กระดานสนทนาวัดท่าขนุน


กลับไป   กระดานสนทนาวัดท่าขนุน > ห้องธรรมะพระอาจารย์ > เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์

Notices

เก็บตกจากบ้านอนุสาวรีย์ เก็บข้อธรรมจากบ้านอนุสาวรีย์มาฝาก สำหรับผู้ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไป

ตอบ
 
คำสั่งเพิ่มเติม
  #61  
เก่า 29-10-2009, 13:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เวลาปฏิบัติจะมีเสียงเหมือนคนมาคุยรบกวน
ตอบ : เอาอย่างนี้ ให้มาสนใจอยู่กับลมหายใจเข้าออกอย่างเดียว จะมีเสียงคุยกัน หรือจะมีอะไรก็ตาม ไม่ต้องใส่ใจ ให้ใส่ใจว่าเราหายใจแล้วเรารู้ตามเข้าไปได้ไหม....จนกระทั่งมันสุด หายใจออกรู้ตามออกมาได้ไหม....จนกระทั่งมันสุด

ให้มันอยู่แค่นี้ ถ้ามันไปอยู่ที่อื่นเมื่อไร ดึงมันกลับมาตรงนี้ แล้วสมาธิจะก้าวหน้า ไม่อย่างนั้นแล้วเรามัวแต่ไปสนใจที่อื่น สมาธิจะไม่ก้าวหน้า เป็นลักษณะที่โบราณเรียกว่า กิเลสมารมันหลอก ก็คือมันกวนเรามาก ๆ แล้วเราไม่มีเวลามาดูตรงนี้ สมาธิมันก็ไม่ได้สักที แต่มันจะรำคาญตอนต้น ๆ ยิ่งไปสนใจจะยิ่งชัดเจน ปล่อยให้เป็นเรื่องปกติธรรมดา หากมันเหมือนใครมาคุยกันอยู่ใกล้ ๆ ก็ปล่อยมัน แล้วเราทำงานของเราไป

ถาม : แล้วมันมาคุยอะไรกันอย่างนี้
ตอบ : ก็ปล่อยมันคุยกันไปสิ มันเป็นเรื่องปกติของนักปฎิบัติ จะต้องเจอเรื่องพวกนี้

ถาม : ก็ดึงมา
ตอบ : มาอยู่กับ พุทโธ มาอยู่กับลมหายใจตามเดิม อยู่กับตรงนี้ ถ้าคิดเรื่องอื่นหรือใครมันจะคุยกันอย่างไร ก็รีบดึงกลับมา

ถาม : (ไม่ชัด)
แล้วมันจะชัดขึ้นเรื่อย ๆ มันตั้งใจกวนเรา ไม่ต้องไปใส่ใจมัน หลังจากที่สมาธิเราทรงตัวแล้ว เรื่องพวกนี้เดี๋ยวมันจะหายไปเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 118 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #62  
เก่า 29-10-2009, 13:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : การถวายพระพุทธรูปแล้วเอามาเป็นสังฆทานอย่างนี้ เขาเรียกว่าถวายทานธรรมหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ก็ถวายพระพุทธรูป ส่วนคนรับจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเขา เราก็ได้อานิสงส์สร้างพระ ถ้าเขาเอามาทำเป็นสังฆทานอย่างที่เขาทำกันกี่ครั้งก็มีส่วนของเราด้วย น่าสนใจนะ

ถาม : แล้วผมจะเช่าพระพุทธรูปมาทำอย่างนี้ได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่สมควร

ถาม : ทำไมครับ ?
ตอบ : พระเช่าบูชา...เทวดาเขารักษาเป็นการเฉพาะเจาะจง ไปยกขึ้น ๆ ลง ๆ ข้ามไปข้ามมาท่านไม่ชอบใจ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-01-2019 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #63  
เก่า 29-10-2009, 13:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "ให้สังเกตไว้อย่างหนึ่งว่า ช่างคนไหนปั้นพระ...เค้าหน้าก็จะเป็นของช่างคนนั้น มันอาจจะเป็นการหลงตัวเองอยู่ลึก ๆ ก็ได้ ถึงเวลาปั้นเสร็จก็ออกเค้าหน้าตัวเองว่าสวยที่สุด

ฉะนั้นที่เขาให้สังเกตว่าผู้หญิงผู้ชายที่เป็นเนื้อคู่กันหน้าตามักจะคล้าย ๆ กัน อาตมาฟันธงว่ามันเป็นการหลงตัวเอง คือพอเห็นหน้าคล้ายตัวเอง ด้วยความไม่รู้ตัวก็ชอบไว้ก่อน เรื่องนี้ไม่รู้ว่าจะฟันธงผิดหรือถูก แต่พูดไปแล้ว ฉะนั้นเวลาเห็นหน้าคนไหนที่มาเป็นคู่ ๆ หน้าคล้าย ๆ กันแล้วเราก็ว่าสองคนนี่เป็นคู่กันแน่เลย จริง ๆ ก็คืออาการหลงตัวเองของคนใดคนหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 120 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #64  
เก่า 29-10-2009, 13:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล็กท่านกล่าวว่า "ท่านที่จับภาพพุทธานุสติเป็นปกติ นาน ๆ ไป เค้าหน้าจะค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นเค้าของพระ"

แล้วท่านก็เล่าให้ฟังว่า "มีอยู่ครั้งหนึ่งออกจากโบสถ์หลังจากปาฏิโมกข์แล้ว หลวงพ่อท่านเดินนำ พวกเราก็เดินตาม มีโยมจากบ้านแพน จังหวัดอยุธยา แห่กันมา ๓ คันรถ พอลงจากรถมาเจอหลวงพ่อ ก็กราบกัน บางคนนี่ร้องไห้โฮเลย เขาบอกว่าทำไมเหมือนหลวงปู่ปานอย่างนี้ เราดูอย่างไรหลวงพ่อกับหลวงปู่ปานก็ไม่เหมือนกัน แต่คนที่นาน ๆ เห็นที จับเค้าหน้าท่านว่าเหมือนเค้าหน้าของพระ พอไปมองตรงจุดนั้นแล้วมองอย่างไรก็เหมือน แต่ถ้าหากจับมาคู่กันจริง ๆ เราจะเห็นว่าไม่มีเหมือนหรอก จะเห็นลักษณะเค้าบางส่วนที่จับภาพพระอยู่เป็นปกติ

ก่อนหน้านี้สมัยหนุ่ม ๆ เค้าหน้าของหลวงพ่อคล้าย ๆ กับหลวงพ่อสมปองของพวกเรา ขอยืนยันนะ แล้วท่านจับภาพพระไปเรื่อย ๆ ๆ เค้าหน้าแปรเป็นภาพพระได้ หน้าเป็นคนละทรงไปจากของเดิมเลย สมัยอายุ ๕๐ กว่า เค้าหน้าท่านก็ยังออกมาทางด้านนี้อยู่ พอยิ่งอยู่ไป ๆ ก็เปลี่ยนไปใกล้พระท่านไปเรื่อย ๆ"

ถาม : หลวงพ่อเล็กก็เปลี่ยนนะ
ตอบ : ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ได้ส่องกระจก พระเขาห้ามส่องกระจก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 125 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #65  
เก่า 29-10-2009, 14:03
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แม่อายุ ๖๘ อยู่โรงพยาบาล เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง จะรอดไหม
ตอบ : ถ้าหากว่ายังไม่ได้ผ่าตัด ยังอยู่ได้อีกระยะ

ถาม : กี่ปีครับ
ตอบ : บอกไม่ถูก ขึ้นอยู่กับกำลังใจคนไข้

ถาม : แล้วจะฟื้นไหม
ตอบ : ฟื้นขึ้นมาไม่ใช่เรื่องดีหรอก ฟื้นมันมี ๒ อย่าง ฟื้นขึ้นมาอย่างแรกก็คือมันเป็นวูบสุดท้ายเพื่อสั่งเสียลูกหลาน ส่วนฟื้นอีกอย่างหนึ่งคืออาการดีขึ้น เพราะฉะนั้นการฟื้นนี่เราบอกไม่ถูก

ถาม : แล้วจะฟื้นไหมครับ
ตอบ : ก็รอสิ

ถาม : จะทำบุญอะไรให้ดี
ตอบ : บุญช่วยอะไรก็ช่วยไม่ได้หรอกจ้ะ ถ้าหากคนไข้ไม่ได้สติ ต้องบอกให้ท่านรู้แล้วโมทนาด้วย เพราะฉะนั้นถ้าได้สติรีบบอกให้ท่านโมทนาที่เราถวายสังฆทาน

ถาม : แล้วจะทำบุญหล่อพระจะดีไหมครับ
ตอบ : บุญอะไรก็ได้ แต่ต้องบอกให้โมทนา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #66  
เก่า 29-10-2009, 14:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หนูอยากเป็นเด็กดีที่โรงเรียน
ตอบ : ต้องเชื่อฟังคุณครู อย่าดื้อกับพ่อกับแม่ แล้วถ้าเป็นไปได้รักษาศีลให้ได้ด้วยจ้ะ ก็คือเราต้องไม่ฆ่าสัตว์ไม่ลักขโมยใคร ของที่เขารักเราก็ไม่ไปแย่ง แล้วก็ไม่พูดโกหก แล้วก็ไม่กินเหล้าเมายา ถ้าทำอย่างนี้ได้เป็นเด็กดีแน่ ๆ จ้ะ ทำได้ไหมจ๊ะ พอไหวไหม เยอะไปหรือเปล่า ท่องพุทโธ ๆ ไว้ก่อนลูก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #67  
เก่า 29-10-2009, 14:10
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อครับคำว่าการรักษาพรหมจรรย์ระหว่างที่ครองเรือนอยู่ มีขอบเขตอย่างไรครับ
ตอบ : ถ้าหากว่าจะเอาเป็นศีลพรหมจรรย์จริง ๆ ก็ต้องรักษาศีล ๘ แต่ถ้าหากว่าไม่ใช่ศีลพรหมจรรย์เราไม่ละเมิดศีล ๕ ก็ถือว่าไม่ผิด

ถาม : แล้วแสดงความรัก กอดหอมอะไรอย่างนี้
ตอบ : เรื่องปกติ

ถาม : ทำได้ใช่ไหมครับ
ตอบ : ทำได้

ถาม : ไม่ถือว่าทำให้ผิด
ตอบ : ถ้าหากว่ามันทำให้กามราคะกำเริบถือว่าผิด แต่ถ้าหากไม่มีส่วนที่ทำให้กามราคะกำเริบถือว่าไม่ผิดหรอก มันอยู่ที่ว่าเราระวังใจตัวเองให้ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-10-2009 เมื่อ 14:17
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #68  
เก่า 29-10-2009, 15:52
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : เราจะทำอย่างไรที่จะทรงบารมี ๑๐ ได้ดี ต้องพิจารณาให้เข้าไปทั้ง ๑๐ ข้อ หรือเปล่า
ตอบ : จริง ๆ สำคัญที่สุดอยู่ตรงสมาธิ ถ้าสมาธิทรงตัวมันจะรู้ระมัดระวังแล้วทบทวนอยู่เสมอ ๆ บารมี ๑๐ จับข้อใดข้อหนึ่งก็ได้ขึ้นมา อย่างเช่นว่าเราจับเมตตาบารมีขึ้นมา ตั้งใจแผ่เมตตาหวังสงเคราะห์คนให้มีความสุขความเจริญอยู่ตลอดเวลา ตัวอื่นอีก ๙ ตัวมันตามมาเอง แล้วคนจะมีเมตตาบารมีได้ ศีลจะต้องทรงตัวอัตโนมัติ ศีลบารมีก็ได้ คนที่จะรู้ว่าเมตตาบารมีดี....ปัญญาต้องมี ปัญญาบารมีก็ได้ ไล่ไปครบทุกตัวแหละ เพราะฉะนั้นเลือกเอาตัวเดียวมาเน้น ๆ อีก ๙ ตัวตามมาเอง

ถาม : คนที่ทำอารมณ์ได้ระดับพระโสดาบัน เขาต้องมีบารมีพวกนี้มาครบ
ตอบ : พวกนี้เขาทำมาเยอะแล้ว ถ้าหากมาไม่ถึงนี่ ไม่มีทางหรอกที่คิดจะภาวนา ถ้าหากว่ารู้จักภาวนานี่กำลังพอแล้วทั้งนั้น เพียงแต่ว่าทำถูกวิธีหรือเปล่า

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : รับรู้มันไว้ แล้วเสร็จแล้วก็เปลี่ยนอิริยาบถ เปลี่ยนสถานที่ในการภาวนา ก็จะดีขึ้น ไม่ใช่ไปนั่งเหี่ยวอยู่กับมันตลอด

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : ก็เหมือนกัน ถ้าหากว่าได้เปลี่ยนสถานที่มันจะดีขึ้น เหมือนที่พระท่านธุดงค์
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 110 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #69  
เก่า 29-10-2009, 15:54
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วคนที่ปฏิบัติไปแล้ว ได้รู้ในข้อธรรมบางข้อธรรม แล้วยึดอยู่กับข้อธรรมนั้นในสิ่งที่ตนรู้นั้น ตรงนี้เป็นเหตุที่ทำให้เขาไม่เจริญไม่ก้าวหน้าในการปฏิบัติได้หรือเปล่าคะ

ตอบ : ถ้าไปยึดอยู่ตรงนั้นโดยไม่ปล่อยก็เสร็จเหมือนกัน ยกเว้นว่าตรงนั้นเป็นทางที่ต้องผ่านจริง ๆ ก็พยายามตะเกียกตะกายผ่านไปให้ได้เท่านั้นเอง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 117 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #70  
เก่า 29-10-2009, 22:36
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วันนั้นคุยกับหลวงพี่หน่อยครับ ท่านโทรมาเล่าให้ฟังว่า ออกพรรษาค่อยเห็นว่าได้อานิสงส์บ้าง ถามทำไมเล่าหลวงพี่ ท่านบอกว่าท่านพิจารณาทุกข์มาตลอดเวลา พอพิจารณาทุกข์ก็รู้สึกว่าจิตมันเป็นทุกข์ ก็รู้สึกว่าทำไมมันเห็นทุกข์แล้วมันยังทุกข์อยู่ แล้วมันทุกข์อยู่ของมันร่ำไปอยู่อย่างนั้น จนออกพรรษาพิจารณาไปพิจารณามาถึงรู้ว่า อ๋อ มันเป็นเวทนา เลยเข้าใจว่า อ๋อ เขาพิจารณากันอย่างนี้
ตอบ : ยังอุตส่าห์รู้ ..กำหนดรู้ ยอมรับว่าปกติธรรมดามันเป็นอย่างนั้น แล้วก็ไม่ต้องไปยุ่งกับมันก็จบแล้ว อันนี้รู้แล้วก็ไปแบกไว้แล้วก็สงสัยทำไมมันหนักแท้

ถาม : ครับ บอก ๘-๙ ปีท่านก็พิจารณาทุกข์มาตลอด ทำไมพิจารณาทุกข์ ใจมันก็เป็นทุกข์ พระพุทธเจ้าบอกเห็นทุกข์แล้วมันต้องหายทุกข์สิ
ตอบ : รู้ว่าแบกอยู่แล้วมันจะหายหนักไหมเล่า มันจะหายหนักก็ต่อเมื่อเลิกแบก
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #71  
เก่า 29-10-2009, 22:37
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วอย่างบางคนที่เขากำลังเสวยในทุกข์อยู่ แล้วทีนี้พยายามหาทางจะปล่อยวางในทุกข์นั้น แต่ทำเท่าไหร่มันก็ปล่อยไม่ได้สักทีค่ะหลวงพ่อ ตรงนี้มันเป็นเพราะอะไร

ตอบ : กำลังของสมาธิและปัญญายังไม่พอ ถ้าหากว่ากำลังของสมาธิและปัญญาเพียงพอ มันจะก้าวข้ามไปได้ อันนี้มันเหมือนอย่างกับประเภทขายาวไม่พอจะก้าวข้ามรั้ว ข้ามไปก็ติดแหง็ก คราวนี้หนักกว่าเดิมเพราะดันไปเขย่งขาเดียว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #72  
เก่า 29-10-2009, 22:50
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : แล้วไสยขาวกับพุทธศาสตร์คืออย่างเดียวกันหรือเปล่า
ตอบ : ไม่ใช่จ้ะ ไสยศาสตร์คือไสยศาสตร์ แต่ไสยขาวเป็นไสยศาสตร์ที่ใช้ในการแก้ ใช้ในการช่วย แต่ถ้าไสยดำนี่ก็คือเอาไว้ทำอันตรายคนอื่น

ถาม : พุทธศาสตร์นี่เน้นไปเพื่อการหลุดพ้นเพื่อสมาธิ ปัญญา
ตอบ : ไสยศาสตร์แต่ละอย่างนี่เราก็ลองไปดู ๆ มันคาถาหัวใจธรรมะทั้งนั้นเลย มีไม่มากเท่าไหร่หรอกที่มันออกไปด้านนั้นตรง ๆ คราวนี้มันก็เลยเป็นที่ยอมรับว่าพระพุทธเจ้าท่านตรัสอะไรไม่ผิดจริง กำลังใจที่มันมุ่งมั่น สิ่งดีก็กลายเป็นสิ่งไม่ดีเพราะมันมุ่งมั่นที่จะใช้ในทางที่ไม่ดี กลายเป็นดาบสองคม

ถาม : ที่เขาเรียกว่ามิจฉาสมาธิใช่ไหมครับ
ตอบ : ถึงเวลาได้อาวุธไป แทนที่มันจะเอาไปใช้งาน มันก็ดันเอาไปจี้ ไปปล้น ไปฆ่าเขา

ถาม : นึกถึงคนฝึกกรรมฐานกันนะครับ แรก ๆ ก็คงจะไม่น่ากลัวหรอก
ตอบ : พวกคุณไม่น่ากลัวหรอก เพราะเขาจ้องจะเด็ดหัว เตือน ๆ ให้ระวัง ไม่แน่หรอก ถ้าเกิดเด็ดหัวไม่ได้เดี๋ยวก็ย้อนกลับไปพวกข้างล่าง
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 29-10-2009 เมื่อ 23:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 116 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #73  
เก่า 30-10-2009, 08:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่ครับบางสำนักอาจารย์เขาไม่เป็นอะไรเลย แต่คนมาเชื่อถือเยอะมาทำบุญเยอะ ตายไปเขาได้อานิสงส์เยอะไหมครับ
ตอบ : ถ้าหากว่าสอนตามพระพุทธวัจนะได้ แต่ถ้าแหกคอกพระพุทธวัจนะ เป็นอัตโนมติของตนเอง เตรียมตัว (ลงนรก) ได้เหมือนกัน

ถาม : สอนถูกครับแต่ตั้งใจไม่ถูก
ตอบ : สอนถูกตั้งใจไม่ถูกไม่เป็นไร เสียหายไม่มาก มันแค่ว่าตัวเองเลี้ยงวัวทั้งฝูง แต่ไม่เคยได้ชิมเลยว่ารสชาติของวัวมีอะไรบ้าง พระพุทธเจ้าท่านเปรียบว่า ไม่เคยรู้ในปัญจโครสเลย ก็คือสิ่งที่เป็นประโยชน์ ๕ ประการจากวัว นม เนยใส เนยข้น น้ำมันเปรียง แล้วก็นมส้ม (นมส้มก็คือนมเปรี้ยว)


หมายเหตุ : อัตโนมติ = อัตโน+มติ
คือ ความคิดเห็นของผู้พูด ผู้แสดงธรรมในพระพุทธศาสนา ซึ่งอาจจะตรงหรือผิดกับคำของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 20:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #74  
เก่า 30-10-2009, 09:40
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "วันก่อนมีเด็กจะมาขอบวช บอกมันว่าตื่นขึ้นทำวัตรเช้าตอนตีสามครึ่ง ทำกรรมฐานและทำวัตรเช้าเสร็จแล้วเตรียมตัวตามพระออกบิณฑบาต กลับมาฉันอาหารเสร็จแล้ว ล้างเก็บถ้วยชาม จัดสถานที่เตรียมไว้มื้อเพล

หลังเพลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ล้างถ้วยล้างชาม ปัดกวาดสถานที่ แล้วก็เตรียมทำความสะอาดวัด พอตอนเย็นก็มาทำวัตรเย็น ๒ รอบ รอบแรกก็ ๖ โมงเย็น รอบ ๒ ก็ทุ่มหนึ่ง จะได้นอนก็เมื่อเปิดเสียงตามสายสองทุ่มไปแล้ว

ถ้าขาดเวลาใดเวลาหนึ่งเจอสายไฟ ขาดครั้งแรก ๑ ที ครั้งที่สอง ๒ ที ครั้งที่สาม ๓ ที บวกเพิ่มไปเรื่อย ครบ ๑๐๘ เมื่อไร......วันรุ่งขึ้นมันหายจากวัดไปเลย

จากที่มันบอกทุกคนว่ามันจะต้องบวชให้ได้นะ หายจากวัดไปเลย บอกว่าถ้าไม่เชื่อถามเณรที่อยู่ในวัดนี้ดูว่าโดนจริงไหม"


ถาม : แค่ไปถามใช่ไหม
ตอบ : แค่มันไปถามก็รู้แล้ว เพราะเณรมันโดนทุกคนแหละ
ไม่เรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง งวดนี้นี่โดนข้อหาจับหมาไปเขียนคิ้วเขียนตา กลับไปมีการชำระ คือ หมานี่มันไม่ได้ดมกลิ่นอย่างเดียวนะ ตามันดูด้วย แล้วเวลามันเห็นหน้าแปลก ๆ ไปบางทีมันก็กัดเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 111 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #75  
เก่า 30-10-2009, 10:04
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สมัยอาตมาอยู่วัดท่าซุงส่วนใหญ่ก็มุดอยู่ใต้สวนไผ่ ๖ ไร่ ไม่ต้องยุ่งกับใคร ยกเว้นบรรดางูเหลือมหรือว่าพวกเหี้ย พวกตะกวดมันจะมายุ่งกับเราก็ไล่มันไปไกล ๆ
ถาม : จริง ๆ แล้วสัตว์พวกนี้กลัวเราไหมคะ
ตอบ : มันกลัว เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ทำอะไรเขา แล้วคนที่นั่งกรรมฐานนี่มันคล้าย ๆ กับว่าเราไม่ได้มุ่งร้าย ในเมื่อเราไม่ได้มุ่งร้าย เขาไม่กลัวเขาก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้วท้ายสุดก็มานอนตักบ้าง มานอนบนอกบ้าง

ถาม : แล้วเขารู้หรือคะว่าเรารักเขา
ตอบ : ถ้าว่ากันตามหลักวิทยาศาสตร์ ในแต่ละอารมณ์ใจร่างกายของเราจะหลั่งสารเคมีแบบต่าง ๆ กันออกไป สัตว์มันสามารถรับสัมผัสได้ แต่ถ้าว่ากันตามหลักของศาสนา หลักของการปฏิบัติทางจิต ก็ต้องบอกว่าสัตว์มันสามารถรับรู้ได้ว่าใครมีความเมตตาหรือใครไม่เมตตามัน คือพวกนี้เขาเป็นสัตว์เลือดเย็นถึงเวลาต้องหาที่อุ่นนอน แล้วไอ้ที่อุ่นที่สุดก็อยู่ตรงนั้นแหละ นอนตักยังดี อาตมาโดนมันทับอก ตัวอะไรวะเบ้อเริ่มเลย ค่อย ๆ ลากมันออก

ถาม : ตัวใหญ่แค่ไหน
ตอบ : ก็มีตั้งแต่ประเภทเล็ก ๆ จนถึงใหญ่กว่าขาอ่อน

ถาม : คุยได้ไหมเจ้าคะ
ตอบ : ก็คงได้ แต่เราฟังไม่รู้เรื่อง ถึงเวลาก็มาแลบลิ้นแพล่บ ๆ ก็คงอยากจะคุยด้วย ได้แต่บอกมัน บอกว่าไม่อร่อยหรอกอย่ากินเลย

ถาม : สนิทกันขนาดนี้ทำไมหลวงพ่อบอกไม่ค่อยอยากจะเจองู
ตอบ : เจอทีไรแล้วชอบจับมันเล่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 30-10-2009 เมื่อ 12:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 106 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #76  
เก่า 30-10-2009, 16:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้าเขาเรียกให้เป็นกรรมการ แล้วเราใส่ซองไป ๒๐ บาท นี่ผิดไหมคะ
ตอบ : ก็ไม่ผิดหรอกจ้ะ มันอยู่ที่ศรัทธา

ถาม : เขาไม่บอกให้เราทราบ แต่ใส่ชื่อเราเป็นกรรมการไปเฉยเลย กรรมการก็หนึ่งร้อยบาท แต่เราใส่ ๒๐ บาท
ตอบ : ก็บอกเขาสิว่ามีศรัทธาแค่นี้ การทำบุญมันไม่ได้อยู่ที่จำนวน สำคัญตรงใจสละออก อย่างเจ้าเต้ย มันติดกัณฑ์เทศน์ตรงนี้บาทหนึ่ง หลายคนอาจจะเห็นว่ามันเหลวไหล แต่คุณรู้ไหมว่ามันอาจจะมีแค่ ๒๐ แต่มันติดกัณฑ์เทศน์บาทหนึ่ง เท่ากับ ๕% ที่มันมี แต่ถ้าหากว่าใครมีพันล้านแล้วติดกัณฑ์เทศน์ตรงนี้ล้านหนึ่ง ลองเทียบเปอร์เซ็นต์ดูสิมันต่างกันแค่ไหน อันนี้มันเป็นต้องเรียกว่าอย่างไร บาทหนึ่ง เท่ากับหนึ่งในยี่สิบ แต่อันนั้นมันเป็นหนึ่งในพัน จำนวนเปอร์เซ็นต์มันห่างกันมากเลย

ถาม : แล้วถ้าไม่มีแล้วต้องไปกู้หนี้ยืมสินละครับ
ตอบ : ก็พระพุทธเจ้าบอกว่าทำแล้วต้องไม่ให้ตนเองและบุคคลรอบข้างเดือดร้อน ถ้าถึงขนาดกู้หนี้ยืมสินมาทำนั่นมันขาดปัญญาในทานบารมี
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-11-2009 เมื่อ 07:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 119 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #77  
เก่า 30-10-2009, 16:31
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพี่ครับ ตู้บริจาคตามวัดหยอดไปเป็นสังฆทานหรือเปล่าครับ
ตอบ : คือถ้าเขาระบุอะไรก็ได้อย่างนั้น ยกเว้นว่าถ้าเขาไม่ได้ระบุเราตั้งใจเป็นสังฆทานก็ได้เลย

ถาม : แล้วที่ช่วยค่าน้ำค่าไฟละครับ
ตอบ : ค่าน้ำค่าไฟทั้งวัดหรือเปล่า ถ้าทั้งวัดก็เป็นสังฆทานอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่ใช่ ..ค่าน้ำค่าไฟเฉพาะกุฏิ (ของฉัน) ถ้าอย่างนั้นละก็ไม่เป็นสังฆทาน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 31-01-2019 เมื่อ 20:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 121 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #78  
เก่า 30-10-2009, 16:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : มีแผ่นทอง ตั้งใจหล่อพระไว้ที่หนึ่งแต่ไม่ได้ไปหล่อ ไปหล่ออีกที่หนึ่ง แต่เป็นพระเหมือนกันนี่ใช้ได้ไหมคะ
ตอบ : จริง ๆ ถ้าตั้งเจตนาไว้ที่ไหนควรจะเป็นที่นั่น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 123 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #79  
เก่า 02-11-2009, 14:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อถามว่า "มีใครอ่านมังกรคู่สู้สิบทิศบ้าง พระเอกมันพัฒนาตัวเองด้วยการสู้แล้วแพ้ จากครั้งแรกที่แพ้ยับเยินครั้งต่อไปก็พอที่จะสูสี รู้ว่าไม่ไหวก็เผ่นก่อน แล้วก็กลับมาใหม่ เขาใช้คำว่า ใช้การต่อสู้หล่อเลี้ยงการต่อสู้ ก็คือเหมือนกับว่าเอาอุปสรรคเป็นกำลังใจในการที่จะเอาชนะมันให้ได้ ถ้าไม่มีอุปสรรคมาขวางอยู่ตรงหน้า อาจจะไม่มีกำลังใจที่จะทำอะไร

อย่างที่พูดมาก็อยู่ในลักษณะเดียวกันว่า เขาฝึกฝนตัวเองจากสิ่งต่าง ๆ ที่พบในชีวิตจริง แล้วพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ อย่างเราก็ใช้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต พัฒนาตัวของเราเองให้ก้าวหน้าไปเรื่อย ๆ อย่างที่พระท่านพิจารณาว่ากาย วาจา ใจ ที่ดีกว่านี้ยังมีอยู่ เราต้องทำกาย วาจา ใจ เหล่านั้นให้ได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-11-2009 เมื่อ 16:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
  #80  
เก่า 02-11-2009, 14:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,371
ได้ให้อนุโมทนา: 150,708
ได้รับอนุโมทนา 4,397,079 ครั้ง ใน 33,960 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลวงพ่อกล่าวว่า "ตอนนี้พวกเรารู้สึกว่ารังเกียจความแก่ แต่พอไปอีกนิดหนึ่งจะรู้สึกว่ามันแก่ไม่พอ แล้วถึงเวลานั้นมันจะดัดจริตแก่ คอยดูแล้วกันมันจะเป็นอย่างนั้น ตอนนี้ใครถามจะบอกอายุให้น้อยที่สุด แต่พอก้าวพ้นจุดนี้ไปใครถามจะบอกให้มากที่สุด มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะ ไม่ได้พูดเล่นเรื่องจริง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 107 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา
ตอบ


ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 1 คน ( เป็นสมาชิก 0 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน )
 
คำสั่งเพิ่มเติม

กฎการส่งข้อความ
You may not post new threads
You may not post replies
You may not post attachments
You may not edit your posts

BB code is ใช้ได้
Smilies are ใช้ได้
[IMG] code is ใช้ได้
HTML code is งดใช้

Forum Jump


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 09:06



ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว