กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #121  
เก่า 29-11-2017, 09:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงแพะหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก "คาถากำกับก็คือ อากาเส จะ ทิปังกะโร นะโมพุทธายะ จริง ๆ แล้วเป็นคาถากันฟ้าผ่า ทีนี้ท่านเอามาใช้กับแพะ ดันเป็นมหาเสน่ห์ ตูจะบ้า...ท่านทำได้อย่างไร ?"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2017 เมื่อ 10:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 179 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #122  
เก่า 29-11-2017, 09:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงลิงของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว "คุณดูที่หางสิ เขาเรียกว่าลิงมีหลัก เอาหางค้ำพื้น นอกจากขาแล้วยังมีหางช่วยยัน โบราณเขาทำอะไรก็มีเคล็ดทั้งนั้น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2017 เมื่อ 10:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #123  
เก่า 29-11-2017, 09:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงมีดหมอ "คุณดูแต่ละเล่มสิ มีดหมอโบราณส่วนใหญ่จะให้สวยจริงนั้นยาก เพราะว่าฝีมือช่างชาวบ้านทั้งนั้น แต่ไปเจอที่สวยจนตะลึงก็มีนะ แต่คนมีฝีมือแบบนั้นมีน้อยมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2017 เมื่อ 10:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 174 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #124  
เก่า 29-11-2017, 09:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่อาตมาไม่คิดจะไปเลย เหตุที่ไม่คิดจะไปเลย อันดับแรกคือของแพง กล้วยหอมหนึ่งลูก ๓๐๐ เยน บ้านเรากินได้เป็นหวี ไปที่โน่นจะกินลูกหนึ่งต้องคิดแล้วคิดอีก

ประการที่ ๒ คือเจ้ากรรมนายเวร ยังไม่ได้ใช้หนี้เขาเลย แต่มีคนออกตั๋วให้ ก็เลยตามเขาไปแบบงง ๆ ถ้าพาเขาซวยทั้งคณะก็โทษใครไม่ได้ เพราะว่าเขาอยากให้อาตมาไปเอง หนี้เก่าแค่กวาดเขาหมดจวนเจ้าเมืองเท่านั้น...! เจ้าเมืองคือไดเมียว...ใช่ไหม ? ประเภทดีเกินเหตุ จนชาวบ้านต้องมาร้องทุกข์ ในฐานะผู้ผดุงคุณธรรมก็เลยต้องช่วยเขาหน่อย

แต่ก็อย่างว่า เรื่องพวกนี้ฆ่าเหลือบเก่าตาย เหลือบฝูงใหม่ก็มา การอยู่บนอำนาจแล้วคนจะมีความบริสุทธิ์ยุติธรรมนั้นหายาก เหลือบฝูงเก่าดูดเลือดจนหมูหมากาไก่จะแห้งตาย คิดว่าฆ่าตายแล้วจะจบ ที่ไหนได้...ฝูงใหม่มาอีก บางทีหนักกว่าเก่าอีก..!"

เพราะฉะนั้นไปญี่ปุ่นงวดนี้ ถ้าไม่ใช่ดวงดีผีคุ้มจริง ๆ ก็รอด ถ้าไปเจอแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด อาตมาจะไม่แปลกใจเลย พวกที่อยากตาม ๆ ให้รู้เสียบ้างว่าอาตมาไปก่อหนี้ไว้ทั่วโลก

ปกติที่อยากไปคือไปแล้วมีประโยชน์ ทั้งกับตนเองและผู้อื่น เช่นไปศึกษาเรื่องของพุทธศาสนาแล้วเอามาเป็นข้อมูลสอนนิสิต ส่วนที่ไปแล้วไม่มีประโยชน์เขาชวนไปเที่ยว หมดอารมณ์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2017 เมื่อ 10:45
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #125  
เก่า 29-11-2017, 18:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนที่หนูนั่งสมาธิ แรก ๆ ภาวนาพุทโธและดูลมหายใจ ต่อมาอารมณ์ใจอยากจะภาวนานะมะพะธะขึ้นมา รู้สึกว่าไปนะมะพะธะเอง แต่ก็จะสลับไปสลับมา ?
ตอบ : อยู่ที่ตัวเรา ถ้าเราตั้งใจจะเอาพุทโธก็พุทโธไป ถ้าเป็นนะมะพะธะเราก็ดึงกลับมาหาพุทโธใหม่ แต่ถ้าภาวนากี่ครั้ง ๆ ก็ไปนะมะพะธะอย่างเดียว ให้เปลี่ยนตามไปเลย เพราะว่าอาจจะได้เร็วกว่า...ง่ายกว่า

ตอนแรก ๆ เรายืนยันในสัจจบารมี เอาพุทโธเป็นหลักก่อน ถ้าเอาไม่อยู่จริง ๆ ค่อยตามไป

เรื่องการภาวนา ถ้าอยู่ในอารมณ์ปกติแล้วอยู่ ๆ จับคำภาวนาขึ้นมา ให้รีบตะครุบไว้ด่วนเลย เพราะว่ามีสองสาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรก คือ จิตสงบได้ที่จึงอยากจะภาวนา ก็จะย้อนกลับไปหาคำภาวนาเอง อีกประการหนึ่ง คือ อาจจะมีอันตรายเข้ามา สภาพจิตรู้ตัวก่อน ก็เลยให้เราภาวนาเพื่อกันเอาไว้ แต่ถ้าเรานั่งภาวนาอย่างเป็นทางการ ใช้คำภาวนาไหน เริ่มต้นด้วยอะไร ก็ฝืนดึงกลับมาที่คำภาวนาเดิม อย่าไปเปลี่ยนตามเขา

ความจริงก็แค่ไม่กี่ครั้ง พอเราเคยชิน กำลังเริ่มดี ก็ใช้คำภาวนาตามที่ต้องการได้ ทำไป ๆ พอมีความคล่องตัวมาก ๆ ก็ไม่ต้องใช้คำภาวนาแล้ว แค่คิดเท่านั้น...ปึ้กเดียวก็ไปตามที่ต้องการเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 18-02-2019 เมื่อ 01:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #126  
เก่า 29-11-2017, 19:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "งานพระเมรุมาศของในหลวงรัชกาลที่ ๙ มีบางอย่างที่อาตมาอยากจะให้ช่างฝีมือทำให้เหมือนจริง ก็คือพญาครุฑ พญาครุฑเขาลงสีอย่างไรก็ลงไม่เหมือน คงจะเป็นเพราะเขาแค่ได้ยินแค่คำพูดมา

พญาครุฑกายไม่ใช่สีแดงเฉย ๆ แต่สีเหมือนถ่านสุก นึกออกไหม ? ถ่านที่ลุกเป็นไฟ เป็นแดงปนทอง เวลาพญาครุฑบินมาอย่างกับเปลวไฟมาเลย คราวนี้ไปเจอที่ไหน ๆ จิตรกรก็ลงสีเป็นสีแดงหมด เขาเอาพญาครุฑเป็นกายสีแดง แล้วเครื่องทรงและปีกเป็นสีทอง ซึ่งไม่ใช่ สีของกายเหมือนถ่านที่ลุกเป็นไฟ ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร ไปดูเอาเองก็แล้วกัน เวลาพญาครุฑบินมา มองไกล ๆ เหมือนกับไฟทั้งกองเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2017 เมื่อ 21:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #127  
เก่า 29-11-2017, 20:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ครุฑไม่ถูกกับพญานาคใช่ไหมคะ ?
ตอบ : เขาทะเลาะกันมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ท้ายสุดก็ไปตามสัญชาตญาณ คือนกต้องกินงู แต่เขามีกฎเกณฑ์กติกาอยู่ว่ากินได้แค่ไหน ถ้าระดับสูงขึ้นไปอย่างนาคราช พวกราชตระกูล ก็กินเขาไม่ได้ ถ้าทำผิดกฎนี่ซวยมาก จะกินแต่ละทีต้องคอยดูว่าไม่ใช่ร้อยตำรวจเอกปลอมตัวมา..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 18-02-2019 เมื่อ 01:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 178 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #128  
เก่า 29-11-2017, 20:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ขอให้พวกเราทุกคนทำความเข้าใจให้ชัดเจนว่า ดอกไม้ประจำพระองค์ของพระมหากษัตริย์ไทยคือดอกราชพฤกษ์ หรือที่เราเรียกว่าดอกคูณบ้าง ดอกลมแล้งบ้าง ไม่ใช่ดอกดาวเรือง

เนื่องจากว่าสีเหลืองเป็นสีประจำองค์พระมหากษัตริย์ ถ้าไปปลูกราชพฤกษ์แล้วอีกกี่ปีกว่าจะมีดอก ในเมื่อจำเป็นจะต้องใช้ ก็เลยเอาที่ขึ้นง่าย ๆ หน่อยคือดาวเรือง คาดว่าคงมีคนจำนวนมากที่ไปเข้าใจว่าดาวเรืองเป็นดอกไม้ประจำองค์พระมหากษัตริย์ ต้องเรียกว่าเป็นแค่ชั่วคราวเท่านั้น ใช้เฉพาะกิจ

อะไรก็ได้ที่เป็นสีเหลือง เพราะสีเหลืองเป็นสีประจำองค์พระมหากษัตริย์ ถ้าเราสังเกตดูธงมหาราช คือธงประจำองค์พระมหากษัตริย์ เป็นสีเหลืองแล้วมีพญาครุฑอยู่ตรงกลาง ถ้าเป็นธงยุพราชมีสีเหมือนกัน แต่จะเป็นธงหางแฉก

ธงตรามหาราช .................ผ่องผุดผาดในเวหา
รูปครุฑราชา....................อ้าปีกกว้างท่าทางบิน
ธงแดงดังแสงชาด...............ลายช้างกาจก่องกายิน
บอกตรงธงแผ่นดิน...............ถิ่นสยามอันงามงอน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2017 เมื่อ 21:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #129  
เก่า 29-11-2017, 20:33
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ดอกดาวเรืองสมัยปัจจุบันนี้ปลูกได้ครั้งเดียว ไม่สามารถที่จะเก็บเมล็ดไปเพาะต่อได้ เนื่องจากเขาฉายรังสีมา แล้วบ้านเราออกกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการเก็บเมล็ดพันธุ์ ซึ่งต่อไปใครไปเก็บเมล็ดพันธุ์เอาไว้ทำพันธุ์เอง อาจจะเดือดร้อนถึงขนาดติดคุกติดตาราง เพราะว่าเขาออกกฎหมายมาเอื้อให้บริษัทใหญ่เก็บเมล็ดพันธุ์ขายอย่างเดียว ซึ่งกฎหมายในลักษณะนี้ไม่ควรที่จะมีในประเทศเราซึ่งเป็นประเทศเกษตรกรรม เพราะว่าเท่ากับเอื้อนายทุนบีบบังคับให้เกษตรกรอยู่ภายใต้อาณัติของตัวเอง

ถ้าไม่มีสังกัดก็ไม่มีเมล็ดพันธุ์ ไม่สามารถทำการเกษตรได้ แต่รัฐบาลสิ้นสติ ออกกฎหมายประเภทนี้ออกมา แล้วออกมาในช่วงระหว่างการจัดพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งคนกำลังวุ่น ๆ กันอยู่ ไม่มีใครไปคัดค้าน ประกาศออกมารอการคัดค้าน ๓๐ วัน ป่านนี้ก็น่าจะหมดเวลาไป คนกำลังยุ่งอยู่กับงานถวายพระเพลิงในหลวง ร.๙ แล้วใครจะมีเวลามาคัดค้าน ?

ต้องบอกว่าเจตนาเอื้อประโยชน์กับนายทุนอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่สมควรกระทำ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2017 เมื่อ 21:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #130  
เก่า 29-11-2017, 20:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ในโลกของทุนนิยม ปลาใหญ่กินปลาเล็กถือเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้ากินมาก ๆ ปลาเล็กหมดไป ปลาใหญ่จะอยู่อย่างไร ? ส่วนใหญ่แล้วบ้านเราเมืองเราไม่ได้คิดถึงตรงนี้ คิดถึงแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า เขาเอื้อประโยชน์ให้เรา เราก็ออกกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้เขา โดยไม่ได้ดูว่าคนชั้นรากหญ้าซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของประเทศเราเป็นเกษตรกร แล้วเขาจะอยู่กันอย่างไร ?

ปัจจุบันนี้ทางรัฐบาลก็ออกคำถาม ๖ คำถามมา ซึ่งเป็นคำถามที่ห่วยแตกมาก ต้องบอกว่าอยู่ในลักษณะชี้นำกลาย ๆ ซึ่งถ้าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง การกระทำทั้งหมดของรัฐบาลปัจจุบันที่มาโดยวิธีการพิเศษ อาตมาถือว่าสอบตก เลือกตั้งครั้งต่อไปเป็นฝ่ายค้านแน่นอน แต่เมื่อเขามาด้วยวิธีพิเศษ ไม่ได้มาด้วยการเลือกตั้ง อย่างนั้นก็แล้วแต่เวรแต่กรรมก็แล้วกัน

ลักษณะของรัฐบาลที่ตั้งคำถามไม่ว่าจะ ๔ คำถามหรือ ๖ คำถามก็ตาม อยู่ในลักษณะเหมือนกับโยนหินถามทาง แต่อาตมาว่าน่าจะเข้าภาษิตจีนที่ว่า "ยกหินทุ่มตีนตัวเอง" มากกว่า จะทำอะไรก็ทำอย่างกล้าหาญ อยากจะอยู่ต่อก็ตั้งพรรคขึ้นมาให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย โยนหินถามทางแก้เขินแบบนี้ไม่ใช่การกระทำของลูกผู้ชาย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2017 เมื่อ 21:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 170 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #131  
เก่า 30-11-2017, 10:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : คราวนี้แม่ป่วยหนักมากเลย จะต้องทำกำลังใจอย่างไรครับ ?
ตอบ : น้ำหนักลดหรือเพิ่ม ?

ถาม : ยังไม่ลดเท่าไร ?
ตอบ : ถ้าอย่างนั้นแสดงว่ายังไม่หนัก ถ้าน้ำหนักเพิ่มนี่ถึงจะหนัก เข้าใจไหม ?

ถาม : ไม่เข้าใจครับ ตอนนี้ต้องรักษากำลังใจอย่างไร ?
ตอบ : ก็ธรรมดา สัพเพ สังขารา อนิจจา สัตว์โลกเกิดมาเท่าไรตายหมดเท่านั้น แม้แต่เราก็ตาย คราวนี้รู้หรือยังว่าที่ทำมาไม่พอรับประทาน

ส่วนใหญ่แล้วนักปฏิบัติธรรมของเรา ถ้าเรื่องยังมาไม่ถึงตัวก็คิดว่าตัวเองทำอะไรได้มากแล้ว พอเรื่องมาถึงตัวแล้วก็มักจะรู้ตัวว่าที่ทำมายังไม่พอกิน คำว่า ไม่พอกิน คือ เจอสถานการณ์จริงเข้าแล้วทำกำลังใจไม่ได้

ในบรรดาญาติผู้ใหญ่ของอาตมาที่ตายไป ก็มีตอนที่คุณย่าตาย อาตมาร้องไห้เพราะว่าไม่รู้ ไปเรียกท่านให้กินข้าวแล้วท่านไม่ยอมลุก เรียกเท่าไรไม่ลุกก็เลยร้องไห้ตามประสาเด็ก ยังไม่รู้ว่าตายคืออะไร ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2017 เมื่อ 10:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 161 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #132  
เก่า 30-11-2017, 10:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พอมาคุณตาตาย ไม่ได้ร้องไห้ เพราะว่าท่านเหมือนกับหลับไปเฉย ๆ ถึงเวลาท่านก็เรียกหลาน ๆ เข้ามา บอกว่า "ตาก็แก่มาก อายุเลย ๘๐ แล้ว เหมือนกับผลไม้สุกที่พร้อมจะหล่นจากขั้ว ถ้าตาเป็นอะไรไป พวกแกไม่ต้องเสียใจนะ" สั่งความเสร็จแกขอข้าวกิน อาเจ็กข้างบ้านก็กุลีกุจอกลับบ้านไปคดข้าวใส่กับมาให้ แกกินเสร็จก็นอนอยู่บนเก้าอี้โยกของแก แล้วก็หลับไปเฉย ๆ ตายไปตอนไหนก็ไม่มีใครรู้ มารู้เอาตอนที่เห็นว่าค่ำแล้วเดี๋ยวยุงจะกวนมาก ก็ไปเรียกเพื่อจะให้แกกลับเข้ามานอนในบ้าน ปรากฏว่าแข็งไปหมดแล้ว

ลำดับถัดมาก็พ่อตาย ตอนนั้นบอกตรง ๆ ว่าดีใจ เพราะว่าอาตมาเป็นคนเฝ้าไข้ ทั้งกลางวันทั้งกลางคืนอยู่ ๖ ปีเต็ม ๆ ด้วยความที่เป็นวัยรุ่น เพิ่งจะอายุ ๑๐ ปีนิด ๆ กำลังกินกำลังนอนแล้วโดนเรียกทั้งคืน รู้สึกเหมือนกับตกนรกทั้งเป็น เพราะฉะนั้น...เวลาท่านตายแทนที่จะเสียใจก็เลยกลายเป็นดีใจ แต่ก็ดีใจไม่จริง เพราะว่าเมื่อถึงเวลากลางคืนเข้านอน เตียงก็กว้างเท่าเดิม แต่พอไม่มีพ่ออยู่ ทำไมรู้สึกว่ากว้างอะไรขนาดนั้น เวิ้งว้างไปหมด นอนไม่หลับ ท้ายสุดก็เลยต้องไปนอนอยู่ข้างศพ มุดเข้ามุ้งไป เพราะเขากางมุ้งครอบศพเอาไว้ให้ ไปนอนอยู่ข้างศพ แตะถูกตัวท่านเย็นเจี๊ยบเลย เออ...อย่างนั้นกลับหลับได้..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-11-2017 เมื่อ 10:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 165 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #133  
เก่า 30-11-2017, 10:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ลำดับต่อมายายตาย แม่ตาย นี่ไม่ต้องพูดถึง ยายตายอาตมาบวชได้ ๔ พรรษาแล้ว แม่ตายนี่ได้ ๒๐ กว่าพรรษา ก็เลยกลายเป็นว่า ผู้ใหญ่ที่บ้านตาย มีตอนอายุ ๒ ขวบกว่าตอนย่าตายเท่านั้นที่ร้องไห้ นอกนั้นไม่เคยร้องไห้กับใคร

ถามว่าทำใจได้ไหม ? มาทำใจได้ตอนยายกับแม่ เพราะว่าตอนช่วงนั้นบวชแล้ว ส่วนท่านอื่น ๆ ก็อย่างที่บอก ถ้าไม่ใช่เพราะไม่รู้ความก็คือไม่มีอะไรให้ตกใจ

พอมาพ่อตายนี่ดีใจ เหมือนกับไม่ใช่ทำใจได้ ดีใจที่ตัวเองพ้นงานเสียที งานหนักเหลือเกิน หนังสือก็ต้องเรียน กลับมาก็ต้องดูแลท่าน กลางวันก็ไม่ได้นอน กลางคืนก็ไม่ได้นอน ต้องบอกว่าตอนที่ดูแลพ่ออยู่ ๖ ปี เป็นคุณูปการให้ฝึกกรรมฐานได้แบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะว่าไปโรงเรียนแล้วง่วง ทนไม่ไหว ยกมือขออนุญาตนอน ครูก็บอกว่านอนได้ แต่ว่าวิชานี้ห้ามตก ก็เลยทำอย่างไรที่นอนแล้วต้องฟังให้ได้ยิน เพราะถ้าฟังจะจำได้ ก็พยายามใช้วิธีนอนแล้วเงี่ยหูฟัง ก็เลยสามารถที่จะทำได้ตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนประถม มัธยมอยู่ก็คือ หลับแต่ตา ใจไม่ได้หลับ ใจตื่นเพื่อจดจำบทเรียน

มารู้ทีหลังว่าเป็นพื้นฐานฝึกกรรมฐานทั้งนั้นเลย แต่ว่าตอนนั้นไม่ได้รู้สึกอะไร รู้สึกอย่างเดียวว่าง่วงสุดชีวิต อย่างไรก็ขอนอนเถอะ แต่ก็ตั้งใจฟัง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2017 เมื่อ 19:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 162 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #134  
เก่า 30-11-2017, 10:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ความจริงแล้วทิดเต้ย (สุรจิตร) ในส่วนของกิริยามารยาทอาจจะกระโดกกระเดกไปหน่อย แต่ความรักแม่นี่เต้ยมีให้สุด ๆ แต่คราวนี้ว่าในส่วนที่จะทำใจ สำหรับคนที่ผ่านมาแล้วพูดก็เหมือนกับง่าย แต่คนที่เผชิญหน้าอยู่ บางทีเหมือนกับแบกภูเขาไว้ทั้งลูก จะโดนทับตายตอนไหนก็ไม่รู้ ? เพราะว่าเรื่องมาเกิดกับคนที่เรารักมากที่สุด แต่ถ้าหากว่ารู้จักพิจารณาว่า ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข การพลัดพรากจากสิ่งที่รักที่ชอบใจเป็นทุกข์ ก็จะเป็นเวลาที่จะสามารถที่จะพิจารณาธรรมได้ดีที่สุด

แต่ว่าส่วนใหญ่ พอเหตุเกิดขึ้นแล้ว ปัญญามักจะไม่มี เพราะว่าสภาพจิตส่งส่ายวุ่นวายไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปัญญาก็เลยไม่เกิด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย นายกระรอก : 18-02-2019 เมื่อ 01:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #135  
เก่า 01-12-2017, 09:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ตอนพ่อเสียนี่ในความรู้สึกของคนอื่นเหมือนกับว่าอาตมาอกตัญญู เพราะว่าไม่ร้องไห้ อาตมาจะบอกได้อย่างไรว่าดีใจเป็นบ้า ที่ท่านตายได้สักที ทรมานเหลือเกิน ๕ นาที ๑๐ นาทีท่านจะแข็งเกร็งไปทั้งตัว ถ้าไม่นวดให้คลายก็จะปวดร้องโอย ๆ ๆ คนที่อยู่กับท่านทั้งกลางวันกลางคืนอย่างอาตมาจะตายเอา คนอื่นเขาจะไปรู้อะไร

อาตมามีโอกาสดูแลพ่ออยู่ ๖ ปี ด้วยการลงความเห็นว่า "เอ็งเป็นลูกผู้ชายที่โตที่สุดที่ยังไม่ได้ทำงาน" พอไปดูแลแม่อยู่ ๓ ปี เขาลงความเห็นว่า "เอ็งเป็นลูกชายที่โตที่สุดที่ยังไม่ได้แต่งงาน" ตกลงว่าเป็นความผิดของตูทั้งนั้น..!

ฉะนั้น...ปัจจุบันนี้เวลาอาตมามีเด็ก ๆ อยู่ด้วย จะตามใจเยอะมาก เพราะว่าชีวิตช่วงวัยรุ่นของตัวเองไม่มี ต้องรับผิดชอบดูแลพ่อตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ป.๕ พอสิ้นท่านไปแล้วอยากจะเรียนต่อ แม่ก็ไม่มีปัญญาส่ง ต้องทำงาน
ไปหาเงินเรียนไป ในเมื่อชีวิตวัยรุ่นไม่มี พอเห็นเด็กวัยรุ่นแล้ว ตอนเด็กเราอยากได้อย่างไร เขาก็คงอยากได้อย่างนั้น

เรื่องกินเรื่องเที่ยวนี่ไม่เคยมีเลย ได้ยินเสียงหนังประกาศโครม ๆ ที่วัด วัดกับบ้านก็มองหลังคากันเห็นแค่นั้น แต่ไปไม่ได้ คนอื่นเขาไปกันหมด แต่อาตมาต้องดูแลพ่อ ในเมื่อตัวเราไม่มีช่วงเที่ยวช่วงเล่น ถึงเวลาเขาเอาเด็ก ๆ มายกให้เป็นลูก ก็ให้ลูกเขามีแทนก็แล้วกัน ไม่ใช่ต้องไปล้างแค้นว่า "กูไม่มีมึงก็ต้องไม่มีด้วย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2017 เมื่อ 19:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 157 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #136  
เก่า 01-12-2017, 09:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ช่วงเดือนเศษที่ผ่านมาพี่ชายคนโตตาย นับว่าแกตายช้ามาก อยู่ยัน ๙๐ ปี ปกติคนกินเหล้าแทนน้ำไม่น่าจะอายุยืนได้ขนาดนั้น ก็ยังคิดขำ ๆ อยู่ว่า สงสัยแกจะกินมากไปจนเชื้อโรคตายหมด ก็เลยอยู่มายัน ๙๐ ปี เป็นอันว่าพี่ ๆ ทั้งลูกแม่ใหญ่ ทั้งลูกแม่เดียวกันตายไป ๓ - ๔ คนแล้ว ใกล้ตัวเองเข้ามาเรื่อย ๆ แล้วนะ..!

ถัดมาไม่กี่วันก็น้าสะใภ้ตาย ตอนแรกเขาส่งข่าวมา ไปนึกว่าน้าชายตาย น้าชายคนโตก็ ๘๐ กว่าปีแล้ว แปลกใจไหม ? น้า ๘๐ กว่า แต่พี่ ๙๐ ปี สมัยก่อนเขาแต่งงานกันเร็ว แม่แต่งงานอายุ ๑๖ ปี พ่อเขามีพี่ใหญ่ก่อน แล้วค่อยมาเมืองไทย แล้วมาแต่งกับแม่ เพราะฉะนั้น...แม่กับน้าก็เลยกลายเป็นว่ารุ่นไล่เลี่ยกันกับพี่ชายคนโต
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2017 เมื่อ 19:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 158 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #137  
เก่า 01-12-2017, 21:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เอารถไปเจิมกับเสาเรียบร้อยแล้ว ?
ตอบ : แสดงว่าถวายทาสทานไว้เยอะ ใช้ของดีไม่ได้ ต้องมีตำหนิก่อนจึงจะสบายใจ

ถือว่าเป็นพวกเดียวกัน อาตมาเองขนาดจีวรใหม่ ๆ เลยนะ ไม่มีร่องรอยอะไรเลย ซักปุ๊บขาดปั๊บ อย่างไรก็ต้องเอาให้ขาดให้ได้ ถ้าไม่ขาดจะไม่สมกับบุญบารมีที่สร้างมา...! แสดงว่าทำทาสทานไว้เยอะเหมือนกัน

ถ้าไม่อยากให้รถยนต์มีร่องมีรอยนะ มาถึงเอามีดกรีดไว้ก่อนเลย โน่น...บังโคลน กรีดกากบาทไปทั้ง ๒ ข้างเลย ทำเครื่องหมายไว้แล้ว ไม่ต้องมาทำซ้ำ


ถาม : เกี่ยวอะไรกับจีวรด้วยคะ ?
ตอบ : ก็ใช้ของใหม่ไม่ได้ ต้องใช้ของมีตำหนิหรือของเก่า แทนที่จะให้เขาทำเป็นรอย เราก็ทำเสียเอง ให้มีรอยอยู่ในที่ไม่น่าเกลียด ใครจะลองวิธีนี้ก็ได้นะ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2017 เมื่อ 23:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #138  
เก่า 01-12-2017, 21:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครที่โทรมาหาอาตมาแล้วรอจนอาตมารับไม่ได้ อาตมาไม่เคยโทรกลับไปสักราย โดยเฉพาะประเภทยิงมากริ๊งเดียวจะให้โทรกลับ...รอไปเถอะ

มีอยู่เที่ยวหนึ่งพระวินัยธรกอล์ฟ ตอนนั้นยังเป็นพระสมุห์อยู่ ถามว่าอาจารย์ทำไมไม่โทรกลับ ? "ก็กูไม่มีธุระอะไรกับมัน มันมีธุระกับกู ก็ให้มันโทรมาสิ" ตอบให้ชัด ๆ ไปเลย ถือว่าเสียมารยาทมาก โทรมาแล้วตัดสายจะให้คนอื่นโทรกลับ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2017 เมื่อ 23:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #139  
เก่า 01-12-2017, 21:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อเช้าคุณกิตติพงษ์มารับมีดหมอหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง กับมีดหมอหลวงพ่อโสก วัดปากคลองบางครก จังหวัดเพชรบุรี อาตมาลืมให้โมทนาบัตรไป

ครูบาอาจารย์บางท่านที่เป็นต้นตำรับเลย อย่างหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว หลวงพ่อเทศ วัดสระทะเล หรือหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง ในชีวิตท่านทำมีดหมอน่าจะไม่เกินหลักสิบ ขนาดคลุกอยู่ในวงการเต็ม ๆ ยังหายากหาเย็น

โดยเฉพาะประเภทมีดหมอ ๒ บูรพาจารย์ อย่างหลวงพ่อรุ่ง-หลวงพ่อเดิม ยิ่งหายากเข้าไปใหญ่ เพราะมีประวัติแค่ว่าหลวงพ่อเดิมไปหัดทำมีดหมอจากหลวงพ่อรุ่ง เพราะหลวงพ่อรุ่งสำเร็จวิชาก่อน เมื่อศึกษารูปแบบแล้วก็กลับมาทำเองบ้าง พอทำได้ก็ใส่เกวียนไปให้หลวงพ่อรุ่งช่วยเสกให้อีกครั้ง

คราวนี้ก็ต้องมาดูว่า เมื่อศึกษาจากหลวงพ่อรุ่งไป รูปแบบก็ต้องมีฝังโลหะ ขณะเดียวกันทำอย่างไรจึงจะมีเอกลักษณ์ของหลวงพ่อเดิม ก็คือยันต์รูปพระ ถ้าไม่มียันต์รูปพระก็ต้องยันต์พุทธซ้อน ก็เลยกลายเป็นอะไรที่หายากเย็นสุด ๆ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-12-2017 เมื่อ 17:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #140  
เก่า 01-12-2017, 21:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "คุณสุธรรมเปิดให้แสดงความจำนงว่าอยากได้เครื่องรางของขลังอะไร ปรากฎว่ามีคนเสนอมา อย่างเช่นตะกรุดโสฬส หลวงปู่เอี่ยม อยากจะถามว่าสู้ราคาจริงหรือเปล่า ? อาจารย์วิสุทธิ์บอกว่า ไปเจอสองกษัตริย์ด้านนอก เขาเปิดไว้ ๗๐๐,๐๐๐ บาท..!

ความจริงแล้วตะกรุดที่หายากกว่านั้นมีอยู่ ก่อนหน้านี้เป็นที่เสาะหากันมาก แต่เนื่องจากว่าคนมีไม่ปล่อยเด็ดขาด ก็เลยกลายเป็นว่าเงียบไปเฉย ๆ ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง จึงขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งแทน

ตะกรุดที่หายากมาก ๆ ที่เขาต้องการก็คือ ตะกรุดไมยราพณ์สะกดทัพ หลวงพ่อกุน วัดพระนอน จ.เพชรบุรี นั่นแหละ...สมัยก่อนประเภทลูกผู้ชายจะต้องห้าว อยากจะขึ้นบ้านใคร พกตะกรุดหลวงพ่อกุน สอดไว้ใต้เรือน ขึ้นไปได้เลย หลับหมดทั้งบ้าน

แล้วก็ตะกรุดหลวงปู่จีน วัดท่าลาด พวกเรานี่กระทั่งชื่อยังไม่รู้จักเลยกระมัง ? ถ้าถามว่าหลวงปู่จีนเป็นใคร ? ก็เป็นรุ่นอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม ของทั้งสองท่านที่ว่ามาอยู่ในประเภทมีเงินก็หาซื้อไม่ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2017 เมื่อ 23:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 151 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:08



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว