กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องบูรพาจารย์ > ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน

Notices

ประวัติและปฏิปทาของพระสุปฏิปันโน รวมประวัติ ปฏิปทาของครูบาอาจารย์อันเป็นที่เคารพจากทั่วเมืองไทย

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #1  
เก่า 19-04-2009, 04:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default หลวงตาเล่าถึงหลวงปู่คำแสนเล็ก

จะขอกล่าวถึงหลวงปู่คำแสนเล็กเสียก่อน พระคุณเจ้าองค์นี้พ่อบอกว่าเป็นพี่ชายองค์หนึ่งของพ่อมาแทบทุกชาติ น้ำใจที่รักน้องนั้นมากมายขนาดยอมสละทุกสิ่งที่น้องต้องการได้ แม้สิ่งนั้นจะมีเศวตฉัตรบัลลังก์เจ้าเหนือหัวคนทั้งแผ่นดิน ท่านก็ให้น้ององค์นี้ได้ ส่วนองค์ท่านเองนั้นชอบแต่ความสงบสันโดษมาโดยตลอด จนชาติปัจจุบันนี้บวชเรียนมาแต่เล็ก ได้พบพ่อเมื่ออายุ ๘๐ แล้ว จึงมีจริยาที่สงบเย็นเมตตาการุณต่อพวกเราลึกซึ้งไม่มีประมาณ สมกับฉายาพระภิกษุของท่านที่ว่า "คุณาลังกาโร" เป็นที่สุด

ผู้เขียนได้ยินคำพ่อบอกเล่ามาก่อนว่าหลวงปู่คำแสนเล็ก ท่านมีจริยานุ่มนวล เยือกเย็น มีเมตตาปรานี ให้อภัยไม่เลือกว่าคนหรือสัตว์ ท่านไม่มีโทษภัยให้แก่ใคร ๆ ตลอดมาจึงดูเหมือนว่าจะเสียเปรียบเขามาทุกชาติ และก็ขี้อาย ขี้เกรงใจเอามาก ๆ ด้วย

ผู้เขียนยิ่งเห็นชัดเจนขึ้น เมื่อมีศิษย์ประจำตัวพระคุณหลวงปู่บุดดาคนหนึ่งผลุนผลันขึ้นไปหาท่านถึงห้องนอนชั้นบน ผู้เขียนจะห้ามปรามก็ไม่ทันการณ์แล้ว เขาเข้ามากราบ ท่านก็ยิ้มสวยเชียว เขามาชวนท่านคุย ท่านก็พยักหน้า "เอ้อ..เอ้อ ๆ " ฟังเขาพูด เขาถามท่านก็ตอบคำเดียวสั้น ๆ ตอบไปยิ้มไป จนตาคนนั้นแหละเครื่องร้อนได้ที่ก็ได้เรื่อง

แกก็นั่งขัดสมาธิต่อหน้าหลวงปู่คำแสนนั่นแหละ ทำตาหลุบต่ำ หน้าเคร่งขรึม พูดออกมาว่า "ผมนี่ทรงพระพุทธเจ้าได้ หลวงปู่อยากพบพระพุทธเจ้าหรือไม่ครับ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #2  
เก่า 19-04-2009, 04:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงปู่ก็ยิ้มตามกระแสน้ำเหมือนเดิม ตอบเขาไปว่า
"เอาก็เอา"
"เอ้าพระพุทธเจ้ามาแล้วนะ"
เขาพูดเสียงก้อง ตัวสั่นไปถึงหน้าตัก หน้าเบี้ยวเชียว หลวงปู่ก็ยิ้ม ยิ้มขำชัดเจนเลย ท่านคงจะสงสัยว่าพระพุทธเจ้าของเรา ทำไมหน้าไม่สวยกระมัง ตาคนนั้นก็รุกต่อ
"เอ้า จะถามอะไรฉันหรือไม่"
ถึงตอนนี้ค่อยเข้าท่าหน่อย คือท่าทางน้ำเสียงเริ่มมีเค้าขึ้นหน่อย หลวงปู่เราก็..แหม..เกิดไม่มีอะไรจะสงสัย ตอบเขาไปว่า
"ไม่มี"
"เอ้า ไม่มีผมจะกลับละนะ"
หมดเค้าเลย ตอนนี้พระพุทธเจ้าเกิดตรัสกับพระสาวกว่า "ผม" ขึ้นมาเสียได้
"กลับเถอะ" หลวงปู่ก็ปล่อยให้กลับไปเสียง่าย ๆ ยิ้มสวยส่งเสด็จอีกด้วย
"ปั๊บ..ปั๊บ ๆ ๆ ๆ"
สั่น ล้มกระตุก ๒ ที แล้ลุกขึ้นมาลืมตา ทำท่างง ๆ พระพุทธเจ้าคงจะออกไปแล้วกระมัง

เขากราบหลวงปู่ ท่านก็ยิ้มตามเดิม ตาคนนั้นก็ทำเก้อ หันมาดูหน้าผู้เขียน แล้วรีบลงจากกุฏิไป เพราะรับรองได้เลยว่าทั้งสีหน้าและสายตาผู้เขียนตอนนั้นจงใจบอกให้รู้ว่า หากแกขืนแสดงฤทธิ์ต่อไปอีก จะประเคนสมบัติส่วนตัวคือเท้า ๒ ข้าง มืออีกต่างหากให้ ครั้นจะส่งตามหลังให้ไปเลยเสียตอนนั้นก็เกรงใจหลวงปู่คำแสน ก็เลยถามท่านว่า
"เขาทรงจริงหรือครับ หลวงปู่"
"ก็..จริงของเขา"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทิดตู่ : 19-04-2009 เมื่อ 04:38 เหตุผล: แก้การเว้นวรรคไม้ยมก (ปั๊บๆ ๆ ๆ)
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 38 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #3  
เก่า 19-04-2009, 04:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ทั้งเสียงทั้งสีหน้าไม่มีอาการถือโทษหรือรำคาญอะไรให้เห็นเลย แถมหัวเราะสบายใจเสียอีกด้วย

ท่านผู้อ่าน ที่เล่ามานี่จะเชิญท่านชมจริยาของพระอรหันต์องค์หนึ่ง ผู้ไม่เคยถือสาหาอารมณ์กับใคร ๆ แม้คนนั้นจะขาดมารยาท จะหยาบคายต่อคุณพระรัตนตรัย และต่อองค์ท่านอยู่ชัดแจ้ง ถ้าเป็นผู้เขียนละก็...จะขอออกฤทธิ์ให้ตกกระไดไปเลย ตามประสาผู้ที่ทรงพิโรธสมาบัติได้เป็นปกติวิสัย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #4  
เก่า 19-04-2009, 13:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงปู่คำแสน ผู้เขียนมั่นใจว่าทิพจักขุญาณของท่านนั้นสุดจะประมาณได้ ไม่ใช่ผู้เขียนรู้อารมณ์ใจของท่านหรอก แต่ว่าโดนมาเองจะ ๆ แจ้ง ๆ

คืนหนึ่งผู้เขียนและสหธรรมมิกผู้มีน้ำใจอันเดียวกันกลุ่มหนึ่งได้เข้าไปถวายสังฆทานหลวงปู่ที่ศาลารับแขกหน้ากุฏิ เผอิญว่ายังไม่มีท่านใดแปลกปนเข้าไปมากนัก ปกติพวกเราชอบเจริญมรณานุสติตามพ่อบอก ทำได้หรือไม่ได้ก็ท่องบ่นไว้เสมอว่า "อนิจฺจา วต สงฺขารา ฯลฯ.."

ท่องไปพิจารณาความหมายตามกระแสธรรมไปด้วย ชอบอย่างนี้เหมือนกันทุกคน พอถวายเสร็จหลวงปู่ก็ยิ้มเงยหน้าสง่างามสวยเชียว บอกเราว่า
"เอ้า..หลวงปู่จะให้พรเน้อ ตั้งใจรับพรเน้อ"
พวกเราก็ยิ้มพริ้มหน้า สงบใจฟังท่านยะถา สัพพี เปล่า....แทนที่จะยะถา ท่านกลับยิ้มแป้นเอ่ยพรว่า
"อนิจฺจา วต สงฺขารา อุปฺปาทวย ธมฺมิโน อุปฺปชฺชิตฺวา นิรุชฺชนฺติ เตสงฺวูปสมโม สุโข เน้อ"

พวกเรานี่ฮือกันเลย บางคนก็โฮ หญิงก็มีกรี๊ดแบบสุภาพ โธ่เอ๋ยพระคุณของลูกหลาน ช่างแจ้งแทงตลอดเข้าไปในก้นบึ้งสันดานของลูกเชียวหนอ ตาที่มองหลวงปู่เหมือนจะกินหลวงปู่ กลืนเข้าไปเก็บไว้ไม่ให้กลับวัดดอนมูลเลย ท่านก็ยิ้มชอบใจ สายตาท่านก็ยิ้มได้พูดได้ เราผู้หยาบช้าก็ยังสามารถดูสายตาท่านออก มันเป็นภาษาบุญบารมี ที่ท่านบอกว่า
"ฉันรักพวกเธอ รักมาทุกชาติ รักและเลี้ยงดูมานานแสนนาน เธอรู้หรือไม่"

โธ่ รู้สิครับ รู้สิเจ้าค่ะ เจ้าประคุณของลูก ไม่ยอมเช็ดน้ำตากันเลย อยากให้มันออกมามาก ๆ ไหลให้นานแสนนาน นานสมกับความเกี่ยวเนื่องกันด้วยสายใยบารมี ย้อนนับชาติไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทิดตู่ : 19-04-2009 เมื่อ 16:07 เหตุผล: แก้ไข"กริ๊ด"เป็น"กรี๊ด"
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #5  
เก่า 19-04-2009, 13:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แล้วท่านก็เอื้อนเอ่ยอธิบายอีกว่า
"เออ..เขาหมายความว่า สังขารร่างกายนี่มันไม่เที่ยง เกิดมาแล้วเลื่อนไหลไปหาความตายเป็นธรรมดา ลองได้เกิดมาแล้วก็ต้องตายไปเป็นธรรมดาของมัน การสงบไม่คบกาย ไปนิพพานเสียได้ นี่มันเป็นสุขจริงเน้อ.."

บรรเลงเพลง "ลิงร้องไห้" กันทั้งวงเลยทีนี้ คนที่มาสมทบทีหลังออกจะงง ๆ มาตั้งแต่คำให้พรแล้ว พอมาเห็นพวกเราเป่าปี่สีซอออเคสตร้า ผู้หญิงก็ร้องขับคลอไปว่า
"หลวงปู่เจ้าขา ฮือ ฮือ ฮือ"
เขาก็งง คงจะคิดว่าพวกคนไข้โรงพยาบาลศรีธัญญา (คนบ้า) หลุดมาถึงวัดท่าซุงตั้งกลุ่มเบ้อเร่อเชียวหนอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-04-2009 เมื่อ 08:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 34 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #6  
เก่า 21-04-2009, 00:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้งหนึ่งผู้เขียนไปงานเข้านิโรธสมาบัติของหลวงปู่ชุ่ม วัดวังมุย ทีนี้ผู้เขียนก็ไปจัดผ้าไตรในพระอุโบสถวัดวังมุย ขณะนั้นหลวงปู่ชุ่มกำลังนั่งเสลี่ยงออกจากที่บำเพ็ญเพียร พ่อคอยหลวงปู่ชุ่มบนกุฏิ หลวงปู่คำแสนก็นั่งคอยอยู่ในโบสถ์องค์เดียว ตอนนั้นท่านแหงนหน้ามองฟ้าฉ่ำละอองฝน ยิ้มสงบสุข ยิ้มเย็นเหมือนละอองฝน ท่านพูดขึ้นว่า
"เอ้อ..ท่านมหาวีระ นี่บุญท่านมากล้นเน้อ ไปทางไหนมันหนาแน่นฝาคั่ง บนพื้นดินลูกศิษย์แน่นล้นหลาม บนฟ้าเทวดาพรหมก็ตามโมทนาแน่นฟ้าเต็มจักรวาล"

ผู้เขียนวางจีวร ก้มกราบรับคำหลวงปู่ ใจที่มุ่งมั่นไปงานหลวงปู่ชุ่มออกนิโรธสมาบัติเคยชุ่มชื่นกระชับอารมณ์ มาหลายวันแล้ว แต่บัดนี้นั่งมองหลวงปู่คำแสนรำพึงถึงพ่อ ใจเรามันคลาย มันเบา นึกอยู่ในใจว่า เออนี่..กูจะเอาอย่างไรอีกหนอ มีพ่อผู้แม้พรหมเทพโมทนาทุกสถานที่ย่างบาทไป แม้พระอรหันต์ผู้เลิศอภิญญาผ่องใสก็ยังยอมรับนับถือ นี่กูมางานหลวงปู่ชุ่มหรืองานพ่อกันแน่หนอ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 33 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #7  
เก่า 21-04-2009, 00:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ครั้งหนึ่งที่บ้านสายลม หลวงปู่คำแสนมาพักพร้อมกับหลวงปู่ชุ่ม โพธิโก องค์ที่เข้านิโรธสมาบัตินั่นแหละ พอกลางคืนผู้เขียนก็เข้าไปปรนนิบัติไต่ถามว่า ท่านต้องการอะไรเพิ่มเติมบ้างหรือไม่ หลวงปู่คำแสนก็ยื่นเท้าให้นวด ท่านเอนกายพิงหมอนขวาน เคี้ยวหมากปากแดงยิ้มใจดีเชียวละ เรานวดไปก็แปลกใจว่าอายุท่านตั้ง ๘๐ แล้ว น่องยังแข็งยิ่งกว่าหนุ่ม ๆ อย่างเราเสียอีก ก็เลยชมเชิงปรารภ ท่านก็ตอบว่า

"เดินธุดงค์ตั้งแต่ยังเล็กน้อย เดินข้ามเขา ข้ามป่า ทะลุจากพม่าผ่านไทยไปถึงลาว บางทีก็เดินจากเมืองเหนือไปถึงเมืองใต้สุด เดินอย่างนี้ไม่รู้ภูเขากี่ร้อยลูก มันก็แข็งของมันเอง"


แหม มันคันหัวใจ เอาใหม่ ใจนี่มุ่งมั่นเต็มที่เลย
"ผมบวชแล้วจะธุดงค์เหมือนกัน"
ท่านยิ้ม ยิ้มมองลูกหมาตั้งท่าจะเป็นเสือ
"โอย สมาธิกระจิบกระจอกอย่างนี้ ออกไปก็ตายเปล่า"

หลวงปู่ชุ่มที่นั่งฟังเฉยมาตลอด "หัวเราะจนน้ำหมากหก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-07-2012 เมื่อ 13:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 41 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:33



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว