กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านเติมบุญ

Notices

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ เก็บข้อธรรมจากบ้านเติมบุญมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 12-01-2019, 19:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงงานประจำปีของวัดท่าขนุน อาตมาได้ขอให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ เอาวัคซีนกันไข้หวัดใหญ่มาฉีดให้กับพระที่นิมนต์มา บอกว่าเอามา ๑๐๐ ชุด ผู้อำนวยการร้องโอ๊ย..! ถามว่าทำไม ? "ชุดละ ๗๐๐ บาทค่ะ" "อ๋อ...นั่นเป็นปัญหาของผู้อำนวยการ อาตมามีหน้าที่ขออย่างเดียว" ท้ายสุดท่านผู้อำนวยการไม่รู้ไปหาใครมาหารสอง จ่ายคนละครึ่ง ได้ทำบุญแบบโดนบังคับ ประมาณว่าถ้าไม่ทำก็เกรงว่าต่อไปวัดท่าขนุนจะไม่ช่วยทางโรงพยาบาลอีก ก็เลยต้องกัดฟันทำ

โดยปกติแล้วถ้าเป็นวัดอื่น ก็จะขอให้ช่วยนั่นช่วยนี่ เป็นประธานทำอย่างนั้น เป็นเจ้าภาพทำอย่างนี้ วัดท่าขนุนไม่เคยขอ อยู่ ๆ ก็ขอวัคซีนกันไข้หวัดใหญ่ไปเลย คิดว่าเป็นเรื่องที่หมอพอจะสงเคราะห์ได้ แต่ปรากฏว่าสงเคราะห์ไม่ออก เพราะว่าเวลารับวัคซีนมาจากกระทรวงสาธารณสุข เขามียอดแน่นอน ฉีดให้ใครไปจะต้องมีชื่อปรากฏ ท้ายสุดหมอก็เลยต้องซื้อมาถวายเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2019 เมื่อ 22:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 183 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 12-01-2019, 19:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถามเพื่อนพระที่ฉีดยาไปว่า "ตกลงว่าวัคซีนกันไข้หวัดได้ไหม ?" ท่านบอกว่า "บางทีก็กันไม่ได้นะครับ" ทำไมต้องบางทีด้วย ? ก็คือเป็นหวัดแต่ไม่มีอาการ แต่ทำท่าจะตายเอา ท่านว่าอย่างนั้น

ท่านบอกรู้ว่าตัวเองเป็นหวัด แต่ไม่มีน้ำมูก แล้วก็ไม่ไอ แต่ตัวร้อน คอแห้ง ก็แปลว่าวัคซีนกันได้เฉพาะเชื้อบางตัว ส่วนตัวไหนกันไม่ได้ก็เป็นซะดี ๆ แต่เป็นแบบไม่ออกอาการมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 13-01-2019 เมื่อ 09:27
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 12-01-2019, 19:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "แม่ซื้อปลาสลิด ไลน์ไปบอกลูกว่า "ปลาสลิดอร่อย..บางบ่อ" ลูกก็ถามว่า "ไม่อร่อยทุกบ่อหรือแม่ ?" แสดงว่าไม่รู้จักของดี แม่โมโหเลยบอก "บางบ่อมีปลา บางบ่อมีตีน..!" สมัยก่อนอะไรที่ไหนเขามีชื่อเสียง ก็ปรากฏชื่อบ้านนามเมืองอยู่ ปลาสลิดอร่อยต้องบางบ่อ ปลาช่อนต้องแปดริ้ว ด้วยความที่ลูกไม่เคยได้ยิน ปลาสลิดบางบ่อรสชาติดี พอแม่บอกว่าอร่อยนะ..บางบ่อ ลูกเลยถามว่าไม่อร่อยทุกบ่อหรือ ?

"บาง" คือสถานที่ใกล้น้ำ เป็นที่ลุ่มน้ำท่วมถึงเรียกว่าบาง ที่น้ำท่วมไม่ถึงเรียกว่า "ดอน" ถ้าอีสานเรียกว่า "โคก" ที่ไหนน้ำขังเรียกว่า "หนอง" เรียกว่า "บึง" พวกเราอาจจะสงสัยว่ากรุงเทพฯ มีบึงทองหลาง สมัยนี้น้ำไม่ขังเฉพาะแถวนั้นแล้ว ขังทั้งกรุงเทพฯ เลย..!"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 20:59
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 12-01-2019, 19:49
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "งวดนี้ที่ไม่สบายเกิดจากการไปสิงคโปร์ รู้อยู่ว่าตัวเองมีโรคประจำตัวคือมาลาเรียเรื้อรัง เป็นมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ จนป่านนี้ก็ ๓๘ ปีเข้าไปแล้ว ปกติจะพกเบี้ยแก้ติดตัวตลอด คราวนี้ไปสิงคโปร์เทคโนโลยีเขาสุดยอดมาก กลัวว่าตอนผ่านด่านจะมีปัญหา ก็เลยปลดอาวุธ จากที่พกเบี้ยแก้ ๔ ตัวก็ไม่เหลือสักตัวเดียว

เบี้ยแก้มีอานุภาพอย่างหนึ่งคือ ข่มไข้ป่าหรือมาลาเรียได้ ไปปลดอาวุธเสียเกลี้ยง เป็นสาเหตุแรกเลยที่ทำให้ป่วย สาเหตุที่สองก็คือเป็นมาลาเรียต้องพักผ่อนให้พอ ถ้าพักไม่พอเสร็จแน่ ๆ โดยปกติก็นอนเช้า นอนกลางวัน นอนเย็น อยู่สิงคโปร์นี่เดินเช้ายันเย็น"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:00
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 187 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 12-01-2019, 19:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"สาเหตุที่สามก็คือ ปกติจะฉันน้ำร้อนเพราะว่าถ้าโดนน้ำเย็นแล้วไข้จะขึ้น ปรากฏว่าไปที่นั่นไม่ได้พกกระบอกน้ำร้อนไป ก็ฉันได้แต่น้ำไม่ร้อน ก็คือไม่เย็นแต่ก็คือน้ำเย็น ฉันไปตลอด ๓ วันแล้วจะไปเหลืออะไร ส่วนสาเหตุประการสุดท้าย ปกติถ้านอนห้องปรับอากาศ อาตมาจะตั้งอุณหภูมิไว้ที่ ๒๗-๒๘ องศาเซลเซียส แล้วก็ใส่กันหนาวตัวหนึ่งห่มผ้านอน

ไปสิงคโปร์เขาบอกว่าร้อนกว่าบ้านเราอีก ไม่ต้องเอาเสื้อกันหนาวไปหรอก อาตมาก็ไม่เอาไป ปรากฏว่าไอ้ลูกชายนอนร่วมห้อง ปกติเปิดเครื่องปรับอากาศ ๒๐ องศาเซลเซียส ก็เลยพบกันครึ่งทาง เปิดที่ ๒๔ องศาเซลเซียส อาตมาก็นอนสั่นแหง็ก ๆ ทั้งคืน สรุปว่าไข้ขึ้น มาลาเรียซ้ำ เพราะฉะนั้น..โปรดจำเอาไว้ว่า ใครเป็นมาลาเรียโปรดรักษาตัวตามแนวที่อาตมาเป็นมาแล้ว ๓๐ กว่าปี พลาดเมื่อไรก็โดนเมื่อนั้น"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 12-01-2019, 20:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน ศรีสะเกษ ท่านบอกว่าถ้าอายุท่านไม่ถึง ๑๐๐ ปี ท่านจะไม่ทำวัตถุมงคลให้ใครใช้ แล้วท่านก็ทำได้จริง ๆ เสียด้วย ก็คือ ๑๐๐ ปีไปแล้วถึงได้ทำ ถ้าเป็นอาตมานี่คาดว่าอยู่ไม่ถึงแน่นอน แค่ ๖๐ ปียังทำท่าจะไปแหล่ไม่ไปแหล่

เมื่อช่วงประมาณหนึ่งเดือนผ่านมา น่าจะเป็นหลวงปู่ทวนทางภาคตะวันออก อายุ ๑๐๓ ปี เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์เลยมรณภาพ หมายความว่าถ้ารถไม่ชนเอ็งอย่าหวังเลยว่าข้าจะตาย ถ้าหลวงปู่ท่านยังอยู่จะถามท่านหน่อย ว่าหลวงปู่อยู่มาจนป่านนี้ไม่เบื่อบ้างหรือ ? อะไรจะบุญดีป่านนั้น ร้อยกับสามปี ถ้ารถไม่ชนก็ไม่ตาย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 12-01-2019, 20:16
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "วันก่อนผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ ถวายโล่เชิดชูเกียรติ พร้อมกับทองคำ ๒ บาท บอกว่าเอาไปทำอะไรก็ได้ แล้วตูจะเอาไว้ทำอะไร ? ก็ต้องเอาไปหล่อพระ จะเอาไปหมั้นสาวก็แค่ ๒ บาท สรุปว่าสร้างโรงพยาบาลบ้าง อะไรบ้างไปหลายล้าน ได้โล่มา ๑ อัน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 12-01-2019, 20:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เพื่อนเขาเขียนดวงลงแผ่นทอง แล้วเอาไปหล่อ เขาจะมีความเชื่อเรื่องนี้ ?
ตอบ : ก็เขียนลงบนแผ่นทองแท้ ไม่มีปัญหา...หล่อได้ แต่ถ้าเขียนลงบนแผ่นทองเหลืองมาหล่อพระทองคำ ก็คงไม่มีใครเขาทำให้หรอก

ปกติสมัยโบราณเขาเขียนแผ่นดวงแล้วบรรจุไว้ในองค์พระ ไม่ใช่เขียนแล้วหล่อเหมือนสมัยนี้ สมัยนี้เขียนแล้วก็หลอมเป็นน้ำหมด แล้วจะเขียนไปทำอะไร ? หมายความว่าดวงแหลกลาญตามนั้นไปแล้วใช่ไหม ?

สมัยก่อนตามตำราพิชัยสงครามของหลวงพ่อพระมหาเถรคันฉ่อง หรือในสมณศักดิ์ของไทยคือสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว ท่านให้ใช้ไม้โพธิ์นิพพาน คือกิ่งโพธิ์ที่หักลงมาเอง ไปพลีเอามา แล้วมาตากแห้ง พอได้ที่ก็แกะเป็นพระพุทธรูป โดยเฉพาะเป็นพระพุทธรูปปางห้ามสมุทร ซึ่งความเชื่อถือก็คือสามารถห้ามทุกข์โศกโรคภัยได้ทุกอย่าง แล้วก็เจาะฐานฝังสิ่งที่เป็นมงคล อย่างเช่นว่าพวกแผ่นเงิน แผ่นทอง

ใครมีงาช้างงอกก็ใส่ลงไปด้วย มีพระบรมสารีริกธาตุก็บรรจุลงไปด้วย โดยเฉพาะบรรจุดวงเจ้าของพระไว้ ถือว่าจะอยู่ภายใต้การปกปักรักษาด้วยบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำให้มีความเจริญรุ่งเรืองในทุก ๆ ด้าน

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 12-01-2019, 20:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระที่แกะจากไม้โพธิ์นิพพานที่ดังที่สุดคือหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ก็ไม่ได้มีมาก แต่ว่าท่านที่ได้ไปแล้วมีความเจริญรุ่งเรืองจริง ๆ ท่านที่รอง ๆ ลงไปอย่างเช่นว่า หลวงปู่รอด วัดโคนอน หลวงพ่อโนรี วัดโพธิ์มอญ ของหลวงปู่รอดกับหลวงพ่อโนรีท่านทำเป็นพระปิดตา อีกท่านหนึ่งอยู่ในระดับอาจารย์ของหลวงปู่บุญเลย แต่ว่าหายากมาก ทำเป็นพระปิดตาเหมือนกัน คือหลวงพ่อเบี้ย วัดโคกพระเจดีย์ อาตมาเป็นลูกนครปฐมแท้ ๆ หาพระปิดตาของหลวงปู่เบี้ย วัดโคกพระเจดีย์ ทั้งชีวิตได้มาแค่ ๒ องค์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 12-01-2019, 20:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัดโคกพระเจดีย์อยู่แถวไหนครับ ?
ตอบ : ที่นครปฐมนั่นแหละ ใกล้ ๆ ดอนยายหอม สมัยก่อนมีโคกพระเจดีย์ มีโคกอีหอม ทีนี้พออยู่ไปอยู่มาอีหอมแก่ไปเรื่อย ๆ ก็เลยกลายเป็นยายหอม

ถาม : วัดเดียวกันหรือครับ ?
ตอบ : โคกอีหอมนั่นแหละก็คือดอนยายหอมปัจจุบันนี้ รุ่นสมัยหลวงพ่อเบี้ยนั่นก็คือหลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อเงินอีกทีหนึ่ง แล้วของหลวงพ่อรุ่งนี้ต้องตะกรุดไม้ไผ่ เหนียวสะเด็ดยาด หรือพระปิดตาก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่คนนครปฐมจริง ๆ จะไม่ค่อยรู้จักกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:06
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 182 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 12-01-2019, 20:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อวัดดอนยายหอม ศพท่านยังอยู่ไหมครับ ?
ตอบ : ยังอยู่ แต่ไม่ได้เปิดหรอก เป็นโลงทองทึบเก็บเอาไว้ ของหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมเขาก็เก็บ

ถาม : หลวงพ่อแช่ม รุ่นหลังหลวงพ่อเงินหรือครับ ?
ตอบ : รุ่นหลัง เป็นลูกศิษย์ ปัจจุบันก็หลวงพ่ออวยพร ลูกศิษย์หลวงพ่อแช่มอีกทีหนึ่ง ระยะหลังนี้ก็ออกพุทธาภิเษกพร้อม ๆ กันอยู่เรื่อย สงสารหลวงพ่ออวยพรเหมือนกัน ท่านมาดังตอนแก่...เหนื่อยตายชักเลย ถ้าดังตอนหนุ่ม ๆ ยังพอกรำงานไหว คิดดูแล้วกันว่าหลวงพ่ออวยพรท่านได้พระครูทีหลังอาตมา ๒ ปี อายุก็มากปานนั้นแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 12-01-2019, 20:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วัดกลางบางแก้วอยู่ใกล้กับวัดตุ๊กตาหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ใช่...อยู่ตรงข้ามวัดตุ๊กตา แค่ถนนกั้นอยู่เส้นเดียว ถนนกว้างกว่าพรมผืนนี้หน่อยเดียวเอง อยู่คนละฝั่งถนนกัน วัดตุ๊กตานั่นวัดหลวงปู่ปาน พระอุปัชฌาย์ของหลวงปู่บุญ

สมัยก่อนคนจะสร้างวัดอยู่ที่ศรัทธา ไม่เหมือนสมัยนี้กำหนดไว้ว่า ต้องห่างจากวัดเดิมอย่างน้อย ๒ กิโลเมตร แถว ๆ นั้นวัดรวมกันเป็นกระจุกเยอะแยะไปหมด

หลวงพ่อเพี้ยน วัดตุ๊กตาท่านก็แวะไปที่วัดท่าขนุนบ่อย ท่านบอกว่าแวะมาก็ไม่เจอ เจอทีไรก็เจอที่วัดของท่านเองนั่นแหละ ท่านก็เลยบ่น ถ้าขึ้นสังขละบุรีท่านจะแวะวัดท่าขนุน แวะไปก็ไม่ค่อยจะเจอกันหรอก

หลวงพ่อเพี้ยนก็จะ ๙๐ ปีแล้วกระมัง ท่านจัดงานหล่อรูปหลวงปู่ปาน วัดตุ๊กตา ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว อาตมาได้ยินก็ไปช่วยท่าน ปรากฏว่าไปเห็นมีญาติโยมอยู่ประมาณ ๓๐-๔๐ คน อาตมาก็ เออ...ครูบาอาจารย์ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ จัดงานทีคนมา ๓๐-๔๐ คน ถ้าเป็นวัดท่าขนุนก็ประมาณว่ามีพระมากกว่าโยมอะไรประมาณนั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-01-2019 เมื่อ 22:44
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 12-01-2019, 20:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีโยมเอาพระมาถวาย "สร้างพระถ้าทำไม่ถูกวิธีโบราณก็มีโทษมากกว่าประโยชน์ ส่วนใหญ่แล้วเราก็มักจะประเภท “เฮี้ยน” อยากทำ รูปในหลวงยังต้องขอพระบรมราชานุญาตแทบเป็นแทบตาย แล้วพระพุทธเจ้านี่ในหลวงต้องกราบนะ อยากจะสร้างก็สร้าง เป็นอะไรที่น่าเป็นห่วงมากเลย เอาศรัทธาเป็นที่ตั้งอย่างเดียว ไม่ได้ใส่ใจเรื่องอื่นเลย ก็แปลว่ามีศรัทธาแต่ขาดปัญญา

โบราณของเราละเอียดอ่อน ทำอะไรทุกขั้นตอน มีพลี มีบวงสรวง มีบอกกล่าว สมัยนี้ของเราประเภททำไปเรื่อยเปื่อย โบราณเขาถึงได้บอกว่า ทำอะไรของเขาต้อง “ดีนอก ดีใน” ก็คือครบถ้วนทุกอย่าง ทั้งพิธีกรรม ทั้งพิธีการ ทั้งกำลังใจ สมัยนี้ประเภทนอกก็ไม่ดี ภายในก็ไม่ได้ พากันบรรลัยหมด

หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงปู่โหน่ง วัดคลองมะดัน ท่านจะสร้างพระต่อเมื่อพระท่านสั่งเท่านั้น หลวงปู่โหน่ง วัดคลองมะดัน สร้างพระนี่ ท่านเสกไม่เหมือนใคร พิมพ์พระเสร็จเอาเข้าเตาเผา แล้วเดินจงกรมภาวนารอบเตาเผานั่นแหละ จนกว่าจะเผาเสร็จ เผากันข้ามวันข้ามคืน เป็นพวกเราเดิน ๓ ชั่วโมงก็ลิ้นห้อยแล้ว"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-01-2019 เมื่อ 21:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 12-01-2019, 21:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ...(ไม่ชัด)...
ตอบ : ยาก เหตุที่ยากมี ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุแรกก็คือญาติโยมเป็นผู้ขาดศรัทธาในพระศาสนาเอง เพราะว่าเขาไม่เห็นประโยชน์ ไม่เห็นประโยชน์ว่าศาสนามีไปเพื่ออะไร ขนาดนั้นเลย สมัยก่อนเราบังคับเลย ลูกผู้ชายอย่างน้อยต้องบวชอย่างน้อย ๑ พรรษา สมัยนี้ยอมบวช
๗ วันก็ดีตายชักแล้ว

สมัยก่อนเรียกว่าบวชเรียน บวชเข้าไปแล้วต้องศึกษาเล่าเรียนจริง ๆ อย่างน้อยต้องมีวิชาอะไรสักอย่างหนึ่งติดตัวไว้ เพื่อรักษาตัวเอง เพื่อรักษาครอบครัว รักษาลูกเมีย ทำอะไรไม่เป็นอย่างน้อยก็ต้องทำน้ำมนต์สะเดาะให้ลูกคลอดง่าย จะต้องประเภทเสกกล้วย เสกดอกบัวให้เมียกินแล้วคลอดง่ายได้ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางได้แต่งหรอก สมัยนี้มีไหมเล่า ? ให้หมอผ่าอย่างเดียว..!

ถ้าสมัยอยุธยายิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ใครไม่บวชไม่ให้รับราชการ ในเมื่อเขาเห็นประโยชน์เขาถึงได้บวช แต่สมัยนี้ไม่ได้บังคับอะไรนี่ ถ้าหากว่าบริษัทใหญ่ ๆ อย่างซีพีหรือไม่ก็เบียร์สิงห์ประกาศดูสิ ถ้าไม่บวชมาก่อนนี่จะไม่รับเข้าทำงาน ดูจะวิ่งตีนพลิกเพื่อบวชกันไหม ? ก็เพราะว่าไม่มีกฎเกณฑ์กติกาเหมือนก่อนนี้ ลองประกาศว่าผู้หญิงไม่ผ่านการปฏิบัติธรรม ๓ เดือนที่มีวุฒิบัตรรับรอง ผู้ชายไม่ผ่านการบวช ๑ พรรษาไม่รับเข้าทำงาน รับรองว่าบวชกันวัดแตกเลย

ประการที่สองก็คือกระแสสังคมดึงคนไกลวัด แม้กระทั่งโครงการยกวัดมาไว้ที่เซเว่น ขนาดวัดยังไม่ค่อยจะเข้ากัน ยังยกไปไว้เซเว่นอีก แล้วจะเหลืออะไร ? คนไปเซเว่นเป็นปกติ แล้วยกวัดไปไว้เซเว่น เออดี...กูจะได้ไม่ต้องไปวัดเลย..!

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2019 เมื่อ 08:01
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 171 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 12-01-2019, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เขาเอาวัดไปเซเว่น เริ่มเมื่อไรครับ ?
ตอบ : เริ่มมาหลายปีแล้ว แล้วไม่ต้องมานิมนต์พระอาจารย์เล็กนะ ไม่ไปหรอก

ถาม : เขาทำพิธีกรรมอย่างไรครับ ?
ตอบ : นิมนต์พระไปเทศน์ที่เซเว่น ก็คือแทนที่จะช่วยกันดึงคนเข้าวัด ดันกลายเป็นช่วยกันดึงคนออกจากวัด จนกระทั่งทุกวันนี้แต่ละวัดจะต้องมีกลยุทธ์อะไรที่ดึงคนเข้าวัด ซึ่งส่วนใหญ่ในปัจจุบันนี้มีอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกคือวัตถุมงคล อย่างที่สองคือหวย แต่ละวัดก็ต้องไปหาเรือเก่า ๆ หาตอตะเคียนเก่า ๆ มา เพื่อให้โยมเข้าวัดไปขูดหวยกัน แทบจะไม่เหลือบุคคลที่เข้าวัดด้วยศรัทธากันแล้ว ไปก็มีวัตถุประสงค์กันทั้งนั้น เพียงแต่วัตถุประสงค์ไกลวัด ใกล้วัดเท่าไร ?

พระครูปฐมสาธุวัฒน์ (อาจารย์เทพ) วัดสี่แยกเจริญพร ปีใหม่นี้ญาติโยมไปถ่ายรูปกับทุ่งทานตะวันของท่าน ท่านก็มีรถการ์ตูนบ้าง รูปตัวการ์ตูนบ้าง ฯลฯ ไปให้เด็กเซลฟี่กัน ท่านบอกว่า “คนเข้าวัดดีมากเลยครับอาจารย์ วัน ๆ หนึ่ง ๗๐๐-๘๐๐ คน แต่ไม่มีใครทำบุญเลย มัวแต่เซลฟี่กันอยู่..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-01-2019 เมื่อ 08:02
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 12-01-2019, 21:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกว่าศาสนาจะขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
ตอบ : ขึ้นในช่วงของท่านนั่นแหละ นี่ก็เลยช่วงของท่านมาแล้ว

ถาม : ก็ไม่ต่อเนื่องถึง ๕,๐๐๐ ปีสิครับ ?
ตอบ : เราลองนึกถึงว่าพอถึงยอดเขาแล้วมีแต่ลงนะ ลงถึง ๕,๐๐๐ ปีไม่กลิ้งหลุดไปเสียก่อนก็นับว่าบุญแล้ว โดยเฉพาะปัจจุบันนี้แม้กระทั่งพระสงฆ์องค์เจ้าของเราก็ไหลตามกระแสโลกไปมาก อย่างของอาจารย์เทพ วัดสี่แยกเจริญพร ท่านก็ทำตามกระแส ก็คือคนชอบอย่างนั้น มีมาให้ถ่ายรูปอะไร แล้วท่านก็ต้องไปปลูกทานตะวันทีหนึ่งเป็นสิบ ๆ ไร่ เสร็จแล้วก็หาไอ้นั่นมาตั้ง หาไอ้นี่มาตั้งให้เขาไปถ่ายรูปกัน

จะว่าไปแล้วก็คือเป็นการดึงคนเข้าวัดอย่างหนึ่ง แต่เป็นงานที่ทำแล้วเหนื่อย ผลตอบแทนน้อย เพราะว่าคนที่มาเขาไม่ได้หวังศีลหวังธรรมอะไร เขาหวังแค่ได้รูปถ่าย ในเมื่ออยู่ในลักษณะอย่างนี้เราต้องยอมรับว่าศาสนาของเราอยู่ในขาลง

อีกประการหนึ่ง ปัจจุบันราชการก็ยื่นมือเข้ามามีบทบาทไปเสียทุกส่วน พอถึงเวลาก็ชี้นิ้วสั่งพระ กระดาษใบหนึ่งสั่งพระต้องทำอย่างนั้น พระต้องทำอย่างนี้ พอถึงเวลาต้องรายงานปีละกี่ครั้ง วันก่อนเพิ่งจะด่ากระจายไป "ถ้ายุ่งยากมากนักก็ไม่ต้องมายุ่งกับทางวัด เอาเงินมาถวายพระ ๕,๐๐๐ บาท แล้วต้องส่งรายงานปีละ ๔ เล่ม ค่าพิมพ์รายงานกูยังไม่พอเลย...!"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 180 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 13-01-2019, 22:24
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงมีดหมอหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว "เนื้อเหล็กใบมีดเป็นเอกลักษณ์หลวงปู่ยิ้มเลย ไม่รู้ว่าท่านผสมโลหะอย่างไร ตำราไหนก็ไม่เหมือน ของหลวงปู่บุญก็ไม่เหมือน เหมือนกับว่าอย่างไรสนิมก็กินไม่ได้ เป็นอะไรที่แปลกมาก มีดหมอของหลวงปู่บุญจะเป็นสนิมขุมหมดเลย แต่ของหลวงปู่ยิ้ม เนื้อจะออกเป็นสีเหมือนปีกแมงภู่ คือ สีเหลือบน้ำเงิน"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2019 เมื่อ 11:48
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 13-01-2019, 22:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"วิธีผสมโลหะแบบหลวงปู่ยิ้ม น่าจะหมดไปตั้งแต่สมัยหลวงปู่เหรียญ เจ้าอาวาสรูปต่อมาก็ไม่ได้เรียนไว้ สงสัยอยู่อย่างเดียวว่าสารพัดโลหะที่เก็บมาก็เหมือน ๆ กัน แล้วทำไมท่านหลอมเนื้อนี้ได้ คนอื่นหลอมไม่ได้ ?

เขาบอกว่าหลวงปู่ยิ้มท่านทำ
ได้ทีละไม่กี่เล่ม ท่านคงต้องใช้เวลาเยอะในการหลอมแล้วหลอมอีก แต่ของท่านอื่นไม่ได้หลอมหลายรอบขนาดนั้น ขี้โลหะออกไม่หมด สนิมก็เลยยังกินได้อยู่

เคยไปอ่านตำราของจีน เขาบอกว่า โลหะ ๓๐๐ ชั่ง หลอมเหลือ ๓๐ ตำลึง หลอมเป็นปี ๆ เหลือไม่ถึง ๑ ใน ๑๐ เหลือแต่แก่นจริง ๆ ประเภทหลอมกันทีหนึ่งก็ไม้หมดเป็นป่าเลย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2019 เมื่อ 11:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 13-01-2019, 22:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พูดถึงงาช้าง "นี่คืองาเป็น ได้มาขณะที่เจ้าของงายังไม่ตาย งาเป็นจะมีพลังชีวิต ของอย่างนี้พอดูไปนาน ๆ แล้วจะชำนาญ มองดูจะรู้เลยว่าใช่หรือไม่ใช่"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2019 เมื่อ 11:51
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 13-01-2019, 23:07
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,042 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงแก้วน้ำค้าง "สมัยที่อยู่ชายแดน มีฐานที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านขึ้นไปแจกธงมหาพิชัยสงคราม ชื่อฐานเพชรน้ำค้าง ที่บริเวณฐานบนเนินเขาจะมีหินงอก เป็นลักษณะใส ๆ แต่งอกเติมขึ้นมาได้เรื่อย ๆ เหมือนดอกกะหล่ำ ซ้อนขึ้นมา ๆ เขาเรียกว่า เพชรน้ำค้าง น่าจะเป็นแก้วน้ำค้างที่ว่านี่แหละ เพราะว่าดูจากลักษณะแล้วเขาโตได้เรื่อย ๆ ส่วนแก้วน้ำหายคือจุยเจียของจีน

แก้วน้ำค้างน่าจะเป็นเพชรน้ำค้างที่อาตมาเคยเจอมา แต่ตอนนั้นที่ใหญ่ที่สุดก็เล็กกว่ากำปั้นหน่อย ยังโตไม่ได้ที่ แต่โตได้เรื่อย ๆ โตขึ้นมาเรื่อย มีเล็ก ๆ มีปานกลาง มีใหญ่หน่อย ทั้งเนินเขาลูกนั้น เป็นหมดทั้งเนินเลย น่าเสียดายว่าสมัยนี้น่าจะโดนรื้อทิ้งไปแล้ว"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-01-2019 เมื่อ 11:52
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 172 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:07



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว