ไม่ได้ถามท่านเสียด้วย ต้องบอกว่าคนถามฟุ้งซ่านได้ดีมาก ความจริงต้องแยกเป็นสองประเด็น ประเด็นแรกก็คือไม่ได้พบพระพุทธเจ้าแล้วบรรลุมรรคผลได้อย่างไร ? ไม่มีกติกาข้อไหนที่ต้องพบพระพุทธเจ้าแล้วถึงบรรลุมรรคผล เพราะว่าหลักธรรมของพระองค์ท่านเป็นสากล เป็นอกาลิโก ผู้ใดที่เข้าใจ มั่นใจว่าตนเองทำได้ ตัดสินใจทำทันที บุคคลนั้นย่อมได้มรรคผลไปตามวาสนาบารมีของตน

ส่วนประเด็นที่สองก็ที่ว่าไปแล้ว ในเมื่อท่านฟังเข้าใจ มั่นใจว่าตนเองทำได้ ตัดสินใจว่าจะทำ ท่านก็ย่อมได้รับมรรคผลของท่านไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 03-07-2016, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บางครั้งผมโดนเพื่อนร่วมชั้นแกล้ง และผมก็มีความรู้สึกโกรธ แต่ผมรู้ทัน ก็ยิ้ม ๆ ให้เขาไป ไม่ว่าอะไร แต่ก็อยากจะสั่งสอนด้วยการตักเตือนก่อน ถ้าไม่ฟังก็ต้องใช้กำลัง แต่จะออกแนวในลักษณะสั่งสอนเพื่อน ถ้าผมทำร้ายเขาแบบให้เขารู้สึกผิด เขาก็จะไม่ทำกับผมและเพื่อนคนอื่นอีก อยากถามพระอาจารย์ว่า ถ้าผมตักเตือนด้วยการใช้กำลัง แต่อยู่บนพื้นฐานเมตตา เพราะไม่อยากให้เขาสร้างบาปกรรมให้กับตัวเอง
และเลิกทำให้ผมและคนอื่น ๆ รำคาญ แบบนี้จะบาปไหมครับ ?
ตอบ : ก็ต้องดูว่าอาจารย์ฝ่ายปกครองเขาจะเมตตากับเราแบบเดียวกันไหม ? ขณะเดียวกันพ่อแม่เขาจะเมตตาไม่แจ้งความไหม ? ถ้าใช้กำลังด้วยความเมตตา อาตมาก็ใช้ได้ แต่โยมจะน่วมเท่านั้น...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 206 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 03-07-2016, 22:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตัวกระผมอยู่ต่างประเทศ แล้วอีกไม่นานจะปิดเทอมเป็นเวลา หนึ่งเดือนกว่า ๆ ผมเลยวางแผนว่า จะภาวนาคาถาอภิญญารวม " โสตัตตะภิญญา " จนได้อภิญญาขึ้นมา แต่ผมสงสัยว่า ถ้าในอดีตชาติผมไม่เคยฝึกกสิณมาเลย คาถาอภิญญารวมยังจะได้ผลไหมครับ ? แล้วผมก็วางแผนว่า ถ้าทำได้แล้วจะไปวัดท่าขนุนไปขอบคุณหลวงพ่อ เลยอยากทราบว่า คาถานี้พอจะมีเคล็ดลับอะไรหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ดูท่าชาตินี้ตูไม่ได้รับคำขอบคุณแน่ ๆ...! ในเรื่องของคาถาอภิญญา ให้ไว้สำหรับบุคคลที่เคยได้อภิญญาในชาติก่อนเพื่อฟื้นกำลังของตัวเอง ถึงไม่เคยได้อภิญญามาก่อนก็ทำไปเถอะ อย่างน้อยก็ได้อานิสงส์ของการภาวนาอยู่

ส่วนเรื่องเคล็ดลับของคาถานั้นยาวเหยียดยืดยาด เวลา ๑ ชั่วโมงไม่น่าจะอธิบายหมด เอาไว้ถ้าไปขอบคุณเมื่อไรจะอธิบายให้ฟัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 03-07-2016, 23:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีครั้งหนึ่งตอนที่ผมกลับเมืองไทยจากเดนมาร์ก ช่วงนั้นผมอายุ ๑๕ ผมนั่งสมาธิโดยที่ไม่ได้มีความรู้ด้านพระพุทธศาสนามากมายนัก แล้วภาวนาพุทโธ จนเข้าถึงฌานสมาบัติ แล้วเกิดญาณที่เป็นเครื่องรู้ขึ้นมา เพราะตอนนั้นผมมองไปที่พี่สาวผมคนหนึ่ง แล้วเห็นภาพซ้อนทับพี่สาวผม เป็นผู้หญิงแต่งตัวแบบโบราณ เหมือนสมัยรัชกาลที่ ๕ ความรู้สึกบอกผมเลยว่า พี่สาวผมต้องเคยมีความสัมพันธ์กับร.๕ แน่นอน แล้วแม่ของพี่สาวผมก็มาบอกทีหลังว่า ก่อนที่พี่สาวผมจะมาเกิด เขาฝันเห็น ร.๕ จูงเด็กผู้หญิงเอาลูกมาฝาก

และช่วงนั้น ผมทำสมาธิจะได้ยินเสียงดนตรีและเสียงสวดมนต์บ่อย ๆ เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมงได้เลย ตอนแรกผมเอะใจว่า บ้านเราไม่ได้อยู่ใกล้วัดแล้วเสียงมาจากไหนกัน แล้วพอผมกลับเดนมาร์ก แล้วผมก็นั่งสมาธิแล้วได้ยินเสียงดนตรี และเสียงสวดมนต์เหมือนเดิมเป็นเวลา ๑๕ นาที ผมเอะใจแล้วมองออกไปข้างนอก แล้วไม่เห็นมีอะไร ผมก็ไม่ใส่ใจอะไร ขณะนั่นจิตใจผมนิ่งมากรู้สึกเฉย ๆ หลังจากนั่นได้อ่านมาว่า เสียงดนตรีและสวดมนต์ นั่นมาจากสวรรค์ชั้นยามา และที่น่าขำมากที่สุดคือ ช่วงนั้นญาติ ๆ ผมคิดว่าผมเป็นบ้า พาผมไปหาหมอจิตแพทย์ เพราะผมไม่รู้กาลเทศะ

ณ จุดนี้ ผมมั่นใจว่าผมมีของเก่าแน่ ๆ เลยอยากถามหลวงพ่อครับว่า จะป้องกันการเกิดมานะทิฐิอย่างไรครับ ? เพราะผมอ่านหนังสือสมบัติพ่อให้ของหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านย้ำหลายครั้งเลยว่า ถ้าสร้างอภิญญาหรือความสามารถเหนือมนุษย์ได้ ต้องอย่ามีมานะทิฐิ

ตอบ : ตูจำเป็นต้องรู้เรื่องพวกนี้ไหม ? ส่วนใหญ่แล้วพวกเรามักจะจับแพะชนแกะไปเรื่อย เรื่องของการภาวนาพอสภาพจิตเริ่มเป็นอุปจารสมาธิ บุคคลที่มีของเก่าอยู่จะเกิดทิพโสต คือได้ยินเสียงต่าง ๆ ที่คนทั่วไปไม่ได้ยิน เกิดทิพจักขุ คือ เห็นในสิ่งที่คนทั่วไปเขาไม่เห็นกัน เพราะฉะนั้น...ไม่ใช่แค่พ่อแม่คุณเท่านั้นหรอกที่ว่าบ้า ไปบอกใครเขาก็ว่าบ้าเพราะเขาไม่ได้เห็นด้วย ไม่ได้ยินด้วย

ดังนั้น...ตอนแรกก็ควรจะตั้งสติ แล้วพยายามทำความเข้าใจว่า เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นเขาเห็นหรือได้ยินกัน จึงไม่ควรเอาไปเที่ยวบอก
เล่าแก่คนอื่นทั่วไป ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็โดนจับไปหาจิตแพทย์อีก แล้วคนเราเวลาไปหาหมอก็มักจะยืนยันกับหมอว่า "ผมไม่บ้า" แต่หมอเขาก็ยืนยันว่าคนบ้าพูดอย่างนี้ทุกคน ฉะนั้น...โปรดระมัดระวังด้วยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดกับเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 209 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 03-07-2016, 23:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นักปฏิบัติเวลาทำสมาธิ ควรจะวางกำลังใจแบบไหนดีกว่ากันครับ ? ระหว่าง "ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น" หรือควรจะวางกำลังใจแบบพระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้ "ถึงแม้ว่าเลือดในร่างกายจะเหือดแห้งไป ก็จะปล่อยให้มันเหือดแห้งไป จะไม่ลุกขึ้นโดยเด็ดขาด ถ้าตราบใดที่ยังไม่ตรัสรู้ พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ "
ตอบ : ให้เลือกเอาที่สบายใจ ดูว่ากำลังใจของเรามีความบ้าพอไหม ? ถ้าบ้าพอก็ "ถ้าไม่บรรลุก็จะไม่ลุก" แต่ถ้าบ้าไม่พอ "ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 03-07-2016, 23:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตัวกระผมเล่นเกมมาตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน สามารถเล่นได้ทั้งวัน และผมมีฉันทะกับการเล่นเกมมาก แต่อยากมีฉันทะในการภาวนา เหมือนกับตอนเล่นเกมด้วย ควรจะทำอย่างไรครับ ? เพราะเวลาผมนั่งสมาธิได้สัก ๕ นาที ผมก็รู้สึกสดชื่นสมองปลอดโปร่ง เลยเลิกนั่งสมาธิแล้วกลับไปเล่นเกมต่อ
ตอบ : สุดยอด สมควรตายจริง ๆ...! ทั้ง ๆ ที่รู้แล้วดันไม่ทำต่อ แล้วมาถามหาอะไร ? แบบนี้เรียกว่า "ดีชั่วก็รู้หมด แต่อดใจไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 03-07-2016, 23:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีครั้งหนึ่งหลายปีมาแล้ว ผมฝันเห็นพระรูปหนึ่งเหมือนหลวงพ่อวัดท่าซุง ในความฝันผมขับรถไปส่งท่านที่วัด หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ฝันเห็นหลวงพ่ออีกเลย สงสัยว่าหลวงพ่อท่านเก็บลูกศิษย์ด้วยวิธีนี้เปล่าครับ ? แล้วการฝันขับรถไปส่งพระที่วัด มีความหมายปริศนาธรรมอะไรหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่หมายถึงเลข ๘ กับเลข ๙ ออกไปแล้ว...! ส่วนใหญ่ถ้าลูกศิษย์เคยมีความเนื่องกับหลวงพ่อวัดท่าซุงมา ก็มักจะฝันเห็นท่านบ้าง นิมิตเห็นท่านบ้าง ส่วนจะเป็นวิธีเก็บลูกศิษย์ของท่านหรือเปล่า ต้องไปสอบถามท่านเองโดยตรง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 03-07-2016, 23:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม :แม่บางคนก่อนที่จะคลอดหรือตั้งท้องมักจะฝันเห็นสิ่งต่าง ๆ นานา อย่างแม่ของพระพุทธเจ้า ท่านก็ยังฝัน ผมเลยสงสัยว่า แม่ที่ฝันก่อนที่จะคลอดลูก แปลว่าเด็กที่จะมาเกิด มาจาก สวรรค์ หรือ พรหมใช่ไหมครับ เลยสามารถทำให้แม่ฝันได้ ?
ตอบ : ถ้าเกิดฝันว่าตัวดำปี๋ ตาขาววอก โผล่จากใต้ดินขึ้นมา แล้วจะมาจากพรหมได้อย่างไรวะ ? ต้องขึ้นอยู่กับสภาพความฝันของเราด้วย ว่าฝันเกี่ยวกับอะไร อย่างกรรมนิมิต ไม่ใช่ฝันถึงเมื่อไรก็ฟันธงว่ามาจากเทวดา มาจากพรหมไปเสียหมด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 03-07-2016, 23:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม :ผมสงสัยครับว่าสมัยพระพุทธเจ้า เวลาท่านเทศน์ทศชาติชาดก อย่างเวสสันดรชาดกซึ่งกินเวลานานมาก ๆ ในการเทศน์ พระพุทธองค์ท่านเทศน์ทีเดียวจบหรือว่าเทศน์เป็นกัณฑ์ ๆ เหมือนในสมัยปัจจุบันหรือครับ ?
ตอบ : ไปดูในพระไตรปิฎกได้ เขามีบอกรายละเอียดไว้ว่าพระองค์ท่านเทศน์เมื่อไร เทศน์ที่ไหน เทศน์อย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 203 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 03-07-2016, 23:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อธิษฐานบารมีกับสัจบารมี แตกต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : แตกต่างกันตรงที่ว่า อธิษฐานบารมี เป็นความตั้งใจ ส่วนสัจบารมี เป็นการทำความตั้งใจนั้นให้เห็นผลจริง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-07-2016 เมื่อ 01:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 219 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 05-07-2016, 00:08
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่ให้ฝึกกรรมฐานเพียงข้อใดข้อหนึ่ง ไม่ควรเปลี่ยนแปลงบ่อย ๆ นั้น หากกรรมฐานหลักของผมคืออานาปานสติ ควบคู่กับคำบริกรรม “พุทโธ” ผมก็ไม่ต้องสนใจเจริญพรหมวิหารเลย หรือว่าควรหาเวลาซักซ้อมบ้างมากน้อยเพียงใด ?
ตอบ : ควรซักซ้อมเอาไว้บ้าง เพราะว่าเป็นเครื่องหนุนเสริมอานาปานสติของเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 05-07-2016, 00:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีความรู้สึกเหมือนมีความโกรธ ผูกโกรธ ห่มในใจอยู่เนือง ๆ ตลอดทั้งวัน เป็นมานานแล้วครับ ควรทำอย่างไร ? จะใช้พรหมวิหารได้หรือไม่ หรือว่าใช้อานาปานสติ ? มีความรู้สึกว่าใช้พรหมวิหารจะมีผลต่ออาการขุ่น ๆ ที่อยู่ในใจมากกว่า แต่ไม่สามารถทรงไว้ได้นาน ?
ตอบ : นี่เขาเรียกว่าถามทั้งที่รู้ ทำอย่างไหนที่ดีต่อการปฏิบัติของตนเองก็ทำไป ไม่ใช่เสียเวลามาถามคนอื่นเขา เดี๋ยวได้กรรมฐานผิดไปก็เตลิดเข้าป่าเข้าดงไปอีก..!

ถาม : ที่พระอาจารย์เคยกล่าวถึงการเจริญเมตตาว่า “การฝึกซ้อมถ้ากำลังไม่มี ก็มีแต่จะโดนคู่ต่อสู้น็อกไปตลอด” นั้น อยากทราบว่าการพักจากการฝึกซ้อมก็คือการกำหนดรู้ลมหายใจ ใช่หรือไม่ ?
ตอบ : ฟังไม่ได้ศัพท์จับเอาไปกระเดียดตามเคย...! ที่ว่ามาหมายถึงเฉพาะคนถามในช่วงนั้น กำลังใจการปฏิบัติไม่มีเลย แล้วคิดจะไปทำ ก็เหมือนกับคนไม่เจียมสังขาร ต่อยมวยไม่เป็นแต่ขอไปวัดกับแชมป์โลกบนเวที

จำไว้ว่าการปฏิบัติถ้าไม่ทำถึงที่สุดแล้ว เราไม่สามารถที่จะสู้กิเลสได้ด้วยประการทั้งปวง ไม่ว่าเวลาใดเวลาหนึ่ง ก็ต้องมีกิเลสอย่างใดอย่างหนึ่ง โผล่เข้ามารบกวนเราอยู่เสมอ ดังนั้น...ถ้าเราไปตั้งใจว่าทำแล้วต้องได้ผล ต้องเกิดผลเลย เหมือนกับการกินยาไทยต้องค่อย ๆ กิน เพื่อสะสมรอ จนกระทั่งฤทธิ์ยาเพียงพอที่จะรักษาโรค ถึงจะระงับอาการของโรคนั้นได้

แต่เราเองคิดว่ากินไปแล้วต้องหายทันที จะเป็นไปได้อย่างไร ? โปรดเข้าใจเสียใหม่ว่า กรรมฐานทุกกองสามารถใช้งานได้จริงก็ต่อเมื่อเราทำอย่างจริง ๆ จัง ๆ จนเกิดผลเท่านั้น ไม่ใช่เริ่มเอื้อมมือไปแตะก็ใช้ได้เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 05-07-2016, 00:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาทำสมาธิจะมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เป็นทุกข์อยู่ในใจ และเหมือนกับว่าเราใช้กำลังบีบข่มเอาไว้ตลอด เพื่อไม่ให้กำเริบ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร จะว่าเป็นกิเลสตัวไหนก็ไม่แน่ใจ ควรจะทำอย่างไร ?
ตอบ : ก็ข่มเอาไว้ต่อไป เพราะถ้าปล่อยให้อาละวาดได้ ถึงรู้ชัดก็แปลว่าซมซานไปแล้ว เพราะเวลากิเลสตีเราเขาไม่เคยปราณี มัวแต่อยากจะรู้ว่าคนตีกบาลเราเป็นใคร แล้วก็ไปปล่อยให้เขาเข้ามา เดี๋ยวก็ได้โดนอีกจนได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 177 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 05-07-2016, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลังจากทำสมาธิสักพักหนึ่ง พอรู้สึกว่ามีกำลัง ผมก็พิจารณาเส้นผม แล้วกำหนดให้แตกสลายกลายเป็นดินไป พอกลายเป็นดินก็จะมีความรู้สึกบางอย่าง เหมือนกับว่าใจสบายขึ้น แต่เป็นแค่ระยะสั้น ๆ เพียงเสี้ยววินาที ถือว่าทำถูกต้องหรือไม่ และเป็นการเจริญวิปัสสนาหรือไม่ ?
ตอบ : ถ้าหากพิจารณาได้อย่างนั้นก็ถือว่าเป็นการเจริญวิปัสสนา การเจริญวิปัสสนาจะมากหรือน้อย เพียงเท่าช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น ก็มีอานิสงส์ทั้งสิ้น วิธีที่ดีที่สุดคือพยายามทบทวนบ่อย ๆ ทำให้ต่อเนื่องกัน แล้วรักษาอารมณ์ใจอย่างนั้นเอาไว้ ไม่ใช่ทำเสร็จแล้วก็มาเสวยผลจนกระทั่งหมด พอหมดแล้วกิเลสก็ตีเราหงายท้องต่อไปอีก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 05-07-2016, 00:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่ทำตัวเหมือนเด็ก เพื่อให้ผู้ใหญ่เอ็นดู ทั้ง ๆ ที่ก็โตแล้ว เป็นลักษณะของโมหะใช่หรือไม่ ต้องแก้ไขอย่างไร ?
ตอบ : โมหะมีมาตั้งแต่ก่อนเกิดแล้ว...! ทำไปเถอะ...อย่างน้อยก็ดีกว่าทำให้คนเกลียด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 05-07-2016, 00:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นอกจากการปฏิบัติตัวเป็นคนดีของบ้านเมืองและพุทธศาสนา และร่วมกันสวดบทโพชฌังคปริตร และร่วมกันอุทิศบุญใหญ่ต่าง ๆ เพื่อเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงของเราแล้ว ประชาชนชาวไทยสามารถทำอะไรเพิ่มเติมได้มากกว่านี้ เพื่อช่วยให้ในหลวงได้รับพลังมากขึ้น มีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงขึ้น และมีพระชนมายุยิ่งยืนนานขึ้นอย่างมีความสุขมาก ๆ ครับ ?
ตอบ : สร้างสมาบัติแปดให้เกิดแล้วก็ไปช่วยท่าน...!

ถาม : การร่วมลงนามถวายพระพรที่โรงพยาบาลศิริราช หรือสถานที่ต่าง ๆ ถ้าจะทำให้ได้ผลต่อในหลวงสูงสุด เราควรตั้งจิตและเขียนอย่างไรจึงจะได้ผลดีที่สุดต่อในหลวงครับ ? ขอเรียนถามเป็นความรู้เพิ่มเติมครับ
ตอบ : เขียนยันต์รักษาโรค...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 05-07-2016, 00:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หากแฟนของหนูซึ่งเป็นผัวเมียกันแล้ว วางแผนอนาคตร่วมกัน ผู้ชายได้ตั้งใจทำงานในช่วง ๑ ปีที่ผ่านมา เก็บเงินแต่งงาน เพื่อทำให้ถูกตามประเพณี และให้เกียรติพ่อแม่ของหนู ต่อมาฝ่ายชายเครียดเรื่องงาน เรื่องเงิน เพราะไม่สามารถทำได้อย่างที่เขาคิดไว้ จึงตัดสินใจว่าจะบวช และบอกว่าจะบวชไม่สึก ทั้งที่ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกันเลย แต่คิดว่าชีวิตนี้ไร้แก่นสาร มีแต่ความทุกข์ หนูควรจัดการกับปัญหานี้อย่างไรดีเจ้าคะ ?
ตอบ : หาผัวใหม่...!

ถาม : หนูควรรอให้สามีของหนู บวชไปก่อนให้เขาสบายใจ แล้วค่อยไปคุยกับเขาใหม่จะดีไหมเจ้าคะ ?
ตอบ : สงสัยชาตินี้ไม่มีโอกาสแน่..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 189 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 05-07-2016, 00:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราไปกราบพระพุทธรูปและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามวัดต่าง ๆ ทั้งที่มีพระธาตุเจดีย์ตั้งอยู่หรือวัดที่ไม่มีก็ตาม คนเดินทางไปกราบไหว้เพื่อบูชาคุณพระพุทธ บูชาคุณพระธรรม บูชาคุณพระสงฆ์ วัดส่วนใหญ่ก็จะมีดอกไม้ ธูป เทียน คอยให้บริการ และให้ทำบุญ ซึ่งจะแตกต่างจากสมัยโบราณ ที่ผู้จะไปทำบุญต้องเตรียมไปจากบ้าน

ข้อสงสัยของผมคือ ดอกไม้ที่เป็นอามิสบูชา ที่ได้บูชา อธิษฐานขอพรพระ และได้ถวายพระไปแล้วนั้น ถูกเวียนกลับมาใช้อีก คนที่รับดอกไม้ไปบูชาพระต่อ (หลายคนถัดจากคนแรก) จะเป็นโทษไหมครับ ? เพราะถือว่าคนแรกได้ถวายบูชาไปแล้ว
ตอบ : เขาใช้คำว่าผาติกรรม คือแลกเปลี่ยนกัน ก็ในเมื่อแลกเปลี่ยนกันตามกติกาก็ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเรา

สมัยก่อนที่จัดหาไปเองเพราะวัดวาอารามไม่ได้จัดเตรียมไว้ให้ สมัยนี้เพื่ออำนวยความสะดวกท่านจัดเตรียมเอาไว้ ดังนั้น...ในส่วนนี้ไม่ควรจะไปคิดหานรกใส่ตัวเอง เรื่องดี ๆ ก็คิดจนเสียได้เหมือนกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 05-07-2016, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การปล่อยปลาในสถานที่ ที่เป็นแม่น้ำไหลผ่านซึ่งมีคนมาจับปลาต่อ กับเขตอภัยทานซึ่งไม่มีคนมาจับปลาต่อ แตกต่างกันหรือไม่ครับ ? อันไหนเหมาะสมหรือดีกว่าครับผม
ตอบ : แค่นี้ตัดสินใจไม่ได้ก็ไปตายซะ...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 05-07-2016, 00:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นในจิต เช่น ความอาลัย ความคิดถึง ความผูกพัน แบบนี้ถือว่าเป็นจิตกำหนัดไหมครับ ?
ตอบ : จิตกำหนัด หมายถึง มีอารมณ์ทางเพศ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 05-07-2016 เมื่อ 03:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 21:29



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว