กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 15-04-2013, 21:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๖

ถาม : กระผมอยากทราบว่าภพภูมิเบื้องข้าง ที่เรียกว่าหมื่นโลกธาตุคืออะไรครับ ? และจากที่เคยได้ยินว่าภพมนุษย์มีหลายทวีป มีทวีปใดบ้างครับ ? และแต่ละทวีปมีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ? บุพกรรมของการเกิดที่นั่นเป็นอย่างไร ? และทวีปของเราที่เรียกชมพูทวีปนั้น ดีกว่าทวีปอื่น ๆ อย่างไรครับ ?
ตอบ : ภพเบื้องข้างหมายถึงดวงดาวทั้งหมด พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีอยู่แสนโกฏิจักรวาล แต่ละจักรวาลประกอบด้วยดวงดาวใหญ่น้อยมากน้อยไม่เท่ากัน ท่านกล่าวไว้ว่าแต่ละดวงดาวที่มีมนุษย์อยู่นั้น เกิดจากกำลังความดีที่ทำไว้ไม่เท่ากัน บางดวงดาวก็ยังต้องลำบาก ก็คือยังทำมาหากินเป็นปกติ บางดวงดาวเทคโนโลยีสูง ต้องการอะไรแค่กดปุ่มก็ได้แล้ว บางดวงดาวก็มีความเป็นทิพย์กึ่งเทวดา ต้องการข้าวปลาอาหารแค่นึกก็เกิดขึ้นเอง

ส่วนทวีปเท่าที่ปรากฏ มีกล่าวถึงอุตรกุรุทวีป อมรโคยานทวีป ปุพพวิเทหทวีป เป็นต้น ส่วนชมพูทวีปดีกว่าที่อื่นตรงที่เป็นมงคลจักรวาล เป็นทวีปที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาตรัสรู้แห่งเดียวเท่านั้น ฉะนั้น..อย่างนี้จะเรียกว่าดีหรือเปล่าก็ไม่รู้
?

ถาม : แล้วบุพกรรมในการเกิดของแต่ละทวีป ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ก็เรื่องของทาน ศีล ภาวนาเหมือนกัน ความดีของเขายังไม่เพียงพอจะเป็นเทวดา แต่ก็ดีเกินกว่าจะมาอยู่ร่วมกับพวกเรา เพราะว่าบางแห่งบางดวงดาวกฎหมายของเขาคือศีล ๕ บางดวงดาวกฎหมายของเขาคือกรรมบถ ๑๐ เขาจึงดีเกินกว่าจะมาอยู่ร่วมกับเรา

การทำความดีความชั่วของเขาก็ไปนรกสวรรค์เหมือนกัน ถ้าเข้าถึงการหลุดพ้นก็ไปพระนิพพานได้เหมือนกัน แต่ยากมาก..เพราะบางที่มีความสุขจนบอกว่าทุกข์ก็มองไม่เห็น จะบอกว่าไม่เที่ยงอายุขัยของเขาก็หลายหมื่นปี เป็นต้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2013 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 267 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 15-04-2013, 21:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เคยอ่านเจอว่ามีพระวินัยห้ามมิให้พระสงฆ์แสดงธรรรมแก่ผู้ที่มีกิริยาไม่เคารพในธรรม หรือแสดงธรรมไปพร้อมกับพระสงฆ์ หากพระสงฆ์ให้พรด้วยบทสรรเสริญหรือบทพุทธคุณต่าง ๆ แล้วเราสวดไปพร้อมกับพระ จะทำให้พระท่านเข้าข่ายผิดพระวินัยหรือไม่เจ้าคะ ?
ตอบ : ในเรื่องพระภิกษุแสดงธรรมพร้อมกันแล้วต้องอาบัตินั้น ไม่ได้แปลว่าสวดมนต์พร้อมกับชาวบ้าน แต่หมายถึงพระแย่งกันสอนชาวบ้าน ดังนั้น..การสนทนาธรรมกับญาติโยม ถ้าไม่ใช่เขาถามเฉพาะเจาะจงขึ้นมา ก็จะมีพระหนึ่งรูปที่คุยกับโยมอยู่ ถ้าถามเจาะจงขึ้นมา รูปที่กำลังสนทนาอยู่ต้องหยุด รอท่านอื่นตอบคำถามเสร็จแล้วจึงว่าต่อได้

ไม่ใช่ว่าสวดมนต์พร้อมกันแล้วโดนอาบัติ เพราะว่าการสวดมนต์ทำวัตรต้องสวดพร้อมกันอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นวัดท่าขนุนโดนอาบัติทุกวันเป็นแน่แท้


ถาม : ในฐานะที่เป็นโยมควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?
ตอบ : อย่าไปสอนพระก็พอ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2013 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 255 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 15-04-2013, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามีคนถามหาเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนควรทำอย่างไรคะ ?
ก.ให้ไปถามพระอาจารย์เล็ก
ข.ตอบว่าไม่ทราบจ้ะ
ค.มองซ้ายมองขวาแล้วหาตัวช่วย
ง.ถูกทุกข้อ

ตอบ : ให้คนถามมาถามอาตมาใกล้ ๆ หน่อย จะได้คำตอบที่ชัดมากเลย..! เขาเรียกว่ากินอิ่มเกินไปจนไม่มีอะไรจะทำ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-04-2013 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 259 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 18-04-2013, 08:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามีชาวพุทธมาถวายสังฆทานในขณะที่พระทุกรูปในวัดกำลังทำพิธีบวชพระ ควรทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : รอจนกว่าพระจะบวชเสร็จ ถ้ารอไม่ไหวไปถวายที่วัดอื่นก่อน เพราะสังฆกรรมเป็นสิ่งที่พระทั้งวัดต้องมีความเห็นร่วมกันว่าตกลงหรือไม่ตกลง อย่างเช่นจะรับบุคคลนี้เข้าเป็นอุปสัมบัน
หรือไม่ ? เพราะฉะนั้น..พระไม่สามารถที่จะปลีกตัวมารับสังฆทานได้อยู่แล้ว แม้กระทั่งพระที่ป่วยก็ต้องมอบฉันทะให้กับเพื่อนพระไป เพื่อที่จะบอกว่าถ้าเพื่อนพระมีความเห็นอย่างไรเราก็มีความเห็นตามนั้น


ถาม : ในพระวินัยมีไหมครับที่พระทำสังฆกรรมอยู่เกิดเหตุฉุกละหุก หยุดได้ ?
ตอบ : เขาจะระบุเอาไว้เฉพาะเรื่องการแสดงปาฏิโมกข์ แต่การแสดงปาฏิโมกข์ก็ไม่ใช่ว่าจะหยุด แต่ให้สวดย่อได้ เขาเรียกว่า ชักสุตบท อย่างเช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ อาคารที่กำลังทำสังฆกรรมพังลงมา สัตว์ร้ายเข้ามาในบริเวณนั้น เช่น เสือหรืองูเข้ามา พระราชาเสด็จต้องวางมือเข้าไปต้อนรับ หรือภิกษุเกิดผีเข้าในบริเวณนั้นก็ต้องหยุดก่อนเพื่อที่จะไปช่วยพยาบาล

ถาม : ผมสงสัยครับ ภิกษุสวดปาฏิโมกข์อยู่ในโบสถ์ผียังเข้าหรือครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่เป็นผีระดับด็อกเตอร์ ยิ่งกว่าโบสถ์เขาก็เข้าได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2013 เมื่อ 10:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 243 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 18-04-2013, 09:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บุพการีกับกตัญญูกตเวที ทำไมถึงจัดเป็นบุคคลหายากคะ ?
ตอบ : คนทั่วไปที่ทำประโยชน์โดยไม่หวังผลตอบแทน คิดว่ามีมากไหม ? ถ้ามีไม่มากก็หายาก บุคคลที่เขารู้ว่าเขาทำความดีกับเราแล้วพยายามหาทางตอบแทนเขาให้ได้ ก็ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่
ดังนั้น..บุรพการีหรือบุพการี คือผู้ที่ตั้งใจทำคุณแก่เราโดยไม่หวังผลตอบแทน กับกตัญญูกตเวที คือบุคคลที่รู้คุณแล้วพยายามแทนคุณท่าน ทั้งสองอย่างจึงเป็นบุคคลที่หาได้ยาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2013 เมื่อ 10:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 246 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 18-04-2013, 09:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เนื่องจากผมไม่เข้าใจเรื่องการสวดมนต์ไปพร้อมกับการกำหนดลมหายใจและการนับลูกประคำ ไม่ทราบจะปรึกษาใคร ก็เลยนึกเอาเองว่า สวดไป ๑ จบก็เลื่อนนับลูกประคำไป ๑ ลูก
โดยกระผมหลับตาสวดไปเรื่อย ๆ ใจก็จดจ่อไปที่ลูกประคำ แต่ก็ไม่ได้ผลเรื่องลมหายใจ ปรากฏว่ามีดวงแก้วสว่างใส ๆ เกิดขึ้นในขณะที่สวด จึงดูดวงแก้วนั้นไปด้วยพร้อมกับสวดต่อไป พอสมาธิไม่นิ่ง ดวงแก้วนั้นก็หายไปครับ จึงขอกราบเรียนถามว่าการสวดมนต์ให้ตามลมหายใจเข้าออก หมายความว่าให้สวดตามปกติ แล้วให้กำหนดเรื่อย ๆ ว่าตอนนี้หายใจออกหายใจเข้า ถูกต้องไหมครับ ?
ตอบ : ถูก..จริง ๆ คือใช้คำสวดนั้นเป็นคำภาวนา

ถาม : การนับลูกประคำเพื่อทราบว่าเราสวดบทนั้น ๆ ไปกี่จบ แล้วถูกต้องหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถูกส่วนเดียว อีกอย่างหนึ่งเป็นการปฏิบัติในอิริยาบถและสัมปชัญญะในมหาสติปัฏฐานสูตร รับรู้อาการเคลื่อนไหวของตัวเราไปด้วย

ถาม : การนับนิ้วหรือครับ ?
ตอบ : การนับลูกประคำนั่นแหละ มือเราดึงลูกประคำมาอย่างไร ลูกประคำสัมผัสมือเราอย่างไร ให้กำหนดรู้โดยตลอด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2013 เมื่อ 10:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 253 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 18-04-2013, 09:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระรูปหล่อรัชกาลที่ ๕ ควรหันหน้าไปทางทิศใด และถ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันตกมีผลอย่างไร ?
ตอบ : หันหน้าไปทางทิศที่เราไหว้สะดวก ส่วนจะไปหันหน้าไปทางทิศไหน ถ้าถือแบบตามหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้หันหน้าพระพุทธรูปไปทางเหนือหรือตะวันออก เราก็ยึดถือนั่นเป็นหลักก็แล้วกัน เพราะรัชกาลที่ ๕ ปัจจุบันก็ถือว่าท่านเป็นพระเหมือนกัน

ถาม : แล้วถ้าไม่สามารถหันหน้าไปทางทิศเหนือหรือตะวันออกได้จริง ๆ ?
ตอบ : ลองบูชาไปสักระยะ เดี๋ยวก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2013 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 250 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 18-04-2013, 09:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บวชชีโดยที่พ่อแม่ไม่อยากให้บวช บาปหรือไม่ ?
ตอบ : การบวชชีถือว่าทำความดี อย่างน้อยก็รักษาศีลแปด ถามว่าบาปไหม ? ความดีไม่มีชั่ว เพราะฉะนั้น..ก็ไม่บาป แต่การที่เราขัดใจบิดามารดาออกไปลักษณะนั้น ถ้าเกิดสึกขึ้นมาก็จะเข้าบ้านไม่ได้

ถาม : บวชพระนี่ต้องขอก่อนใช่ไหมครับ ?
ตอบ : บวชพระบวชเณรต้องขอก่อน ถ้าพ่อแม่ไม่อนุญาตก็บวชไม่ได้

ถาม : แต่ถ้าพ่อแม่ไม่เห็นด้วยหรือเป็นมิจฉาทิฐิ ?
ตอบ : ถ้าเป็นมิจฉาทิฐิ หาผู้อาวุโสสุดในบ้านที่เป็นสัมมาทิฐิแล้วขออนุญาตท่าน ถ้าคนในบ้านเป็นมิจฉาทิฐิทั้งหมด เราค่อยตัดสินใจด้วยตนเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2013 เมื่อ 10:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 242 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 18-04-2013, 10:11
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเรามีมวลสารไม่มาก แต่ต้องการขยายมวลสารนั้นเพิ่มให้เหมือนกับการขยายน้ำมนต์หรือน้ำมันชาตรีจะได้ไหมครับ ?
ตอบ : ได้..ปัจจุบันเขาก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น เพราะบางวัดสร้างพระเป็นหมื่น ๆ องค์ เอามวลสารเยอะอย่างไรก็ไม่พออยู่แล้ว ส่วนใหญ่เขาก็ใช้หยิบมือหนึ่ง ผสมกับอย่างอื่น เป็นตัน

ถาม : ถ้ามวลสารเป็นผงหรือโลหะก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน ?
ตอบ : เหมือนกัน..ถ้าโลหะก็ผสมแล้วไปหลอม ถ้าเป็นผงก็ผสมลงไปกวน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-04-2013 เมื่อ 10:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 253 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 19-04-2013, 20:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แป้งเจิมที่เข้าพิธีรับยันต์เกราะเพชรมาแล้ว ถ้าแป้งเจิมนั้นแห้ง เวลาเติมน้ำมนต์เพื่อละลาย จำเป็นต้องเป็นน้ำมนต์ที่เข้าพิธีรับยันต์เกราะเพชรไหมครับ ?
ตอบ : น้ำมนต์อะไรก็ได้

ถาม : ถ้าน้ำมนต์หมด ใช้น้ำเปล่าได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าหมดท่าจริง ๆ เสกเองก็ได้ ให้ขอบารมีพระ ว่าอิติปิโสสักหนึ่งจบแล้วก็ผสมไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2013 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 241 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 19-04-2013, 21:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลังจากหมดอานิสงส์กฐินแล้ว การรักษาผ้าครองจะเหมือนการรักษาผ้าครองภายในเวลาเข้าพรรษาหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เหมือนกันทุกประการ

ถาม : ต้องรักษาผ้าครองก่อนอรุณเหมือนเดิม ?
ตอบ : พูดง่าย ๆ ว่า ถ้าสว่างแล้วจะเก็บงำผ้าครองให้มิดชิด ก็ต้องอยู่ในสถานที่ซึ่งคุ้มได้ด้วยดาล ก็คือมีประตูที่ใส่กุญแจได้ เวลายามค่ำคืนก็ต้องอยู่ใกล้ตัว ไม่เกินระยะเอื้อมถึง เพื่อป้องกันโดนขโมย

ถาม : สมัยก่อนหาผ้ายาก ?
ตอบ : ไม่ใช่แค่หายาก แต่แขกขโมยกันเป็นปกติ แม้กระทั่งทุกวันนี้ ลองไปขึ้นรถไฟแขกดู เผลอแวบเดียวของก็หายแล้ว ขนาดเขาเอาโซ่ผูกหมาล่ามกระเป๋าติดข้อมือยังเหลือแต่โซ่เลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2013 เมื่อ 02:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 19-04-2013, 21:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นผลของกรรมทั้งดีและร้ายในอดีต แล้วจะมีช่องว่างให้เราทำกรรมใหม่ในปัจจุบัน ที่เป็นการตัดสินใจของเราเองอย่างสมบูรณ์ ซึ่งไม่ใช่ผลของกรรมในอดีตบ้างไหมคะ ?
ตอบ : มีเต็มร้อย..แต่จังหวะนั้นมีน้อย ต้องรอจังหวะที่วาระบุญวาระกรรมขาดช่วงลงพอดี ซึ่งถ้าไม่ใช่บุคคลที่ฝึกในยถากัมมุตาญาณมาจนคล่องตัวจะไม่รู้ถึงจังหวะนี้

ถาม : ถ้าเกิดไม่ทราบในยถากัมมุตาญาณจะทำอย่างไรครับ หรือทำดีไว้ก่อน ?
ตอบ : ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส

ถาม : สาเหตุที่ถามเพราะคุณพ่อชอบบอกว่า ที่เป็นอย่างนั้นเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กำหนดไว้หมดแล้ว เราเป็นเหมือนตัวละครเล่นตามบทไป แม้กระทั่งความคิดที่จะทำดีหรือทำชั่ว ก็เพราะผลของกรรมเก่ากำหนดให้ทำอย่างนั้น ก็เลยอยากจะหาผู้มีความรู้มาอธิบายว่า กรรมเราเองเราน่าจะเป็นคนกำหนด แต่ไม่แน่ใจว่าเราเล่นตามบทที่กำหนด กรรมเขากำหนดไว้อย่างเดียว หรือเราในปัจจุบันมีโอกาสเขียนบทใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง เพื่อกำหนดผลต่อไปบ้างไหม ?
ตอบ : เขียนบทเองได้เลย ไม่มีปัญหา ถ้าเขียนบทได้ยาวนานพอผลดีก็จะเกิดกับเราเอง แต่เท่าที่ฟังมาอย่าเอาคำตอบนี้ไปเถียงพ่อให้เสียเวลา ท่านไม่ฟังหรอก

ถาม : เราสามารถที่จะเลือกทำได้ ไม่ใช่กรรมกำหนดอย่างเดียว ?
ตอบ : ทำได้..อาตมาเองฝืนกรรมมาหลายยกแล้ว ถ้าไม่ฝืนป่านนี้ก็มีหลานแล้ว ไม่ใช่แค่มีลูกเฉย ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2013 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 19-04-2013, 21:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ห้องของผมในปัจจุบันถูกกำหนดให้นอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก จะมีวิธีแก้ไขการนอนให้เป็นมงคลทั้ง ๆ ที่ต้องหันศีรษะไปทางทิศตะวันตกได้อย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : อาตมานอนหันศีรษะทิศตะวันตกมาตลอด..!

ถาม : ไม่เป็นไรหรือครับ ?
ตอบ : ก็หิ้งพระหันหน้าตะวันออก แปลว่าหิ้งพระอยู่ตะวันตก ถ้าหันหัวไปตะวันออก ก็หันเท้าเข้าหาพระ..ใช่ไหม ? ฉะนั้น..ต้องถือพระเป็นใหญ่ หันตะวันตกไปเลย
ถ้าโบราณเขาจะหันทิศใต้ ก็คือไม่ขวางเส้นแรงแม่เหล็กโลก แสดงว่าโบราณเขามีความรู้อยู่ แต่ถ้ากำลังใจของเราทรงตัวแล้ว ทิศไหนก็หันไปเถอะ


ถาม : ทิศไหนไม่เกี่ยว ?
ตอบ : คนทั่วไปที่หากำลังใจไม่ได้ หรือกำลังใจไม่ได้เกาะความดีเป็นปกติก็จะมีผลบ้าง ถ้าคนที่กำลังใจทรงตัวแล้ว หันทิศไหนก็หันไปได้เลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-04-2013 เมื่อ 11:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 233 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 19-04-2013, 21:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การหันหน้าพระพุทธรูปหรือการตั้งศาลพระภูมิ หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ควรใช้ทิศตามดวงอาทิตย์หรือตามเข็มทิศคะ ?
ตอบ : หันหน้าศาลไปทางไหนก็ได้ที่เราบูชาถนัด ขอให้ตัวศาลอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ถ้าไม่ได้ให้ใช้ทิศเหนือ ถ้าไม่ได้ให้ใช้ทิศตะวันออก สามทิศนี้เท่านั้น ทิศอื่นห้าม

ถาม : บางปีหรือบางเดือนพระอาทิตย์จะเปลี่ยนมุม ควรจะใช้ทิศตามดวงอาทิตย์หรือตามเข็มทิศคะ ?
ตอบ : ถ้าสับสนในชีวิตมากนักก็ย้ายตามดวงอาทิตย์ไปเลย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 20-04-2013 เมื่อ 02:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 240 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 22-04-2013, 10:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผู้ต้องการบรรลุธรรม จำเป็นหรือไม่ที่จะต้องอ่านพระไตรปิฎกให้จบก่อนอย่างน้อย ๑ จบเพื่อให้รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไรที่เป็นใบไม้ในกำมือ เพื่อการบรรลุธรรมไว้บ้าง หรือความรู้ในพระไตรปิฎกจะสามารถรู้เองได้โดยไม่ต้องอ่าน ถ้าเราปฏิบัติถึงขั้นแล้วครับ ?
ตอบ : ถ้าเราทำจริง ๆ แค่หัวข้อธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งก็พอแล้ว อ่านพระไตรปิฎกดีไม่ดีก็พาฟุ้งด้วย แต่ถ้าเรามีพื้นฐานเก่าที่เป็นอภิญญาหรือปฏิสัมภิทาญาณมา ถ้าปฏิบัติถึงที่สุดจะเป็นผู้ทรงพระไตรปิฎกโดยอัตโนมัติ คนก็สงสัยว่าจะทรงพระไตรปิฎกอย่างไรโดยไม่ได้เรียน อยากจะบอกว่าในความเป็นทิพย์ช่วงนั้น สามารถบอกทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่เราได้ และโดยเฉพาะพระไตรปิฎกทั้งหมด กล่าวไม่ได้พ้นไปจากขันธ์ ๕ นี้เลย ดังนั้น..ถ้ารู้ในเรื่องร่างกายนี้ทะลุปรุโปร่งเมื่อไร ก็เท่ากับทรงพระไตรปิฎกนั่นเอง

ถาม : ก็คือไม่จำเป็นต้องอ่านให้จบ แต่ปฏิบัติไปเถอะ ?
ตอบ : เอาหัวข้อธรรมใดธรรมหนึ่งที่เราชอบและตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติให้เกิดผลก็พอแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2013 เมื่อ 19:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 234 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 22-04-2013, 10:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตัวเลข ๘๔,๐๐๐ และ ๕๐๐ มีความพิเศษอย่างไรในสามโลกบ้างครับ นอกจากจำนวนพระธรรมขันธ์ในพระไตรปิฎก เพราะเห็นตัวเลขต่าง ๆ นี้มากมาย โดยเฉพาะคำว่าห้าร้อยชาติ บริวารต่าง ๆ ?
ตอบ : มีความพิเศษตรงที่ ๕๐๐ มีความสำคัญมากกว่า ๑ และ ๘๔,๐๐๐ มีความสำคัญมากกว่า ๕๐๐...!

ถาม : แล้วทำไมต้องโจร ๕๐๐ บริวาร ๕๐๐ ?
ตอบ : เหมือนสมัยนี้ที่ทำไมต้องเลข ๙ เพราะเขาถือมงคลอย่างนั้น ก็ต้องจัดไปตามนั้น

ถาม : ไม่ได้มีพิเศษไปกว่านี้ ?
ตอบ : มี..บางจังหวะก็ถูกหวยได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2013 เมื่อ 19:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 22-04-2013, 13:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พรุ่งนี้ผมจะเข้าวัดท่าซุงเตรียมตัวบวช ท่านมีคำแนะนำอะไรไหมครับ ?
ตอบ : เอาอย่างที่หลวงปู่มหาอำพันแนะนำวันที่อาตมาไปลาบวช บอกว่า ถ้าบวชน้อยเอาให้ได้พระโสดาบัน ถ้าบวชมากก็เอาพระนิพพานไปเลย

ถาม : ผมจะไปบวชพราหมณ์ก่อน ไม่รู้จะได้บวชพระเมื่อไรครับ ?
ตอบ : อย่างไรก็ได้ ไม่ว่าจะพระหรือว่าฆราวาสโอกาสเข้าพระนิพพานมีเหมือนกัน เป็นผู้ตั้งใจปฏิบัติเขาเรียกพระโยคาวจร คือผู้เดินอยู่บนเส้นทางของการพ้นทุกข์ แต่เป็นพระบวชใหม่นี่เขาเรียกสมมติสงฆ์ ยังไม่เรียกว่าพระหรอก โยมได้เปรียบกว่าตั้งเยอะ แต่ถ้าเป็นภาคเหนือเขาเรียกเณรว่าพระ เรียกพระว่าตุ๊ สับสนดีจังเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2013 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 22-04-2013, 13:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เรื่องของการไปอยู่วัด ปฏิบัติที่วัด อย่าไปตั้งความหวังไว้สูงว่าทุกอย่างต้องดี เกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุที่ ๑ ก็คือ ไม่ว่าสถานที่จะดีแค่ไหน ครูบาอาจารย์ดีแค่ไหน แต่คนที่อยู่ในที่นั่นก็ยังเป็น “คน” ในเมื่อยังเป็น “คน” อยู่ โอกาสที่ “คน” กับ “คน” จะกระทบกระทั่งกันก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าเราไปตั้งความหวังเอาไว้สูง คิดว่าทุกคนจะต้องดีกับเราหมดอย่างกับเป็นพระอรหันต์ ก็ฝันไปเถอะ..!

ประการที่ ๒ ก็คือ บุคคลที่ตั้งใจปฏิบัติจริง มักจะเจอการทดสอบหนัก ๆ แล้วการทดสอบก็มาในแง่ของรัก โลภ โกรธ หลง ดังนั้น..จะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ทำอย่างไรที่จะให้ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราสามารถเอามาพัฒนา กาย วาจา ใจ ของเราให้ดีกว่าปัจจุบันให้ได้ ถ้าทำอย่างนั้นได้ ก็แปลว่าเราจะมีแต่ความก้าวหน้าส่วนเดียว ถือคติง่าย ๆ แบบอาตมาตั้งแต่แรกคือ ใครวางก่อนก็สบายก่อน ใครไม่วางก็ช่างหัวมัน เชิญแบกไปเถอะ..!

ใหม่ ๆ ไปอยู่วัด อาตมายังเป็นวัยรุ่น ขนาดตอนบวชอายุ ๒๗ เจอบางคนก็ยังเรียกว่าเณรอยู่เลย ตอนนี้ ๕๔ ปี ค่อยดูเป็นพระขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ตอนนั้นหน้าตาไม่ให้ บุคลิกไม่ให้ แต่ดันเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด เอาแต่ภาวนาอย่างเดียว คนอื่นเขาก็ยิ่งหมั่นไส้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2013 เมื่อ 19:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 22-04-2013, 13:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

จำได้ว่าปฏิบัติทุ่มเทกับหลวงพ่อจริง ๆ ตอนอายุ ๑๖ ปี ก็คือปี ๒๕๑๘ มาเริ่มพูดกับมนุษย์มนาตอนอายุ ๒๕ ปี เวลา ๙ ปีเต็ม ๆ ที่ไม่ค่อยพูด เพราะมีความสุขอยู่กับการภาวนา คอยระมัดระวังรักษาอารมณ์ตัวเองไม่ให้เสีย ก็เลยกลายเป็นเหมือนหยิ่ง ไม่ยอมพูดกับใคร

แต่คราวนี้ช่วงก่อนหน้านั้นประมาณ ๑ ปี เริ่มเป็นครูสอนมโนมยิทธิ ครูเลิกสอนก็นั่งเงียบ ลูกศิษย์เขาสงสัยอะไรก็ไม่กล้าถาม แล้วไปถามคนอื่น คำตอบมาเข้าหูพอดี ฟังก็รู้ว่าไม่ใช่ ก็เลยมาคิดว่า เอ..แล้วเราจะทำอย่างไร ? เราจำเป็นต้องพูดแล้ว ถ้าไม่พูดเดี๋ยวพวกไม่รู้จริงจะพาลูกศิษย์เข้ารกเข้าพงหมด

เห็นพวกพี่ป้าน้าอาเขาจับกลุ่มคุยกันอยู่ ก็เลยไปนั่งร่วมวงกับเขาดื้อ ๆ “ขออนุญาตผมคุยด้วยได้ไหมครับ ?” เล่นเอาเขาแตกตื่นกันหมดทั้งวงเลย โดยเฉพาะป้าน้อย (กานดา) แกประเภทเป็นคนพูดอะไรไม่เกรงใจใครอยู่แล้ว “แหม...ไอ้หนู ป้าคิดว่าชีวิตนี้เอ็งจะไม่พูดกับใครแล้ว” ตั้งแต่นั้นมาก็ค่อย ๆ หัดพูด คำว่าหัดพูดก็คือ ต้องตั้งสติระมัดระวังไว้ว่า สิ่งที่เราพูดควรจะเป็นประโยชน์กับผู้อื่นเขา ไม่อย่างนั้นจะเป็นวาจาไร้ประโยชน์

ก็เลยเป็นอะไรที่ตลกมาก ใครที่เคยพบอาตมาตอนก่อนอายุ ๒๕ ปี เขาไม่เชื่อหรอกว่าปัจจุบันนี้จะมานั่งพูดได้ทั้งวัน สมัยนั้นเอาแต่นั่งอมลิ้นมากกว่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2013 เมื่อ 19:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 22-04-2013, 15:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,404,751 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สงกรานต์ แปลว่า ก้าวผ่าน ก้าวล่วง เป็นช่วงที่พระอาทิตย์ก้าวพ้นจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ สงกรานต์เป็นภาษาสันสกฤต พอมาถึงเมืองไทย ภาคกลางยังใช้สงกรานต์อยู่ แต่ภาคเหนือเรียกสังขาร ได้ยินว่าลาวก็เรียกสังขารเหมือนกัน เพราะฉะนั้น..บ้านเราประกวดนางสงกรานต์ บ้านอื่นเขาประกวดนางสังขาร บางทีภาษาข้ามกันไปข้ามกันมาตามวัฒนธรรม แล้วเราก็ไม่เข้าใจว่ามีต้นเหตุมาจากอะไร

อย่างขนมจีน ไม่ใช่ภาษาจีนด้วย แล้วก็ไม่ใช่ของจีนด้วย ขนมจีนมาจากภาษามอญ แม่บอกลูกว่า “คะนอมจีน (ขนมเสร็จแล้ว) มาเอาไปเลี้ยงเพื่อนคนไทย ” คะนอมจีนคือขนมเสร็จแล้ว คนไทยก็ดันไปจำว่าไอ้นี่เรียกว่าขนมจีน มอญเขาเรียกขนมว่าคะนอมมาตลอด เราไปเรียกตามเขา

พอกันกับคำว่า กลิ่นทะแม่ง ทะแม่งก็เป็นภาษามอญ แปลว่าปลาร้า เพราะฉะนั้นกลิ่นทะแม่งก็คือกลิ่นปลาร้า ภาษาข้ามไปข้ามมาจนงงไปหมด

อย่างพม่าเขาเรียกพี่ชายเขาเรียก โก เหมือนกัน ตกลงจีนเลียนแบบพม่า หรือพม่าไปเลียนแบบจีนกันแน่ ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2013 เมื่อ 19:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 211 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 01:26



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว