กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 29-10-2012, 19:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในเรื่องของการปฏิบัติระยะแรก ๆ พอเริ่มเข้าปีติก็เท่ากับเริ่มเห็นผล เพราะเป็นไปตามที่ครูบาอาจารย์บอก หรือที่ตำราบอกไว้ ก็จะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความมั่นใจว่ามาถูกทางแล้ว

แต่ปีติเป็นสิ่งที่อันตรายมาก เพราะคนที่เข้าถึงตรงจุดนี้ จะไม่อิ่มไม่เบื่อในการปฏิบัติ บางทีไม่ยอมกินไม่ยอมนอน ภาวนาไปเรื่อย โยมที่ภูเก็ต นั่งตั้งแต่ ๗ โมงเช้าจนถึง ๑๐ โมงครึ่ง..ไม่เลิก อาตมาต้องเคาะกบาลให้เลิก บอกว่าพอได้แล้ว การนั่งสมาธิก็เหมือนกับการทำงาน ถ้าโหมงานหนักในวันนี้ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะทำงานไม่ไหว

เขาเองพอนั่งแล้วกำลังใจเขาสบาย ก็ภาวนายาวไปเลย จะว่าไปแล้วเป็นการฉวยโอกาสที่ถูก แต่ระยะเวลานานเกินไป สภาพจิตที่ไม่เคยถูกควบคุมนาน ๆ พอถึงเวลาดิ้นจะดิ้นแรงมาก แล้วจะพังไปนาน ดังนั้น..จึงต้องค่อย ๆ ผ่อนสั้นผ่อนยาว เอาแค่พอเหมาะพอดี

ไม่ใช่วันนี้ทำเต็มที่เลย ๓ ชั่วโมง ๕ ชั่วโมง ๖ ชั่วโมง พอพรุ่งนี้หรือมะรืนก็พังกระจาย ทำอะไรไม่ได้ สภาพจิตไม่ยอมให้ควบคุม เพราะเข็ดแล้ว เข็ดที่โดนจับให้นิ่ง ๆ ก็ดิ้นเต็มที่..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-10-2012 เมื่อ 03:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 240 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 31-10-2012, 07:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระพุทธเจ้าตรัสว่า..อานันทะ ดูกร..อานนท์ เธอได้เห็นภิกษุทั้งหลายที่คลุกคลีอยู่กับพระสารีบุตรบ้างหรือไม่ ? อานันทะ..ดูกร อานนท์ เธอได้เห็นภิกษุทั้งหลายที่คลุกคลีอยู่กับพระปุณณมันตานีบุตรหรือไม่ ? ฯลฯ พระอานนท์กราบทูลว่า เห็นพระพุทธเจ้าข้า

นั่นแหละ..อานนท์..หมู่ภิกษุที่คลุกคลีอยู่กับพระสารีบุตรเป็นผู้ประกอบไปด้วยปัญญามาก หมู่ภิกษุที่คลุกคลีอยู่กับพระโมคคัลลานะเป็นบุคคลที่ปรารถนาในฤทธิ์อภิญญา หมู่ภิกษุที่คลุกคลีอยู่กับพระปุณณมันตานีบุตรเป็นผู้ยินดีในธรรมกถึก

เช่นเดียวกัน ลักษณะที่พวกเราจับกันเป็นกลุ่ม ๆ ก็คือชอบใจแบบไหนก็ไปแบบนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 31-10-2012, 07:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรื่องของการเมือง ฟังมากไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของการฟังความข้างเดียว พอฟังความข้างเดียว ถึงเวลาก็ตัดสินความข้างเดียว แล้วจะลำบาก

ตอนเขาทะเลาะกันเหมือนกับเขาตีกันจนฝุ่นตลบ ให้เราถอยไปให้ห่าง ๆ วงเลย รอให้ฝุ่นจางก็จะรู้ว่าใครเป็นใคร ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเราจะโดนม้วนเข้าไปด้วย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 31-10-2012, 08:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้าเป็นนักการเมืองไม่ควรไปต่อความยาวสาวความยืดกับใคร ทำงานไปก่อน เขาอยากทะเลาะปล่อยให้เขาทะเลาะไป ถึงเวลาชาวบ้านเขาตัดสินด้วยผลงานที่เขาเห็น

ภาษาบาลีเขาเรียกว่า มุโขโลกนะ ถ้ามีความลำเอียง อคติก็ย่อมมี พระพุทธเจ้ากล่าวถึงคติว่ามี โทสาคติ ลำเอียงเพราะโกรธ ฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรัก ภยาคติ ลำเอียงเพราะกลัว โมหาคติ ลำเอียงเพราะหลงผิด บางคนรักฝังใจ อย่างไรก็ต้องเชียร์พรรคการเมืองนี้ ไม่เปลี่ยนใจ จึงกลายเป็นฉันทาคติ ลำเอียงเพราะรักไป"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 31-10-2012, 08:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมมีความคิดว่า .....(ไม่ได้ยิน)...
ตอบ : มีจริง แต่เขาไม่ได้เอามาใช้ มีแต่คนที่ศึกษาไม่ครบก็เลยไม่เจอ ไม่ว่าจะเป็นอัตตาธิปไตย โลกาธิปไตยหรือธรรมาธิปไตย จริง ๆ แล้วขึ้นอยู่กับคนใช้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลักการ หรือหลักธรรมนั้น ๆ

อย่างอัตตาธิปไตย ถือตนเป็นใหญ่ ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเผด็จการ คุณดูสิว่าเผด็จการอย่างรัชกาลที่ ๕ ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช สั่งให้ใครตายก็ได้ แต่ทำไมบ้านเมืองเจริญมาก ? ช่วงนั้นเราเจริญกว่าญี่ปุ่นอีก

ปัจจุบันโลกาธิปไตย ถือโลกเป็นใหญ่ ถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่ เรามาเรียกอีกอย่างว่า ประชาธิปไตย ดูสิว่าเละขนาดไหน ? ฉะนั้นไม่ใช่หลักการไม่ดี แต่อยู่ที่คน

อย่างในหลวงของเราปัจจุบัน ต้องบอกว่าพระองค์ท่านถือธรรมาธิปไตย ถือธรรมเป็นใหญ่ อาศัยหลักธรรมในการปกครองประเทศ อย่างเศรษฐกิจพอเพียงก็ถือหลักสันโดษ แล้วยังมีหลักทศพิธราชธรรม หลักจักรวรรดิวัตร หลักพรหมวิหาร

เพียงแต่ว่าพระองค์ท่านทำอยู่คนเดียว คนอื่นไม่ให้การสนับสนุน พระองค์ท่านก็ทำได้เต็มที่แค่กำลังของพระองค์เอง ถ้าไม่ได้อยู่ในฐานะอย่างพระองค์ท่านก็ทำไม่ได้เท่านี้ ฉะนั้น..หลักการต่าง ๆ จะดีหรือไม่ดีอยู่ที่คนใช้

อัตตาธิปไตยกับโลกาธิปไตยขึ้นกับคนใช้เต็ม ๆ ธรรมาธิปไตยนี่หลักการดีแน่ ถ้าคนใช้อยู่ในศีลในธรรมก็ยิ่งเสริมความดีเข้าไปใหญ่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 31-10-2012, 08:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสสนับสนุนการปกครองแบบไหนเลย แต่พระองค์ท่านตรัสในส่วนของธรรมาธิปไตย ก็คือ ไม่ว่าจะมีการปกครองแบบไหน จะต้องประกอบไปด้วยหลักธรรม อย่างเช่น อัตตาธิปไตย ถือตนเป็นใหญ่ คุณก็ต้องปราศจากอคติ ๔ ประกอบไปด้วยพรหมวิหาร ๔ เป็นต้น

ถ้าโลกาธิปไตย คุณจะถือเสียงข้างมากเป็นใหญ่ คุณก็ต้องประกอบด้วยความยุติธรรม ถ้าเป็นอัตตาธิปไตยแบบพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ก็ต้องมีทศพิธราชธรรม

พระพุทธเจ้าจึงไม่ได้ตรัสสรรเสริญหลักการปกครอง แต่พระองค์ท่านตรัสถึงธรรมะที่จะไปประกอบกับหลักการนั้น ๆ เพราะพระองค์ท่านทราบดียิ่งกว่าเราหลายเท่านักว่า หลักการดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับคนเอาไปใช้ด้วย ถ้าคนเอาไปใช้เป็นคนไม่ดี เขาก็พยายามดัดแปลงหลักการให้เกิดประโยชน์แก่พวกพ้องและตัวเองจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:29
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 31-10-2012, 08:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คนในครอบครัวเดียวกัน ใช้หลักการเดียวกันตัดสินหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ถ้ากำลังใจไม่เท่ากัน จะตัดสินต่างกัน ฉะนั้น..กำลังใจต้องเท่ากัน

ถาม : ถ้าเกิดเราใช้ธรรมาธิปไตย อะไรถูกอะไรผิดว่ากันตามหลักการ
ตอบ : จริง ๆ จะว่าไปแล้ว กฎพื้นฐาน คือ ศีล ๕ ถ้าละเมิดศีล ๕ นี่ผิดทั้งนั้น คุณลองดูว่าโลกปัจจุบันของเรา ข่าวคราวที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร ?

ละเมิดข้อที่ ๑ ก็ฆ่ากัน ฝังอยู่เต็มไร่ ขุดหายังไม่เจอ ศีลของที่ ๒ ลักขโมย ช่วงชิง ปล้นฆ่ากัน ละเมิดศีลข้อที่ ๓ เสี่ยง้อภรรยาไม่ได้ ๘ ปีผ่านไปตามไปยิงตายเลย ละเมิดศีลข้อที่ ๔ โกหกหลอกลวง ฉ้อโกงกัน ละเมิดศีลข้อที่ ๕ เมาสุราก็ละเมิดศีลข้ออื่นไปด้วย

เราจะเห็นว่าถ้ามีศีล ๕ กำกับอยู่ บรรดากฎหมายไม่ต้องมีหรอก ถ้าจะเอาจริง ๆ ก็คือหลักมนุษยธรรมคือการมีศีล ถัดไปคือหลักเทวธรรม ก็คือ มีหิริโอตัปปะ ละอายชั่วกลัวบาป สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าเรายึดถือเป็นปกติ ไม่ต้องไปสนใจกฎหมายอื่น ๆ เราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดมากมายนักหรอก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 222 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 31-10-2012, 09:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าจะมีพวก....
ตอบ : นั่นเป็นเรื่องปกติของคน คนเราเกิดมาสร้างเวรสร้างกรรมไม่เท่ากัน มีอยู่สมัยหนึ่งในยุคคอมมิวนิสต์ ที่เขาจะทำให้ทุกคนเท่ากันหมด ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อเขาเองสร้างความดีความชั่วมาไม่เท่ากัน ถึงเวลาจะให้รับผลดีผลชั่วเท่า ๆ กันนั้นเป็นไปไม่ได้ หลักการผิดตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแต่ว่าเป็นสังคมในอุดมคติ เขาคิดว่าถ้าทุกคนเสมอภาคกัน มีส่วนในทรัพยากรเท่าๆ กัน โลกนี้จะสงบสุข เขาคิดผิดตั้งแต่แรกแล้ว

เราลองดูว่า ถ้าหากว่าโลกปัจจุบันมีคนรวยคนจน คนจนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี คนรวยมีทรัพยากรมากเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันให้มา ทุกคนก็จะอยู่อย่างมีความสุข เพราะทุกอย่างต้องประกอบด้วยหลักธรรม ถ้าไม่มีหลักธรรมโลกก็วุ่นวาย..อยู่ไม่ได้หรอก

ที่ในหลวงตรัสเอาไว้ เป็นเรื่องที่ชัดเจนที่สุดเลย คือ พยายามส่งเสริมให้คนดีมีอำนาจ และอย่าให้คนชั่วมีอำนาจขึ้นมา เมื่อคนดีมีอำนาจในการปกครอง คนชั่วก็ไม่เดือดร้อน เพราะคนดีที่มีอำนาจไม่ไปเบียดเบียนคนชั่วอยู่แล้ว แต่ถ้าคนชั่วมีอำนาจในการปกครองแม้แต่คนเดียว คนดีจะเดือดร้อนเป็นร้อยเป็นพัน พระองค์ท่านตรัสมาตั้งกี่สิบปีแล้วก็ไม่รู้ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 220 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 31-10-2012, 09:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถ้าคนเราไม่เห็นแก่ประโยชน์ตนและมีความยุติธรรม รู้จริง ๆ ว่าธรรมะคืออะไร ไม่ต้องไปพึ่งพาคนอื่นหรอก มโนธรรมของตัวเองจะบอกเอง ต่อให้เด็กที่เกิดขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าความดีความชั่วเป็นอย่างไร ถ้าเขาฆ่าสัตว์สักตัวหนึ่ง เขาจะรู้สึกไม่สบายใจทันที นั่นแหละคือมโนธรรม เป็นหลักการที่แท้จริง เป็นสิ่งที่ถูกต้อง สามารถรู้ได้โดยไม่ต้องให้คนอื่นเขาบอก

แต่สมัยนี้มโนธรรมโดนรัก โลภ โกรธ หลง กลบกลืนไปหมด ถึงเวลาแล้วตัวกูต้องถูกไว้ก่อน ถึงเวลาต้องไปฟ้องศาลปกครอง ให้ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ให้ศาลฎีกาตัดสิน บ้าชัด ๆ อย่างพระในปัจจุบันหลงประเด็นกันเยอะมาก เวลาละเมิดศีลต้องอาบัติปาราชิก ต้องรอให้ศาลสั่งก่อน กูถึงจะยอม ความจริงเจ๊งตั้งแต่ตอนทำแล้ว จะไปรอให้ศาลสั่งได้อย่างไร

ถึงได้บอกว่ามโนธรรมโดนรัก โลภ โกรธ หลง กลบกลืนไปหมด มีอยู่ทางเดียวคือเราต้องเข้าถึงธรรมให้มากที่สุด เวลามีอำนาจหน้าที่บริหารหมู่คณะ จะเล็กจะใหญ่ก็ตาม ต้องใช้หลักธรรมในการบริหาร ให้เกิดความยุติธรรมให้มากที่สุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 31-10-2012, 09:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีอยู่สมัยหนึ่งเพื่อนชวนไปสมัครส.ส. อาตมาก็บวชมาตั้งหลายพรรษาแล้ว แต่ก็ยังมาชวน เขาใช้คำพูดว่า ถ้าคนดีเข้าวัดบวชกันหมด แล้วประเทศชาติจะอยู่ได้อย่างไร ? อาตมาก็ว่าถ้าคนดีบวชกันหมด ประเทศชาติน่าจะดีขึ้น เพราะอย่างน้อย ๆ มีโอกาสสั่งสอนคนอื่นได้อีกมาก

เราต้องเข้าใจศิลปะในการดำรงชีวิตอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านว่า สิปปัญจะ เอตัมมังคะละมุตตะมัง การมีศิลปะถือเป็นอุดมมงคล ศิลปะอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ ศิลปะการในดำรงชีวิต ก็คือ ต้องรู้กาลเทศะ กาละคือเวลาที่เหมาะสม เทศะคือสถานที่ที่เหมาะสม

ถ้ามีแต่พวกโกงกินกันทั้งหมด แล้วเราไปพูดเรื่องปราบคอร์รัปชั่น คงจะมีคนสนับสนุนเราหรอก เรื่องพวกนี้เราต้องค่อย ๆ ศึกษาไป แล้วท้ายสุดก็จะปรับตัวเองให้อยู่ในลักษณะไม่โดนเบียดเบียนมากนัก สามารถที่พอจะอยู่ได้ในโลกที่สับสนวุ่นวายขนาดนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 31-10-2012, 09:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไม่เข้าใจว่า การพยากรณ์มรรคผลเป็นอย่างไร ?
ตอบ : การพยากรณ์มรรคผลเป็นหน้าที่ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น คนทั่ว ๆ ไปอย่าไปยุ่ง เรารู้ไม่จริงหรอก

การฝึกมโนมยิทธิทั่ว ๆ ไป เวลาเราดูให้คนอื่นจะแม่น แต่ดูให้ตัวเองจะไม่แม่น เพราะการดูให้คนอื่นส่วนได้เสียไม่มี แต่พอดูให้ตัวเองเวลาเห็นว่าไม่ดี เราก็จะคิดว่าน่าจะดีนะ ทีนี้จะเริ่มผิด และพอเป็นเรื่องของผลประโยชน์ ก็จะทำให้ใจก้าวเข้าไปสู่รัก โลภ โกรธ หลง แล้วก็จะผิดยาวเลย

อย่างเช่น แทนที่จะไปดูว่าตัวเองเกิดมากี่ชาติกี่ภพแล้ว มาชาตินี้ควรจะเข็ดหรือยัง ? ก็ไปดูว่าหวยจะออกอะไร ? ถ้าอย่างนั้นจะโดนกิเลสอุปาทานหลอกเอา

ถาม : ถ้าบอกว่าคนนี้เป็นพระอรหันต์แล้ว คนนี้เป็นพระสกิทาคามี ?
ตอบ : จะเรียกว่าการพยากรณ์มรรคผลก็ได้ บุคคลที่อยู่ระดับเดียวกันจะรู้บุคคลในระดับเดียวกันและต่ำกว่า แต่ส่วนใหญ่แล้วถ้าไม่จำเป็นจริง ๆ ก็จะไม่พูดถึง การพูดถึงจะพูดในลักษณะของการยกย่อง พูดถึงในส่วนความดีงามของเขา จะไม่มีการพูดในลักษณะไปกดข่มคนอื่น ฉะนั้น..ต้องดูกำลังใจของคนพูดด้วยว่าอยู่ในระดับไหน

เหมือนคนเรียนจบปริญญาตรีย่อมรู้ว่าคนจบปริญญาตรีเขาเรียนอะไรมา ขณะเดียวกันก็รู้ว่าคนที่ความรู้ต่ำกว่าว่าเรียนอะไรมา แต่ไม่รู้ว่าคนจบโทหรือเอกเขาเรียนอะไรกัน เพราะตัวเองยังเรียนไม่ถึง ฉะนั้น..เรื่องพยากรณ์มรรคผลหรือดูกำลังใจคนอื่น ดูได้ในระดับที่เท่ากันและต่ำกว่าเท่านั้น สูงกว่าดูเขาไม่ได้


ถาม : คนใดเรามองว่าเป็นอริยบุคคล แต่ในบางกิริยาที่ท่านทำ เราอาจจะมองว่าไม่น่าใช่
ตอบ : แปลว่าคุณยังขาดความมั่นใจในตัวท่าน ถ้ามีความมั่นใจในตัวท่านจริง จะไม่สงสัยเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 218 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 31-10-2012, 09:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวกับลูกศิษย์ว่า "เรามีหน้าที่อะไรก็ไปทำ ในเรื่องของการรับงานเพื่อส่วนรวม ต้องประกอบไปด้วยเสียสละ ไม่ใช่ถึงเวลากูจะอยู่ใกล้ ๆ ครูบาอาจารย์ แล้วงานส่วนอื่นก็เสียหมดเพราะไม่มีใครไปดูไปแล"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 31-10-2012, 09:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จากที่เคยเห็นมา ใครเคยทำไม่ดีกับพ่อกับแม่อย่างไร เวลามีลูกแล้วได้คืนหลายเท่า เป็นกรรมอย่างเดียวที่ทันตาเห็นจริง ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเราไม่แสบจริงก็ไม่มาเกิดกับพ่อแม่เราหรอก ฉะนั้น..ถ้าอยากจะมีลูกดี ตัวเราเองต้องดีก่อน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-10-2012 เมื่อ 14:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 01-11-2012, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมควรจะไปฝึกเรื่องทิพจักขุญาณที่ไหนครับ ?
ตอบ : ถ้าของเก่ามีแล้ว เราภาวนาไปจนกำลังใจเริ่มนิ่ง ของเก่าก็จะกลับมาเอง ไม่ต้องเสียเวลาไปฝึกที่ไหนหรอก เพียงแต่ระวังไว้อย่างหนึ่งว่า ถึงเวลาเขาทดสอบจะเล่นแรง

ให้จำไว้ให้แม่นว่าสิ่งที่เราเห็น เราเห็นจริง ๆ แต่เรื่องที่เรารู้เห็นไม่แน่ว่าจะจริง ส่วนใหญ่ที่เสียไป เนื่องจาก “เชื่อเพราะเราเห็น” เพราะฉะนั้นต่อให้เห็นเองก็ยังเชื่อไม่ได้ ต้องรอเวลาพิสูจน์ก่อน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 01:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 223 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 01-11-2012, 20:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าต้นไม้ที่มีรุกขเทวดาอยู่ เราจำเป็นต้องโค่นทิ้งต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ตั้งศาลให้เขาในที่ที่เหมาะสม แล้วตัดกิ่งไม้นั้นมากิ่งหนึ่ง ประมาณ ๑ ศอก ตั้งไว้ในศาล หันทางด้านปลายขึ้น เขาจะได้อาศัยต่อได้

ถาม : ต้นไม้ใหญ่ ๆ จะมีเทวดาอาศัยอยู่ทุกต้นไหมครับ ?
ตอบ : เฉพาะต้นไม้ที่มีแก่น ถ้าไม่มีแก่นท่านก็ไม่ได้อาศัย พวกไม้ไม่มีแก่นอย่างพวกนุ่น สำโรง เป็นต้น

ถาม : ผมไม่ได้ตัดทั้งต้น ตัดแค่กิ่งก้านออก
ตอบ : ถ้าไม่ได้ตัดทั้งต้นไม่เป็นไร แต่ถึงไม่ตัดทั้งต้นก็ควรจะบอกเล่าเก้าสิบกันก่อน ไม่ใช่อยู่ ๆ ก็ไปตัดเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 02:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 221 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 01-11-2012, 20:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พระเครื่องของหลวงปู่โหน่งเป็นของดีราคาถูก เพราะท่านทำเอาไว้มาก วัดไหนขอ ท่านให้เขาเป็นลำเรือเลย ก็เลยกลายเป็นว่าของดี แต่ราคาถูกเพราะของมีมาก

อาตมามีขุนแผนหน้าค่ายอยู่องค์ครึ่ง เพราะองค์หนึ่งแหว่งไป แล้วก็มียอดขุนพล ส่วนองค์ที่เป็นพิมพ์สมเด็จนั้น ตอนแรกใคร ๆ เขาก็ตีว่าเป็นวัดระฆัง อาตมาบอกว่าไม่ใช่ แต่ว่าสมเด็จรุ่นแรก ๆ ของท่านเนื้อแกร่งมาก พอมารุ่นหลัง ๆ แล้วเน้นเอาดินมาทำ ความต่างจึงเห็นชัด เพราะเป็นเนื้อดินเผา

วิธีเสกพระของหลวงปู่โหน่งไม่เหมือนใครหรอก ตั้งบายศรีคู่ ปูผ้าขาว มีดอกไม้ธูปเทียนไหว้พระเสร็จสรรพ ท่านเดินจงกรมรอบเตาเผา ภาวนาเสกพระไปเลย"


ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ไม่รู้ยังเหลือหรือเปล่า ? สมัยหลวงพ่อแดง แค่วัดพวกเรายังไม่กล้าเดินผ่านเลย ท่านดุมาก พอมานึกถึงสมัยนี้ที่พวกชาวบ้านบอกว่าอาจารย์เล็กดุ ลองเจอหลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก ไอ้เด็กเซียน ๆ อย่างเราไม่กล้าเดินผ่านวัด นึกเอาก็แล้วกันว่าท่านดุขนาดไหน ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 02:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 01-11-2012, 20:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หนังสือประวัติหลวงพ่อปานของหลวงพ่อวัดท่าซุง ทำให้ชื่อเสียงหลวงปู่ปานกับหลวงปู่โหน่งดังขึ้นมาอีกมาก ลำพังท่านดังอยู่แล้ว แต่คราวนี้พอลูกศิษย์เก่งแล้วยกย่องครูบาอาจารย์ด้วยก็เลยดังกันไปใหญ่ แต่วัดเก่า ๆ สายครูบาอาจารย์ส่วนใหญ่จะโทรม มีหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอที่ทางวัดปากน้ำฯ ไปสนับสนุนทำให้ ก็ดูว่าเจริญขึ้นมา วัดอื่น ๆ ค่อนข้างจะทรุดโทรม

แม้กระทั่งวัดบางนมโค สมัยพระครูวิหารกิจจานุยุต ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุง หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเป็นพระอาจารย์คู่สวด คราวนี้หลวงพ่อท่านก็ตั้งใจจะสนับสนุนวัดบางนมโค ถ้าจำไม่ผิดเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ หลวงพ่อท่านไปวัดบางนมโค ญาติโยมตามไปทำบุญวันนั้นได้สี่แสนบาท ท่านบอกพระครูอุไรว่า ให้เอาเข้าเป็นกองทุนหลวงปู่ปาน แต่ปรากฏว่าถึงเวลาแล้วท่านเอาไปใช้อย่างอื่น หลวงพ่อท่านก็เลยตัดขาด ไม่ไปวัดบางนมโคอีกเลย ท่านบอกว่า “ในเมื่อไม่ฟังกันแล้วจะไปทำไม ?”

ถาม : รูปหล่อหลวงปู่ปานที่วัดใหญ่มาก ?
ตอบ : จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ เพียงแต่ให้ทำในลักษณะส่งเสริมครูบาอาจารย์ ไม่ใช่ทำเพราะอาศัยชื่อเสียงครูบาอาจารย์ไว้หากิน เจตนาต่างกันนิดเดียว ผลจะออกไปคนละโลกเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 02:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 228 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 02-11-2012, 08:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัดบางปลาหมออยู่ใกล้นิดเดียว ?
ตอบ : วัดบางปลาหมอ วัดน้ำเต้า วัดเจ้าเจ็ด วัดหน้าต่างนอก ก็อยู่ละแวกนั้นแหละ ถ้าวัดหน้าต่างนอกไม่ได้หลวงพ่อนิลสืบต่อมาก็คงโทรมเหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่พอสิ้นครูบาอาจารย์แล้ว ที่เหลือก็มักจะอาศัยวัดเฉย ๆ ไม่ได้อยู่ให้วัดได้อาศัยบ้าง

เรื่องของเจ้าอาวาสเป็นเรื่องที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เจ้าอาวาสใหม่ต่อให้เก่งเท่าเจ้าอาวาสเก่า ญาติโยมก็ยังนึกถึงแต่เจ้าอาวาสเก่า ถ้าเก่งสู้เจ้าอาวาสเก่าไม่ได้ก็จมหายไปเลย วัดวาโทรมทันตา ยังดีว่าหลวงปู่จ้อย วัดบ้านแพน ยังมีสืบสายมาจนปัจจุบัน อย่างหลวงปู่พูนก็ทำให้วัดวาอารามเจริญรุ่งเรืองได้ ถ้าไม่มีสืบสายต่อกันมาก็หมด

เจ้าอาวาสวัดบางนมโคจากหลวงปู่คล้ายมาหลวงพ่อปาน มาหลวงพ่อเล็ก มาหลวงตาเจิม แล้วก็มาหลวงพ่อฉัตร แล้วมาหลวงพ่อวัดท่าซุง พอสิ้นรุ่นหลวงพ่อมาแล้วที่เหลือก็ไปไม่รอด พอหลวงพ่อท่านออกมาอยู่วัดสะพาน จังหวัดชัยนาท วัดบางนมโคก็โทรมไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 19:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 214 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 02-11-2012, 08:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนใหญ่มีปัญหาตรงพวกบรรดามัคคนายก ที่มีอำนาจมักจะเป็นญาติเจ้าอาวาส คนอื่นไม่กล้าว่ากล่าว อาตมาไปอยู่ที่ไหนถึงได้ออกระเบียบวัดว่า ถ้าใครอ้างว่าเป็นญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องของเจ้าอาวาสแล้วมาทำผิดระเบียบ ให้ไล่ออกจากวัดแล้วห้ามเข้าตลอดชีวิตเลย ไม่อย่างนั้นถ้าเอาญาติตัวเองไม่อยู่ก็ปกครองคนอื่นไม่ได้

ไม่ได้แวะเข้าไปดูวัดพิกุล
พอสิ้นหลวงปู่ปั้นแล้วไม่รู้เป็นอย่างไรบ้าง ยังมีหลวงปู่ขัน วัดนกกระจาบ ครูบาอาจารย์สมัยนั้นสุดยอดทั้งนั้นเลย ไปตกอยู่ยุคสมัยไล่ ๆ กันหมด มีหลวงปู่จงที่อายุยืนกว่าเพื่อน ต้องบอกว่าหลวงปู่จงท่านทำปาณาติบาตน้อย แล้วก็เมตตาเหลือล้นจริง ๆ

ญาติโยมมาถึงเสือกหัวเรือพรวด ล่ามเรือเสร็จสรรพเรียบร้อย ตะโกนว่า “หลวงตา..เฝ้าเรือให้หน่อยนะ จะไปกราบหลวงพ่อหน่อย” แล้วก็วิ่งขึ้นกุฏิท่าน สักพักวิ่งหน้ากระเรี่ยกระราดกลับมา พระท่านบอกว่าหลวงพ่ออยู่ที่ท่าน้ำนั่นแหละ ใช้ท่านให้เฝ้าเรือไปเรียบร้อยแล้ว ท่านก็นั่งอยู่นั่นแหละ

เขาถามว่าทำไมท่านไม่ไปกุฏิ ? ท่านบอกว่า “ก็โยมใช้ให้ฉันเฝ้าเรือ ก็เฝ้าให้โยมก่อน” หลวงปู่จงท่านอายุ ๙๐ กว่าเกือบร้อยปี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 19:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 02-11-2012, 08:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,472 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ช่วงนี้เวลานั่งสมาธิรู้สึกกำลังใจรวมตัวได้ง่ายมากเลย เป็นเพราะว่าเราเริ่มขยันหรือเป็นเพราะว่าช่วงระยะเวลานี้ทำได้ดี ?
ตอบ : หลายอย่างรวมกัน สำคัญที่สุดก็คือต้องทำให้ต่อเนื่อง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวก็พังอีก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 19:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 226 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:52



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว