กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 13-12-2015, 19:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๘

ถาม : ตอนภาวนาคาถาเงินล้านเมื่อถึงฌาน ๔ เป็นอย่างไร ? เพราะว่าช่วงฌาน ๒ คำภาวนาหายไปแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าภาวนาครบ ๙ จบ ?
ตอบ : ถ้าไม่รู้ก็แปลว่าสติขาด การภาวนาถ้าถึงฌาน ๔ แล้วไม่รู้ตัวแปลว่าเป็นเด็กหัดใหม่ เราต้องทำจนคล่องตัวจนถึงระดับที่เรียกว่า ฌานใช้งาน ถ้าอย่างนั้นไม่ว่าอยู่ในฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ ก็จะรู้ตัวอยู่เสมอ เพราะฉะนั้น...ไปฝึกต่อ...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2015 เมื่อ 19:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 247 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 13-12-2015, 19:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กระผมอยากทราบว่า ถ้าก่อนที่ผมจะบวช ผมมีวัตถุมงคลจำนวนหนึ่ง โดยมีเจตนาที่จะให้บิดานำมาถวายตัวผมเองเมื่อบวชเป็นพระแล้ว และตอนจะถวายนั้นตัวผมตอนยังเป็นฆราวาสตั้งเจตนาไว้ว่า เมื่อตัวผมที่เป็นพระภิกษุได้รับวัตถุมงคลนี้แล้ว สามารถที่จะนำวัตถุมงคลนี้ไปใช้ได้ แม้จะสึกออกมาแล้ว ในกรณีแบบนี้เมื่อผมสึกออกมาแล้วพร้อมกับนำวัตถุมงคลจำนวนนั้นมาด้วย กระผมจะผิดศีลผิดธรรม หรือติดโทษหนี้สงฆ์ไหมครับ ?
ตอบ : มีโอกาสติดหนี้สงฆ์เพราะทำเกิน เคยได้ยินภาษิตจีนที่ว่า "ถอดกางเกงผายลม" ไหม ? คนจะตดมีความจำเป็นต้องถอดกางเกงไหม ? พูดง่าย ๆ ว่า ของนั้นเป็นของเรา พอบวชก็เอาไปใช้ สึกแล้วก็เอากลับไปเป็นของเราตามเดิม แต่นี่ของเป็นของเราดันให้คนอื่นเอามาถวาย เขาเรียกว่าหาเรื่องเดือดร้อน

เพราะฉะนั้น...ไม่จำเป็นต้องถวาย บวชก็เอามาใช้ สึกไปก็ติดตัวเรากลับไป เขาเรียกว่าคนเก่ง ชอบทำของง่ายให้ยาก...!


ถาม : แล้วถ้าอยากได้บุญ โดยให้พ่อถวายวัตถุมงคลกับพระใหม่ละคะ ?
ตอบ : ถวายไปก็เป็นของสงฆ์ ถ้าสึกแล้วอยากได้ก็ชำระหนี้สงฆ์ตามราคาปัจจุบัน ถ้าเป็นพระสมเด็จวัดระฆังก็อ่วมอรทัย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2015 เมื่อ 19:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 13-12-2015, 19:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พิงคเทพบุตร ที่ดูแลจังหวัดเชียงใหม่คืออดีตเจ้าเมืององค์ใดครับ ? คือ พ่อขุนมังราย หรือพระเจ้าพังคราช หรือว่าเป็นคนอื่นครับ
ตอบ : ไปถามท่านเอง แค่นี้อาตมาก็ทำให้ท่านเดือดร้อนมากแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2015 เมื่อ 19:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 13-12-2015, 19:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมในแต่ละวรรคต้นของบทสวดสัมพุทเธ มีจำนวนพระพุทธเจ้าไม่เท่ากันครับ ? และคำว่าสัมพุทเธ แปลว่าอะไรครับ ?
ตอบ : สัมพุทเธ แปลว่า พระพุทธเจ้าทั้งหมด บทที่หนึ่งหมายเอาพระพุทธเจ้าปัญญาธิกะที่ตรัสรู้ไปแล้วทั้งหมด บทที่สองหมายเอาพระพุทธเจ้าศรัทธาธิกะที่ตรัสรู้ไปแล้วทั้งหมด บทที่สามหมายเอาพระพุทธเจ้าวิริยาธิกะที่ตรัสรู้ไปแล้วทั้งหมด แล้วจะให้เท่ากันได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2015 เมื่อ 19:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 241 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 13-12-2015, 19:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราเปิดคลิปเสียงสวดมนต์ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นเสียงหลวงพ่อฤๅษีลิงดำสวดคาถาเงินล้าน เสียงหมู่พระสงฆ์สวดบทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร หรือแม้แต่เสียงเพลงบทสวดเจ้าแม่กวนอิมแบบทิเบต ที่มีเสียงดนตรีประกอบกับบทสวด จะทำให้เหล่าเทวดา ท่านพระภูมิเจ้าที่ และดวงวิญญาณทั้งหลายที่อยู่แถวบ้าน มาร่วมสวดและร่วมโมทนาบุญกับเรา เหมือนกับตอนที่เราสวดมนต์ก่อนนอนด้วยตนเองไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าร่วมโมทนาท่านคงโมทนาแน่ แต่ถ้าร่วมสวดคงต้องดูว่าท่านว่างไหม ? ถ้าไปเปิดเวลาที่ท่านทำงาน แล้วท่านจะมาได้อย่างไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2015 เมื่อ 19:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 231 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 13-12-2015, 19:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีกรณีศึกษาที่เพิ่งเกิดขึ้น ผู้ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญคณะหนึ่งได้ประกาศบอกบุญกฐิน โดยได้ชี้แจงรายละเอียดปลีกย่อย เช่น เงินจะนำไปจัดพุ่มกฐิน ซื้อผ้าไตร พระพุทธรูป และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปกลับของคณะนำไปถวาย และมีผู้ประสงค์ดีส่งข้อความมาเตือนว่า นำเงินกฐินไปเป็นค่ารถระวังบาป ทางคณะผู้ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญชี้แจงว่าผู้ร่วมบุญอ่านไม่ละเอียดเอง ได้มีชี้แจงไว้แล้ว ทางผู้เตือนก็มุ่งประเด็นว่าหัวข้อประกาศคือบุญกฐิน ดังกรณีข้างต้นหากผู้ร่วมบุญคนอื่น ๆ ที่ได้ร่วมบุญมาแล้ว ทั้งที่รู้ว่าต้องนำไปเป็นค่ารถด้วยก็ดี และผู้ที่เข้าใจว่าเป็นบุญกฐินล้วน ๆ ก็ดี ถือว่าผู้ทำหน้าที่เป็นสะพานบุญไม่ผิดหรือไม่คะ ?
ตอบ : ถ้าระบุรายละเอียดไว้ชัดเจนแต่แรกแล้ว คนร่วมบุญตาถั่วเองก็ไม่ใช่ความผิดของเขา ฟังดูคล้าย ๆ กับในเว็บวัดท่าขนุนเลย กติกาเขาบอกชัด ๆ อยู่แล้ว แต่ไม่ยอมอ่านสักข้อหนึ่ง..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2015 เมื่อ 20:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 232 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 13-12-2015, 19:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระสงฆ์ที่ท่านรับบาตรจนล้นสองมือแล้ว (ต้องหิ้วถุงพลาสติกที่ญาติโยมใส่มาเต็มมือด้วย) เราควรขอให้ท่านผ่านไปก่อนโดยไม่ใส่บาตรท่านจะสมควรหรือไม่ครับ ? เนื่องด้วยเกรงว่าท่านจะแบกของหนักไปตลอดทาง เคยมีบางรูปท่านบอกเราล่วงหน้าเลยว่าท่านขอไม่รับแล้ว แต่บางรูปที่ท่านไม่ได้บอกเช่นนั้น ถ้าเรานิมนต์ท่านก็ยังยอมรับ ทั้งที่ดูท่านหนักมาก ถ้าเราตัดสินใจบอกท่านเองว่า ขอให้ท่านผ่านไปโดยไม่ขอใส่บาตรท่าน จะเป็นการสมควรหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าสงสารที่ท่านแบกของหนักก็เอารถไปส่งท่านที่วัดเลยก็หมดเรื่องไป

ถาม : แล้วควรใส่บาตรกับท่านไหมคะ ?
ตอบ : มีโอกาสก็ใส่ไป ถ้าหากท่านยังเดินรับอยู่ก็แปลว่าท่านเต็มใจที่จะหนัก เพราะถ้าท่านไม่เต็มใจ ท่านก็ไม่รับเองแหละ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2015 เมื่อ 20:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #8  
เก่า 13-12-2015, 19:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพื่อนได้นำซองกฐินที่กระผมได้แจกร่วมทำบุญมาให้ หลังจากที่ทางวัดที่ระบุไว้มีการทอดกฐินไปแล้ว ๑ วัน ถ้าเป็นแบบนี้กระผมสามารถนำซองกฐินไปให้ทางวัดได้ไหมครับ ? และผู้ร่วมทำบุญยังคงได้อานิสงส์ของการทำบุญกฐินเต็มร้อยหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ปีหนึ่งพระสามารถรับกฐินได้ครั้งเดียว รับซ้อนไม่ได้ ก็แปลว่าถ้าปิดยอดไปแล้วไปรับเพิ่ม กฐินก็เดาะ (ขาดอานิสงส์) เพราะฉะนั้น...ถือว่าเป็นความผิดของคนทำบุญเองที่ไม่รู้จักนำไปให้ก่อนเวลาหรือให้ทันเวลา

ที่วัดท่าขนุนประกาศบอกไว้ชัดเจนว่าทอดกฐินบ่ายโมงตรง ประมาณบ่ายโมงครึ่งก็ปิดยอดเงินทุกอย่างเรียบร้อย บ่ายสามโมงเขาก็โผล่มาจะทำบุญกฐิน พอไม่รับมีการอาละวาดอีกว่าทำบุญแล้วทำไมไม่รับ ? โดยไม่พยายามเข้าใจกฎกติกาอะไรเลย คนประเภทนี้หาความเจริญได้ยาก..!


ถาม : แล้วคนที่เป็นตัวกลาง เพื่อนเอาเงินยัดใส่มือมาแล้ว ควรจะทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ควรที่จะยัดคืนไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2015 เมื่อ 20:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 238 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #9  
เก่า 14-12-2015, 07:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เมื่อผมอธิษฐานขอสัมผัสกระแสในวัตถุมงคลต่าง ๆ จะมีอาการขนลุกมากบ้างน้อยบ้าง ขอเรียนถามว่าอาการขนลุกนี้ เป็นอาการปีติของอุปจารสมาธิใช่หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่...ปีติของอุปจารสมาธิจะสั่งแบบนี้ไม่ได้ ถ้าสัมผัสวัตถุมงคลแล้วขึ้น แสดงว่าสามารถที่จะกระทบหรือรับพลังได้จริง ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 08:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 224 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #10  
เก่า 14-12-2015, 07:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทรัพย์สินของนอกกาย เมื่อเราตายไปคงนำติดตัวไปไม่ได้แน่นอน แต่วิชาความรู้ที่เราเรียนทั้งทางโลก และทางธรรม มาตลอดชีวิตนี้ เมื่อตายไปเราจะสามารถนำติดตัวไปกับดวงจิตได้หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจเข้าถึงธรรมระดับพระอริยเจ้าขึ้นไปสามารถติดตัวไปได้ กำลังใจและความรู้ที่ต่ำกว่านั้น ถ้าไปค้างคาอยู่ภพภูมิอื่นนานเกินไปก็จะลืมหมด เพราะฉะนั้น...บุคคลที่สามารถฟื้นความรู้เก่าได้ ต้องตายจากมนุษย์แล้วเกิดเป็นมนุษย์ทันที ห้ามไปค้างอยู่ที่อื่น ยกเว้นพระอริยเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป เกิดกี่ครั้งก็ตาม สภาพจิตที่บริสุทธิ์ขนาดนั้นแล้วไม่มีวันเปลี่ยนแปลง มีแต่จะเจริญขึ้น ดังนั้น...เมื่อรู้ความก็ปฏิบัติตามกฎกติกาของตนทันที โดยที่บางทีท่านไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่านั่นเป็นกติกาของพระอริยเจ้า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 08:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 235 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #11  
เก่า 14-12-2015, 07:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การภาวนาเกิดบุญได้อย่างไร ?
ตอบ : การภาวนาตีเสียว่าเป็นการปฏิบัติธรรม อย่างน้อยเราก็ระงับกายกรรม วจีกรรม ได้ ๒ อย่าง ถึงมโนกรรมจะฟุ้งซ่านบ้างก็แปลว่าเราได้กำไรไปสองส่วนแล้ว ในเมื่อไม่ทำชั่วด้วยกาย ไม่ทำชั่วด้วยวาจา ถึงใจจะคิดชั่วบ้าง ส่วนบุญก็ยังมากกว่าบาป

ถาม : ถ้าไม่ทำบุญในการให้ทาน แต่ภาวนาอย่างเดียวจะได้ไหม ?
ตอบ : ได้...เกิดใหม่ฉลาดมาก แต่จนบรรลัยเลย..! คนฉลาดแล้วจนนี่หายาก ถ้าฉลาดต้องหาเงินเป็นสิ

ถาม : ในเมื่อการภาวนาเป็นเรื่องดี แต่ทุกวันนี้ทำไมเน้นให้คนบริจาคทานทำบุญมากกว่าการภาวนาและถือศีลครับ ?
ตอบ : เพราะการภาวนาถึงจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าบารมีไม่ถึงก็ทำไม่ได้ เรื่องของทานเป็นเรื่องของบารมีต้น ถ้าทำทานได้แล้วรักษาศีลต้องบารมีกลางขึ้นไป ส่วนการภาวนาต้องระดับปรมัตถบารมี ในเมื่อกำลังใจของคุณอยู่แค่ ป.๑ จะให้ไปเรียนปริญญาตรีย่อมไม่ไหว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 08:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 230 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #12  
เก่า 14-12-2015, 07:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กระผมอยากทราบเกี่ยวกับคาถาหัวใจ ๑๐๘ ในแต่ละบทนั้น จะมีอานุภาพในด้านใดครับ ?
ตอบ : ไปหาซื้อหนังสือคาถาหัวใจ ๑๐๘ ของอาจารย์เทพย์ สาริกบุตรไปอ่านดีกว่า มีตั้งเกือบ ๔๐๐ หน้า แหม..ถามแบบไม่คิดเลยนะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 08:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #13  
เก่า 14-12-2015, 07:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเราถือศีลปิดวาจา แล้วมีธุระจำเป็นต้องพูด เราสามารถพูดได้หรือไม่ครับ ? ถ้าพูดถือว่าศีลส่วนนี้ขาดหรือไม่ครับผม ?
ตอบ : ศีลของใคร ? ศีลปิดวาจา ไม่เคยได้ยิน

หลวงปู่บุดดาเคยบอกว่า "ไอ้พวกไม่พูดมันคิดไหมเล่า ? มันคิดมากกว่าที่พูดอีก" สรุปก็คือหุบปากแต่ก็ยังฟุ้งซ่านอยู่เหมือนเดิม คนที่ถือศีลปิดวาจา ส่วนใหญ่แล้วตั้งใจจะไม่พลาดในเรื่องของการพูดเท็จ หรืออาจจะรวมถึงการพูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ เป็นต้น ขอยืนยันว่าไม่ใช่ศีล แต่เป็นความประพฤติเฉพาะตนหรือเฉพาะสำนักเท่านั้น


ถาม : ในเรื่องศีลปิดวาจานี้ เราสามารถใช้การเขียนหรือพิมพ์ข้อความแทนการพูดได้หรือไม่ครับผม ?
ตอบ : ก็อย่างหลวงปู่บุดดาว่าไว้ ฟุ้งพอกันนั่นแหละ เพราะฉะนั้น..พูดไปเถอะ ง่ายกว่ากันเยอะเลย ในพระไตรปิฎกพระพุทธเจ้าทรงห้ามพระถือ "มูควัตร" หรือ "มูคปฏิปทา" ซึ่งก็คือการไม่พูดกัน เพราะถ้าตั้งสติไม่พูดได้ ก็ต้องตั้งสติพูดโดยธรรมได้ การถือศีลปิดวาจาจึงเป็นการสูญเปล่า ทำไปก็ฟุ้งซ่านมากขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2015 เมื่อ 10:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #14  
เก่า 14-12-2015, 11:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถวายทองคำหนัก ๑ บาท ซื้อมาตอนราคาทองคำบาทละ ๒๐,๐๐๐ บาท กับถวายทองคำ ๑ บาทซื้อมาตอนราคาทองคำบาทละ ๑๘,๐๐๐ บาท อานิสงส์การถวายทองคำต่างกันไหมครับ ?
ตอบ : ต่างกันมาก ต่างกันสองพันบาท...! ถ้าน้ำหนักทองคำเท่ากัน อานิสงส์ก็เท่ากัน แต่อาจจะตัดใจยากหน่อยถ้าซื้อมาแพง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 19:54
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #15  
เก่า 14-12-2015, 11:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีอาการตอนฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลังที่วัดท่าซุง อาการนี้จะเกิดขึ้นตอนบวงสรวง และตอนสมาทานพระกรรมฐาน จะมีน้ำตาไหลเหมือนคนร้องไห้โดยมีความรู้สึกตัวตลอด แต่ควบคุมไม่ได้ อาการแบบนี้คืออาการอย่างไร ? และถ้าเกิดอาการแบบนี้ต้องวางอารมณ์ใจอย่างไรถึงจะทำให้การปฎิบัติมีผลสูงสุดครับ ?
ตอบ : สังเกตให้ดี ๆ มีสองอย่างด้วยกัน ถ้าเกิดเพราะขุททกาปีติ น้ำตาไหล ถ้านึกว่าเราจะหยุดเมื่อไรก็หยุดได้ ถ้าลักษณะอย่างนี้เกิดขึ้นต้องปล่อยให้เต็มที่ไปเลย จะร้องไห้โฮ ๆ ลั่นไปสามบ้านแปดบ้านก็ต้องยอม ถ้าขึ้นเต็มที่แล้วก็จะก้าวผ่านไปได้ และจะไม่เป็นอีก

ส่วนอีกอย่างหนึ่งจะมีผู้ที่เข้ามาแทรกเข้ามาสิง ถึงเวลาก็มักจะแสดงอาการออก ลักษณะอย่างนั้นเราจะบังคับตัวเองไม่ได้ ก็โปรดระวังว่า...ถ้าเผลอเมื่อไรจะกลายเป็นร่างทรง..!


ถาม : ถ้าเป็นอย่างหลังห้อยพระเครื่องป้องกันได้ไหมคะ ?
ตอบ : ถ้ามีกรรมเนื่องกันมาก็ไม่สามารถที่จะป้องกันได้ ถ้าไม่มีกรรมเนื่องกันมา แค่เราบอกว่าไม่เอา เขาก็หมดสิทธิ์แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 19:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #16  
เก่า 14-12-2015, 11:22
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระอาจารย์เคยสัมผัสกับญาณของพระฤๅษีที่เขาโป๊ปป้าบ้างไหมครับ (โดยเฉพาะฤๅษีโบโบอ่อง ฤๅษีโบมินข่อ) และในเมืองไทยมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แบบนี้หรือไม่ ที่ไหนบ้างครับ ?
ตอบ : ที่เมืองไทยเห็นเขานิยมไปพระพุทธบาทเขาพลวงหรือพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏที่จันทบุรีกัน หรือไม่ก็พระพุทธบาทสี่รอย หรือพระพุทธบาทสระบุรี เป็นต้น ส่วนเรื่องของคนที่ตายไปแล้วอย่าไปพูดถึงท่านมากเลย เดี๋ยวท่านจะมาเหยียบเอา...!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 19:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #17  
เก่า 14-12-2015, 12:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ในกรณีที่มีคนยังนับถือว่าเจ้าแม่กวนอิมท่านเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ หากจิตที่ใกล้ดับของท่านผู้นั้นตั้งความปรารถนาว่า เจ้าแม่ท่านอยู่ที่ใดก็จะขอตามท่านไปที่นั้น เมื่อท่านผู้นั้นตายลง จิตจะไปอยู่ที่แดนสุขาวดีตามความเชื่อ หรือว่าไปที่พระนิพพานครับ ?
ตอบ : ต้องดูด้วยว่ากำลังใจยังยึดมั่นอยู่ในองค์ท่านหรือเปล่า ? ถ้ายังยึดมั่นในองค์ท่าน อย่างเก่งก็ไปแค่พรหม บุคคลที่จะไปพระนิพพานได้ สภาพจิตต้องปล่อยวางทั้งหมด พูดง่าย ๆ ว่า แม้แต่พระนิพพานก็ไม่ยึด แต่อารมณ์ของพระนิพพานจะเต็มอยู่ในใจของตนเอง ดังนั้น..บาลีท่านถึงได้กล่าวว่า บุคคลที่เข้าถึงพระนิพพานอย่างแท้จริง ต่อให้เป็นสุกขวิปัสสโก ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย ก็จะรู้ว่าตนเองสามารถไปพระนิพพานได้ ท่านใช้คำว่า ญาณคือเครื่องรู้ปรากฏขึ้น เพราะฉะนั้น...ถ้ายึดก็ไปไม่ได้ แต่ถ้าปล่อยโดยที่ตั้งความปรารถนาไว้ตอนต้นว่าจะไปพระนิพพาน โอกาสที่ไปได้จะมีมาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 19:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #18  
เก่า 14-12-2015, 12:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บ้านเป็นห้องแถวไม่มีดาดฟ้า ดิฉันควรจะตั้งศาลตี่จู้เอี้ยที่บริเวณไหนในบ้านคะ ?
ตอบ : หัวเตียง...! เพียงแต่ถ้าจะทำอะไรก็เกรงใจท่านบ้างก็แล้วกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 19:58
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #19  
เก่า 14-12-2015, 12:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่เราเข้ามาในวัด แล้วมีเศษดินทรายติดตามรองเท้าหรือร่างกายก็ดี หรือการจอดรถภายในวัดแล้วอาจจะมีเศษดินทรายหรือใบไม้ติดตามรถกลับออกไปโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือแม้แต่เศษแผ่นทองที่ใช้ติดตามพระพุทธรูป บางครั้งอาจจะติดตามร่างกายเรากลับออกไปด้วยโดยไม่ได้เจตนา แบบนี้เราจะมีโอกาสเป็นหนี้สงฆ์ทุกครั้งเวลาเราเข้าวัดหรือไม่ครับ ? หรือว่าเป็นเพราะผมฟุ้งซ่านเกินไป ขอหลวงพ่อเมตตาชี้แนะด้วยครับ
ตอบ : รู้ตัวเหมือนกันว่าฟุ้งซ่าน คนโบราณจิตละเอียดมาก แม้แต่การเดินเข้าวัดแล้วฝุ่นติดเท้าไปเขาก็ถือว่าเป็นหนี้สงฆ์ สมัยอาตมาเด็ก ๆ ผู้ใหญ่บางคนจะไปทำบุญที่วัด ให้เด็กหยิบดินก้อนหนึ่งที่บ้านใส่หาบไปด้วย ไปถึงวัดก็โยนไว้ในวัดเป็นการชำระหนี้สงฆ์ แต่โบราณาจารย์ก็กำหนดให้มีการขนทรายเข้าวัดเพื่อเป็นการชำระหนี้สงฆ์เช่นกัน

ปัจจุบันกิจกรรมพวกนี้ไม่มีแล้วหรือหาได้ยาก ก็แปลว่าเรามีโอกาสติดหนี้สงฆ์เช่นกัน ดังนั้น..ปีหนึ่งควรทำการชำระหนี้สงฆ์สักหน่อย เพื่อที่จะได้พ้นโทษจากตรงจุดนี้


ถาม : กรณีที่เราไปวัด เราก็เอาเงินไปหยอดตู้ชำระหนี้สงฆ์ แล้วอธิษฐานว่า เราขอชำระหนี้สงฆ์ทั้งหมด ไม่ว่าจะค่าน้ำ ไฟ หรือดิน ทรายที่ติดไปกับเราได้ไหมคะ ?
ตอบ : ต้องคุ้มกับสิ่งนั้นด้วย ไม่ใช่ใช้ไฟวัดสามวันสามคืนแล้วหยอดตู้ไป ๕ บาท..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 19:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 210 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #20  
เก่า 14-12-2015, 12:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,038 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การที่คนได้นำเอาผลไม้หรืออาหารมาถวายที่วัดจีนหรือตามศาลเจ้า หลังจากนั้นถ้ามีการลาอาหารหรือผลไม้กลับบ้านไปด้วย จะเป็นหนี้สงฆ์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ถ้าเป็นศาลเจ้าจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเป็นในวัดจะมีปัญหา เพราะในวัดถือว่าเป็นของสงฆ์ ต้องให้พระทั้งหมดอนุญาตเสียก่อน

ถาม : การที่คนได้นำเอาไข่ต้มไปถวายพระพุทธรูปที่วัดเพื่อเป็นการแก้บน แล้วได้ลานำไข่ไก่กลับไปบ้านด้วย เท่ากับเป็นหนี้สงฆ์หรือไม่ครับ ?
ตอบ : เป็นแน่ ๆ เพราะการถวายคือเอาไปให้ท่าน ท่านไม่ได้บอกคืนเสียหน่อย ดันยกกลับเอง ถวายแล้วก็มอบให้กับทางวัดไป แล้วแต่ท่านจะจัดการ แต่ถ้าอย่างวัดท่าขนุนนี่นั่งกลุ้มเลย มาแก้บนสามราย ไข่ร้อยฟองทั้งสามราย ที่วัดต้องต้มพะโล้กินไปเป็นอาทิตย์...! คราวหน้าบนเป็นไข่สดบ้างสิ บนเป็นไข่ต้มถึงเวลาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากไข่พะโล้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-12-2015 เมื่อ 20:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 208 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:21



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว