กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #221  
เก่า 26-01-2020, 21:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ความสามัคคีที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครั้งชั่วคราว เกิดจากการมีผลประโยชน์ร่วมกัน พอแบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัวก็จะแตกแยกกันอีก ไม่ต้องอื่นไกล...ดูรัฐบาลกับฝ่ายค้านเราก็เห็น ตรงจุดนี้เป็นจุดบกพร่องใหญ่ของคนไทยเรา แล้วโดยเฉพาะเป็นจุดบกพร่องใหญ่ของพระสงฆ์ระดับเจ้าอาวาส ซึ่งจะต้องรีบหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นเราไม่มีทางที่จะสู้ศาสนาอื่นได้เลย

คนไทยเราขาดภาวะผู้นำ พี่น้องคริสต์พี่น้องอิสลามไป เข้าไปช่วยกันเรียกร้องประโยชน์ให้กับกลุ่มของตนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่คนไทยของเราไปดูว่าตัวเองจะได้ประโยชน์ไหม ? ถ้าส่วนไหนได้ประโยชน์จะรับไว้ ถ้าส่วนไหนไม่ได้ประโยชน์ คนอื่นจะได้ จะช่วยกันเรียกร้องเพื่อให้ได้มากขึ้นก็ไม่มี ต่างคนต่างไป

เวลามีปัญหาอะไรขึ้น พี่น้องอิสลามสุมหัวปรึกษากัน ส่วนคนไทยเราดูห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ ถ้าไม่เกี่ยวกับกูก็ถ่ายคลิปเอาไว้อวดเขา ดูแล้วเห็นชัดเจนว่าพวกเราต้องอาศัยการเคี่ยวกรำจากสถานการณ์ ต้องไม่มีแผ่นดินจะอยู่แบบโรฮิงญาเมื่อไรถึงจะรักกัน..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 21:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #222  
เก่า 26-01-2020, 21:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"บรรยายเสร็จถามว่าเข้าใจไหม ?...เงียบ มีอะไรสงสัยจะไต่ถามไหม ?...เงียบ ไม่เข้าใจใช่ไหม ?...เงียบ อาตมาเกือบจะถามไปแล้วว่า “มึงจะเอาอย่างไรกับกูวะ ?” อุตส่าห์เหลือเวลาให้ตั้งครึ่งชั่วโมง เผื่อว่าใครสงสัยข้องใจจะได้ไต่ถาม ปรากฏว่าไม่มีใครถามเลย

พี่น้องคริสต์อิสลามอาตมาไม่สงสัย เพราะมั่นใจว่าเขาเข้าใจแน่ เพราะว่าท่านทั้งหลายเหล่านี้ตั้งใจฟังมาก แต่เห็นพระไทยของเราถ่ายรูปส่ง LINE ตอบแชตกันให้ยุ่งไปหมด ก็เลยไม่ทราบว่าที่พูดไปนั้นเข้าถึงได้สักเท่าไร เพราะถ้าไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึง ก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 21:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 130 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #223  
เก่า 26-01-2020, 21:15
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"แต่คราวนี้ถ้ามาดูบริบทสังคมของพระในปัจจุบันก็น่าเห็นใจ ส่วนหนึ่งประมาณ ๓๐-๔๐% บวชเข้ามาเพื่อให้มีโอกาสได้เรียนมากขึ้น เพราะว่าอยู่กับบ้านโอกาสที่จะเรียนต่อไม่มี ต้องเป็นผู้ใช้แรงงานเท่านั้น ท่านทั้งหลายเหล่านี้ก็จะแสวงหาความก้าวหน้า มาบวชพระบวชเณรเพื่อให้ได้เรียนต่อ แล้วส่วนใหญ่จะขยันมาก เรียนจนจบเปรียญสูง ๆ จบปริญญากันมากมาย แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อย

ส่วนใหญ่ประมาณ ๕๐-๖๐% อาจจะถึง ๗๐-๘๐% เป็นบุคคลที่สังคมข้างนอกไม่เอาแล้ว พ่อแม่ยัดเยียดมาให้บวช หวังว่าความประพฤติจะดีขึ้น ในเมื่อวัตถุดิบคุณภาพต่ำ ถ้าสร้างสินค้าคุณภาพสูงได้ก็อัศจรรย์มาก ส่วนใหญ่มาถึงก็ “หลวงพ่อเจ้าขา ลูกอีฉันเกเรเหลือเกิน ทั้งกินเหล้า ทั้งสูบบุหรี่ ทั้งติดยา ทั้งคบเพื่อนเลว หลวงพ่อช่วยอบรมสั่งสอนให้เป็นคนดีด้วยเถอะ” ถามว่าแล้วโยมจะให้ลูกบวชนานเท่าไร ? “เจ็ดวันเจ้าค่ะ” เออหนอ....มึงเลี้ยงลูกมาอย่างน้อยก็ ๒๐ ปีถึงจะบวชพระได้ อบรมลูกมา ๒๐ ปีเอาดีไม่ได้ ให้เวลาพระแค่ ๗ วัน อาตมาไม่ใช่ผู้วิเศษนี่หว่า จะได้เสกให้ลูกมึงให้บรรลุได้เลย..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2020 เมื่อ 21:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 129 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #224  
เก่า 26-01-2020, 21:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"คราวนี้ส่วนหนึ่งที่สังคมภายนอกเขาไม่เอา ที่กลับเนื้อกลับตัวเป็นเสือกลับใจ แล้วก็มาประสบความสำเร็จ กลายเป็นหลวงปู่หลวงพ่อครูบาอาจารย์ที่เราเคารพนับถือกัน แต่ก็เป็นส่วนน้อย ส่วนที่เหลือเอาตัวไม่ค่อยจะรอด ประคับประคองไม่ให้สร้างความเสียหายให้กับพระศาสนาก็ยากแล้ว จะไปหวังอะไรให้ท่านมาสร้างความเจริญให้กับพระศาสนาได้ ?

ดังนั้น...ในเมื่อวัตถุดิบของเราเกรดต่ำ จะเอาของเกรด C เกรด B มาผลิตให้เป็นสินค้าเกรด A จึงยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขา ไปนึกถึงที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณชัยวัฒน์ (หลวงพ่อพระเทพมหาเจติยาจารย์) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ท่านถามว่า “อาจารย์เล็กไปคัดบุคลากรที่ไหนมาถึงได้เก่งขนาดนี้ เรียนก็เก่ง เทศน์ก็เป็น คุมปฏิบัติธรรมก็ได้ เป็นครูสอนก็เอา แถมให้ไปคุมกรรมฐานไม่เคยหนีเลย..อยู่ตลอด” เรื่องกรรมฐาน ถ้าเป็นที่อื่นมีโอกาสเขาหนีทันที ไม่อยากอยู่หรอก แต่พระวัดท่าขนุนอยู่ตลอด ของชอบเลย กราบเรียนท่านไปว่า “หลวงพ่อครับ..ผมไม่ได้หามานะครับ ท่านมาบวชกันเอง”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 02:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 131 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #225  
เก่า 26-01-2020, 21:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เรามองเห็นสิ่งที่ปรากฏต่อหน้าควรคิดอย่างไร?
ตอบ : เห็นรูป ได้ยินเสียง ได้กลิ่น ได้รส สัมผัส ใจไม่คิดได้ไหม ? แค่นั้นแหละ ถ้าไม่คิดก็จบ ทุกวันนี้ที่ทุกข์ไม่รู้จบเพราะว่าเราคิด ต้องควบคุม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ของเราตามหลักอินทรียสังวร เห็นรูปรู้ว่าเป็นผู้หญิงผู้ชายก็แย่แล้ว กันไม่ทันแล้ว เพราะเรายังปรุงว่าเป็นหญิงเป็นชาย ทำอย่างไรจะสักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าเป็นรูป สักแต่ว่าเป็นธาตุ ? ก็แปลว่าสติ สมาธิ เราต้องมีมากกว่านี้ ปัญญาถึงจะเกิดในระดับนั้น กลับไปเร่งสมาธิอย่างเดียวเลย

ถาม : ที่ทำยังไม่พอใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่พอ...ถ้าพอก็ไม่ต้องตะเกียกตะกายอย่างนี้หรอก สำเร็จไปนานแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 124 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #226  
เก่า 26-01-2020, 21:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : นั่งแล้วเวทนาเยอะ ทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : เปลี่ยนท่าสิวะ..ดันไปบ้าสู้กับเวทนา..! หลักการปฏิบัติ ทุกขา ปฏิปทา ทันธาภิญญา ปฏิบัติก็ลำบากบรรลุก็ยาก เพราะว่าเมื่อใจไม่นิ่งไม่สงบ ก็ต้องทนอยู่กับอาการเจ็บปวด ทุกขา ปฏิปทา ขิปปาภิญญา ปฏิบัติลำบากแต่บรรลุง่าย เพราะว่าปัญญาถึง เห็นว่าความเจ็บปวดเป็นของร่างกาย ไม่ใช่ของเรา จิตกับกายแยกกันเป็นคนละส่วน เห็นอย่างชัดเจน สภาพจิตไม่เกาะร่างกายนี้ ไม่เกาะร่างกายคนอื่น ไม่เกาะในโลก ก็จบ

สุขา ปฏิปทา ทันธาภิญญา ปฏิบัติง่ายแต่บรรลุลำบาก เพราะว่าติดสุขมากเกินไป สุขา ปฏิปทา ขิปปาภิญญา ปฏิบัติง่ายแต่บรรลุเร็ว เพราะว่าปัญญาถึง

เพราะฉะนั้น..พวกเราเองถ้าไม่ใช่ไปแนวนั้นแล้วพยายามไปฝืน ก็ไปไม่รอดหรอก เพราะว่าเราไปทุกข์ ไปกลุ้ม ไปเครียด อยู่กับสภาวะทางร่างกายอยู่ตลอดเวลา ไปไม่ได้ก็เลิก เปลี่ยนท่าทำใหม่ ทำอย่างไรให้ใจของเราสงบ รัก โลภ โกรธ หลง ไม่เกิดก็พอแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 02:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #227  
เก่า 26-01-2020, 21:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ผมเคยมาแล้ว นั่งภาวนาไปใจสงบประมาณชั่วโมงหนึ่ง คราวนี้ภาวนาไปเวทนาเกิด ก็กัดฟันทนไปเรื่อย ทนไป ๆ ถึงชั่วโมงที่ ๓ ที่ ๔ คราวนี้ด่าอย่างเดียวเลย จะนั่งไปหาโคตรพ่อโคตรแม่มันหรือวะ..? นานขนาดนี้ เจ็บฉิบหาย ปวดฉิบหาย แบบนี้ไม่มีทางสงบหรอก

ในสิ่งที่เราปฏิบัติก็คือต้องเป็นมัชฌิมาปฏิปทา และเป็นมัชฌิมาปฏิปทาของตัวเรา ไม่ใช่ของคนอื่น มัชฌิมาปฏิปทาแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนนั่ง ๓ วัน ๕ วันสบายมาก เรานั่ง ๓ นาที ๕ นาทีก็จะตายแล้ว ความพอดีของแต่ละคนก็คือฝืนแล้วไปต่อได้ไหม ? ถ้าฝืนแล้วไปต่อได้ แสดงว่าเมื่อครู่นี้กิเลสหลอกเรา แต่ถ้าฝืนแล้วไปต่อไม่ได้ ลองเปลี่ยนอิริยาบถไปทำอย่างอื่น พอสภาพจิตเริ่มผ่อนคลาย เราก็มาเข้าที่ภาวนาของเราใหม่

ที่สรุปตอบให้พวกคุณง่าย ๆ เพราะว่าผมทำมา ๔๐ กว่าปี เจอมาทุกรูปแบบแล้ว นั่งแข่งทนกับเขามาเยอะแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 02:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #228  
เก่า 26-01-2020, 22:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สัมมาสมาธิ ฌานอะไรครับ ?
ตอบ : ถ้าไม่ถึงฌาน ๔ ยังไม่เป็นสัมมาสมาธิเต็มที่ แต่จัดเป็นสัมมาสมาธิได้ตั้งแต่ฌาน ๑ ขึ้นไป ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิยังนับเป็นสัมมาสมาธิไม่ได้ เพราะว่ากด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงชั่วคราวไม่ได้ ถ้าเป็นตั้งแต่ฌาน ๑ ขึ้นไป กด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงชั่วคราวได้ ถึงจะเป็นสัมมาสมาธิ

แต่คราวนี้สัมมาสมาธิก็สำคัญตรงที่ว่า เวลา รัก โลภ โกรธ หลง ดับแล้ว เราเอากำลังตรงนี้ไปใช้งานอย่างไร ? ก็ต้องใช้ในการพิจารณาวิปัสสนา เพื่อให้เห็นทุกข์เห็นโทษของการเกิด ถอนจิตออกจากการยึดเกาะต่าง ๆ ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นมิจฉาสมาธิใหม่

สำคัญที่สุดก็คือเห็นร่างกายนี่แหละ เพราะว่าเกิดมานับชาติไม่ถ้วน แล้ว ๆ เล่า ๆ ไม่หยุดสักที ถ้ารู้สึกเห็นชัดเจนในร่างกายนี้ อย่าลืมที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า โลกคือหมู่สัตว์ โลกคือดวงดาว ที่ท่านเรียกโอกาสโลก โลกคือร่างกาย ในเมื่อเห็นลักษณะนี้ ตัวเราก็คือโลก ตัวเราเป็นเช่นนี้ โลกคือหมู่สัตว์ทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้ โอกาสโลก ดวงดาวต่าง ๆ ก็เป็นเช่นนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ในเมื่อไม่เห็นสาระแก่นสารในสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ใจก็ถอนจากการยึดมั่นถือมั่น

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 02:22
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #229  
เก่า 26-01-2020, 22:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : โลกคือทุกข์ล้วน ๆ ?
ตอบ : ความจริงคือทุกข์ล้วน ๆ แต่อวิชชาบังตาทำให้เห็นเวลาทุกข์น้อยเป็นความสุข ฝรั่งเขารับไม่ได้ เขาบอกว่าเป็นศาสนาที่มองโลกในแง่ร้าย อะไร ๆ ก็เห็นแต่ทุกข์อย่างเดียว อธิบายทุกข์ให้ฝรั่งฟังนี่เครียดตายเลย บอกว่า Suffering คำเดียวเขาฟังไม่รู้เรื่อง ต้องบอกกับเขาว่าหิวเป็นอย่างไร กระหายเป็นอย่างไร เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นอย่างไร เหนื่อยเป็นอย่างไร ฯลฯ

กว่าจะสรุปว่า ไอ้ที่ว่าทั้งหมดมานี่ร่วมกันเรียกว่าทุกข์ อธิบายให้ฝรั่งฟังนี่เหนื่อยฉิบหา..เลย เขาถามแล้วถามอีก ถามไม่เลิก แต่นิสัยคนไทยเราไม่ถาม รู้ก็ไม่ถาม ไม่รู้ก็ไม่ถาม สิ่งแวดล้อมของเราต่างกัน ฝรั่งเขาโดนปล่อยให้โตเองตั้งแต่เล็ก ถ้าเขาไม่ช่างค้นคว้าไม่ช่างถาม เขาอาจจะเอาตัวรอดไม่ได้ เราเองโดนทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงมา เรียนชั้น ป. ๕ ป. ๖ แล้ว พ่อแม่ยังไล่ป้อนข้าวให้ลูกอยู่เลย..น่าตายไหม ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 115 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #230  
เก่า 27-01-2020, 08:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมต้องเพิ่มโยนิโสฯ ด้วยไหมครับ ?
ตอบ : โยนิโสฯ นี้มีทั้งดีและไม่ดี อย่าลืมว่าปรโตโฆสะ คือการสะท้อนจากภายนอกมา เราต้องเลือกรับส่วนที่เหมาะสมกับเรา ไม่ใช่เขาโยนกระสอบข้าวสารมาเราก็รับ มีหวังโดนทับตายพอดี เพราะฉะนั้น..คำว่าโยนิโสมนสิการ สำคัญที่สุดคือการน้อมมาด้วยความแยบคาย ต้องใช้ปัญญาเต็ม ๆ เลย ไม่อย่างนั้นคุณจะโดนไอ้กระสอบนั่นทับตาย..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 11:31
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 114 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #231  
เก่า 27-01-2020, 08:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อคะ..อธิษฐานจิตให้หน่อยค่ะ (เด็กน้อยถาม)
ตอบ : อธิษฐานจิต ? ไม่ต้องแล้วกระมัง แค่นี้ก็ดีเลิศประเสริฐศรีแล้ว เด็ก ๆ เหมือนกับเป็นหน่ออ่อน อยู่ที่เราดัดว่าจะให้ไปทางไหน สิ่งแวดล้อมสำคัญต่อเขามาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 11:32
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #232  
เก่า 27-01-2020, 08:57
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราจะรักษาสมาธิให้ดำรงอยู่ในชีวิตประจำวันได้อย่างไรครับ ?
ตอบ : เอาสติประคองไว้เลยให้เป็นอัตโนมัติ คำว่าอัตโนมัตินี้ก็คือรู้ลมเอง ภาวนาเอง คราวนี้เราเอาสติประคองเอาไว้อย่าให้ไหลไป รัก โลภ โกรธ หลง แล้วก็พยายามให้เห็นทุกอย่างที่กระทบ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ว่าไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้ ถ้าทำอย่างนั้นได้ชีวิตนี้จะทุกข์น้อยมาก เพราะว่าเห็นจริงหมดแล้วก็ไม่ไปยุ่ง ไม่ไปปรุง ไม่ไปแต่ง

ทุกวันนี้ที่เราทุกข์ก็เพราะความคิด หยุดคิดเมื่อไรก็เลิกทุกข์ จำไว้นะ...คิดแล้วทุกข์ ตำหนิตัวเองมีประโยชน์อะไร ? ให้ตั้งหน้าตั้งตาเอาเวลาที่ตำหนิตัวเองไปทำสิ่งที่ดี ๆ ก็หมดเรื่อง พุทโธ ๆ ก็ยังดี พุทโธทีหนึ่งอานิสงส์มหาศาล มัวแต่ "หนูผิดไปแล้ว" หนูผิดไปแล้วเดี๋ยวก็ผิดอีก แปลว่าปัญญายังไม่พอ ก็จะ "ผิดไปแล้ว" อยู่ได้เรื่อย ๆ แต่ผิดแล้วต้องรู้จักแก้ไข
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 11:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #233  
เก่า 27-01-2020, 09:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเราทุกข์เพราะความคิด หยุดคิดก็หยุดทุกข์ เพราะว่าส่วนใหญ่ที่เราคิดก็คือยัง อยากมี อยากได้ อยากเป็น อยากก็ทำ สร้างเหตุปัจจัยไม่พอเราก็ไม่มี ไม่ได้ ไม่เป็น เพราะฉะนั้น..จึงต้องสร้างเหตุปัจจัยให้พอ ก็จะมี จะได้ จะเป็น ต่อให้ไม่อยากก็มาเอง

โยมคนไหนฟังไม่รู้เรื่องยกมือประท้วงได้ เพราะว่าบางทีท่านที่ทำมาเยอะแล้ว เขาศึกษามาเยอะแล้ว ท่านใช้ภาษาในตำรามากไป ของเราเองถ้าตะกายไม่ถึงให้ยกมือประท้วง เดี๋ยวอธิบายเป็นภาษาง่าย ๆ ให้ อย่างคำว่า ปรโตโฆสะ จริง ๆ แล้วก็คือเสียงอื่นที่ดังมา ก็คือเสียงสะท้อนจากภายนอก หรือ Comment นั่นแหละ ปรโตโฆสะคือคนอื่นเขา Comment เราว่าอย่างไร
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 11:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 107 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #234  
เก่า 27-01-2020, 09:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โยนิโสมนสิการ คือการน้อมนำสิ่งทั้งหลายเข้ามาโดยแยบคาย คำว่าโดยแยบคายก็คือ ต้องมีปัญญาเลือกเอาสิ่งที่ดี ๆ เข้ามา คัดสิ่งที่ไม่ดีออกไป จริง ๆ แล้วก็อยู่ในหลักปธาน ๔ อย่าง ดูว่าใจเรามีความชั่วไหม ? ถ้ามีอยู่ก็ไล่ออกไป ระวังไว้อย่าให้เข้ามาอีก ใจเรามีความดีไหม ? ถ้าไม่มีก็สร้างขึ้นมา มีแล้วก็ทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก

คราวนี้สิ่งทั้งหลายทั้งปวงนี้ก็ต้องดูเสียงสะท้อนจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะครู ที่บาลีท่านใช้คำว่า กัลยาณมิตร กัลยาณมิตรในบาลีนี้คือครูแท้ ๆ เลย ปิโย มีความน่ารักน่าใกล้ชิด ครุ มีใจคอหนักแน่น ไม่เปลี่ยนแปลงแปรปรวนง่าย ภาวนีโย เป็นผู้แสวงหาความเจริญ คือแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ หลังจากนั้นไม่ว่าจะ วตฺตา เป็นผู้รู้จักใช้คำพูด วจนกฺขโม ทนต่อวาจาผู้อื่น ทนต่อการตำหนิด่าว่าของผู้คน ฯลฯ จนกระทั่งท้ายสุด โน จฏฐาเน นิโยชเย ไม่นำพาไปในทางเสียหาย อันนั้นบอกเอาไว้ชัดเลยว่าต้องเป็นครู ไม่ชักนำศิษย์ไปในทางเสียหาย

เพราะฉะนั้น..ในเมื่อมีเสียงสะท้อนจากภายนอก เราก็คัดเลือกรับเอาส่วนที่เหมาะสมเข้ามาปรับปรุง กาย วาจา ใจ ของเรา ก็จะมีความดีเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ท้ายสุดความดีมากเข้า ๆ สิ่งไม่ดีเหมือนกับเกลือในน้ำ น้ำจืดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เกลือถึงจะอยู่ก็แสดงออกไม่ได้แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 11:38
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #235  
เก่า 27-01-2020, 09:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยก่อนอยู่ที่วัดเทพศิรินทราวาส หลวงปู่มหาอำพันบอกว่า ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านสอนว่า “ทำดี..ดีกว่าขอพรนะ” “คิดแต่สิ่งที่ดี ๆ นะ” “พูดแต่สิ่งที่ดี ๆ นะ” “ทำแต่สิ่งที่ดี ๆ นะ” โอ๊ย..ท่านสอนสั้นมาก แต่เจ้าประคุณเถอะ..คิด ๓ ปีไม่หมดหรอก

มีพระที่ไหนมรณภาพแล้วทุกวันศุกร์เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินยังต้องให้คนไปถวายดอกไม้ อาตมาพักอยู่กับหลวงปู่มหาอำพันตรง กุฏิ น. ๔ คณะเหนือ อยู่ตรงข้ามกับหอเก็บอัฐิเลย ถึงเวลาพระองค์ท่านเสด็จเขาก็กันคนจนหมด ส่วนอาตมาอยู่ในกุฎิก็เห็นหมด จะไปไหนได้

ทำอย่างไรจะสร้างคุณงามความดีได้ระดับนั้น อันดีชั่วตัวตายเมื่อภายหลัง ชื่อก็ยังยืนอยู่ไม่รู้หาย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 11:39
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 122 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #236  
เก่า 27-01-2020, 20:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ผมไปตรวจบทสวดธัมมจักฯ พรหมจะมีทั้งหมด ๑๖ ชั้นใช่ไหมครับ แต่พรหมชั้นที่ ๑๐ แล้วชั้นที่ ๑๑ หายไป ทำไมถึงเป็นแบบนั้น ?
ตอบ : อสัญญีสัตตา เขาเรียกว่า พรหมลูกฟัก สภาพจิตท่านดิ่งอยู่ในฌาน ๔ ละเอียดอยู่ข้างใน ไม่อยู่ข้างนอก รับรู้อะไรไม่ได้ พอถึงเวลาท่านก็เลยไม่ได้โมทนา ไม่ได้ยินดีอะไรกับใคร เขาบอกว่า พอได้ยินเสร็จแล้วก็อนุโมทนา อนุโมทนาเสียงก็ดังต่อ ๆ กันไป พอไปถึงตรงนั้นก็แป้กเงียบ จึงต้องข้ามท่านไป

ถาม : แสดงว่ารูปพรหมก็เป็นลูกฟักได้ ?
ตอบ : อรูปพรหมจริง ๆ แล้วแย่กว่าเพราะว่ามีแต่ดวงจิต แต่นี่ท่านเป็นรูปพรหมที่จิตดำเนินสมาธิอยู่ข้างใน ไม่ออกมาข้างนอก ในเมื่อไม่ส่งออกมาข้างนอก อายตนะก็รับรู้ไม่ได้ อาตมาสงสัยมาก่อน ว่าอสัญญีสัตตาพรหมหายไปไหน ? มีบางคนรู้มากก็เติมเข้าไป ไปเติมได้อย่างไร ก็ท่านไม่ได้อนุโมทนาด้วย แล้วดันไปบอกว่าเสียงดังต่อไปชั้นอื่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-01-2020 เมื่อ 21:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 112 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #237  
เก่า 27-01-2020, 20:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเรื่องของธัมมจักกัปปวัตตนสูตรมีหลายอย่างที่น่าสงสัย อย่างเช่นว่า พระอัญญาโกณฑัญญะมีดวงตาเห็นธรรม บาลีเขาแปลเป็นไทยว่าเป็นพระโสดาบัน แต่คราวนี้เทวดาทั้งหมด พรหมทั้งหมด ยกเว้นอสัญญีสัตตาพรหมท่านอนุโมทนาด้วย เราไปนึกดูว่าพระโสดาบัน ถ้าคิดไปแล้วก็คงประเภทอนุปริญญาตรี เพราะว่าปริญญาตรีที่แท้จริงคือพระสกิทาคามี แล้วไปปริญญาโทคือพระอนาคามี ปริญญาเอกคือพระอรหันต์ แล้วบรรดาพรหมชั้นที่ ๑๖ ท่านเตรียมปริญญาเอก เป็น Candidate กันหมด แล้วคุณคิดว่าถ้าเห็นคนจบอนุปริญญาแล้วจะเฮไหม ? เพราะฉะนั้น..น่าสงสัยศัพท์คำนี้แปลถูกไหม ? ดวงตาเห็นธรรมเห็นอะไร ?

ยังกิญจิ สมุทยธัมมัง สัพพันตัง นิโรธธัมมัง สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเกิดแต่เหตุ เหตุดับสิ่งนั้นก็ดับ น่าจะเกินพระโสดาบันไหม ? เพราะว่าถ้าไม่เกินพระโสดาบันแล้ว พรหมชั้นที่ ๑๒ ถึง ๑๖ ซึ่งเป็น "ว่าที่พระอรหันต์" ท่านจะตื่นเต้นไหม ? บางท่านพยายามแก้ว่า ท่านอนุโมทนาที่มีบุคคลสามารถเป็นพยานยืนยันในธรรมที่พระพุทธเจ้าบรรลุ ถ้าคุณจะยืนยันได้ก็ต้องจิตบริสุทธิ์เท่ากัน เพราะว่าแค่พระโสดาบันคุณยังยืนยันไม่ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-01-2020 เมื่อ 22:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #238  
เก่า 27-01-2020, 21:34
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำไมถึงตีว่าพระสกทาคามี เป็นปริญญาตรีครับ ?
ตอบ : พระโสดาบัน พระสกทาคามี หลักศีล ๕ เท่ากัน เพียงแค่สมาธิและปัญญาต่างกันเท่านั้น อาตมาจึงตีเทียบกับทางโลกง่าย ๆ ว่าถ้าเป็นพระโสดาบันก็คืออนุปริญญา เป็นแค่ Diploma ยังไม่ใช่ Bachelor

ถาม : หลวงพ่อเคยสอนว่าพระโสดาบันต้องมีฌานหนึ่งละเอียดใช่ไหมครับ พระสกทาคามีต้องมากกว่านั้นไหมครับ ?
ตอบ : ใช่...ส่วนใหญ่ต้องมากกว่า ไม่อย่างนั้นจะกด รัก โลภ โกรธ หลง ให้นิ่งไม่ได้ เพราะว่าของท่านเอง ราคะ โทสะ เบาบางลง คำว่า เบาบางลง ในที่นี้คือต้องไม่เกิด หรือเกิดน้อยมาก

ถาม : ตีได้ไหมครับว่าต้องเป็นฌานสี่ ?
ตอบ : มีสิทธิ์ที่จะเป็นฌานสี่เลย อย่างพระอานนท์ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างอัศจรรย์ของพระโสดาบัน เพราะว่าท่านถวายการรับใช้พระพุทธเจ้า ๒๕ พรรษาเต็ม ๆ ท่านบอกว่าแม้แต่กามสัญญาก็ไม่เกิดขึ้นในจิตเลย กามสัญญาคือการนึกถึง รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสระหว่างเพศ แค่นึกยังไม่นึกเลย อัศจรรย์มาก..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-01-2020 เมื่อ 02:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 108 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #239  
เก่า 27-01-2020, 21:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แต่คราวนี้ถ้าดูการปฏิบัติของท่านก็ไม่น่าอัศจรรย์ ในบาลีบอกว่า ‘ปฐมยามมีมืออันถือคบไฟดวงใหญ่ เดินจงกรมรอบคันธกุฎี ดูว่าองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จะตรัสเรียกใช้อะไร เมื่อไม่ได้เรียกใช้ก็เข้าสู่ที่นั่งภาวนาของตน

ยามสองมีมือถือคบไฟดวงใหญ่ เดินจงกรมรอบคันธกุฎี เมื่อไม่เห็นสมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเรียกใช้ ก็เข้าสู่ที่นั่งภาวนาของตน ยามสุดท้ายมีมืออันถือคบไฟดวงใหญ่ เดินจงกรมรอบคันธกุฎี เมื่อองค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไม่เรียกใช้ ก็ไปเตรียมน้ำใช้น้ำฉัน ไม้สีฟัน ตลอดจนกระทั่งปูผ้าอาสนะ เตรียมบาตรรอไว้’

ท่านได้นอนไหม ? คนที่อยู่กับการปฏิบัติตลอดทั้งคืนก็ถือว่าไม่อัศจรรย์ แต่ถ้าหากว่าสำหรับคนทั่ว ๆ ไป พระโสดาบันทำได้ขนาดนี้ก็ถือว่าอัศจรรย์มาก แบบเดียวกับพระอนุรุทธ บรรลุมรรคผลแล้วตลอด ๕๕ ปีไม่เคยนอนราบลงกับพื้นเลย ถือเนสัชชิกังคะธุดงค์ ถึงเวลาหลับก็นั่งหลับ ตั้ง ๕๕ ปีเชียวนะ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-01-2020 เมื่อ 02:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 109 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #240  
เก่า 27-01-2020, 21:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,397,011 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : พระอานนท์ปฏิบัติทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ ทำไมจึงไม่บรรลุมรรคผล ?
ตอบ : ก็เพราะว่าห่วงพระพุทธเจ้า ใจผูกอยู่ตลอดเวลา ยามต้นก็รอว่าจะเรียกไหม ยามสองรอว่าจะเรียกไหม ยามสามก็รอว่าจะเรียกไหม ในเมื่อใจไม่ปลดจากภาระหน้าที่ จะไปบรรลุได้อย่างไร ?

ถือว่าพวกเราฟุ้งซ่านนอกเขตไปหน่อย แต่ว่าอย่างน้อย ๆ ก็คุยกันในเรื่องของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ได้ไปไกลนัก จะบอกว่า กาเลนะ ธัมมะสากัจฉา เอตัมมังคะละมุตตะมัง

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-01-2020 เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 23:59



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว