กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี

Notices

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี เก็บข้อธรรมจากบ้านวิริยบารมีมาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #81  
เก่า 23-05-2012, 12:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลานั่งกรรมฐานรู้สึกว่าร่างกายเราเป็นแค่โมเลกุลแคบ ๆ
ตอบ : อย่าลืมนะร่างกายเราที่เห็นว่าทึบ แต่จริง ๆ แล้วระหว่างโมเลกุลนี่ใหญ่มโหฬารเลย

ถาม : มีคนมาเล่าเรื่องให้ฟังเกี่ยวกับตัวเอง แล้วมีอารมณ์ใจกระทบ แต่รู้ตัวก็ค่อย ๆ เบาขึ้น
ตอบ : ถ้ากำลังใจดีขึ้นแล้วจะไม่หวั่นไหว ตอนนี้กำลังยังน้อยอยู่ พอกระทบแล้วจึงหวั่นไหว แต่ว่ายังดีที่รักษาตัวได้ เพียงแต่ว่าเวลากระทบแล้วยังหวั่นไหวอยู่ ก็ทำให้เราทุกข์เพราะอารมณ์นั้นได้

ถาม : เวลากำลังคุยแล้วอยู่ดี ๆ ก็ไม่เข้าใจในเรื่องที่พูด
ตอบ : สภาพจิตตัดระบบไป ไม่รับรู้ภายนอก หลบเข้าไปในสมาธิ สภาพจิตของเราจึงอยู่คนละส่วนกับเขาแล้ว จะเรียกว่าคนละความถี่ คนละมิติอะไรก็ช่างเถอะ ด้วยความเคยชินของเรา ถึงเวลารู้ว่าเรื่องไม่น่าสนใจเราก็เข้าสมาธิไปเลย แบบนี้เขาเรียกว่านิสัยไม่ดี ไม่เป็นไร..อาตมาก็เป็น บางคนเขามาบ่น ๆ ก็ปล่อยผ่านหูไปเฉย ๆ ฟังแต่ไม่ได้ยิน

ถาม : พอหายใจแล้วเข้าใจ....(ไม่ชัด)...
ตอบ : จะสัมผัสชัดหรือว่าหนักอยู่แค่ ๓ ที่ นอกนั้นจะเป็นแนวที่เรารู้ตลอด ถ้าหากว่าความละเอียดมีมาก จะเหลือเพียงสายละเอียดเล็ก ๆ เหมือนเส้นเอ็นใส ๆ อยู่ จิตรู้ตลอด บางทีพอรู้ไป ๆ จะเย็นเหมือนกับน้ำแข็ง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2012 เมื่อ 16:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 217 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #82  
เก่า 23-05-2012, 12:46
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เดี๋ยวจะเรียนต่อปริญญาเอกอีก ปริญญาทางโลกเรียนแล้วหมด แต่ไม่จบจริง แต่ปริญญาของพระพุทธเจ้าเรียนแล้วจบ ปริญญา มาจาก ปริ (รอบ , ทั่ว) + อัญญา (รู้) ถ้าจะรู้รอบ รู้ทั่วจริง ต้องรู้วิธีหนีทุกข์ เรื่องเรียนทางโลกมีแต่เพิ่มทุกข์"

ถาม : แล้วท่านเรียนทำไมครับ ?
ตอบ : เรียนเพื่อประโยชน์คนอื่นเขา เรียนเป็นตัวอย่าง เวลาเรียนอยู่เห็นเพื่อนเขาทุ่มเทกันด้วยความทุกข์ยากลำบาก บางคนถึงขนาดล้มป่วยไปเลย อย่างพระครูปลัดชลอ อาตมาก็ว่ามันยากขนาดนั้นเลยหรือ ? ท่านไม่ใช่คนไม่เก่ง ท่านเก่งนะ แต่ทำไมรู้สึกว่าท่านต้องแบกขนาดนั้น แสดงว่าอาตมาเองผิดปกติ

ขนาดหลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต ท่านบอกว่า “ไม่เอาแล้วนะ ผมเอาแค่โทนี่แหละ ถ้าเอกให้อาจารย์เล็กเรียนไปคนเดียวเถอะ” ท่านเองตอนเรียนโทท่านไม่ค่อยได้เข้าเรียนหรอก ท่านให้ท่านเอกที่เป็นลูกศิษย์มาเรียน แล้วก็สรุปเนื้อหาไปให้ท่าน ท่านก็ดูก่อนนอนแต่สอบแล้วได้เอ ส่วนลูกศิษย์ได้บี (หัวเราะ) อย่าลืมว่าสมาธิท่านดีกว่า แค่ดูสรุปท่านก็จำได้หมดแล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2012 เมื่อ 16:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #83  
เก่า 23-05-2012, 17:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ลูกดื้อมากเลยค่ะ
ตอบ : เป็นปกติของเด็ก ฟาดเขาไปสิ..รักลูกจนไม่กล้าตีแล้วจะไปโทษใคร

ถาม : หนูตีเยอะนะคะ
ตอบ : เราไปตีแบบไม่มีเหตุผล ตีแบบระบายอารมณ์ เราต้องให้เหตุผลเด็กไปก่อนว่าอย่างนั้นทำไม่ได้ ถ้าทำอีกแม่จะตี แต่นี่เราให้อภัยเขาไปเรื่อย พอถึงเวลาทนไม่ไหวก็ระเบิดทีเดียว เด็กเขารู้ว่าเขาไม่ได้ทำผิดขนาดนั้น เราไปตีมากเกินไปเขาจะดื้อ แต่ถ้าหากว่าเราให้เหตุให้ผล โดยเฉพาะผู้ใหญ่ต้องมีความมั่นคงในอารมณ์ ถ้าเราอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ เด็กจะไม่เชื่อ เพราะฉะนั้น..เราเองต้องฝึกตัวเองเสียใหม่
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-05-2012 เมื่อ 17:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 213 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #84  
เก่า 23-05-2012, 17:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "จากสารคดีเรื่อง soul of nation ที่ฝรั่งเขามาสัมภาษณ์ในหลวงเมื่อ ๓๐ ปีก่อน เขาถามพระองค์ว่ามีเป้าหมายและวางแผนในการทำงานอย่างไร? พระองค์ท่านตรัสว่า

“ถ้าคุณถามข้าพเจ้าว่ามีแผนอะไรหรือไม่ ข้าพเจ้าขอตอบว่าไม่มี เพียงแต่รู้ว่าในวันหนึ่ง ๆ เราต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง ถึงแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าสิ่ง ๆ นั้นคืออะไรบ้าง แต่เราจะต้องทำ และจะต้องเป็นสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ นั่นคือแผนในใจของข้าพเจ้า” สารคดีดี ๆ แบบนี้ ถ้าไม่ขุดขึ้นมารักษาไว้ก็มีแต่จมหายไปเรื่อย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2012 เมื่อ 17:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 227 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #85  
เก่า 24-05-2012, 07:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ใช้มโนมยิทธิขึ้นไปข้างบน เห็นวิมาน เห็นท่านข้างบนสององค์ องค์หนึ่งอยู่ ๆ ร่างกลายเป็นสีดำ หนูคิดว่าเป็นมาร ตกลงองค์ใดที่เป็นพวกเรา ?
ตอบ : กำหนดใจถามท่านตอนนั้นไปก็หมดเรื่อง

ถาม : หนูคิดว่าเป็นมาร บอกว่าไม่เอา ๆ
ตอบ : บางทีก็เป็นพวก ๆ กันนั่นแหละ มาลองแกล้งดูว่าจะตกใจไหม ? ถ้ามารมาจะประสาทเสียกว่านี้ พวกเรายังรู้ความซนของเทวดาน้อยไป ตอนอาตมาไปพม่าก็อาราธนาท่านปู่พระอินทร์ไปด้วย ปรากฏว่าช่วงจะกลับจากวัดเขาตามะยะ ท่านปู่บอกว่าติดงานสำคัญ คงมีใครอัญเชิญท่านไปงานอะไรสักอย่าง ท่านบอกว่าไม่ได้ตามดูแลช่วงนี้ จะให้พี่ ๆ มาแทน

ปรากฏกว่าพี่ ๆ ที่มามี พี่พวงทิพย์ พี่พรทิพย์ พี่พรสวรรค์ พี่เกศแก้วมณี สุดยอดทั้งนั้นเลย ระดับยอดขุนพล แล้วสนุกกัน ปลอมเป็นพระนั่งเต็มหลังคารถ หัวเราะคิกคักกันมาตลอดทาง พอมาถึงมะละแหม่ง จราจรโบกเรียก ยึดใบขับขี่ บอกว่าให้พระนั่งบนหลังคารถมากจนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้

คนขับรถก็เถียงบอกว่าไม่มี จราจรก็ยืนยันว่ามี ฝ่ายคนขับกลัวไปส่งพวกเราไม่ทันก็บอกว่า “เอาอย่างนี้แล้วกัน คุณเอาใบขับขี่ไว้ เดี๋ยวกลับมาค่อยคุยกัน ขอไปส่งพระที่มุด่งก่อน” อาตมาบอกครูบาน้อยที่ไปด้วยกันว่า พี่เขาปลอมเป็นพระพม่านั่งมาเต็มหลังคารถ ปกติท่านเป็นเทวดาชั้นผู้ใหญ่ ต้องมีมาด คราวนี้ท่านมางานที่ไม่เป็นทางการ ท่านก็สนุกของท่านไป ไม่รู้ป่านนี้คนขับกับจราจรคุยกันรู้เรื่องแล้วหรือยัง ? เพราะคนขับก็ต้องยืนยันว่าไม่มีพระบนหลังคา จราจรก็ยืนยันว่านั่งกันมาเต็มหลังคา

ถาม : แล้วทำไมคนขับไม่ออกมาดูเองคะ ?
ตอบ : ออกมาดูก็ไม่เห็น ส่วนจราจรเห็น คนขับคงคิดว่าตำรวจหิวเงินจะมาไถ ก็เลยตั้งข้อหาบ้า ๆ

ถาม : ท่านพี่นั้นเป็นใครคะ ?
ตอบ : ๔ องค์นั้นเป็นพี่ ๆ ของพวกเราเองแหละ เป็นลูกพ่อด้วยกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2012 เมื่อ 14:15
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #86  
เก่า 24-05-2012, 08:41
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์คุยกับโยมที่ออกแบบบุษบกพระลีลาประทานพรว่า "บุษบกลักษณะโบราณเขาเรียกว่า จอมแห เข้าใจคำว่าจอมแหไหม ? เวลาที่เขาเหวี่ยงแหไปแล้วสาวคืนมา ก็คือปลายเล็กโคนใหญ่ ลักษณะทรงของพระพุทธบาทที่สระบุรีนั่นแหละ เขาเรียกทรงจอมแห

ถ้าเราไม่เคยหาปลาเราก็ไม่รู้จักจอมแห เวลาเหวี่ยงแหไปกว้าง ๆ พอเขาสาวแหขึ้นมาแหก็จะสอบลงมา เขาก็ออกแบบมาเป็นบุษบก ถ้าคุณเหวี่ยงแหไม่เป็นอาจจะฟันหลุด คือเขาต้องการให้แหบาน ก็เลยคลี่แหออกมาแล้วเอาปากคาบช่วย ตอนเหวี่ยงแหไป ถ้าลืมอ้าปากนี่ตะกั่วจะกระชากฟันหลุดเลย

แล้วก็จะมีปลาดวงซวย พอถึงเวลาเขาเหวี่ยงไปครอบแล้วสาวขึ้นมา ปลาดันว่ายไปชน อยู่ข้างนอกแล้วติดขึ้นมา ที่เขาเรียกว่า "ติดหลังแห" แล้วคราวนี่คนไม่เข้าใจเปลี่ยนเป็น "ติดร่างแห" ความจริงคือติดหลังแห เป็นปลาที่ซวยสุด ๆ เลย เพราะว่าอยู่ข้างนอกแหแล้วดันมาชนติดเอง นั่นแหละเขาถึงได้บอกว่า คนดวงซวยที่อยู่ ๆ มีเรื่องมีราวแล้วก็โดนไปด้วย เขาเรียกติดหลังแห ส่วนแพะรับบาปคือคนเขาตั้งใจใส่ร้าย"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2012 เมื่อ 14:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 200 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #87  
เก่า 24-05-2012, 08:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ถ้ายังตกใจอยู่ก็แปลว่าจิตอยู่นอกกายมากเกินไป พอส่งออกไปไกลแล้ว เวลาเกิดอะไรขึ้นจะวิ่งกลับมาเพื่อรับรู้ อาการที่จิตวิ่งกลับมาเร็วเกินไปนั้นเขาเรียกว่าตกใจ เพราะพรวดพราดกลับมา ถ้าจิตยังอยู่กับตัวก็จะไม่ตกใจ เพราะอยู่ข้างในแล้ว นั่งอยู่สบาย แขกไปใครมาก็ไม่รีบร้อน เพราะนั่งอยู่กับที่แล้ว"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2012 เมื่อ 14:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 215 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #88  
เก่า 24-05-2012, 11:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวถึงไม้ผลว่า "มะมุด ผลคล้าย ๆ มะม่วงแต่ลูกกลม อาตมาลงไปปักษ์ใต้ครั้งแรกไม่รู้จักมะมุด ชาวบ้านสอยมา ๒ ลูก เขาอุตส่าห์เลือกลูกที่สุกมาให้ พอดมดูจึงรู้ว่ากลิ่นแรงมาก เอาใส่ไว้ท้ายรถ วิ่งไปไม่ถึงชั่วโมง กลิ่นตลบไปทั้งรถ ทนไม่ไหวต้องเอาออก อาหารปักษ์ใต้รู้สึกว่ากลิ่นแรงทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นสะตอ ลูกเนียง หรือแม้กระทั่งมะมุด

มะมุดเสียอยู่อย่างเดียวตรง "ไคล" เด็กสมัยนี้ไม่รู้จักไคลแล้ว ไคลก็คือขนที่เม็ดมะม่วง ไคลแข็งเป็นหนามเลย ถ้างับแรง ๆ แล้วจะหลุดติดมาเหมือนอย่างกับเศษไม้ติดฟันเลย ที่เขาบอกว่ามะม่วงเริ่ม "เข้าไคล" หมายถึงเริ่มแก่

ส่วนทุเรียนใต้เขานิยมกินตอนเละ ๆ เขาต้องกินลูกที่หล่นจากต้นมาเลย ถ้าไม่ถึงขนาดหล่นจากต้นมาเขายังไม่กิน เพราะฉะนั้น..ที่เราบอกว่าทุเรียนเละเป็นปลาร้า ไม่กินแล้ว ลงไปปักษ์ใต้เขาว่ากำลังพอดีเลย"


มะมุด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2012 เมื่อ 14:21
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #89  
เก่า 24-05-2012, 11:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ผลไม้ในป่าร้อยละ ๙๙.๙๙ มีรสเปรี้ยวทั้งนั้น น้อยชนิดที่จะมีรสหวาน ไม่เปรี้ยวมากก็เปรี้ยวน้อย ไปเจอสุกเหลืองอร่ามไปทั้งต้น เห็นแล้วน้ำลายหก สงสัยอยู่อย่างเดียวว่าทำไมไม่มีตัวอะไรกิน พอกินเข้าไปลูกเดียว โอ้โห...ลิงยังเมินเลย เพราะเปรี้ยวมาก

เวลาแกะออกมาเม็ดข้างในจะรวมกัน เนื้อก็จะติดเปลือกมาอยู่หน่อยหนึ่ง เหมือนจะเป็นเปลือกกลวง ๆ ขนาดเอาน้ำตาลยัดใส่เต็มเปลือก เคี้ยวลงไปยังไม่รู้สึกว่าหวานเลย เปรี้ยวได้ขนาดนั้น รสชาติสุดยอดจริง ๆ แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรกิน เพราะถ้าหวานแล้วลิงคงไม่เหลือไว้ให้เรา เรื่องในป่านี่ไม่มีอะไรที่รู้เกินสัตว์ป่าอยู่แล้ว

สัตว์ต้องการธาตุเกลือ ต้องกินดินโป่ง คราวนี้คนเรามีเกลือแล้ว ถ้าเราจะเอาดินโป่งมาทำเกลือก็ต้องขุดมาละลายน้ำ กรองแล้วต้มกันขนานใหญ่กว่าจะเป็นเกลือ แต่สัตว์ก็กินแบบดินนั่นแหละ เพราะเขาทำอย่างเราไม่เป็น

อยู่ในป่าเรื่องฝนฟ้าหาความแน่นอนไม่ได้ นึกจะตกก็ตก บางทีไม่ทันรู้ตัวก็เทโครมลงมา เวลาตกแรง ๆ ร่มหรือกลดก็กันไม่ได้ เพราะเม็ดฝนเม็ดใหญ่มาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2012 เมื่อ 14:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 196 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #90  
เก่า 24-05-2012, 12:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สมัครสอบรอบแรกไม่ติด รอบสองจะติดหรือเปล่า ?
ตอบ : เอาอย่างนี้สิ ปกตินั่งภาวนาก็พุทโธ ๆ ไปเลย ถ้าหากว่าเราภาวนาเป็น ดูลมหายใจเข้าออกเป็น เปลี่ยนคำภาวนาเป็นสัมปะติจฉามิแค่นั้น ว่าคำภาวนาก่อนที่เราจะไปยื่นเรื่องสักชั่วโมงก็ได้ ตั้งใจว่าขอให้ติด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-05-2012 เมื่อ 14:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 207 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #91  
เก่า 25-05-2012, 07:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อช่วงเที่ยงเขาเอาพระขรรค์เล่มพิเศษมาให้ดูตัวอย่าง ใครแรงไม่ดีจริงยกไม่ไหวหรอก ใครจองไว้แล้วก็รื่นเริงบันเทิงใจ ใครไม่ได้ก็เศร้าไป เฉพาะค่าชุบใบด้วยรูธีเนียมก็ใบละ ๕,๐๐๐ บาทแล้ว นี่คิดแบบกันเองมากเลย สำหรับลวดลายทั้งด้ามทั้งฝักรวมค่าชุบทองประมาณ ๑๕,๐๐๐ บาทต่อเล่ม ค่าแรงผลิตลวดลายเล่มละ ๓,๕๐๐ บาท

เพราะฉะนั้น..พระขรรค์เล่มละ ๘๔,๐๐๐ บาทนี่ไม่รู้เหลือถึงเล่มละ ๔๐๐ บาทหรือเปล่า ? ใบพระขรรค์ยาว ๒๙ นิ้ว ๒ หุน เท่าของจริงเลย ทำไมถึงรู้ว่าของจริงยาวเท่าไร ? เพราะว่าเจ้าหน้าที่ซึ่งคอยดูแลทำความสะอาดเขาวัดมาให้

พระขรรค์ที่ทำปกติ ถ้าผสมสัตตโลหะสีจะออกอย่างนั้นแล้วไปกลับดำทีหลัง แต่ของเรานี่ผสมเกินแล้วออกมาสีนั้นได้ แสดงว่าช่างเขาเก่งจริง เพราะปกติโลหะหลายอย่างจะมีลาย เพราะเนื้อโลหะผสมไม่ค่อยเข้ากัน แต่นี่ตั้งแต่ต้นยันปลายสีสม่ำเสมอกันทั้งใบ"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-06-2012 เมื่อ 17:36
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #92  
เก่า 25-05-2012, 08:14
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มีคนขอคำปรึกษาเรื่องการตรวจต้นฉบับหนังสือ พระอาจารย์จึงกล่าวว่า "ถ้าสำนวนอะไรที่เห็นว่าไม่เข้าท่าให้แก้ไขได้ทั้งหมด ตอนพระองค์เจ้าหญิงวิภาวดีรังสิตตรวจต้นฉบับหนังสือกรรมฐาน ๔๐ ของหลวงพ่อวัดท่าซุง พระองค์ท่านตัดออกเยอะเลย แล้วก็มีลูกศิษย์หลวงพ่อส่วนหนึ่งไปพูดว่าเป็นการปรามาสพระรัตนตรัย หลวงพ่อท่านได้ยินแล้วก็หัวเราะ ท่านบอกว่า “ตัดแล้วเนื้อหาเสียไหมเล่า ? ฟังแล้วรื่นหูขึ้นไหม ? ถ้าหากว่าทำแล้วดีขึ้นก็ทำไปสิ” พวกฟุ้งซ่านมัวแต่กลัวปรามาสพระรัตนตรัยก็ไม่กล้าทำอะไร

ช่วงแรก ๆ เสด็จพระองค์หญิงตรวจต้นฉบับหนังสือให้วัดท่าซุง ฉะนั้น..เราจะเห็นว่าหนังสือรุ่นเก่าของวัดท่าซุงมีสำนวนรื่นหู เพราะพระองค์ท่านเป็นนักเขียน เคยอ่านนิกกับพิมไหม ? ที่หมาเขียนจดหมายคุยกัน พระองค์ท่านเป็นคนเขียนหนังสือเรื่องนี้ โดยใช้นามปากกาว่า "ว.ณ. ประมวญมารค" นิกกับพิมเป็นเรื่องของหนุ่มจะจีบสาว สาวก็จะบอกรักหนุ่ม แต่คนสมัยก่อนอยู่ในลักษณะไม่กล้าแสดงออกมากนัก ก็เลยทำเป็นว่าหมาคุยกับหมา แต่เป็นหมาการศึกษาสูง เขียนจดหมายคุยกันได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 10:12
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 185 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #93  
เก่า 25-05-2012, 08:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : กินข้าวหมากผิดศีล ๕ หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ตีว่าผิดศีลไปเลยจะได้ไม่ต้องฟุ้งซ่าน ความจริงพระฉันข้าวหมากได้ แต่อาตมาไม่เอาเลยเพราะรังเกียจกลิ่น ถ้าเรากินเพราะชอบ ต่อให้เป็นอาหารที่ไม่เสี่ยงต่อการผิดศีลแต่เราก็เป็นทาสกิเลส เพราะฉะนั้น..ถ้าอยากกินข้าวหมากแล้วพยายามจะไปสืบหาว่าผิดศีลหรือเปล่า ? แปลว่ากิเลสหลอกเราเข้าแล้ว

ไม่ใช่ว่าเราไปสืบหาว่าผิดศีลหรือเปล่าเพราะต้องการทำความดี แต่กิเลสกำลังหลอกเรา ถ้าเรารู้ว่าไม่ผิดศีลเราก็กินเต็มที่เลย เพราะฉะนั้น..ต้องระวังให้ดี กิเลสลีลาเยอะ ทำท่าเหมือนกับเราเป็นคนดีมากเลย ที่ไหนได้..กำลังจะหาช่องว่างกฎหมายเพื่อจะละเมิด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 10:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 184 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #94  
เก่า 25-05-2012, 08:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ตอนนี้พระศรีอาริยเมตไตรยท่านมาเกิดแล้วยังคะ ?
ตอบ : ไม่ต้องห่วง อีกประมาณล้านกว่าปีท่านจึงมาเกิด ไม่ต้องไปห่วงถึงพระศรีอาริยเมตไตรยท่านหรอก ถ้าจะห่วงให้ห่วงตัวเองเถอะว่าจะทันท่านไหม ? จะเกิดในยุคท่านจริง ๆ เราต้องรักษากรรมบถ ๑๐ อย่างเคร่งครัด เนื่องจากว่าในสมัยพระศรีอาริยเมตไตรยคนชั่วเกิดไม่ได้ เกิดได้เฉพาะคนดีเท่านั้น ถึงเวลาพระองค์ท่านเทศน์ทีเดียวก็ยกขบวนไปพระนิพพานกันหมด

ใครที่อธิษฐานขอเกิดในสมัยพระศรีอาริยเมตไตรย แค่อธิษฐานอย่างเดียวไปไม่รอดหรอก ต้องรักษากรรมบถ ๑๐ ด้วย เพราะว่าถ้าหากว่ากุศลกรรมในศีล สมาธิ ปัญญาของเราไม่เข้มข้นพอ เวลาพระองค์ท่านเทศน์เราก็ไปไม่ได้ ยุคนั้นเขาบังคับว่าต้องระดับหัวกะทิเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 10:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 198 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #95  
เก่า 25-05-2012, 08:48
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : สงสัยว่าสมัยพระองค์ท่าน คนมีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี พอพระองค์ท่านเทศน์คราวเดียวไปนิพพานหมด แล้วเวลาที่เหลือทำอย่างไรคะ ?
ตอบ : ไม่ใช่...แต่ละคนในยุคนั้นอายุยืนกันหมด ถ้าบวชเป็นพระสงฆ์ก็อยู่จนหมดอายุขัย แปลว่าอายุศาสนาของพระองค์ท่านอยู่ครบตามอายุ แต่ถ้าเป็นฆราวาสก็ไปเลย ได้เปรียบกว่าพระเยอะ ฉะนั้น..ช่วงนั้นต้องท่องไว้ในใจเลยว่า..กูไม่บวช ๆ..พอบรรลุจะได้ไปสบายเลย..(หัวเราะ)..

ถาม : จะไม่มีคนของท่านอื่น ๆ ที่ท่านฝากไว้บ้างเลยหรือคะ ?
ตอบ : ห้ามเกิด ถ้าจะเกิดก็แปลว่าจะต้องไปได้

ถาม : ไม่มีฝากแบ่ง ๆ ไว้แถวนี้บ้างหรือคะ ?
ตอบ : มี..แต่จะต้องเป็นเด็กฝากชั้นดีประเภทดีหนึ่ง เด็กฝากชั้นดีประเภทดีสองนี่ไม่เอา อาตมาเข็ดจริง ๆ กับเรื่องเด็กฝาก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 10:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 193 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #96  
เก่า 25-05-2012, 09:00
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

คนไทยเราเชื่อว่าพระศรีอาริยเมตไตรยจะตรัสรู้ใต้ต้นกากะทิง คนพม่าเชื่อว่าพระศรีอาริยเมตไตรยจะตรัสรู้ใต้ต้นบุนนาค บาลีตัวเดียวกันแต่แปลคนละอย่าง

ถาม : ตกลงพระองค์ท่านจะตรัสรู้ใต้ต้นไหนคะ ?
ตอบ : รอดูพระองค์ท่านตรัสรู้ เราก็จะรู้เองว่าเป็นต้นไหน แต่จะเป็นต้นอะไรก็ตามถึงเวลาเขาก็เรียกต้นโพธิ์ทั้งหมด โพธิ คือ ไม้แห่งการตรัสรู้ อย่างของพระพุทธเจ้าเราเรียกต้นหางม้าหรืออัสสัตถพฤกษ์ เพราะว่าปลายใบมีชายยาว ๆ เหมือนหางม้า อย่างต้นราชายตนะก็เหมือนกัน ไม่รู้ว่าบ้านเขาหน้าตาเป็นอย่าไร แต่บ้านเราเรียกต้นการะเกด
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 10:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #97  
เก่า 25-05-2012, 09:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อาตมาเคยอ่านหนังสือของคุณสุวรรณี สุคนธา เรื่องดอกเกด คุณสุวรรณีตายเร็วไปหน่อย เป็นผู้หญิงก็จริงแต่กินเหล้าคอแข็งกว่าผู้ชายอีก เพราะว่านักเขียนพอว่างก็ตั้งวงก๊งเหล้ากัน ส่วนใหญ่พอเข้าวงแล้วรุ่นพี่เขาเล่าประสบการณ์ในการเขียน ตัวเองก็เกิดจินตนาการออกว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี

ถาม : นักเขียนเป็นการทำให้ผู้อื่นหลงเหมือนดาราไหมคะ ?
ตอบ : ต้องดูการแต่ง สมัยก่อนคุณสิทธา เชตวัน ก็เขียนเรื่องบู๊ ตอนหลังพอมาปฏิบัติธรรมแล้วก็เขียนเรื่องพระอย่างเดียว อยู่ที่ว่ารู้หรือเปล่า ? เมื่อรู้แล้วก็เลิก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 10:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #98  
เก่า 25-05-2012, 09:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ที่เขาบอกว่าหลวงปู่ปานจะตรัสรู้ใต้ต้นอัญชัน แล้วจะตรัสรู้อย่างไรคะ ?
ตอบ : อาตมายังไม่เคยได้ยิน ในอนาคตวงศ์ที่แปลกกว่าใครก็มีตรัสรู้ใต้ต้นไผ่ ความจริงก็ไม่แปลกหรอกเพราะว่ากอไผ่เย็นสบายดี

ตั้งแต่โบราณมาไม้ไผ่เป็นไม้เคล็ด คำว่าไม้เคล็ดก็คือแก้อาถรรพ์ หนังเหนียวแค่ไหนเจอหลาวไม้ไผ่เข้าก็เสร็จทุกราย เพราะเป็นอาวุธธรรมชาติ ถ้าหากว่าใครศึกษาคาถาชื่อโองการมหาทมื่น จะทราบว่าเขาพยายามผูกคาถาให้ครอบคลุมที่สุด มีคงทั้งหลับ คงทั้งตื่น คงทั้งกลางวัน คงทั้งกลางคืน คงทั้งยืน คงทั้งนั่ง คงทั้งบนบก คงทั้งในน้ำ คงต่อหอกข้อเงิน หอกข้อทอง หอกสัมฤทธิ์ ฯลฯ จะแหกคอกขนาดไหนเขากันไว้หมด

ถาม : กันไม้ไผ่ด้วยไหมคะ ?
ตอบ : ไม่มี..กันแต่อาวุธคนสร้าง ส่วนไม้ไผ่เขาไม่ได้กัน เพราะเป็นของธรรมชาติ มีกระทั่งมีดพร้าฟืนไฟ แต่ไม่มีหลาวไม้ไผ่

ถาม : ถ้ามีคำว่ากันหลาวไม้ไผ่ด้วยจะกันได้ไหมคะ ?
ตอบ : อยู่ที่ใจเรา ต่อให้ภาวนาไป ถ้าใจไม่แน่นพอก็เสร็จเขาจนได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 10:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 188 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #99  
เก่า 25-05-2012, 10:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

อย่างหอกสัตตโลหะที่ไกรทองเอาไปฆ่าชาละวัน เขากันไว้ชนิดเดียว นี่ผสมไปตั้ง ๗ อย่าง ถ้าอยู่ ๆ มีหนุ่มรูปหล่อเดินขึ้นมาจากน้ำ เราจะวิ่งหนีหรือจะอยู่ ? เราก็ต้องสงสัยไว้ก่อนว่าไม่ใช่งูไม่ใช่เงือก ก็ต้องเป็นอะไรสักอย่างที่ผิดปกติแน่ ๆ

ถาม : แล้วเขาเป็นอะไรคะ ?
ตอบ : อชคราทิเปรต เป็นเปรตที่อยู่ในร่างของสัตว์เดียรัจฉาน สามารถแปลงเป็นมนุษย์ได้ แต่เวลาฉุกเฉินจะกลับคืนเพศเดิม เรื่องอย่างนี้ไม่ได้มีเฉพาะบ้านเรา พม่าเขาก็มีเรื่องของพญาจระเข้งาโมย่ากับนางละมุ พญาจระเข้บำเพ็ญเพียรจนสามารถแปลงเป็นคนได้ มารักกับสาวแม่ค้าคือนางละมุ คำว่าละมุ บ้านเราก็ลำพู

วันหนึ่งฝ่ายชายไปพูดผิดอะไรไม่รู้ ก็เลยกลายเป็นจระเข้ ด้วยความอายจึงหนีลงน้ำ ปรากฏว่าประเมินน้ำใจสาวเจ้าผิดไป นางละมุพายเรือตามหา แต่แถวนั้นอยู่ใกล้ปากอ่าวย่างกุ้ง คลื่นลมแรง เรือเล็กก็เลยล่ม นางละมุจมน้ำตาย พญาจระเข้คาบนางละมุขึ้นมาไว้บนบก ตัวเองก็ร้องไห้กลิ้งเกลือกจนกระทั่งขาดใจตาย ชาวบ้านเขาก็เลยช่วยกันสร้างเจดีย์ขึ้นมา เรียกว่าเจดีย์แมละมุ เป็นพระเจดีย์เล็ก ๆ แต่ว่าหนุ่มสาวนิยมไปอธิษฐานให้รักกันยืนนาน

เราจะเห็นว่าบ้านเรามีไกรทอง มีชาละวัน พม่าเขาก็มีเหมือนกัน แต่จระเข้ของเขาคาบสาวไปคนเดียว จระเข้ของเรานี่คาบไปเป็นฝูง ชอบใจลูกสาวบ้านไหนก็คาบไปไว้ในถ้ำ สมัยก่อนส่วนใหญ่เขาอาบน้ำกันตามท่าน้ำ พอไอ้เข้โผล่มาก็งาบไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 10:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 175 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #100  
เก่า 25-05-2012, 10:19
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,179 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อช่วงสักครึ่งค่อนเดือนที่ผ่านมามีข่าวว่าปลาปิรันย่ากัดชาวบ้าน อาตมาได้ยินแล้วก็หัวเราะว่าเด็กรุ่นใหม่ไม่รู้จักปลาปักเป้า รุ่นของอาตมานี้ถ้าจะแกล้งชาวบ้านก็เอาปลาปักเป้าตัดหางแล้วไปโยนที่ท่าน้ำ ปลาปักเป้าโดนตัดหางว่ายไปไหนไกลไม่ได้ ก็วนอยู่แถวนั้นแหละ อะไรลงไปก็กัดแหลก เพราะปลาปักเป้ามักจะหวงที่

ส่วนคนที่ไม่กลัวปักเป้าก็หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ รุ่นอาจารย์ของหลวงปู่ปาน ถึงเวลาท่านลงไปสรงน้ำที่ท่าน้ำ พวกชาวบ้านเอะอะว่า "ปลาปักเป้าเยอะแยะหลวงตา เดี๋ยวมันกัดตาย..!" ท่านก็สรงน้ำไปหน้าตาเฉย สรงน้ำเสร็จเดินขึ้นมาปักเป้างับติดมาเต็มเลย ท่านก็แกะโยนลงน้ำไปทีละตัว ปลางับติดมาเฉย ๆ แต่กัดท่านไม่เข้า ท่านจึงไม่กลัว ปลาปักเป้าก็คงงงว่าทำไมงับแล้วไม่ได้เลือดสักที

ถาม : เกิดจากสมาธิหรือคะ ?
ตอบ : อยู่ในลักษณะการฝึกวิชาอย่างหนึ่ง ถึงเวลาได้ทดสอบตัวเองได้ว่าเหนียวพอหรือยัง โดยเฉพาะถ้ากันพวกธรรมชาติเขี้ยวงาได้นี่อย่างอื่นก็กันได้หมด เพราะว่าพวกธรรมชาติเป็นฤทธิ์อย่างหนึ่ง โดยธรรมชาติเขาให้ฤทธิ์อย่างนั้นไว้ป้องกันตัว ถ้ากันพวกนี้ได้อาวุธอื่นก็กันได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-05-2012 เมื่อ 15:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 181 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 18:05



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว